วันเวลาปัจจุบัน 11 ต.ค. 2025, 18:57  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2014, 08:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5391


 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธองค์ตรัสว่า..
"ชีวิตนี้เต็มไปด้วยความทุกข์ ต้องเผชิญกับความแก่ ความเจ็บ ความตาย
และความผิดหวัง."
...
สิ่งที่ชีวิตจะต้องประสบและกำลังประสบอยู่ในตอนนี้คือทุกข์
ทุกข์จึงถือว่าเป็นปัญหาหนักที่สุดสำหรับชีวิต
ก็แล้วอะไรเล่าที่นำเรามาสู่ทุกข์ต่างๆเหล่านี้??
ตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือ "การเกิดนำเรามา"
ทำไมคนเราจึงต้องเกิดมา?ก็ความปรารถนาหรือความตั้งใจ(เจตนา)
ที่จะเกิดอีกของเราเอง ดึงให้เราต้องมาเกิด
อะไรเป็นสาเหตุทำให้คนเรามีความปรารถนาหรือความตั้งใจที่จะมาเกิด
อีก?คำตอบคืออุปาทานความยึดมั่นถือมั่น เราหลงติดอยู่ในสิ่งต่างๆใน
โลกนี้ มีความพอใจรักใคร่ ชื่นชอบ ไม่รู้สึกเต็มอิ่มกับเหยื่อที่ได้จากโลก เราจึงติดใจและอยากจะย้อนกลับมาลิ้มลองต่อ ส่วนพระอรหันต์ทั้งหลาย
ท่านไม่มีความติดใจในเหยื่อของโลกอีกแล้ว ท่านได้มองเห็นโทษภัยอัน
น่ากลัวของการเกิดจึงทำลายความอยากให้หมดไปไม่เหลือไว้ให้กลับมา
เกิดใหม่ได้อีก
อะไรเป็นตัวชักใยให้ยังอยากอยู่อย่างไม่รู้สึกอิ่มเอมในรสของกามา?ก็ตัว
ตัณหาหรือความอยากนั้นเองที่เป็นตัวโหยถวิลอยากชิมอยากลิ้มลองรสชาติต่างๆของโลกอย่างไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอ
ตัณหานี้พระพุทธองค์ตรัสบอกว่า มันพร่องอยู่เนืองนิตย์ บรรจุเท่าไร
ไม่รู้จักเต็ม นอกจากจะถมไม่เต็มแล้วยังไม่มีวันเหือดแห้งไปได้ด้วย
(ไม่มีวันเหือดแห้งไปได้เองโดยปราศจากการบำเพ็ญตบะทางจิตเป็น
เครื่องเผาผลาญ) แม้เหล่าสัตว์จะเวียนว่ายตายเกิดกี่ภพกี่ชาติ เพื่อมา
ตามหาสิ่งที่ตนพอใจ ก็มิอาจจะพบเจอ
ตัณหาคือความอยากนั้นอยากในอะไร?
ก็อยากในรูป ในรส ในกลิ่น ในเสียง ในสัมผัสแตะต้องทางตาหูจมูกลิ้น
กายและทางใจ เหยื่อของโลกไหลเข้าทางนี้ทั้งสิ้น พระพุทธศาสนา
เรียกว่า"สัมผัส" ที่ชอบก็อยากได้ไว้เสพร่ำไป(กามตัณหา) มีความสุขจากการสัมผัสก็อยากจะเป็นอยู่อย่างนั้นเรื่อยไป ไม่อยากให้
แปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น(ภวตัณหา) ส่วนที่ไม่ชอบก็อึดอัดขัดเคืองอยาก
ให้พ้นไปเสีย ไม่อยากได้ไม่อยากเป็นเช่นนั้นอีก(วิภวตัณหา)ทั้งหมดนี้
อยู่ใต้การควบคุมของอวิชชาคือความโง่ตัวเดียว
ความโง่หรือความไม่รู้หรือรู้แต่ไม่จริงอย่างนี้ เป็นต้นตอของกระบวน
การเกิด แล้วนำไปสู่ทุกข์ทั้งมวล
ความทุกข์ความเศร้าต่างๆเป็นดังเงาบดบังสติปัญญาไว้
เมื่อความทุกข์ความเศร้าต่างๆบดบังสติปัญญา
เพราะฉะนั้นจึงต้องเจริญวิปัสสนากรรมฐานกำหนด สติ รู้รูป นาม ดูการเกิดดับของรูปและนามนั่นเอง



●คำสอนหลวงพ่อ●
" มนุษย์" เป็นสัตว์สังคมขนิดหนึ่งต้องมีสัมพันธ
ภาพใกล้ชิดผูกพันกับผู้อื่นมากมายโดยเริ่มจากคน
ใกล้ตัวเรื่อยไปจนถึงคนไกลตัวที่ไม่รู้จักมัก...จี่ แต่เพราะตนมีความรู้สึกดีๆพิเศษให้ ที่เรียกกันว่า
"ความรัก" ถามว่า ทำไมคนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนใน
วัยหนุ่มสาวถึงได้โหยหาความรักกันนัก หากจะตอบ
ว่าเพราะมันธรรมชาติที่สร้างชายกับหญิงให้มาคู่กัน
ก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่ที่จริงมันเกิดจากความรู้สึกนึกคิด
ของมนุษย์เองส่วนหนึ่ง เมื่อเราเลี่ยงมันไม่ได้ ทำ
อย่างไรจะไม่ให้เรื่องความรักมาทำร้ายเรา หรือคน
ที่เรารัก สังคมไทย เรื่องของการมีคนรัก ท่านให้ปรึก
ษาผู้ใหญ่ให้มากเพราะท่านผ่านร้อนผ่านหนาวมา
มากกว่า คนที่ไม่รู้จักปรึกษาหารือผู้ใหญ่ แม้ในเรื่อง
ความรัก ชีวิตต้องพบความวิบัติผิดหวังมามากราย...
● เจริญพร ●
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2014, 21:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2014, 21:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รสมน เขียน:
พระพุทธองค์ตรัสว่า..
"ชีวิตนี้เต็มไปด้วยความทุกข์ ต้องเผชิญกับความแก่ ความเจ็บ ความตาย
และความผิดหวัง."
...
สิ่งที่ชีวิตจะต้องประสบและกำลังประสบอยู่ในตอนนี้คือทุกข์
ทุกข์จึงถือว่าเป็นปัญหาหนักที่สุดสำหรับชีวิต
ก็แล้วอะไรเล่าที่นำเรามาสู่ทุกข์ต่างๆเหล่านี้??
ตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือ "การเกิดนำเรามา"
ทำไมคนเราจึงต้องเกิดมา?ก็ความปรารถนาหรือความตั้งใจ(เจตนา)
ที่จะเกิดอีกของเราเอง ดึงให้เราต้องมาเกิด
อะไรเป็นสาเหตุทำให้คนเรามีความปรารถนาหรือความตั้งใจที่จะมาเกิด
อีก?คำตอบคืออุปาทานความยึดมั่นถือมั่น เราหลงติดอยู่ในสิ่งต่างๆใน
โลกนี้ มีความพอใจรักใคร่ ชื่นชอบ ไม่รู้สึกเต็มอิ่มกับเหยื่อที่ได้จากโลก เราจึงติดใจและอยากจะย้อนกลับมาลิ้มลองต่อ
......


ถ้า..ถาม..ทำไม..ทำไม..บ่อยๆ...จะเป็นเหตุให้เกิดปัญญาได้
:b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร