วันเวลาปัจจุบัน 25 ส.ค. 2025, 05:44  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 69 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2014, 00:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านการถามตอบกัน ได้ความรู้ :b8:
อุปาทานขันธ์ .... อยู่ตรงไหนใน ปฏิจสมุปบาท
เมื่อมองที่เหตุปัจจัยเป็นสายโซ่ลงมา
อยู่ที่ ชาติ
เหมือนกับเหตุปัจจัยมันลงตัวหมด จึงมีความเกิด ของ อุปาทานขันธ์

อุปาทานขันธ์ มิได้อยู่ที่ อุปาทาน หรือ ภวะ
อุปาทานในอะไร ตรงไหนเป็นที่ตั้ง สำเร็จเป็นความเกิดของอุปาทานขันธ์ ....

อุปมาก็เหมือนกับการกำเนิดของทารก ที่อาศัยปัจจัยต่างๆ พร้อมพรั่ง ทารกก็เกิดออกมา....

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2014, 07:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว




article-1361790-0D6B9F5F000005DC-40_634x531.jpg
article-1361790-0D6B9F5F000005DC-40_634x531.jpg [ 71.18 KiB | เปิดดู 2990 ครั้ง ]
อุปาทานขันธ์ แบ่งออกเป็น อุปาทาน + ขันธ์
อุปาทาน ก็อย่างหนึ่ง องค์ธรรม ของอุปาทาน ได้แก่ ตัณหาหรือโลภะ
ขันธ์ ก็อย่างหนึ่ง องค์ธรรม ของขันธ์ ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง

อุปมาเหมือนงูกำลังกินกบ ดังในภาพ
งู เปรียบได้ดัง อุปาทาน กบเปรียบได้ดัง ขันธ์

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2014, 10:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
อุปาทานขันธ์ แบ่งออกเป็น อุปาทาน + ขันธ์
อุปาทาน ก็อย่างหนึ่ง องค์ธรรม ของอุปาทาน ได้แก่ ตัณหาหรือโลภะ
ขันธ์ ก็อย่างหนึ่ง องค์ธรรม ของขันธ์ ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง

อุปมาเหมือนงูกำลังกินกบ ดังในภาพ
งู เปรียบได้ดัง อุปาทาน กบเปรียบได้ดัง ขันธ์

เมื่อ กล่าวโดยรวมทั้งหมดว่า อุปาทานขันธ์
ชาติ จึงเป็น ชาติของกลุ่มของขันธ์อันเป็นที่ยึดถือ
กล่าวคือ เมื่องูกินกบ กบถูกงูกิน
ตอนนั้น งูกับกบ ก็รวมตัวกันกลายเป็นงูกินกบ
จะไม่บอกว่า งูกินขากบ งูกินหัวกบ งูกินตากบ แต่ะจะบอกว่างูกินกบ

ถ้าจะแยกกล่าวเฉพาะส่วน ก็เพียงเพราะเห็นสภาวะธรรมชาติธรรมดาของธรรมส่วนนั้นๆ
แต่พอมาที่ชาติ ก็เหมือนกับ รวบเอาความเกิดพร้อมทุกส่วน

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2014, 11:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ที่จะหลุดพ้นจากการยึดมั่นถือมั่นได้ต้องรู้เข้าใจ ทั้งส่วนดี -ส่วนเสีย-และทางออก ของกาม ของโลก ของขันธ์ โดยเฉพาะทางออก เหมือนคนอยู่ในที่คุมขัง เห็นโทษแล้ว แต่ไม่รู้หนทางออกไปจากโทษนั้น ก็ดิ้นรนอยู่ที่ที่คุมขังนั้น


ผู้ที่จะตรัสรู้ได้นั้น ต้องเข้าใจทั้งส่วนดีหรือส่วนที่น่าชื่นชม (อัสสาทะ) ส่วนเสียหรือส่วนที่เป็นโทษ (อาทีนพ) และทางปลอดพ้น (นิสสรณะ) ของกาม ของโลก ของขันธ์ ๕ มองเห็นส่วนดีว่าเป็นส่วนดี มองเห็นส่วนเสียว่าเป็นส่วนเสีย มองเห็นทางปลอดพันว่าเป็นทางปลอดพ้น แต่ที่ละกาม หายติดใจในโลก เลิกยึดขันธ์ ๕ เสีย ก็เพราะมองเห็นทางปลอดพ้นเป็นอิสระ (นิสสรณะ) ซึ่งจะทำให้อยู่ดีมีสุขได้โดยไม่ต้องขึ้นต่อส่วนดี และส่วนเสียเหล่านั้น อีกทั้งเป็นการอยู่ดีมีสุขที่ประเสริฐกว่า ประณีตกว่า อีกด้วย (ม.มู.12/196-208/168-178 ฯลฯ)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2014, 15:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ถ้าจะแยกกล่าวเฉพาะส่วน ก็เพียงเพราะเห็นสภาวะธรรมชาติธรรมดาของธรรมส่วนนั้นๆ
แต่พอมาที่ชาติ ก็เหมือนกับ รวบเอาความเกิดพร้อมทุกส่วน


ในวงจรปฏิจจสมุปบาทยกมาในส่วนที่นำมาคุยกัน
(ตัณหา อุปาทาน ภวะ ชาติ ชรา มรณะ)
เมื่อตัณหามี อุปาทาน ก็ย่อมเกิดขึ้น
ภวะ หรือ ภพ ก็ย่อมเกิดขึ้น เมื่อภพมี การเกิดขึ้นของ ชาติ ก็ย่อมมี
เมื่อชาติมี ชรามรณะก็ย่อมมี

จะว่า อุปาทาน แล้วไป ชาติ เลยไม่ได้
เพราะการเกิดจะต้องมี ภวะ หรือ ภพ ก่อน
ฉะนั้น ชาติ คือ การเกิด ในเมื่อไม่มี ภพ เป็นสถานที่ให้เกิด ชาติ ก็มีขึ้นไม่ได้
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ควรแล้ว

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2014, 15:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
อ้างคำพูด:
ถ้าจะแยกกล่าวเฉพาะส่วน ก็เพียงเพราะเห็นสภาวะธรรมชาติธรรมดาของธรรมส่วนนั้นๆ
แต่พอมาที่ชาติ ก็เหมือนกับ รวบเอาความเกิดพร้อมทุกส่วน


ในวงจรปฏิจจสมุปบาทยกมาในส่วนที่นำมาคุยกัน
(ตัณหา อุปาทาน ภวะ ชาติ ชรา มรณะ)
เมื่อตัณหามี อุปาทาน ก็ย่อมเกิดขึ้น
ภวะ หรือ ภพ ก็ย่อมเกิดขึ้น เมื่อภพมี การเกิดขึ้นของ ชาติ ก็ย่อมมี
เมื่อชาติมี ชรามรณะก็ย่อมมี

จะว่า อุปาทาน แล้วไป ชาติ เลยไม่ได้
เพราะการเกิดจะต้องมี ภวะ หรือ ภพ ก่อน
ฉะนั้น ชาติ คือ การเกิด ในเมื่อไม่มี ภพ เป็นสถานที่ให้เกิด ชาติ ก็มีขึ้นไม่ได้
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ควรแล้ว


ไม่ได้บอกว่า อุปาทาน แล้วไปชาติ ครับ
บอกว่า อุปาทานขันธ์
ชาติ ของอุปาทานขันธ์
อุปาทานขันธ์ เกิด

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2014, 16:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
อ้างคำพูด:
ถ้าจะแยกกล่าวเฉพาะส่วน ก็เพียงเพราะเห็นสภาวะธรรมชาติธรรมดาของธรรมส่วนนั้นๆ
แต่พอมาที่ชาติ ก็เหมือนกับ รวบเอาความเกิดพร้อมทุกส่วน


ในวงจรปฏิจจสมุปบาทยกมาในส่วนที่นำมาคุยกัน
(ตัณหา อุปาทาน ภวะ ชาติ ชรา มรณะ)
เมื่อตัณหามี อุปาทาน ก็ย่อมเกิดขึ้น
ภวะ หรือ ภพ ก็ย่อมเกิดขึ้น เมื่อภพมี การเกิดขึ้นของ ชาติ ก็ย่อมมี
เมื่อชาติมี ชรามรณะก็ย่อมมี

จะว่า อุปาทาน แล้วไป ชาติ เลยไม่ได้
เพราะการเกิดจะต้องมี ภวะ หรือ ภพ ก่อน
ฉะนั้น ชาติ คือ การเกิด ในเมื่อไม่มี ภพ เป็นสถานที่ให้เกิด ชาติ ก็มีขึ้นไม่ได้
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ควรแล้ว


ไม่ได้บอกว่า อุปาทาน แล้วไปชาติ ครับ
บอกว่า อุปาทานขันธ์
ชาติ ของอุปาทานขันธ์
อุปาทานขันธ์ เกิด



เอางี้ก่อนดีไหม บอกความหมาย

ภพ

ชาติ

ชรามรณะ

อุปาทาน

ขันธ์

เอาชัดๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2014, 16:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เอางี้ก่อนดีไหม บอกความหมาย

ภพ

ชาติ

ชรามรณะ

อุปาทาน

ขันธ์

เอาชัดๆ

เอิ๊กๆๆ กรัชกาย บรรลุธรรมด้วยการท่องศัพท์จริงๆ

เคยทำวัตรเช้าไหม
เคยอ่านบท สังเวคปริกิตตนปาฐะ ไหม

กล่าวโดยย่อ อุปาทานขันธ์ 5 เป็นทุกข์
อะไร เกิด ทุกข์เกิด
อุปาทานขันธ์ เกิด

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2014, 16:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
สังเวคปริกิตตนปาฐะ

อิธะ ตะถาคะโต โลเก อุปปันโน
พระตถาคตเจ้าเกิดขึ้นแล้ว ในโลกนี้ ;
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
เป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ;
ธัมโม จะ เทสิโต นิยยานิโก,
และพระธรรมที่ทรงแสดง เป็นธรรมเครื่องออกจากทุกข์ ;
อุปะสะมิโก ปะรินิพพานิโก,
เป็นเครื่องสงบกิเลส, เป็นไปเพื่อปรินิพพาน ;
สัมโพธะคามี สุคะตัปปะเวทิโต ;
เป็นไปเพื่อความรู้พร้อม, เป็น ธรรมที่พระสุคตประกาศ ;
มะยันตัง ธัมมัง สุตวา เอวัง ชานามะ : -
พวกเราเมื่อได้ฟังธรรมนั้นแล้ว, จึงได้รู้อย่างนี้ว่า : -
ชาติปิ ทุกขา, แม้ความเกิดก็เป็นทุกข์ ;
ชะราปิ ทุกขา, แม้ความแก่ก็เป็นทุกข์ ;
มะระณัมปิ ทุกขัง, แม้ความตายก็เป็นทุกข์ ;
โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาปิ ทุกขา,
แม้ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ก็เป็นทุกข์ ;
อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข
ความประสบกับสิ่งไม่เป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์ ;
ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข,
ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์ ;
ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง,
มีความปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์ ;
สังขิตเตนะ ปัญจุปาทานักขันธา ทุกขา,
ว่าโดยย่อ อุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ เป็นตัวทุกข์ ;
เสยยะถีทัง,
ได้แก่สิ่งเหล่านี้ คือ :-
รูปูปาทานักขันโธ,
ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือรูป ;
เวทะนูปาทานักขันโธ,
ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือเวทนา ;
สัญญูปาทานักขันโธ,
ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือสัญญา ;
สังขารูปาทานักขันโธ,
ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือสังขาร ;
วิญญาณูปาทานักขันโธ,
ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือวิญญาณ ;
เยสัง ปะริญญายะ,
เพื่อให้สาวกกำหนดรอบรู้อุปาทานขันธ์ เหล่านี้ เอง,
ธะระมาโน โส ภะคะวา,
จึงพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เมื่อยังทรงพระชนม์อยู่,
เอวัง พะหุลัง สาวะเก วิเนติ,
ย่อมทรงแนะนำสาวกทั้งหลาย เช่นนี้เป็นส่วนมาก ;
เอวังภาคา จะ ปะนัสสะ ภะคะวะโต สาวะเกสุ อะนุสาสะนี พะหุลา ปะวัตติตะติ,
อนึ่ง คำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น, ย่อมเป็นไปในสาวกทั้งหลาย, ส่วนมาก, มีส่วนคือการจำแนกอย่างนี้ว่า :-
รูปัง อะนิจจัง, รูปไม่เที่ยง
เวทะนา อะนิจจา, เวทนาไม่เที่ยง
สัญญา อะนิจจา, สัญญาไม่เที่ยง
สังขารา อะนิจจา, สังขารไม่เที่ยง
วิญญาณัง อะนิจจัง, วิญญาณไม่เที่ยง
รูปัง อะนัตตา, รูปไม่ใช่ตัวตน
เวทะนา อะนัตตา, เวทนาไม่ใช่ตัวตน
สัญญาอะนัตตา, สัญญาไม่ใช่ตัวตน
สังขาราอะนัตตา, สังขารไม่ใช่ตัวตน
วิญญาณัง อะนัตตา, วิญญาณไม่ใช่ตัวตน
สัพเพ สังขารา อะนิจจา,
สังขารทั้งหลายทั้งปวง ไม่เที่ยง
สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ
ธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไม่ใช่ตัวตน ดังนี้.
เต (ตา) มะยัง โอติณณามหะ,
พวกเราทั้งหลาย เป็นผู้ถูกครอบงำแล้ว ; ชาติยา,โดยความเกิด;
ชะรามะระเณนะ, โดยความแก่และความตาย ;
โสเกหิ ปะริเทเวหิ ทุกเขหิ โทมะนัสเสหิ อุปยาเสหิ, โดยความโศก ความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ทั้งหลาย ;
ทุกโขติณณา, เป็นผู้ถูกความทุกข์ หยั่งเอาแล้ว ;
ทุกขะปะเรตา, เป็นผู้มีความทุกข์ เป็นเบื้องหน้าแล้ว ;
อัปเปวะนามิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขันขันธัสสะ อันตะกิริยา ปัญญาเยถาติ.
ทำไฉน การทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ . จะพึ่งปรากฏชัด แก่เราได้.


เอาไปนอนกอดให้ฝันดีนะครับกรัชกาย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2014, 16:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เอางี้ก่อนดีไหม บอกความหมาย

ภพ

ชาติ

ชรามรณะ

อุปาทาน

ขันธ์

เอาชัดๆ

เอิ๊กๆๆ กรัชกาย บรรลุธรรมด้วยการท่องศัพท์จริงๆ

เคยทำวัตรเช้าไหม
เคยอ่านบท สังเวคปริกิตตนปาฐะ ไหม

กล่าวโดยย่อ อุปาทานขันธ์ 5 เป็นทุกข์
อะไร เกิด ทุกข์เกิด
อุปาทานขันธ์ เกิด


ตัวเองยังไม่รู้เลยว่าพูดถึงอะไร ถึงว่าไงว่า เป็นลักษณะธรรมะตีหวย ธรรมะจับลม ธรรมะจับปอบ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2014, 16:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เอางี้ก่อนดีไหม บอกความหมาย

ภพ

ชาติ

ชรามรณะ

อุปาทาน

ขันธ์

เอาชัดๆ

เอิ๊กๆๆ กรัชกาย บรรลุธรรมด้วยการท่องศัพท์จริงๆ

เคยทำวัตรเช้าไหม
เคยอ่านบท สังเวคปริกิตตนปาฐะ ไหม

กล่าวโดยย่อ อุปาทานขันธ์ 5 เป็นทุกข์
อะไร เกิด ทุกข์เกิด
อุปาทานขันธ์ เกิด


ตัวเองยังไม่รู้เลยว่าพูดถึงอะไร ถึงว่าไงว่า เป็นลักษณะธรรมะตีหวย ธรรมะจับลม ธรรมะจับปอบ

เอิ๊กๆๆ
กรัชกาย พูดอะไรไว้ข้างบนน่ะ
ลักษณะตีหวย ....... แล้วมาถามทำไม ว่าคำนู้นคำนี้ ให้บอกความหมาย

กรัชกายท่องศัพท์ ท่องคำแปล แต่ไม่เข้าถึงเนื้อหา ก็เยี่ยงนี้แล

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2014, 16:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เอางี้ก่อนดีไหม บอกความหมาย

ภพ

ชาติ

ชรามรณะ

อุปาทาน

ขันธ์

เอาชัดๆ

เอิ๊กๆๆ กรัชกาย บรรลุธรรมด้วยการท่องศัพท์จริงๆ

เคยทำวัตรเช้าไหม
เคยอ่านบท สังเวคปริกิตตนปาฐะ ไหม

กล่าวโดยย่อ อุปาทานขันธ์ 5 เป็นทุกข์
อะไร เกิด ทุกข์เกิด
อุปาทานขันธ์ เกิด


ตัวเองยังไม่รู้เลยว่าพูดถึงอะไร ถึงว่าไงว่า เป็นลักษณะธรรมะตีหวย ธรรมะจับลม ธรรมะจับปอบ

เอิ๊กๆๆ
กรัชกาย พูดอะไรไว้ข้างบนน่ะ
ลักษณะตีหวย ....... แล้วมาถามทำไม ว่าคำนู้นคำนี้ ให้บอกความหมาย

กรัชกายท่องศัพท์ ท่องคำแปล แต่ไม่เข้าถึงเนื้อหา ก็เยี่ยงนี้แล



เช่นนั้น อุปมาเหมือนคนเดินทางร้อนแดดมา แล้วเข้าพักใต้ร่มไม้ พอลมพัดมา ก็อู้เย็นๆ ธรรมะ สาธุ นี่คือลักษณะการเข้าใจธรรมของเช่นนั้น ซึ่งอ่านบททำวัตรสวดมนต์เป็นต้น อ่านคำแปลแล้วซาบซึ้งใจ สาธุๆๆ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2014, 16:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น อุปมาเหมือนคนเดินทางร้อนแดดมา แล้วเข้าพักใต้ร่มไม้ พอลมพัดมา ก็อู้เย็นๆ ธรรมะ สาธุ นี่คือลักษณะการเข้าใจธรรมของเช่นนั้น ซึ่งอ่านบททำวัตรสวดมนต์เป็นต้น อ่านคำแปลแล้วซาบซึ้งใจ สาธุๆๆ :b1:

หากแม้อ่านบทสวดมนต์แล้วซาบซึ้งใจ ดั่งได้ลมพัดต้องกายให้คลายร้อนได้ ก็ยังดีกว่า
เจอ กรัชกายที่เอาน้ำมันสาดเข้ากองเพลิง สาธุๆๆ :b32: :b32: :b32:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2014, 16:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1385612441-o.gif
1385612441-o.gif [ 295.34 KiB | เปิดดู 2915 ครั้ง ]
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น อุปมาเหมือนคนเดินทางร้อนแดดมา แล้วเข้าพักใต้ร่มไม้ พอลมพัดมา ก็อู้เย็นๆ ธรรมะ สาธุ นี่คือลักษณะการเข้าใจธรรมของเช่นนั้น ซึ่งอ่านบททำวัตรสวดมนต์เป็นต้น อ่านคำแปลแล้วซาบซึ้งใจ สาธุๆๆ :b1:

หากแม้อ่านบทสวดมนต์แล้วซาบซึ้งใจ ดั่งได้ลมพัดต้องกายให้คลายร้อนได้ ก็ยังดีกว่า
เจอ กรัชกายที่เอาน้ำมันสาดเข้ากองเพลิง สาธุๆๆ :b32: :b32: :b32:



คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2014, 16:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


wink wink

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 69 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron