วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 14:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2015, 23:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นคำถามหนึ่งนะคะ
เคยได้ยินมาว่าผู้เข้าถึงแต่ละฌาน จะได้รับอานิสงส์ไปเกิดบนสวรรค์ในแต่ละชั้นแล้วแต่ระดับฌานที่ได้
s006
คือเข้าใจว่าเรื่องนี้มีเสื่อมถอยเป็นธรรมดา หากการได้นั้นถึงขั้นเกิดเป็นความชำนาญ
จนแค่เพียงแต่ระลึกถึงอารมณ์(ตรงนี้ไม่รู้ว่าใช้คำเรียกผิดรึเปล่า)ในแต่ละฌานนั้น ก็เข้าได้ทันที
ไม่ระบุจะเป็นสถานที่ใดอาจจะกลางหมู่ผู้คนมากก็สามารถ..
*ตรงนี้หากใช้คำว่า แค่นึกอยากเข้าฌาน..ก็ทำได้ จะถูกรึเปล่า :b55: :b55:
*แล้วหากว่าเสื่อมถอยแล้ว เมื่อถึงเวลาจะตาย ยังจะจะเกิดอานิสงส์ให้อีกรึเปล่าคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2015, 15:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


idea เขียน:
เป็นคำถามหนึ่งนะคะ
เคยได้ยินมาว่าผู้เข้าถึงแต่ละฌาน จะได้รับอานิสงส์ไปเกิดบนสวรรค์ในแต่ละชั้นแล้วแต่ระดับฌานที่ได้
s006
คือเข้าใจว่าเรื่องนี้มีเสื่อมถอยเป็นธรรมดา หากการได้นั้นถึงขั้นเกิดเป็นความชำนาญ
จนแค่เพียงแต่ระลึกถึงอารมณ์(ตรงนี้ไม่รู้ว่าใช้คำเรียกผิดรึเปล่า)ในแต่ละฌานนั้น ก็เข้าได้ทันที
ไม่ระบุจะเป็นสถานที่ใดอาจจะกลางหมู่ผู้คนมากก็สามารถ..
*ตรงนี้หากใช้คำว่า แค่นึกอยากเข้าฌาน..ก็ทำได้ จะถูกรึเปล่า :b55: :b55:
*แล้วหากว่าเสื่อมถอยแล้ว เมื่อถึงเวลาจะตาย ยังจะจะเกิดอานิสงส์ให้อีกรึเปล่าคะ


นึก อยากเข้าฌาณนั้น ฌาณสำเร็จด้วยความเพียรเท่านั้น นึกอย่างเดียวไม่สำเร็จครับ

ฌาณเสื่อมถอยเวลาตายไป ต้องดูที่ความบริสุทธิ์ของจิต ตายไปแล้วไปไหนก็ขึ้นอยู่กับกฎปฏิจจสมุปบาทครับ ยากที่จะรู้ได้มีแต่องค์พระศาสดาเท่านั้นที่จะรู้ครับ แม้พระอรหันต์ที่เป็นสาวกก็ไม่รู้ว่าคนนี้คนนั้นตายแล้วไปไหนอย่างไร

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2015, 18:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณstudent
ฌาณเสื่อมถอยเวลาตายไป ต้องดูที่ความบริสุทธิ์ของจิต ตายไปแล้วไปไหนก็ขึ้นอยู่กับกฎปฏิจจสมุปบาทครับ ยากที่จะรู้ได้มีแต่องค์พระศาสดาเท่านั้นที่จะรู้ครับ แม้พระอรหันต์ที่เป็นสาวกก็ไม่รู้ว่าคนนี้คนนั้นตายแล้วไปไหนอย่างไร :b8: :b8:
:b43: :b43:

:b55: :b55: คำว่านึกอยาก..ก็งงๆเหมือนกันค่ะ คือสงสัยว่า ถ้าเป็นความอยาก..เข้าไปคงไม่น่าจะใช่รึเปล่า :b9:
แต่พอดีคิดออกว่า มันอาจจะเป็นการเข้าถึงเลย โดยระลึกถึงกุศลจิตที่หมั่นเพียรบ่อยๆ
จนเกิดการเข้าถึงเลยได้..ตรงนี้คำนี้น่าจะใช้ได้รึเปล่า :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2015, 07:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว


idea เขียน:
เป็นคำถามหนึ่งนะคะ
เคยได้ยินมาว่าผู้เข้าถึงแต่ละฌาน จะได้รับอานิสงส์ไปเกิดบนสวรรค์ในแต่ละชั้นแล้วแต่ระดับฌานที่ได้
s006
คือเข้าใจว่าเรื่องนี้มีเสื่อมถอยเป็นธรรมดา หากการได้นั้นถึงขั้นเกิดเป็นความชำนาญ
จนแค่เพียงแต่ระลึกถึงอารมณ์(ตรงนี้ไม่รู้ว่าใช้คำเรียกผิดรึเปล่า)ในแต่ละฌานนั้น ก็เข้าได้ทันที
ไม่ระบุจะเป็นสถานที่ใดอาจจะกลางหมู่ผู้คนมากก็สามารถ..
*ตรงนี้หากใช้คำว่า แค่นึกอยากเข้าฌาน..ก็ทำได้ จะถูกรึเปล่า :b55: :b55:
*แล้วหากว่าเสื่อมถอยแล้ว เมื่อถึงเวลาจะตาย ยังจะจะเกิดอานิสงส์ให้อีกรึเปล่าคะ


อานิสงส์ของการทำฌาน ในขณะที่ตายไปฌานยังไม่เสื่อมย่อมได้ไปเกิดยังพรหมโลก
ตามที่ฌานที่ตนได้เข้าฌานอยู่ ไม่ใช่เกิดแค่สวรรค์นะครับ แต่ถ้าผู้ที่เคยได้ฌาน คือไม่ได้ตาย
ในฌานอานิสงส์ของย่อมทำให้เกิดบนสวรรค์ได้ (ยกเว้นกรรมอื่นๆมาตัดรอนเสียก่อน)

หากการได้ฌานจนชำนาญนั้นก็หมายถึงว่า นึกอยากเข้าจะออกจากฌาณไหนก่อนก็ได้
ไม่ต้องเรียงตามลำดับของฌาณ

จะขออุปมาเพื่อจะได้เห็นง่ายขึ้น
เหมือนว่าเราเป็นผู้โดยสารรถไฟ เราก็จะต้องขึ้นสถานีแรกและจะต้องลงตามเท่าที่สตางส์
ค่าโดยสารมีอยู่ และที่นี้ถ้าเกิดเรามีสตางส์มากๆ เราจะขึ้นจะลงสถานีไหนก็ได้ตามต้องการ
เพราะเรามีความชำนาญแล้ว จะโดยสารไปทั้งเที่ยวขึ้นเที่ยวล่องอย่างสะดวก

อำนาจของฌานใช่ว่าจะเป็นกุศลชั้นสูงแต่เพียงอย่างเดียว ถ้าใช้ผิดประเภทก็กลายเป็น
มิฉาสมาธิได้เช่นกัน ให้ดูตัวอย่างพระเทวฑัต เป็นต้น

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2015, 18:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
ขอบคุณค่ะลุงหมาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2015, 19:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


จริงๆคุนน้องก็มีคำถามในเรื่องของ อานิสงส์ฌาน
ขอบคุนคุนไอเดียที่ตั้งกระทู้นี้ บางทีคลื่นเราคงจูนกันมั้งค่ะ :b9: :b45:
คุนน้องรบกวนอยากถามผู้รู้ :b8:
1. ทำไมคนที่ทำสมาธิได้ฌาน เขาถึงเรียกว่าตาข่ายดักพรหม ละเจ้าค่ะ :b10:

2. แล้วเป็นพรหมก็ยังไม่ใกล้ถึงพระนิพพานหรือ?? แล้วบนชั้นพรหมเป็นระยะเวลายาวนานมาก แบบนี้ก็ไม่เหมาะกับการบำเพ็ญบารมีของเหล่าโพธิสัตว์ ใช่หรือไม่เจ้าค่ะ?

3. คนที่ได้ฌาน ถ้าไม่ตายอยู่ในฌาน สามารถเลือกเกิดเป็นเทวดาชั้นอื่นได้ไหม หรือปฏิสนธิตามวิบากจิต คือได้ฌานแม้ไม่ตายในฌาน ก็จุติเป็นพรหมเหมือนเดิม??

ปล.ถามให้ตนเองค่ะ คือคุนน้องคิดว่าสามารถเกิดบนสวรรค์ขั้นดุสิต ได้หรือไม่ เพราะเราสามารถลงมาบำเพ็ญบารมีต่อได้ ไม่ต้องรอจนเสวยบุญหมด
หรือเราเลือกไม่ได้ ถ้าได้ฌานก็จุติเป็นพรหมเท่านั้น
ขอประทานอภัยนะค่ะ ถ้าคำถามคุนน้องค่อนข้างสับสน :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2015, 07:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
จริงๆคุนน้องก็มีคำถามในเรื่องของ อานิสงค์ฌาน
ขอบคุนคุนไอเดียที่ตั้งกระทู้นี้ บางทีคลื่นเราคงจูนกันมั้งค่ะ :b9: :b45:
คุนน้องรบกวนอยากถามผู้รู้ :b8:
1. ทำไมคนที่ทำสมาธิได้ฌาน เขาถึงเรียกว่าตาข่ายดักพรหม ละเจ้าค่ะ :b10:

2. แล้วเป็นพรหมก็ยังไม่ใกล้ถึงพระนิพพานหรือ?? แล้วบนชั้นพรหมเป็นระยะเวลายาวนานมาก แบบนี้ก็ไม่เหมาะกับการบำเพ็ญบารมีของเหล่าโพธิสัตว์ ใช่หรือไม่เจ้าค่ะ?

3 คนที่ได้ฌาน ถ้าไม่ตายอยู่ในฌาน สามารถเลือกเกิดเป็นเทวดาชั้นอื่นได้ไหม หรือปฏิสนธิตามวิบากจิต คือได้ฌานแม้ไม่ตายในฌาน ก็จุติเป็นพรหมเหมือนเดิม??

ปล.ถามให้ตนเองค่ะ คือคุนน้องคิดว่าสามารถเกิดบนสวรรค์ขั้นดุสิต ได้หรือไม่ เพราะเราสามารถลงมาบำเพ็ญบารมีต่อได้ ไม่ต้องรอจนเสวยบุญหมด
หรือเราเลือกไม่ได้ ถ้าได้ฌานก็จุติเป็นพรหมเท่านั้น
ขอประทานอภัยนะค่ะ ถ้าคำถามคุนน้องค่อนข้างสับสน :b8:


คำถามเป็นข้อๆแบบนี้ดีมาก เวลาตอบจะได้ไม่สับสน

ปุ. 1. ทำไมคนที่ทำสมาธิได้ฌาน เขาถึงเรียกว่าตาข่ายดักพรหม ละเจ้าค่ะ :b10:
วิ. 1. พรหมมีทั้งหมด ๑๖ ชั้น เมื่อได้ฌานระดับไหนก็ต้องไปเกิดในระดับของฌานนั้นๆ
อันนี้มั้งที่เรียกว่าตาข่ายดักพรหม

ปุ 2. แล้วเป็นพรหมก็ยังไม่ใกล้ถึงพระนิพพานหรือ?? แล้วบนชั้นพรหมเป็นระยะเวลายาวนานมาก
แบบนี้ก็ไม่เหมาะกับการบำเพ็ญบารมีของเหล่าโพธิสัตว์ ใช่หรือไม่เจ้าค่ะ?

วิ. 2. มันเป็นทางเดินคนละเส้นทางพรหมเขามาทางสายสมถะกรรมฐาน คือเป็นหนทางที่ละกิเลสไม่ขาด
ในชั้นพรหมไม่เหมาะสำหรับผู้บำเพ็ญเพียรผู้จะมาเป็นพระโพธิสัตว์ และอีกอย่างหนึ่งในรูปพรหมนั้น
ทวาร จมูก ลิ้น กาย เขาไม่มี คงมี ตา กับ หู เท่านั้น จึงไม่สะดวกกับการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
ในชั้นพรหมจึงไม่มผู้ที่จะบำเพ็ญบารมีเพื่อไปเป็นพระโพธิสัตว์ไปเกิดเลย

ปุ.3 คนที่ได้ฌาน ถ้าไม่ตายอยู่ในฌาน สามารถเลือกเกิดเป็นเทวดาชั้นอื่นได้ไหม หรือปฏิสนธิตามวิบากจิต คือได้ฌานแม้ไม่ตายในฌาน ก็จุติเป็นพรหมเหมือนเดิม??
วิ. 3. เมื่อตายในอารมณ์ใด ก็จะเอาอารมณ์นั้นแหละไปเกิด จะไปเกิดเหมือนเขาจับเอาไปตั้งไว้
เมื่อตายในฌานใดก็ต้องไปเกิดในฌานอันนั้น และถ้าว่าไม่ตายในฌานก็จะอานิสงส์ของฌานนั้น
จะมีสวรรค์เป็นที่รองรับ (ยกเว้นจะมีกรรมมาตัดรอนเสียก่อน เช่นพระเทวพัต)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2015, 08:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


อานิสงส์ของการทำสมาธิ แม้จะยังไม่ได้ฌานใดฌานหนึ่ง ก็มีอานิสงส์ให้เห็นได้ในทันที คือจะได้รับผลเป็นความสุขในขณะที่ทำสมาธิค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2015, 09:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วชั้นพรหม
สามารถปฏิบัติต่อจนบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้ใหมคะ
หรือว่าไปฌานไหน ก็อยู่ในฌานนั้นๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2015, 09:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว


idea เขียน:
แล้วชั้นพรหม
สามารถปฏิบัติต่อจนบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้ใหมคะ
หรือว่าไปฌานไหน ก็อยู่ในฌานนั้นๆ


ควรต้องแยกประเภทชั้นของพรหม
พรหมตั้งแต่ปฐมฌานภูมิ ถึงเวหัปผลาภูมิที่เป็นปุถุชนก็ย่อมสามารถที่เจริญวิปัสสนา
เปลี่ยนเป็นพระอริยะบุคคลได้ แต่ถ้าพรหมที่ไปเกิดในอสัญญสัตตาพรหมย่อมทำไม่ได้
เพราะพรหมประเภทนี้ไม่มีจิต

แต่ถ้าเป็นพรหมในชั้นสุทธาวาสภูมิ ๕ พรหมเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นพรหมของพระอริยะทั้งสิ้น
คือ มีตั้งแต่พระอนาคามี และพระอรหันต์เท่านั้น จะไม่มีปุถุชน พระโสดาบัน และพระสกทาคามี
อยู่เลย ย่อมสำเร็จในชั้นที่ตนอยู่ และก็จะไม่เกินชั้นอกนิษฐาภูมิ

ส่วนพรหมที่ชั้นอรูปภูมิ ถ้าเป็นปุถุชนจะไม่สามารถจะสำเร็จเป็นพระอริยะบุคคลได้เลย
จะมีอายุยืนมากนับเป็น ๘๔.๐๐๐ อสงไขยกัปป์ ชั้นนี้ก็มี อาฬารดาบส อุทกดาบส ที่เคยอาจารย์
ของพระพุทธเจ้าขึ้นไปอยู่ ทั้งสองท่านนี้จะต้องอยู่จนกว่าจะหมดอายุขัยจึงจะต้องกลับมาเป็นเทวดา
หรือมนุษย์อีกคือเริ่มต้นใหม่อีก

ถ้าโชคดีมาเกิดในยุคที่มีพระพุทธเจ้าอีกก็ย่อมสำเร็จเป็นพระอริยะบุคคลได้ แต่ถ้าโชคไม่ดี
ไม่มีพระพุทธเจ้าบังเกิดอยู่ ก็ย่อมจะไปไหนอีกก็ไม่รู้ อาจจะเจริญสมถะกรรมฐานไปเกิดเป็นพรหมอีก
ก็ได้เพราะนิสัยเดิมชำนาญในเรื่องสมถะเจริญฌานทางนี้มาแล้ว หรืออาจกรรมเก่าที่เป็นอกุศล
ติดตามตัวมาในอดีตชาติมาส่งผลก็ย่อมลงอบายภูมิไปอีกก็เป็นได้

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2015, 11:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: อีกนิดค่ะคุณลุง
พรหมตั้งแต่ปฐมฌานภูมิ ถึงเวหัปผลาภูมิที่เป็นปุถุชนก็ย่อมสามารถที่เจริญวิปัสสนา
เปลี่ยนเป็นพระอริยะบุคคลได้

ตรงนี้หมายถึง ผู้ได้ฌาน1-4ใช่ใหมคะ ก็คือเป็นพรหมก็ต่อจนบรรลุพระนิพพานได้
:b41: :b41:

ส่วนพรหมที่ชั้นอรูปภูมิ ถ้าเป็นปุถุชนจะไม่สามารถจะสำเร็จเป็นพระอริยะบุคคลได้เลย 
จะมีอายุยืนมากนับเป็น ๘๔.๐๐๐ อสงไขยกัปป์

1.ตรงนี้หมายถึง ผู้ได้ฌาน5-8ใช่ใหมคะ

2.เมื่อได้ถึงฌาน8 ก็ต้องมีความชำนาญในทุกฌานอยู่แล้ว ก่อนตายจึงสามารถกำหนดจิตให้อยู่ในฌานใดก็ได้?

3.มีคำว่าถ้าเป็นปุถุชน
ตรงนี้หมายถึง ตั้งแต่โสดาบันบุคคล จนถึงพระสกิทาคามี ก็มีไปเกิดที่นี่ และบรรลุต่อนิพพานได้
แต่ปุถุชนไม่ได้

4.คนส่วนมากคิดว่า หากไม่สำเร็จในชาตินี้แล้วควรจะไปเกิดแดนไหนดีค่ะ..เพื่อการปฏิบัติจะได้ต่อเนื่องบรรลุได้ง่าย

:b9: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2015, 11:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


และขอคำอธิบายในคำว่า..อสัญสัตตาพรหม

ทำความเข้าใจ..ไม่ได้เลยค่ะคำนี้
คืออะไร?
เป็นสภาวะแบบไหน ถึงต้องไปที่นั่นค่ะ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2015, 12:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว


คำถามดีมากเลยที่สนใจ
แต่ไม่ขอตอบตอนนี้เพราะใช้โทรศัพท์พิมพ์จึงไม่สะดวก
ต้องรอใช้คอมฯ ก่อน ติดตามแล้วกัน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2015, 15:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
จริงๆคุนน้องก็มีคำถามในเรื่องของ อานิสงค์ฌาน
ขอบคุนคุนไอเดียที่ตั้งกระทู้นี้ บางทีคลื่นเราคงจูนกันมั้งค่ะ :b9: :b45:
คุนน้องรบกวนอยากถามผู้รู้ :b8:
1. ทำไมคนที่ทำสมาธิได้ฌาน เขาถึงเรียกว่าตาข่ายดักพรหม ละเจ้าค่ะ :b10:

2. แล้วเป็นพรหมก็ยังไม่ใกล้ถึงพระนิพพานหรือ?? แล้วบนชั้นพรหมเป็นระยะเวลายาวนานมาก แบบนี้ก็ไม่เหมาะกับการบำเพ็ญบารมีของเหล่าโพธิสัตว์ ใช่หรือไม่เจ้าค่ะ?

3 คนที่ได้ฌาน ถ้าไม่ตายอยู่ในฌาน สามารถเลือกเกิดเป็นเทวดาชั้นอื่นได้ไหม หรือปฏิสนธิตามวิบากจิต คือได้ฌานแม้ไม่ตายในฌาน ก็จุติเป็นพรหมเหมือนเดิม??

ปล.ถามให้ตนเองค่ะ คือคุนน้องคิดว่าสามารถเกิดบนสวรรค์ขั้นดุสิต ได้หรือไม่ เพราะเราสามารถลงมาบำเพ็ญบารมีต่อได้ ไม่ต้องรอจนเสวยบุญหมด
หรือเราเลือกไม่ได้ ถ้าได้ฌานก็จุติเป็นพรหมเท่านั้น
ขอประทานอภัยนะค่ะ ถ้าคำถามคุนน้องค่อนข้างสับสน :b8:

ฌาน มี สองชนิด
โลกียฌาน และโลกุตตรฌาน
ทั้งโลกียฌาน และโลกุตตรฌาน ต่างก็เริ่มจากรูปสัญญา หรือ อรูปสัญญา

อานิสงส์จึงต่างกัน
อานิสงส์ของโลกียฌาน ก็เพื่อสนองภวตัณหา ได้ความสงบ มีเอกัตคตาจิต
อานิสงส์ของโลกุตตรฌาน เพื่อเป็นบาทเป็นฐานแก่ วิปัสสนา ได้ความสงบ มีเอกัตคตาจิต

1. ตาข่ายดักพรหม มีใช้ในพรหมชาลสูตร เป็นการเปรียบเทียบถึงแม้ผู้ที่คิดเห็นได้เลิศปานไหนถ้าไม่ตรงต่อมรรคผลนิพพาน ปฏิบัติอย่างไรก็ไปได้เพียงชั้นพรหมเท่านั้น ไม่มีอะไรที่ต้องทำความเข้าใจมากไปกว่านี้

2.พรหม กับ พระนิพพาน คนละเรื่องกัน ชั้นพรหม ยังมีภวตัณหาอยู่ครับ พระนิพพานสิ้นตัณหาทั้งปวง
พระโพธิสัตว์จึงเกิดๆ ดับๆ เป็นพรหมบ้างเป็นเทวดาบ้างเป็น ราชามหากษัตริย์บ้าง ก็เพราะตัณหายังไม่ดับครับ

3. การเลือกเกิดในภพภูมิใดขึ้นอยู่กับ เหตุที่ทำครับ

อธิบาย ง่ายๆ ไม่ลึกลับเกินเข้าใจแบบนี้ครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2015, 15:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


idea เขียน:
แล้วชั้นพรหม
สามารถปฏิบัติต่อจนบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้ใหมคะ
หรือว่าไปฌานไหน ก็อยู่ในฌานนั้นๆ


อริยบุคคลเมื่อตายแล้วจะสามารถปฏิบัติต่อจนบรรลุพระอรหัต มีเพียงอนาคามีบุคคล
เพราะจิตของอนาคามีบุคคล ไม่ได้พึงพอใจต่อร่างกาย ต่อตัณหาที่อาศัยร่างกายครับ
จิตของท่านจึงสามารถบำเพ็ญเพียรต่อไปในชั้นที่ท่านไปปฏิสนธิได้ครับ

ชั้นพรหมอื่นใดไม่อาจจะบรรลุอรหัตได้ครับ
เนื่องเพราะ การเกิดเป็นชั้นพรหมอื่นๆ นอกจากชั้นพรหมที่อนาคามีบุคคลไปปฏิสนธินั้น
ไม่ได้เกิดเพราะ โลกุตตรฌาน หรือมรรคผลอื่นใดเพื่อละตัณหาครับ
กล่าวได้ว่า ทิฏฐิยังตั้งไม่ตรงต่อมรรค ผล นิพพาน.

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร