มีผู้ถามใน facebook



ขอตอบแบบตามที่เคยอ่านเจอมานะครับ
ผู้ที่ถือศีล ๕ บริสุทธิก็ย่อมไปเกิดในสุคติภูมิ ซึ่งมีด้วยกัน ๗ ภูมิ มี มนุษย์ ๑ สวรรค์ ๖

การเกิดเป็นมนุษย์นั้นพระองค์ตรัสไว้ว่าเป็นการยากมาก ท่านอุปมาเหมือนเต่าตาบอด
ที่ท่องเที่ยวอยู่ท้องมหาสมุทร ๑๐๐ ปีจะโผล่หัวมาครั้งหนึ่งหัวจะต้องตรงกับห่วงยาง
ที่มีความพอดีกับหัวเต่า ถ้าตรงกับห่วงยางเป็นอันว่าได้เกิดเป็นมนุษย์ แต่ถ้าไม่ตรงกับห่วงยาง
ก็จะต้องดำไปใหม่อีก ๑๐๐ ปีจึงโผล่มาใหม่ ถ้าตรงก็จะได้เกิดเป็นมนุษย์
ถ้าไม่ตรงก็ต้องดำไปใหม่ เป็นเช่นนี้ตลอดไป

ถ้าเกิดในสวรรค์นั้นไม่ยากเลย คือเราต้องทำบุญให้มากๆพร้อมกับถือศีล ๕ บริสุทธิ
ก็จะได้ไปเกิดในสวรรค์อย่างแน่นอน แต่ถ้าให้เกิดเป็นมนุษย์การทำบุญเพื่อเจาะจง
ให้เกิดเป็นมนุษย์โดยเฉพาะนั้นไม่มี

มนุษย์โดยมาบุญหวังขึ้นสวรรค์กันจึงทำบุญกันมากๆ มากจนไม่ต้องมีขอบเขต
ทำบุญเพื่อจะมีขอบเขตแก่การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นหาขอบเขตความพอดีไม่ได้

แต่สำหรับในเทวดานั้นเขาปรารถนามาเกิดเป็นมนุษย์กันแทบทั้งนั้น
เพราะในมนุษย์มีพร้อมทุกอย่างในการที่จะสร้างกุศล
เพราะเขาเห็นว่าในเทวดาที่เขาอัตตคัตในการที่จะทำกุศล บวชก็ไม่ได้
ทานก็ไม่รู้จะไปบริจาคที่ไหน สถานที่สัปปายะก็ไม่มี มีแต่สถานที่เริงรมณ์
กลางคืนก็ไม่เคยปรากฏแก่เขาเลย เขาจะไม่เคยหลับนอนตลอดอายุไขย

ถ้าเป็นผู้หญิงขึ้นไปเกิดในสวรรค์ก็จะได้เป็นนางฟ้า เป็นบริวารของพระอินทร์ในแดนนั้นๆ
(เป็นเมียน้อยพระอินทร์) อย่างที่มนุษย์ผู้หญิงจะยอมรับกันไม่ได้

ถ้าเป็นผู้ชายก็จะไปเกิดเป็นพระอินทร์พร้อมกับมีนางฟ้า ๕๐๐ เป็นบริวาร
ถึงคราวที่พระอินทร์ต้องหมดอายุไขย นางฟ้าก็ต้องหมดอายุไขยตามไปด้วย
แต่ถ้านางฟ้าหมดอายุไขย พระอินทร์กลับไม่ตายตามด้วย



อันนี้น่าจะต้องอธิษฐานจิตร่วมกัน ชาติหน้าขอให้พบกันอีก
แม้แต่คู่บุญบารมีของพระโพธิสัตว์ยังต้องอธิษฐานมาสร้างบารมีร่วมกันทุกชาติครับ

ไปอ่านเจอมา พึ่งรู้ว่าตนเองเป็นพวกโลกสวย555+
สวรรค์ชั้นดุสิต ถ้าเอาตามในคัมภีร์นะครับ ก็จะเป็นที่อยู่ของพวกที่ประมาณว่าในปัจจุบันนี้เราก็เรียกกันว่าพวกโลกสวยนะ ก็เป็นพวกที่ มีความปรารถนาดีกับผู้อื่น อยากเห็นโลกเป็นไปในทางที่ดีนะครับ ไม่ใช่แค่อยากเห็นนะ แต่ว่าทุ่มเทแรงกายแรงใจ แล้วก็มีคำพูดคำจาอะไรที่สอดคล้องกับพฤติกรรมในการที่จะช่วยให้โลกนี้ดีขึ้น เวลาที่ในคัมภีร์กล่าวถึงนี่ก็มักจะพูดถึงพระโพธิสัตว์นะ ที่มีน้ำจิตน้ำใจ อยากจะเกื้อกูลสัตว์โลกนะครับ อยากจะพาสัตว์โลกนี้ให้พ้นทุกข์ทั้งในระดับของการพาไปสวรรค์ แล้วก็พรหมโลก ตลอดจนกระทั่งถ้าหากว่าจนถึงชาติสุดท้าย ตัวเองก็จะเอาความรู้ความสามารถที่ได้ถึงฝั่งแห่งความสิ้นทุกข์ ความสามารถนั้นมาพาคนอื่นตามไปด้วย ถ้าเป็นไปได้ก็จะกวาดเก็บไปทั้งโลกเลย หรือทั้งอนันตจักรวาลเลย น้ำใจยิ่งใหญ่ขนาดนั้น

ถ้าหากว่ามีน้ำใจที่ยิ่งใหญ่มาก พอนะครับ เป็นพวกที่โลกสวย ไม่ใช่โลกสวยแต่ปากนะ แต่ว่าได้มีการกระทำด้วย ในขณะจิตท้ายๆ นี่มันจะมีเมตตาอย่างใหญ่ มีเมตตามากพอที่จะได้ไปพรหมภูมิ คือไม่ต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องของเพศ ตายไปมีสิทธิที่จะไม่ต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องของเพศ แต่ด้วยความปรารถนาที่ยังห่วง โลกอยู่นี่ ขณะจิตท้ายๆ ก็จะคล้ายๆ กับมีน้ำหนักถ่วงไว้ ดึงไว้ไม่ให้ไปถึงพรหมภูมิ เพราะว่าถ้าไปถึงพรหมภูมิ อยู่ที่นั่นนาน ก็จะเป็นประเภทไปรอพักอยู่ที่สวรรค์ชั้นดุสิตนะ สวรรค์ของพวกโลกสวยนะครับ หรือถ้าหากว่าเป็นเพศหญิง ก็มักจะเป็นพวกที่ติดตาม หรือว่าอาจจะมีบุพกรรมกันมากับพระโพธิสัตว์ อันนี้พูดตามในคัมภีร์นะครับ ก็อาจมีความผูกพันกันและก็ไปเสวยสุขร่วมกัน ที่ชั้นดุสิตได้นะ แต่ว่า บางแห่งบางที่ก็จะมีบอกนะครับว่า สวรรค์ชั้นดุสิตไม่มีเพศหญิง อันนี้ก็แล้วแต่ แล้วแต่ว่าเราจะไปฟังจากทางไหนนะครับ แต่ที่แน่ๆ ก็คือว่า สวรรค์ชั้นดุสิต ไม่ใช่สวรรค์ที่เทวดาในชั้นนั้นจะมีแค่บุญอย่างเดียว แต่จะต้องมีความปรารถนาอย่างแรงกล้านะครับที่จะทำให้โลกนี้ดีขึ้น
http://www.dhamazone.org/index.php/site ... 0-15-26-25

เวรกรรม คุนน้องเป็นผู้หญิงคุนน้องก็ต้องไปเกิดเป็นเมียน้อยพระอินทร์รึเปล่าอ่ะ
ไม่เป็นหรอกจะบ้าหรือ มาบังคับให้เราเป็นเมียน้อย คุนน้องจะไปเกิดเป็นเทพธิดาหรือเป็นเทพบุตรดีกว่า
ว่าแต่เค้าบอกว่าสวรรค์ชั้นดุสิตไม่มีเพศ อ้าวกรรม แบบนี้สวรรค์ชั้นดุสิตก็มีคู่รักไม่ได้น่ะสิแล้วจะรักกันแบบสามีภรรยาได้ไงเนียะ หรือว่าถ้าไม่ยึดติดในเพศแล้วก็จ้องตากันได้ทุกคน ว่าช้านรู้สึกดีกับเทอน๊า อิอิ แบบนี้รึเปล่าน๊า บ้างก็ว่ามีแต่เทพบุตร แล้วเทพบุตรรักกับเทพบุตรผิดศีลข้อ 3 มั้ยนิ

การที่ผู้หญิงจะไปเกิดในสวรรค์นั้นจะต้องเป็นเทพธิดา
เพราะยังจิตที่มีความยินพอใจในเพศเดิมของตนอยู่ (ยังรักสวยรักงาม)
การที่จะไปเกิดนั้นจะต้องมีเทพบุตรหรือพระอินทร์เป็นผู้ปกครอง (เจ้าของ)
คือถ้าไปเกิดในเขตของเทพบุตรองค์ใดองค์แหละเป็นเจ้าของ
ดังที่ว่าเทพบุตรองค์หนึ่งจะมีนางฟ้าเป็นบริวาร ๕๐๐ องค์ที่เดียว
และคำว่ามีนางฟ้า ๕๐๐ นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้อง ๕๐๐ พอดี
มากกว่า ๕๐๐ ก็ได้ซึ่งเป็นคำพูดที่มาก

เทพธิดาหรือนางฟ้าก็มีความหมายอันเดียวกัน เทพบุตรกับพระอินทร์ก็เช่นเดียวกัน
แล้วแต่ใครจะเรียกกัน การที่จะไปเกิดนั้นเราไม่มีโอกาสที่จะเลือกได้ว่า
จะเป็นนางฟ้าหรือเทพบุตร ก็แล้วแต่กรรม



สวรรค์ชั้นดุสิตเป็นสวรรค์ที่ประเสริฐละเอียดขึ้น เป็นภูมิของผู้มีปัญญา
ภูมินี้จะเป็นภูมิที่พระโพธิสัตว์ไปอยู่เสียส่วนมาก

สวรรค์ชั้นดุสิตยังมีเพศหญิงเพศชายอยู่ การมีเพศสัมพันธ์กันต่างกับมนุษย์มาก
เพียงแค่สบตาเท่านั้นไม่เหมือนกับมนุษย์ที่จะต้องรักกันแบบสามีภรรยากัน
การผิดศีลของข้อใดข้อหนึ่งไม่มี เพราะเขาตั้งอยู่ในศีลบริบูรณ์

การที่ไม่มีเพศนั้นจะต้องไปเกิดยังพรหมโลก หรือเรียกว่ารูปพรหม ๑๖ ชั้น นั่นเอง
เพราะว่าการที่ไปเกิดพรหมโลกนั้นไปด้วยอำนาจของฌาน จะต้องตัดเรื่องของกามราคะออกไป
ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายหรือผู้หญิงไปเกิดยังพรหมโลกนั้นเพศหญิงหรือเพศชายจะหดหายไป
เพียงแต่ว่ากามราคะเรื่องจะมีเพศสัมพันธ์จะหายไปด้วยอำนาจของฌานของตน
พวกรูปพรหมท่านเหล่านั้นท่านจะละเรื่อง กลิ่น รส สัมผัส เพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์สำหรับท่าน
จะเหลืออยู่เพียง ตากับหู เท่านั้น เพราะตากับหูท่านเห็นว่ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง

อิอิ สงสัยอะไรถามมายินดีตอบ

ดันกระทู้

ดันหาอะไร....???...ต้องมีจุดประสงค์..นะ..อิอิ

........