ขอถามคนที่ถนัดเจริญสติแนวดูเวทนา หรือท่านที่ไปปฏิบัติของท่านโกเอนก้า


พอดีได้ไปครั้งนึงเมื่อหลายๆ เดือนก่อน แล้วเห็นร่างกายหายไปพร้อมๆ กับเวทนาทางกาย เห็นจิตเกิดดับ และวันที่หกเห็นกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นในกายส่งผ่านจากสมอง และต่อมารับรู้ได้ถึงคลื่นความสั่นสะเทือนที่ผุดขึ้นจากกลางอก

บ่อยครั้งที่รู้สึกเหมือนกับว่า คล้ายๆ ขึ้นเครื่องบินแล้วตกหลุมอากาศ อย่างนี้คืออาการจิตรวมใช่ไหม แล้วจิตรวมนี้มันดีไหม เพราะหลังจากกลับบ้าน ก็เกิดเหตุการณ์จิตรวมที่ว่า เหมือนตกหลุมอากาศเวลานั่งเครื่องบิน เกิดขึ้นเกือบทุกวัน วันละรอบ เกิดเองด้วย เช่น ตอนกินข้าว ตอนนอน อย่างนี้คืออาการที่จิตกำลังจะรวมถูกไหม มันเป็นอาการของคนติดสมถะกรรมฐานหรือไม่ หรือว่าหากเป็นอย่างนี้เราก็แยกธาตุแยกขันธ์ต่อไปเลย โดยเห็นว่าทั้งขันธ์ห้าไม่ใช่เรา (แต่ปกติเราเห็นบ่อยว่าร่างกายไม่ใช่เรา เหมือนธาตุรู้มันสรุปไปแล้วว่ากายไม่ใช่เรา แต่ยังเห็นจิตเป็นเรา เคยมีเหมือนกันที่เห็นจิตไม่ใช่เรา เห็นแว๊บๆ แต่ธาตุรู้ยังไม่สรุปว่าจิตก็ไม่ใช่เรา)

และอีกสภาวะนึง ที่เกิดทุกวันคือ คลื่นสั่นสะเทือนที่ผุดขึ้นกลางอก เกิดทุกวัน วันละหลายๆ นาที อย่างนี้ถือว่าถูกต้องไหม เพราะได้ยินท่านโกเอนก้าบรรยายไว้ว่า หากทำได้ถูก ต้องทำให้ถึงจิตไร้สำนึก และจะมีลักษณะความไหวเหมือนคลื่นสั่นสะเทือนเกิดขึ้น จิตไวขึ้นจะไปรับรู้ตรงนี้ได้

ตั้งแต่กลับมา เราได้ปฏิบัติทุกวัน วันละหลายๆ ชม แต่เราปฏิบัติแนวหลวงพ่อเทียนเพราะถนัดเคลื่อนมือมากกว่า และเราแผ่เมตตาให้ท่านโกเอนก้า และครูบาอจ.ทุกองค์ทุกท่านของเราทุกคน

ทำงัยต่อดีล่ะอเมสซึ่ง

กรัชกายเห็นมั้ยว่าแค่ครั้งเดียวที่เขาไปเขายังได้รับรุ้อะไรบ้างแต่ดุแล้วผุ้ปฎิบัตนั้นคงยังไม่ได้สะสมสุตตะมากนัก. คงต้องใช่เวลาบ้างแต่ผู้ปฎิบัติก้ได้พบกับสิ่งที่ปรากฎนั้นซึ่งมันก็คือความจริงที่กรัชกายไม่รุ้จัก ถามว่าทำอะไรต่อเราจะทำอะไรได้กรัชกายผุ้มีความรุ้ช่วยเขาได้มั้ยล่ะ

สุตตะ ได้แก่อะไร พูดบ่อยมากๆ บอกเขาหน่อยดิ

สอง เขาประสบแบบอเมสซิ่งเลย บอกเขาหน่อย จะเอายังไงไปทางไหนดีและถูกทาง

กรัชกายไปเสาะแสวงหามาคิดว่าเขาผิดกรัชกายก็บอกเขาสิ ศรัทธา ศิล สุตตะ. จาคะ ปัญญา

ครบชุดอีกแล้ว ศรัทธา ศีล สุตตะ จาคะ ปัญญา อย่าเอาคำศัพท์ได้ไหม

ทุกคนได้ยินในสิ่งเดียวกันเข้าใจต่างกัน มันขึ้นอยุ่กับอินทรีย์

ศรัทธา ศีล สุตตะ จาคะ ปัญญา

ขอถามคนที่ถนัดเจริญสติแนวดูเวทนา หรือท่านที่ไปปฏิบัติของท่านโกเอนก้า


พอดีได้ไปครั้งนึงเมื่อหลายๆ เดือนก่อน แล้วเห็นร่างกายหายไปพร้อมๆ กับเวทนาทางกาย เห็นจิตเกิดดับ และวันที่หกเห็นกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นในกายส่งผ่านจากสมอง และต่อมารับรู้ได้ถึงคลื่นความสั่นสะเทือนที่ผุดขึ้นจากกลางอก

บ่อยครั้งที่รู้สึกเหมือนกับว่า คล้ายๆ ขึ้นเครื่องบินแล้วตกหลุมอากาศ อย่างนี้คืออาการจิตรวมใช่ไหม แล้วจิตรวมนี้มันดีไหม เพราะหลังจากกลับบ้าน ก็เกิดเหตุการณ์จิตรวมที่ว่า เหมือนตกหลุมอากาศเวลานั่งเครื่องบิน เกิดขึ้นเกือบทุกวัน วันละรอบ เกิดเองด้วย เช่น ตอนกินข้าว ตอนนอน อย่างนี้คืออาการที่จิตกำลังจะรวมถูกไหม มันเป็นอาการของคนติดสมถะกรรมฐานหรือไม่ หรือว่าหากเป็นอย่างนี้เราก็แยกธาตุแยกขันธ์ต่อไปเลย โดยเห็นว่าทั้งขันธ์ห้าไม่ใช่เรา (แต่ปกติเราเห็นบ่อยว่าร่างกายไม่ใช่เรา เหมือนธาตุรู้มันสรุปไปแล้วว่ากายไม่ใช่เรา แต่ยังเห็นจิตเป็นเรา เคยมีเหมือนกันที่เห็นจิตไม่ใช่เรา เห็นแว๊บๆ แต่ธาตุรู้ยังไม่สรุปว่าจิตก็ไม่ใช่เรา)

และอีกสภาวะนึง ที่เกิดทุกวันคือ คลื่นสั่นสะเทือนที่ผุดขึ้นกลางอก เกิดทุกวัน วันละหลายๆ นาที อย่างนี้ถือว่าถูกต้องไหม เพราะได้ยินท่านโกเอนก้าบรรยายไว้ว่า หากทำได้ถูก ต้องทำให้ถึงจิตไร้สำนึก และจะมีลักษณะความไหวเหมือนคลื่นสั่นสะเทือนเกิดขึ้น จิตไวขึ้นจะไปรับรู้ตรงนี้ได้

ตั้งแต่กลับมา เราได้ปฏิบัติทุกวัน วันละหลายๆ ชม แต่เราปฏิบัติแนวหลวงพ่อเทียนเพราะถนัดเคลื่อนมือมากกว่า และเราแผ่เมตตาให้ท่านโกเอนก้า และครูบาอจ.ทุกองค์ทุกท่านของเราทุกคน

การเข้ามาอ่าน บางทีมันก็ดึงคำถามเราออกมาได้ คือผมเองเป็นคนช่างสงสัย และสงสัยทุกอย่างที่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นในร่างกาย โดยตังผมเองก็ยังไม่เข้าไปในเรื่องอารมณ์มากนัก รู้เพียงแต่ว่าการปฏิบัติทำให้เป็นคนอารมณ์ปกติ เฉยๆ กับสิ่งรอบตัว อาจจะเป็นเพราะมัวแต่สนใจอยู่กับธรรมในตัวเอง ที่จะพูดคือ เมื่อคืนนั่งสมาธิ ก็เกิดคำถามขึ้นว่า เมื่อเรามองเพ่งอะไรสักอย่าง เราจะรู้ว่าธรรมแผ่ไปที่สมองด้วย คือ ตาคนเรามีก้านต่อไปที่สมอง พอเราเพ่งหรือพยายามมองอะไรให้ชัดขึ้น ธรรมนั้นจะแผ่ไปที่สมองด้วย คือ ลองสังเกตุการโพกัสของตาดู แล้ว สังเกตุอาการดูว่า จะเห็นการทำงานของประสาทตาอย่างชัดเจน ทีนี้ คำถามว่า เราจะสังเกตุใจเราได้ไหมในเวลาเดียวกัน เพราะผมมีความเห็นว่า ธรรมใดๆล้วนเชื่อมโยงด้วยใจ หรือ หทัย ทีนี้มาอ่านประสบการณ์ของผู้ฝึกคนนี้ ก็น่าสนใจตรงที่ ผู้ฝึกคนนี้ มีอาการเหมือนตกหลุมอากาศ นั่นก็คือหทัยนั่นเอง อันนี้เป็นความเห็นผม คือยังไงผมก็ต้องศึกษาต่อไปเรื่อยๆ ก็ฝากเป็นคำถามต่อไปครับผม

ที่คุณคิดคุณดูนั่นแหละธรรมะ แต่คุณคิดคุณดูด้วยความเป็นบุคคล เป็นเราดู เราคิด เราต้องการไม่ต้องการจะให้มันเป็นนั่นเป็นนี่ ไม่ให้เป็นนั่นเป็นนี่ ด้วยความยึดความอยากของเรา (ความเป็นบุคคล)
แยกความเป็นเรา เป็นบุคคลออกมาจากการดูการพิจารณา แล้วดูรู้ทันตามที่มันเป็นของมัน

สังเกตวันสองวันนี้ อเมสซิ่งเหมือนแบตอ่อนๆไปนะครับ ความถี่ก็ลดลง หรือสัญญาณไม่มีครับ

ฟังเพลงดีกว่า

http://www.youtube.com/watch?v=ZqiCnNeA6F4