มันเป็นเพียงผลพลอยได้ ที่ฝรั่งเขาเรียกว่า By Product ที่ควรจะได้สำหรับบางคนบางท่านที่ได้สร้างสมบารมีเหตุปัจจัยที่จะทำให้เป็นไปได้ แต่ไม่ใช่จะทำได้ทุกๆคน

ไม่เป็นประเด็นหลักที่จะต้องมาจริงจังอะไรกันมากมาย แต่นำมาเล่าสู่กันฟังเพียงให้เป็น 1 ธรรมทัศนะ

กรัชกายไม่รู้ ไม่สนใจ ก็พึงปฏิบัติธรรมตามวิธีการที่ตนถนัดไปเรื่อยๆ วันหนึ่งข้างหน้าเมื่อชั่วโมงบินของกรัชกายมีมากพอ ได้เวลาและโอกาสอันควร กรัชกายจะได้รู้ซึ้งและเข้าใจเรื่องราวประเภทนี้ด้วยตนเอง ตอนนี้ฟังๆไปก่อนก็แล้วกัน

รู้สึกว่าจะเคยบอกกรัชกายว่า ถ้ารีบร้อนอยากจะรู้เร็ว ให้หาโอกาสไปเที่ยวที่เขาตะบองนาค อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ไปสนทนาธรรมกับท่านอาจารย์ปัญญา ดู อาจได้รู้อะไรดีๆจากท่านในเรื่องเหล่านี้ก็ได้ เชิญเลยนะครับกรัชกาย

ยังไม่เคยเห็นตำราท่านพูดไว้เลยนะ ว่าตรัสรู้หรือรู้เข้าใจสัจธรรมแล้ว ไม่หายใจ แม้แต่พระพุทธเจ้าเองหลังจากพระองค์ตรัสรู้แล้ว ก็ยังหายใจเข้าหายใจออกอยู่นะ.... โน่นวันปรินิพพาน (ตาย) นั่นจึงไม่หายใจ แม้พระสาวกทั้งหลายก็เช่นกัน ...มนุษย์ทุกรูปทุกนามก็เช่นกันถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ต้องหายใจเข้าหายใจออกด้วยกันทั้งนั้น ขาดอ๊อกซิเยน 5 นาทีเซลล์สมองตาย (สมมติว่า แพทย์ช่วยจนหายใจอีก ลืมตาขึ้นมาก็เป็นคุณเอ๋อนะ) ไม่ยังงั้นตายแหง๋แก๋นะเอ้อ

มีแต่ท่านบอกว่า เมื่อตรัสรู้หรือรู้สัจธรรมแล้วกิเลส อาสวะน้อยใหญ่ ย่อมหมดสิ้นไปแล้วชีวิตที่เหลือก็สุขสบายใจ เย็นใจ เรียกตามศัพท์ว่านิพพาน เพราะอะไร? เพราะไฟคือกิเลสสามกอง คือ ราคัคคิ โทสัคคิ และโมหัคคิ ดับไปหมดไปนั่นเอง ก็เย็นใจ สบายใจ โปร่งโล่งเบาใจ เคยศึกษาแต่ยังงี้นะ ท่านจึงแบ่งบุคคลผู้เช่นนั้นไว้ 4 จำพวก ตามขั้นของกิเลสที่กำจัดได้ เรียกเป็นศัพท์ว่าอริยบุคคล 4 จำพวก คือ โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์

แตที่ไม่หายใจนี่เพิ่งเคยได้ยินที่คุณอโศกพูดนี่แหละ เอาเถอะไม่ว่ากันไม่หายใจก็ไม่หายใจ ไม่ไปคุยด้วยหรอก แต่ขอให้สอบอารมณ์ยังงี้นะ วิธีสอบโดยแบ่่งเวลาเป็น 4 ขั้นๆละ 30 นาที ใน 2 ชั่วโมง ดำน้ำนะขอรับ (ไม่ใช้ถังอ๊อกซิเยนช่วยนะ) ดำลงไปในน้ำนะ ดำครบ 30 นาที โผล่ขึ้นมายังยิ้มเผล่เิดินกลับห้องได้ สำเร็จเป็นพระโสดาบัน ผ่านการไม่หายใจได้ 30 นาที สำเร็จ

ให้พักสัก 7 วัน ปฏิบัติต่อตามวิธีของคุณอโศกหรือใครที่ว่านั่น ไปดำน้ำอีกขั้นหนึ่ง จับเวลา 30 นาที โผล่ขึ้นมาได้ยิ้มเผล่เดินกลับห้องได้ สำเร็จเป็นสกทาคมี ฯลฯ จนครบ 30 นาทีสุดท้ายพระอรหันต์ ถ้ายังงี้สำเร็จกิจ กิจอื่นที่ยิ่งกว่านี้ไม่มี

ถ้าสำนักนั้นอยู่ตามป่าตามเขา ไม่มีสระน้ำ ห่างไกลแม่น้ำนะขอรับ ให้สอบด้วยการไม่หายใจยังงี้ก็ได้ คือใช้ถุงดำคลุมหัว เหมือนทุจริตชนคลุมกล้องวงจรปิดนะขอรับ แล้วใช้เชือกมัดตรงคอนะขอรับ ....ตั้งนาฬิกาไว้ที่ 30 นาที ... 30 นาที 30 นาที 30 นาที 30 นาที สี่ขั้น 30 นาทีสุดท้ายแก้ถุงดำออกแล้ว ยังหายใจสบายและยิ้มได้เต็มหน้า คิกๆๆ สำเร็จเป็นพระอรหันต์ไม่หายใจตามที่คุณอโศกว่า จบกิจจบพรหมจรรย์ตามวิธีกรรมฐานไม่หายใจแล.

ทุกคำพูดที่ผมพูด ผมพูดตามเหตุตามปัจจัย ถ้าคุณมีสามัญสำนึกคุณจะเห็นว่า
ความเห็นของผมจะอ้างอิงคำพูดของอีกฝ่ายเสมอ และสิ่งที่อ้างแทบจะเป็นทุกวรรคทุกตอนก็ว่าได้
มันแสดงให้เห็นถึงความมีเหตุมีผล และสามารถมีหลักฐานยืนยันได้
แบบนี่หรือที่คุณว่า ผมเป็นพาลชน


แต่คุณมันตรงข้าม คุณเอาบัญญัติที่เป็นกุศลมาบิดจนเป็นอกุศล เพียงแค่อยากจะด่าผม
คุณรู้ไหม ทุกขณะที่ผมสนทนากับคุณ ผมแค่มีสติดูคำพูดของคุณ แล้วผมก็พิจารณาว่า
คำพูดนั้นเกิดจากคนที่ยังมีจิตใจที่เป็นมารอยู่ เราต้องเมตตาคนประเภทนี้
ด้วยการสอนธรรมและพยายามชี้ให้เขาเห็นถึงกิเลสมารในใจตนเอง .............
มันเป็นบารมีของบัณฑิต

ความดีความเลว ถ้าเป็นส่วนของจิตใจ มันดูกันไม่ได้
ในสังคมที่มีคนอยู่รวมกันถ้าจะดูเรื่องแบบนี้......
เข้าดูกันที่การแสดงออก ตัดสินด้วยเหตุผลและหลักฐานครับ

ก็ในเมื่อหลักฐานที่เป็นเอกสาร มันตรงข้ามกับคำพูดคุณอย่างสิ้นเชิง
แบบนี้มันจะเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากตลบแตลงตามคำพูดคุณนั้นแหล่ะ



คุณมันก็ผู้ร้ายปากแข็ง เหมือนสำนวนที่ใช้กันก็คือ....
คางคกยางหัวไม่ตก ก็ไม่สำนึก (นี่เป็นสำนวนน่ะครับ อย่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคำด่า)

คุณทำผิด กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง พอถูกจับได้คุณก็เที่ยวได้โทษคนอื่นไปทั่ว
ผมถามคุณหน่อยคุณเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่าครับ

เรื่องที่คุณอ้างว่าทางเว็บบอร์ด เขาอย่างโน้นอย่างนี้ ผมไม่สนใจ
ความสำคัญมันอยู่ที่ทางบอร์ดเขาได้กำหนดกฎเกณท์ไว้
และที่สำคัญสิ่งนั้นมีลายลักษณ์อักษร........ดูหลักฐาน แล้วตรองดูซิว่า
สิ่งที่ทางเว็บเขาบอก มันตรงข้ามกับสิ่งที่โสกะกำลังตะแบงแถอย่างสิ้นเชิง

โสกะตีหัวคนอื่นแล้ววิ่งหนีเข้าบ้าน พอเขามายืนด่าคุณที่หน้าบ้าน เพราะไปตีหัวเขาก่อน
คุณก็ตะโกนบอกเพื่อนบ้านว่า ถูกอันธพาลรังแก.....คุณนี่มันปลิ้นปล้อนซ้ำซาก

ย้อนกลับไปดูซิว่า....ที่ผมต้องพูดแล้วพูดอีก มันมีเหตุมาจากอะไร
มันเป็นเพราะคุณเที่ยวได้กล่าวหาชาวบ้านแบบไร้เหตุหรือเปล่า


พิจารณาดูให้ดี เพราะความเห็นผม มีข้ออ้างอิงทุกวรรคทุกตอน




แล้วเมื่อไรคุณจะเริ่มสักที ผมเห็นมีแต่เอาบัญญัติสูงๆมาด่าชาวบ้าน
เรารึก็พูดธรรมให้ฟังทุกขณะจิต ยังแถโยงไปนอกเรื่อง
สร้างภาพเป็นคนดีแล้วก็ทำเป็นอิแอบหยิบยกคำศัพท์มาด่าชาวบ้าน....คุณสมเพทจริงๆ

โฮฮับไม่รุ้เหรอว่าการที่คนเราสามารถรับรุ้ความรุ้สึกที่ละเอียดอ่อนกว่าคนปรกติเช่นรุ้ถึงความรุ้สึกที่ละเอียดอ่อนทั่วร่างกายแม้กระทั้งจุดเล็กๆทั่วร่างกายทั้งภายในภายนอกหรือการเต้นของหัวใจยามปรกติ เท่ากับผุ้นั้นได้ฝึกจิตมาอย่างดีเป็นวิปัสนาขั้นภาวนามยปันยา และสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่คนที่ทำได้เขายึดติดแต่อย่างไรมันเป็นกานพัฒนาของจิตที่จะต้องมาถึงสภาวะนี้ทุกคนก่อนที่จะเข้าถึงธรรมสุงยิ่งๆขึ้นไปจนถึงความดับไปของสังขาร

ดีแล้วที่กรัชกายตั้งข้อสงสัยมา จะได้สนทนากันต่อให้จบ

เรื่องของธรรมะนั้นละเอียดลึกซึ้งมาก จนไม่สามารถเอาสติปัญญาธรรมดาๆ ของปุถุชนผู้หนาด้่วยกิเลสมาคืบลาม เดา คาดคะเน รู้ได้หมด มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่มีบอกไว้ในตำรา เพราะธรรมะมันไม่ใช่เรื่องที่จะบอกกล่าวให้กันรู้ได้ด้วยภาษาของมนุษย์ จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อได้สัมผัสธรรมนั้นๆที่ใจของเจ้าของ

ที่จะบอกกล่าวได้ด้วยภาษามนุษย์ก็แค่เพียงวิธีการที่จะไข้าไปสัมผัสธรรมนั้นๆ จะต้องทำอย่างไร เหมือนที่พระบรมศาสดาทรงตรัสบอกว่า

"เราเป็นเพียงผู้ชี้ทาง"

การเดินทางและเข้าไปถึงพระนิพพานนั้นเป็นงานที่พุทธสาวกจะต้องทำเอาด้วยตนเอง ไม่มีใครช่วยใครได้

รู้ถูกต้อง เห็นถูกต้อง คิดถูกต้องแล้วต้องลงมือทำเอง ถึงเอง สัมผัสความจริงเอง

คิดเอาเองด้วยเหตุผล หรืออัตโนมัติ จนสำเร็จธรรมนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

ตัวอย่างของธรรมชั้นพื้นๆง่ายๆ ก็เช่น รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธัมมารมณ์ ต่างๆ ง่ายที่สุดเช่น รสเค็มของเกลือ

เรื่องของการที่เมื่อได้สมาธิเบื้องสูง หรือสำเร็จธรรมเบื้องสูงแล้ว บางคนบางท่านสามารถอยู่โดยไม่หายใจทางจมูกได้ นั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีบอกในตำรา แต่มีอยู่ในชีวิตจริง แต่การที่จะมีโอกาสได้รู้ได้สัมผัสเรื่องและบุคคลที่เป็นอย่างนี้จริงๆนั้นเป็นเรื่องของ เหตุ ปัจจัยที่เคยเกี่ยวข้องเกื้อหนุนกันมาจึงจะมีโอกาสได้พบปะกัน ไม่มีบุญได้พบกันก็ยากที่จะได้พบกัน

ในเมืองฤาษีเกษ ที่อินเดียมีโยคีเก่งๆมากมาย กิจกรรมหนึ่งที่เราเคยได้ยินบ่อยๆก็อย่างเช่นการเอาโยคีที่สำเร็จสมาธิชั้นสูงไปฝังดินไว้ 3 วั้น 7 วัน หลังจากนั้นไปขุดเอาออกมา โยคีท่านนั้นก็ไม่ตาย ฟื้นกลับมามีชีวิตหายใจเป็นปกติได้ ลองไป Search มาดูกันนะครับคุณกรัชกาย

เสียดายที่ยุคนี้เราไม่มีโอกาสได้พบเห็นการเข้านิโรธสมาบัติ 7 วัน ของพระอรหันต์

แต่ตัวอย่างเล็กๆน้อยเราก็ยังพอไปหาดูกันได้ ในสำนักวิปัสสนากรรมฐาน สายพองหนอยุบหนอ มีโยคีจำนวนไม่น้อยที่อธิษฐานดับ ได้เป็นเวลานานๆหลายชั่วโมง ขณะที่อยู่ในช่วงเวลาของการเข้าสมาธิลึกระดับอัปณา (ไร้ลมหายใจ)อย่างนั้นตัวโยคีผู้นั้นจะแข็งทื่อ เย็นเกือบจะชืดเหมือนท่อนไม้ มีไออุ่นหล่อเลี้ยงหัวใจไว้สักนิดหน่อยเท่านั้น เอาไฟมาลน มาจี้ก็ไม่รู้สึกตัวจนกว่าจะครบเวลาที่อธิษฐานดับได้.....ลองไปหาดูนะครับคุณกรัชกาย

เท่าที่เล่ามานี้ก็เพราะเคยมีประสบการได้พบได้เห็นได้รู้ ได้สัมผัสบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องที่เอามาเล่าสู่กันฟังนี้

ใครจะเชื่อไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ไม่ได้หวังผลดีวิเศษอะไรจากเรื่องนี้ เพราะเป็นเพียง ธรรมทัศนะ เหมือนสวนดอกไม้ริมทางสายกลางคือมรรคมีองค์ 8 ที่เหล่าชาวพุทธทั้งหลายกำลังยึดถือเดินทางร่วมกันไป มันเป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้จาการปฏิบัติธรรม เฉพาะรายเฉพาะบุคคลที่มีบุญบารมีสร้างสมไว้ในทางที่จะได้รู้ ได้เห็น เป็นเช่นนี้

ใครไม่มีโอกาสได้สัมผัสความจริง ของจริง ก็ฟังเอาแต่ข่าวที่มีผู้นำมาเล่า แล้วก็พลอยอนุโมทนายินดีตามท่านที่รู้ได้ทำได้เหล่านั้น ก็จะได้บุญ ความอิ่มใจ สุขใจ ตามไปด้วย

สิ่งสำคัญคืออย่าให้เกิดวิจิกิจฉา อิจฉาขึ้นในใจแล้วไปมอง วิตกวิจารณ์เรื่องนี้ไปในทางลบ เพราะอาจจะสุ่มเสียงสร้างอริยุวาตันตราย กั้นมรรค กั้นผล ของตนเอง

เล่าให้คุณกรัชกายฟังพอเป็นสังเขป ถ้ากรัชกายอยากรู้ละเอียดกว่านี้ ก็เชิญไปที่เขาตะบองนาก อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ที่นั้นจะมีท่านผู้ที่สามารถอธิบายให้ทราบถึงเรื่องที่ไม่มีในตำราอย่างนี้

อ้อ....ส่งท้ายนิดหนึ่ง คุณกรัชกายไปรู้ได้อย่างไรว่าพระพุทธเจ้าทรงหายใจหรือไม่หายใจ คุณเคยเกิดร่วมสมัยกับพระพุทธองค์หรือครับ

บอกแล้วนะครับ เรื่องของธรรมะนี่ ต้องสัมผัสความจริงแล้วรู้ที่ใจเจ้าของเท่านั้นจึงจะใช่

พูดเอาฟังเอา ศึกษาเอา เล่าเอา คิดเอาเองนั้นมันจะได้แค่ธรรมปริยัติไม่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ชำระกิเลส ตัณหา อัตตา มานะทิฏฐิ ได้นะครับ


สนทนาธรรมกับคุณกรัชกายนี่ดีนะครับ ได้ไหลเอากระแสธรรมออกมาได้อย่างเต็มที่ ไม่ติดขัด เหมือนสนทนาธรรมกับโฮฮับและคู่หูของเขา สงบ ร่มเย็น เป็นสุข เป็นบุญ เป็นกุศล จริงๆ

คนก็หายใจทั้งนั้นแหละครับคุณอโศก ก้อนหินไม่หายใจ คิกๆ

ธรรมะที่คุณอโศกะคิดนี่่อะไรครับ ธรรมะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

หาโอกาส ว่างๆ ไปเที่ยวเขาตะบองนาค ด้วยกันนะครับ

ถ้าไปต้องดำน้ำให้ดู หรือใช้ถุงดำคลุมเพื่อพิสูจน์นะขอรับ 30 นาทีแรก โผล่มายิ้มเผล่เดินกลับสำนักได้ เป็นโสดาบัน ฯลฯ ถ้าขึ้นลอยอืดเผาเลย พูดจริงๆนะขอรับ ทำเป็นเล่นไป

คุณอโศกยังไม่รู้เลยว่าธรรมๆๆๆๆๆๆ ที่่พูดถึงนั่นนะอะไร พูดไหลไปไหลมาเป็นสายแร่ทองคำน่ะ

ราคาของโฮเป็นอย่างไร ราคาของผมนั้นคือการรับรู้ความรุ้สึกทั่วร่างกายได้เสียก่อนนั้นแหล่ะคือราคาเริ่มต้นของการปฎิบัติธรรม ของโฮมันราคาคุยลมปากไปวันๆ

ไปให้ถึงที่นั่นเสียก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ดำน้ำสอบอารมณ์ธรรมะนี่น่ะคุณอโศก คุณรับปากไหม แล้วติดต่อทางสำนักนั่นด้วยว่าพร้อมจะพิสูจน์การไม่หายใจด้วยการดำน้ำ กรักชายจะพานักข่าวไปถ่ายทำสารคดีเผยแพร่ธรรมะไม่หายใจด้วย

ไม่ต้องถึงกับดำน้ำหรอก ขอแค่เอากล้องวงจรปิด ไปติดในถ้ำบนเขาตะบองนาคก็พอ

โสกะนี่เหมือนเด็ก แทนที่จะอธิบายถึงความเป็นไปได้ ดันเพ้อเจ้อไปน้ำขุ่นๆ

ที่ตลกแถบอุจาระแตกก็คือ.....ท้าให้เขาไปดูในสิ่งที่เขาไม่เชื่อ เหมือนเด็กอนุบาลจริงๆ
ใครเข้าจะยอมเสียเวลา เสียเงินทองค่ารถไปกับเรื่องไร้สาระครับ

เอางี้ซิโสกะไปชวนอาจารย์โสกะ เข้ามาคุยในบอร์ด
แล้วจะรู้ว่า...ใครจริงใครหลอก จะเอาให้ผ้าเหลืองร้อนเลย