ปฏิเสธไม่ได้ว่า...หน่วยงานใดหรือสังคมใด...จะมีความสุข..งานการมีประสิทธิภาพ...มีความเจริญวัฒนาถาวร..ได้นั้น

นอกจากบุคคลากรหรือประชากรในสังคมนั้นแล้ว..หัวหน้าผู้บังคับบัญชาหน่วยงานหรือ
ผู้นำในสังคมนั้นๆ...มีส่วนอย่างมากในการนำสังคมหรือหน่วยงานนั้นๆ....ประสพกับความสำเร็จสมความประสงค์ได้

นอกจากความรู้ความสามารถแล้ว...คุณธรรมประจำตัวของผู้นำก้มีส่วนอย่างมาก

ทำอย่างไร..สังคมถึงจะได้ผู้นำที่มีคุณธรรม..และ..ผู้นำต้องมีคุณสมบัติทางธรรมอย่างไร?

และในฐานะ...เป็นคนในสังคมนั้นๆ...ควรมีคุณธรรมอย่างไร

คุณกบฯเขียน




ถ้าหากผู้นำใช้หลักคุณธรรมอย่างเดียว เรามองว่าไปไม่รอด เพราะถ้าไปเจอลูกน้องบ้าอำนาจ
อยากได้อำนาจ ต่อให้ผู้นำมีคุณธรรมสูงงงงงแค่ไหน ก็ต้องมีปัญหาค่ะ

คุณกบฯต้องเข้าใจนะ โลกทางธรรมคือโลกที่ไม่ต้องไปเวีนว่ายในกิเลสทั้งหลาย
แต่ผู้ที่อยู่ในโลกแสงสี ส่วนใหญ่ทุกคนก็ยังต้องเวียนว่ายอยู่ในกิเลสทั้งนั้นนะ
มุมมองของเรา เราคิดว่า
หาผู้นำที่มีความชั่วน้อยยยที่สุดให้ได้ก่อนดีกว่าค่ะ

เขามีอำนาจย้ายได้ เพื่อ...

กบ ดูตัวอย่างนี่ซี่

http://www.thaigov.go.th/governmental/item/33159-.html

คนเรา...ก็มีทั้งดี..และ..ไม่ดี..อยู่ในตัวคนทุกคนอยู่แล้ว...แล้วแต่ว่า...ณ. เวลานั้น...ฝ่ายดีหรือฝ่ายชั่ว...มันทำงาน

หากสิ่งแวดล้อมเหมาะสมกับฝ่ายดีทำงาน...ไม่เหมาะสมกับฝ่ายชั่ว....คนเราก็พร้อมที่จะทำดี...
แต่ว่า...หากสถานะการณ์ไหนเป็นใจให้ฝ่ายต่ำทำงาน....ความชั่วจะออกมาเผ่นผ่านทันที...

ตัวอย่าง...หากมีคนปาระเบิดร้อยครั้ง...ก็จับได้ร้อยครั้ง....คนคิดจะทำต่อไปก็ต้องชั่งใจหนักเหมือนกัน

หรือ....เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง...ใช้ผลงานล้วนๆ...จะยัดเงินก็ไม่ได้...คนทำงานก็ไม่ต้องเสียเวลาทุจริตหาเงินมาซื้อตำแหน่ง...ตำรวจก็ไม่ต้องไปรีดไถ่ให้เหนื่อย....ตั้งบ่อน..คุมซ่อง....ให้เสี่ยงกับรำแหน่งหน้าที่การงานให้ลำบาก...สังคมก็สงบขึ้นเยอะครับ...

ได้ฟังคำแก้ต่างขอจำเลยมั้ยครับ...เขาว่า...เป็นนโยบายหลักเรื่องความมั่นคง..จึงต้องการผู้มีประสบการณ์สูงมาเป็นที่ปรึกษา...

ตลกมากเลย..ถ้าเห็นว่าดีจริงไปดึงเขาออกจากงานประจำเขาทำไม...ก็งานประจำเขามีหน้าที่นี้อยู่แล้ว...

ตลกชั้นที่สอง...บอกว่าเน้นความมั่นคงแต่ไปเอาคนที่ไม่ได้ทำงานประเภทนี้มาดูแลแทน...

ตลกน้ำตาไหล..เรย..

http://www.google.co.th/url?sa=t&source ... 6_NHVTXHSQ
คุณธรรมสำหรับนักบริหาร

นักบริหารที่ดีควรมีคุณลักษณะความเป็นผู้นำที่ดี ซึ่งประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. เป็นผู้มีบุคลิกภาพที่ดี (Good Personality) คือ เป็นผู้มีสุขภาพกาย และสุภาพจิตที่ดี

1.1 มีสุขภาพที่ดี คือ เป็นผู้มีสุขภาพอนามัยที่ดี มีท่วงท่ากิรยา รวมทั้งการแต่งกายที่สุภาพ เรียบร้อยดีงาม สะอาด และดูสง่างามสมฐานะ ิ

1.2 มีสุขภาพจิตที่ดี คือ เป็นผู้มีอัธยาศัยใจคอที่งาม เป็นคนดี มีศีลธรรม ได้แก่ ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญา กับทั้งมีกัลยาณมิตตธรรม คือมีคุณธรรมของคนดี

เป็นผู้มีศรัทธา หมายถึง เป็นผู้รู้จักศรัทธาบุคคล และข้อปฏิบัติที่ควรศรัทธาไม่ลุ่มหลงงมงายในที่ตั้งแห่งความลุ่มหลง

เป็นผู้มีศีล คือ ผู้ที่รู้จักสำรวมระวัง ความประพฤติปฏิบัติ ทางกาย และวาจาให้ เรียบร้อยดีงาม ไม่ประพฤติเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น

เป็นผู้มีสุตะ คือ ผู้ได้เรียนรู้ทางวิชาการ และได้ศึกษาค้นคว้าในวิชาชีพดี

เป็นผู้มีจาคะ คือ เป็นผู้มีจิตใจกว้างขวาง ไม่คับแคบ รู้จักเสียสละ

เป็นผู้มีวิริยะ คือ ผู้ขยันหมั่นเพียร ในการประกอบกิจการงานงานอาชีพ และ/หรือในหน้าที่รับผิดชอบ

เป็นผู้มีสติ คือ ผู้รู้จัก ยับยั้ง ชั่งใจ รู้จักคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ ก่อนคิด พูด ทำ

เป็นผู้มีสมาธิ คือ ผู้มีจิตใจตั้งมั่น ข่มกิเลสนิวรณ์

เป็นผู้มีปัญญา คือ ผู้ที่รอบรู้กองสังขาร ผู้รอบรู้สภาวธรรมที่ประกอบด้วยปัจจัยปรุงแต่ง (สังขาร) และที่ไม่ประกอบด้วยปัจจัยปรุงแต่ง (วิสังขาร คือพระนิพพาน) ผู้รู้แจ้งพระอริยสัจ 4 รวมเป็น ผู้มีปัญญาอันเห็นชอบรอบรู้ทางเจริญ ทางเสื่อม แห่งชีวิต ตามที่เป็นจริง

คิกๆๆ กบ หาได้จากใครที่ไหนหรอนักบริหารครบสูตรอย่างว่า

ก็ลองไปดูที่อื่นๆก่อนว่า..ใคร..ใคร.....คิดอย่างไรบ้าง...ดังตัวอย่างที่ไปหามา....ดูว่าเขาจับแพะชนแกะกันอย่างไรบ้าง....

นี้ก็..อีกมุมมองหนึ่ง...

ธรรมะของผู้นำ หรือนักบริหาร หรือนักปกครอง (สัปปุริสธรรม 7 )
Posted on มกราคม 21, 2011 by mekaje
สัปปุริสธรรม 7 ธัมมัญญุตา เป็นผู้รู้จักเหตุ อัตถัญญุตา เป็นผู้รู้จักผล อัตตัญญุตา เป็นผู้รู้จักตน มัตตัญญุตา เป็นผู้รู้จักประมาณ กาลัญญุตา เป็นผู้รู้จักกาล ปริสัญญุตา เป็นผู้รู้จักบุคคล ปุคคลัญญุตา หรือ ปุคคลปโรปรัญญุตา เป็นผู้รู้จักชุมชน สรุปขั้นต้นไว้ก่อนหมวดธรรมนี้ ประกอบด้วยธรรม 7 ข้อ คือ:-
1) รู้เหตุ
2) รู้ผล
3) รู้ตน 
4) รู้ประมาณ
5) รู้กาล 
6) รู้บุคคล
7) รู้ชุมชน ดังนี้

1) รู้เหตุ หมายถึง รู้ถึงสาเหตุที่เป็นเงื่อนไขให้เกิดสิ่งนั้นๆขึ้น เพราะการจะดำเนินการให้เกิดผลอย่างใด ต้องรู้สาเหตุที่เป็นเงื่อนไขของสิ่งนั้นก่อน และที่จะกระทำต่อไปก็คือ การสร้างเหตุนั้นๆ
2) รู้ผล หมายถึง รู้ว่าผลที่เกิดขึ้นนั้นๆเป็นอย่างไร จะก่อให้เกิดผลและมีผลกระทบต่อไปมากน้อยเพียงใด ก็จะสามารถที่จะรู้เท่าทัน และกระทำให้ถูกต้องตั้งแต่ต้น ว่าควรรีบระงับ หรือส่งเสริมให้เกิดขึ้น
3) รู้ตน หมายถึง รู้ว่าตนเป็นใคร เช่น เป็น ชาย/หญิง , เป็นเด็ก/ผู้ใหญ่ , มีความสามารถ และ สถานภาพทางสังคม เป็นเช่นไร? เป็นต้น สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นเงื่อนไขให้บุคคลสามารถเข้าไปดำเนินการได้มากน้อยเพียงใด
4) รู้ประมาณ หมายถึง รู้ว่าต้องเข้าไปดำเนินการเท่าใด จึงจะพอเพียงให้บรรลุผลที่ประสงค์ ลองนึกถึงเรื่องการเอาไม้มาสีกันเพื่อให้เกิดไฟก็ได้ หากสีน้อยไป ก็ไม่ถึงจุดที่ความร้อนจะสะสมมากพอจนทำให้เกิดประกายไฟ หากสีมากไป คือ เมื่อไฟติดแล้ว ก็ยังสีต่อไปอยู่นั่น ก็สิ้นเปลืองอะไรต่อมิอะไรไปเปล่าๆ
5) รู้กาล หมายถึง รู้เวลา ว่าตอนไหนควรทำ ตอนไหนไม่ควรทำ บางทีเร็วไปก็ไม่ได้ บางที่ช้าไป ก็ไม่ทันการ เป็นต้น
6) รู้บุคคล หมายถึง รู้ตัวบุคคลหรือตัวละครที่จะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ว่าเป็นใคร มีนิสัยอย่างไร ซึ่งประเด็นนี้จะเหมือนกับข้อรู้ตน เพียงแต่เปลี่ยนเป็นรู้คนอื่นในนัยะแบบเดียวกัน
7) รู้ชุมชน หมายถึง รู้กฎ กติกา มารยาท ขนบประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อของชุมชนนั้นๆ การกระทำอะไรที่ฝืนต่อสิ่งต่างๆที่กล่าวมากเกินไป หรืออย่างขาดศิลปะ ย่อมก่อให้เกิดแรงเสียดทานและต่อตาน ทำให้ประสบความสำเร็จได้ยาก

http://mekaje.wordpress.com/2011/01/21/ ... %E0%B8%A3/

กบ เมื่อ 2 ก.พ. ไปเลือกตั้งผู้แทนมั้ย

นี่มีข่าวว่า 20 ก.ค. เขาจะ ลต. กันอีกแล้วนะ แล้วจะไปมั้ยเนี่ยะ

คุณกบฯเขียน




ถ้าอย่างที่คุณกบฯเขียนมา เรามองว่านายกยิ่งลักษ์เค้าก็ใกล้เคียงนะ
บุคลิกของเค้าการวางตัว-ความนิ่ง เราถือว่าเค้าใช้ได้มากๆเลย
เพียงแต่ความเด็ดขาดยังไม่มากพอ

ยังไงๆก็ยังดีกว่า คนที่หน้าตาล๊อกแหลกหันซ้ายทีหันขวาที เวลามีเหตุการณ์อะไรเก็บอาการไม่อยู่
บุคลิกท่าทางเหมือนMr. Bean

คุณกบฯลองเอ่ยชื่อมาซิว่า คนที่เหมาะจะเป็นผู้นำตอนนี้ของคุณกบฯคือใคร
ที่มีบุคลิกใกล้เคียงกับที่คุณกบฯเขียนมา
สำหรับเรานายกยิ่งลักษ์

เราบอกก่อนนะ เราไม่ค่อยชอบการทำงานของนายกยิ่งลักษ์เท่าไหร่
เรามองว่าเค้าทำงานช้า.... แต่เค้าก็มีความตั้งใจที่จะทำงาน
คือยังไงๆ เค้าก็มีจุดเด่นเยอะกว่าMr. Bean เมืองไทย ล่ะ

คุนน้องมองเห็นแม่น้ำแยกออกเป็นสองสาย ท่าจะเปรียบเทียบกับสังคมที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็แบ่งเป็นสองฝั่ง ธรรมมะกับอธรรม ซึ่งถ้าจะยกตัวอย่างให้เห็นกันได้ชัดๆก็คือความคิด คนที่คิดไรเหมือนกันเค้าก็จะโน้นเอียงไปในทิศทางเดียวกัน คุนน้องเห็นจิตใจของมนุษย์ที่สร้างเหตุอันใดร่วมกันไว้แล้วมักจะโน้มเอียงไปในทิศทางเดียวกัน แบบว่ากระแสน้ำมันไหลเชี่ยวไหลแรง จนไม่มีแรงจะว่ายต้านกระแสน้ำนั้น มันก็จะไหลรวมกันไปในทางเดียวกัน แต่คุนน้องก็เห็นน่ะเห็นว่าในทิศทางของแม่น้ำทั้งสองสาย คุนน้องเห็นว่ามีคนที่ว่ายน้ำอยู่ในเส้นทางสายเดียวกันกับคุนน้องสายน้ำแห่งนี้ที่จะไหลไปในทิศทางเดียวกัน ว่ายน้ำไปด้วยกันโดยที่เราไม่จำเป็นต้องว่ายทวนกระแสน้ำให้เหนื่อย ส่วนแม่น้ำสายอื่นช่างมัน ปล่อยไป (คงจะเป็นอย่างอโสกะบอก ธาตุที่เหมือนกันมักจะไหลไปรวมกันเอะ ใช่ป่าวน่ะ)
ปล.มนุษย์ในยุคพระศรีอริยะเมตรไตยจะเป็นสายน้ำสายใดกันแน่ ระหว่างสองสายนี้ เราคงจะมาตัดสินชะตากันด้วยการกระทำของเราดีกว่า555+ Dreaming 'bout the things that we could be

คุณกบฯเขียน



ใช่ค่ะแต่นั่นคือต้องใช้กฎหมาย ที่ผู้ที่มีความยุติธรรมเข้ามาแก้ค่ะ
ถ้าใช้คำว่า " ผมจะทำให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน "
ถ้าสักแต่ว่าจะพูด แต่ไม่ทำซะที แก้ปัญหานี้ไม่ได้หรอกค่ะ
เราฟังตั้งแต่เราเป็นสาววัยรุ่น จนตอนนี้เราจะแก่แล้วค่ะ
ยังไม่เห็นทำได้ซะที


คุณหม้ายสาวพราวเสน่ห์เขียน


คุณน้องคิดแบบเดียวกับพี่เต้เลยค่ะ ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นความบังเอิญหรอกค่ะ
ทุกสิ่งทุกอย่าง มันต้องมาจากเหตุที่ร่วมกันมานั้นหล่ะ
บางครั้งคิดๆก็ตลกนะ พวกเราไปเป็นหางเครื่องให้พวกเค้าทำไมกันเนี่ยะ

ซึ่งจริงๆแล้วก็เห็นๆกันอยู่ สิ่งที่พวกเค้าทำกันตอนนี้ มันคือกิเลสทั้งนั้น
ต้องการอำนาจ-ต้องการแก้แค้น-ต้องการทรัพย์
ไอ้คำพูดที่พูดกันซะสวยหรูน่ะ มุสาทั้งน้านนน
ดูๆไปก็เหมือนตลกดีนะ

กบ ไปร่วมยึดทีวีกะเขาด้วยเปล่า คิกๆๆ เอากันเข้าไป เร่งสถานการณ์กันเข้าไป จำเหตุการณ์พฤษภา 35, 53 กันอยู่ไหม นี่เข้า พฤษภา 57 แระ

อันที่จริงวันเดือนปีเนื่ยะ มันก็หมุนไปตามกฎธรรมชาติ แต่นามรูป ซึงสมมติเรียกกันว่าคนเนี่ย ทำให้วันเดือนปีแปดเปื้อนด้วยคราบน้ำตาและโลหิต

คือมนุษย์หรือคนเนื่ย ใช้นามรูปในนามส่วนตัว พอเข้าใจมั้ยไม่รู้






กบ พี่ๆปิด ถ.ซ้อมกันคนอีกเนี่ยะ

http://group.wunjun.com/whatisnippana/t ... 764/reply4

ไม่แน่นะ.....ถ้ามีผู้นำดี...เหตุการณ์อย่างนี้ก็อาจไม่เกิด...ก้ได้นะ