วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 15:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 288 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15 ... 20  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2014, 08:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:


กรัชกาย รู้เท่านี้ จริงๆ
มันแยะต้องค่อยๆ อธิบายแต่ละอย่าง
กรัชกาย ....... ศึกษาธรรมให้มากขึ้นนะครับ
ทำธุระก่อน


อ้างคำพูด:
ศึกษาธรรมให้มากขึ้นนะครับ


ถ้ายังงั้นขอคำแนะนำเลยแล้วกันนะครับ "ธรรม" ที่ท่านเช่นนั้นจะให้กรัชกายไปศึกษาเนื่ยะ ธรรม อะไร ข้อไหนครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2014, 10:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คือดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว


เท่าที่อ่านแม่นางคนนี้เขาหายจากสภาวะกลัวแล้วเจ้าค่ะ คือเลิกกลัวเลิกสงสัยหน้าตัวเองที่มันจ้องเข่มงแล้ว และเหตุการณ์มันผ่านมาจะเป็นปีแล้ว แต่เท่าที่เห็นๆกันอยู่พี่กรัชกายต่างหากปรุงแต่ง ไม่ยอมจบเหตุคือพยายามสร้างเหตุของแม่นางคนนี้ต่อไปจน ไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า เทอหายจากอาการกลัวแล้วนะเจ้าค่ะ
อ้างคำพูด:
ดิฉันอยากถามผู้รู้ว่าที่ดิฉันเห็นแบบนั้นเพราะอะไร และดิฉันมีความสนใจเรื่องณานขั้นต่างๆ อยากรู้วิธิฝึกของแต่ละขั้น แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราฝึกได้ถึงขั้นใหน ดิฉันไม่มีครูบาอาจารย์ที่คอยชี้แนะ ได้แต่อ่านตามหนังสือ แล้วลองนั่งเอง ไม่รู้ว่าที่นั่งอยู่ทำถูกหรือว่าผิด


ตอนนี้แม่นางผู้นี้กำลังพยายามสร้างเหตุใหม่คือ อยากจะนั่งสมาธิเพื่อให้ได้มีได้เป็น ได้นั้นได้นี่ คืออยากได้ฌานขั้นต่างๆ อยากรุ้ว่าได้ฌานนั้นดียังไง ได้ขั้นไหน สงสัยอยากได้อภิญญา ทั้งที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่ทำ ถามตัวเองว่าจะเอาฌานไปทำอะไร จะฝึกเพื่ออะไร
ถ้าแม่นางผู้นี้ไม่สามารถตอบคำถามที่คุนน้องถามได้ ก็อย่าพยายามสร้างเหตุของเทออีกต่อไปเลย คุนน้องละเบื่อ :b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2014, 13:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


หลักการปฎิบัติขั้นต้นนั้นคือ. การสวดมนต์. และการแผ่เมตตาครับ. ก่อนลงมืินั่งสมาธิ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2014, 14:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ถ้ายังงั้นขอคำแนะนำเลยแล้วกันนะครับ "ธรรม" ที่ท่านเช่นนั้นจะให้กรัชกายไปศึกษาเนื่ยะ ธรรม อะไร ข้อไหนครับ

ดีครับ ที่ ถาม
ผมจะทำลิงค์ให้นะครับ
ศึกษาให้หมดให้แตกฉานนะครับ
http://84000.org/

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2014, 14:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อันที่จริงก็บอกไปแล้วว่า ถ้าเขาไม่มีสมาธิแล้วละก็ เขาจะไม่ประสบสัจธรรมนั่น ทั้งๆที่มันเกิดดับอยู่ทุกลมหายใจเข้าหายใจออก แต่คนทั่วๆไปก็ไม่รู้ เพราะขาดสมาธิ เป็นต้น ต่อเมื่อเขามาทำกรรมฐานเช่นนั่นบริกรรมไปจิตจะรวมตัวไม่ฟุ้งซ่านมีความสงบระดับหนึ่ง เมื่อจิตสงบก็ประสบกับสภาวะเช่นนั้น เมื่อถามว่า แม่นางขณะนั้นมีสมาธิหรือไม่ ตอบว่า "มี"

จิตฟุ้งซ่าน ก็คือจิตที่ฟุ้งซ่าน ขณะที่ฟุ้งซ่าน ไม่มีสมาธิครับ

กรัชกาย เขียน:
ดูคำตอบก่อนหน้าด้วยนะ ความฟุ้งซ่าน เป็นนิวรณ์ธรรมตัวหนึ่ง มีอยู่ในจิตใจของคนทั่วๆไปอยู่่แล้ว ถูกไหม เมื่อมันฟุ้งขึ้น หน้าที่ของผู้ปฏิบัติพึงกำหนดรู้ตามที่มันเป็น ตามที่ปรากฎ วิธีปฏิบัติขณะจิตฟุ้ง ตัวอย่างฟุ้งปัุบ ฟุ้งซ่าน (หนอๆๆ) ปัป ในวงเล็บเปลี่ยนเป็นอื่นได้หรือจะตัดทิ้งเป็นบางครั้งก็ได้ แต่สภาวะความฟุ้งนั้น จะละเลยไม่ได้เด็ดขาด จิตฟุ้งซ่าน จะต้องกำหนด (ว่าในใจ) ตามที่มันเป็นทุกคร้้งทุกขณะไป นี่คือหลักเจริญสติปัฏฐาน

เมื่อจิตฟุ้งซ่าน
ต้องหยุดความฟุ้งซ่านนั้นอย่างฉับพลันก่อน ไม่ควรปล่อยให้ฟุ้งซ่านต่อ ด้วยการไปกำหนดนามรูปนั้นต่อไป
ซึ่งการกำหนดนามรูปนั้นต่อไป อาจจะเป็นบ้าได้ครับกรัชกาย
พระพุทธองค์ และพระอานนท์ ต่างก็เคยปรารภ การหยุดการฟุ้งซ่าน ด้วย อาศัยสัญญาอื่นอันเป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใส เพื่อให้เกิดความสงบเย็นแห่งจิต
นั่นคือหยุด ตั้งสติสัมปชัญญะใหม่ ให้จิตมีความมั่นคงใหม่โดยอาศัยสัญญาอื่น
ส่วนสัญญาอื่นใดนั้น ขึ้นอยู่กับครูอาจารย์ที่ฉลาดกว่ากรัชกาย จะแนะนำเป็นอนุสติ ครับ
กรัชกาย เขียน:

อ้างคำพูด:
ความฟุ้งของแม่นางต่อนามรูป


เช่นนั้น ลื่นไหลไปตามความเคยชิน อันที่จริง ความฟุ้ง เป็นนาม แต่เช่นนั้นไปพูดว่า ฟุ้งต่อนาม (รูป) นี่ก็เข้าใจผิดแล้ว ฟุ้งเป็นนามจำไว้

กรัชกาย จึงได้ถามศัพท์ที่ใช้ทางธรรมที่เช่นนั้นนำมาพูดปะติดประต่อกับความคิดของตนนั่น เช่นนั้นเข้าใจความหมายของเขาบ้างสักนิดไหม :b1: ไม่เลย ไม่เข้าใจเลยสักคำ คิกๆๆ


เช่นนั้นใช้คำว่า ฟุ้งไปกับนามรูปถูกแล้วครับ
กรัชกาย มีสุตตะน้อย จึงรู้เพียงคำศัพท์ ว่า รูป และนามเท่านั้นครับ

นามรูป เขียนติดกันนะครับ อ่านว่านามรูป
เช่น นามรูปมี เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย หรือ ปิยรูปสาตรูป ก็เป็นนามรูป

สภาพธรรมที่ปรากฏ คือความฟุ้ง ไปกับนามรูป
เป็นสภาพธรรมที่ดูแล้วสลับซับซ้อนสำหรับกรัชกายนะครับ

กรัชกาย ศึกษาน้อย ฝอยมาก ก๊อปปี้พุทธธรรม แล้วแปะมาก
กรัชกายจึงแยกแยะไม่ออก ระหว่างฟุ้ง และสมาธิ
แยกแยะไม่ออกว่า เมื่อนิวรณ์ใดเกิดขึ้นควรจะจัดแจงจัดการด้วยอะไรอย่างไร
มัวแต่วุ่นวายอยู่ กับการทำเจตนาฟุ้ง กับรูป กับนาม

กรัชกาย เขียน:
พี่น้องเอ้ย คิกๆๆ เพราะคนเรามีจิตฟุ้งซ่าน (อย่างที่บอกว่าฟุ้งซ่านเป็นนิวรณ์ธรรมตัวหนึ่ง) ก็จึงมาทำกรรมฐาน มาาเจริญสติปัฏฐาน มาทำอานาปานสติ (เรียกอย่างอื่นอีกเยอะแยะ) เพื่อให้จิตสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน .....ไม่ใช่ไม่ฟุ้งซ่านอยู่ก่อนแล้วไปปฏิบัติ ถูกไหม ปัดโธ่ ท่านเช่นนั้น :b32:

กรัชกาย ความรู้มีเท่านี้จึงสรุปเพียงนี้
คนเรามีจิตฟุ้งซ่าน บางคนหาที่พึ่งไม่ได้ ก็ฟุ้งซ่านต่อไป
บางคนหาที่พึ่งได้ จึงให้แนะนำให้สติให้ปัญญา เพื่อจัดการกับความฟุ้งซ่านนั้น
การจัดการกับความฟุ้งซ่านจึงมีลำดับมีขั้นมีตอน
มีอุบายก่อนหลังอย่างไร ซึ่งผู้ฉลาดในการแนะนำย่อมให้อุบายต่างๆ ไปตามลำดับ จึงดับความฟุ้งซ่านนั้นลงได้

ซึ่งต่างจากกรัชกาย ไปแนะนำให้ บ้าไปกับนามรูปให้มากขึ้น

กรัชกาย หยุดให้การแนะนำมั่วๆ ได้แล้วครับ
อ่านพระธรรม ที่บรรจุอยู่ในลิงค์นั้นให้ถ้วนทั่ว แล้วจึงค่อยเที่ยวแนะนำคนอื่นต่อไปครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2014, 14:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คือดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว

หายกลัวแล้ว ก็ไม่ต้องตามอธิบายสิ่งไร ไม่ต้องแก้ไขอะไร มันผ่านไปแล้ว

อ้างคำพูด:
ดิฉันอยากถามผู้รู้ว่าที่ดิฉันเห็นแบบนั้นเพราะอะไร

เพราะขาดความรู้ที่ถูกต้อง จึงฟุ้งไปกับนามรูป

อ้างคำพูด:
และดิฉันมีความสนใจเรื่องณานขั้นต่างๆ อยากรู้วิธิฝึกของแต่ละขั้น แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราฝึกได้ถึงขั้นใหน ดิฉันไม่มีครูบาอาจารย์ที่คอยชี้แนะ ได้แต่อ่านตามหนังสือ แล้วลองนั่งเอง ไม่รู้ว่าที่นั่งอยู่ทำถูกหรือว่าผิด

แม่นางสนใจวิธีนี้ และรู้ว่าไม่มีครูอาจารย์ชี้แนะ
แม่นางก็ควรหาครูอาจารย์ชี้แนะครับ

อ้างคำพูด:
ดิฉันนั่งโดยการกำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ จนกว่าขาจะเป็นเหน็บชา พอทนไม่ไหวจิงๆก็จะออกจากสมาธิ แล้วก็แผ่เมตตา หลายครั้งคิดว่าจะฝืนนั่งให้นานที่สุด แต่มันก็ปวดขาจิงๆไม่มีสมาธิจะนั่งต่อเลย อยากรู้ว่าคนอื่นๆเค้าทำยังไงเวลานั่งจนปวดขาแล้ว เลิกนั่งเลยหรือเปล่า

การทำอานาปานสติ ไม่ใช่การนั่งทน หรือทนนั่งครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2014, 15:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
เมื่อจิตฟุ้งซ่าน
ต้องหยุดความฟุ้งซ่านนั้นอย่างฉับพลันก่อน ไม่ควรปล่อยให้ฟุ้งซ่านต่อ ด้วยการไปกำหนดนามรูปนั้นต่อไป
ซึ่งการกำหนดนามรูปนั้นต่อไป อาจจะเป็นบ้าได้

อันนี้คุนน้องเห็นด้วยกับท่านเช่นนั้น เมื่อจิตฟุ้งไปกับนามรูปที่ปรากฏ จิตจะประสบกับสภาวะธรรมตรงหน้านั้น ถ้ารู้ไม่ทันสภาวะที่ปรากฏนั้น เมื่อจิตฟุ้งไปแล้วไปกำหนด ผู้ที่มีสติอ่อนย่อมจะกำหนดรู้รูปนามตามความเป็นจริงไม่ได้แต่ยิ่งจะปรุงจะฟุ้งเตลิดเปิดเปิงไปใหญ่ ถึงพยายามจะกำหนดแต่จิตก็ฟุ้งหนักอยู่ดี เพราะสติสัมปชัญญะไม่มีกำลังพอจะมากำหนดรู้สภาวธรรมตรงหน้านั้นได้ ยิ่งไปกำหนดยิ่งฟุ้งไปไหนเผลอๆสติแตก คนที่ไม่มีสมาธิไม่มีสติสัมปะชัญญะพอ เค้าย่อมจะไม่สามารถกำหนดรู้หรือพิจารณาในผัสสะที่เห็นนั้นได้ มีแต่จะเกิดอุปทานในสิ่งที่รู้สิ่งที่เห็นนั้น
มีครั้งนึงจักษุวิญญาณ(ประสาทรับรู้ทางตา)คุนน้องทำงานเพี้ยน คืออยู่ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น คือลืมตาอยู่นั่นน่ะแต่มองเห็น แมงมุมยักษ์ไต่มาตามฝาผนังแล้วเหมือนจะไต่มาหาคุนน้องที่นอนอยู่แต่ตอนนั้นคุนน้องขยับไม่ได้ คุนน้องประสบกับสภาวะนั้น โดยปกติถ้าคนสติสัมปชัญญะอ่อนลืมตาแล้วมองเห็นแมงมุมยักษ์ไต่มาแถมจะไต่มาหาเรา เค้าต้องร้องให้คนช่วยแล้ว คงสติแตกแล้ว แต่ในขณะนั้นมีจิตดวงนึงกลับกระซิบคุนน้องว่า ไม่ใช่ของจริง สติกำหนดรู้ทันต่อสภาวะธรรมตรงหน้าปัจจุจบัณขณะนั้น ถึงเห็นผัสสะตรงหน้าว่าไม่ใช่ของจริง แล้วขณะนั้นก็กลัว แต่เพราะเหตุใดไม่รู้คุนน้องกลับอยากรู้คืออยากรู้ว่าที่เห็นมันของจริงหรือของปลอม คือยอมนอนเฉยๆให้มันวิ่งมาคือยอมให้มันกัดถ้ามันจะกัดหรือทำร้ายเรา แต่มันก็วิ่งมาแล้วดันห้อยโตงเคงอยู่ตรงหน้าคุนน้อง คือคุนน้องนอนศรีษะชิดขอบหน้าต่าง แล้วขณะนั้นจักษุวิญญาณคุนน้องก็ยังทำงานเพี้ยนอยู่ คือเห็นเป้นแมงมุมยักษ์ แต่ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ของจริง ถ้าของจริงมันกัดเราแล้ว คุนน้องเลยหลับตาและลองลืมตาก็ยังเห็นอยู่ แต่คุนน้องก็เฉยๆไม่ใส่ใจต่อสิ่งที่เห็น เพราะมันไม่สามารถทำอะไรคุนน้องได้เลย แม้แต่ความกลัว
ปล.เล่าเรื่องตลกดีกว่า :b12: แม่คุนน้องนอนอยู่ นอนท่าหงายและโดนผีอำและแม่คุนน้องบอกว่า ถ้าผีอำให้ถุยน้ำลายใส่มัน มันจะเลิกอำ :b14: (เอ่อถ้าคุนน้องเป็นผีคงเลิกอำอ่ะเพราะรังเกียจอ่ะมาถุยน้ำลายใส่เรา :b32: ) ในขณะนั้นเองแม่คุนน้องก็ประสบสภาวะที่เรียกว่าผีอำ แม่คุณก็ปูดๆๆน้ำลาย555(แกทำท่าทางให้ดูคุนน้องขำจนน้ำตาร่วง) ถ่มน้ำลายใส่ผี :b32: คือจะให้มันออก จิตแกก็สู้กับผี ประมาณว่าจะออกไม่ออก ก็ถ่มน้ำลายใส่ผีอยู่นั่นแหละ แต่ผีก็ไม่กลัวน้ำลาย :b32: แล้วซักพักยังไงไม่รู้แกตื่นก็บอกว่า น้ำลายเต็มหน้าแกเลย แกเล่นถ่มน้ำลายใส่ผี555


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2014, 20:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ถ้ายังงั้นขอคำแนะนำเลยแล้วกันนะครับ "ธรรม" ที่ท่านเช่นนั้นจะให้กรัชกายไปศึกษาเนื่ยะ ธรรม อะไร ข้อไหนครับ

ดีครับ ที่ ถาม
ผมจะทำลิงค์ให้นะครับ
ศึกษาให้หมดให้แตกฉานนะครับ
http://84000.org/



เอาตามความเห็นตามนิยามของเช่นนั้นเองครับ ไม่ใช่ไปอ่านแล้วตีความเอง

ธรรม ที่เช่นนั้นคิดว่า คือยังไงครับ เอ้า :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2014, 20:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
อ้างคำพูด:
คือดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว

หายกลัวแล้ว ก็ไม่ต้องตามอธิบายสิ่งไร ไม่ต้องแก้ไขอะไร มันผ่านไปแล้ว

อ้างคำพูด:
ดิฉันอยากถามผู้รู้ว่าที่ดิฉันเห็นแบบนั้นเพราะอะไร

เพราะขาดความรู้ที่ถูกต้อง จึงฟุ้งไปกับนามรูป

อ้างคำพูด:
และดิฉันมีความสนใจเรื่องณานขั้นต่างๆ อยากรู้วิธิฝึกของแต่ละขั้น แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราฝึกได้ถึงขั้นใหน ดิฉันไม่มีครูบาอาจารย์ที่คอยชี้แนะ ได้แต่อ่านตามหนังสือ แล้วลองนั่งเอง ไม่รู้ว่าที่นั่งอยู่ทำถูกหรือว่าผิด

แม่นางสนใจวิธีนี้ และรู้ว่าไม่มีครูอาจารย์ชี้แนะ
แม่นางก็ควรหาครูอาจารย์ชี้แนะครับ

อ้างคำพูด:
ดิฉันนั่งโดยการกำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ จนกว่าขาจะเป็นเหน็บชา พอทนไม่ไหวจิงๆก็จะออกจากสมาธิ แล้วก็แผ่เมตตา หลายครั้งคิดว่าจะฝืนนั่งให้นานที่สุด แต่มันก็ปวดขาจิงๆไม่มีสมาธิจะนั่งต่อเลย อยากรู้ว่าคนอื่นๆเค้าทำยังไงเวลานั่งจนปวดขาแล้ว เลิกนั่งเลยหรือเปล่า



การทำอานาปานสติ ไม่ใช่การนั่งทน หรือทนนั่งครับ



เช่นนั้น แนนะการทำอานาปานสติหน่อยครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2014, 21:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ถ้ายังงั้นขอคำแนะนำเลยแล้วกันนะครับ "ธรรม" ที่ท่านเช่นนั้นจะให้กรัชกายไปศึกษาเนื่ยะ ธรรม อะไร ข้อไหนครับ

ดีครับ ที่ ถาม
ผมจะทำลิงค์ให้นะครับ
ศึกษาให้หมดให้แตกฉานนะครับ
http://84000.org/



เอาตามความเห็นตามนิยามของเช่นนั้นเองครับ ไม่ใช่ไปอ่านแล้วตีความเอง

ธรรม ที่เช่นนั้นคิดว่า คือยังไงครับ เอ้า :b1:


ของดีอยู่ข้างหน้า ตั้งใจศึกษานะครับ กรัชกาย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2014, 21:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น แนนะการทำอานาปานสติหน่อยครับ


ไม่ว่างครับกรัชกาย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2014, 21:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ถ้ายังงั้นขอคำแนะนำเลยแล้วกันนะครับ "ธรรม" ที่ท่านเช่นนั้นจะให้กรัชกายไปศึกษาเนื่ยะ ธรรม อะไร ข้อไหนครับ

ดีครับ ที่ ถาม
ผมจะทำลิงค์ให้นะครับ
ศึกษาให้หมดให้แตกฉานนะครับ
http://84000.org/



เอาตามความเห็นตามนิยามของเช่นนั้นเองครับ ไม่ใช่ไปอ่านแล้วตีความเอง

ธรรม ที่เช่นนั้นคิดว่า คือยังไงครับ เอ้า :b1:


ของดีอยู่ข้างหน้า ตั้งใจศึกษานะครับ กรัชกาย


อะไรของดี ที่เช่นนั้นว่า

ธรรมหรือของดี เช่นนั้นบอกว่าใช่ ธรรมของดี คิกๆ

กรัชกายจึงถามว่า ธรรม ที่เช่นนั้น กล่าวอ้างถึง คือ อะไรยังไง

เช่นนั้นก็บอกไม่ได้ รู้แต่ว่า ธรรมๆๆ ดีๆๆ คิกๆๆ ธรรม ดี แค่นี้เอง แล้วมันจะต่างอะไรกับนกแก้วนกขุนทอง พูดได้ล่ะเช่นนั้น ธรรม ดี :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2014, 21:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
อ้างคำพูด:
คือดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว

หายกลัวแล้ว ก็ไม่ต้องตามอธิบายสิ่งไร ไม่ต้องแก้ไขอะไร มันผ่านไปแล้ว

อ้างคำพูด:
ดิฉันอยากถามผู้รู้ว่าที่ดิฉันเห็นแบบนั้นเพราะอะไร

เพราะขาดความรู้ที่ถูกต้อง จึงฟุ้งไปกับนามรูป

อ้างคำพูด:
และดิฉันมีความสนใจเรื่องณานขั้นต่างๆ อยากรู้วิธิฝึกของแต่ละขั้น แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราฝึกได้ถึงขั้นใหน ดิฉันไม่มีครูบาอาจารย์ที่คอยชี้แนะ ได้แต่อ่านตามหนังสือ แล้วลองนั่งเอง ไม่รู้ว่าที่นั่งอยู่ทำถูกหรือว่าผิด

แม่นางสนใจวิธีนี้ และรู้ว่าไม่มีครูอาจารย์ชี้แนะ
แม่นางก็ควรหาครูอาจารย์ชี้แนะครับ

อ้างคำพูด:
ดิฉันนั่งโดยการกำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ จนกว่าขาจะเป็นเหน็บชา พอทนไม่ไหวจิงๆก็จะออกจากสมาธิ แล้วก็แผ่เมตตา หลายครั้งคิดว่าจะฝืนนั่งให้นานที่สุด แต่มันก็ปวดขาจิงๆไม่มีสมาธิจะนั่งต่อเลย อยากรู้ว่าคนอื่นๆเค้าทำยังไงเวลานั่งจนปวดขาแล้ว เลิกนั่งเลยหรือเปล่า



การทำอานาปานสติ ไม่ใช่การนั่งทน หรือทนนั่งครับ



เช่นนั้น แนนะการทำอานาปานสติหน่อยครับ



การทำอานาปานสติ ไม่ใช่การนั่งทน หรือทนนั่ง



เช่นนั้น พรุ่งนี้ว่างตอบวิธีทำอานาปานสติ ตามวิธีการของเช่นนั้นหน่อยครับ กรัชกายจะรอ :b1:

เมื่อรู้ว่าผิด แสดงว่า ต้องรู้ถูก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2014, 22:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อะไรของดี ที่เช่นนั้นว่า

ธรรมหรือของดี เช่นนั้นบอกว่าใช่ ธรรมของดี คิกๆ

กรัชกายจึงถามว่า ธรรม ที่เช่นนั้น กล่าวอ้างถึง คือ อะไรยังไง

เช่นนั้นก็บอกไม่ได้ รู้แต่ว่า ธรรมๆๆ ดีๆๆ คิกๆๆ ธรรม ดี แค่นี้เอง แล้วมันจะต่างอะไรกับนกแก้วนกขุนทอง พูดได้ล่ะเช่นนั้น ธรรม ดี :b32:


นั่นล่ะสิครับ
อะไร ของดี
เช่นนั้น บอกไม่ได้

รู้แต่ว่าธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประกาศไว้ดีแล้ว
มีให้กรัชกาย หาของดีๆ

เคยบอกให้กรัชกายไปอ่านหลายครั้งแล้ว
จนป่านนี้ ก็ยังโง่ดักดาน อยู่นะครับ

อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงส่ง ลิ้งค์ของดีๆ ให้กรัชกาย ไปหาของดีๆ เช่นเคยครับกรัชกาย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2014, 22:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น พรุ่งนี้ว่างตอบวิธีทำอานาปานสติ ตามวิธีการของเช่นนั้นหน่อยครับ กรัชกายจะรอ :b1:

เมื่อรู้ว่าผิด แสดงว่า ต้องรู้ถูก


อย่ารอเลยครับ กรัชกาย ลำพังกรัชกายไปสอนมั่วๆ ในอีกกระทู้หนึ่ง ก็เหลือรับจะบอกกรัชกายแล้วครับ

อานาปานสติ ของดีๆ กรัชกายอธิบายจนเป็นของเน่าไป

กรัชกายไปเปิดอ่านในลิ้งค์ที่แปะไว้นะครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 288 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15 ... 20  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร