วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 02:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2014, 10:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว




untitled.png
untitled.png [ 499.08 KiB | เปิดดู 1802 ครั้ง ]
ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย
ได้แสดงไว้แล้ว บัญญัติไว้แล้วเพื่อประโยชน์สุขแก้ชาวโลกทั้งมวล
ชื่อว่าปริยัติธรรม ในบรรดาสัทธรรมทั้ง ๓ ประการ คือ

ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ปริยัติธรรมชื่อว่าเป็นมูลรากของศาสนา
เป็นประมาณแห่งการตั้งอยู่ของพระศาสนา เพราะว่าเมื่อปริยัติสัทธรรมยังมีอยู่
ปฏิบัติและปฏิเวธก็ย่อมเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าสิ้นปริยัติเสียแล้ว
ปฏิบัติและปฏิเวธก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้เลย

ข้อนี้อุปมาว่าเหมือนสระน้ำ เมื่อขอบสระน้ำยังมีอยู่ก็ย่อมกักขังน้ำไว้ได้
ดอกบัวก็ย่อมตั้งอยู่ได้ ถ้าหากเมื่อขอบสระนั้นถูกพังทลายไป น้ำและดอกบัว
ซึ่งไม่มีที่อาศัย ก็ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ฉันใดก็ฉันนั้นเหมือนกัน

หรืออีกอย่างหนึ่งการศึกษาปริยัติเหมือนกับการขุดสระ
เมื่อฝนตกลงมาน้ำก็ย่อมขังเก็บน้ำฝนไว้ได้ให้เต็มเหมือนกับการปฏิบัติ
เมื่อน้ำเต็มดีแล้วดอกบัวก็อาจมาบานในสระได้เข่นกัน
เมื่อสระไม่มี น้ำก็ย่อมไม่มี บัวที่ไหนจะมาบานได้ในที่ๆไม่มีสระไม่มีน้ำ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 17:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว


ปริยัติธรรม คือ การเล่าเรียนศึกษาธรรมะ ให้รู้ถึงสมมุติ บัญญัติกล่าว
คือชื่อที่เรียก สำหรับพูดให้รู้กัน เช่น โบสถ์ บริเวณโบสถ์ ต้นไม้ต่างๆ ฯลฯ
โดยเป็นชื่อที่แต่งตั้งขึ้นมาร่วมกัน ให้ทุกคนรับรู้ร่วมกันเรียกร่วมกัน
แม้บุคคลเรานี้เองก็เป็นสมมุติบัญญัติ เช่น ชื่อสำหรับเรียก ว่าคนนั้น ชื่อนั้น คนชื่อนี้
เมื่อมีสมมุติบัญญัตินี้ ทุกคนจึงต้องเรียน ไม่ว่าจากการ ฟังการเห็นด้วยตา
การจำได้หมายรู้ ซึ่งเราทุกคนก็ได้เรียนกัน มาตั้งแต่เกิดขึ้นมา พอรู้เดียงสา
พ่อแม่ก็ได้ทำการสอนให้รู้สิ่งนั้น รู้สิ่งนี้ จะเรียกสิ่งนั้น สิ่งนี้ยังไง

สำหรับคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ต้องเรียน คือเรียนให้รู้จักสมมุติบัญญัติที่เป็นภาษาธรรมะ
เช่น คำว่า จิตภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา ขันธ์ ๕ นามรูป สมถะ วิปัสสนา ฯลฯ
ฉะนั้นเวลาเราฟังธรรมะ เราจึงจะสามารถเข้าใจว่าคำที่ใช้ในธรรมะนั้นหมายถึงอะไร
และสามารถพูดคุยในเรื่องของธรรมะได้รู้เรื่อง และสามารถนำมาปฏิบัติตามได้
ดังนั้นในขั้นตอนของการปริยัติธรรมนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครมีความสามารถแสวงหาได้มาก
เท่าได้สามารถจดจำได้มากเท่าใด

ปฏิบัติธรรม คือ การนำธรรมะมาปฏิบัติ และมีจิตเพ่งพินิจอยู่ในธรรมเสมอๆ
ซึ่งเป็นการใช้เวลาที่ผ่านไปๆ ให้เป็นประโยชน์ การที่เราจะสามารถปฏิบัติธรรมได้
เราก็จะต้องมีการปริยัติธรรมมาก่อน ยิ่งเราเรียนรู้มากก็จะส่งผลต่อการปฏิบัติธรรม
ของเราไปด้วยแต่สิ่งสำคัญก็คือ เราต้องนำธรรมะที่ได้ศึกษาแล้วไปปฏิบัติด้วย
มิฉะนั้นก็จะได้เพียงแต่รู้เฉยๆ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆเลย ขั้นตอนของการปฏิบัติธรรม
ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครมีความสามารถในการปฏิบัติได้เพียงไร

ปฏิเวธธรรม คือ ผลที่ได้ตามการปฏิบัติ ก็หมายถึงการก่อให้เกิดการดับทุกข์

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2014, 12:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 10:07
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาบุญนะครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร