พี่บิกหื่นครับ ธรรมชาติและเซ็กมันไม่ผิดหรอกครับ
แต่สำหรับคนที่บอกในเว็บธรรมะว่าตนถือศีลพรหมจรรย์ รักษาศีล๘ มันผิดครับ
มันผิดศีลในขั้นอุกฤตหลอกลวงชาวบ้าน

ผมว่าพี่บิกหื่นเลิกตลกกลบเกลื่อนเถอะครับ
ผมดูแล้วเหมือนคนเป็นโรคเรื้อน กลัวสังคมรังเกียจ
ก็เลยเอาแป้งมาทาเพื่อปกปิด แต่ด้วยความขี้คุยขี้โม้ของตน
พร่ามจนน้ำลายแตกฟอง กระเด็นใส่แป้งที่ชะโลมปิดรอยเน่า
จนแป้งนั้นจางหายเห็นในสิ่งที่ตัวเองซ่อนเร้นไว้

เอาเฮ! อยากหัวเราะเป็นภาษาสันสกฤตจังเลย

โฮฮับเข้าใจธรรมชาติอะไรผิดหรือเปล่า สมัยที่ผมรักษาศิลแปดผมก้อรักษาพรหมจรรย์ และเมื่อถอยมาที่ สิลห้ามันผิดตรงไหนที่จะรักทำมชาติและเ ซ็กมันผิดตรงไหนอ่ะ ไม่เสแสร้งเปิดเผยไม่เลิกกับเมียไปหาญิงอื่นเหมือนโฮฮับนี่

น่าสงสารทั้งโฮฮับและน้องคงที่เป็นลูกคู่กันอยู่.....พากันวนอยู่ในปริยัติที่ติดหลงและยึดแน่น จนไม่รู้จักธรรมะที่แท้จริงที่แสดงอยู่ในรูป นาม กายใจ ทุกวัน เวลา นาที วินาที เพราะมีจิตใจและสติปัญญาอันหยาบกร้าน เต็มไปด้วยอิจฉามัจฉริยะ เห็นใครดีเกินกว่าตนเป็นต้องอดรนทนไม่ได้ ไปไค้แคะกระแหนะกระแหนเขา แล้วเอาเรื่องในคัมภีร์ อ้างเป็นสิ่งที่เรียกว่าพุทธพจน์มาข่มผู้อื่น ทั้งๆที่ตนเองยังไม่ฉลาดในการประยุกต์เอาคำสอนในพุทธพจน์มาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันจริงๆในปัจจุบัน

ว่าไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับคุณโฮฮับต่อไปอีก แต่โฮหยุดไม่ได้ เพราะแรงเฉื่อยจากกิเลสและปฏิฆะในใจ พล่ามธรรมที่ตนยึดมั่นต่อไปหมายจะกดผู้อื่นให้ต่ำกว่าตนด้วยคำพูดต่างๆ ที่แทรกซ้อนมาในการอ้างธรรมะอ้างพุทธพจน์

โฮฮับอยากจะแสดงวิตกวิจารณ์อะไรต่อไป ก็เชิญตามสบายเลยนะ เพราะทั้งหมดเป็นหลักฐานประจานตัวคุณโฮฮับเองที่บันทึกอยู่ในลานธรรมจักรแห่งนี้ สามารถค้นคว้ามาอ้างอิงได้เสมอ ผมจะนับถือว่า โฮฮับกับน้องคงเป็นผู้มาช่วยเพิ่มสีสรรค์ให้กับกระทู้นี้ และขอบคุณไว้ด้วย


กลับมาสู่ประเด็นต่อไปดีกว่านะครับ
วันนี้ขออธิบายให้น้องคงได้รู้เรื่องความละเอียดของธรรมสักนิดเพราะมีข้อความที่น้องคิดว่าใช่ แต่มันไม่ใช่

จากข้อความที่คาดแดงไว้



การรู้หัวใจเต้นแรงเวลาโกรธหรือออกกำลังเกินตัวนั้น เป็นความรู้ตามแบบของปุถุชนคนธรรมดาสามัญผู้หนาด้วยกิเลสทั้งหลาย ไม่มีอะไรพิเศษ

แต่การที่อยู่เฉยๆแล้วสามารถที่จะสัมผัสรู้ ลมหายใจ หัวใจเต้น ชีพจร กระแสสั่นสะเทือนในร่างกาย ได้อย่างชัดเจนนั้น เป็นเรื่องพิเศษขึ้นมาจากคนธรรมดาทั่วๆไป เป็นเรื่องที่จะต้องฝึกฝน จะต้องมีกำลังสติ ปัญญา ความสังเกตที่ละเอียดแหลมคมจึงจะสัมผัสรู้สิ่งละเอียดอ่อนในกายเหล่านี้ได้ตลอดเวลาหรือทุกเวลาที่ต้องการจะรู้ อโศกะจึงได้บอกทุกคนว่า

ให้ลองทำดู ให้ลองพิสูจน์ดูก่อน ว่าคุณสามารถสัมผัสรู้ได้ทั้ง 4 หรือ 5 ขั้นตอนของมิเตอร์วัดระดับสมาธิและความเฉียบคม แหลมลึกของสติปัญญาคือ

ลมหายใจ หัวใจเต้น ชีพจร กระแสสั่นสะเทือนในร่างกาย (Vibration)...หรือที่สุด การที่จิตไปหยุดการทำงานของความคิดนึกปรุงแต่ง ที่เรียกว่า "สังขารุเปกขาญาณ"

ใครสัมผัสรู้ได้ครบในเวลาอันรวดเร็ว ก็ขออนุโมทนา เพราะ จิตที่สงบได้เร็วและมีกำลังสติปัญญา ความสังเกตที่ละเอียดคมกล้าระดับนี้ เมื่อนำมาเจริญวิปัสสนาภาวนาย่อมจะสามารถทำ มรรค ผล นิพพาน ให้แจ้งได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ในเรื่องนี้ก็ขอตอบคำสบประมาทของคุณโฮฮับที่ว่าอโศกะพูดเรื่องนอกธรรมะตามพุทธพจน์ไว้ด้วยว่าเรื่องที่นำมาสนทนาสู่กันฟังในหัวข้อกระทู้นี้นั้น เป็นการมาเสริมความเข้าใจในธรรมะภาคปฏิบัติซึ่งเป็นตอนที่เกี่ยวข้องกับกายานุปัสสนาสติปัฏฐานมาก ลองไปพิจารณาจากบาลีที่พระพุทธบิดาทรงสอนไว้ว่า

"กาเยกายา นุปัสสี วิหารติ".....เธอพึงเฝ้าพิจารณาเห็นกายในกายอยู่เนืองๆ

เรื่องของมิเตอร์ 4 ระดับแรก เป็นเรื่องของกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ส่วนข้อที่ 5 สังขารุเปกขาญาณนั้น เป็นจิตตาและธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐานซึ่ง

พิสูจน์ง่ายๆนะโฮฮับ น้องคง วางมานะทิฏฐิไว้สักชั่วครู่ชั่วยาม มาลองดูว่าคุณสามารถสัมผัสรู้กระแสสั่นสะเทือนภายในกายได้ในเวลากี่นาที เอาผลแค่นี้มาบอกให้ได้ก่อน นะโฮฮับ ยังไม่ต้อง ไปเอาเรื่องรูปฌาณ อรูปฌาณ อะไรที่ไกลตัวมาพูด ถ้าทราาบผลที่ได้จาการพิสูจน์จริงๆของคุณทั้งสองมาแล้ว ผมจะพยากรณ์ให้ทราบว่า ชาตินี้คุณทั้ง 2 จะมีวิบากทางไปสู่เส้นใด ตายจากชาตินี้ไปแล้วจะไปสู่ภพภูมิไหน

ทั้งหมดก็ไม่ใช่อิทธิปาฏิหารย์อะไรอย่างที่โฮฮับสำคัญผิดไปเลยนะครับ ทั้งหมดเป็นเรื่องภายในรูป - นาม กาย - ใจนี้ เท่านั้น แต่เอามาวิจารณ์วิจัยให้ทราบถึงผลของการเฝ้าติดตามสังเกตการณ์ปฏิกิริยาทางธรรมชาติภายในกายใจของมนุษย์ ที่อโศกะได้ทำมา แล้วถ้ายังติดตามกันต่อไป ก็จะได้ทราบว่าเราจะเอาผลที่ได้จากการพิสูจน์ธรรม พิสูจน์ธรรมมชาตินี้มาประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์กับการเจริญวิปัสสนาภาวนาของเราได้ ความรู้ในเรื่องนี้จะมาเสริมประสิทธิภาพของการปฏิบัติธรรมของเราได้อย่างไรในตอนท้ายๆ

วันนี้คงพอสมควรแก่เวลาแล้ว จะได้แยกย้ายกันไปทำงานเลี้ยงปากเลี้ยงท้องสนองตัณหากันต่อไปตามธรรมดาของสัตว์โลก

ถ่มน้ำลาย รดฟ้า เพราะ กิเลส มันเนียนซะไม่มี(โมหะ)








สภาวะนี้ เรียกว่า อุปกิเลส เหตุจาก ความยึดมั่นถือมั่น ในสภาวะที่เกิดขึ้น
เหตุจาก ความทะยานอยาก อยากมี อยากได้ อยากเป็นอะไรๆ ในสมมุติ

ป๊าดโธ่ อโสกะ อโสกะสามารถรู้ว่าสัตว์ตายจากชาตินี้และไปจุติที่ไหน ตายจากโลกนี้แล้วไปสู่ภพภูมิไหน คุณน้องคิดว่าญาณแบบนี้มีเพียงแค่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่สามารถรู้ว่าสัตว์ตายแล้วไปจุติที่ไหน ภพไหน แต่อโสกะบอกว่าสามารถรู้ได้ เอางี้ไหม คุณน้องก็อยากพิสูจน์เหมือนกัน พี่โฮฮับเราน่าจะไปสำนักอโสกะดูบ้างนะ แล้วปฏิบัติเพื่อให้อโสกะพยาการณ์ให้เราดูหน่อยว่า ชาติหน้าเราจะไปภพภูมิไหน แต่ไม่แน่คุณน้องอาจจะถามจากปากของอาจารย์อโสกะเลยว่า อโสกะพยากรณ์ได้จริงหรอ แล้วถ้าจริงหรือไม่จริง ขอให้สิ่งศักสิทธิ์เป็นพยานด้วยเลยไหม

เอางี้มั้ยอโสกะ ไหนๆอโสกะก็กล่าวหาว่าคุณน้องอิจฉาริษยาอโสกะ เห็นใครดีเกินกว่าตนเป็นต้องอดทนรนไม่ได้
ถ้าคุณน้องไม่ได้คิดอย่างงั้นกะอโสกะ ขอให้อโสกะเจอวิบากกรรมที่กล่าวหาคุณน้อง อโสกะกล้าไหม แล้วถ้าคุณน้องปฏิบัติไม่ได้ในชาตินี้ คุณน้องจะขอตามไปเป็นลูกศิษอโสกะในภพหน้าให้อโสกะคอยสั่งคอยสอนคอยอบรม แต่ถ้าคุณน้องปฏิบัติถูก ขอให้อโสกะตามไปเป็นลูกศิษย์คุณน้องให้คุณน้องอบรมสั่งสอนอะโสกะ

แบบนี้เขาเรียก.....ไอ้ผู้ร้ายปากแข็ง
ถ้าเป็นสมัยโบราณ บิกหื่นต้องโดนหวายแช่ฉี่ลงหลัง โทษฐานไม่ยอมสำนึก
และฉี่นั้นต้องเป็นฉี่หญิงที่มีสามีแล้ว จะได้ให้พี่บิกหื่นสำเหนียกว่า มีเมียอยู่แล้ว
อีกทั้งเมียมีบุญคุณหาเลี้ยงตัวเอง ยังกล้าที่จะนอกใจหาเศษหาเลยกับเด็กสาวๆ

พี่บิกทู่(หื่น)หมั่นท่องไว้ครับว่า........

ภรรยา สะระนัง คัจฉามิ เมียที่หาเลี้ยงตนเอง ย่อมเป็นที่พึ่งที่ระลึก

ถ้าอะเมซิ่งเปิดเผยไม่ปิดบังการกระทำของตน อะเมซิ่งยกเลิกเป็นเพื่อนกับคุณน้องและบล็อคเฟสทำไม ทั้งที่เราตกลงกันว่าจะเป็นกัลยามิตรอยู่บนเส้นทางธรรมกัน มีเหตุผลอะไรทำไมต้องบล็อคทั้งที่อะเมซิ่งมาขอเฟสคุณน้องก่อน บอกไม่อยากคุยในเว็ปธรรมมะคุยในเฟสดีกว่า แล้วอยู่ๆก็บล็อคเรา แล้วไปๆมายกเลิกบล็อคหรือยังไง คุนน้องเข้าไปเจอโดยบังเอิญ ตอนแรกอะเมซิ่งบอกว่าเบื่อหน่ายเรื่องผู้หญิง ผ่านหญิงมาเป็นร้อยพัน อยากหยุด อยากเดินเข้าสู้เส้นทางธรรม แต่ไปๆมาๆ จากหัวข้อ ผมรักธรรมชาติและเสียงเพลง(ตอนยังแอดเพื่อนกะคุนน้อง)พอบล็อคเฟสเรา ตนเองก็ไปเปลี่ยนเป็นผมรักธรรมชาติและเซ็ก พูดกะคนอื่นว่าบรรลุแล้วเป็นพระอริยะขั้นสอง พระอริยะขั้นสองท่านกิเลศเบาบางแล้ว เรื่องกามราคะก็เบาลง ท่านคงไม่โพสประโยค ผมรักธรรมชาติและเซ็กหรอก555+ มันทำให้คุณน้องเสียความรู้สึกอย่างแรง นี่หรอนักปฏิบัติธรรมที่เข้าถึงปัญญาในระดับ ภาวนามยปัญญา อะเมซิ่งทำไรรู้อยู่แก่ใจ พอมีคนมาเห็นสิ่งที่ตนกระทำแทนที่จะสำนึกแต่ก็ดิ้นไปเรื่อย เหมือนผู้ร้ายปากแข็ง
ปล.ไอ้ประโยคแดงไม่ไปหาผู้หญิงอื่น แล้ว Love Rose หมายความว่าไงหรอ อะเมซิ่งมีเมียชื่อโรสรึป่าว ถ้าไม่ใช่อะเมซิ่งเลิฟโรสที่แปลว่าดอกกุหลาบหรอ555+เอางี้ดีกว่า อะเมซิ่งกล้าให้คุณน้องไปเม้นถามเลยป่าวละว่าโรสนี่คือใคร ใช่เมียรึป่าว5555+ ว่าแต่พี่โฮธรรมมะทิ้งเมีย ระวังตนเองอย่าเป็นธรรมมะนอกใจเมียนะ วิบากกรรมมันข้ามภพข้ามชาติ

จะมาสงสารผมสองคนทำไม ผมว่าคุณโสกะไปสงสารลูกคู่คุณที่ชื่อบิกทู่ดีกว่าครับ
ลูกคู่คุณกำลังปวดแสบปวดร้อน เพราะโดนเด็กมันจับขึ้นเขียง
ชำแหละเอากิเลสออกมาอวดชาวบ้านอยู่ครับ

ก่อนที่จะว่าผมกระแหนะกระแหน กรุณาดูใจตัวเองตอนที่กำลังพิมพ์ความเห็นซิครับ
กิเลสมันพรั่งพรูเหมือนเขื่อนแตก

แล้วก็ตั้งสติหน่อยซิครับ อะไรพูดเหมือนกับว่า ตัวเองกำลังประยุกต์คำสอนมาใช้ในชีวิตประจำวัน
คุณเอามาใช้กับชีวิตประจำวันประสาอะไรครับ มาบอกให้เขานั่งดูหัวใจเต้นตอด
แถมมีการหลบไปอยู่ในถ้ำอีกต่างหาก



ผมไม่ได้กดให้ใครอยู่ต่ำ หรือแทงก้นใครให้ขึ้นสูง ผมแค่แสดงความเห็นที่บรรดาครูบาอาจารย์
ท่านอบรมสั่งสอนว่า......."การปฏิบัติจะต้องทำตามปริยัติ อันเป็นพุทธพจน์ "

เหตุนี้ ถ้าใครแอบอ้างเอาพระนามของพระพุทธเจ้า ไปตั้งเป็นสำนักและสอนการปฏิบัติ
ที่ผิดไปจากพุทธพจน์ ผมก็มีสิทธิ์มาบอกกล่าวว่าอะไรเป็นอะไร เข้าใจมั้ยโสกะ



ที่พูดมาเป็นประโยคท้าทายหรือตัดพ้อครับ
ถ้าเป็นคำท้าทาย ผมก็ขอบอกไว้เลย ไม่ต้องท้า
เพราะถ้าผมเห็นคำพูดที่ไม่เข้าท่าเมื่อไร
ผมต้องแสดงความเห็นแย้งแน่

คุนน้องสงสัยสำนวนของพี่วลัยพรที่บอกว่า ถ่มน้ำลายรดฟ้า หมายความว่าไง เลยไปหาในกูเกิ้ล ตอนนี้รู้แล้ว วันหลังจะจำไปใช้มั่ง 555+
http://www.suphasitthai.com/%E0%B8%96%E ... 9%E0%B8%B2

อันที่จริงผมไม่อยากจะเอ่ยคำนี้กับใครเลยว่า......ทิฐิหนา
คุณคงไม่เข้าใจที่ว่า.....ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ

ผมกับยัยน้องคิงคอง เอาผลที่เรียกว่า ปฏิเวธมาให้คุณเทียบเคียงดู
ผลก็คือ......ได้รับรู้ถึงการเต้นของหัวใจ

ซึ่งผมกับยัยน้องบอกว่า การที่หัวใจเต้นแรงจนรู้สึกได้ มันเกิดจากกิเลสโทสะ
เพราะมันมีสาเหตุมาจาก ความโกรธหรือไม่ก็ความตื่นเต้น

เมื่อมันเป็นแบบนี้ก็แสดงให้เห็นว่า การรับรู้ได้ถึงการเต้นของหัวใจ
มันไม่ใช่ปฏิเวธหรือผลการปฏิบัติที่ถูกต้อง

เช่นเดียวกัน ผลการปฏิบัติของคุณ เป็นการรับรู้การเต้นของหัวใจ
นี่ก็แสดงว่า คุณปฏิบัติผิดหลักที่พระพุทธองค์ทรงสอน เพราะถ้าคุณปฏิบัติถูก
ทำไมผลที่ได้ถึงเหมือนกับ ผลที่เกิดจากกิเลสล่ะ

คุณโสกะพิจารณาธรรมไม่เป็น แล้วยังตะบี้ตะบันเถียง
เหมาะแล้วที่ผมว่า..ทิฐิหนา

ยังไม่สำนึก เอาอีกแล้วเอาชื่อพระพุทธองค์มาอ้าง ทั้งๆที่ตัวเองกำลังทำนอกลู่นอกทาง
ผมถามคุณหน่อย คุณปฏิบัติสติปัฏฐานโลกไหนครับ ผลมันถึงได้ย้อนแย้งกับสิ่งที่พระพุทธองค์สอน

คุณลองไปดูในหมวดของกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เอาเป็นบรรพที่ว่าด้วยอานาปานสติ
ไม่มีบอกเลยว่า ....หยุดลมหายใจ เห็นมีแต่คุณเอาพระธรรมไปมั่ว มีแต่ระงับกายสังขาร
ความหมายของระงับกายสังขาร คือจิตไม่ไปปรุงแต่งลมหายใจ จิตเป็นแค่รู้เฉยๆ

แต่คุณกับอาจารย์คุณดันลอกเลี่ยนไปพูดผิดๆ ว่า...หยุดลมหายใจ

แล้วไอ้หัวใจเต้นตอดก็เหมือนกัน คุณเอาจากบรรพไหน มั่วจริงๆเลย
ถ้าเป็นเรื่องอวัยวะภายใน ก็ต้องไปดูที่ ปฏิกูลนมสิการบรรพ ถามหน่อยมันมีหรือ
ที่ว่าหัวใจเต้นตอดๆ


ถ้าคุณว่าสิ่งที่ผมอ้างไม่ใช่คุณลองเอาของคุณมาโชว์ซิ

คิกๆๆ หนุกดีธรรมะสาวไส้

เรารึก็รอคุณ piyavat จะไปซื้อเครื่องมือวัดความรัก

ผมนะหยุดความคิดไม่ได้ชู้ทางใจ แต่ทางกายไม่เคยผิดศิลครับ ก็น่าจะรุ้นะใครห้ามทุจริตทางใจได้สึกสาทำมะมากันขนาดนี้

ไม่รุ้เป็นไงสาวๆคุยกับแมสซิ่งชอบเกิดกำหนัด แมสซิ่งกลัวอ่ะถ้าเป็นสมัยก่อนจับบุชายันไปแล้ว แต่สมัยนี้ขอลา