ก็นั้นไงโสกะก็พูดเองว่า ไม่สามารถเอาสติปัญญาของปุถุชนมาใช้กับธรรมะ
แต่ทำไมโสกะถึงได้เอาพระธรรม อันลึกซึ้งของพระพุทธองค์มาละเลงเล่น
หรือว่าโสกะเป็นผู้ที่บรรลุแล้ว ถ้าลักษณะแบบโสกะเป็นผู้บรรลุแล้ว
แบบนี้สงสัยผมต้องเปลี่ยนศาสนาแล้วมั้ง

พุทโธ่! พูดจาแสดงความเห็นไม้ได้เรื่องสักอย่าง เพ้อเจ้อเหมือนคนเมายา
หาสิ่งที่เป็นธรรมะไม่ได้สักคำ เห็นมีแต่เอาคำศัพท์บาลีมาด่าชาวบ้าน


พระพุทธองค์ทรงชี้ในสิ่งที่ถูกต้อง แต่โสกะกับอาจารย์ ดันเอาพระธรรมไปทำให้มันผิดเพี้ยน
จุดประสงค์ก็เพื่อจะให้ชาวบ้านหลงเชื่อหลงศรัทธา เลยต้องเอาสิ่งที่เป็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์
มาหลอกลวงชาวบ้าน
ก็เห็นๆอยู่ว่ามันผิดหลักธรรมคำสอน ผิดหลักธรรมชาติ มันเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ
ยังตะบี้ตะบันโฆษณาชวนเชื่ออีก
ถ้าจะให้ผมพูดแรงๆก็คือ....มันเป็นเดรัจฉานวิชา หาใช่พระธรรมของพุทธองค์ไม่

ก็นั้นแหล่ะ การปฏิบัติเราต้องปฏิบัติด้วยตนเอง ชาวพุทธเขารู้ซึ้งกันทุกคน
อย่าเอามาพูดเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือเลยมันเลี่ยนจนคลื่นไส้

ความสำคัญของการปฏิบัติ จะต้องปฏิบัติตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงสอน

ไม่ใช่เอาสิ่งที่เป็นการกระทำของพวกเดียรถีมาปฏิบัติ พอมีคนมาแย้ง
ดันบอกว่า ไม่ให้ยึดมั่นในปริยัติ เพราะวิธีการของตนไม่มีในตำรา...

แค่คำพูดยังหาความน่าเชื่อถือไม่ได้เลย

ใช้กล้องวงจรปิดก็เห็นแต่อาการ ยืน เดืน นั่ง นอน แต่ไม่เห็นลมที่ไหลเข้าไหลออกทางรูจมูก

ฉะนั้นจึงต้องพิสูจน์การไม่หายใจ ด้วยการดำน้ำ (โดยไม่ใช้เครื่องช่วยหายใจ) ตามขั้นทดสอบความเป็นอริยะแบบไม่หายใจ 30 นาทีแรก โผล่มาเดินยิ้มเผล่กลับห้องได้ แสดงว่าไม่หายใจ เป็นพระโสดาบัน ฯลฯ ถ้าลอยขึ้นอืดก็แสดงว่าไม่หายใจเหมือนกัน แ่ต่อย่างหลังนี่นำกลับไปขึ้นเมรุเผา คิกๆ พูดกับนักธรรมะพิสดารแล้วขำทุกที ธรรมะอะไรไม่เข้าใจ

เขาปฏิบัติเพื่อกำจัดกิเลส เออ ถ้าปฏิบัติแล้วรู้สึกอย่างนำตัวอย่าง่มาให้ดูบ่อยๆว่าไปอย่าง เช่น บางคนรู้สึกว่าลมหายใจไม่มี รู้สึกเหมือนไม่หายใจ เนื้อตัวหายหมด มือหาย ฯลฯ ยังงี้จะไม่เถียงสักคำ

ที่ว่าภาวนาแล้วๆเล่าๆ แล้วรู้สึกว่าลมหายใจหายเหมือนไม่มีลมเข้าออก ไม่ใช่ว่าไม่หายใจนะ ยังหายใจนั่นแหละ แต่มันเบาลมละเอียด แต่สติสัมปชัญญะสมามธิ เป็นต้น ยังละเอียดไม่เท่ามัน จึงรู้สึกว่ามันหาย

เรื่องที่โสกะโม้มา แล้วบอกว่ามีอยู่ในชีวิตจริง ใช่ครับผมก็เคยเห็น
ประเภทบอกว่า ตนหายตัวเหาะเหินเดินอากาศได้ เอามือจิ้มในน้ำร้อน
แล้วผลสุดท้ายของคนพวกนี้เป็นไงครับ.....ถูกจับสึกเพราะเขาจับได้ว่าหลอกลวงชาวบ้าน

อรหันต์หลายคนที่ต้องระเห็จไปอยู่ต่างประเทศ เพราะกระเสือกกระสนออกสื่อ
โฆษณาชวนเชื่อว่า ตัวเองเป็นพระอรหันต์ หวังเพียงเพื่อเงินทำบุญ
แล้วเป็นไง มันก็หลอกลวงทั้งนั้น

มันมีที่ไหนที่พระอรหันต์หรือพระอริยชน จะมาโฆษณาตนเอง แล้วรับเงินบริจาก
มันก็แค่เป็นพวก๑๘มงกุฎ หวังเพียงเพือเงินทองจาก คนที่ยังด้อยปัญญา
ไม่เข้าใจธรรมะ ยังหลงงมงายกับพวกอิทธิฤทธิ์บ้าบอคอแตก

และเรื่องที่บอกว่าเป็นเพราะเหตุปัจจัยเกื้อหนุนกันมา....นี่มันเป็นคำพูดของหมอดู
ไอ้คำว่าเกื้อหนุนของคุณนั้นน่ะ ผมไม่เห็นมันจะเกื้อหนุนตรงไหน......

มันก็แค่ให้พวกลูกศิษย์ออกมาสร้างข่าวสร้างกระแส โฆษณาชวนเชื่อ
หลักการของ๑๘มงกุฎบ้องตื่น มันหลอกได้แต่พวกบ้าหวย พวกปัญญานิ่มเท่านั้น

ให้ดำน้ำเดี๋ยวก็อ้างว่า โยคีห้ามโดนน้ำ อาบน้ำปีล่ะหน
เอาแค่แค่ติดกล้องในถ้ำ ดูซิจะนั่งสมาธิได้ถึงวันมั้ย.....จะลุกขึ้นมาขี้มาเยี่ยวหรือเปล่า

คุยกับโสกะนี่มันผ่อนคลายจริงๆ
เหมือนคุยกับเด็กที่ติดนิทาน

โฮฮับออกไปๆๆๆๆ โฮฮับออกไปๆๆๆ

โฮฮับจงออกจากความเคยชินเก่าๆเสียเถอะ เจาะลึกลงไปภายในกายใจรูปหรือนามดื่มดำกับความสุขรับรู้ถึงสภาวะปัญญาที่แท้จริงที่เรียกว่าภาวนามยปัญญา ขอโฮฮับจงหลุดพ้นเถิด จงหลุดพ้นเถิด

ธรรมะ ไ้ด้แก่ ชีวิต (ทุกๆชีวิต) และความเป็นอยู่ (-ของชีวิตทุกๆชีวิต) นี่แหละๆ พุทธธรรม มองเข้ามาที่นี่ ดูที่นี่ (ทั้งเราทั้งเขาที่โลดแล่นอยู่ในสังคมนี่) ทำความเข้าใจมัน แล้วจะรู้เข้าใจธรรมะ (=โลกและชีวิต) อย่าคิดเตลิดไปไกล เสียของ

กรัชกายพูดเหมือนนิยายน้ำเน่าเลย ไม่ผิดหรอกที่กรัชกายพูดนะนั้นมันเป็นธรรมะของการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่วนเวียนไม่รู้จักจบ นิพพานคือการเข้าถึงสภาวะธรรมสูงสุดเท่าที่มนุษย์จะเข้าถึงได้ จำเป็นต้องมีทั้งสมถะและวิปัสนา ไอ้ความคิดของกรัชกายมันก้อได้แต่คิดมันไม่ไดรับรุ้รสของสภาวะนิพพานหรอก มันอยู่ในตัวเรานี่แหล่ะ มันคือการดับสังขารทั้งหลายนั้นเอง ส่วนที่กรัชการเข้าใจอะไรต่อมิอะไรนั้นมันเข้าใจบัญญัติ ไม่ใช่สภาวะนิพพาน

amazing บอกความหมายคำว่า บัญญัติ,นิพพาน, สภาวธรรม,ชีวิต ตามที่ตนเองเข้าใจทีละอย่างๆสิเอ้า อย่าให้เสียของนะขอรับ คราวนี้โดนจัดหนักแบบไม่เกรงใจนะเอ้อ

โอ้!....บาปกรรม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

"อริยุวาตันตราย" กินหัวทั้ง 2 คน........



ถ้าการสนทนาของผมมาทำให้สหายในธรรมต้องสร้างกรรมหนักอันกั้น มรรค ผล นิพพาน เช่นนี้ คงต้องขอบ้ายบายจากกระทู้นี้แล้วนะครับ โฮฮับ กรัชกาย

สงบกายสงบใจ สำนึกได้ แล้วรีบขอขมา แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ในหัวข้อกระทู้อื่น ที่เรียบร้อยและเป็นธรรมกว่านี้เถิด


อันตราย 5 อย่าง สำหรับผู้ปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา

1.กรรมอันตราย ได้แก่อนันตริยกรรมต่างๆ แกไขไม่ได้ต้องเสวยผลกรรมจนกว่าจะหมด

2.วิบากอันตราย ได้แก่ความเกิดมาพิกลพิการผิดธรรมดา ไม่ครบ 32 แก้ไม่ได้ต้องเสวยผลและทำความดีทดแทนไปจนกว่าผลกรรมดีจะนำไปเกิดใหม่ครบสมบูรณ์

3.อนาฏิกะม้นตราย. ความล่วงอาบัติปาราชิกของพระสงฆ์ แก้ได้ด้วยการสึกจากความเป็นพระ แล้วทำความเพียรใหม่ ในคราบฆราวาส

4.อริยุวาตันตราย การประมาทจ้วงจาบพระอริยเจ้า แก้ได้โดยการขอขมาด้วยความตั้งใจและจริงใจ

5.ทิฏฐันตราย การมีความเห็นนอกไปจากทางแห่งมรรค 8 ที่พระพุทธเจ้าทรงสอน แก้ได้ด้วยการ่คบบัณฑิตกัลยาณมิตร มหากัลยาณมิตร ในพระพุทธศาสนา ศึกษาพุทธธรรมคำสอน จนเปลี่ยนแปลงความเห็นมาเป็นสัมมาทิฏฐิ ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติได้ จึงจักพ้นภัยจากการเดินทางไปในโลกมืด

พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนเรื่องกายานุปัสสนา ใครจะอ้างว่าตนปฏิบัติวิธีโน้น
เราปฏิบัติวิธีนี้....มันสารพัดจะอ้างกันไป
เป็นเพราะขั้นตอนการปฏิบัติ เป็นการกระทำที่กายใจตนเองเป็นการเฉพาะ
แต่เหนืออื่นใด ผลของการปฏิบัติหรือปฏิเวธ จะต้องตรงกับที่พระพุทธองค์ทรงกล่าว

ซึ่งปฏิเวธสุดท้ายของการทำกายานุปัสสนา นั้นก็คือจะต้องเห็นกายในกาย
พูดแค่นี้อาจจะไม่เข้าใจ การเห็นกายในกายก็คือ.......
การเห็นกายเป็นเพียงธาตุ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ ไม่ควรไปสำคัญมั่นหมาย
หรือยึดติดเป็นตัวตน

แล้วนี้มันมีคนมาคุยโม้คุยโตว่า ตนเองปฏิบัติจนไม่มีลมหายใจหรือสงบจนได้ยินเสียง
ของหัวใจเต้นตอดๆๆ.......พูดแบบนี้พระธรรมเละเทะหมดครับ

ตัวเองปฏิบัติผิดก็น่าสงสารอยู่ครับ แต่ไอ้ประเภทมาดูถูกดูแคลนปริยัติ
เอาคำศัพท์บาลีมาด่าชาวบ้านแบบนี้ ผมว่าความน่าสงสารเปลี่ยนเป็นสมน้ำหน้าแล้วครับ

แน่! ยังไม่สำนึก เขาเตือนสติแล้วว่า ธรรมบัญญัติมีไว้ สอนใจตัวเอง
นี่ยังไม่วาย เอามาด่าชาวบ้าน.....
แบบนี้ตายไป โดนยมบาลเอาน้ำกะทะทองแดง กรอกปากแน่ๆ



คุณถ้าจะเข้าใจผิด คุณไม่ได้เข้ามาสนทนา แต่คุณเข้ามาโฆษณาชวนเชื่อ
เอาสิ่งที่เป็นเดรัจฉานวิชามามอมเมาชาวบ้าน

ถ้าคุณว่าเป็นการสนทนา คุณต้องให้คนอื่นโต้แย้งได้
นี่อะไรพอคนอื่นเขาไม่เห็นด้วยและให้เหตุผลในสิ่งที่มันผิดเพี้ยนจากพระธรรมคำสอน
คุณกลับเอาคำศัพท์มาบาลีมาด่าเขา นี่ก็อีกมาสาปแช่งชาวบ้านที่เขาไม่เห็นด้วย

ผมหรือใครๆมีสิทธิ์ที่จะประนาม คนที่อยู่ในสถานะของนักบวชในพุทธศาสนา
แต่ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ยิ่งการกระทำนั้นจะทำให้ธรรมวินัยผิดเพี้ยน

และที่คุณจะให้คนอื่นเขาขอขมาอาจารย์คุณ ผมว่าคุณและอาจารย์คุณ
ควรขอขมาพระธรรมและปัญญาของพระพุทธเจ้าเสียก่อน
ดันมาปรามาสปริยัติ มันไม่รู้หรือว่าปริยัติเป็นปัญญาของพระพุทธเจ้า

และอีกก็คือ ไปลอกเลี่ยนธรรมของพ่อแม่ครูบาอาจารย์มาทำให้เสื่อมเสีย
ไปเปลี่ยนแปลงแก้ไข แล้วก็มาบอกว่าเป็นธรรมของตน......น่าละอายจริงๆ
อย่าลืมไปขอขมา....ท่านอนุรุธาจารย์ด้วยล่ะ

ไปเอาที่ไหนมั่วอีกล่ะ เลอะเทอะ ทำตัวเป็นพ่อมดหมอผีอีกแล้ว
มาสาปแช่งคนในเว็บบอร์ดธรรมะ ระวังเส้นโลหิดในสมองจะแตก



ใครไปจาบจ้วงอริยเจ้าครับ.....ผมเห็นมีแต่คุณที่จาบจ้วงพระพุทธองค์
ดูถูกดูแคลนปัญญาพระพุทธองค์ มิหน่ำซ้ำยังเอาธรรมของท่านพระอนุรุธาจาย์มาทำซะปนปี้


อยากจะบอกให้ครับ โยคีแม้จะห่มเหลือง
ถ้าไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย มันก็เป็นได้แค่เดียรถีนอกรีต
อาศัยผ้าเหลืองห่อหุ้มเพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อ.....ผมหวังว่า
ผมคงไม่เจอคุณโสกะขึ้นหน้าหนึ่งน.ส.พ. เพราะถูกจับในข้อหาแก็ง๑๘มงกุฎนะครับ

สุดท้ายครับ คุณจะปฏิบัติอย่างไรเป็นเรื่องของคุณ
แต่ถ้ามาทำตัวเบ่งวางกล้าม ดูถูกดูแคลนปริยัติหรือพระธรรมวินัย
คุณก็จะเจอผมในลักษณะนี้จำไว้