กรัชกายรู้จักคำว่า "สติ สัมปฃัญญะ" ในเชิงปฏิบัติ ดีพอไหมครับ

ไอ้ที่พูดว่า "ก็จิตมันกำลังกลัว จะให้นิ่งรู้นิ่งสังเกตได้อย่างไร" นี่ก็ยิ่งเป็นการพูดแบบปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อ ของกรัชกายเลยทีเดียว

เพราะมันแสดงชัดๆเลยว่า หลัก ทฤษฎีธรรมะที่ก้อปแปะก้อปแปะให้ผู้อื่นอ่านนั้น กรัชกายไม่เคยใส่ใจนำมาปฏิบัติจริงด้วยตนเองเลย

จิตกลัว เขาก็ต้องเรียกสติ สัมปชัญญะกลับคืนมา ด้วยวิธีการต่างๆเท่าที่ตนจะมีสติปัญญาทำได้ก่อน แล้วถ้ายังสงสัยไม่รู้แก้ความกลัวไม่ได้จึงควรไปถามวิธีแก้จากท่านผู้รู้

ไอ้ "กลัวหนอ ๆ ๆ" นั่นก็เป็นวิธีสมถะ 1 วิธี คือกลบกลัวด้วยคำบริกรรม เรียกสติกลับมาโดยหนอ

ปัญหาแทบทุกเรื่องที่กรัชกายก้อปมาแปะถามนั้นนะ เป็นเรื่องของคนที่สติ สัมปชัญญะไม่ทันปัจจุบันอารมณ์แทบทั้งนั้น

จงแก้ด้วยการเน้นศฺษย์ของกรัชกายให้เพิ่มความเข้มข้นในเรื่อง สติ สัมปชัญญะและปัจจุบันอารมณ์ให้มากที่สุด แล้วทำตามที่อโศกะแนะนำ ศิษย์ทั้งหลายหรือแม้แต่ตัวกรัชกายเองก็จักพ้นภัย

นี่เห็นมะ ก็อโศกมีอคติเสียแล้วนี่ไง บอกไม่เชื่อ



อ้าวติดหนอ อโศกเอ้ย

แสดงถึงอโศก ยังไม่เห็นการเกิดดับของสังขาร จึงเข้าใจจิตใจเป็นแผ่นกระดาน คิกๆๆ

สติ เป็นต้น ที่ชอบยกมา มันก็เกิดร่วมกับจิตแต่ละขณะอยู่ รู้สึกกลัว ว่าในใจ "กลัวๆๆๆ..." รู้สึกง่วง ว่าในใจ "ง่วงๆๆๆๆ" หนอที่อโศกยึิดติด โยนทิ้งไป

บอกวิธีเรียกสติ สัมปชัญญะ และปัจจุบันอารมณ์ของอโศกแก้อาการง่วงนี่ หน่อยสิ

กรัชกายยังเข้าอีหรอบเดิม ถามแบบเดิม เรื่องเดิมๆ ที่อโศกะเคยตอบและสะกิดให้รู้ตัวหลายครั้ง ครั้งนี้สรุปปัญหาให้ฟัง ก็ยังไม่รู้ตัวอีก จึงเบื่อที่จะตอบปัญหาก้อปแปะของกรัชกายแล้วหละ ให้ไปถามnongkongดีกว่า น่าจะได้คำตอบที่ดีๆและสะใจกรัชกายมากกว่านะครับ

ผ่านข้อไหนประเด็นใดที่อโศกไม่รู้ก็ผ่านไป เพราะมันยาก ปฏิบัติเพื่อหาสิ่งที่ตนเองชอบใจ อันไหนอารมณ์ไหนสภาวะใด ตัวเองไม่ชอบก็ไม่เอาไม่ดู หลบๆเลี่ยงๆ หาดูแต่สิ่งที่ตัวชอบ แล้วก็ว่าใช่แล้วๆ ธรรมะแน่ๆเลย คิกๆๆ

อโศกะ ต้องอ่าน......



สามเณร นั่งกำหนดอยู่แบบ กรัชกายพูดนั่นล่ะ เป๊ะ ๆ
ผู้ปฏิบัติไม่ต้องเรียกหา สติ สัมปชัญญะ เข้าถึงสภาวะธรรมชาติ ซึ่งมีอยู่เป็นไปตามธรรมดาของมัน เข้าใจไหม อโศกะ

Jacson สำเร็จไปแล้ว รอลูกศิษย์ตัวเบ้งอยู่

พอๆกันทั้งเช่นนั้น กับ อโศก คือทั้งคู่จะเลี่ยงหลบความจริงที่เกิดแต่ละขณะๆ คือไม่กำหนดรู้สภาวะตามที่มันเป็น แต่ไปคิดให้เป็นนั่นเป็นนี่เพื่อจะดู แล้วก็เหมาเอาว่า นี่ธรรมๆ คิกๆๆ

พอน่ากรัชกาย ขี้คุยเป็นคุ้งเป็นแคว

พออธิบายสภาวะก็เละเป็นโจ๊ก
กรัชกาย นอกจากก๊อปแปะเก่งแล้วะนะ ที่เหลือที่พอจะเขียนออกมาได้จากหัวน่ะ ทั้งเน่าทั้งเละ

เช่น



กรัชกายเอ๊ยยยย ไปศึกษาพระสูตรไป๊

ถึงได้ว่าไงว่า เช่นนั้น เห็นชีวิตเป็นชีวิตกระดาษ ชีวิตสำเร็จรูป ชีวิตสตาร์ฟ


เอานะถามนะ สภาวะ ตามที่เช่นนั้นคิดเนี่ยะ หมายถึงอะไร ยกตัวอย่างมาดูสิ

กรัชกาย นอกจาก พองเป็นอึ่งอ่าง แล้วยังเดินเป็น moonwalker ได้น่ะ
สภาวะนั้นนั่นล่ะ กรัชกายเก่งตัวเบ้ง รุป่ะ

ถามอย่างตอบอย่างอีกแระ คิกๆๆ


เช่นนั้น นี่สภาวะอะไร

เอิ๊กๆๆ กรัชกาย
รับไม่ได้รึ อึ่งอ่าง กับ Moonwalker ......

นั่นล่ะ สภาวะกรัชกายของแท้

เช่นนั้นเอ้ย คิกๆๆ

อึ่งอ่างโก๊ะท่องโลกพระจันทร์