วันเวลาปัจจุบัน 04 ต.ค. 2024, 00:50  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2013, 02:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
“พระพุทธกิติสิริชัย” หรือ “หลวงพ่อใหญ่”
พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองประจวบคีรีขันธ์ วัดทางสาย


วัดทางสาย

ปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ชาวบ้านในท้องถิ่นตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถูกเบียดเบียนเดือดร้อนอยู่เสมอเพราะเหตุมีมิจฉาชีพมาก มักมีการลักขโมย อบายมุข เช่น การพนัน เป็นต้น นายมนัสและนางพุ่ม รอดภัย จึงคิดดำริสร้างสถานที่ประพฤติปฏิบัติธรรมไว้ในเขตตำบลธงชัย เพื่อจักได้น้อมนำเอาหลักธรรมของพระพุทธเจ้ามาเป็นธงชัยในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องดีงามของชาวตำบลธงชัยและใกล้เคียง ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๑ นายมนัสและนางพุ่ม ได้สละที่ดินของตนเองบางส่วนประมาณ ๑๒ ไร่เศษ ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของเขาธงชัย เพื่อสร้างเป็น สำนักปฏิบัติธรรมรอดภัยวิปัสสนา โดยได้สร้างศาลารอดภัยวิปัสสนาจำนวน ๑ หลัง

จากนั้นได้เริ่มก่อสร้าง พระตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ แล้วอัญเชิญพระรูปของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ มาประดิษฐานในปี พ.ศ. ๒๕๓๑ และสมโภชเปิดพระตำหนักเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๓๕

ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ได้พบ พระอาจารย์ไมตรี ฐิตปัญโญ วัดกระโจมทอง จังหวัดนนทบุรี จึงได้อาราธนาท่านมาดูและแสดงธรรมที่สำนักปฏิบัติธรรมรอดภัยวิปัสสนา ซึ่งท่านได้ธุดงค์มาพร้อมพระภิกษุอีก ๒ รูปมาจำพรรษา ๑ พรรษา ด้วยเหตุที่ท่านให้ธรรมะไพเราะลึกซึ้งและเข้าใจง่าย ชาวบ้านจึงนิมนต์ให้ท่านอยู่ต่อจนกระทั่งถึงทุกวันนี้

ปี พ.ศ. ๒๕๓๑ เปลี่ยนชื่อจากสำนักปฏิบัติธรรมรอดภัยวิปัสสนา มาเป็น สำนักปฏิบัติธรรมวัดทางสาย โดยมีพระอาจารย์ไมตรี ฐิตปัญโญ เป็นเจ้าสำนักอบรมสั่งสอนธรรมะแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไป พระอาจารย์ไมตรีท่านเป็นพระนักปฏิบัติธรรม และพระนักพัฒนา ต่อมาได้ก่อสร้างถาวรวัตถุมากมาย เช่น ปี พ.ศ. ๒๕๓๑ เริ่มสร้าง พระพุทธกิติสิริชัย จนสำเร็จ และทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ในวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๓๖ พร้อมทั้งวางศิลาฤกษ์พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ และสำเร็จเสร็จสิ้นทำพิธีผูกพัทธสีมา ในวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๔๕ นอกจากนี้ท่านยังได้เป็นผู้นำสร้างหอสมุดประจำวัด กุฏิบนยอดเขาและด้านล่าง ซึ่งต่อมากระทรวงศึกษาธิการได้อนุมัติให้ตั้งเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมายในพระพุทธศาสนา ตั้งแต่เมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ โดยมีนามว่า วัดทางสาย

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2013, 02:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

:b47: 1. พระพุทธกิติสิริชัย

พระพุทธรูปรูปองค์นี้สามารถมองเห็นได้จากหาดบ้านกรูดด้วย มีพระนามว่า “พระพุทธกิตติสิริชัย” ชาวบ้านมักเรียกกันว่า “หลวงพ่อใหญ่” เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิแบบศิลปะคันธาระ (ได้รับอิทธิพลจากกรีกผ่านอินเดีย) หันพระพักตร์ออกทะเล ชาวบางสะพานสร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ พระพุทธกิติสิริชัยเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ มีขนาดหน้าตักกว้าง 5 วา อันเปรียบได้กับขันธุ์ทั้ง 5 มีความสูงพร้อมฐาน 9 วา อันเปรียบได้กับนวโลกฤตตรธรรม 9 (มรรค 4 ผล 4 นิพาน 1) ฐานกว้างโดยรอบ 16 วา อันเปรียบได้กับโสฬสญาณ คือ ญาณ 16 มีศาลาพัก 3 หลัง คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ทางเดินขึ้น 2 ข้างเปรียบได้กับสมถะและวิปัสสนาอันเป็นวิถีทางเดิน รูปทรงแบบคันทาราช (ปางตรัสรู้) ลักษณะประทับนั่งขัดสมาธิดอกบัว ฐานผ้าทิพย์มีพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. พระพุทธกิติสิริชัยได้ทำพิธีสมโภชและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2539 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จเป็นองค์ประธานในการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และทรงวางศิลาฤกษ์พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ

รูปภาพ

:b47: 2. พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ

เป็นพระมหาธาตุเจดีย์ขนาดใหญ่ มีความสวยงามวิจิตรตระการตาตามแบบไทยแท้อันหาดูได้ยากยิ่ง คณะสงฆ์และพสกนิกรผู้จงรักภักดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ประกาศความภักดีโดยร่วมใจกันสร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองราชย์เป็นปีที่ 50 ออกแบบโดย ม.ร.ว มิตรารุณ เกษมศรี นายช่างสถาปนิกประจำสำนักพระราชวัง โดยฝีมือการออกแบบและก่อสร้างอย่างวิจิตรบรรจง ทรงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมไทยอันยอดเยี่ยม ปูชนียสถานแห่งนี้เป็นความ ภาคภูมิใจของชาวบ้านกรูดและประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศ ที่ทุกคนควรหาโอกาสมาเยี่ยมชมเพื่อประจักษ์ถึงความงดงามของศิลปไทย และประกาศความจงรักภักดีต่อองค์พระประมุขของชาติ มีทั้งหมด 5 ชั้นดังนี้

ชั้นที่ 1 ชั้นใต้พื้นดินเป็นที่เก็บน้ำฝนขนาดใหญ่ พื้นที่ในส่วนนี้เป็นถังเก็บน้ำ และมีห้องเก็บของ โดยอยกออกเป็น 2 ปีก ทางด้านมุขทิศตะวันออกและมุขทิศตะวันตก

ชั้นที่ 2 เป็นโถงอเนกประสงค์ และสำนักงานมูลนิธิเพื่อพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ พื้นที่ในชั้นนี้ประกอบด้วย 2 ส่วนใหญ่คือ พื้นที่ภายในอาคาร และพื้นที่ลานประทักษิณด้านนอก ซึ่งบนลานประทักษิณนั้น มีบันได เชื่อมสู่ชั้นที่ 2 และเป็นที่ตั้งของ หอกลอง หอระฆัง และศาลารายอีก 4 หลัง และที่บริเวณมุมของฐานชั้นนี้เป็น ที่ตั้งของใบเสมา รวมทั้งหมด 8 ใบ ส่วนพื้นที่ภายในอาคารนั้นเป็นโถงโล่งขนาดใหญ่สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ ส่วนหนึ่งของพื้นที่นั้นถูกกันไว้สำหรับเป็นห้องเครื่องปั๊มน้ำ และห้องเก็บของ

ชั้นที่ 3 เป็นวิหาร บริเวณใจกลางเป็นแท่นประดิษฐาน พระพุทธรูปปางอิริยาบถสี่ จำนวน 4 องค์ ทางเข้าภายในวิหารเป็นซุ้มทำด้วยไม้สักทองแกะสลัก แท่นและซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูป 4 องค์ทำด้วยหินอ่อน ผนังโดยรอบ เขียนจิตรกรรมภาพ 5 ธันวามหาราช 1 ภาพ พระราชพิธีสิบสองเดือน 12 ภาพและประเพณีท้องถิ่นภาคต่างๆ ของประเทศไทยอีก 50 ภาพ

ชั้นที่ 4 เป็นอุโบสถ ซึ่งประดิษฐานพระประธาน มีชื่อว่า “พระพุทธลีลากาญจนวบพิตร” องค์พระประธานในอุโบสถจัดสร้างโดยยึดถือรูปแบบพุทธลักษณะปางลีลา โดยจำลองแบบมาจากพระพุทธรูปปางลีลาสมัยกรุงสุโขทัยซึ่งมีอายุกว่า 800 ปี ที่มีความงดงาม อ่อนล้อยถึงพร้อมด้วยคุณค่าแห่งพุทธศิลป์ โดยได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นพระพุทธรูปปางลีลาที่งามที่สุดในโลก

ด้านหลังพระประธานเขียนจิตรกรรม ตอนพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาววดึงส์อยู่ภายในกรอบ 12 นักษัตรด้านหน้า พระประธานตอนบน เขียนพระพุทธเจ้าเสด็จประทับบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ขณะโปรดพระพุทธมารดา มีต้นปาริชาติ และพระจุฬามณี ส่วนตอนล่างตามช่องหน้าต่างเขียนพระราชนิพนธ์เรื่อง พระมหาชนกบนกระจกสีโปร่งแสงสเตนกล๊าส ส่วนบนเป็นพระปรมาภิไธย ย่อ “ภปร.” และ ตราพระราชสัญจกรประจำพระองค์รัชกาลที่ 9 จำนวน 20 ภาพ บานประตูเขียนสีปิดทองเป็นรูปทวารบาล เทวดายืน แท่นมียักษ์แบก

ชั้นที่ 5 บุษบกประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ภายในบุษบกไม้สัก แกะสลักปิดทองตั้งอยู่บนฐานทรงสูง ทำด้วยหินอ่อนมีมุขยื่นทั้งสี่ด้าน ใจกลางประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำปางประจำพระชนมวาร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช

รูปภาพ
พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ วัดทางสาย จ.ประจวบคีรีขันธ์

รูปภาพ
พระตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ วัดทางสาย จ.ประจวบคีรีขันธ์



มีต่ออีกค่ะ :b8: :b8: :b8:

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร