วันเวลาปัจจุบัน 19 มิ.ย. 2025, 21:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2013, 20:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกายหนีการปฏิบัติไม่ได้ เรียนแต่พองามมากก็ไม่เป็นไรถือว่าดีมาก แต่อย่าวลืมปฏิบัติ. อานาปานนะถึงวิมุตเลย amaningขี้เกียจเรียนแล้วเรียนมาหลายปี. ตอนนี้อานาปานล้วนมันสุดยอดมากกรัชกาย



ก็บอกมาสิขอรับ สุดยอดยังไง เอาชัดๆ :b8: :b8: :b8: :b36:
บอกไปจะรุ้เหรอปฎิบัติปฎิบัติ



รู้ดิขอรับ บอกมาวิธีปฏิบัติ ขึ้นสมองลงตับอะไรรู้หมดแหละ :b1:
และกายสังขารดับล่ะเคยยัง


ยังขอรับ ดับยังไงอ่ะ :b10:
ท่านตั้งใจอย่างนี้นะเชื่อผมมั้ยล่ะว่ามันดับได้จริงๆ ถ้าท่านมันใจว่ามันดับได้จริง. ท่านใช้อานาปานสติจิตจับอยุ่กับลมที่บริเวณจมุกกำหนดให้เล็กที่สุดหายใจออกยาวๆทีสุดแทบขาดใจนั้นแหล่ะแล้วก็หายใจเข้ายาวๆแทบขาคใจนั้นแห่ะทำแบบนี้สักพักพอจิตเริ่มทรงตัวเปลี่ยนจากหายใจยาวมาหายใจให้สั้นที่สุดเข้าออกจิตจับอยุ่ที่ปลายจมุกสำคัญมีสตอย่าหลงลมรุ้ว่าออกว่าเข้า. ทำแบบนี้ไปไม่ถอยรับรองหัวไม่ระเบิด. การจะแยกจิตออกจากอายตนะเก่าที่สะสมมานานต้องออกแรงมากนะ เชื่อผมเถอะถ้าท่านต้องการถึงตรงนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2013, 20:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกายหนีการปฏิบัติไม่ได้ เรียนแต่พองามมากก็ไม่เป็นไรถือว่าดีมาก แต่อย่าวลืมปฏิบัติ. อานาปานนะถึงวิมุตเลย amaningขี้เกียจเรียนแล้วเรียนมาหลายปี. ตอนนี้อานาปานล้วนมันสุดยอดมากกรัชกาย



ก็บอกมาสิขอรับ สุดยอดยังไง เอาชัดๆ :b8: :b8: :b8: :b36:
บอกไปจะรุ้เหรอปฎิบัติปฎิบัติ



รู้ดิขอรับ บอกมาวิธีปฏิบัติ ขึ้นสมองลงตับอะไรรู้หมดแหละ :b1:
และกายสังขารดับล่ะเคยยัง


ยังขอรับ ดับยังไงอ่ะ :b10:
ท่านตั้งใจอย่างนี้นะเชื่อผมมั้ยล่ะว่ามันดับได้จริงๆ ถ้าท่านมันใจว่ามันดับได้จริง. ท่านใช้อานาปานสติจิตจับอยุ่กับลมที่บริเวณจมุกกำหนดให้เล็กที่สุดหายใจออกยาวๆทีสุดแทบขาดใจนั้นแหล่ะแล้วก็หายใจเข้ายาวๆแทบขาคใจนั้นแห่ะทำแบบนี้สักพักพอจิตเริ่มทรงตัวเปลี่ยนจากหายใจยาวมาหายใจให้สั้นที่สุดเข้าออกจิตจับอยุ่ที่ปลายจมุกสำคัญมีสตอย่าหลงลมรุ้ว่าออกว่าเข้า. ทำแบบนี้ไปไม่ถอยรับรองหัวไม่ระเบิด. การจะแยกจิตออกจากอายตนะเก่าที่สะสมมานานต้องออกแรงมากนะ เชื่อผมเถอะถ้าท่านต้องการถึงตรงนี้



ทำไมไม่ทำให้หัวมันระเบิดสะเลยล่ะ จะไ้ด้รู้แล้วรู้รอด :b1:


เห็นนานแล้วว่า คุณไปบังคับให้ธรรมชาิติเป็นนั่นเป็นนี่ หรือ ไม่ให้เป็นนั่นเป็นนี่ ตามที่ตนเองยึดตนเองอยากไ่ม่อยากให้มันเป็น

สรุปก็คือ อเมสซิ่งจะไ้้้ด้แต่อุปาทานพอกพูนการยึดมั่นแน่นหนาเข้าไปอีก :b1:

แทนที่ปฏิบัิติแล้วจะโล่งโปร่ง กลายเป็นยิ่งปฏิบัติยิ่งทำยิ่งเครียด เพราะปฏิบัติผิดฉะนี้แล.

ชีวิตใครชีวิตมัน :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2013, 23:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกายหนีการปฏิบัติไม่ได้ เรียนแต่พองามมากก็ไม่เป็นไรถือว่าดีมาก แต่อย่าวลืมปฏิบัติ. อานาปานนะถึงวิมุตเลย amaningขี้เกียจเรียนแล้วเรียนมาหลายปี. ตอนนี้อานาปานล้วนมันสุดยอดมากกรัชกาย



ก็บอกมาสิขอรับ สุดยอดยังไง เอาชัดๆ :b8: :b8: :b8: :b36:
บอกไปจะรุ้เหรอปฎิบัติปฎิบัติ



รู้ดิขอรับ บอกมาวิธีปฏิบัติ ขึ้นสมองลงตับอะไรรู้หมดแหละ :b1:
และกายสังขารดับล่ะเคยยัง


ยังขอรับ ดับยังไงอ่ะ :b10:
ท่านตั้งใจอย่างนี้นะเชื่อผมมั้ยล่ะว่ามันดับได้จริงๆ ถ้าท่านมันใจว่ามันดับได้จริง. ท่านใช้อานาปานสติจิตจับอยุ่กับลมที่บริเวณจมุกกำหนดให้เล็กที่สุดหายใจออกยาวๆทีสุดแทบขาดใจนั้นแหล่ะแล้วก็หายใจเข้ายาวๆแทบขาคใจนั้นแห่ะทำแบบนี้สักพักพอจิตเริ่มทรงตัวเปลี่ยนจากหายใจยาวมาหายใจให้สั้นที่สุดเข้าออกจิตจับอยุ่ที่ปลายจมุกสำคัญมีสตอย่าหลงลมรุ้ว่าออกว่าเข้า. ทำแบบนี้ไปไม่ถอยรับรองหัวไม่ระเบิด. การจะแยกจิตออกจากอายตนะเก่าที่สะสมมานานต้องออกแรงมากนะ เชื่อผมเถอะถ้าท่านต้องการถึงตรงนี้



ทำไมไม่ทำให้หัวมันระเบิดสะเลยล่ะ จะไ้ด้รู้แล้วรู้รอด :b1:


เห็นนานแล้วว่า คุณไปบังคับให้ธรรมชาิติเป็นนั่นเป็นนี่ หรือ ไม่ให้เป็นนั่นเป็นนี่ ตามที่ตนเองยึดตนเองอยากไ่ม่อยากให้มันเป็น

สรุปก็คือ อเมสซิ่งจะไ้้้ด้แต่อุปาทานพอกพูนการยึดมั่นแน่นหนาเข้าไปอีก :b1:

แทนที่ปฏิบัิติแล้วจะโล่งโปร่ง กลายเป็นยิ่งปฏิบัติยิ่งทำยิ่งเครียด เพราะปฏิบัติผิดฉะนี้แล.

ชีวิตใครชีวิตมัน :b1:
ถ้ามันระเบิดได้มันระเบิดไปแล้วเพราะมันถีงที่สุดแล้วรูปมันถึงดึบไงกรัชกายไม่รุ้หรอกว่าถึงจุดนั้นมึรสชาติอย่างไร ถ้าผมไม่เจอสิ่งนั้นผมก็คงคิดอย่างกรัชกายนี่แหล่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2013, 23:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย ขออัญเชิญพระพุทธพจน์อันประเสริฐมาแสดง

ภิกษุ ท.! พวกเธออย่ากล่าวถ้อยคำที่ยึดถือเอาแตกต่างกัน ว่า "ท่าน
ไม่รู้ทั่วถึงธรรมวินัยนี้, ข้าพเจ้ารู้ทั่วถึงธรรมวินัยนี้, ท่านจักรู้ทั่วถึงธรรมวินัยได้
อย่างไร ท่านปฏิบัติผิด, ข้าพเจ้าซิปฏิบัติชอบ, คำควรกล่าวก่อน ท่านกล่าว
ทีหลัง คำควรกล่าวทีหลัง ท่านมากล่าวก่อน คำพูดของท่านจึงไม่เป็นประโยชน์
คำพูดของข้าพเจ้าเป็นประโยชน์. ข้อที่ท่านเคยถนัด มาแปรปรวนไปเสียแล้ว.
ข้าพเจ้าแย้งคำพูดของท่านแหลกหมดแล้ว, ท่านถูกข้าพเจ้าข่มแล้ว เพื่อให้ถอน
คำพูดผิด ๆ นั้นเสียหรือท่านสามารถก็จงค้านมาเถิด:" ดังนี้.พวกเธอไม่พึง
กล่าวถ้อยคำเช่นนั้นเพราะเหตุไรเล่า? เพราะการกล่าวนั้น ๆ ไม่ประกอบด้วย
ประโยชน์ ไม่เป็นเงื่อนต้นของพรหมจรรย์ ไม่เป็นไปพร้อมเพื่อความหน่ายทุกข์
ความคลายกำหนัด ความดับ ความรำงับ ความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม และนิพพาน.

ภิกษุ ท.! เมื่อพวกเธอจะกล่าว จงกล่าวว่า "เช่นนี้ ๆ เป็นความ
ทุกข์, เช่นนี้ ๆ เป็นเหตุให้เกิดทุกข์, เช่นนี้ ๆ เป็นความดับไม่เหลือของทุกข์,
และเช่นนี้ ๆ เป็นทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์;" ดังนี้. เพราะ
เหตุไรจึงควรกล่าวเล่า ? เพราะการกล่าวนั้น ๆ ย่อมประกอบด้วยประโยชน์
เป็นเงื่อนต้นของพรหมจรรย์ เป็นไปพร้อมเพื่อความหน่ายทุกข์ ความคลาย
กำหนัด ความดับ ความรำงับ ความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม และนิพพาน.

ภิกษุ ท.! เพราะเหตุนั้น ในกรณีนี้ พวกเธอพึง ทำความเพียร
เพื่อให้รู้ตามเป็นจริงว่า "นี้เป็นทุกข์, นี้เป็นเหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์, นี้เป็นความ
ดับไม่เหลือแห่งทุกข์, นี้เป็นทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์," ดังนี้เถิด.



- มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๒๕/๑๖๖๒.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2013, 05:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:

ถ้ามันระเบิดได้มันระเบิดไปแล้วเพราะมันถีงที่สุดแล้วรูปมันถึงดึบไงกรัชกายไม่รุ้หรอกว่าถึงจุดนั้นมึรสชาติอย่างไร ถ้าผมไม่เจอสิ่งนั้นผมก็คงคิดอย่างกรัชกายนี่แหล่ะ


รูป ดังว่า นั่น หมายถึงอะไรขอรับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2013, 14:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:

ถ้ามันระเบิดได้มันระเบิดไปแล้วเพราะมันถีงที่สุดแล้วรูปมันถึงดึบไงกรัชกายไม่รุ้หรอกว่าถึงจุดนั้นมึรสชาติอย่างไร ถ้าผมไม่เจอสิ่งนั้นผมก็คงคิดอย่างกรัชกายนี่แหล่ะ


รูป ดังว่า นั่น หมายถึงอะไรขอรับ :b1:




รูป ที่ว่าหมายถึงอะไรครับ รอคำตอบนี้ชัดๆ นะขอรับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2013, 15:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:

ถ้ามันระเบิดได้มันระเบิดไปแล้วเพราะมันถีงที่สุดแล้วรูปมันถึงดึบไงกรัชกายไม่รุ้หรอกว่าถึงจุดนั้นมึรสชาติอย่างไร ถ้าผมไม่เจอสิ่งนั้นผมก็คงคิดอย่างกรัชกายนี่แหล่ะ


รูป ดังว่า นั่น หมายถึงอะไรขอรับ :b1:




รูป ที่ว่าหมายถึงอะไรครับ รอคำตอบนี้ชัดๆ นะขอรับ :b1:
ภาพถ่าย. ยิ้ม


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร