วันเวลาปัจจุบัน 02 พ.ค. 2025, 17:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2014, 18:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.ค. 2013, 21:44
โพสต์: 173

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอกราบสวัสดีงามๆ แบบเบญจคประดิษฐ์งามๆนะคะ พอดีอิฉันก็อยากจะมีสาระกับเค้าบ้างค่ะ ตอนนี้แอดมินออรอร่า มีประสบการณ์ที่ใครบางคนเป็นหรือไม่ได้เป็น ถ้าไม่เป็นก็ป้องกันได้ แต่ถ้าเป็นก็lisenนะ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับชีวิตแอดมินเองค่ะ อิอิ ในที่สุดเอาเรื่องตัวเองมาแฉซะที จากการเเฉคนอื่นมา once upon time นะค่ะ

โรคเครียด ภัยเงียบที่แฝงไปด้วยความร้าย
ก่อนอื่นแอดมินจะเริ่มเล่าคร่าวๆ แรกๆแอดมินก็ไม่เข้าใจหรอก จนกระทั้งมาเป็นเอง แรกๆเหตุเกิดจากหม่อมแม่
ของอิฉันมาเป็น แม่อิฉันมีความเครียดจากการทำงาน เลี้ยงลูก แต่มีเหตุการณ์ที่เครียดมากคือแม่ของแม่อิฉัน
เสียชีวิตไป กินไม่ได้ นอนแทบไม่หลับ จนอยู่ๆอาการที่สะสมมานานบวกกับไม่ดูแลรักษาเกิดขึ้น แม่อิฉันมีอาการหายใจติดขัด ปวดๆมึนๆ เพลีย และมีอาการกลัวการนอนหลับ มันทรมานนะค่ะ คนไม่เป็นไม่มีทางเข้าใจ
มันบ่ใช่ มันบ่ใช่ อะเฮื้ออออ _*_
จากนั้นก็ไปหารพ.แทบบ่อยๆจนกลายเป็นงานอดิเรกไปเลยทีเดียว ถ้าเป็นหนักๆแทบวิ่งไป
หมอตรวจพบก็ไม่เจอ บอกกรดไหลย้อนบ้าง แพ้Wifiบ้าง (โรคประหลาดรัยฟ่ะ) หนู๋สงสารแม่ก็พยายามเชื่อหมอ
ก็ได้เห็นแกเก่งดี ทั้งๆที่ตัวเองจบหมอมา (พอมานึกออกว่าเราต้องรักษาสิ่งที่เรียนมาดิ อิโง่ ปล่อยแม่แกเป็นแบบ
นี้อีกแหละ อิควายยย /ด่าตัวเองค่ะ)

แม่หนู๋เป็นแบบนี้มาเกือบปี หนู๋เลยพาไปรักษาบำบัดสมุนไพร และก็บำบัดฟังธรรมะทุกๆวัน ซื้อเครื่องเล่นเอาไปเปิดห้องนอน สวดมนต์ นั่งสมาธิ พอกินยา แม่ดีขึ้นมาก หายจากโรคเลย เพราะงั้นโรคทุกอย่างมันหายจากการบำบัดธรรมชาติค่ะ มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตามที่พระพุทธเจ้าเคยบอกไว้ เพราะงั้นโรคทุกๆอย่าง มันเกิด มันก็ต้องหายไปเช่นกัน ยกเว้นแต่จะเป็นมากน้อย ขึ้นอยู่กับการรักษาให้ถูกจุดค่ะ :b18: :b28:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2014, 18:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.ค. 2013, 21:44
โพสต์: 173

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้แอดมินกำลังเป็นโรคนี้แหละค่ะ ทางการแพทย์เรียกว่าโรคแพกนิค
ต้องให้ยา หรือบางคนมีอาการกับสถานที่เดิมๆแล้วมีอาการหน้ามืดเป็นลม วูบๆ ไม่กล้าออกไปไหน
บางทีวิ่งไปรพ.แทบไม่ทัน หมอตรวจก็พบว่าไม่มีอะไร บางคนไปหาจิตแพทย์ รักษาบางคนหาย บางคนไม่หาย


ของอิฉันเข้าใจในจุดที่แม่ยืนอยู่เลยค่ะ ฉันสูญเสียยาย เครียดเรื่องเรียน งาน อกหัก ลาออกจากงาน
สภาพคนเราเหมือนกับเครื่องจักรค่ะ ไม่ดูแลมัน สักวันจะเสีย ที่นี้จะทำงานก็ร่วนไปหมด

แต่อันนี้แค่มีแต่ความไม่สบายใจค่ะ คนที่ไม่เป็นก็ป้องกันได้(ท้ายรายการจะบอกนะ) ส่วนที่เป็น
ทำใจให้สบายเพราะ มันหายค่ะ ^_^ ของอิฉันรู้สึกว่ามันจะเป็นช่วงที่เจอคนเยอะๆนั่งในตึก วูบๆเวียนหัว
ต้องนั่งรถกลับบ้านทันที 5555 ร้องไห้นะ แต่ต้องสู้ หาวิธีปราบมันให้ได้ เพราะอาการแบบนี้
มันไม่อยู่กับเราตลอดไปหรอกค่ะ อะไรที่เกิดครั้งแรก มันไม่มีทางชินค่ะ มันย่อมสร้างความตกใจถึงขีดสุดเพราะ
เราไม่เคยเป็นไง เช่นปวดหัวตัวร้อน ไม่สบาย ทำไมคุณไม่ตกใจละ เพราะคุณเป็นมาตั้งแต่เด็กๆไงค่ะเก๊ทป่ะ55 :b3: :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2014, 18:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.ค. 2013, 21:44
โพสต์: 173

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อันนี้มันเกี่ยวกับระบบประสาทและหัวใจ มันต้องทำให้ทุกอย่างเข้าสู่ปกติ อันนี้จะไม่พูดถึงการแพทย์
คุณไปเสริทหาได้นะ โรคแพคนิก เดียวอ่านแล้วจะเครียดป่าวๆ5555 จริงๆ

เพราะพวกนี้สามารถรักษาอาการนี้ได้
เคยสักเกตุไหมว่าวิตามินบี ช่วยเกี่ยวกับความเครียดและระบบประสาท ให้มันดี เพราะระบบประสาทเวลาเรา
มีความวิตกกังวลขีดสุด จะเป็นโรคประสาทที่กลัวทุกอย่าง กลัวการนอนหลับ กลัวรู กลัวไม่ตื่น กลัวตาย
กลัวเป็นลม โอยยยกลัวเมร่งหมด บางคนกลัวเงาะ เออดี เพราะมันจะมีสมองส่วนหนึ่งที่ทำงานผิดปกติ
คือพวกนี้มันเกิดได้หลายอย่าง เด่นๆนะ.
1.เครียด
2.โรคปวดกล้ามเนื้อ
3.พวกความดันต่ำ
4.เลือดจาง
ชะเอมก็อยู่ในหมวดหมู่ของยาหอม เวลากินอ่านตัวยาสำคัญก็ดีนะครัช
พวกพิกัดเกสร, โกฎเชียง, ชะเอม อื่นๆ อยู่ในหมวดหมู่เป็นตัวยาประกอบรักษาอาการพวก วิงเวียน หน้ามืด
อ่อนเพลียระเหี่ยใจ (ที่บอกไงว่าประสาทกับสมอง) หรือแม้กระทั้งเป็นไข้ ร้อนใน พวกนี้ก็อยู่ในตัวยา
การรักษาพวกนี้ไปหาหมอไม่เจอนะ ทางการแพทย์ไทย บอกว่าเกี่ยวกับ พวกลม ระบบประสาทหัวใจ
มันรักษาละเอียดไปจนถึงกองลม เคยเป็นโรคไมเกรน กระเพาะ ปวดประจำเดือน อยากจะบอกว่าหายแล้วนะ
เพราะรักษาวิธีบำบัดสมุนไพร เค้ารักษาอาการที่ต้นเหตุ
ไปหาหมอ หมอให้ยาก็แค่ปลายเหตุถึงเป็นๆหายๆไม่หายไง

ดีขึ้นนะ เพราะแอดมินเชื่อมั่นว่าจะต้องหาย ถึงแม้จะร้องไห้ช่วงแรกๆก็เถอะ
และก็สวดมนต์ นั่งสมาธิ ช่วยได้นะ มากกกกกกกกกก
เพราะอะไรมันเป็นตัวกุศลเผลอๆอาจเป็นโรคเวรโรคกรรม โปรดใช้วิจารณญาณอันนี้

และก็จะทำให้รักษาร่างกายได้เร็วขึ้น
ตอนนี้อาการแม่แอดมินหาย ไทรอยก็หาย และแผลที่ติดเชื้อราที่เท้าต้องทาทุกๆเดือนตอนนี้ไม่ทาแล้ว
ตอนนี้แข็งแรงกว่าแอดมินอีก พ่อกับแม่แอดมินตอนนี้เหมือนคนอายุ20 ในขณะที่แอดมินอายุ80


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2014, 18:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.ค. 2013, 21:44
โพสต์: 173

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วิธีรักษาถ้ารู้ว่าเริ่มเป็นนะ ทุกๆอย่างเริ่มจาก อาหาร อาหารเป็นมูลเหตุเกิดโรค
คนที่เป็นลมบ่อยๆ มึนๆวูบๆ หัดกินอะไรที่ขับลมหน่อยนะครัช เช่นยาหอม ยาทิพโอสถ

จากแพทย์จีน กินพวกสมุนไพรอะไรแอดมินจำไม่ได้
เดี๊ยวถ้านึกออกจะบอกนะ แอดมินสมองตอนนี้มันไม่ทำงาน 5555
พูดรัยฟ่ะลืม เออ ๆๆ. 1.วิตามินบี อยู่ในจำพวกอะไร ไปเสริทนะครัช
2.คนที่เป็นคนเผาผลาญดี ธาตุไฟ แนะนำนะครัช อย่ากินอะไรที่รัอนๆเช่น ปวดหัวเป็นหวัด.
กินน้ำขิง ไม่ได้นะครัช จะกำเริบ ดูปากนัชชาดีๆนะค่ะ กำเริบ อีกทีนะค่ะ กำเริบ. กินพวกรส.
เย็นๆ เช่นใบเตย , ดอกคำฝอย, หรือพวกพิกัดเกสร,พวกยาหอมก็ได้นะ แล้วจำตัวยาไว้นะ
3.ชะเอม พวกหมอจีนใช้รักษาแล้วหายลองไปกินดู
4.พวกอาหารหัดกิน ขิง ข่าตระไคร้ พวกต้มยำ แกงขี้เหล็ก ถ้าไม่อยากกินเพรียวๆเข้าใจๆๆ
5. สวดมนต์ นั่งสมาธิ ถ้ารู้ว่ามันเป็น หาอะไรทำ อย่าให้ใจว่าง เช่นอาการกำเริบ
หารัยทำ คุยกับเพื่อน หรือสวดมนต์ ท่องพระอภิธรรมก็ได้ เพราะมันใช้ความคิด และลืมใน
สิ่งที่อาการเป็น แรกๆถ้าออกไปข้างนอกแล้วเป็นนะ ฝึกสตินะ แล้วก็ออกจากสถานที่นั้น
กลับไปรักษาตัว หาอะไรทำก็ไดั และค่อยมาอ่านข้อ1,2,3,4 ทำตามดู

:b18: อันนี้แล้วแต่นะ ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ แต่แม่แอดมินหายแล้ว แล้วแอดมินก็ดีขึ้นมากเลย ก็เป็นนิดหน่อย
แต่กำหนดอานาปาณสติเอา คืออันนี้เป็นอาการที่ซับซ้อนมันจะหายของมันเอง ต้องใช้เวลานาน
พอสมควรเลย แต่ดูแลตัวเองดีๆ หายเร็ว้วแน่นอน :b18:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2014, 12:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.ค. 2013, 21:44
โพสต์: 173

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนเราถ้าจิตว่าง ความเศร้าหมองจะมารบกวน
เพราะ ฉะนั้น ควรหาอะไรทำ ให้ เกิด สภาวะจิตไม่ว่าง ไม่ว่า จะเป็นการทำอะไรเพื่อ
สังคม หรือ ส่วนรวม หรือ หากีฬา หนังสือธรรมะ หรือจะ เล่น weight ให้ หุ่นดีกันไปเลย
หรือจะหาจุดมุ่งหมายอะไรเล๊กๆที่ทำได้ และ สนุก ทำไปจนทำให้จิตเบิกบานทุกๆ วัน

อย่าทำจิตให้ว่าง ทำจิตให้มีอะไรทำอยู่เสมอJANUARY 12, 2014 SOMCHAI
LEAVE A COMMENT


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2014, 13:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.ค. 2013, 21:44
โพสต์: 173

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ภัยเงียบจากแหล่งที่มาของซึมเศร้า
มันเกิดขึ้นได้ทุกๆ คนค่ะ แต่สภาวะพวกนี้เริ่มมาจากการสะสมลัวนๆ
บางคนมาจากภาวะเครียด เช่น สูญเสียอะไรมาหนักๆ แตกร้าวจากครอบครัว
โดนข่มขื่นเก็บตัวจากคนรอบข้าง มีปมแต่เด็ก ไม่มีใครอยากจะเป็นเเบบนั้นหรอกค่ะ
แต่เราสามารถเลือกที่จะเป็นในทางที่ดีได้ง่ายๆ นะคะ

1. ต้องพยายามให้อภัยตัวเอง และยอมรับกับสิ่งที่เป็นว่ายังมีใครอีกหลายคนแย่
และสาหัสกว่าเรามาก

2. พยายามอ่านหนังสือที่มีแรงบันดาลใจ หรือทำเพื่อให้ชีวิตตัวเองมีเป้าหมาย
เพราะการทำเพื่อใครสักคน และมีเป้าหมาย ใจมันจะมีพลังมาก

3. พยายามเข้าหาธรรมะ สวดมนต์ ตักบาตร ช่วยเหลือสังคม
ถ้าไม่มีเวลาก็ช่วงวันพระ หรือปลีกเวลาให้สมองกับหัวใจทำงานน้อยลงนะค่ะ
ไปสวนสาธารณะ

4. ออกกำลังกาย วิธีทึ่แก้โรคได้การันตีนะค่ะ โยค่ะ หรือท่าบริหาร ฤาษีดัดตน

5. ถ้าที่บ้านใครพอมีร้านสมุนไพร แนะนำ ซื้อลูกประคบก็ดีนะค่ะ
พวกนี้เราปวดอะไร เส้นยึดพลิก สมุนไพรนานาชนิดจะซึมไปที่เส้นเอ็น
และปรับทางเดินเลือดและลมให้สมดุล ของแอดมินใช้ซึ้ง ที่เป็นที่นึ่ง
อุ่นซาลาเปา พูดแล้วอยากกินไส้ถั่วดำ เห้อออออ

6. พยายามพูดคุยหรือทำอะไรที่จิตเบิกบานมีความสุขนะค่ะ
เพราะพวกนี้จะหลั่งสารเอ็นโดฟิน
ช่วยให้สดชื่น มีความสุข เบิกบานใจ

7. พยายามทำให้ชีวิตอยู่กลางๆก็ดีนะค่ะ ถ้ามีความสุขอย่าสุขเกินไป
ทุกข์ก็อย่าทุกข์ให้นานนัก อาจารย์อายุเวชบอกไว้ เคยสังเกตคนที่ชีวิตเพอร์เฟคไหม
เด็กๆที่อิ่มไปด้วยความสุข หรือคนที่สุข ในเรื่องของการแย่งชิง เป็นที่ 1
คือแพ้ไม่เป็น พวกนี้พอผิดหวัง ใจมันวางไม่ได้
จนในที่สุดฆ่าตัวตาย นั้นแหละค่ะ ฉะนี้แล
หรือทุกข์จนปล่อยวางไม่ได้ พอเส้นมันขาดสมองมันดับนะค่ะ
บางคนถ้ามีโรคประจำตัวอยู่ ทรุดเลยค่ะ แต่บางคนปกติก็ยิงฆ่าตัวตาย
แต่ถ้าบางคนมีพื้นฐานจากธรรมะ เอาธรรมะบำบัด เค้าจะปลงได้มากขึ้นว่า
ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน วันนี้รวย พรุ่งนี้จน วันนี้เค้ารักเรา
พรุ่งนี้เค้ารักคนอื่น โลกเปลี่ยนแปลงทุกๆวินาที นับประสาอะไรกับใจคน
หรือถ้าหนักๆ ใช้จิตวิทยา เชื่อว่าการฆ่าตัวตายเป็นบาป จะมีทุกคติเป็นที่ตั้ง

8. การให้กำลังใจผู้อื่นเป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ เพราะบางประโยคเปลี่ยนชีวิตคนได้
และบางประโยคก็ทำร้ายใจคนได้เช่นกัน


onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2014, 14:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.ค. 2013, 21:44
โพสต์: 173

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การรักษาแพนิคด้วยแพทแผนจีนเป็นวิธีธรรมชาติที่สุด และ ได้ผลดีที่สุด

โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นใหม่ๆ นั้น หายง่ายกว่า ผู้ป่วยที่กินยาแพทแผนปัจจุบันแล้วค่อยมาเริ่มรักษาแบบแพทแผนจีน สาเหตุเพราะ ยาหลวงมักจะใช้วิธีการระงับ เซล สมองส่วนที่คิดมาก ทำให้ เซลสมองตายมาเป็นเวลานาน ยาจีนจึงจะต้องใช้เวลาบำรุงให้ กลับมาสภาพเดิม

การรักษาแบบแผนจีนคือการรักษาที่ถูกต้องและยั่งยื่นที่สุด เพราะไม่ใช้เป็นการระงับหรือ block อาการ เท่านั้น เป็นการบำรุงให้ไตหยินและหยาง หรือ ต้อมหมวกไต (ในศัพแพทหลวง) นั้นมีกำลังในการต่อสู้กับสภาวะเครียดทั้งปวงได้ถาวร

อาการต้อมหมวกไตอ่อนล้า หรือ ไต(ศัพแพทจีน) นั้น เป็นอาการหลักของผู้ป่วยโรคแพนิค เพราะ อวัยวะส่วนนี้ได้รับ ผลกระทบ ทำให้เสื่อมอย่างมากจากอาการ เครียด โดย สภาพแวดล้อม และ สิ่งที่เราทั้งหลายกินเข้าไป

มีโรงพยาบาล แพท แผนจีนในปัจจุบันเกิดขึ้นจำนวนมาก เพราะ มีผู้ป่วยที่ไม่มีทางรักษาได้จาก แพทแผนปัจจุบันเปลี่ยนมา รักษาด้วยธรรมชาติมากขึ้น และ หายได้ในที่สุด

ตัวอย่างโรงบาลแพทจีนเช่น โรงพยาบาลหัวเฉี๋ยว http://www.huachiewtcm.com ( แต่ยาโรงพยาบาลไม่ดีเท่าไหร่ เพราะ รีบๆต้ม ยาจืดมาก ควรเอาไปต้มเองหรือ ไปแถว ยาวราชก็ได้ ขอใบยาของหมอไป ) หรือ จะลอง ค้นหาโรงพยาบาลอื่นใกล้บ้านจากใน google โดยใช่คำว่า โรงพยาบาลแพทแผนจีนดู

นับเป็นการรักษาที่ดีมากโดยใช้ยาสมุนไพร และ การ ฝั่งเข๊ม ( ไม่เจ๊บเท่าไหร่ ) เพราะ เข็มเล็กมาก และ ฝั่งไม่ลึกมาก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2014, 14:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.ค. 2013, 21:44
โพสต์: 173

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สมุนไพรที่พบอยู่บ่อยในการรักษาโรคแพนิคและวิตกังวลคือเจ้าตัว ชะเอมเทศ นอกจากจะเพิ่มพลังให้ผู้ป่วยสดใสแข็งแรง และ นอนดีแล้ว ยังทำให้ระบบ ไหลเวียนของเลือดลม วิ่งสะดวก ทำให้ผู้กิน สดใส และ ต้าน ซึมเศร้าไปด้วยในตัว หมอจีนส่วนมากให้ตัวนี้เข้ามาด้วยตลอดไม่ว่า ผู้ป่วยเป็นอะไรมา เพราะ มันเป็น adaptogen คือ สิ่งที่สามารถปรับสมดุลในร่างกายให้คงที่ และ ต้าน สภาวะเครียดจากภายนอก ได้ทั้งจิตใจและ ร่างกาย ไม่ว่าร่างกาย หรือ อวัยะวะ เสียสมดุลขนาดไหน เจ้า ชะเอมเทศจะปรับสมดุลให้เข้าที่ ได้ ผู้ป่วยกินยาจีนไปประมาน สองอาทิตย์ก็จะรู้สึกดีขึ้นอย่างตาเห็น

Kiss Kiss Kiss คนที่รับการรักษาแผนปัจจุบัน กว่าจะหายเป็นปี
หรือเป็นๆ หายๆ คือมันไปบล๊อกอาการ
แต่ไม่ได้เข้าไปปรับให้ร่างกายสมดุล ลองดูนะค่ะ
เพราะว่าแอดมินใช้วิธีซื้อวิตามิน B กินส่วนผสมหมวดหมู่ชะเอมเทศ
นมเลือก ดีน่าที่มีส่วนผสมของงา
เพราะเวลามันสดชื่นสมองสั่งการมองโลกในแง่ดีและสงบมากกกกก :b18:

ถ้าเราคิดว่ามันจะหายและรักษาถูกวิธี ไม่ถึงเดือนหาย

บางคน ก็รักษาโดยการกินโสม เจียวกู่หลาน ชะเอมเทศ พวกสารสกัดเชอรรี่ เปลือกสนองุ่น ลองไปหามาทาน
แต่ถ้าจะต้มยาจีนต้องไปหาหมอนะค่ะ หมอที่เยาวราชก็ได้กำหนดสัดส่วน อย่าซื้อมากินเองถ้าไม่มีฉลากบอกว่ากินยังไง
หรือถามคนขายว่ากินในสัดส่วนเท่าไร กินเวลาไหน ก่อนหรือหลังอาหาร อะไรที่มากเกินไปก็มีโทษค่ะ :b28:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2014, 18:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


:b27: ขอบคุณค่ะ

กระทู้นี้จะเอาฮา หรือจะเอาสาระ มีครบนะคะ
แหม๋ ...ไม่อ่านไม่ได้เลยค่ะกระทู้นี้ :b12:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2014, 20:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.ค. 2013, 21:44
โพสต์: 173

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


SOAMUSA เขียน:
:b27: ขอบคุณค่ะ

กระทู้นี้จะเอาฮา หรือจะเอาสาระ มีครบนะคะ
แหม๋ ...ไม่อ่านไม่ได้เลยค่ะกระทู้นี้ :b12:


แอดมินออรอร่า เริ่มไม่แน่ใจอ่ะค่ะ บางทีเหมือนจะมีสาระนะ
:b31: :b31: คุณโสมก็พูดไปอิฉันอายจนตัวเกร็งตะคริวขึ้นหน้าไปหมดแหละ


:b13: :b13: :b31:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2015, 13:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.ค. 2013, 21:44
โพสต์: 173

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วันนี้ว่างๆสบายๆ เลยมาถล่มกระทู้สักหน่อย55555

ช่วงนี้กายและใจเบิกบานกว่าแต่ก่อนเยอะ หากเราผ่านจุดนั้นมาได้ เชื่อเถอะ
เราจะเข้มแข็งกว่าเดิมเยอะมาก หากไม่มีอุปสรรค์แล้วจะเอาคำว่าความสำเร็จจากไหน
หากไม่มีคำว่าทุกข์ จะมีคำว่า ปัญญาได้ยังไง จิงบ่อออ :b16: :b16:

ช่วงนี้คนที่พยายามหาวิธีออกกำลังกายแนะนำนะค่ะ
1.โยคะ เบาๆฝึกระบบลมหายใจ น้ำหนักลด ช่วยสุขภาพกายและใจดีค่ะ
2.T25 อันนี้กำลังมาแร๊งงง น้ำหนักลดไปโดยไม่ต้องอดอาหาร แต่ไม่ใช่กินพร่ำเพรือนะ กินให้ครบ
มื้อแล้วหันมาออกกำลังกายเอา สำหรับคนที่ร่างกายพร้อมและใจพร้อมนะ ค่อยๆเริ่ม อย่าเพิ่งหักดิบ
เดี๊ยวกล้ามเนื้อฉีกแล้วเกิดการท้อทันที
3.แบบเบาๆกายบริหาร เช่น แกว่งแขน(อันนี้ลดพุงได้ๆ) หรือลดต้นขามีวิธีคนที่ชอบนั่งเฉยๆ
อยู่บ้าน ในขณะที่คุณดูทีวี หาอะไรมาหนีบขาตัวเอง เช่น เอาหนังสือหนาๆหน่อย แล้วเอาต้นขาทั้งสองข้าง กาง แล้วหนีบขอบหนังสือทิ้งไว้แล้วดูทีวีไป มันจะเกร็งส่วนต้นขา และมันจะกระชับ ^_^

:b13: :b13: :b13: :b13: :b13: อันนี้แล้วแต่จริตคนและความชอบเนอะแต่มีหลายแบบอยู่
ลองๆเลือกนะค่ะ บางคนก็ไปเข้าฟิสเนส ยกดัมเบลก็ได้กล้ามเนื้อพอแข็งแรงอาการเหนื่อยๆมันจะไม่มี
ถ้าร่างกายแข็งแรง จิตใจก็จะสามารถมีพละกำลังเพิ่มขึ้น

วิธีการดูแลสุขภาพง่ายๆโดยที่เห็นผลจริงๆ

1.ดื่มน้ำเปล่าให้ได้1.5-2ลิตรขึ้นไป(สำคัญมาก เพราะคนที่เลือดหนืดๆ เพลียง่ายมึนหัว หน้าหมองคล้ำ
ช่วยระบบร่างกายเยอะมาก สัก2อาทิตย์เห็นผล แต่ต้องมีวินัยนะ
2.พยายามกินพวกข้าวซ้อมมือมากกว่าแป้งขัดสีกับข้าวขาว เพราะมันจะมีส่วนทำให้ดูดซึมอาหารได้ดี
มีสารอาหารดี แถมไม่อ้วนง่ายกว่าด้วย
3.เป็นไปได้หัดดื่มน้ำปกติ น้ำเท่ากับอุณหภูมิห้อง ไม่จำเป็นอย่าดื่มน้ำเย็น จะส่งผลให้ปวดกระดูก
ลำเลียงไม่ดี อาหารไม่ย่อย เกิดการติดขัดหลายอย่าง สมองทำงานไม่มีประสิทธิภาพ แต่ถ้าร้อนๆเหนื่อยๆจะสักปื้ดก็ได้ไม่ว่ากัน
4.ออกกำลังกายบ้างอะไรบ้าง ตามแต่คนถนัดหรือชอบนะค่ะ
5.เคล็ดลับเเต่ไม่ลับ ทานอาหารเป็นยา เคยได้ยินไหม เช่นเอาอาหารมาปรุงอย่างเช่น ต้มยำใส่ขิง ข่า ตระไคร้ ผัดมะระ แกงขี้เหล็ก เพราะสมุนไพรเป็นของคู่บ้านคู่เมืองมานาน เคยสังเกตไหมว่าคนสมัยก่อนโรคน้อยกว่าสมัยนี้ ^_^ ,มะระ จะช่วยในเรื่องของพวกถุงน้ำดี ตับ คนที่มีปัญหาเรื่องนอนหลับ หรือร้อนข้างใน จะช่วยได้ค่ะ และมีการบอกว่าคนที่กินรสขมจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นเบาหวานด้วยนะตะเอง
6.อันนี้ใจความสำคัญเลย หมั่นทำให้ใจสงบ สวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกลม พยายามฝึกการหายใจนะค่ะ ตรงนี้สำคัญมาก มีคนหายป่วยจากโรคเพราะฝึกการหายใจเนี่ยแหละค่ะ เพราะบางคนจะมีการหายใจผิดปกติเช่น หายใจสั่นเกินไป ลืมหายใจก็มี หรือหายใจเกิน ลองๆฝึกวิธีการหายใจดูนะค่ะ
มีประโยคมาก ทางร่่างกายจะช่วยระบบข่นส่งออกซิเจนได้ดี ทำให้สมองปลอดโปร่ง สารเคมีในสมองหลั่งปกติ ทางใจฝึกสติและได้กุศุลไม่ฟุ้งซ่านด้วยค่ะ มีแต่ได้กะได้ค่ะ
7.หางานอดิเรกสบุยๆ เช่น ปลูกต้นไม้ เล่าสู่กันฟังช่วยปลอบใจ ยิ้มแย้มแจ่มใสใครพใครเห็นก็สบายจุย
(เริ่มไร้สาระแหละฉัน5555)
:b13: :b13: :b13: :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2015, 13:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.ค. 2013, 21:44
โพสต์: 173

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


http://www.ladyissue.com/archives/4059

แพทย์โรคหัวใจมือหนึ่ง เลิกรักษาคนเพราะอะไร

ตัวอย่าง
ผมกินยาตามที่หมอสั่งชีวิตก็เป็นแบบเดิม ทำงานแบบเดิม ร่างกายและจิตใจก็ไม่ดีขึ้น
แถมมีอาการซึมจากยากล่อมประสาทอีกด้วย จิตใจก็แย่ การป่วยก็แย่ในระดับหนึ่งแหละ
ยังเบื่องานอีก มองอนาคตด้วยความกังวล ความดันสูง ไขมันสูง หลอดเลือดตีบ
กินยาเป็นกำๆมือ



แล้วอะไรละที่ทำให้ชีวิตนายแพทย์คนนี้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ


ถ้าอยากรู้จะอ่านบทความกันได้เลย ไม่แน่ความคิดที่คุณกำลังประสบปัญหาอาจจะเปลี่ยนไป

แต่รับรองว่าในแง่ดีแน่นอนค่ะ^_^ :b16: :b16: :b16:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร