วันเวลาปัจจุบัน 01 พ.ย. 2024, 06:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 28 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2014, 06:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8237


 ข้อมูลส่วนตัว




พระฟลุ้ค-monghe.gif
พระฟลุ้ค-monghe.gif [ 505.12 KiB | เปิดดู 4396 ครั้ง ]
หลักท่องจำ
คลิ๊กอ่าน คัมภีร์มหาปัฏฐาน ชั้นมหาอภิธรรมิกเอก

https://keep.line.me/s/nTUngcVQnuWtFaqw ... tB4EEtdJVI
***********
รวบรวมโดย พระอาจารย์สุรชัย ปณฺฑิตธมฺโม
อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงณราชวิทยาลัย
****************************
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
--------------------------------------------------------

๑. ปจฺจยุทฺเทส
เหตุปจฺจโย... อารมฺมณปจฺจโย... อธิปติปจฺจโย... อนนฺตรปจฺจโย
สมนนฺตรปจฺจโย... สหชาตปจฺจโย... อญฺญมญฺญปจฺจโย... นิสฺสยปจฺจโย
อุปนิสฺสยปจฺจโย... ปุเรชาตปจฺจโย... ปจฺฉาชาตปจฺจโย... อาเสวนปจฺจโย
กมฺมปจฺจโย... วิปากปจฺจโย... อาหารปจฺจโย... อินฺทฺริยปจฺจโย
ฌานปจฺจโย... มคฺคปจฺจโย... สมฺปยุตฺตปจฺจโย... วิปฺปยุตฺตปจฺจโย
อตฺถิปจฺจโย... นตฺถิปจฺจโย... วิคตปจฺจโย... อวิคตปจฺจโย ติ.
ปจฺจยุทฺเทโส... นิฏฐิโยติ


พระบาลีและคำแปล

เหตุปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นเหตุ
อารมฺมณปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นอารมณ์
อธิปติปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นอธิบดี
อนนฺตรปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความติดต่อกันไม่มีระหว่างคั่น
สมนนฺตรปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความติดต่อกันไม่มีระหว่างคั่นที่เดียว
สหชาตปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเกิดพร้อมกัน
อญฺญมญฺญปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความแก่กันและกัน
นิสฺสยปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นที่อาศัย
อุปนิสฺสยปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นที่อาศัยที่มีกำลังมาก
ปุเรชาตปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเกิดก่อน
ปจฺฉาชาตปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเกิดทีหลัง
อาเสวนปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเสพบ่อยๆ
กมฺมปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความปรุงแต่งเพื่อให้กิจต่างๆสำเร็จลง
วิปากปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นวิบาก คือเข้าถึงความสุกและหมดกำลังลง
อาหารปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้นำ
อินฺทฺริยปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้ปกครอง
ฌานปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้เพ่งอารมณ์
มคฺคปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นหนทาง
สมฺปยุตฺตปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้ประกอบ
วิปฺปยุตฺตปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้ไม่ประกอบ
อตฺถิปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้ยังมีอยู่
นตฺถิปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้ไม่มี
วิคตปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความเป็นผู้ปราศจากไป
อวิคตปจฺจโย ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความ เป็นผู้ยังไม่ปราศจากไป

https://keep.line.me/s/QiGjoOeXOFwTXsA_ ... jL3AmzsoZ4

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2014, 06:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8237


 ข้อมูลส่วนตัว


[ ๑ ] เหตุปัจจยนิทเทส : อารัมภบท

ปจฺจยุทฺเทเส โย ยาทิโส ปจฺจโย เหตุปจฺจโยติ ภควตา อุทฺทิฏฺโฐ, โส ตาทิโส ปจฺจโย ปจฺจยนิทเทเส,

เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฐานานญฺจ รูปานํ เหตุ ปจฺจเยน ปจฺจโยติ ภควตา นิทฺทิฏฺโฐ.
ปัจจัยเช่นใด พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้โดยย่อ ในปัจจยุทเทส ว่า เหตุปจฺจโย
ปัจจัยเช่นนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงโดยพิสดาร ในปัจจัย นิทเทสว่า
เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฐานานญฺจ รูปานํ เหตุ ปจฺจเยน ปจฺจโย

พระบาลีและคำแปล

เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฐานานญฺจ รูปานํ เหตุ ปจฺจเยน ปจฺจโย.
เหตุ ๖ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่สเหตุกจิต ๗๑ เจตสิก ๕๒ ที่ประกอบกับเหตุ ๖ เท่านั้น
(เว้นโมหเจตสิกที่ในโมหมูลจิต ๒) และสเหตุกจิตตชรูป สเหตุกปฏิสนธิกัมมชรูป
ที่มีเหตุ ๖ และสเหตุกจิตตุปบาท เป็นสมุฏฐาน ด้วยอำนาจเหตุปัจจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2014, 07:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8237


 ข้อมูลส่วนตัว


[ ๒ ] อารัมมปัจจยนิเทส

๑. รูปายตนํ จกฺขุวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อารมฺมณ ปจฺจเยน ปจฺจโย
รูปารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่จักขุวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับจักขุวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปัจจัย

๒. สทฺทายตนํ โสตวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อารมฺมณ ปจฺจเยน ปจฺจโย
สัททารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่โสตวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับโสตวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปัจจัย

๓. คนฺธายตนํ ฆานวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อารมฺมณ ปจฺจเยน ปจฺจโย
คันธารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ฆานวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับฆานวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปัจจัย

๔. รสายตนํ ชิวฺหาวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อารมฺมณ ปจฺจเยน ปจฺจโย
รสารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ชิวหาวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับชิวหาวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปัจจัย

๕. โผฏฺฐพฺพายตนํ กายวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อารมฺมณ ปจฺจเยน ปจฺจโย
โผฏฐัพพารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่กายวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับกายวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปัจจัย

๖. รูปายตนํ สทฺทายตนํ คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺฐพฺพายตนํ มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อารมฺมณ ปจฺจเยน ปจฺจโย
รูปารมณ์ สัททารมณ์ คันธารมณ์ รสารมณ์ โผฏฐัพพารมณ์ คือ ปัญจารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คืออุปการะ แก่มโนธาตุ และอัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับมโนธาตุ (เว้นวิริยะ ปิติ ฉันทะ) ด้วยอำนาจอารัมมณปัจจัย

๗. สพฺเพ ธมฺมา มโนวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อารมฺมณ ปจฺจเยน ปจฺจโย
อารมณ์ ๖ ที่เป็นปัจจุบัน อดีต อนาคต และกาลวิมุต เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่มโนวิญญาณธาตุ และเจตสิก ๕๒ ที่ประกอบกับมโนวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปัจจัย

๘. ยํ ยํ ธมฺมํ อารพฺภ เย เย ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา เต เต ธมฺมา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ อารมฺมณปจฺเยน ปจฺจโย.
ธรรมทั้งหลายใดๆ คือจิตและเจตสิก ย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยอารมณ์อันใดอันหนึ่งในบรรดาอารมณ์ ๖ บรรดาอารมณ์ ๖ อันใดอันหนึ่งเหล่านั้นเป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่จิตเจตสิกทั้งหลายนั้นๆ ด้วยอำนาจอารัมมณปัจจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2014, 07:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8237


 ข้อมูลส่วนตัว


[ ๓ ] อธิปติปัจจยนิทเทส

. ฉนฺทาธิปติ ฉนฺทาสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺฐานานญฺจ รูปานํ อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย.
ฉันทาธิปติ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่สาธิปติชวนะ ๕๒ เจตสิก ๕๐ ที่ประกอบกับฉันทาธิปติ (เว้น โมหมูล หสิตุปปาทะ ฉันทะ วิจิกิจฉา) และสาธิปติจิตตชรูป ที่มีสาธิปติชวนจิตตุปบาท พร้อมด้วย ฉันทาธิปติเป็นสมุฏฐาน ด้วยอำนาจสหชาตาธิปติปัจจัย

๒. วิริยาธิปติ วิริยาสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺฐานานญฺจ รูปานํ อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย.
วิริยาธิปติ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่สาธิปติชวนะ ๕๒ เจตสิก ๕๐ ที่ประกอบกับวิริยาธิปติ (เว้นโมหมูล หสิตุปปาทะ ฉันทะ วิจิกิจฉา) และสาธิปติจิตตชรูป ที่มีสาธิปติชวนจิตตุปบาท พร้อมด้วย วิริยาธิปติเป็นสมุฏฐาน ด้วยอำนาจสหชาตาธิปติปัจจัย

๓. จิตฺตาธิปติ จิตฺตาสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺฐานานญฺจ รูปานํ อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย.
จิตตาธิปติ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่เจตสิก ๕๑ ที่ประกอบกับจิตตาธิปติ (เว้น วิจิกิจฉา) และสาธิปติจิตตชรูป ที่มีสาธิปติชวนจิตตุปบาท พร้อมด้วย ฉันทาธิปติเป็นสมุฏฐาน ด้วยอำนาจสหชาตาธิปติปัจจัย

๔. วีมํสาธิปติ วีมํสาสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺฐานานญฺจ รูปานํ อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย.
วีมังสาธิปติ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ติเหตุกชวนะ ๓๔ เจตสิก ๓๗ ที่ประกอบกับ วีมังสาธิปติ (เว้นปัญญา) และสาธิปติจิตตชรูป ที่มีติเหตุกชวนจิตตุปบาท พร้อมด้วย วีมังสาธิปติเป็นสมุฏฐาน ด้วยอำนาจสหชาตาธิปติปัจจัย

๕. ยํ ยํ ธมฺมํ ครุงฺ กตฺวา เย เย ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา เต เต ธมฺมา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ อธิปติปจฺเยน ปจฺจโย.
อารัมมณิกธรรมเหล่าใด คือจิตเจตสิกทั้งหลาย กระทำสิ่งใดๆ ให้เป็นอารมณ์ด้วยความฝักใฝ่หนักแน่นแล้วเกิดขึ้น สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นๆ เป็นปัจจัย คืออุปการะ แก่อารัมมณิกธรรม คือ จิตเจตสิกทั้งหลายเหล่านั้นๆ ด้วยอำนาจอารัมมณาธิปติปัจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2014, 16:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8237


 ข้อมูลส่วนตัว


[๔] อนันตรปัจจยนิทเทส :

๑. จกฺขุวิญญาณธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
จักขุวิญญาณธาตุก็ดี สัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับจักขุวิญญาณธาตุก็ดี เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ และอัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิต ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๒. มโนธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนวิญญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ ก็ดี อัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิตก็ดี คือ ช่วยอุปการะ แก่มโนวิญญาณธาตุ คือสันตีรณจิต ๓ อัญญสมานเจตสิก ๑๑ ที่ประกอบสันตีรณจิต ๓ ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๓. โสตวิญญาณธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
โสตวิญญาณธาตุก็ดี สัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับโสตวิญญาณธาตุก็ดี เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ และอัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิต ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๔. มโนธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนวิญญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ ก็ดี อัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิตก็ดี คือ ช่วยอุปการะ แก่มโนวิญญาณธาตุ คือสันตีรณจิต ๓ อัญญสมานเจตสิก ๑๑ ที่ประกอบสันตีรณจิต ๓ ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๕ . ฆานวิญญาณธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
ฆานวิญญาณธาตุก็ดี สัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับฆานวิญญาณธาตุก็ดี เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ และอัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิต ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๖. มโนธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนวิญญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ ก็ดี อัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิตก็ดี คือ ช่วยอุปการะ แก่มโนวิญญาณธาตุ คือสันตีรณจิต ๓ อัญญสมานเจตสิก ๑๑ ที่ประกอบสันตีรณจิต ๓ ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๗. ชิวหาวิญญาณธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
ชิวหาวิญญาณธาตุก็ดี สัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับชิวหาวิญญาณธาตุก็ดี เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ และอัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิต ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๘. มโนธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนวิญญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ ก็ดี อัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิตก็ดี คือ ช่วยอุปการะ แก่มโนวิญญาณธาตุ คือสันตีรณจิต ๓ อัญญสมานเจตสิก ๑๑ ที่ประกอบสันตีรณจิต ๓ ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๙. กายวิญญาณธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
กายวิญญาณธาตุก็ดี สัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับกายวิญญาณธาตุก็ดี เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ และอัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิต ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๑๐. มโนธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนวิญญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ ก็ดี อัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิตก็ดี คือ ช่วยอุปการะ แก่มโนวิญญาณธาตุ คือสันตีรณจิต ๓ อัญญสมานเจตสิก ๑๑ ที่ประกอบสันตีรณจิต ๓ ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๑๑. ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
โลกียกุศลชวนะ ๑๗ ที่เกิดก่อนๆ (เว้นชวนะดวงสุดท้าย) เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่กุศลชวนะ ๒๑ ที่เกิดหลังๆ (เว้นชวนะดวงที่๑) ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๑๒. ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ อพฺยากตานํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
กุศลชวนะ ๒๑ ดวงสุดท้ายที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยคือช่วยอุปการะ แก่อพยากตธรรม คือสันตีรณจิต ๓ มหาวิปากจิต ๘ มหัคคตวิปากจิต ๙ ผลจิต ๔ ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๑๓. ปุริมา ปุริมา อกุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
อกุศลชวนะ ๑๒ ที่เกิดก่อนๆ(เว้นชวนดวงสุดท้าย) เป็นปัจจัยคือช่วยอุปการะ แก่อกุศลชวนะ ๑๒ ที่เกิดหลังๆ (เว้นชวนะดวงที่ ๑) ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๑๔. ปุริมา ปุริมา อกุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ อพฺยากตานํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
อกุศลชวนะ ๑๒ ดวงสุดท้ายที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยคือช่วยอุปการะ แก่อพยากตธรรม คือสันตีรณจิต ๓ มหาวิปากจิต ๘ มหัคคตวิปากจิต ๙ ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๑๕. ปุริมา ปุริมา อพฺยากตานํ ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ อพฺยากตานํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
อพยากตธรรม คือ วิปากจิต ๓๖ กิริยาจิต ๒๐ ที่เกิดก่อนๆ (เว้นจุติของพระอรหันต์) เป็นปัจจัยคือช่วยอุปการะ แก่อพยากตธรรม คือ วิปากจิต ๓๖ กิริยาจิต ๒๐ พร้อมด้วยจุติของพระอรหันต์ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๑๖. ปุริมา ปุริมา อพฺยากตานํ ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
อพยากตธรรม คือโวฏฐัพพนจิต หรือมโนทวาราวัชชนจิตที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะแก่มหากุศลดวงที่ ๑ ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๑๗. ปุริมา ปุริมา อพฺยากตานํ ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
อพยากตธรรม คือโวฏฐัพพนจิต หรือมโนทวาราวัชชนจิตที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะแก่อกุศลชวนะดวงที่ ๑ ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

๑๘. เยสํ เยสํ ธมฺมานํ อนนฺตรา เย เย ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา เต เต ธมฺมา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
ธรรมทั้งหลาย คือ จิตเจตสิก พร้อมด้วยจุติจิตของพระอรหันต์ที่เกิดหลังๆ ใดๆ ย่อมเกิดขึ้นติดต่อกันในลำดับแห่งนามขันธ์ทั้งหลายใดๆ (เว้นจุติจิตของพระอรหันต์)นามขันธ์ทั้งหลาย (เว้นจุติจิตของพระอรหันต์) นั้นๆ เป็นปัจจัย คือ ช่วยอุปการะ แก่จิตเจตสิกพร้อมด้วยจุติจิตของพระอรหันต์ที่เกิดหลังๆ นั้นๆ ด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2014, 16:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8237


 ข้อมูลส่วนตัว


[ ๕ ] สมนันตรปัจจยนิทเทส

๑. จกฺขุวิญญาณธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
จักขุวิญญาณธาตุก็ดี สัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับจักขุวิญญาณธาตุก็ดี เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ และอัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิต ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๒. มโนธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนวิญญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ ก็ดี อัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิตก็ดี คือ ช่วยอุปการะ แก่มโนวิญญาณธาตุ คือสันตีรณจิต ๓ อัญญสมานเจตสิก ๑๑ ที่ประกอบสันตีรณจิต ๓ ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๓. โสตวิญญาณธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
โสตวิญญาณธาตุก็ดี สัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับโสตวิญญาณธาตุก็ดี เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ และอัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิต ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๔. มโนธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนวิญญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ ก็ดี อัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิตก็ดี คือ ช่วยอุปการะ แก่มโนวิญญาณธาตุ คือสันตีรณจิต ๓ อัญญสมานเจตสิก ๑๑ ที่ประกอบสันตีรณจิต ๓ ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๕ . ฆานวิญญาณธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
ฆานวิญญาณธาตุก็ดี สัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับฆานวิญญาณธาตุก็ดี เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ และอัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิต ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๖. มโนธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนวิญญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ ก็ดี อัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิตก็ดี คือ ช่วยอุปการะ แก่มโนวิญญาณธาตุ คือสันตีรณจิต ๓ อัญญสมานเจตสิก ๑๑ ที่ประกอบสันตีรณจิต ๓ ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๗. ชิวหาวิญญาณธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
ชิวหาวิญญาณธาตุก็ดี สัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับชิวหาวิญญาณธาตุก็ดี เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ และอัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิต ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๘. มโนธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนวิญญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ ก็ดี อัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิตก็ดี คือ ช่วยอุปการะ แก่มโนวิญญาณธาตุ คือสันตีรณจิต ๓ อัญญสมานเจตสิก ๑๑ ที่ประกอบสันตีรณจิต ๓ ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๙. กายวิญญาณธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
กายวิญญาณธาตุก็ดี สัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับกายวิญญาณธาตุก็ดี เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ และอัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิต ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๑๐. มโนธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนวิญญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย.
มโนธาตุ คือสัมปฏิจฉนจิต ๒ ก็ดี อัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับสัมปฏิจฉนจิตก็ดี คือ ช่วยอุปการะ แก่มโนวิญญาณธาตุ คือสันตีรณจิต ๓ อัญญสมานเจตสิก ๑๑ ที่ประกอบสันตีรณจิต ๓ ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๑๑. ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
โลกียกุศลชวนะ ๑๗ ที่เกิดก่อนๆ (เว้นชวนะดวงสุดท้าย) เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่กุศลชวนะ ๒๑ ที่เกิดหลังๆ (เว้นชวนะดวงที่๑) ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๑๒. ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ อพฺพยากตานํ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
กุศลชวนะ ๒๑ ดวงสุดท้ายที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยคือช่วยอุปการะ แก่อพยากตธรรม คือสันตีรณจิต ๓ มหาวิปากจิต ๘ มหัคคตวิปากจิต ๙ ผลจิต ๔ ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๑๓. ปุริมา ปุริมา อกุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
อกุศลชวนะ ๑๒ ที่เกิดก่อนๆ(เว้นชวนดวงสุดท้าย) เป็นปัจจัยคือช่วยอุปการะ แก่อกุศลชวนะ ๑๒ ที่เกิดหลังๆ (เว้นชวนะดวงที่ ๑) ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๑๔. ปุริมา ปุริมา อกุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ อพฺยากตานํ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
อกุศลชวนะ ๑๒ ดวงสุดท้ายที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยคือช่วยอุปการะ แก่อพยากตธรรม คือสันตีรณจิต ๓ มหาวิปากจิต ๘ มหัคคตวิปากจิต ๙ ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๑๕. ปุริมา ปุริมา อพฺยากตานํ ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ อพฺยากตานํ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
อพยากตธรรม คือ วิปากจิต ๓๖ กิริยาจิต ๒๐ ที่เกิดก่อนๆ (เว้นจุติของพระอรหันต์) เป็นปัจจัยคือช่วยอุปการะ แก่อพยากตธรรม คือ วิปากจิต ๓๖ กิริยาจิต ๒๐ พร้อมด้วยจุติของพระอรหันต์ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๑๖. ปุริมา ปุริมา อพฺยากตานํ ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
อพยากตธรรม คือโวฏฐัพพนจิต หรือมโนทวาราวัชชนจิตที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะแก่มหากุศลดวงที่ ๑ ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๑๗. ปุริมา ปุริมา อพฺยากตานํ ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
อพยากตธรรม คือโวฏฐัพพนจิต หรือมโนทวาราวัชชนจิตที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะแก่อกุศลชวนะดวงที่ ๑ ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

๑๘. เยสํ เยสํ ธมฺมานํ สมนนฺตรา เย เย ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา เต เต ธมฺมา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย
ธรรมทั้งหลาย คือ จิตเจตสิก พร้อมด้วยจุติจิตของพระอรหันต์ที่เกิดหลังๆ ใดๆ ย่อมเกิดขึ้นติดต่อกันในลำดับแห่งนามขันธ์ทั้งหลายใดๆ (เว้นจุติจิตของพระอรหันต์)นามขันธ์ทั้งหลาย (เว้นจุติจิตของพระอรหันต์) นั้นๆ เป็นปัจจัย คือ ช่วยอุปการะ แก่จิตเจตสิกพร้อมด้วยจุติจิตของพระอรหันต์ที่เกิดหลังๆ นั้นๆ ด้วยอำนาจสมนันตรปัจจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2014, 04:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8237


 ข้อมูลส่วนตัว


[ ๖ ] สหชาตปัจจยนิทเทส

๑. จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อญฺญมญฺญํ สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย.
นามขันธ์ ๔ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน ด้วยอำนาจสหชาตปัจจัย

๒. จตฺตาโร มหาภูตา อญฺญมญฺญํ สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย.
มหาภูตรูป ๔ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน ด้วยอำนาจสหชาตปัจจัย

๓. โอกฺกนฺติขเณ นามรูปํ อญฺญมญฺญํ สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
นามขันธ์ ๔ และหทัยวัตถุในขณะปฏิสนธิกาล ในปัญจโวการภูมิ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน ด้วยอำนาจสหชาตปัจจัย

๔. จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา จิตฺตสมุฏฺฐานานํ รูปานํ สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
ธรรมทั้งหลาย คือ จิต ๗๕ เจตสิก ๕๒ (เว้นทวิปัญจวิญญาณจิต ๑๐ อรูปวิบากจิต ๔ และจุติจิตของพระอรหันต์) เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่รูปที่มีจิตเป็นสมุฏฐาน ด้วยอำนาจสหชาตปัจจัย

๕. มหาภูตา อุปาทารูปานํ สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
มหาภูตรูป เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่อุปาทายรูป ด้วยอำนาจสหชาตปัจจัย

๖. รูปิโน ธมฺมา อรูปินํ ธมฺมานํ กิญจิ กาเล สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย กิญจิ กาเล น สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
ในขณะปฏิสนธิกาล หทัยวัตถุรูปทั้งหลาย เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ปัญจโวการปฏิสนธินามขันธ์ ๔ ด้วยอำนาจสหชาตปัจจัย
แต่ในปวัตติกาลเป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่นามขันธ์ ๔ ด้วยอำนาจสหชาตปัจจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2014, 05:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8237


 ข้อมูลส่วนตัว


[ ๗ ] อัญญมัญญปัจจยนิทเทส

๑. จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อญฺญมญฺญปจฺจเยน ปจฺจโย.
นามขันธ์ ๔ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ(อญฺญมญฺญ) ซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน
ด้วยอำนาจอัญญมัญญปัจจัย


๒. จตฺตาโร มหาภูตา อญฺญมญฺญปจฺจเยน ปจฺจโย.
มหาภูตรูป ๔ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ(อญฺญมญฺญ)ซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน
ด้วยอำนาจอัญญมัญญปัจจัย


๓. โอกฺกนฺติขเณ นามรูปํ อญฺญมญฺญปจฺจเยน ปจฺจโย
นามขันธ์ ๔ และหทัยวัตถุในขณะปฏิสนธิกาล ในปัญจโวการภูมิ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ(อญฺญมญฺญ)
ซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน ด้วยอำนาจอัญญมัญญปัจจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2014, 05:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8237


 ข้อมูลส่วนตัว


[ ๘ ] นิสสยปัจจยนิทเทส

๑. จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อญฺญมญฺญํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย.
นามขันธ์ ๔ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน ด้วยอำนาจสหชาตนิสสยปัจจัย

๒. จตฺตาโร มหาภูตา อญฺญมญฺญํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย.
มหาภูตรูป ๔ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน ด้วยอำนาจสหชาตนิสสยปัจจัย

๓. โอกฺกนฺติขเณ นามรูปํ อญฺญมญฺญํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
นามขันธ์ ๔ และหทัยวัตถุในขณะปฏิสนธิกาล ในปัญจโวการภูมิ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน ด้วยอำนาจสหชาตนิสสยปัจจัย

๔. จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา จิตฺตสมุฏฺฐานานํ รูปานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
ธรรมทั้งหลาย คือ จิต ๗๕ เจตสิก ๕๒ (เว้นทวิปัญจวิญญาณจิต ๑๐ อรูปวิบากจิต ๔ และจุติจิตของพระอรหันต์) เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่รูปที่มีจิตเป็นสมุฏฐาน ด้วยอำนาจสหชาตนิสสยปัจจัย

๕. มหาภูตา อุปาทารูปานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
มหาภูตรูป เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่อุปาทายรูป ด้วยอำนาจสหชาตนิสสยปัจจัย

๖. จกฺขายตนํ จกฺขุวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอดีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่จักขุวิญญาณธาตุและสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ที่ประกอบกับจักขุวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย

๗. โสตายตนํ โสตวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกโสตายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอดีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่โสตวิญญาณธาตุและสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ที่ประกอบกับโสตวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย

๘. ฆานายตนํ ฆานวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกฆานายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอดีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ฆานวิญญาณธาตุและสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ที่ประกอบกับฆานวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย

๙. ชิวฺหายตนํ ชิวฺหาวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกชิวหายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอดีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตชิวหายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ชิวหาวิญญาณธาตุและสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ที่ประกอบกับชิวหาวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย

๑๐. กายายตนํ กายวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกกายายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอดีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตกายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่กายวิญญาณธาตุและสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ที่ประกอบกับกายวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย

๑๑. ยํ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ จ มโนวิญญาณธาตุ จ วตฺตนฺติ ตํ รูปํ มโนธาตุยา จ มโนวิญฺญาณธาตุยา จ ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
มโนธาตุ ๓ และมโนวิญญาณธาตุ ๗๒ เจตสิก ๕๒ (เว้นอรูปวิปากจิต ๔) อาศัยหทัยวัตถุใดเกิดขึ้น หทัยวัตถุนั้นเป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่มโนธาตุ ๓ และมโนวิญญาณธาตุ ๗๒ (เว้นอรูปวิปากจิต ๔ ) เจตสิก ๕๒ ที่ประกอบกับมโนธาตุ และมโนวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย และวัตถารัมณปุเรชาตนิสสยปัจจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2014, 04:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8237


 ข้อมูลส่วนตัว


[ ๙ ] อุปนิสสยปัจจยนิทเทส

๑. ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
นามขันธ์ คือ กุศลจิตตุปบาท ๒๐ ที่เกิดก่อนๆ (เว้นอรหันต์มรรค)เป็นปัจจัยคือ ช่วยอุปการะ แก่นามขันธ์ คือ กุศลจิตตุปบาท ๒๑ ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจอารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยปัจจัย

๒. ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฉิมานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
นามขันธ์ คือ โลกียกุศลจิตตุปบาท ๑๗ ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัย ช่วย คืออุปการะ แก่นามขันธ์ คือ อกุศลจิตตุปบาท ๑๒ บางอย่างที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจอารัมมณูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยปัจจัย

๓. ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฉิมานํ อพฺยากตานํ ธมฺมานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
นามขันธ์ คือ กุศลจิตตุปบาท ๒๑ ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัย คือ ช่วยอุปการะ แก่อพฺพยากตนามขันธ์ คือ วิบาก ๓๖ กิริยา ๒๐ จิตตุปบาทที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจอารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยปัจจัย

๔.ปุริมา ปุริมา อกุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฉิมานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
นามขันธ์ คือ อกุศลจิตตุปบาท ๑๒ ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัย คือ ช่วยอุปการะ แก่นามขันธ์ คือ อกุศลจิตตุปบาท ๑๒ ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจอารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยปัจจัย

๕. ปุริมา ปุริมา อกุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
นามขันธ์ คือ อกุศลจิตตุปบาท ๑๒ ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัย คือ ช่วยอุปการะ แก่นามขันธ์ คือ กุศลจิตตุปบาท ๒๑บางอย่าง ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจ ปกตูปนิสสยปัจจัย

๖. ปุริมา ปุริมา อกุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฉิมานํ อพฺยากตานํ ธมฺมานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
นามขันธ์ คือ อกุศลจิตตุปบาท ๑๒ ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัย คือ ช่วยอุปการะ แก่อพยากตนามขันธ์ คือ วิบากจิต ๓๖ กิริยาจิต ๒๐ จิตตุปบาท ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยปัจจัย

๗. ปุริมา ปุริมา อพฺยากตา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฉิมานํ อพฺยากตานํ ธมฺมานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
อพยากตขันธ์ ๕ คือ วิบากจิต ๓๖ กิริยาจิต ๒๐ จิตตุปบาท รูป ๒๘ ที่เกิดก่อนๆ และนิพพาน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่อพยากตนามขันธ์ คือ วิบาก ๓๖ กิริยาจิต ๒๐ จิตตุปบาทที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจ อารัมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยปัจจัย

๘. ปุริมา ปุริมา อพฺยากตา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
อพยากตขันธ์ ๕ คือ วิบากจิต ๓๕ จิตตุปบาทภายในของตน(เว้นอรหันตผลจิต) หรือวิบาก ๓๖ จิตตุปบาทที่เป็นของคนอื่นกิริยา๒๐ จิตตุปบาท รูป ๒๘ ที่เกิดก่อนๆและนิพพาน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่นามขันธ์ คือ กุศลจิตตุปบาท ๒๑ ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจ อารัมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยปัจจัย

๙. ปุริมา ปุริมา อพฺยากตา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฉิมานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
อพยากตขันธ์ ๕ คือ โลกียวิบากจิต ๓๒ กิริยาจิต ๒๐ จิตตุปบาท (เว้นวิรตี) รูป ๒๘ ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่นามขันธ์ คือ อกุศลจิตตุปบาท ๑๒ ที่เกิดหลังๆ
ด้วยอำนาจ อารัมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยปัจจัย


๑๐. อุตุโภชนปิ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
อุตุ คือ เย็น ร้อน และโภชนาหารต่างๆ อันเป็นที่สบาย เป็นปัจจัย คืออุปการะ แก่ กาย ใจ คือ รูปขันธ์ กุศลอกุศลนามขันธ์ ด้วยอำนาจ ปกตูปนิสสยปัจจัย

๑๑. ปุคฺคโลปิ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
บุคคล คือ กัลยานิมิต ปาปมิตร บิดา มารดา บุตร ธิดา ครู อุปัชฌาย์ อาจารย์ สัทธิวิหาริก และอันเตวาสิก เป็นปัจจัย คืออุปการะ แก่ กาย ใจ คือ กุศลอกุศลนามขันธ์ ด้วยอำนาจ
ปกตูปนิสสยปัจจยุปบัน โดยอภิธัมมนัย หรือกายใจ ปกตูนิสสยปัจจยุปบัน โดย สุตตันตนัย ด้วยอำนาจปกตูปนิสสยปัจจัย


๑๒. เสนาสนํปิ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย
เสนาสนะ คือ วัด บ้าน ที่นอน ที่นั่งก็ดี ป่า ภูเขา ต้นไม้ เครื่องนุ่งห่มก็ดี เป็นปัจจัย คืออุปการะ แก่ กาย ใจ คือ กุศลอกุศลนามขันธ์ ด้วยอำนาจ ปกตูปนิสสยปัจจยุปบัน
โดยอภิธัมมนัย หรือกายใจ ปกตูนิสสยปัจจยุปบัน โดย สุตตันตนัย ด้วยอำนาจปกตูปนิสสยปัจจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2014, 05:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8237


 ข้อมูลส่วนตัว


[ ๑๐ ] ปุเรชาตปจฺจโยติ

๑. จฺกฺขายตนํ จกฺขุวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอตีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่จักขุวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับจักขุวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตปัจจัย

๒. โสตายตนํ โสตวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอตีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่โสตวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับโสตวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตปัจจัย

๓. ฆานายตนํ ฆานวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอตีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ฆานวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับฆานวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตปัจจัย

๔. ชิวฺหายตนํ ชิวฺหาวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอตีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ชิวหาวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับชิวหาวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตปัจจัย

๕.กายายตนํ กายวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอตีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่กายวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับกายวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตปัจจัย

๖.รูปายตนํ จกฺขุวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
รูปารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่จักขุวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับจักขุวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตปัจจัย

๗. สทฺทายตนํ โสตวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
สัททารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่โสตวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับโสตวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตปัจจัย

๘. คนฺธายตนํ ฆานวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
คันธารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ฆานวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับฆานวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตปัจจัย

๙. รสายตนํ ชิวฺหาวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
รสารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ชิวหาวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับชิวหาวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตปัจจัย

๑๐. โผฏฺฐพฺพายตนํ กายวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
โผฏฐัพพารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่กายวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับกายวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตปัจจัย

๑๑. รูปายตนํ สทฺทายตนํ คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺฐพฺพายตนํ มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
รูปารมณ์ สัททารมณ์ คันธารมณ์ รสารมณ์ โผฏฐัพพารมณ์ คือ ปัญจารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คืออุปการะ แก่มโนธาตุ และอัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับมโนธาตุ (เว้นวิริยะ ปิติ ฉันทะ) ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตปัจจัย

๑๒. ยํ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ จ มโนวิญญาณธาตุ จ วตฺตนฺติ ตํ รูปํ มโนธาตุยา จ มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
มโนธาตุ ๓ และมโนวิญญาณธาตุ ๗๒ เจตสิก ๕๒ (เว้นอรูปวิปากจิต ๔) อาศัยหทัยวัตถุใดเกิดขึ้น หทัยวัตถุนั้นเป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่มโนธาตุ ๓ อัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับมโนธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตปัจจัย

๑๓. มโนวิญญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ กิญฺจิกาเล ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย กิญฺจิกาเล น ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย
ในปวัตติกาลหทัยวัตถุรูปนี้ เป็นปัจจัย คืออุปการะ แก่มโนวิญญาณธาตุ ๗๒ เจตสิก ๕๒ ที่ประกอบกับมโนวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตปัจจัย และวัตถารัมมณปุเรชาตปัจจัย
สำหรับในปฏิสนธิกาลนั้น หทัยวัตถุรูปนี้ เป็นปัจจัย คือช่วย อุปการะ แก่ปฏิสนธิวิญญาณ ๑๕ เจตสิก ๓๕ ที่ประกอบกับปฏิสนธิวิญญาณ (เว้นอรูปปฏิสนธิวิญญาณ) ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตปัจจัย และ วัตถารัมมณปุเรชาตปัจจัยไม่ได้

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2014, 05:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8237


 ข้อมูลส่วนตัว


[๑๑] ปัจฉาชาตปัจจยนิทเทส :

๑. ปจฺฉาชาตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย.
นามขันธ์ ๔ ในปัญจโวการภูมิ คือ จิต ๘๕ เจตสิก ๕๒ (เว้นอรูปวิปาก ๔) ที่เกิดขึ้นภายหลัง เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ เอกชกาย ทวิชกาย ติชกาย จตุชกาย หรืออีกในหนึ่ง ได้แก่ เอกสมุฏฐานิกรูป ทวิสมุฏฐานิกรูป ติสมุฏฐานิกรูป จตุสมุฏฐานิกรูป ที่เกิดขึ้นก่อน ด้วยอำนาจปัจฉาชาตปัจจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2014, 05:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8237


 ข้อมูลส่วนตัว


[ ๑๒ ] อาเสวนปัจจยนิทเทส:

๑. ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย
โลกียกุศลชวนะ ๑๗ ที่เกิดก่อนๆ (เว้นชวนะดวงสุดท้าย) เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่กุศลชวนะ ๒๑ ที่เกิดหลังๆ (เว้นชวนะดวงที่๑) ด้วยอำนาจอาเสวนปัจจัย

๒. ปุริมา ปุริมา อกุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย
อกุศลชวนะ ๑๒ ที่เกิดก่อนๆ(เว้นชวนดวงสุดท้าย) เป็นปัจจัยคือช่วยอุปการะ แก่อกุศลชวนะ ๑๒ ที่เกิดหลังๆ (เว้นชวนะดวงที่ ๑) ด้วยอำนาจอาเสวนปัจจัย

๓. ปุริมา ปุริมา กิริยาพฺยากตานํ ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กิริยาพฺยากตานํ ธมฺมานํ อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย
กิริยาชวนะ ๑๘ ที่เกิดก่อนๆ (เว้นชวนะดวงสุดท้าย) เป็นปัจจัยคือช่วยอุปการะ แก่ กิริยาชวนะ ๑๘ ที่เกิดหลังๆ (เว้นชวนะดวงที่๑) ด้วยอำนาจอาเสวนปัจจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2014, 05:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8237


 ข้อมูลส่วนตัว


[๑๓] กัมมปัจจยนิทเทส


๑. กุสลากุสลํ กมฺมํ วิปากานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย
กุศล อกุศลกรรม คือ กุศล อกุศลนานักขณิกเจตนา เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่วิบากนามขันธ์ ๔ และปฏิสนธิกัมมชรูป ปวัตติกัมมชรูป อสัญญสัตตกัมมชรูป ด้วยอำนาจนานักขณิกกัมมปัจัย


๒. เจตนา สมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฐานานญฺจ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย
เจตนาเจตสิก ๘๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่จิต ๘๙ เจตสิก ๕๑ ที่ประกอบกับตน และตังสมุฏฐานิกรูป คือ จิตตชรูป ปฏิสนธิกัมมชรูป ด้วยอำนาจสหชาตกัมมปัจจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2014, 18:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8237


 ข้อมูลส่วนตัว


[๑๔] วิปากปัจจยนิทเทส

๑. วิปากา จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อญฺญมญฺญํ วิปากปจฺจเยน ปจฺจโย
นามขันธ์ ๔ ที่เป็นวิบาก เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน ด้วยอำนาจวิปากปัจจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 28 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron