วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 04:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 288 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 20  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 15:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ยกมาเลยนี่ เช่นนั้น แนะนำเหตุปัจจัยให้เกิดสติปัญญาหน่อยว่าไป เอ้า :b12:

อ้างคำพูด:
ดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว

ที่กรัชกายยังไม่จบเลย
อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ


เรื่องอาราย :b1:


เรื่องกรัชกาย มีความเห็นเกี่ยวกับสภาวะของแม่นางคนนี้ผิดไปจากความเป็นจริงล่ะครับ

การให้คำแนะนำใดๆ จากกัลยาณมิตร เพื่อให้แม่นางมีสติมีปัญญาได้

ความรู้ของกัลยาณมิตรผู้นั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 15:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
บอกตรงๆนะขอรับ เช่นนั้น ไม่มีหลักการภาคปฏิบัติ อย่าง่เด่งก็แค่ยกเอาศัพท์ทางธรรม เช่น สติสัมปชัญญะ สมาธิ ฯลฯ นั่นนี่แล้วก็หลับตาจินตนาการว่า ต้องยังงี้ยังงั้น ถึงจะนั่นจะนี่ แค่นี้
เช่นนั้นรับได้ไหมครับ :b1:


เช่นนั้น น้อมรับคำเหล่านั้นและนำไปศึกษาใคร่ครวญ
ขอบคุณครับ


ถูกต้องขอรับ รู้จักประเมินสิ่งที่ตนรู้ ไม่รู้ กรัชกายพูดจริงๆ เช่นนั้น ไม่เช้าใจสภาวธรรมของนามรูปขอรับ ถ้าถามว่า รู้ได้ยังไง ตอบ รู้ได้ตรงที่เอาตัวอย่างภาคปฏิบัติมาถาม แต่เช่นก็เฉไปเรื่องอื่น ไปยกสติปัญญา ยกศีล ยกสมาธิ ยกกัลยาณมิตรมา เขาถามอย่างตอบอย่าง คือตอบตามที่ตนเองรู้ ไม่รู้ตามที่เขาถาม ถูกไหมขอรับ


กรัชกาย จะไปแก้ปัญหาให้เขา
ถ้าไม่ประเมินความรู้ความเข้าใจ ในตนเองก่อนว่ารู้จริงหรือไม่

การให้คำแนะนำใดๆ ก็เป็นอันตรายได้เช่นกันครับ
การแก้ปัญหาของแม่นางนี้ เช่นนั้นไม่ได้เฉไปเรื่องอื่นเลย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 15:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ยกมาเลยนี่ เช่นนั้น แนะนำเหตุปัจจัยให้เกิดสติปัญญาหน่อยว่าไป เอ้า :b12:

อ้างคำพูด:
ดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว

ที่กรัชกายยังไม่จบเลย
อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ


เรื่องอาราย :b1:


เรื่องกรัชกาย มีความเห็นเกี่ยวกับสภาวะของแม่นางคนนี้ผิดไปจากความเป็นจริงล่ะครับ

การให้คำแนะนำใดๆ จากกัลยาณมิตร เพื่อให้แม่นางมีสติมีปัญญาได้

ความรู้ของกัลยาณมิตรผู้นั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ


อย่างที่ว่า เช่นนั้น รู้จักแต่ศัพท์สวยๆ

ก็เมื่อเขากำหนดลมหายใจเข้า-ออก หรืออานาปานะแล้วๆเล่าๆไป สภาวธรรมของนามรูปปรากฏดังนี้

อ้างคำพูด:
ดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว


มันก็เป็นดังนั้น แล้วเช่นนั้น จะให้มันเป็นเช่นไร บอกหน่อยสิ เอ้า :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 15:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ยกมาเลยนี่ เช่นนั้น แนะนำเหตุปัจจัยให้เกิดสติปัญญาหน่อยว่าไป เอ้า :b12:

อ้างคำพูด:
ดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว

ที่กรัชกายยังไม่จบเลย
อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ


เรื่องอาราย :b1:


เรื่องกรัชกาย มีความเห็นเกี่ยวกับสภาวะของแม่นางคนนี้ผิดไปจากความเป็นจริงล่ะครับ

การให้คำแนะนำใดๆ จากกัลยาณมิตร เพื่อให้แม่นางมีสติมีปัญญาได้

ความรู้ของกัลยาณมิตรผู้นั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ


อย่างที่ว่า เช่นนั้น รู้จักแต่ศัพท์สวยๆ

ก็เมื่อเขากำหนดลมหายใจเข้า-ออก หรืออานาปานะแล้วๆเล่าๆไป สภาวธรรมของนามรูปปรากฏดังนี้

อ้างคำพูด:
ดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว


มันก็เป็นดังนั้น แล้วเช่นนั้น จะให้มันเป็นเช่นไร บอกหน่อยสิ เอ้า :b1:


สิ่งที่ปรากฏแก่กรัชกาย โดยเห็นผิดว่า สภาวะแห่งสมาธิ เกิดขึ้นแก่แม่นางคนนั้นเพราะ มนสิการ

สภาวธรรมนี้ ปรากฏแก่นางจริงหรือเปล่าครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 15:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ยกมาเลยนี่ เช่นนั้น แนะนำเหตุปัจจัยให้เกิดสติปัญญาหน่อยว่าไป เอ้า :b12:

อ้างคำพูด:
ดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว

ที่กรัชกายยังไม่จบเลย
อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ


เรื่องอาราย :b1:


เรื่องกรัชกาย มีความเห็นเกี่ยวกับสภาวะของแม่นางคนนี้ผิดไปจากความเป็นจริงล่ะครับ

การให้คำแนะนำใดๆ จากกัลยาณมิตร เพื่อให้แม่นางมีสติมีปัญญาได้

ความรู้ของกัลยาณมิตรผู้นั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ


อย่างที่ว่า เช่นนั้น รู้จักแต่ศัพท์สวยๆ

ก็เมื่อเขากำหนดลมหายใจเข้า-ออก หรืออานาปานะแล้วๆเล่าๆไป สภาวธรรมของนามรูปปรากฏดังนี้

อ้างคำพูด:
ดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว


มันก็เป็นดังนั้น แล้วเช่นนั้น จะให้มันเป็นเช่นไร บอกหน่อยสิ เอ้า :b1:


สิ่งที่ปรากฏแก่กรัชกาย โดยเห็นผิดว่า สภาวะแห่งสมาธิ เกิดขึ้นแก่แม่นางคนนั้นเพราะ มนสิการ

สภาวธรรมนี้ ปรากฏแก่นางจริงหรือเปล่าครับ


เช่นนั้น นี่ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน คิกๆๆ ก็เขาบอกอยู่โต้งๆเนี่ยะ

ดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว



แล้วยังมาว่าว่า

อ้างคำพูด:
สภาวธรรมนี้ ปรากฏแก่นางจริงหรือเปล่าครับ


ท่านเช่นนั้น :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 15:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
หัวข้อเดิมเขา "ไม่มีครูอาจารย์คอยแนะนำเรื่องนั่งสมาธิ อยากถามผู้เรื่องการนั่ง"

แต่กรัชกายเปลี่ยนชื่อ "ถามนักปฏิบัติ" :b1: เอาชัดๆไปเลย

เขาถามดังนี้ครับ

ไม่มีครูบาอาจารย์คอยแนะนำเรื่องนั่งสมาธิ อยากถามผู้รู้เรื่องการนั่ง


คือดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว

ดิฉันอยากถามผู้รู้ว่าที่ดิฉันเห็นแบบนั้นเพราะอะไร และดิฉันมีความสนใจเรื่องณานขั้นต่างๆ อยากรู้วิธิฝึกของแต่ละขั้น แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราฝึกได้ถึงขั้นใหน ดิฉันไม่มีครูบาอาจารย์ที่คอยชี้แนะ ได้แต่อ่านตามหนังสือ แล้วลองนั่งเอง ไม่รู้ว่าที่นั่งอยู่ทำถูกหรือว่าผิด

ดิฉันนั่งโดยการกำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ จนกว่าขาจะเป็นเหน็บชา พอทนไม่ไหวจิงๆก็จะออกจากสมาธิ แล้วก็แผ่เมตตา หลายครั้งคิดว่าจะฝืนนั่งให้นานที่สุด แต่มันก็ปวดขาจิงๆไม่มีสมาธิจะนั่งต่อเลย อยากรู้ว่าคนอื่นๆเค้าทำยังไงเวลานั่งจนปวดขาแล้ว เลิกนั่งเลยหรือเปล่า


กรัชกาย ก่อนจะแนะนำอะไร ไปนั้น
แม่นาง บอกว่า ลองนั่งสมาธิ

กรัชกายลงความเห็นลงไปแล้วว่า แม่นางมีสมาธิ ด้วยมนสิการ

สภาวะธรรมนี้ มีจริงหรือไม่
ส่วนสภาวะธรรมอื่นๆ ค่อยว่ากันไป เพราะถ้าตั้งต้นผิดไปแล้ว ก็เหมือนกับกลัดกระดุมผิดเม็ด

เช่นนั้น จึงต้องซักซ้อมความเข้าใจ ให้ตรงกันเสียก่อน
ไม่ได้เป็นการตีสำนวนโวหารแต่ประการใด

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 15:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
หัวข้อเดิมเขา "ไม่มีครูอาจารย์คอยแนะนำเรื่องนั่งสมาธิ อยากถามผู้เรื่องการนั่ง"

แต่กรัชกายเปลี่ยนชื่อ "ถามนักปฏิบัติ" :b1: เอาชัดๆไปเลย

เขาถามดังนี้ครับ

ไม่มีครูบาอาจารย์คอยแนะนำเรื่องนั่งสมาธิ อยากถามผู้รู้เรื่องการนั่ง


คือดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว

ดิฉันอยากถามผู้รู้ว่าที่ดิฉันเห็นแบบนั้นเพราะอะไร และดิฉันมีความสนใจเรื่องณานขั้นต่างๆ อยากรู้วิธิฝึกของแต่ละขั้น แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราฝึกได้ถึงขั้นใหน ดิฉันไม่มีครูบาอาจารย์ที่คอยชี้แนะ ได้แต่อ่านตามหนังสือ แล้วลองนั่งเอง ไม่รู้ว่าที่นั่งอยู่ทำถูกหรือว่าผิด

ดิฉันนั่งโดยการกำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ จนกว่าขาจะเป็นเหน็บชา พอทนไม่ไหวจิงๆก็จะออกจากสมาธิ แล้วก็แผ่เมตตา หลายครั้งคิดว่าจะฝืนนั่งให้นานที่สุด แต่มันก็ปวดขาจิงๆไม่มีสมาธิจะนั่งต่อเลย อยากรู้ว่าคนอื่นๆเค้าทำยังไงเวลานั่งจนปวดขาแล้ว เลิกนั่งเลยหรือเปล่า


กรัชกาย ก่อนจะแนะนำอะไร ไปนั้น
แม่นาง บอกว่า ลองนั่งสมาธิ

กรัชกายลงความเห็นลงไปแล้วว่า แม่นางมีสมาธิ ด้วยมนสิการ

สภาวะธรรมนี้ มีจริงหรือไม่
ส่วนสภาวะธรรมอื่นๆ ค่อยว่ากันไป เพราะถ้าตั้งต้นผิดไปแล้ว ก็เหมือนกับกลัดกระดุมผิดเม็ด

เช่นนั้น จึงต้องซักซ้อมความเข้าใจ ให้ตรงกันเสียก่อน
ไม่ได้เป็นการตีสำนวนโวหารแต่ประการใด


กำหนดลมหายเข้าออกไปๆๆๆๆ สติ สัมปชัญญะ สมาธิ เป็นต้น จะค่อยๆเจริญขึ้นๆ

ถ้าเขาไม่มีสมาธิ จะไม่ประสบสภาวะเช่นว่านั้น ตัวอย่างก็เช่นคนทั่วๆไป ทั้งที่สภาวะเช่นนั้นเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปตลอดเวลาตามธรรมดาของมัน แต่คนทัวไปก็ไม่รู้ ต่อเมื่อมากำหนดนามรูปเช่นนั้น จิตมีสมาธิเป็นต้นบ้าง มันก็ปรากฎ นี่่มันเป็นอย่างนี้นะเช่นนั้น :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 16:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ว่าไงท่านเช่นนั้น เห็นด้วยไหมข้างบน :b1:

เอาอีกนะ

อ้างคำพูด:
เรื่องมีอยู่ว่า หนูนั่งไปแล้วเกิดเห็นร่างตัวเองเสียอย่างนั้น คือยืนมองตัวเองอยู่ ทีนี้พอเล่าให้แม่ฟัง ท่านก้เกิดกลัวขึ้นมา ว่าหนูจะไม่กลับมาอีก หนูเองก็ไม่ได้กลัวการที่จะตายหรอกนะคะ แต่สงสารท่านเหมือนกัน

หนูจึงขอเรียนถามว่า มีสิทธิ์เกิดอันตรายจากภาวะนี้ไหม หนูจะเอาไปตอบคำถามแม่ค่ะ


ท่านเช่นนั้น บอกเหตุปัจจัยให้เกิดสติปัญญาหน่อยสิขอรับ :b31:

แต่จะพุดแทงใจดำหน่อยนะ อย่างที่พูดมาแล้ว คือท่านเช่นนั้น รู้จักแต่ศัพท์สวยๆ คิกๆๆ แต่ไม่เคยลงมือทำลงมือภาวนา จึงไม่เข้าใจเรื่องภาวนา :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 21 พ.ค. 2014, 16:04, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 16:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
หัวข้อเดิมเขา "ไม่มีครูอาจารย์คอยแนะนำเรื่องนั่งสมาธิ อยากถามผู้เรื่องการนั่ง"

แต่กรัชกายเปลี่ยนชื่อ "ถามนักปฏิบัติ" :b1: เอาชัดๆไปเลย

เขาถามดังนี้ครับ

ไม่มีครูบาอาจารย์คอยแนะนำเรื่องนั่งสมาธิ อยากถามผู้รู้เรื่องการนั่ง


คือดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว

ดิฉันอยากถามผู้รู้ว่าที่ดิฉันเห็นแบบนั้นเพราะอะไร และดิฉันมีความสนใจเรื่องณานขั้นต่างๆ อยากรู้วิธิฝึกของแต่ละขั้น แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราฝึกได้ถึงขั้นใหน ดิฉันไม่มีครูบาอาจารย์ที่คอยชี้แนะ ได้แต่อ่านตามหนังสือ แล้วลองนั่งเอง ไม่รู้ว่าที่นั่งอยู่ทำถูกหรือว่าผิด

ดิฉันนั่งโดยการกำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ จนกว่าขาจะเป็นเหน็บชา พอทนไม่ไหวจิงๆก็จะออกจากสมาธิ แล้วก็แผ่เมตตา หลายครั้งคิดว่าจะฝืนนั่งให้นานที่สุด แต่มันก็ปวดขาจิงๆไม่มีสมาธิจะนั่งต่อเลย อยากรู้ว่าคนอื่นๆเค้าทำยังไงเวลานั่งจนปวดขาแล้ว เลิกนั่งเลยหรือเปล่า


กรัชกาย ก่อนจะแนะนำอะไร ไปนั้น
แม่นาง บอกว่า ลองนั่งสมาธิ

กรัชกายลงความเห็นลงไปแล้วว่า แม่นางมีสมาธิ ด้วยมนสิการ

สภาวะธรรมนี้ มีจริงหรือไม่
ส่วนสภาวะธรรมอื่นๆ ค่อยว่ากันไป เพราะถ้าตั้งต้นผิดไปแล้ว ก็เหมือนกับกลัดกระดุมผิดเม็ด

เช่นนั้น จึงต้องซักซ้อมความเข้าใจ ให้ตรงกันเสียก่อน
ไม่ได้เป็นการตีสำนวนโวหารแต่ประการใด


กำหนดลมหายเข้าออกไปๆๆๆๆ สติ สัมปชัญญะ สมาธิ เป็นต้น จะค่อยๆเจริญขึ้นๆ

ถ้าเขาไม่มีสมาธิ จะไม่ประสบสภาวะเช่นว่านั้น ตัวอย่างก็เช่นคนทั่วๆไป ทั้งที่สภาวะเช่นนั้นเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปตลอดเวลาตามธรรมดาของมัน แต่คนทัวไปก็ไม่รู้ ต่อเมื่อมากำหนดนามรูปเช่นนั้น จิตมีสมาธิเป็นต้นบ้าง มันก็ปรากฎ นี่่มันเป็นอย่างนี้นะเช่นนั้น :b1:


การเอาอารมณ์ภายนอกเป็นตัวตั้ง ที่คนทั่วๆไปเข้าใจกัน นั่นคือภูมินัยของปุถุชนไงล่ะครับ
ว่า สติสัมปชัญญะ สมาธิ จะเจริญขึ้น

จึงนึกเอาเองว่าการฟุ้งไปกับนามรูป คือการเจริญสมาธิ

ปัญหาจึงมีว่า สภาวะธรรมที่เป็นสมาธิ มีสติมีปัญญา นั้นปรากฏแก่แม่นางคนนั้นจริงหรือไม่

อารมณ์ที่ถูกกำหนด ด้วยวัตถุแห่งอารมณ์ เป็นเพียงนิมิตหมายของสติสัมปชัญญะ และสมาธิ
จิตที่เคลื่อนไปจากสติสัมปชัญญะ ไปตามอารมณ์ที่ปรากฏ ย่อมทำให้ สติสัมปชัญญะหายไป เป็นอันตรายแก่สมาธิ คือทำให้สมาธิหายไป

แม่นางคนนั้น ฟุ้งไปกับนามรูป ฟุ้งไปกับลมหายใจเข้าลมหายใจออก เพราะจิตตั้งไว้ไม่ได้ด้วยปัญญาด้วยสติสัมปชัญญะ

อย่างนี้
อินทรีย์ ทั้ง 5 ของนางจึงไม่ปรากฏตั้งแต่แรกเริ่มครับ กรัชกาย
จะหา ศรัทธา หาความเพียร หาสติ หาสมาธิ หาปัญญาใดๆ ไม่ปรากฏครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 16:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
หัวข้อเดิมเขา "ไม่มีครูอาจารย์คอยแนะนำเรื่องนั่งสมาธิ อยากถามผู้เรื่องการนั่ง"

แต่กรัชกายเปลี่ยนชื่อ "ถามนักปฏิบัติ" :b1: เอาชัดๆไปเลย

เขาถามดังนี้ครับ

ไม่มีครูบาอาจารย์คอยแนะนำเรื่องนั่งสมาธิ อยากถามผู้รู้เรื่องการนั่ง


คือดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว

ดิฉันอยากถามผู้รู้ว่าที่ดิฉันเห็นแบบนั้นเพราะอะไร และดิฉันมีความสนใจเรื่องณานขั้นต่างๆ อยากรู้วิธิฝึกของแต่ละขั้น แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราฝึกได้ถึงขั้นใหน ดิฉันไม่มีครูบาอาจารย์ที่คอยชี้แนะ ได้แต่อ่านตามหนังสือ แล้วลองนั่งเอง ไม่รู้ว่าที่นั่งอยู่ทำถูกหรือว่าผิด

ดิฉันนั่งโดยการกำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ จนกว่าขาจะเป็นเหน็บชา พอทนไม่ไหวจิงๆก็จะออกจากสมาธิ แล้วก็แผ่เมตตา หลายครั้งคิดว่าจะฝืนนั่งให้นานที่สุด แต่มันก็ปวดขาจิงๆไม่มีสมาธิจะนั่งต่อเลย อยากรู้ว่าคนอื่นๆเค้าทำยังไงเวลานั่งจนปวดขาแล้ว เลิกนั่งเลยหรือเปล่า


กรัชกาย ก่อนจะแนะนำอะไร ไปนั้น
แม่นาง บอกว่า ลองนั่งสมาธิ

กรัชกายลงความเห็นลงไปแล้วว่า แม่นางมีสมาธิ ด้วยมนสิการ

สภาวะธรรมนี้ มีจริงหรือไม่
ส่วนสภาวะธรรมอื่นๆ ค่อยว่ากันไป เพราะถ้าตั้งต้นผิดไปแล้ว ก็เหมือนกับกลัดกระดุมผิดเม็ด

เช่นนั้น จึงต้องซักซ้อมความเข้าใจ ให้ตรงกันเสียก่อน
ไม่ได้เป็นการตีสำนวนโวหารแต่ประการใด


กำหนดลมหายเข้าออกไปๆๆๆๆ สติ สัมปชัญญะ สมาธิ เป็นต้น จะค่อยๆเจริญขึ้นๆ

ถ้าเขาไม่มีสมาธิ จะไม่ประสบสภาวะเช่นว่านั้น ตัวอย่างก็เช่นคนทั่วๆไป ทั้งที่สภาวะเช่นนั้นเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปตลอดเวลาตามธรรมดาของมัน แต่คนทัวไปก็ไม่รู้ ต่อเมื่อมากำหนดนามรูปเช่นนั้น จิตมีสมาธิเป็นต้นบ้าง มันก็ปรากฎ นี่่มันเป็นอย่างนี้นะเช่นนั้น :b1:


การเอาอารมณ์ภายนอกเป็นตัวตั้ง ที่คนทั่วๆไปเข้าใจกัน นั่นคือภูมินัยของปุถุชนไงล่ะครับ
ว่า สติสัมปชัญญะ สมาธิ จะเจริญขึ้น

จึงนึกเอาเองว่าการฟุ้งไปกับนามรูป คือการเจริญสมาธิ

ปัญหาจึงมีว่า สภาวะธรรมที่เป็นสมาธิ มีสติมีปัญญา นั้นปรากฏแก่แม่นางคนนั้นจริงหรือไม่

อารมณ์ที่ถูกกำหนด ด้วยวัตถุแห่งอารมณ์ เป็นเพียงนิมิตหมายของสติสัมปชัญญะ และสมาธิ
จิตที่เคลื่อนไปจากสติสัมปชัญญะ ไปตามอารมณ์ที่ปรากฏ ย่อมทำให้ สติสัมปชัญญะหายไป เป็นอันตรายแก่สมาธิ คือทำให้สมาธิหายไป

แม่นางคนนั้น ฟุ้งไปกับนามรูป ฟุ้งไปกับลมหายใจเข้าลมหายใจออก เพราะจิตตั้งไว้ไม่ได้ด้วยปัญญาด้วยสติสัมปชัญญะ

อย่างนี้
อินทรีย์ ทั้ง 5 ของนางจึงไม่ปรากฏตั้งแต่แรกเริ่มครับ กรัชกาย
จะหา ศรัทธา หาความเพียร หาสติ หาสมาธิ หาปัญญาใดๆ ไม่ปรากฏครับ



เอาศัพท์สวยๆเพียบ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 16:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เขาถามอย่างตอบอย่าง รำคาญ แค่นี้ก่อนนะ คืนพบกันใหม่ บาย คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 16:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เอาศัพท์สวยๆเพียบ คิกๆๆ


สวยตรงไหนครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 16:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เขาถามอย่างตอบอย่าง รำคาญ แค่นี้ก่อนนะ คืนพบกันใหม่ บาย คิกๆๆ

รำคาญ มาจาก โทสะมูลเหตุ
สวัสดีครับกรัชกาย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 19:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
หัวข้อเดิมเขา "ไม่มีครูอาจารย์คอยแนะนำเรื่องนั่งสมาธิ อยากถามผู้เรื่องการนั่ง"

แต่กรัชกายเปลี่ยนชื่อ "ถามนักปฏิบัติ" :b1: เอาชัดๆไปเลย

เขาถามดังนี้ครับ

ไม่มีครูบาอาจารย์คอยแนะนำเรื่องนั่งสมาธิ อยากถามผู้รู้เรื่องการนั่ง


คือดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว

ดิฉันอยากถามผู้รู้ว่าที่ดิฉันเห็นแบบนั้นเพราะอะไร และดิฉันมีความสนใจเรื่องณานขั้นต่างๆ อยากรู้วิธิฝึกของแต่ละขั้น แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราฝึกได้ถึงขั้นใหน ดิฉันไม่มีครูบาอาจารย์ที่คอยชี้แนะ ได้แต่อ่านตามหนังสือ แล้วลองนั่งเอง ไม่รู้ว่าที่นั่งอยู่ทำถูกหรือว่าผิด

ดิฉันนั่งโดยการกำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ จนกว่าขาจะเป็นเหน็บชา พอทนไม่ไหวจิงๆก็จะออกจากสมาธิ แล้วก็แผ่เมตตา หลายครั้งคิดว่าจะฝืนนั่งให้นานที่สุด แต่มันก็ปวดขาจิงๆไม่มีสมาธิจะนั่งต่อเลย อยากรู้ว่าคนอื่นๆเค้าทำยังไงเวลานั่งจนปวดขาแล้ว เลิกนั่งเลยหรือเปล่า


กรัชกาย ก่อนจะแนะนำอะไร ไปนั้น
แม่นาง บอกว่า ลองนั่งสมาธิ

กรัชกายลงความเห็นลงไปแล้วว่า แม่นางมีสมาธิ ด้วยมนสิการ

สภาวะธรรมนี้ มีจริงหรือไม่
ส่วนสภาวะธรรมอื่นๆ ค่อยว่ากันไป เพราะถ้าตั้งต้นผิดไปแล้ว ก็เหมือนกับกลัดกระดุมผิดเม็ด

เช่นนั้น จึงต้องซักซ้อมความเข้าใจ ให้ตรงกันเสียก่อน
ไม่ได้เป็นการตีสำนวนโวหารแต่ประการใด


กำหนดลมหายเข้าออกไปๆๆๆๆ สติ สัมปชัญญะ สมาธิ เป็นต้น จะค่อยๆเจริญขึ้นๆ

ถ้าเขาไม่มีสมาธิ จะไม่ประสบสภาวะเช่นว่านั้น ตัวอย่างก็เช่นคนทั่วๆไป ทั้งที่สภาวะเช่นนั้นเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปตลอดเวลาตามธรรมดาของมัน แต่คนทัวไปก็ไม่รู้ ต่อเมื่อมากำหนดนามรูปเช่นนั้น จิตมีสมาธิเป็นต้นบ้าง มันก็ปรากฎ นี่่มันเป็นอย่างนี้นะเช่นนั้น :b1:


การเอาอารมณ์ภายนอกเป็นตัวตั้ง ที่คนทั่วๆไปเข้าใจกัน นั่นคือภูมินัยของปุถุชนไงล่ะครับ
ว่า สติสัมปชัญญะ สมาธิ จะเจริญขึ้น

จึงนึกเอาเองว่าการฟุ้งไปกับนามรูป คือการเจริญสมาธิ

ปัญหาจึงมีว่า สภาวะธรรมที่เป็นสมาธิ มีสติมีปัญญา นั้นปรากฏแก่แม่นางคนนั้นจริงหรือไม่

อารมณ์ที่ถูกกำหนด ด้วยวัตถุแห่งอารมณ์ เป็นเพียงนิมิตหมายของสติสัมปชัญญะ และสมาธิ
จิตที่เคลื่อนไปจากสติสัมปชัญญะ ไปตามอารมณ์ที่ปรากฏ ย่อมทำให้ สติสัมปชัญญะหายไป เป็นอันตรายแก่สมาธิ คือทำให้สมาธิหายไป

แม่นางคนนั้น ฟุ้งไปกับนามรูป ฟุ้งไปกับลมหายใจเข้าลมหายใจออก เพราะจิตตั้งไว้ไม่ได้ด้วยปัญญาด้วยสติสัมปชัญญะ

อย่างนี้
อินทรีย์ ทั้ง 5 ของนางจึงไม่ปรากฏตั้งแต่แรกเริ่มครับ กรัชกาย
จะหา ศรัทธา หาความเพียร หาสติ หาสมาธิ หาปัญญาใดๆ ไม่ปรากฏครับ



เอาศัพท์สวยๆเพียบ คิกๆๆ




เช่นนั้น ช่วยบอกความหมายของศัพท์สวยๆ ที่ตนเองนำมาหน่อยสิครับ นี่

สติ

สัมปชัญญะ

สมาธิ

นาม

รูป

สภาวธรรม

ปัญญา

อารมณ์

อินทรีย์ ทั้ง 5 (อะไรบ้าง บอกพร้อมความหมายแต่ละตัวๆ)

ศรัทธา

ความเพียร (เพียรยังไง เพียรในอะไร)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 19:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เขาถามอย่างตอบอย่าง รำคาญ แค่นี้ก่อนนะ คืนพบกันใหม่ บาย คิกๆๆ

รำคาญ มาจาก โทสะมูลเหตุ
สวัสดีครับกรัชกาย


นั่นคือรู้ตามตำราอภิธรรม ดังนั้น บอกวิธีปฏิบัติเพื่อสติปัญญาเกิดขึ้นเพื่อละกุกกุจจะเป็นวิทยาทานหน่อยครับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 288 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 20  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร