วันเวลาปัจจุบัน 29 ก.ค. 2025, 00:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 122 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2014, 14:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

บางสำนวน....ใช้คำว่า..กองลม...

กำหนดรู้กองลม....แล้วหายใจ.....อันนี้ก็อยากทราบ....เพราะบางท่านบอกว่า..กองลมคือปริมาณของลม....

เอ้ะ...ยังงัย..ดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2014, 14:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
:b8: :b8: :b8:

บางสำนวน....ใช้คำว่า..กองลม...

กำหนดรู้กองลม....แล้วหายใจ.....อันนี้ก็อยากทราบ....เพราะบางท่านบอกว่า..กองลมคือปริมาณของลม....

เอ้ะ...ยังงัย..ดี

:b16:
:b38:
กองลม.....คือเรื่องของธาตุลมทั้งปวงที่แสดงอยู่ในกาย รับรู้ที่จิต

สภาวะธาตุลมเมื่อแสดงในกายจะเป็นความรู้สึก

เจ็บ...ปวด...เต้น...ตอด....เหน็บ...ซ่าน...โยก....คลอน....ไหว....นิ่ง

เทียบกับกองไฟทั้งกอง หรือสภาวะธาตุไฟ

ร้อน หนาว เย็น อุ่่น

:b39: :b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2014, 15:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
s004
กรัชกายพาแฉลบออกนอกเรื่องของ 16 ขั้นตอนของอานาปานสติอีกแล้ว กลับไปลงหลุมเก่า หล่มเก่าที่ติดอยู่เป็นนานแสนนานไม่ขึ้นจากหล่มได้สักทีทั้งๆที่เป็นเรื่องง่ายๆ เป็นเรื่องของคนที่สติสัมปชัญญะหลุดจากกรรมฐาน หลุดจากงานที่พึงกระทำแล้วปรุงแต่งไปเป็นโน้นเป็นนี้ อาจารย์ก็บ้าจี้จะไปแก้เรื่องที่ปรุงแต่ง ไม่แก้ที่สาเหตุหรือต้นเหตุ ซึ่งก็มีหลักพิจารณาง่ายๆว่า

สติ สมาธิ หรือปัญญา บกพร่อง ต้องแก้ไขที่สามอย่างนี้เท่านนั้น ไม่ใช่ไปแก้ไขเรื่องราวที่ปรุงออกไปอันเป็นปลายเหตุ ยิ่งแก้ยิ่งยุ่งเหมือนแหพันกัน

กลับมาสู่ประเด็นดีกว่านะกรัชกายอย่าชักใบให้เรือเสียเลย เจ้าของกระทู้เขาตั้งกระทู้ไว้ดีแล้ว มีคุณค่ามากด้วย เรื่องของอานาปานสติ 16 ขั้นตอนนั้นมีความละเอียดซ้อนลึกน่าศึกษาน่ารู้น่าวิเคราะห์วิจัยวิจารณ์กว่ากันเยอะเลยและมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ศึกษาและเข้าใจอย่างถ่องแท้ เพราะนี่เป็นวิธีเจริญสมถะควบคู่ไปกับวิปัสสนาภาวนาที่สุดยอด พระบรมศาสดาทรงแจกแจงให้ทราบภาวะและขั้นตอนโดยละเอียดที่จะเกิดขึ้นกับผู้เจริญเป็นลำดับๆตามระดับความละเอียดของจิต ซึ่งน้อยคนจะตีความหมายออกได้อย่างแตกฉาน

อนึ่งสำนวนการแปล 16 ขั้นตอนที่กรัชกายไปคัดลอกมาก็ไม่ค่อยตรงกับสภาวธรรมดีนัก พึงแก้ไข สำนวนการแปลในบทสวดมนต์แปลมาตรฐานยังจะตรงกับสภาวธรรมที่พึงเกิดขึ้นมากกว่า ...จงพากัน.สังเกตให้ดีๆนะครับ




อ้างคำพูด:
จงพากัน.สังเกตให้ดีๆนะครับ


อโศกอีกคนพูดอะไร คลุมเครือ ไม่ชัดเจน ก็บอกเขาไปซี่ขอรับ ตรงไหนเป็นยังไง ยกมาอธิบายเลย

นี่อะไรไปบอกว่า จงสังเกตให้ดี สังเกตอะไร สังเกตให้ดีๆ งง เห็นมะมันไม่ชัด บอกเขาไปเลยตรงที่อโศกบอกให้สังเกตนั่นน่ะ แล้วก็บอกเขาว่า มันเป็นยังงี้ๆน่ะ นี่ต้องยังงี้่ จึงจะเรียกว่าผู้รู้ มิใช่พูดคลุมเครือให้คนไปตีความ ทำเป็นธรรมะตีหวย ธรรมะขูดต้นไม้หาเลขเด็ด คิกๆๆ อ้าวจริงๆ บอกไม่เชื่อ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2014, 15:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
วางตัวอย่างภาคฝึกหัดพัฒนาไว้ด้วย

อ้างคำพูด:
เวลานั่งสมาธิไปสักพักแล้ว แก้มจะรู้สึกหน่วงๆวูบวาบๆ เหมือนอะไรมันขยับเลื่อนๆได้ บางทีก็เป็นที่ปาก ปากเราก็จะรู้สึกขยายเล็กใหญ่เหมือนคลื่น ทำให้รู้สึกเหมือนปากมันบวมๆขยายใหญ่อ่ะค่ะ บางครั้งเป็นหลายจุดบนใบหน้าในเวลาเดียวกัน เลยอยากทราบว่ามันคืออะไร แล้วเราต้องกำหนดพิจารณายังไงไหมคะ หรือปล่อยไปเลยไม่ต้องสนใจ ดูลมหายใจอย่างเดียว

อ้อแล้วบางครั้งเวลานั่งสมาธิจะเสร็จแล้ว หูมันจะเย็นๆ คือเย็นในรูหู แบบนี้คืออะไรอ่ะคะ

แล้วอย่างเวลาเราดูลมหายใจพร้อมกับท่องพุทโธๆ ไปด้วย พอไปถึงจุดนึง จะไม่รู้สึกถึงลมหายใจ คือลมมันเบามาก จนจับไม่ได้เลยตามดูลมต่อไม่ได้ กลายเป็นนั่งเงียบๆไปเฉยๆเลยอ่ะค่ะ ไปต่อไม่ถูก อย่างนี้ต้องปฏิบัติอย่างไรต่อคะ ต้องหาอะไรพิจารณาไหมคะ หรือนั่งไปเฉยๆไม่ให้จิตไปคิดอะไร



อโศกขอรับ นี่คนไม่พูดมาก ทำเลย ถ้าเขาแก้ปัญหาขั้นสภาวะนี่ได้สิ้นสุดเมื่อไหร่ อวิชชาถูกกำจัดครับ กรัชกายนำทั้งภาคปริยัติ ปฏิบัติมาวางเทียบให้ดูแล้ว ไม่รู้จักสังเกตเอง คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2014, 21:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
:b8: :b8: :b8:

บางสำนวน....ใช้คำว่า..กองลม...

กำหนดรู้กองลม....แล้วหายใจ.....อันนี้ก็อยากทราบ....เพราะบางท่านบอกว่า..กองลมคือปริมาณของลม....

เอ้ะ...ยังงัย..ดี

:b16:
:b38:
[b]กองลม.....คือเรื่องของธาตุลมทั้งปวงที่แสดงอยู่ในกาย รับรู้ที่จิต

สภาวะธาตุลมเมื่อแสดงในกายจะเป็นความรู้สึก

เจ็บ...ปวด...เต้น...ตอด....เหน็บ...ซ่าน...โยก....คลอน....ไหว....นิ่ง

.........

:b39: :b39:


คนอื่นๆคิดอย่างไร......กับที่อโศกะว่ามาละครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2014, 21:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
:b8: :b8: :b8:

บางสำนวน....ใช้คำว่า..กองลม...

กำหนดรู้กองลม....แล้วหายใจ.....อันนี้ก็อยากทราบ....เพราะบางท่านบอกว่า..กองลมคือปริมาณของลม....

เอ้ะ...ยังงัย..ดี

:b16:
:b38:
[b]กองลม.....คือเรื่องของธาตุลมทั้งปวงที่แสดงอยู่ในกาย รับรู้ที่จิต

สภาวะธาตุลมเมื่อแสดงในกายจะเป็นความรู้สึก

เจ็บ...ปวด...เต้น...ตอด....เหน็บ...ซ่าน...โยก....คลอน....ไหว....นิ่ง

.........

:b39: :b39:


คนอื่นๆคิดอย่างไร......กับที่อโศกะว่ามาละครับ



ปล่อย ปล่อยให้เขาเต้น เขาตอด เขาโยก เขาคลอน ไปเถอะครับ :b32: แหม ช่างคิดประดิษฐ์ถ้อยคำมาพูด เต้น ตอด :b9: นี่นะถ้าอยู่ใกล้ๆ จะสักที

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2014, 21:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
:b8: :b8: :b8:

บางสำนวน....ใช้คำว่า..กองลม...

กำหนดรู้กองลม....แล้วหายใจ.....อันนี้ก็อยากทราบ....เพราะบางท่านบอกว่า..กองลมคือปริมาณของลม....

เอ้ะ...ยังงัย..ดี

:b16:
:b38:
[b]กองลม.....คือเรื่องของธาตุลมทั้งปวงที่แสดงอยู่ในกาย รับรู้ที่จิต

สภาวะธาตุลมเมื่อแสดงในกายจะเป็นความรู้สึก

เจ็บ...ปวด...เต้น...ตอด....เหน็บ...ซ่าน...โยก....คลอน....ไหว....นิ่ง

.........

:b39: :b39:


คนอื่นๆคิดอย่างไร......กับที่อโศกะว่ามาละครับ



ปล่อย ปล่อยให้เขาเต้น เขาตอด เขาโยก เขาคลอน ไปเถอะครับ :b32: แหม ช่างคิดประดิษฐ์ถ้อยคำมาพูด เต้น ตอด :b9: นี่นะถ้าอยู่ใกล้ๆ จะสักที

ไม่ต้องเป็นห่วงโสกะหรอกเจ้าค่ะ เพราะโสกะกิเลศน้อยกว่าพี่กรัชกายชัวร์ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2014, 23:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
วางตัวอย่างภาคฝึกหัดพัฒนาไว้ด้วย

อ้างคำพูด:
เวลานั่งสมาธิไปสักพักแล้ว แก้มจะรู้สึกหน่วงๆวูบวาบๆ เหมือนอะไรมันขยับเลื่อนๆได้ บางทีก็เป็นที่ปาก ปากเราก็จะรู้สึกขยายเล็กใหญ่เหมือนคลื่น ทำให้รู้สึกเหมือนปากมันบวมๆขยายใหญ่อ่ะค่ะ บางครั้งเป็นหลายจุดบนใบหน้าในเวลาเดียวกัน เลยอยากทราบว่ามันคืออะไร แล้วเราต้องกำหนดพิจารณายังไงไหมคะ หรือปล่อยไปเลยไม่ต้องสนใจ ดูลมหายใจอย่างเดียว

อ้อแล้วบางครั้งเวลานั่งสมาธิจะเสร็จแล้ว หูมันจะเย็นๆ คือเย็นในรูหู แบบนี้คืออะไรอ่ะคะ

แล้วอย่างเวลาเราดูลมหายใจพร้อมกับท่องพุทโธๆ ไปด้วย พอไปถึงจุดนึง จะไม่รู้สึกถึงลมหายใจ คือลมมันเบามาก จนจับไม่ได้เลยตามดูลมต่อไม่ได้ กลายเป็นนั่งเงียบๆไปเฉยๆเลยอ่ะค่ะ ไปต่อไม่ถูก อย่างนี้ต้องปฏิบัติอย่างไรต่อคะ ต้องหาอะไรพิจารณาไหมคะ หรือนั่งไปเฉยๆไม่ให้จิตไปคิดอะไร



อโศกขอรับ นี่คนไม่พูดมาก ทำเลย ถ้าเขาแก้ปัญหาขั้นสภาวะนี่ได้สิ้นสุดเมื่อไหร่ อวิชชาถูกกำจัดครับ กรัชกายนำทั้งภาคปริยัติ ปฏิบัติมาวางเทียบให้ดูแล้ว ไม่รู้จักสังเกตเอง คิกๆๆ

:b34:
ดูหัวข้อกระทู้ให้ดีๆนะครับ กรัชกาย จะพาผู้คนเขาแฉลบไปที่ไหน
:b3:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2014, 05:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
วางตัวอย่างภาคฝึกหัดพัฒนาไว้ด้วย

อ้างคำพูด:
เวลานั่งสมาธิไปสักพักแล้ว แก้มจะรู้สึกหน่วงๆวูบวาบๆ เหมือนอะไรมันขยับเลื่อนๆได้ บางทีก็เป็นที่ปาก ปากเราก็จะรู้สึกขยายเล็กใหญ่เหมือนคลื่น ทำให้รู้สึกเหมือนปากมันบวมๆขยายใหญ่อ่ะค่ะ บางครั้งเป็นหลายจุดบนใบหน้าในเวลาเดียวกัน เลยอยากทราบว่ามันคืออะไร แล้วเราต้องกำหนดพิจารณายังไงไหมคะ หรือปล่อยไปเลยไม่ต้องสนใจ ดูลมหายใจอย่างเดียว

อ้อแล้วบางครั้งเวลานั่งสมาธิจะเสร็จแล้ว หูมันจะเย็นๆ คือเย็นในรูหู แบบนี้คืออะไรอ่ะคะ

แล้วอย่างเวลาเราดูลมหายใจพร้อมกับท่องพุทโธๆ ไปด้วย พอไปถึงจุดนึง จะไม่รู้สึกถึงลมหายใจ คือลมมันเบามาก จนจับไม่ได้เลยตามดูลมต่อไม่ได้ กลายเป็นนั่งเงียบๆไปเฉยๆเลยอ่ะค่ะ ไปต่อไม่ถูก อย่างนี้ต้องปฏิบัติอย่างไรต่อคะ ต้องหาอะไรพิจารณาไหมคะ หรือนั่งไปเฉยๆไม่ให้จิตไปคิดอะไร



อโศกขอรับ นี่คนไม่พูดมาก ทำเลย ถ้าเขาแก้ปัญหาขั้นสภาวะนี่ได้สิ้นสุดเมื่อไหร่ อวิชชาถูกกำจัดครับ กรัชกายนำทั้งภาคปริยัติ ปฏิบัติมาวางเทียบให้ดูแล้ว ไม่รู้จักสังเกตเอง คิกๆๆ

:b34:

ดูหัวข้อกระทู้ให้ดีๆนะครับ กรัชกาย จะพาผู้คนเขาแฉลบไปที่ไหน
:b3:



ถึงว่าไงว่า อโศกไม่มีฐานเรื่องภาวนาจากประสบการณ์จริงเลย ไม่มีเลยจริงๆ อ่านๆแล้วก็ตีความเอา ไปฝึกหัดทำจริงๆเสี่ยงครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2014, 07:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
:b8: :b8: :b8:

บางสำนวน....ใช้คำว่า..กองลม...

กำหนดรู้กองลม....แล้วหายใจ.....อันนี้ก็อยากทราบ....เพราะบางท่านบอกว่า..กองลมคือปริมาณของลม....

เอ้ะ...ยังงัย..ดี

:b16:
:b38:
[b]กองลม.....คือเรื่องของธาตุลมทั้งปวงที่แสดงอยู่ในกาย รับรู้ที่จิต

สภาวะธาตุลมเมื่อแสดงในกายจะเป็นความรู้สึก

เจ็บ...ปวด...เต้น...ตอด....เหน็บ...ซ่าน...โยก....คลอน....ไหว....นิ่ง



คนอื่นๆคิดอย่างไร......กับที่อโศกะว่ามาละครับ



ปล่อย ปล่อยให้เขาเต้น เขาตอด เขาโยก เขาคลอน ไปเถอะครับ :b32: แหม ช่างคิดประดิษฐ์ถ้อยคำมาพูด เต้น ตอด :b9: นี่นะถ้าอยู่ใกล้ๆ จะสักที



ไม่ต้องเป็นห่วงโสกะหรอกเจ้าค่ะ เพราะโสกะกิเลศน้อยกว่าพี่กรัชกายชัวร์


:b10: :b1: ตรงไหนที่แสดงถึงการเป็นห่วงอโศก
อ้างคำพูด:
ปล่อย ปล่อยให้เขาเต้น เขาตอด เขาโยก เขาคลอน ไปเถอะครับ
ช่างเขาเถิด ปล่อยเขาไป ... เป็นคำพูดของคนที่ห่วงหาอาทรกันหรอนี่ :b24:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2014, 09:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
:b8: :b8: :b8:

บางสำนวน....ใช้คำว่า..กองลม...

กำหนดรู้กองลม....แล้วหายใจ.....อันนี้ก็อยากทราบ....เพราะบางท่านบอกว่า..กองลมคือปริมาณของลม....

เอ้ะ...ยังงัย..ดี

:b16:
:b38:
[b]กองลม.....คือเรื่องของธาตุลมทั้งปวงที่แสดงอยู่ในกาย รับรู้ที่จิต

สภาวะธาตุลมเมื่อแสดงในกายจะเป็นความรู้สึก

เจ็บ...ปวด...เต้น...ตอด....เหน็บ...ซ่าน...โยก....คลอน....ไหว....นิ่ง



คนอื่นๆคิดอย่างไร......กับที่อโศกะว่ามาละครับ



ปล่อย ปล่อยให้เขาเต้น เขาตอด เขาโยก เขาคลอน ไปเถอะครับ :b32: แหม ช่างคิดประดิษฐ์ถ้อยคำมาพูด เต้น ตอด :b9: นี่นะถ้าอยู่ใกล้ๆ จะสักที



นั่นๆว่าแล้ว เห็นก็รู้ :b32: อโศกไม่มีประสบการณ์ตรงเรื่องการปฏิบัติธรรม เรื่องกรรมฐาน หรือจะชื่ออะไรอีกก็ตั้งเอา เลย ตัวเองยังเอาไม่รอดเลยขอรับ

เรื่องเบอร์โทร ก็เห็นเคยลงทีแล้วนี่ กรัชกายยังแซวๆเลยจำไม่ได้หรอ ทำเป็นลืม :b1: จริงๆน่ะ ถ้าใครให้อโศกสอนภาวนา ได้บ้ากันทั้งเมือง อ้าวจริงๆ บอกไม่เชื่อ :b32:

เอาระดับนี้เถอะขอรับ ทำวัตรเช้า-เย็น สวดมนต์เจ็ดตำนาน สวดอิติโส พาหุง มหากา เอาเถอะ ที่พูดนี่หวังดีนะขอรับ เข้าใจจุดประสงค์ด้วย
ไม่ต้องเป็นห่วงโสกะหรอกเจ้าค่ะ เพราะโสกะกิเลศน้อยกว่าพี่กรัชกายชัวร์


:b10: :b1: ตรงไหนที่แสดงถึงการเป็นห่วงอโศก
อ้างคำพูด:
ปล่อย ปล่อยให้เขาเต้น เขาตอด เขาโยก เขาคลอน ไปเถอะครับ
ช่างเขาเถิด ปล่อยเขาไป ... เป็นคำพูดของคนที่ห่วงหาอาทรกันหรอนี่ :b24:

ถ้าไม่ห่วงก็แปลว่าเป็นวิบากกรมเก่าของกรัชกายที่ทนไม่ไหวเห็นใครเผยแพร่ธรรมในลานนี้เกินหน้าเกินตาตนไม่ได้ :b32: แล้วกรัชกายจะไปจุ้นกับแนวทางปฏิบัติเขาทำไมถ้าไม่ห่วง หรือกรัชกายแค่อิจฉาอโสกะ :b14: แบบว่าอยากอวดตนว่าตนเองเหนือกว่าอโสกะ เราอุตส่ามองในแง่ดีกุศลจิตดันมาทำให้เรามองในแง่อกุศลจิต
อ้างคำพูด:
นั่นๆว่าแล้ว เห็นก็รู้ :b32: อโศกไม่มีประสบการณ์ตรงเรื่องการปฏิบัติธรรม เรื่องกรรมฐาน หรือจะชื่ออะไรอีกก็ตั้งเอา เลย ตัวเองยังเอาไม่รอดเลยขอรับ

รู้ได้ไงว่าอโสกะไม่มีประสบการณ์ตรงเรื่องการปฏิบัติธรรม เลิกนิสัยกล่าวตู่คนอื่นลอยๆดีกว่า เค้าอาจจะมีประสบการณ์มากกว่ากรัชกายก็ได้นะ ดูท่าทางอโสกะก็เกิดก่อนกรัชกายอีก เด่วอีกหน่อยกรัชกายได้กรรมตามสนองแน่ เพราะอีกหน่อยถ้าคุนน้องก็คงจะได้เข้ามาหัวเราะเยาะคนแก่อย่างกรัชกายเหมือนกันนั่นแหละน๊า :b32:
อ้างคำพูด:
เรื่องเบอร์โทร ก็เห็นเคยลงทีแล้วนี่ กรัชกายยังแซวๆเลยจำไม่ได้หรอ ทำเป็นลืม :b1: จริงๆน่ะ ถ้าใครให้อโศกสอนภาวนา ได้บ้ากันทั้งเมือง อ้าวจริงๆ บอกไม่เชื่อ :b32:

อย่าไปฟุ้งซ่านขนาดนั้นเลยกรัชกายว่าอโสกะจะทำคนอื่นบ้า มันไม่ดีความคิดอกุศล คุนน้องเห็นอโสกะเค้ามีจิตเมตตาต่อคนอื่นจะตาย ถ้าอโสกะจะบ้าคนบ้าตั้งนานแล้วหละกรัชกาย แต่กรัชกายนี่ดิถ้าไม่มีคนคุยด้วยในลานคือทำตัวน่ารำคาญจนคนอื่นไม่อยากคบด้วย กรัชกายนั่นแหละจะบ้า อ้าวจิงๆนะ ลองดูจิตตนเองดิถ้าไม่เชื่อ :b32:
อ้างคำพูด:
เอาระดับนี้เถอะขอรับ ทำวัตรเช้า-เย็น สวดมนต์เจ็ดตำนาน สวดอิติโส พาหุง มหากา เอาเถอะ ที่พูดนี่หวังดีนะขอรับ เข้าใจจุดประสงค์ด้วย


คิกๆๆ อนุโมทนาสาธุ อย่างกรัชกายแนะนำคนอื่นแบบนี้เข้าท่ากว่าไปก๊อปแปะๆอีกน่ะ เพราะพอมีคนสงสัยถามเรื่องที่ตนเอามาก๊อปแปะ ดันเรียกหาท่านเช่นนั้นหรือไม่ก็อโสกะ ถ้าคุนน้องเป็นนักเรียนแล้วกรัชกายเป็นครู แล้วทำนิสัยแบบนี้น่ะ คุนน้องจะบอกกรัชกายว่า ไปนั่งเก้าอี้เรียนดีกว่า เด่วจะไปสอนแทนเอง ใครสงสัยจะตอบแทนเอง คิคิ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2014, 09:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:

อย่างกรัชกายแนะนำคนอื่นแบบนี้เข้าท่ากว่าไปก๊อปแปะๆอีกน่ะ เพราะพอมีคนสงสัยถามเรื่องที่ตนเอามาก๊อปแปะ ดันเรียกหาท่านเช่นนั้นหรือไม่ก็อโสกะ ถ้าคุนน้องเป็นนักเรียนแล้วกรัชกายเป็นครู แล้วทำนิสัยแบบนี้น่ะ คุนน้องจะบอกกรัชกายว่า ไปนั่งเก้าอี้เรียนดีกว่า เด่วจะไปสอนแทนเอง ใครสงสัยจะตอบแทนเอง คิคิ


เขาเป็นอะไร จะแก้ไขอย่างไร

อ้างคำพูด:
ฝึกสมาธิเองมาตลอด มีหลายครั้งมากที่เกิดอาการแปลกๆกับตัวเอง เคยนั่งบริกรรม พุธ-โธ ไปเรื่อยๆ แล้วอยู่ดีๆก็รู้สึกว่าตัวเองตัวใหญ่มาก พอทราบไหมคะว่าเกิดจากอะไร และอีกอย่างที่สำคัญ เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากบริกรรม ไปเรื่อยๆ จนรู้สึกนิ่งมาก ยุ้ยเห็นตัวเองไม่ใช่ตัวเองคะ ยุ้ยเห็นตัวเองเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ตัดผมสั้น ใส่ชุดขาวทั้งชุด ภาพมันจะสลับกันไปคะ ระหว่างยุ้ยกับผู้ชายคนนั้น และเห็นหลายวันมาก ทุกวันเป็นคนคนเดิมและคนเดียวกัน พอจะทราบไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้น ยุ้ยพยายามไม่สนใจคะ แต่ก็เห็นอยู่ดี ขอความอนุเคราะห์ด้วย


ทำไมถึงเป็นยังงี้ :b14:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2014, 09:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b12:

สีสัน...หอมปากหอมคอ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2014, 11:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004
กรัชกายยังถามปัญหาตื้นๆซ้ำซากอยู่อย่างนี้แหละ แนะนำอย่างไรก็มองไม่ออก รู้ไม่ถึงเพราะไม่เคยปฏิบัติจริงจัง

เรื่องของผู้ฝึกใหม่ ติดในผลของสมาธิ ปีติ นิมิต ต่างๆบอกให้ไปแก้ไขที่ สติ สัมปชัญญะ ก็ไม่รู้ แก้ไม่เป็น แถมยังมากล่าวตู่ว่าผู้อื่นไม่เคยปฏิบัติอีก จนน้องคงมาเตือนสติตรงๆก็ยังไม่รู้ตัวแถมอวดเก่งต่อไปอีก

ให้เบอร์โทรให้ถามตรงๆก็ไม่กล้า แถมยังกล่าวหาลอยๆว่าอโศกะสอนจะทำให้คนบ้า แต่จริงๆแล้วกรัชกายมากกว่าที่จะทำให้คนอื่นบ้าเพราะหาประสบการณ์สอนจริงไม่มีดังที่น้องคงเปรียบเทียบให้ฟังเรื่องมานั่งเรียนกับครูที่คอยแต่ไปถามปัญหากับผู้อื่นแล้วมาตอบลูกศิษย์ แก้ปัญหาฉับพลันทันทีด้วยตัวเองไม่ได้ จนน้องคงลำคาญบอกให้ไปนั่งเรียนแทนจะสอนให้เอง

ปัญหาต่างๆของคนอื่นที่ยกมาถามใครต่อใครนั้นนะลองตอบแก้เองให้ดูสักรายซิจะได้รู้ว่าภูมิปัญญาในภาคปฏิบัติของกรัชกายมีซักแคไหน หรือมัวกลัวอายไม่กล้าตอบ แก้ปัญหาของน้องที่กรัชกายยกมาแปะถามข้างบนนี้ มาตอบให้ดูทีก็ได้ จะดูว่ากรัชกายเองมีปัญญาตอแก้ไขได้จริงๆหรือเปล่า

อ้อ ที่เป็นห่วงว่าใครมาเรียนกับอโศกะแล้วจะเป็นบ้านั้นขอให้หายห่วงได้เลยเพราะอโศกะทำหน้าที่อาจารย์ช่วยสอนและสอนเองมาสิบกว่าปีแล้วยังไม่มีศิษย์คนไหนบ้า มีแต่หายบ้าไปเป็นกัลยาณชน อริยชนกันไปเยอะแยะแล้ว

มีแต่กรัชกายนั่นแหละควรจะห่วงตนเองและศิษย์ให้มากๆ เพราะการกอดตำราก็อบตำรามาสอนนั้นมีโอกาสผิดพลาดได้เยอะจริงๆ

อาจารย์ที่ท่องตำรามาสอน กับอาจารย์ที่ทำได้จริงๆแล้วมาสอนนั้นประสิทธิภาพและรสชาดคำสอนนั้นลึกซึ้งต่างกันมากนัก
onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2014, 13:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กบอยากฟัง..อานาปานติ 16 นำมาให้ดู


"ภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติ เจริญอย่างไร ทำให้มากอย่างไร จึงจะมีผลมาก มีอานิสงส์มาก ?
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ .......
๓) สำเหนียกว่า จักเป็นผู้รู้ตลอดกายทั้งหมด หายใจออก
สำเหนียกว่า จักเป็นผู้รู้ตลอดกายทั้งหมด หายใจเข้า
๔) สำเหนียกว่า จักเป็นผู้ระงับกายสังขาร หายใจออก
สำเหนียกว่า จักเป็นผู้ระงับกายสังขาร หายใจเข้า..........
ฯลฯ...
สำเหนียกว่า จักพิจารณาเห็นความสลัดเสียได้ หายใจเข้า


กบนอกกะลา เขียน:
สำเหนียกว่า จักเป็นผู้รู้ตลอดกายทั้งหมด

อย่างไร....จึงเรียกว่า... " สำเหนียกว่า จักเป็นผู้รู้ตลอดกายทั้งหมด "....ครับ

กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้นขอรับ กบ ถามแล้ว ตอบเขาซี่ :b8:


กรัชกาย เขียน:
วางตัวอย่างภาคฝึกหัดพัฒนาไว้ด้วย

อ้างคำพูด:
เวลานั่งสมาธิไปสักพักแล้ว แก้มจะรู้สึกหน่วงๆวูบวาบๆ เหมือนอะไรมันขยับเลื่อนๆได้ บางทีก็เป็นที่ปาก ปากเราก็จะรู้สึกขยายเล็กใหญ่เหมือนคลื่น ทำให้รู้สึกเหมือนปากมันบวมๆขยายใหญ่อ่ะค่ะ บางครั้งเป็นหลายจุดบนใบหน้าในเวลาเดียวกัน เลยอยากทราบว่ามันคืออะไร แล้วเราต้องกำหนดพิจารณายังไงไหมคะ หรือปล่อยไปเลยไม่ต้องสนใจ ดูลมหายใจอย่างเดียว

อ้อแล้วบางครั้งเวลานั่งสมาธิจะเสร็จแล้ว หูมันจะเย็นๆ คือเย็นในรูหู แบบนี้คืออะไรอ่ะคะ

แล้วอย่างเวลาเราดูลมหายใจพร้อมกับท่องพุทโธๆ ไปด้วย พอไปถึงจุดนึง จะไม่รู้สึกถึงลมหายใจ คือลมมันเบามาก จนจับไม่ได้เลยตามดูลมต่อไม่ได้ กลายเป็นนั่งเงียบๆไปเฉยๆเลยอ่ะค่ะ ไปต่อไม่ถูก อย่างนี้ต้องปฏิบัติอย่างไรต่อคะ ต้องหาอะไรพิจารณาไหมคะ หรือนั่งไปเฉยๆไม่ให้จิตไปคิดอะไร

กรัชกาย เขียน:
อโศกขอรับ นี่คนไม่พูดมาก ทำเลย ถ้าเขาแก้ปัญหาขั้นสภาวะนี่ได้สิ้นสุดเมื่อไหร่ อวิชชาถูกกำจัดครับ กรัชกายนำทั้งภาคปริยัติ ปฏิบัติมาวางเทียบให้ดูแล้ว ไม่รู้จักสังเกตเอง คิกๆๆ


อ่านไปอ่านมา จับได้ว่า กรัชกาย รู้ลมในรูหู ..... :b17: :b32: :b32: :b32:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 122 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร