สมมุติว่า มีพนักงานคนหนึ่งถูกบังคับให้โกงเงินบริษัท แต่ทีนี้พนักงานคนนั้นไม่อยากทำตามคำสั่งของหัวหน้า และพนักงานผู้นั้นจึงได้ปลอมแปลงเอกสารข้อมูลเพื่อปิดบังหัวหน้า

อยากทราบว่ากรณีนี้พนักงานผู้นี้จะบาปไหม เพราะไปทำเอกสารเท็จเหมือนโกหกหัวหน้าของตนเองเพื่อปกป้องทรัพย์สินของบริษัท

ไม่บาปครับแต่อาจถูกหัวหน้าขี้โกงคนนี้ยำ

หาทางเอาตัวรอดต่อก็แล้วกัน

ดูที่ เจตนา นะคะ

เพิ่งเคยเห็นออกความคิด

น้องพลอย สุขุม เยือกเย็น ถ่อมตน เป็นคนดีนะครับ ลุงหมาน ลงได้เริ่มออกรายการอย่างนี้ ไม่นานคงมีอะไรดีมาให้ชื่นใจให้เห็นอีกเยอะ

อโสกะ..ว่าลุงหมาน...มีลับลมคมใน...ไปได้

มโน...มากไปรึเปล่า

อิอิ..

ก็ไม่ใช่เรื่องลับลมคมในอะไรเลยกับน้องพลอย
ความจริงนั้น คุยกันบ่อยในเฟรสบุคครับ

อโสกะ..มาขอโทษ..ลุงหมาน...เลย..เร็วๆ..

เพราะจมอยู่ในข้างลบนานเกินไปจึงเกิดอกุศลจิตโดยไม่รู้ตัวนะกบนะ

อโศกะอนุโมทนาและอยากจะบอกย้ำให้ลุงหมานทราบว่าน้องพลอยเป็นดีและจะมีอะไรดีๆมาแสดงให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีการแสดงความเห็นครั้งที่ 1 เกิดขึ้นแล้ว ไม่นาน 2 - 3 - 4 - 5 -...........ก็จะตามมา

แต่ทำไมกบเห็นเป็นลบไปได้ น่าแปลก กบ มีจุด มีปมอะไรผูกไว้ในใจหรือเปล่า น่าจะลบทิ้งเสียโดยเร็วนะ จะได้คืนสู่ความเป็นกลางและอยู่เป็นปกติสุข

555...แสดงว่า....ผมรู้ใจอโสกะได้..

ผม...ก็รู้สึกว่า..อโสกะ..หมายถึงอย่างที่อโสกะอธิบายมานี้แหละ...

แล้วอยากรู้ว่า..อโสกะ..จะรู้ใจผม..มั้ย?...ถ้าใช้เซ็นส์...คงจะรู้ได้

แต่อโสกะ...ใช้ความคิด..มากไป...เซ็นส์เลยไม่ทำงาน...อิอิ

สำหรับผมมีความเห็นว่าการกระทำใดๆก็ตามที่ร่วมมือ สนับสนุน มีส่วนร่วม
กับทุจริตชนในกิจกรรมที่นำไปสู่ทางเสื่อมถือว่าผิดว่าบาปทั้งนั้นครับ

ในทางธรรมกล่าวว่าให้ดูที่เจตนา การที่เราใช้วิธีเกลือจิ้มเกลือ หัวหน้าปกปิด
งุบงิบบริษัท เราก็ทำเอกสารปลอมโกหกหัวหน้าซะ เจตนาก็พอๆกันคือปกป้องผล
ประโยชน์ของตนเอง แต่ผลลัพท์ที่เกิดนั้นต่างกัน หากโกงได้บริษัทเดือดร้อน
หากโกงไม่ได้บริษัทก็ไม่เดือดร้อน แต่คนที่รุ่มร้อนคือหัวหน้าและตัวเรา หัวหน้า
ร้อนเพราะโกงไม่ได้ เราร้อนเพราะกลัวถูกจับได้ว่าเป็นเอกสารปลอม

การทำเอกสารปลอมเพื่อหลอกหัวหน้า เจตนาคือกลัวโดนหัวหน้ากลั่นแกล้งใน
ภายหลังหากไม่ยอมร่วมมือ นี่คือการปกป้องตนเอง เป็นห่วงตนเอง ในขณะเดียว
กันก็คือห่วงบริษัทซึ่งเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของตนเอง

พูดง่ายๆคือเราบาปเพราะรัก บาปเพราะซื่อสัตย์กับบริษัท แต่หัวหน้าบาปเพราะ
โลภ มัวเมา อยากได้ของคนอื่นโดยมิชอบ ใช้อำนาจกดขี่บังคับเราซึ่งอยู่ใต้ปก
ครองหัวหน้าจึงบาปคูณ2 แต่เราบาปโดยถูกบังคับแต่เหตุผลพออภัย จึงรับผล
ของบาปครั้งนี้ไม่มาก

ผมอธิบายมาอ่านดูอาจดูเหมือนใจร้ายใช่มั้ยครับ ช่วยบริษัทจากอุ้งมือมารแล้วยังบาปอีก

ทำไมเราไม่ลองคิดว่า หัวหน้าให้โกง เราทำไมไม่ปฏิเสธไปตรงๆเลยล่ะว่า เราทำ
แบบนั้นไม่ได้ เราไม่ร่วมมือ หากโดนกลั่นแกล้งในภายหลัง ก็พยายามหาหลักฐาน
ยื่นเรื่องไปให้ผู้ใหญ่ได้พิจารณา หรือหากยื่นไปแล้วผู้ใหญ่ของบริษัทไม่เชื่อเรา อันนี้
ก็แล้วแต่เวรกรรมของบริษัท เพราะเราก็ทำได้เท่านี้ เขาไม่ฟังเราก็ช่วยไม่ได้นะ ทุก
คนมีกรรมเป็นของตน ส่วนเราก็หางานใหม่ อย่าไปอยู่ใกล้คนโกงครับ หางานใหม่ก็ได้
ชีวิตมีทางออกเสมอ

แต่ถ้าพูดถึงทางโลกเราก็จะบอกว่าเราไม่ผิด หัวหน้าผิดคนเดียว ส่วนเราเป็นฮีโร่ที่
ปกป้องบริษัท ที่จริงควรจะเป็นแบบนั้น แต่วิธีการมันไม่ถูกต้องเท่านั้นเองครับ เจตนา
ดีแต่ผิดที่วิธีการ