วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 20:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 288 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 ... 20  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 21:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขาขาดธรรมข้อไหน และจะทำเหตุปัจจัยที่เคยพูดยังไงสติปัญญาเกิด :b1:


อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิไป จนลมหายใจแผ่วลงๆ มากจนลมหายใจเบามาก ในขณะเกือบไม่มีลมหายใจนั้น กลับมีสภาวะฟุ้งซ่านเกิดขึ้น เพราะเหมือนกับจิตไม่สามารถเกาะลมหายใจไว้ได้อีกแล้ว เพราะมันลมมันแผ่วมาก แผ่นวเหมือนไม่เกิดการหายใจ

เอาจิตไปจับคำภาวนาก็ไม่ได้เพราะจับแปปเดียวมันก็ปล่อยอีก

แล้วแบบนี้พอลมหายใจผมหายไป ผมควรจะเอาจิตไปจับกับอะไรครับ

รายละเอียดการนั่งสมาธิ

นั่งแบบ ดูลมหายใจเข้าออก นับ 1,2,3

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 21:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
บอกมาได้แล้วนะครับกรัชกาย "สวย" "ไม่สวย"

สติ สวยอย่างไร ไม่สวยอย่างไร

สัมปชัญญะ สวยอย่างไร ไม่สวยอย่างหร

สมาธิ สวยอย่างไร ไม่สวยอย่างไร

นาม สวยอย่างไร ไม่สวยอย่างไร

รูป รูปสวยอย่างไร ไม่สวยอย่างไร

สภาวธรรม สวยอย่างไร ไม่สวยอย่างไร

ปัญญา สวยอย่างไร ไม่สวยอย่างไร

อารมณ์ สวยอย่างไร ไม่สวยอย่างไร

อินทรีย์ ทั้ง 5 (อะไรบ้าง บอกพร้อมความหมายแต่ละตัวๆ) สวยอย่างไร ไม่สวยอย่างไร

ศรัทธา สวยอย่างไร ไม่สวยอย่างไร

ความเพียร (เพียรยังไง เพียรในอะไร) สวยอย่างไร ไม่สวยอย่างไร

กรัชกาย บอกเองนะครับ ว่า สวย ต่อมาบอกว่า ไม่สวย



โยกโย้น่าไร้สาระ ไม่รู้ก็บอกไม่รู้

แต่อันที่จริงกรัชกายก็รู้นานแล้วว่า เช่นนั้นไม่รู้่ความหมายศัพท์บาลี แต่เลื่อมใสว่าเนี่ยธรรม แล้วก็ยำศัพท์มาแล้วก็ปลื้มใจ ว่าตนเองพูดธรรมะ รู้ธรรมะ แต่จริงๆคือการจำศัพท์นำศัพท์บาลีมาพูดเท่านั้น :b1: เอง


หรือครับ กรัชกาย
แล้วกรัชกายสามารถ อธิบายสิ่งที่กรัชกายพูดเอง ว่า ศัพท์นั้นสวย ศัพท์นี้ไม่สวย ได้หรือไม่ครับ

เช่นนั้น ก็ยังไม่ได้อธิบายอะไรในส่วนที่เช่นนั้นกล่าว
เพียงแต่ว่า ต้องมีลำดับก่อนหลัง

กรัชกาย พูดก่อน ก็ต้องแสดงก่อน ครับ
อย่าโยกโย้ ต่อไปเลยครับกรัชกาย


เขาบัญญัติศัพท์ได้สวย ไพเราะ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 21:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สติ

สัมปชัญญะ

สมาธิ

นาม

รูป

สภาวธรรม

ปัญญา

อารมณ์

ท่านเช่นนั้น ถ้าไม่รู้ความหมายของเขาอย่าพูดเลยครับ อายเขา :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 21:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ท่านเช่นนั้น ถ้าไม่รู้ความหมายของเขาอย่าพูดเลยครับ อายเขา :b1:

กรัชกาย เขียน:
เขาบัญญัติศัพท์ได้สวย ไพเราะ คิกๆๆ


จากการที่กรัชกายแสดงออกมา
ก็คือการ สวย โดยไม่รู้ความหมายหรือครับ
สวย ว่าตามๆ กันหรือครับ
สวยแบบ ว่า พูดไปเรื่อยเปื่อยเลื่อนลอย หรือครับ

กรัชกาย เลื่อนๆ ลอยๆ กล่าวว่า สวย ต่อศัพท์ต่างๆ หรือครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 21:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
หัวข้อเดิมเขา "ไม่มีครูอาจารย์คอยแนะนำเรื่องนั่งสมาธิ อยากถามผู้เรื่องการนั่ง"

แต่กรัชกายเปลี่ยนชื่อ "ถามนักปฏิบัติ" :b1: เอาชัดๆไปเลย

เขาถามดังนี้ครับ

ไม่มีครูบาอาจารย์คอยแนะนำเรื่องนั่งสมาธิ อยากถามผู้รู้เรื่องการนั่ง


คือดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว

ดิฉันอยากถามผู้รู้ว่าที่ดิฉันเห็นแบบนั้นเพราะอะไร และดิฉันมีความสนใจเรื่องณานขั้นต่างๆ อยากรู้วิธิฝึกของแต่ละขั้น แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราฝึกได้ถึงขั้นใหน ดิฉันไม่มีครูบาอาจารย์ที่คอยชี้แนะ ได้แต่อ่านตามหนังสือ แล้วลองนั่งเอง ไม่รู้ว่าที่นั่งอยู่ทำถูกหรือว่าผิด

ดิฉันนั่งโดยการกำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ จนกว่าขาจะเป็นเหน็บชา พอทนไม่ไหวจิงๆก็จะออกจากสมาธิ แล้วก็แผ่เมตตา หลายครั้งคิดว่าจะฝืนนั่งให้นานที่สุด แต่มันก็ปวดขาจิงๆไม่มีสมาธิจะนั่งต่อเลย อยากรู้ว่าคนอื่นๆเค้าทำยังไงเวลานั่งจนปวดขาแล้ว เลิกนั่งเลยหรือเปล่า


กรัชกาย ก่อนจะแนะนำอะไร ไปนั้น
แม่นาง บอกว่า ลองนั่งสมาธิ

กรัชกายลงความเห็นลงไปแล้วว่า แม่นางมีสมาธิ ด้วยมนสิการ

สภาวะธรรมนี้ มีจริงหรือไม่
ส่วนสภาวะธรรมอื่นๆ ค่อยว่ากันไป เพราะถ้าตั้งต้นผิดไปแล้ว ก็เหมือนกับกลัดกระดุมผิดเม็ด

เช่นนั้น จึงต้องซักซ้อมความเข้าใจ ให้ตรงกันเสียก่อน
ไม่ได้เป็นการตีสำนวนโวหารแต่ประการใด


กำหนดลมหายเข้าออกไปๆๆๆๆ สติ สัมปชัญญะ สมาธิ เป็นต้น จะค่อยๆเจริญขึ้นๆ

ถ้าเขาไม่มีสมาธิ จะไม่ประสบสภาวะเช่นว่านั้น ตัวอย่างก็เช่นคนทั่วๆไป ทั้งที่สภาวะเช่นนั้นเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปตลอดเวลาตามธรรมดาของมัน แต่คนทัวไปก็ไม่รู้ ต่อเมื่อมากำหนดนามรูปเช่นนั้น จิตมีสมาธิเป็นต้นบ้าง มันก็ปรากฎ นี่่มันเป็นอย่างนี้นะเช่นนั้น :b1:


การเอาอารมณ์ภายนอกเป็นตัวตั้ง ที่คนทั่วๆไปเข้าใจกัน นั่นคือภูมินัยของปุถุชนไงล่ะครับ
ว่า สติสัมปชัญญะ สมาธิ จะเจริญขึ้น

จึงนึกเอาเองว่าการฟุ้งไปกับนามรูป คือการเจริญสมาธิ

ปัญหาจึงมีว่า สภาวะธรรมที่เป็นสมาธิ มีสติมีปัญญา นั้นปรากฏแก่แม่นางคนนั้นจริงหรือไม่

อารมณ์ที่ถูกกำหนด ด้วยวัตถุแห่งอารมณ์ เป็นเพียงนิมิตหมายของสติสัมปชัญญะ และสมาธิ
จิตที่เคลื่อนไปจากสติสัมปชัญญะ ไปตามอารมณ์ที่ปรากฏ ย่อมทำให้ สติสัมปชัญญะหายไป เป็นอันตรายแก่สมาธิ คือทำให้สมาธิหายไป

แม่นางคนนั้น ฟุ้งไปกับนามรูป ฟุ้งไปกับลมหายใจเข้าลมหายใจออก เพราะจิตตั้งไว้ไม่ได้ด้วยปัญญาด้วยสติสัมปชัญญะ

อย่างนี้
อินทรีย์ ทั้ง 5 ของนางจึงไม่ปรากฏตั้งแต่แรกเริ่มครับ กรัชกาย
จะหา ศรัทธา หาความเพียร หาสติ หาสมาธิ หาปัญญาใดๆ ไม่ปรากฏครับ



อ้อ เช่นนั้น เรียบเรียงวางถ้อยคำได้สวยด้วยนะเนี่ยะ :b13:

การเอาอารมณ์ภายนอกเป็นตัวตั้ง ที่คนทั่วๆไปเข้าใจกัน นั่นคือภูมินัยของปุถุชนไงล่ะครับ
ว่า สติสัมปชัญญะ สมาธิ จะเจริญขึ้น

จึงนึกเอาเองว่าการฟุ้งไปกับนามรูป คือการเจริญสมาธิ

ปัญหาจึงมีว่า สภาวะธรรมที่เป็นสมาธิ มีสติมีปัญญา นั้นปรากฏแก่แม่นางคนนั้นจริงหรือไม่

อารมณ์ที่ถูกกำหนด ด้วยวัตถุแห่งอารมณ์ เป็นเพียงนิมิตหมายของสติสัมปชัญญะ และสมาธิ
จิตที่เคลื่อนไปจากสติสัมปชัญญะ ไปตามอารมณ์ที่ปรากฏ ย่อมทำให้ สติสัมปชัญญะหายไป เป็นอันตรายแก่สมาธิ คือทำให้สมาธิหายไป

แม่นางคนนั้น ฟุ้งไปกับนามรูป ฟุ้งไปกับลมหายใจเข้าลมหายใจออก เพราะจิตตั้งไว้ไม่ได้ด้วยปัญญาด้วยสติสัมปชัญญะ

อย่างนี้
อินทรีย์ ทั้ง 5 ของนางจึงไม่ปรากฏตั้งแต่แรกเริ่มครับ กรัชกาย
จะหา ศรัทธา หาความเพียร หาสติ หาสมาธิ หาปัญญาใดๆ ไม่ปรากฏครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ท่านเช่นนั้น ถ้าไม่รู้ความหมายของเขาอย่าพูดเลยครับ อายเขา :b1:

กรัชกาย เขียน:
เขาบัญญัติศัพท์ได้สวย ไพเราะ คิกๆๆ


จากการที่กรัชกายแสดงออกมา
ก็คือการ สวย โดยไม่รู้ความหมายหรือครับ
สวย ว่าตามๆ กันหรือครับ
สวยแบบ ว่า พูดไปเรื่อยเปื่อยเลื่อนลอย หรือครับ

กรัชกาย เลื่อนๆ ลอยๆ กล่าวว่า สวย ต่อศัพท์ต่างๆ หรือครับ


อ้างคำพูด:
ก็คือการ สวย โดยไม่รู้ความหมายหรือครับ


คิกๆๆ เช่นนั้น เคยเห็นคนสวยไหม อย่างนี้ต้องรู้ความหมายไหม :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 21:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:

เช่นนั้น เขียน:
การเอาอารมณ์ภายนอกเป็นตัวตั้ง ที่คนทั่วๆไปเข้าใจกัน นั่นคือภูมินัยของปุถุชนไงล่ะครับ
ว่า สติสัมปชัญญะ สมาธิ จะเจริญขึ้น

จึงนึกเอาเองว่าการฟุ้งไปกับนามรูป คือการเจริญสมาธิ

ปัญหาจึงมีว่า สภาวะธรรมที่เป็นสมาธิ มีสติมีปัญญา นั้นปรากฏแก่แม่นางคนนั้นจริงหรือไม่

อารมณ์ที่ถูกกำหนด ด้วยวัตถุแห่งอารมณ์ เป็นเพียงนิมิตหมายของสติสัมปชัญญะ และสมาธิ
จิตที่เคลื่อนไปจากสติสัมปชัญญะ ไปตามอารมณ์ที่ปรากฏ ย่อมทำให้ สติสัมปชัญญะหายไป เป็นอันตรายแก่สมาธิ คือทำให้สมาธิหายไป

แม่นางคนนั้น ฟุ้งไปกับนามรูป ฟุ้งไปกับลมหายใจเข้าลมหายใจออก เพราะจิตตั้งไว้ไม่ได้ด้วยปัญญาด้วยสติสัมปชัญญะ

อย่างนี้
อินทรีย์ ทั้ง 5 ของนางจึงไม่ปรากฏตั้งแต่แรกเริ่มครับ กรัชกาย
จะหา ศรัทธา หาความเพียร หาสติ หาสมาธิ หาปัญญาใดๆ ไม่ปรากฏครับ



อ้อ เช่นนั้น เรียบเรียงวางถ้อยคำได้สวยด้วยนะเนี่ยะ :b13:

การเอาอารมณ์ภายนอกเป็นตัวตั้ง ที่คนทั่วๆไปเข้าใจกัน นั่นคือภูมินัยของปุถุชนไงล่ะครับ
ว่า สติสัมปชัญญะ สมาธิ จะเจริญขึ้น

จึงนึกเอาเองว่าการฟุ้งไปกับนามรูป คือการเจริญสมาธิ

ปัญหาจึงมีว่า สภาวะธรรมที่เป็นสมาธิ มีสติมีปัญญา นั้นปรากฏแก่แม่นางคนนั้นจริงหรือไม่

อารมณ์ที่ถูกกำหนด ด้วยวัตถุแห่งอารมณ์ เป็นเพียงนิมิตหมายของสติสัมปชัญญะ และสมาธิ
จิตที่เคลื่อนไปจากสติสัมปชัญญะ ไปตามอารมณ์ที่ปรากฏ ย่อมทำให้ สติสัมปชัญญะหายไป เป็นอันตรายแก่สมาธิ คือทำให้สมาธิหายไป

แม่นางคนนั้น ฟุ้งไปกับนามรูป ฟุ้งไปกับลมหายใจเข้าลมหายใจออก เพราะจิตตั้งไว้ไม่ได้ด้วยปัญญาด้วยสติสัมปชัญญะ

อย่างนี้
อินทรีย์ ทั้ง 5 ของนางจึงไม่ปรากฏตั้งแต่แรกเริ่มครับ กรัชกาย
จะหา ศรัทธา หาความเพียร หาสติ หาสมาธิ หาปัญญาใดๆ ไม่ปรากฏครับ


ขอบคุณครับ กรัชกาย
มาเริ่มสนทนากัน ตรงนี้กันใหม่ดีไหมครับ กรัชกาย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 21:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:

เช่นนั้น เขียน:
การเอาอารมณ์ภายนอกเป็นตัวตั้ง ที่คนทั่วๆไปเข้าใจกัน นั่นคือภูมินัยของปุถุชนไงล่ะครับ
ว่า สติสัมปชัญญะ สมาธิ จะเจริญขึ้น

จึงนึกเอาเองว่าการฟุ้งไปกับนามรูป คือการเจริญสมาธิ

ปัญหาจึงมีว่า สภาวะธรรมที่เป็นสมาธิ มีสติมีปัญญา นั้นปรากฏแก่แม่นางคนนั้นจริงหรือไม่

อารมณ์ที่ถูกกำหนด ด้วยวัตถุแห่งอารมณ์ เป็นเพียงนิมิตหมายของสติสัมปชัญญะ และสมาธิ
จิตที่เคลื่อนไปจากสติสัมปชัญญะ ไปตามอารมณ์ที่ปรากฏ ย่อมทำให้ สติสัมปชัญญะหายไป เป็นอันตรายแก่สมาธิ คือทำให้สมาธิหายไป

แม่นางคนนั้น ฟุ้งไปกับนามรูป ฟุ้งไปกับลมหายใจเข้าลมหายใจออก เพราะจิตตั้งไว้ไม่ได้ด้วยปัญญาด้วยสติสัมปชัญญะ

อย่างนี้
อินทรีย์ ทั้ง 5 ของนางจึงไม่ปรากฏตั้งแต่แรกเริ่มครับ กรัชกาย
จะหา ศรัทธา หาความเพียร หาสติ หาสมาธิ หาปัญญาใดๆ ไม่ปรากฏครับ



อ้อ เช่นนั้น เรียบเรียงวางถ้อยคำได้สวยด้วยนะเนี่ยะ :b13:

การเอาอารมณ์ภายนอกเป็นตัวตั้ง ที่คนทั่วๆไปเข้าใจกัน นั่นคือภูมินัยของปุถุชนไงล่ะครับ
ว่า สติสัมปชัญญะ สมาธิ จะเจริญขึ้น

จึงนึกเอาเองว่าการฟุ้งไปกับนามรูป คือการเจริญสมาธิ

ปัญหาจึงมีว่า สภาวะธรรมที่เป็นสมาธิ มีสติมีปัญญา นั้นปรากฏแก่แม่นางคนนั้นจริงหรือไม่

อารมณ์ที่ถูกกำหนด ด้วยวัตถุแห่งอารมณ์ เป็นเพียงนิมิตหมายของสติสัมปชัญญะ และสมาธิ
จิตที่เคลื่อนไปจากสติสัมปชัญญะ ไปตามอารมณ์ที่ปรากฏ ย่อมทำให้ สติสัมปชัญญะหายไป เป็นอันตรายแก่สมาธิ คือทำให้สมาธิหายไป

แม่นางคนนั้น ฟุ้งไปกับนามรูป ฟุ้งไปกับลมหายใจเข้าลมหายใจออก เพราะจิตตั้งไว้ไม่ได้ด้วยปัญญาด้วยสติสัมปชัญญะ

อย่างนี้
อินทรีย์ ทั้ง 5 ของนางจึงไม่ปรากฏตั้งแต่แรกเริ่มครับ กรัชกาย
จะหา ศรัทธา หาความเพียร หาสติ หาสมาธิ หาปัญญาใดๆ ไม่ปรากฏครับ


ขอบคุณครับ กรัชกาย
มาเริ่มสนทนากัน ตรงนี้กันใหม่ดีไหมครับ กรัชกาย



บอกความหมายศัพท์ก่อน จะดูว่า เช่นนั้น เข้าใจความหมายศัพท์เขายังไง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 21:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
บอกความหมายศัพท์ก่อน จะดูว่า เช่นนั้น เข้าใจความหมายศัพท์เขายังไง :b1:

เช่นนั้นจำเป็นต้องเปิดปทานุกรมคำศัพท์ ให้กรัชกายหรือไม่ครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 21:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
บอกความหมายศัพท์ก่อน จะดูว่า เช่นนั้น เข้าใจความหมายศัพท์เขายังไง :b1:

เช่นนั้นจำเป็นต้องเปิดปทานุกรมคำศัพท์ ให้กรัชกายหรือไม่ครับ



เอาตามที่เช่นนั้นเข้าใจ แล้วนำมาพูดครับ เข้าใจยังไงก็พูดยังงั้น
ว่าไป

สติ

สัมปชัญญะ

สมาธิ

นาม

รูป

สภาวธรรม

ปัญญา

อารมณ์


แยกเอาจากข้อความที่เรียบเรียงสวยๆข้างบนนั่นเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 21:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนจะลงไป ที่ตัวปัญหาของ แม่นางนั้น
จำต้อง พิจารณาความเข้าใจต่อปัญหานั้นก่อนว่า

กรัชกาย เข้าใจไหมครับว่า แม่นางนั้น จิตฟุ้งไปกับนามรูป ที่ปรากฏ
ไม่มีสติ ไม่มีสมาธิ

ด้วยเหตุใด
1.นางไม่มีศรัทธาปสาธะ ต่อหลักธรรมที่ถูกต้อง รู้ได้อย่างไร
รู้ได้ที่แม่นางบอกว่า ไม่มีครูอาจารย์แนะนำ
2.แม่นางเกิดความฟุ้ง อันเป็นเครื่องกั้นปัญญา และยังตามความฟุ้งนั้นไปเรื่อยๆ
การตามความฟุ้งนั้นไป คือการทำให้จิตตกอยู่ใตอำนาจกิเลส
ความเพียรนั้น จึงไม่ใช่ความเพียรอันเป็นเครื่องนำออกจากกิเลส
3.เพราะแม่นางไม่มีหลักธรรมอันถูกต้องเป็นเครื่องทำสติให้เกิดขึ้น การกระทำของแม่นางนั้น จึงไม่มีสติ
4.เมื่อไม่มีสติ จิตก็ไหลไปตามนามรูป ไปพัวพันต่อนามรูปนั้น อย่างนี้ เรียกว่า จิตไม่ตั้งมั่นขาดความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
5.เมื่อจิตไม่ตั้งมั่นขาดความรู้สึกตัวทั่วพร้อม จิตจึงตกอยู่ในอำนาจกิเลสของกระแสอารมณ์ที่ปรากฏ

ข้อ 1-5 เป็นการอธิบาย การขาดอินทรีย์ 5 หรือองค์ธรรมที่จำเป็นต่อการนำจิตออกจากกิเลส

อินทรีย์ 5 ประการนี้จึงเป็นที่ยึดเหนี่ยวของจิตต่อการนำออกจากกิเลส

กรัชกาย พอจะเข้าใจไหมครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แก้ไขล่าสุดโดย เช่นนั้น เมื่อ 21 พ.ค. 2014, 21:39, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 21:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
บอกความหมายศัพท์ก่อน จะดูว่า เช่นนั้น เข้าใจความหมายศัพท์เขายังไง :b1:

เช่นนั้นจำเป็นต้องเปิดปทานุกรมคำศัพท์ ให้กรัชกายหรือไม่ครับ



เอาตามที่เช่นนั้นเข้าใจ แล้วนำมาพูดครับ เข้าใจยังไงก็พูดยังงั้น
ว่าไป

สติ

สัมปชัญญะ

สมาธิ

นาม

รูป

สภาวธรรม

ปัญญา

อารมณ์


แยกเอาจากข้อความที่เรียบเรียงสวยๆข้างบนนั่นเอง


เสียเวลา โยกโย้ ครับกรัชกาย
กรัชกาย ไม่เข้าใจสภาวะธรรมของแม่นางคนนั้น ก็ยอมรับมาเถอะครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 21:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
บอกความหมายศัพท์ก่อน จะดูว่า เช่นนั้น เข้าใจความหมายศัพท์เขายังไง :b1:

เช่นนั้นจำเป็นต้องเปิดปทานุกรมคำศัพท์ ให้กรัชกายหรือไม่ครับ



เอาตามที่เช่นนั้นเข้าใจ แล้วนำมาพูดครับ เข้าใจยังไงก็พูดยังงั้น
ว่าไป

สติ

สัมปชัญญะ

สมาธิ

นาม

รูป

สภาวธรรม

ปัญญา

อารมณ์


แยกเอาจากข้อความที่เรียบเรียงสวยๆข้างบนนั่นเอง


เสียเวลา โยกโย้ ครับกรัชกาย
กรัชกาย ไม่เข้าใจสภาวะธรรมของแม่นางคนนั้น ก็ยอมรับมาเถอะครับ



เช่นนั้น เข้าใจความหมายศัพท์บาลีที่นำมานั่นไหม :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 21:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เข้าใจความหมายศัพท์บาลีที่นำมานั่นไหม :b32:

กรัชกาย เข้าใจสภาวะธรรมที่เกิดขึ้น ขณะนั้นของแม่นางอย่างถูกต้องไหม

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 21:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เข้าใจความหมายศัพท์บาลีที่นำมานั่นไหม :b32:

กรัชกาย เข้าใจสภาวะธรรมที่เกิดขึ้น ขณะนั้นของแม่นางอย่างถูกต้องไหม



สภาวธรรม หมายถึงอะไรยังไง ตามนิยามของเช่นนั้น :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 288 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 ... 20  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร