วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 04:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 86 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 03 ก.ย. 2013, 04:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

ไม่รู้ผู้ดูแลคนไหน แกล้งผมความเห็นผมครับ
:b13:
งง ตรงนี้ครับคุณโฮฮับ
grin

พิมพ์ตกไปครับ จริงๆ"แกล้งผม"ต้องเป็น..."แกล้งลบ"
ผมเห็นแล้ว แต่เห็นว่ามันมีเหตุมาจากความไร้สาระ ก็เลยไม่เข้ามาแก้


โพสต์ เมื่อ: 03 ก.ย. 2013, 20:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
พิมพ์ตกไปครับ จริงๆ"แกล้งผม"ต้องเป็น..."แกล้งลบ"
ผมเห็นแล้ว แต่เห็นว่ามันมีเหตุมาจากความไร้สาระ ก็เลยไม่เข้ามาแก้

:b12:
แฉลบไปได้จริงๆนะครับคุณโฮฮับ

พิมพ์ตก หรือ พิมพ์ผิด กันแน่ครับ

พิมพ์ผิดให้คนอื่นงงแล้วยังมาบอกว่า ....ไร้สาระ.....อีก

กลมกลิ้งจริงๆคนรู้มากนี่นะครับ


:b12: :b12: :b12: :b12:


โพสต์ เมื่อ: 04 ก.ย. 2013, 22:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
โฮฮับ เขียน:
walaiporn เขียน:
สติคน-สติสัตว์

ทั้งคนและสัตว์ ต่างก็มีสติ หากไม่มีสติ สัตว์คงอดตาย เพราะไม่มีปัญญาจับสัตว์อื่น เพื่อยังชีพตนเอง

การที่จิตจดจ่อ อยู่กับสิ่งใด สิ่งหนึ่ง ณ ขณะนั้นๆ ทั้งสติ สัมปชัญญะ และสมาธิ ประชุมลงที่เดียวกัน

ทั้งคนและสัตว์ ไม่แตกต่างกัน ในเรื่อง สติ การทำมาหากิน เพื่อเลี้ยงชีพตนเอง

สติเป็นสภาวธรรมที่ระลึกรู้ธรรมที่เป็นกุศล

สัตว์ไม่สามารถแยกแยะกุศลและอกุศลได้ครับ

:b12: :b12: :b12:
คุณโฮฮับครับ....คุณวลัยพรเธอชี้แจงมาถูกต้องแล้วนะครับ คุณโฮฮับไปติดใจหรือติดยึดว่า
"สติเป็นสภาวธรรมที่ระลึกรู้ธรรมที่เป็นกุศล"......ทำให้ธรรมไม่เป็นธรรมนะครับ

:b13:
ถ้าเก้งกวาง สัตว์ในป่า หรือหมาแมวสัตว์ในเมือง ไม่มีสติ ก็คงวิ่งชนกัน ชนต้นไม้ ตกหลุมตกเหว หรือถูกรถทับตายกันไปหมดแล้วนะครับ.....อย่าได้ไปดูถูกสัตว์ทั้งหลายเลยนะครับ....บางที่คนยังขาดสติมากกว่าเสียอีก

"เคยเห็นหมาที่เขาฝึกมาให้จูงคนตาบอดข้ามถนนไหมครับ"

onion onion onion

อโสกะลองพิจารณาสัตว์ในคลิปนี้ดูหน่อยสิเจ้าค่ะว่า การกระทำของสัตว์ป่าสองชนิดนี้เรียกว่ามีสติไหมเจ้าค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=kIqS9Woh_MY
และสัตว์สองชนิดนี้สามารถแยกแยะการกระทำที่เป็นกุศลและอกุศลได้ไหม
และลองนึกสภาพว่าถ้าเจ้าลิงตัวนั้นพลาดท่าเสียทีขึ้นมา เสือจะระลึกกรรมอันเป็นกุศลต่อลิงนั้นได้ไหม :b32: :b32:
และคลิปนี้คุณน้องก็ยังหาสาเหตุของปัจจัยของการที่สุนัขตัวนี้วิ่งข้ามถนนมากัดเด็กแบบไม่ยั้ง ที่ทำไปเพราะความหิวหรือสัญชาติญาณของนักล่า แต่คุณน้องไม่เชื่อว่าที่ทำลงไปเพราะไม่มีสติ เพียงแต่ว่าสุนัขตัวนี้แยกแยะกุศลและอกุศลไม่ได้แค่นั้นเอง
http://www.youtube.com/watch?v=grP-6wT95mI
ปล.แต่ยังงัยคุณน้องก็ยังสนับสนุนความเห็นนี้ของอโสกะ
"เคยเห็นหมาที่เขาฝึกมาให้จูงคนตาบอดข้ามถนนไหมครับ" :b4:
ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์มันก็ต้องถูกฝึกถูกอบรมใช่ไหมเจ้าค่ะ ถึงจะมีสติมีสมาธิ มันต้องขัดเกลากันทั้งนั้นแหละ :b9:


โพสต์ เมื่อ: 04 ก.ย. 2013, 22:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




GEDC1747_resize.JPG
GEDC1747_resize.JPG [ 74.99 KiB | เปิดดู 3574 ครั้ง ]
nongkong เขียน:
asoka เขียน:
โฮฮับ เขียน:
walaiporn เขียน:
สติคน-สติสัตว์

ทั้งคนและสัตว์ ต่างก็มีสติ หากไม่มีสติ สัตว์คงอดตาย เพราะไม่มีปัญญาจับสัตว์อื่น เพื่อยังชีพตนเอง

การที่จิตจดจ่อ อยู่กับสิ่งใด สิ่งหนึ่ง ณ ขณะนั้นๆ ทั้งสติ สัมปชัญญะ และสมาธิ ประชุมลงที่เดียวกัน

ทั้งคนและสัตว์ ไม่แตกต่างกัน ในเรื่อง สติ การทำมาหากิน เพื่อเลี้ยงชีพตนเอง

สติเป็นสภาวธรรมที่ระลึกรู้ธรรมที่เป็นกุศล

สัตว์ไม่สามารถแยกแยะกุศลและอกุศลได้ครับ

:b12: :b12: :b12:
คุณโฮฮับครับ....คุณวลัยพรเธอชี้แจงมาถูกต้องแล้วนะครับ คุณโฮฮับไปติดใจหรือติดยึดว่า
"สติเป็นสภาวธรรมที่ระลึกรู้ธรรมที่เป็นกุศล"......ทำให้ธรรมไม่เป็นธรรมนะครับ

:b13:
ถ้าเก้งกวาง สัตว์ในป่า หรือหมาแมวสัตว์ในเมือง ไม่มีสติ ก็คงวิ่งชนกัน ชนต้นไม้ ตกหลุมตกเหว หรือถูกรถทับตายกันไปหมดแล้วนะครับ.....อย่าได้ไปดูถูกสัตว์ทั้งหลายเลยนะครับ....บางที่คนยังขาดสติมากกว่าเสียอีก

"เคยเห็นหมาที่เขาฝึกมาให้จูงคนตาบอดข้ามถนนไหมครับ"

onion onion onion

อโสกะลองพิจารณาสัตว์ในคลิปนี้ดูหน่อยสิเจ้าค่ะว่า การกระทำของสัตว์ป่าสองชนิดนี้เรียกว่ามีสติไหมเจ้าค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=kIqS9Woh_MY
และสัตว์สองชนิดนี้สามารถแยกแยะการกระทำที่เป็นกุศลและอกุศลได้ไหม
และลองนึกสภาพว่าถ้าเจ้าลิงตัวนั้นพลาดท่าเสียทีขึ้นมา เสือจะระลึกกรรมอันเป็นกุศลต่อลิงนั้นได้ไหม :b32: :b32:
และคลิปนี้คุณน้องก็ยังหาสาเหตุของปัจจัยของการที่สุนัขตัวนี้วิ่งข้ามถนนมากัดเด็กแบบไม่ยั้ง ที่ทำไปเพราะความหิวหรือสัญชาติญาณของนักล่า แต่คุณน้องไม่เชื่อว่าที่ทำลงไปเพราะไม่มีสติ เพียงแต่ว่าสุนัขตัวนี้แยกแยะกุศลและอกุศลไม่ได้แค่นั้นเอง
http://www.youtube.com/watch?v=grP-6wT95mI

:b20:
เราอย่าพากันฟุ้งปรุงแต่งไปไกลกันเลยนะครับ

สติ ก็เป็นเรื่องของสติซึ่งทั้งคนและสัตว์มีเหมือนกัน เพราะหน้าที่ของสติ(ธรรมชาติ)จริงๆนั้น คือ

รู้ทัน ปัจจุบันอารมณ์

ระลึกได้

ไม่ลืม


สัมมาสติ นั้นเป็นเรื่องที่พิเศษขึ้นไปมีสอนและอบรมกันเฉพาะในพุทธศาสนา

ความหมายของ สัมมาสติ โดยรวม คือสติที่ถูกอบรมมาให้กำกับกายใจเจริญอยู่ใน มรรค 8 อริยสัจ 4 อนัตตา มุ่งหน้าสู่พระนิพพานเพียงหนึ่งเดียว อย่างนี้เป็นต้น

ส่วนการจะมาแยกเป็นกุศลอกุศลนั้น เป็นเรื่องสมมุติของคนโดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่นมากกลุ่มกล่าวว่า การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นบาป...เขาสอนหรืออบรมสติไว้อย่างนี้ สติก็จะคอยกำกับเขาไม่ให้ทำบาป.......แต่กลับกันบางกลุ่มสอนว่า ฆ่าเพื่อพระเจ้า ได้บุญ ตายแล้วจะได้ไปอยู่บนสวรรค์กับพระเจ้า สติของคนกลุ่มนี้จะถูกอบรมอย่างนี้และกำกับคนกลุ่มนี้ให้ฆ่าเพื่อพระเจ้า

สัตว์มีสติเอาตัวรอดและยังชีพตนเองได้ (Survival For Fitted) สติของสัตว์ถูกอบรมด้วยประสบการณ์และสัญชาตญาณ ไม่มีเรื่องบาป บุญ กุศล อกุศลมาเกี่ยวข้องเหมือนอย่างคน

ประสบการณ์ที่เป็นลบกับเด็กจึงอาจทำให้สุนัขบางตัวชอบไล่กัดเด็ก.....สุนัขบางตัวมีประสบการณ์ที่เป็นบวกกับเด็กพอเห็นเด็กแล้วอาจวิ่งเข้าไปเคล้าเคลียเล่นด้วยก็ได้.......สิ่งที่บันทึกในสัญญาของสุนัขนั่นแหละเป็นตัวบงการพฤติกรรมของมัน

:b38:
โพสต์ เมื่อ: 05 ก.ย. 2013, 11:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
สัตว์มีสติเอาตัวรอดและยังชีพตนเองได้ (Survival For Fitted) สติของสัตว์ถูกอบรมด้วยประสบการณ์และสัญชาตญาณ ไม่มีเรื่องบาป บุญ กุศล อกุศลมาเกี่ยวข้องเหมือนอย่างคน

ถ้าสัตว์มีสติเพียงแค่เอาตัวรอดยังชีพของตนเอง ไม่มีเรื่องบาป บุญ กุศล อกุศล สัตว์เรียนรู้ด้วยสัญชาติญาณและประสบการณ์ของตน คุณน้องเข้าใจว่าสัตว์ที่รู้ตัวว่าใกล้จะตายหรือถูกทรมานจากการเบียดเบียนกันเพื่อความอยู่รอดของตน สัตว์ย่อมได้รับทุกข์เวทนาอย่างแสนสาหัส สัตว์ไม่สามารถระลึกรู้กรรมที่เป็นกุศลและอกุศลได้ งั้นแสดงว่าสัตว์ย่อมไม่มีกรรมเพื่อจะนำไปสู่ภพภูมิใหม่ เพราะไม่มีเรื่อง บาป บุญ กุศล และอกุศล คุณน้องจะบอกให้เอาบุญอย่างนึงถ้าสัตว์ไม่มีบาป บุญ สัตว์คงไม่เกิดในทุขคติภูมิที่ต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆหรือต้องเป็นผู้ล่าเพื่อต่างคนต่างอยู่เพื่อมีชีวิตรอดไปวันๆ
ลองดูคลิปนี้สิเจ้าค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=Xi-j41DXROY
ถ้าคุณน้องเป็นงูที่ถูกกระทำและได้รับทุกเวทนาอย่างแสนสาหัสจากการถูกเบียดเบียนก่อนสิ้นใจคุณน้องอาจจะเกิดพยาบาทขึ้นมาก็ได้ แล้ววัฏจักรก็หมุนเป็นวงจรต่อไป..(ใครจะไปรู้ :b32: )
asoka เขียน:
สุนัขบางตัวมีประสบการณ์ที่เป็นบวกกับเด็กพอเห็นเด็กแล้วอาจวิ่งเข้าไปเคล้าเคลียเล่นด้วยก็ได้.......สิ่งที่บันทึกในสัญญาของสุนัขนั่นแหละเป็นตัวบงการพฤติกรรมของมัน

คุณน้องรู้สึกแปลกใจจัง s006 อโสกะบอกว่าสัตว์ไม่มีเรื่อง บาป บุญ กุศล อกุศล แล้วไหนดันบอกว่า สิ่งที่บัณทึกไว้ในสัญญาของสัตว์เป็นตัวบ่งบอกพฤติกรรม แสดงว่าสัตว์ก็ย่อมมีกาการของจิตเช่นกันนะสิเจ้าค่ะ
แล้วอาการของจิตที่ถูกบัณทึกไว้เหมือนกับเมมโมรี่ เป็นตัวบ่งบอกพฤติกรรม แล้วสัตว์สามารถแยกกุศลและอกูศลได้ไหมเจ้าค่ะ คุณน้องเห็นอโสกะค้านความเห็นพี่โฮเรื่อง สัตว์ไม่สามารถแยกแยะกุศลและอกุศลได้
คุณน้องเลยอยากถามว่าอโสกะคิดว่า สัตว์สามารถแยกแยะกุศลแะลอกุศลได้ไหม ก็ในเมื่อสัตว์ทำตามสัญชาติญาณสัตว์ย่อมไม่รู้จักบุญและบาป แล้วเมื่อสัตว์ได้รับผัสสะที่เป็นพฤติกรรมเป็นสัญชาติญาณของสัตว์ สัตว์ก็แสดงพฤติกรรมที่ตนเคยชิน สัตว์ย่อมไม่มีบาป บุญ กุศลและอกุศล อย่างงั้นหรือเจ้าค่ะ


โพสต์ เมื่อ: 05 ก.ย. 2013, 19:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กุศล....หมายถึง...ฉลาด..นะครับ....ฉลาดที่จะทำสิ่งใดก็แล้วแต่...ไม่เกิดทุกข์...หรือ...เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พ้นจากทุกข์ได้
บุญ....มีผลให้ใจชุ่มชื่น....ใจเป้นสุข....
บาป...มีผลให้ใจเป็นทุกข์....

สัตว์เดรัจฉาน....มีอารมณ์..ดีใจ....ทุกข์ใจ..ได้....แสดงว่า....สัตว์มีอารมณ์อยู่ในเขตบุญ..เขตบาป...ได้
สัตว์จึงสามารถไปเกิดในสุคติภพได้..เช่น..เป็นคน..หรือเป็นเทวดา..หรือ...สามารถลงไปภพที่ทุกข์กว่าได้..เช่นนรก....ขึ้นกับอารมณ์ใจสุดท้าย

แต่สัตว์.ไม่สามารถรู้ลึกซึ่งใน.ทุกข์....อะไรคือเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดทุกข์...อาจเป็นเพราะสติ..ตกอยู่ภายใต้สัญชาตญาณมากเกินไป....เป็นภพภาวะ....จึงไม่อาจรวมสติให้เป็นสมาธิได้..จึงไปเกิดเป็นพรหมไม่ได้....

หรือทำจิตให้เป็นกุศล..คือ..ความฉลาดเพื่อให้พ้นทุกข์ได้...จึงไปนิพพานไม่ได้..เป็นต้น


โพสต์ เมื่อ: 05 ก.ย. 2013, 19:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโฮอับเป็นคนโพสแบบนี้

"สติเป็นสภาวธรรมที่ระลึกรู้ธรรมที่เป็นกุศล

สัตว์ไม่สามารถแยกแยะกุศลและอกุศลได้ครับ"


คือ โพสแรก คุณโฮฮับ บอกว่า สติเป็นสภาวธรรมที่ระลึกรู้ธรรมที่เป็นกุศล

โพสต่อมา คุณโฮฮับ บอกว่า "สัตว์ไม่สามารถแยกแยะกุศลและอกุศลได้ครับ"

เป็นการโพสแบบลอยๆ ไม่มีการเจาะจงลงไปว่า สัตว์ไม่มีสติ หรือสติ ไม่มีเกิดขึ้นในสัตว์



และคุณโสกะ โพส

คุณโฮฮับไปติดใจหรือติดยึดว่า
"สติเป็นสภาวธรรมที่ระลึกรู้ธรรมที่เป็นกุศล"......ทำให้ธรรมไม่เป็นธรรมนะครับ




สิ่งที่คุณน้องโพสมา เกี่ยวกับข้อความที่คุณโสกะโพส

คุณโสกะ ควรโพสบอกคุณน้องว่า ที่คุณน้องโพสมานั้น ไม่ใช่ตนเอง แต่เป็น คุณโฮฮับเป็นผู้โพส




กุศล-อกุศล


ทั้งคนและสัตว์ ไม่สามารถแยกแยะ สภาวะกุศล-อกุศล ที่เกิดขึ้น ตามความเป็นจริงได้

คนแยกแยะสิ่งที่เรียกว่า กุศล-อกุศล ตามบัญญัติที่มีไว้ เกิดจาก ความถูกใจ-ไม่ถูกใจ เป็นหลัก เหตุจาก อวิชชา ที่มีอยู่

ส่วนสัตว์ เป็นสัตว์เดรัจฉาน ไม่มีการเรียนรู้เรื่อง กุศล-อกุศล ตามบัญญัติ ที่มีอยู่ เพียงทำตามเหตุปัจจัยของตน ที่มีกับสิ่งๆนั้น

สิ่งที่เรียกว่า กุศล-อกุศล ในมนุษย์(คน) เกิดจาก ทิฏฐิอุปทาน เหตุจาก อวิชชาที่มีอยู่


เวลาตาย คนและสัตว์ ขณะที่กำลังจะขาดใจตาย จะมีสภาวะเหมือนๆกัน คือ จิตระลึกถึงสิ่งใดอยู่ จะไปตามเหตุปัจจัยนั้น

การเวียนว่าย ตายเกิดในวัฏฏสงสาร จึงเกิดขึ้นเพราะเหตุนี้ เหตุจาก อวิชชาที่มีอยู่

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสต์ เมื่อ: 05 ก.ย. 2013, 21:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b16: :b16:
อ้างคำพูด:
ปล.แต่ยังงัยคุณน้องก็ยังสนับสนุนความเห็นนี้ของอโสกะ
"เคยเห็นหมาที่เขาฝึกมาให้จูงคนตาบอดข้ามถนนไหมครับ"
:b4:
ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์มันก็ต้องถูกฝึกถูกอบรมใช่ไหมเจ้าค่ะ ถึงจะมีสติมีสมาธิ มันต้องขัดเกลากันทั้งนั้นแหละ

:b8:
สาธุ อนุโมทนากับ Nongkong ในคำสรุปที่อ้างอิงมานี้ครับ
:b27:
สัตว์ ไม่รู้เรื่อง บาป บุญ กุศล อกุศลหรอกครับ.....แต่ผลการกระทำ(กรรม)ของสัตว์เหล่านั้น ย่อมมีแน่นอน
คน นั่นแหละเอามาปรุงแต่งแจกแจงสู่กันฟัง.....สัตว์ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยแน่ๆครับ

:b12: :b12: :b12:


โพสต์ เมื่อ: 06 ก.ย. 2013, 04:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
อโสกะลองพิจารณาสัตว์ในคลิปนี้ดูหน่อยสิเจ้าค่ะว่า การกระทำของสัตว์ป่าสองชนิดนี้เรียกว่ามีสติไหมเจ้าค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=kIqS9Woh_MY
และสัตว์สองชนิดนี้สามารถแยกแยะการกระทำที่เป็นกุศลและอกุศลได้ไหม
และลองนึกสภาพว่าถ้าเจ้าลิงตัวนั้นพลาดท่าเสียทีขึ้นมา เสือจะระลึกกรรมอันเป็นกุศลต่อลิงนั้นได้ไหม :


ยัยน้องพี่โฮจะอธิบายให้ฟังทำไมพี่โฮถึงบอกว่า.... สัตว์ไม่สามารถมีสติ
ก็ตามที่พี่โฮบอก สัตว์ไม่สามารถ แยกแยะธรรมได้ สัตว์ไม่รู้หรอกว่า อะไรเป็นกุศล
อะไรเป็นอกุศล เพราะว่า...สติเป็นระลึกรู้ธรรมที่เป็นกุศลเท่านั้น และธรรมที่เป็นกุศลจะต้อง
มีเหตุมาจากธรรมที่เป็นอกุศล

ยกตัวอย่าง......ในขณะที่เรากำลังโกรธมีโทสะกำลังจะทำร้ายคนอื่น เรารู้สึกตัวว่ากำลังโกรธ
จิตจะไประลึกรู้ธรรมกุศล เช่นศีล อภัยทาน พรหมวิหารฯลฯ

การรู้ปัจจุบันคือรู้ อกุศลธรรม ระลึกรู้อดีตคือรู้กุศลธรรม
เอาอดีตที่เป็นกุศลขึ้นมาเป็นปัจจุบัน ลักษณะการทำแบบนี้เรียกว่า......สติ



เป็นเพราะพวกเรายังไม่เข้าใจว่า สภาวะที่ระลึกรู้เป็นอย่างไร จึงเข้าใจว่า สัตว์สามารถมีสติได้
แบบนี้มันขึ้นอยู่กับทวารที่รับผัสสะ เรื่องนี้ก็คือสมอง
สมองของคนและสัตว์มีคุณภาพที่แตกต่างกัน พระพุทธองค์ถึงได้แบ่งสัตว์โลกเป็น๒อย่าง
คือมนุษย์และเดรัจฉาน เดรัจฉานไม่สามารถบรรลุธรรมได้ เพราะมันไม่มีสติแยกแยะธรรม
สมองสัตว์เปรียบก็คล้ายคนตาบอดสีนั้นแหล่ะ ไม่สามารถแยกแยะสีได้

nongkong เขียน:
และคลิปนี้คุณน้องก็ยังหาสาเหตุของปัจจัยของการที่สุนัขตัวนี้วิ่งข้ามถนนมากัดเด็กแบบไม่ยั้ง ที่ทำไปเพราะความหิวหรือสัญชาติญาณของนักล่า แต่คุณน้องไม่เชื่อว่าที่ทำลงไปเพราะไม่มีสติ เพียงแต่ว่าสุนัขตัวนี้แยกแยะกุศลและอกุศลไม่ได้แค่นั้นเอง
http://www.youtube.com/watch?v=grP-6wT95mI

ก็เพราะมันแยกแยะกุศลและอกุศลไม่ได้ มันถึงไม่มีสติ
การทีพวกเราเข้าผิดในเรื่องสติ เป็นเพราะเราไปเอาธรรมที่เกิดจากด้วยเวลา
เอาธรรมที่ไม่ได้เป็นเหตุปัจจัยต่อกันมาพิจารณา จำไว้เลยว่า....
สติจะเกิดด้วยเหตุปัจจัยที่มี อกุศลและกุศลเป็นเหตุปัจจัยต่อกัน

ดูจากคลิป.....หมาที่กำลังกัดเด็ก มันมีแต่อกุศลในการทำลายล้าง
เมื่อมีคนที่เป็นผู้ใหญ่หลายคนเข้ามาห้าม มันก็ยังไม่หยุด
นี้แสดงว่า มันไม่มีสติแยกแยะธรรม .....มันเห็นผู้ใหญ่เข้ามาห้าม มันไม่สามารถระลึก
ถึงเจ้าของที่เคยสอนมันได้

ลักษณะตรงกันข้าม ถ้าหมากำลังกัดเด็ก มีผู้ใหญ่สั่งให้มันหยุด มันหยุดเพราะ
นึกเห็นหน้าเจ้าของที่เคยสอนให้มันหยุด แบบนี้จึงจะเรียกว่าสติ

บางครั้งหมาหยุดเพราะความกลัวที่มีคนเยอะหรือหยุดเพราะความเจ็บ
แบบนี้ก็ไม่เรียก สติ


โพสต์ เมื่อ: 06 ก.ย. 2013, 04:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ปล.แต่ยังงัยคุณน้องก็ยังสนับสนุนความเห็นนี้ของอโสกะ
"เคยเห็นหมาที่เขาฝึกมาให้จูงคนตาบอดข้ามถนนไหมครับ" :b4:
ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์มันก็ต้องถูกฝึกถูกอบรมใช่ไหมเจ้าค่ะ ถึงจะมีสติมีสมาธิ มันต้องขัดเกลากันทั้งนั้นแหละ :b9:

เรื่อง"หมาจูงคนตาบอดข้ามถนน" เขาไม่เรียกสติหรือสมาธิ

หมามันมีสมองแตกต่างจากคน สมองของคนชอบที่จะคิดฟุ้งซ่านปรุงแต่ง
การคิดฟุ้งซ่านเรียกว่าหลง เป็นอกุศล
เมื่อหลงจิตก็ไม่ได้อยู่กับงานหรืออยู่กับสิ่งที่ต้องกระทำในปัจจุบันนั้น
จึงต้องอาศัยสติระลึกรู้ งานที่กำลังทำดับความฟุ้งซ่านความคิดเรื่องอื่นที่ไม่ใช่งานปัจจุบันนั้น

หมามันได้รับการฝึกมา มันก็ทำตามที่ได้รับการฝึกมา
แบบว่า จิตของหมามันไม่มีความฟุ้งซ่านแบบคน
มันจะทำอะไร จิตก็จะทำตามที่เคยทำเป็นสัญชาติญานของสัตว์

การจะพิจารณาเรื่องหมาจูงคนตาบอด แล้วบอกว่าหมามันมีสติ....ไม่ใช่
จะดูว่าหมามันมีสติหรือไม่ ต้องดูในลักษณะนี้

หมาตัวเดิม กำลังทำร้ายคนไม่ว่าคนนั้นจะดีเลวอย่างไร
แต่เมื่อมันหยุดทำร้ายคนเพราะว่ามันระลึกรู้ว่า มันเป็นหมาที่ช่วยคนให้ปลอดภัย
แบบนี้ถึงจะเรียกสติ ในความเป็นจริงมันมีมั้ยล่ะ มีแต่ในหนัง :b13:


โพสต์ เมื่อ: 06 ก.ย. 2013, 04:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
กุศล-อกุศล
ทั้งคนและสัตว์ ไม่สามารถแยกแยะ สภาวะกุศล-อกุศล ที่เกิดขึ้น ตามความเป็นจริงได้

คนแยกแยะสิ่งที่เรียกว่า กุศล-อกุศล ตามบัญญัติที่มีไว้ เกิดจาก ความถูกใจ-ไม่ถูกใจ เป็นหลัก เหตุจาก อวิชชา ที่มีอยู่

ส่วนสัตว์ เป็นสัตว์เดรัจฉาน ไม่มีการเรียนรู้เรื่อง กุศล-อกุศล ตามบัญญัติ ที่มีอยู่ เพียงทำตามเหตุปัจจัยของตน ที่มีกับสิ่งๆนั้น

สิ่งที่เรียกว่า กุศล-อกุศล ในมนุษย์(คน) เกิดจาก ทิฏฐิอุปทาน เหตุจาก อวิชชาที่มีอยู่


เวลาตาย คนและสัตว์ ขณะที่กำลังจะขาดใจตาย จะมีสภาวะเหมือนๆกัน คือ จิตระลึกถึงสิ่งใดอยู่ จะไปตามเหตุปัจจัยนั้น

การเวียนว่าย ตายเกิดในวัฏฏสงสาร จึงเกิดขึ้นเพราะเหตุนี้ เหตุจาก อวิชชาที่มีอยู่


ในคนสามารถแยกแยะธรรมได้ด้วยการสั่งสอน
ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลเป็นสภาพธรรม ไม่ใช่สภาวะ
สภาวะคือ จิตที่ไประลึกรู้ สภาพธรรม ตัวระลึกรู้เป็นสภาวะธรรม

ปุถุชนไม่สามารถรู้สภาวะธรรมได้ แต่การไม่รู้ไม่ใช่ไม่เกิด เพียงแต่ไม่มีปัญญามองเห็น

ปุถุชนรู้ได้เพียงสภาพธรรมที่เป็นบัญญัติ

ส่วนสภาวะธรรมสามารถรู้ได้แต่อริยชน


โพสต์ เมื่อ: 06 ก.ย. 2013, 08:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


สิ่งที่กระทำลงไป หรือ เพียงแค่คิด แต่ยังไม่ลงมือกระทำ

การกระทำ หรือ สิ่งๆนั้น จะให้ชื่อ ให้ฉายาว่าอย่างไรก็ตาม

ผลที่ส่งกลับมา ย่อมเกิดขึ้นตามความเป็นจริง ของการกระทำนั้นๆ
ไม่ใช่เกิดขึ้น ตามคำเรียก ที่เกิดจากความถูกใจ ไม่ถูกใจ ตามเหตุปัจจัยที่มีอยู่


เหตุจาก ความไม่รู้ที่มีอยู่ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ทำให้เกิดความรู้สึกนึกคิด เกิดจากอะไรเป็นเหตุปัจจัย
จึงหลงสร้างให้เกิดขึ้นใหม่ ภพชาติใหม่ จึงเกิดขึ้นเนืองๆ



ไม่ว่าจะรู้แบบไหน ทำแบบไหน

หากรู้นั้นๆ การกระทำนั้นๆ เป็นการดับเหตุของการเกิด รู้นั้นๆ การกระทำนั้นๆ ใช้ได้หมด



เรื่อง นิพพาน พระพุทธเจ้า ทรงนำมาสอน ตามเหตุปัจจัยของบุคคลนั้น
นำมาบางส่วนของเรื่องพระกุณฑธานเถระเจ้า

เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสแสดงอดีตชาติของพระกุณฑธานะ จบลงแล้ว
จึงตรัสกับพระกุณฑธานะนั้นว่า

“ภิกษุ เธออาศัยกรรมลามกนี้ จึงมีเรื่องอันแปลกเช่นนี้แล้ว
บัดนี้ การที่เธอถือทิฏฐิอันลามกเช่นนั้นอีก ไม่สมควร เธออย่ากล่าวอะไรๆ กับภิกษุทั้งหลายอีก

จงเป็นผู้ไม่มีเสียง เช่นกังสดาลอันเขาตัดขอบปากแล้ว
เมื่อทำอย่างนั้น จักเป็นผู้ชื่อว่าบรรลุพระนิพพาน” ดังนี้แล

เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า…
“เธออย่าได้กล่าวคำหยาบกะใครๆ ชนเหล่าอื่นถูกเธอว่าแล้ว จะพึงตอบเธอ
เพราะการกล่าวแข่งขันกันย่อมทำให้เกิดทุกข์ อาชญาตอบพึงถูกต้องเธอ

ผิเธออาจยังตนไม่ให้หวั่นไหวได้ ดังกังสดาลที่ถูกจำกัดแล้วไซร้
เธอนั่นย่อมบรรลุพระนิพพาน การกล่าวแข่งขันโต้ตอบกัน ย่อมไม่มีแก่เธอ.”

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสต์ เมื่อ: 06 ก.ย. 2013, 09:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุญาติออกความเห็นค่ะ
ในกามาวจรจิตนั้น
จิตคนเป็นอย่างไร จิตสัตว์เดรัจฉานก็เป็นอย่างนั้น แต่พระโพธิสัตว์ในครั้งที่เกิดเป็นสัตว์นั้นมีธัมมสัญญา
ซึ่งต่างจากสัตว์เดรัจฉานทั่วๆ ไป
บอกว่าคนมีสติรู้ร้อนรู้หนาว หมาก็รู้ร้อนรู้หนาว แล้วหมาก็ไล่โจรขโมยของวัดก็เป็นการทำความดีของมัน
แต่คนต่างจากสัตว์คือ คนสามารถรู้ได้ว่า อะไรคือ รูป อะไรคือ นาม ค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสต์ เมื่อ: 06 ก.ย. 2013, 09:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


คนเมายาบ้า...มีสติมั๊ย...

:b10: :b10: :b10:

คนกำลังเสพเมถุน...มีสติ...รึเปล่า

:b10: :b10: :b10:

....

:b7: :b7: :b7:


โพสต์ เมื่อ: 06 ก.ย. 2013, 10:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
คนเมายาบ้า...มีสติมั๊ย...

:b10: :b10: :b10:

คนกำลังเสพเมถุน...มีสติ...รึเปล่า

:b10: :b10: :b10:

....

:b7: :b7: :b7:


เอกอนจะยกตัวอย่างให้ดูเป็นเชิงเปรียบเทียบ

เราสวดมนต์หรือท่องอาขยาน ได้แต่ต้นจนจบโดยไม่ติดขัด

เอกอนว่า แบบนี้เป็นสติหรือเปล่า

เอกอนลองคิดดูก่อน เอาไว้เข้ามาบอก


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 86 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร