วันเวลาปัจจุบัน 14 พ.ย. 2025, 01:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 168 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 12  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 05:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกายรู้ได้ไงว่าผมคิดอย่างนั้นผมเข้าถึงความจริงโดยสภาวแห่งการไม่มีตัวตนที่แท้จริงผมย่อมเข้าใจกว่ากรัชกายที่ได้แต่คิดเอา


ตัวตนตามนิยามของ amazing เป็นไงอ่ะ พูดงี้แสดงว่า ตัวตนมีมาก่อนหน้าแล้ว แล้วมาทำลายตัวตนได้ กระนั้นหรอ :b1:


ถามว่ารู้ไ้ด้อย่างไร? รู้ไ้ด้จากความคิดนี้

อ้างคำพูด:
กรัชกายทำตกใจไปได้แค่เขาอยากอวดสิ่งที่เขามีเท่านั้นกรึกายไม่รุ้ะไรเกี่ยวกับการปฎิบัติแนวนี้เลย


การยึดติดถือมั่นในสภาวธรรม ก็คือการมีอัตตานั่นเอง
เย้นร้อน อ่อนแข็งตึงไหว สิ่งที่ปรากฎทางทวารทั้งหลายมีจริงมั้ย. ผมเข้าถึงความดับของทุกสิ่ง ผมจึงดับความยึดในอุปทานได้จริง. กรัชกายถึงโดยความคิคจะดับอุปทานได้จริงเหรอ



เขาเป็นอะไรครับน่ะ จะแก้ไขยังไง :b1:


อ้างคำพูด:
ดิฉันฝึกหัดนั่งสมาธิ วิปัสสนา คือนั่งดูลมหายใจเข้าออก เฉยๆไม่บริกรรม และให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา

คอร์สแรกที่ดิฉันไปศึกษาเรียนรู้เป็นเวลา10 วัน และหลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาปฎิบัติที่บ้าน สม่ำเสมอ วันละหลายครั้ง บางทีก็หลายชั่วโมงติดต่อกัน

ล่วงเข้ามาประมาณเดือนที่ 3 ดิฉันมีอาการ ร้อนที่ร่างกายทุกส่วน และเกิดอาการปวดศีรษะ เหมือนมีเข็มเป็นร้อยๆเล่มอยู่ในห้ว บางที แข็ง ตึง มึน ทึบอยู่ในหัว จนยากที่จะอธิบาย จนขนาดต้องไปเอกซ์เรย์แต่ไม่มีอะไรผิดปรกติ
อาการมันลงมาที่มือข้างซ้าย และ กรามบน ขมับ 2 ข้าง เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ตลอดเวลาเป็นที่ทรมานมาก

ระยะ หลังมาดิฉันก็เลยนั่งบ้างไม่นั่งบ้าง เพราะปวดหัวเหลือเกิน บางอาการไม่สามารถบอกมาเป็นตัวอักษรได้ว่ารุ้สึกอย่างไร อาการเป็นตลอดเวลา 2 - 4 ชั่วโมง ทั้งหลับทั้งตื่น ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ไปหาหมอฝังเข็ม ฝังมา 9 ครั้ง ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลา อาการยังมีตลอด ดิฉันก็ได้แต่อุเบกขา ทำใจไป คิดไปต่างๆนานา เวลานั่งก็ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง
ตอนนี้นับระยะเวลาเป็นมากว่า 2 ปี ได้แต่หวังว่าผู้รู้ทั้งหลายคงช่วยอนุเคราะห์คนมีกรรมคนนี้ด้วย ขอได้โปรดเมตตาช่วยด้วยนะคะ
เอาอีกแล้ว.นั้แหล่ะชีวิตเขาล่ะวิบากกรรมที่เขาได้ทำมันถูกขับออกมาทางสังขาร มีธรรมมะอยุ่อย่างหนึ่งที่จะช่วยเขาได้ อุเบกขา. และอดทนฝึกต่อไปเขาจะาะสบวามสำเร็จ


โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 05:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกายรู้ได้ไงว่าผมคิดอย่างนั้นผมเข้าถึงความจริงโดยสภาวแห่งการไม่มีตัวตนที่แท้จริงผมย่อมเข้าใจกว่ากรัชกายที่ได้แต่คิดเอา


ตัวตนตามนิยามของ amazing เป็นไงอ่ะ พูดงี้แสดงว่า ตัวตนมีมาก่อนหน้าแล้ว แล้วมาทำลายตัวตนได้ กระนั้นหรอ :b1:


ถามว่ารู้ไ้ด้อย่างไร? รู้ไ้ด้จากความคิดนี้

อ้างคำพูด:
กรัชกายทำตกใจไปได้แค่เขาอยากอวดสิ่งที่เขามีเท่านั้นกรึกายไม่รุ้ะไรเกี่ยวกับการปฎิบัติแนวนี้เลย


การยึดติดถือมั่นในสภาวธรรม ก็คือการมีอัตตานั่นเอง
เย้นร้อน อ่อนแข็งตึงไหว สิ่งที่ปรากฎทางทวารทั้งหลายมีจริงมั้ย. ผมเข้าถึงความดับของทุกสิ่ง ผมจึงดับความยึดในอุปทานได้จริง. กรัชกายถึงโดยความคิคจะดับอุปทานได้จริงเหรอ



เขาเป็นอะไรครับน่ะ จะแก้ไขยังไง :b1:


อ้างคำพูด:
ดิฉันฝึกหัดนั่งสมาธิ วิปัสสนา คือนั่งดูลมหายใจเข้าออก เฉยๆไม่บริกรรม และให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา

คอร์สแรกที่ดิฉันไปศึกษาเรียนรู้เป็นเวลา10 วัน และหลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาปฎิบัติที่บ้าน สม่ำเสมอ วันละหลายครั้ง บางทีก็หลายชั่วโมงติดต่อกัน

ล่วงเข้ามาประมาณเดือนที่ 3 ดิฉันมีอาการ ร้อนที่ร่างกายทุกส่วน และเกิดอาการปวดศีรษะ เหมือนมีเข็มเป็นร้อยๆเล่มอยู่ในห้ว บางที แข็ง ตึง มึน ทึบอยู่ในหัว จนยากที่จะอธิบาย จนขนาดต้องไปเอกซ์เรย์แต่ไม่มีอะไรผิดปรกติ
อาการมันลงมาที่มือข้างซ้าย และ กรามบน ขมับ 2 ข้าง เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ตลอดเวลาเป็นที่ทรมานมาก

ระยะ หลังมาดิฉันก็เลยนั่งบ้างไม่นั่งบ้าง เพราะปวดหัวเหลือเกิน บางอาการไม่สามารถบอกมาเป็นตัวอักษรได้ว่ารุ้สึกอย่างไร อาการเป็นตลอดเวลา 2 - 4 ชั่วโมง ทั้งหลับทั้งตื่น ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ไปหาหมอฝังเข็ม ฝังมา 9 ครั้ง ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลา อาการยังมีตลอด ดิฉันก็ได้แต่อุเบกขา ทำใจไป คิดไปต่างๆนานา เวลานั่งก็ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง
ตอนนี้นับระยะเวลาเป็นมากว่า 2 ปี ได้แต่หวังว่าผู้รู้ทั้งหลายคงช่วยอนุเคราะห์คนมีกรรมคนนี้ด้วย ขอได้โปรดเมตตาช่วยด้วยนะคะ
เอาอีกแล้ว.นั้แหล่ะชีวิตเขาล่ะวิบากกรรมที่เขาได้ทำมันถูกขับออกมาทางสังขาร มีธรรมมะอยุ่อย่างหนึ่งที่จะช่วยเขาได้ อุเบกขา. และอดทนฝึกต่อไปเขาจะาะสบวามสำเร็จ



ทนตอ่ไป อุเบกขาต่อไป แล้วจะถึงฝั่งข้างโน่นหรอขอรับ สงสัยข้างในจะเป็นของปลอม ที่อเมสซิ่งปลอมไว้หลอกตัวเอง คิกๆๆ

เขามิบ้าไปก่อนรึขอรับ

เจริญธรรม :b1: :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 05:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1375241010-1370203825-o.gif
1375241010-1370203825-o.gif [ 497.16 KiB | เปิดดู 2534 ครั้ง ]
amazing ขอรับ พอเถอะขอรับ กลับเถอะขอรับ ดูหนังฟังเพลงบ้าง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 06:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing ขอรับ พอเถอะขอรับ กลับเถอะขอรับ ดูหนังฟังเพลงบ้าง :b1:

กรัชกาย ท่านไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องราจะกล่าวไปใย ไม่มีใครบ้ากับสิ่งเหล่านี้หรอก


โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 06:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




a_task.jpg
a_task.jpg [ 49.3 KiB | เปิดดู 2526 ครั้ง ]
:b8:
โต้วาทีกันมาหลายสนามหลายกระทู้ บัดนี้คงจะถึงจุดอิ่มตัวกันแล้วนะครับ คุณกรัชกาย และ คุณAmazing

จากภาพรวมของความเห็นทั้งสองฝ่าย

สำหรับคุณ Amazing นั้นอยู่บนทางแห่งการปฏิบัติจริงมามากพอสมควร จนสัมผัสรู้ Vibration ในกายได้แล้ว ก็ถือว่ามีจิตละเอียดอ่อน มีสติปัญญาคมกล้า ลึกซึ้งถึงระดับที่เอาความเห็นผิด ออกจากใจได้โดยไม่ยาก ขออนุโมทนา และจงอย่าหวั่นไหวไปกับการทดสอบของคุณกรัชกายเลยนะครับ เดินหน้าต่อไปด้วยความอาจหาญในธรรม
:b41:
สำหรับคุณกรัชกาย ค่อนข้างจะคล้ายท่านโพธิละเถระ อยู่บ้าง คงต้องหาให้พบเณรน้อย ริมหนองน้ำให้ได้ แล้วก็จะสามารถ เปลี่ยนจิตปรับใจให้เข้าทางตรงได้โดยเร็ววัน สนุกกับการค้นคว้าตำราและคัมภีร์มาโต้วาทีกัน พอสมควรแล้ว ลงมือปฏิบัติจริง 10 วัน ๆ ปีละ 2 - 3 ครั้ง จนได้เข้าคอร์ส 20 วัน 30 วัน 3 เดือน ตามตัวอย่างหลักสูตรการอบรมของท่านอาจารย์โกเอ็นก้า ผู้อำลาจากโลกนี้ไปด้วยคุณงามความดีที่เปี่ยมล้นต่อชาวโลก คงจะพอทำให้คุณกรัชกาย สิ้นโศก สู่สงบและสันติสุขในเร็ววันครับ
tongue
โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 07:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b8:
โต้วาทีกันมาหลายสนามหลายกระทู้ บัดนี้คงจะถึงจุดอิ่มตัวกันแล้วนะครับ คุณกรัชกาย และ คุณAmazing

จากภาพรวมของความเห็นทั้งสองฝ่าย

สำหรับคุณ Amazing นั้นอยู่บนทางแห่งการปฏิบัติจริงมามากพอสมควร จนสัมผัสรู้ Vibration ในกายได้แล้ว ก็ถือว่ามีจิตละเอียดอ่อน มีสติปัญญาคมกล้า ลึกซึ้งถึงระดับที่เอาความเห็นผิด ออกจากใจได้โดยไม่ยาก ขออนุโมทนา และจงอย่าหวั่นไหวไปกับการทดสอบของคุณกรัชกายเลยนะครับ เดินหน้าต่อไปด้วยความอาจหาญในธรรม
:b41:


สำหรับคุณกรัชกาย ค่อนข้างจะคล้ายท่านโพธิละเถระ อยู่บ้าง คงต้องหาให้พบเณรน้อย ริมหนองน้ำให้ได้ แล้วก็จะสามารถ เปลี่ยนจิตปรับใจให้เข้าทางตรงได้โดยเร็ววัน สนุกกับการค้นคว้าตำราและคัมภีร์มาโต้วาทีกัน พอสมควรแล้ว ลงมือปฏิบัติจริง 10 วัน ๆ ปีละ 2 - 3 ครั้ง จนได้เข้าคอร์ส 20 วัน 30 วัน 3 เดือน ตามตัวอย่างหลักสูตรการอบรมของท่านอาจารย์โกเอ็นก้า ผู้อำลาจากโลกนี้ไปด้วยคุณงามความดีที่เปี่ยมล้นต่อชาวโลก คงจะพอทำให้คุณกรัชกาย สิ้นโศก สู่สงบและสันติสุขในเร็ววันครับ
tongue



ถามคุณอโศกว่า ถ้าคุณปฏิบัติ คือ จะใช้อนาปาน หรือกายคตา หรืออะไรๆอีกนับไม่หวาดไหว ทำไปปฏิบัิติไปนะ :b14:

เมื่อสภาวะนี้

อ้างคำพูด:
ดิฉันฝึกหัดนั่งสมาธิ วิปัสสนา คือนั่งดูลมหายใจเข้าออก เฉยๆไม่บริกรรม และให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา

คอร์สแรกที่ดิฉันไปศึกษาเรียนรู้เป็นเวลา10 วัน และหลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาปฎิบัติที่บ้าน สม่ำเสมอ วันละหลายครั้ง บางทีก็หลายชั่วโมงติดต่อกัน

ล่วงเข้ามาประมาณเดือนที่ 3 ดิฉันมีอาการ ร้อนที่ร่างกายทุกส่วน และเกิดอาการปวดศีรษะ เหมือนมีเข็มเป็นร้อยๆเล่มอยู่ในห้ว บางที แข็ง ตึง มึน ทึบอยู่ในหัว จนยากที่จะอธิบาย จนขนาดต้องไปเอกซ์เรย์แต่ไม่มีอะไรผิดปรกติ
อาการมันลงมาที่มือข้างซ้าย และ กรามบน ขมับ 2 ข้าง เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ตลอดเวลาเป็นที่ทรมานมาก

ระยะ หลังมาดิฉันก็เลยนั่งบ้างไม่นั่งบ้าง เพราะปวดหัวเหลือเกิน บางอาการไม่สามารถบอกมาเป็นตัวอักษรได้ว่ารุ้สึกอย่างไร อาการเป็นตลอดเวลา 2 - 4 ชั่วโมง ทั้งหลับทั้งตื่น ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ไปหาหมอฝังเข็ม ฝังมา 9 ครั้ง ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลา อาการยังมีตลอด ดิฉันก็ได้แต่อุเบกขา ทำใจไป คิดไปต่างๆนานา เวลานั่งก็ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง
ตอนนี้นับระยะเวลาเป็นมากว่า 2 ปี ได้แต่หวังว่าผู้รู้ทั้งหลายคงช่วยอนุเคราะห์คนมีกรรมคนนี้ด้วย ขอได้โปรดเมตตาช่วยด้วยนะคะ



ปรากฎแก่คุณอโศกๆ จะแก้ปัญหานี้ยังไง ? :b8: :b1: :b36: :b37:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 07:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณอโศก เป็นอาทิ มองโลกและชีวิต (ธรรมะระดับปรมัตถ์) เป็นของสวยงาม คือคิดว่าโยคีผู้ปฏิบัติธรรมหรือจะเรียกว่าสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน หรือวิธีปฏิบัติปลีกย่อยอื่นๆ ว่าง่ายรู้เข้าใจง่าย (ง่ายเหมือนปอกกล้วยสุกเข้าปาก) ทำกันปฏิบัิติกัน 10 วัน 15 วัน 30 วัน แล้วรู้เข้าใจสภาพธรรมคือชีวิตจิตใจ (สังขตธรรม) ทะลุปรุโปร่ง หรือบรรลุนั่้นนี่ล่ะก็คิดใหม่ครับ :b32:

ตรงๆ นะไม่อ้อมค้อม คุณอโศกลองแนะนำหรือบอกวิธีที่คุณใช้ทำสิครับ :b8: :b36: :b37:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 07:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณอโศก อเมสซึ่ง คุณจะแก้ปัญหานี้ยังไง :b1:


.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 07:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คุณอโศก อเมสซึ่ง คุณจะแก้ปัญหานี้ยังไง :b1:

เปิดไม่ได้อ่ะ


โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 07:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b8:
โต้วาทีกันมาหลายสนามหลายกระทู้ บัดนี้คงจะถึงจุดอิ่มตัวกันแล้วนะครับ คุณกรัชกาย และ คุณAmazing

จากภาพรวมของความเห็นทั้งสองฝ่าย

สำหรับคุณ Amazing นั้นอยู่บนทางแห่งการปฏิบัติจริงมามากพอสมควร จนสัมผัสรู้ Vibration ในกายได้แล้ว ก็ถือว่ามีจิตละเอียดอ่อน มีสติปัญญาคมกล้า ลึกซึ้งถึงระดับที่เอาความเห็นผิด ออกจากใจได้โดยไม่ยาก ขออนุโมทนา และจงอย่าหวั่นไหวไปกับการทดสอบของคุณกรัชกายเลยนะครับ เดินหน้าต่อไปด้วยความอาจหาญในธรรม

:b41:

อโสกะ...หน่อ....
พระพุทธเจ้าตรัสทำนองว่า...
"ปุถุชน...เห้นสิ่งไม่เป็นสาระ..ว่าเป็นสาระ..เห็นสิ่งเป็นสาระว่าไม่เป็นสาระ..ย่อมจัดการผิด..มีผลเป็นทุกข์.."

อ้างคำพูด:

สำหรับคุณกรัชกาย ค่อนข้างจะคล้ายท่านโพธิละเถระ อยู่บ้าง คงต้องหาให้พบเณรน้อย ริมหนองน้ำให้ได้ แล้วก็จะสามารถ เปลี่ยนจิตปรับใจให้เข้าทางตรงได้โดยเร็ววัน สนุกกับการค้นคว้าตำราและคัมภีร์มาโต้วาทีกัน พอสมควรแล้ว ลงมือปฏิบัติจริง 10 วัน ๆ ปีละ 2 - 3 ครั้ง จนได้เข้าคอร์ส 20 วัน 30 วัน 3 เดือน ตามตัวอย่างหลักสูตรการอบรมของท่านอาจารย์โกเอ็นก้า ผู้อำลาจากโลกนี้ไปด้วยคุณงามความดีที่เปี่ยมล้นต่อชาวโลก คงจะพอทำให้คุณกรัชกาย สิ้นโศก สู่สงบและสันติสุขในเร็ววันครับ
tongue


ควรดีใจต่างหาก.....เพราะท่านโพธิละเถระ..ท่านก็บรรลุแล้ว...ทำความดีมีความเพียรตลอดคะพุทธเจ้าองค์ก่อนถึง6 พระองค์....หากเราย้อนดูตัวเองได้บ้าง...เราทำความดีมีความเพียรเท่าท่านหรือเปล่า?

อย่าด่วนสรุปอะไรเพียงเห็น.....แต่ภายนอก...ถ้ามีญาณเลอะๆ...มันก็หลงทั้งหมดนั้นแหละ


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 14 ต.ค. 2013, 13:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 08:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b16: :b16:
อ้างคำพูด:
อ้างคำพูด:กรัชกาย
ดิฉันฝึกหัดนั่งสมาธิ วิปัสสนา คือนั่งดูลมหายใจเข้าออก เฉยๆไม่บริกรรม และให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา

คอร์สแรกที่ดิฉันไปศึกษาเรียนรู้เป็นเวลา10 วัน และหลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาปฎิบัติที่บ้าน สม่ำเสมอ วันละหลายครั้ง บางทีก็หลายชั่วโมงติดต่อกัน

ล่วงเข้ามาประมาณเดือนที่ 3 ดิฉันมีอาการ ร้อนที่ร่างกายทุกส่วน และเกิดอาการปวดศีรษะ เหมือนมีเข็มเป็นร้อยๆเล่มอยู่ในห้ว บางที แข็ง ตึง มึน ทึบอยู่ในหัว จนยากที่จะอธิบาย จนขนาดต้องไปเอกซ์เรย์แต่ไม่มีอะไรผิดปรกติ
อาการมันลงมาที่มือข้างซ้าย และ กรามบน ขมับ 2 ข้าง เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ตลอดเวลาเป็นที่ทรมานมาก

ระยะ หลังมาดิฉันก็เลยนั่งบ้างไม่นั่งบ้าง เพราะปวดหัวเหลือเกิน บางอาการไม่สามารถบอกมาเป็นตัวอักษรได้ว่ารุ้สึกอย่างไร อาการเป็นตลอดเวลา 2 - 4 ชั่วโมง ทั้งหลับทั้งตื่น ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ไปหาหมอฝังเข็ม ฝังมา 9 ครั้ง ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลา อาการยังมีตลอด ดิฉันก็ได้แต่อุเบกขา ทำใจไป คิดไปต่างๆนานา เวลานั่งก็ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง
ตอนนี้นับระยะเวลาเป็นมากว่า 2 ปี ได้แต่หวังว่าผู้รู้ทั้งหลายคงช่วยอนุเคราะห์คนมีกรรมคนนี้ด้วย ขอได้โปรดเมตตาช่วยด้วยนะคะ

:b12: :b12: :b12:
เห็นคุณกรัชกายยกปัญหานี้ไปถามในหลายๆกระทู้คงเป็นเพราะยังไม่ได้รับคำตอบที่ถูกใจหรือแก้ปัญหาของน้องคนนี้ได้
:b36: :b45: :b53:

นั่งดูลมหายใจเข้าออก เฉยๆไม่บริกรรม และให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา
:b48:
น้องคนนี้มีหลักการภาวนาดี แต่เป้าหมายการภาวนา ไม่ตรงไม่ถูกต้อง ไม่แม่นยำจึงยิ่งแก้ก็ยิ่งกลุ้ม
:b13:
เป้าหมายของการภาวนาหรือการเจริญมรรคนั้นต้องชี้ตรงไปจุดเดียวคือแก้สมุทัยหรือ แก้ที่เหตุ

น้องเขาไม่รู้ว่าภาวนาไปเพื่ออะไร?จึงภาวนาตามเขาไปแบบมดเดินทาง

คุณกรัชกาย ต้องมาปรับฐานความรู้ของน้องเขาเสียใหม่ให้เป็นสัมมาทิฏฐิจริงๆเสียก่อนแล้วค่อยตั้งหน้าภาวนา จะได้ไม่เสียเวลาหลงทางอยู่นาน ทุกทรมาณมาตั้ง 2 ปีเช่นนี้

อธิบายอริยสัจ 4 ให้เขาฟังโดยละเอียดทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ

ชี้ตรงข้อสมุทัย ให้ชัดว่า เหตุทุกข์คือตัณหา........ผู้สร้างตัณหา คือ อัตตา หรือสักกายทิฏฐิ ซึ่งก็คือเหตุทุกข์ที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังตัณหา

งานของการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา คือเอาสมุทัย เหตุทุกข์ คือความเห็นผิด ว่าเป็นอัตตาตัวกูของกู กับความยึดผิด(มานะทิฏฐิ)ออกจากใจเสียให้ได้เป็นสำคัญ

การภาวนา ไม่ใช่การไปพยายามละยินดียินร้าย ให้ใจเป็นอุเบกขา นี้เป็นทฤษฎีเพื่อการปฏิบัติ หรือสติปัฏฐาน 4

การจะเอายินดียินร้ายออกได้นั้นต้อง หาตัวผู้ยินดียินร้ายให้เจอ แล้วเอาตัวผู้ยินดียินร้ายออกให้ได้ นั่นถึงจะเป็นการแก้ที่ถูกจุด ถูกประเด็นของเหตุทุกข์ที่แท้จริง พูดชัดๆ สั้น ง่าย ว่า

งานสำคัญอันแรกของผู้ปารถนาจะถึงความเป็นชาวพุทธโดยสมบูรณ์ก็คือ การเอาความเห็นผิด(มิจฉาทิฏฐิ)ว่าเป็น กู เป็นเรา เป็นตัว เป็นตน ออกจากใจเสียให้ได้ จะเอาออกได้อย่างไรก็พึงดูและสังเกตจากคำสรุปวิธีปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาที่ยกมาให้พิจารณาดังต่อไปนี้

:b37:
งานและหน้าที่ของชาวพุทธ

สำรวมกายใจมานิ่งรู้ นิ่งสังเกต
ปัจจุบันอารมณ์ จนละความเห็นผิดว่า กาย ใจ นี้ เป็นอัตตาตัวกู ของกู
พอกพูนความเห็นถูกต้อง ว่ากาย ใจ นี้ เป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ตัวกู ของกู
ทุกวัน เวลา นาที วินาที ที่ระลึกได้และมีโอกาส


หัวใจวิปัสสนาภาวนา

ใจปัญญาอย่ายอมใจเป็นกู
นิ่งดู นิ่งสังเกต พิจารณา ด้วยวิริยะ อุตสาหะ ตบะ ขันติ มิยอมถอย
ถ้าสู้ได้ ทนได้ ไม่ตะบอย
กู จะถอยหรือตายดับ ไปจากใจ

:b38:
คงจะตอบคำถามอีกข้อหนึ่งของคุณกรัชกายที่ว่า.....ทำอย่างไร?

ยังสงสัย ตีความไม่ออก ก็ถามอีกนะครับ
:b8:
:b4: :b4: :b4:


โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 08:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




41_1720.jpg
41_1720.jpg [ 31.42 KiB | เปิดดู 2502 ครั้ง ]
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
โต้วาทีกันมาหลายสนามหลายกระทู้ บัดนี้คงจะถึงจุดอิ่มตัวกันแล้วนะครับ คุณกรัชกาย และ คุณAmazing

จากภาพรวมของความเห็นทั้งสองฝ่าย

สำหรับคุณ Amazing นั้นอยู่บนทางแห่งการปฏิบัติจริงมามากพอสมควร จนสัมผัสรู้ Vibration ในกายได้แล้ว ก็ถือว่ามีจิตละเอียดอ่อน มีสติปัญญาคมกล้า ลึกซึ้งถึงระดับที่เอาความเห็นผิด ออกจากใจได้โดยไม่ยาก ขออนุโมทนา และจงอย่าหวั่นไหวไปกับการทดสอบของคุณกรัชกายเลยนะครับ เดินหน้าต่อไปด้วยความอาจหาญในธรรม

:b41:

อโสกะ...หน่อ....
พระพุทธเจ้าตรัสทำนองว่า...
"ปุถุชน...เห้นสิ่งไม่เป็นสาระ..ว่าเป็นสาระ..เห็นสิ่งเป็นสาระว่าไม่เป็นสาระ..ย่อมจัดการผิด..มีผลเป็นทุกข์.."

จิตลึกๆ อโสกะกำลังหาพวกพ้องหรือ?...อริยะไม่หาใครมาเป็นพวกพ้อง....ไม่หาคำชม...ไม่หายศสถานะใดใด
ไม่ได้หมายความว่ารักเพื่อนๆไม่ได้นะ...รักได้...ติเพื่อก่อได้...อย่าติเพื่อยกตน..อันนี้ใจตนย่อมรู้ดีกว่าผู้อื่นเน๊าะ...

อ้างคำพูด:

สำหรับคุณกรัชกาย ค่อนข้างจะคล้ายท่านโพธิละเถระ อยู่บ้าง คงต้องหาให้พบเณรน้อย ริมหนองน้ำให้ได้ แล้วก็จะสามารถ เปลี่ยนจิตปรับใจให้เข้าทางตรงได้โดยเร็ววัน สนุกกับการค้นคว้าตำราและคัมภีร์มาโต้วาทีกัน พอสมควรแล้ว ลงมือปฏิบัติจริง 10 วัน ๆ ปีละ 2 - 3 ครั้ง จนได้เข้าคอร์ส 20 วัน 30 วัน 3 เดือน ตามตัวอย่างหลักสูตรการอบรมของท่านอาจารย์โกเอ็นก้า ผู้อำลาจากโลกนี้ไปด้วยคุณงามความดีที่เปี่ยมล้นต่อชาวโลก คงจะพอทำให้คุณกรัชกาย สิ้นโศก สู่สงบและสันติสุขในเร็ววันครับ
tongue


ควรดีใจต่างหาก.....เพราะท่านโพธิละเถระ..ท่านก็บรรลุแล้ว...ทำความดีมีความเพียรตลอดคะพุทธเจ้าองค์ก่อนถึง6 พระองค์....หากเราย้อนดูตัวเองได้บ้าง...เราทำความดีมีความเพียรเท่าท่านหรือเปล่า?

อย่าด่วนสรุปอะไรเพียงเห็น.....แต่ภายนอก...ถ้ามีญาณเลอะๆ...มันก็หลงทั้งหมดนั้นแหละ

:b12: :b12:
เรากำลังเอาเรื่องราวในกระทู้ของคุณกรัชกายนี้ เป็นเหตุ ตีแผ่เบื้องหลังการบรรลุธรรมของท่านโพธิละเถระสู่ชาวโลกอยู่นะครับคุณกบ โปรดอย่ามองเป็นลบหรือผิดมุม
:b12: :b12: :b12:
โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 09:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:


อ้างคำพูด:
อ้างคำพูด:กรัชกาย
ดิฉันฝึกหัดนั่งสมาธิ วิปัสสนา คือนั่งดูลมหายใจเข้าออก เฉยๆไม่บริกรรม และให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา

คอร์สแรกที่ดิฉันไปศึกษาเรียนรู้เป็นเวลา10 วัน และหลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาปฎิบัติที่บ้าน สม่ำเสมอ วันละหลายครั้ง บางทีก็หลายชั่วโมงติดต่อกัน

ล่วงเข้ามาประมาณเดือนที่ 3 ดิฉันมีอาการ ร้อนที่ร่างกายทุกส่วน และเกิดอาการปวดศีรษะ เหมือนมีเข็มเป็นร้อยๆเล่มอยู่ในห้ว บางที แข็ง ตึง มึน ทึบอยู่ในหัว จนยากที่จะอธิบาย จนขนาดต้องไปเอกซ์เรย์แต่ไม่มีอะไรผิดปรกติ
อาการมันลงมาที่มือข้างซ้าย และ กรามบน ขมับ 2 ข้าง เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ตลอดเวลาเป็นที่ทรมานมาก

ระยะ หลังมาดิฉันก็เลยนั่งบ้างไม่นั่งบ้าง เพราะปวดหัวเหลือเกิน บางอาการไม่สามารถบอกมาเป็นตัวอักษรได้ว่ารุ้สึกอย่างไร อาการเป็นตลอดเวลา 2 - 4 ชั่วโมง ทั้งหลับทั้งตื่น ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ไปหาหมอฝังเข็ม ฝังมา 9 ครั้ง ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลา อาการยังมีตลอด ดิฉันก็ได้แต่อุเบกขา ทำใจไป คิดไปต่างๆนานา เวลานั่งก็ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง
ตอนนี้นับระยะเวลาเป็นมากว่า 2 ปี ได้แต่หวังว่าผู้รู้ทั้งหลายคงช่วยอนุเคราะห์คนมีกรรมคนนี้ด้วย ขอได้โปรดเมตตาช่วยด้วยนะคะ

:b12: :b12: :b12:
เห็นคุณกรัชกายยกปัญหานี้ไปถามในหลายๆกระทู้คงเป็นเพราะยังไม่ได้รับคำตอบที่ถูกใจหรือแก้ปัญหาของน้องคนนี้ได้
:b36: :b45: :b53:

นั่งดูลมหายใจเข้าออก เฉยๆไม่บริกรรม และให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา
:b48:
น้องคนนี้มีหลักการภาวนาดี แต่เป้าหมายการภาวนา ไม่ตรงไม่ถูกต้อง ไม่แม่นยำจึงยิ่งแก้ก็ยิ่งกลุ้ม
:b13:
เป้าหมายของการภาวนาหรือการเจริญมรรคนั้นต้องชี้ตรงไปจุดเดียวคือแก้สมุทัยหรือ แก้ที่เหตุ

น้องเขาไม่รู้ว่าภาวนาไปเพื่ออะไร?จึงภาวนาตามเขาไปแบบมดเดินทาง

คุณกรัชกาย ต้องมาปรับฐานความรู้ของน้องเขาเสียใหม่ให้เป็นสัมมาทิฏฐิจริงๆเสียก่อนแล้วค่อยตั้งหน้าภาวนา จะได้ไม่เสียเวลาหลงทางอยู่นาน ทุกทรมาณมาตั้ง 2 ปีเช่นนี้

อธิบายอริยสัจ 4 ให้เขาฟังโดยละเอียดทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ

ชี้ตรงข้อสมุทัย ให้ชัดว่า เหตุทุกข์คือตัณหา........ผู้สร้างตัณหา คือ อัตตา หรือสักกายทิฏฐิ ซึ่งก็คือเหตุทุกข์ที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังตัณหา

งานของการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา คือเอาสมุทัย เหตุทุกข์ คือความเห็นผิด ว่าเป็นอัตตาตัวกูของกู กับความยึดผิด(มานะทิฏฐิ)ออกจากใจเสียให้ได้เป็นสำคัญ

การภาวนา ไม่ใช่การไปพยายามละยินดียินร้าย ให้ใจเป็นอุเบกขา นี้เป็นทฤษฎีเพื่อการปฏิบัติ หรือสติปัฏฐาน 4

การจะเอายินดียินร้ายออกได้นั้นต้อง หาตัวผู้ยินดียินร้ายให้เจอ แล้วเอาตัวผู้ยินดียินร้ายออกให้ได้ นั่นถึงจะเป็นการแก้ที่ถูกจุด ถูกประเด็นของเหตุทุกข์ที่แท้จริง พูดชัดๆ สั้น ง่าย ว่า

งานสำคัญอันแรกของผู้ปารถนาจะถึงความเป็นชาวพุทธโดยสมบูรณ์ก็คือ การเอาความเห็นผิด(มิจฉาทิฏฐิ)ว่าเป็น กู เป็นเรา เป็นตัว เป็นตน ออกจากใจเสียให้ได้ จะเอาออกได้อย่างไรก็พึงดูและสังเกตจากคำสรุปวิธีปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาที่ยกมาให้พิจารณาดังต่อไปนี้

:b37:
งานและหน้าที่ของชาวพุทธ

สำรวมกายใจมานิ่งรู้ นิ่งสังเกต
ปัจจุบันอารมณ์ จนละความเห็นผิดว่า กาย ใจ นี้ เป็นอัตตาตัวกู ของกู
พอกพูนความเห็นถูกต้อง ว่ากาย ใจ นี้ เป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ตัวกู ของกู
ทุกวัน เวลา นาที วินาที ที่ระลึกได้และมีโอกาส


หัวใจวิปัสสนาภาวนา

ใจปัญญาอย่ายอมใจเป็นกู
นิ่งดู นิ่งสังเกต พิจารณา ด้วยวิริยะ อุตสาหะ ตบะ ขันติ มิยอมถอย
ถ้าสู้ได้ ทนได้ ไม่ตะบอย
กู จะถอยหรือตายดับ ไปจากใจ

:b38:
คงจะตอบคำถามอีกข้อหนึ่งของคุณกรัชกายที่ว่า.....ทำอย่างไร?

ยังสงสัย ตีความไม่ออก ก็ถามอีกนะครับ



เห็นแต่ท่องนี่ประจำ
อ้างคำพูด:
ใจปัญญาอย่ายอมใจเป็นกู
นิ่งดู นิ่งสังเกต พิจารณา ด้วยวิริยะ อุตสาหะ ตบะ ขันติ มิยอมถอย
ถ้าสู้ได้ ทนได้ ไม่ตะบอย
กู จะถอยหรือตายดับ ไปจากใจ


ท่องนานมั้ยครับกว่าจะจำไ้ด้ คิกๆๆ

ไม่ต่างอะไรกับที่เขาให้อุเบกขาๆๆๆๆๆ หรอกครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 09:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องเอาของจริงบ้าง เอาแต่ตัวหนังสือวางให้อ่านแล้วเพ้อฝันไกลเกินชีวิตปัจจุบันไป กลายเป็นธรรมะในจินตนาการไป


อเมสซิ่ง กับ อโศก ครับ คุณจะแก้ปัญหานี้อย่างไร

http://www.youtube.com/watch?v=qWOCXCSQFJ8


http://www.youtube.com/watch?v=-ckTCIrPwvw



ต้องเปิดไ้ด้สักคลิปหรอกน่า

คุณอโศก คงเปิดไ้ด้นะครับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 09:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

เรากำลังเอาเรื่องราวในกระทู้ของคุณกรัชกายนี้ เป็นเหตุ ตีแผ่เบื้องหลังการบรรลุธรรมของท่านโพธิละเถระสู่ชาวโลกอยู่นะครับคุณกบ โปรดอย่ามองเป็นลบหรือผิดมุม
:b12: :b12: :b12:


สาธุ..ครับ..ถ้าเจตนาอย่างนั้น..

แต่อโสกะ..ชมคนที่ยังไม่ควรชม....นี้เสมือนยื่นยาพิษ..ให้เพื่อนนะครับ

ถ้าจะว่าเรื่องการบรรลุธรรมของท่านโพธิละ...ก็ว่าไปเลย..ไฉนแวะชมคนที่ยังไม่ควรชม...ติคนที่ยังไม่ควรติ...อันนี้ดูใจตนทันรึเปล่า?


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 168 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 12  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร