วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 01:07  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 228 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 11, 12, 13, 14, 15, 16  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2013, 14:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
ทำของดีให้เน่าอีกแระโฮฮับ
สเหตุกะ อเหตุกะ .........โฮฮับก็ไม่มีความรู้
อย่ามั่วๆ อธิบาย

Quote Tipitaka:
[๗๔] วิญญาณขันธ์หมวดละ ๑ คือ วิญญาณขันธ์เป็นผัสสสัมปยุต
วิญญาณขันธ์หมวดละ ๒ คือ วิญญาณขันธ์เป็นสเหตุกะ เป็นอเหตุกะ


ไม่ว่าวิญญาณขันธ์ เป็นสเหตุกะ หรืออเหตุกะ ก็ตาม ก็ล้วนเป็นผัสสสัมปยุต นะโฮฮับ

เช่นนั้นไม่มีความเข้าใจเรื่อง ปัจจัย๒๔ และกระบวนการขันธ์ห้า

เอาอย่างนี้ดีกว่า.......
เช่นนั้นหาพุทธพจน์บาลีคำว่า วิญญานขันธ์ มาให้ดูหน่อยซิ
ลองดูซิว่ามันมีมั้ย แล้วก็ดูซิว่า เหตุใดในพระไตรปิฎกแปล จึงมีคำว่า
วิญญานขันธ์ ให้เวลาไปหาดู แล้วจะเข้ามาคุยให้ฟัง :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2013, 15:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ทำของดีให้เน่าอีกแระโฮฮับ
สเหตุกะ อเหตุกะ .........โฮฮับก็ไม่มีความรู้
อย่ามั่วๆ อธิบาย

Quote Tipitaka:
[๗๔] วิญญาณขันธ์หมวดละ ๑ คือ วิญญาณขันธ์เป็นผัสสสัมปยุต
วิญญาณขันธ์หมวดละ ๒ คือ วิญญาณขันธ์เป็นสเหตุกะ เป็นอเหตุกะ


ไม่ว่าวิญญาณขันธ์ เป็นสเหตุกะ หรืออเหตุกะ ก็ตาม ก็ล้วนเป็นผัสสสัมปยุต นะโฮฮับ

เช่นนั้นไม่มีความเข้าใจเรื่อง ปัจจัย๒๔ และกระบวนการขันธ์ห้า

เอาอย่างนี้ดีกว่า.......
เช่นนั้นหาพุทธพจน์บาลีคำว่า วิญญานขันธ์ มาให้ดูหน่อยซิ
ลองดูซิว่ามันมีมั้ย แล้วก็ดูซิว่า เหตุใดในพระไตรปิฎกแปล จึงมีคำว่า
วิญญานขันธ์ ให้เวลาไปหาดู แล้วจะเข้ามาคุยให้ฟัง :b13:

เรื่องของโฮฮับ
ต้องไปเรียนรู้ ทำความเข้าใจค้นคว้าเอาเอง

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ค. 2013, 02:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ทำของดีให้เน่าอีกแระโฮฮับ
สเหตุกะ อเหตุกะ .........โฮฮับก็ไม่มีความรู้
อย่ามั่วๆ อธิบาย

Quote Tipitaka:
[๗๔] วิญญาณขันธ์หมวดละ ๑ คือ วิญญาณขันธ์เป็นผัสสสัมปยุต
วิญญาณขันธ์หมวดละ ๒ คือ วิญญาณขันธ์เป็นสเหตุกะ เป็นอเหตุกะ


ไม่ว่าวิญญาณขันธ์ เป็นสเหตุกะ หรืออเหตุกะ ก็ตาม ก็ล้วนเป็นผัสสสัมปยุต นะโฮฮับ

เช่นนั้นไม่มีความเข้าใจเรื่อง ปัจจัย๒๔ และกระบวนการขันธ์ห้า

เอาอย่างนี้ดีกว่า.......
เช่นนั้นหาพุทธพจน์บาลีคำว่า วิญญานขันธ์ มาให้ดูหน่อยซิ
ลองดูซิว่ามันมีมั้ย แล้วก็ดูซิว่า เหตุใดในพระไตรปิฎกแปล จึงมีคำว่า
วิญญานขันธ์ ให้เวลาไปหาดู แล้วจะเข้ามาคุยให้ฟัง :b13:

เรื่องของโฮฮับ
ต้องไปเรียนรู้ ทำความเข้าใจค้นคว้าเอาเอง


ผมน่ะรู้แล้ว เพียงแต่เห็นว่าเช่นนั้นยังไม่รู้ ไม่รู้ความเป็นเหตุปัจจัย การเกิดดับของสภาวะธรรม
พูดมามันเป็นบัญญัติล้วนๆ ที่แย่ไปกว่านั้น บัญญัติที่พูดหรือเอามาแสดง มันผิดกาลเทศะ
ความหมายก็คือ....มันมั่ว มันไม่ตรงธรรม

มันก็แค่อยากให้เช่นนั้น พิจารณาธรรมเป็น ไม่ใช่จ้องแต่คำศัพท์
เห็นคำศัพท์ไหนมีลักษณะคล้ายกัน ก็เข้าใจผิดๆว่า เป็นสภาวะธรรมเดียวกัน


ที่แนะนำให้ไปดูพุทธพจน์ที่เป็นบาลี ก็เพื่อเช่นนั้นจะได้รู้ว่า บัญญัติที่เป็นพุทธพจน์
ในแต่ล่ะพุทธพจน์ จะมีความหมายแตกต่างกัน มันแตกต่างกันด้วยเหตุปัจจัย

จะอธิบายให้ฟัง กายใจหรือรูปนามของเรา มันมีวิญญญานอยู่แล้วโดยธรรมชาติ
เพราะว่า รูปนามมันมีเหตุปัจจัยมาจากวิญญาน


วิญญานรู้แจ้งอารมณ์แล้วก็ดับไป เกิดเป็นอุปาทานขันธ์ขึ้นมา

วิญญานขันธ์ก็คือ อุปาทานขันธ์
เพราะขันธ์เป็นที่ตั้งของอุปาทาน

วิญญานและอุปาทานขันธ์เกี่ยวข้องกันอย่างไร
นั้นคือ.........อุปาทานขันธ์มีเหตุปัจจัยมาจากวิญญาน
วิญญานก็คือวิญญานหกนั้นเอง


ดังนั้นวิญญานกับวิญญานขันธ์เป็นคนล่ะสภาวะกัน
เพียงแต่วิญญานเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดวิญญานขันธ์หรืออุปาทานขันธ์นั้นเอง

อย่าลืม วิญญานรู้แจ้งอารมณ์แล้วก็ดับไป เกิดเป็นวิญญานขันธ์
วิญญานขันธ์ไม่ใช่วิญญาน
วิญญานขันธ์ก็คือ อุปาทานขันธ์อันมีเหตุมาจากวิญญานที่ดับไปแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ค. 2013, 12:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:

ผมน่ะรู้แล้ว เพียงแต่เห็นว่าเช่นนั้นยังไม่รู้ ไม่รู้ความเป็นเหตุปัจจัย การเกิดดับของสภาวะธรรม
พูดมามันเป็นบัญญัติล้วนๆ ที่แย่ไปกว่านั้น บัญญัติที่พูดหรือเอามาแสดง มันผิดกาลเทศะ
ความหมายก็คือ....มันมั่ว มันไม่ตรงธรรม

มันก็แค่อยากให้เช่นนั้น พิจารณาธรรมเป็น ไม่ใช่จ้องแต่คำศัพท์
เห็นคำศัพท์ไหนมีลักษณะคล้ายกัน ก็เข้าใจผิดๆว่า เป็นสภาวะธรรมเดียวกัน


ที่แนะนำให้ไปดูพุทธพจน์ที่เป็นบาลี ก็เพื่อเช่นนั้นจะได้รู้ว่า บัญญัติที่เป็นพุทธพจน์
ในแต่ล่ะพุทธพจน์ จะมีความหมายแตกต่างกัน มันแตกต่างกันด้วยเหตุปัจจัย

จะอธิบายให้ฟัง กายใจหรือรูปนามของเรา มันมีวิญญญานอยู่แล้วโดยธรรมชาติ
เพราะว่า รูปนามมันมีเหตุปัจจัยมาจากวิญญาน


วิญญานรู้แจ้งอารมณ์แล้วก็ดับไป เกิดเป็นอุปาทานขันธ์ขึ้นมา

วิญญานขันธ์ก็คือ อุปาทานขันธ์
เพราะขันธ์เป็นที่ตั้งของอุปาทาน


วิญญานและอุปาทานขันธ์เกี่ยวข้องกันอย่างไร
นั้นคือ.........อุปาทานขันธ์มีเหตุปัจจัยมาจากวิญญาน
วิญญานก็คือวิญญานหกนั้นเอง



ดังนั้นวิญญานกับวิญญานขันธ์เป็นคนล่ะสภาวะกัน
เพียงแต่วิญญานเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดวิญญานขันธ์หรืออุปาทานขันธ์นั้นเอง

อย่าลืม วิญญานรู้แจ้งอารมณ์แล้วก็ดับไป เกิดเป็นวิญญานขันธ์
วิญญานขันธ์ไม่ใช่วิญญาน
วิญญานขันธ์ก็คือ อุปาทานขันธ์อันมีเหตุมาจากวิญญานที่ดับไปแล้ว

โชว์ โง่ ได้แจ่มมั่กนะโฮฮับ
ที่ทำสี แดง สีน้ำเงิน สีเขียว สีม่วง โชว์โง่ ....... ^ ^
แต่ไม่อธิบายให้โฮฮับ หรอก จงมั่วต่อไปนะโฮฮับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ค. 2013, 13:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


สงสัยครับ วิญญาณที่ว่าเป็นปฏิจจสมุปบาทหรือปล่าวครับ เพราะความเข้าใจผมคือจิตจุติขึ้นมา ส่วนวิญญาณขันธ์ก็คือขันธ์5

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ค. 2013, 14:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
สงสัยครับ วิญญาณที่ว่าเป็นปฏิจจสมุปบาทหรือปล่าวครับ เพราะความเข้าใจผมคือจิตจุติขึ้นมา ส่วนวิญญาณขันธ์ก็คือขันธ์5

วิญญาณ เป็นสังขตะธรรม เป็นผัสสสัมปยุตต์
วิญญาณ เป็นวิบากก็มี เป็นเหตุก็มี
วิญญาณ ในปฏิจสมุปบาท แสดงถึงวิญญาณที่เป็นเหตุเป็นปัจจัย

จิตที่ จุติ คือเคลื่อนไปจากอารมณ์หนึ่งภพหนึ่ง ไปแต่งปฏิสนธิคือจับอารมณ์หนึ่งสู่ภพหนึ่งขึ้น ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย เช่นโลภะ โทสะ โมหะ ฯลฯ

วิญญาณขันธ์ ....ก็คือวิญญาณ จิต มโน ฯลฯ ในขันธ์ 5
ขันธ์ 5 เป็นวิบากก็มี ขันธ์ 4 เป็นวิบากก็มี เป็นเหตุก็มี

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2013, 04:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
student เขียน:
สงสัยครับ วิญญาณที่ว่าเป็นปฏิจจสมุปบาทหรือปล่าวครับ เพราะความเข้าใจผมคือจิตจุติขึ้นมา ส่วนวิญญาณขันธ์ก็คือขันธ์5

วิญญาณ เป็นสังขตะธรรม เป็นผัสสสัมปยุตต์
วิญญาณ เป็นวิบากก็มี เป็นเหตุก็มี
วิญญาณ ในปฏิจสมุปบาท แสดงถึงวิญญาณที่เป็นเหตุเป็นปัจจัย

การจะพิจารณาเรื่องวิญญาน เราต้องเข้าใจก่อนว่า วิญญานแบ่งเป็นสองนัย

หนึ่งคือ วิญญานที่เป็น....ธรรมฐิติ(ปฏิจจสมุบาท)
สองวิญญานที่เป็น......ธรรมนิยามหรือวิญญานหก

ถ้าเราให้คำจำกัดความ วิญญานคือจิต จุตติจิตก็แบ่งเป็นสอง ปฏิสนธฺ์จิตก็เช่นกัน

จากคำถามของคุณstudent ที่ถามว่าจิตจุติลงมาเป็นวิญญานในปฏิจจสมุบาท
ใช่ครับ เป็นการที่วิญญานไปปฏิสนธฺ์ในครรภ์มารดาครับ

แต่อย่าสับสนนะครับ ยังมีจุติจิตและปฏิสนธฺ์จิต ในธรรมนิยามหรือในกระบวนการขันธ์อีกครับ
จิตที่จุติและปฏิสนธิ์ ก็คือการเกิดดับของจิตที่สืบต่อในกระบวนการขันธ์นั้นเอง

วิญญานขันธ์หรือขันธ์ห้า มันแตกต่างกับวิญญาน
วิญญานขันธ์มันเกิดขึ้นเพราะ บุคคลไม่เห็นการเกิดดับของวิญญาน
วิญญานหรือผัสสะสัมปยุต มีลักษณะเกิดดับมันมีจิตหรือวิญญานที่เกิดดับอยู่
วิญญานอันเป็นจิตผู้รู้เป็นหนึ่งในผัสสะสัมปยุต มันเกิดและดับไปแล้ว
แต่ด้วยอวิชาอันเป็นสันตติมาปิดบังไว้ ผัสสะสัมปยุตจึงเกิดเป็นขันธ์ขึ้น

ถ้าบุคคลรู้ว่า วิญญานหรือจิตผู้รู้มีสภาพเกิดดับ ไม่ควรยึดมั่น
ผัสสะและวิญญานก็จะไม่เกิด ขันธ์หรือวิญญานขันธ์ จะมีเพียงวิญญานรู้แล้วก็ดับไป


เช่นนั้น เขียน:
จิตที่ จุติ คือเคลื่อนไปจากอารมณ์หนึ่งภพหนึ่ง ไปแต่งปฏิสนธิคือจับอารมณ์หนึ่งสู่ภพหนึ่งขึ้น ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย เช่นโลภะ โทสะ โมหะ ฯลฯ

จิตจุติและจิตปฏิสนธิ์ในธรรมนิยาม(กายใจ) ไม่ได้เป็นไปแบบที่เช่นนั้นกล่าว
ในอารมณ์หนึ่งๆนั้นจะมีจิตเกิดดับหรือจิตจุติและปฏิสนธิ์ขึ้นมากมาย
มันไม่ใช่เป็นการเคลื่อนจากภพหนึ่งไปภพหนึ่ง

ภพมาเกี่ยวข้องได้นั้นเพราะว่า จิตไม่เห็นการเกิดดับ ทำให้จิตเกิดยินดียินร้าย
ซึ่งความยินดียินร้ายก่อให้เกิดภพ..... อารมณ์ไม่ใช่ภพ แต่อารมณ์คือความยินดี
ยินร้ายที่ทำให้เกิดภพ

อำนาจแห่งความยินดียินร้ายก็คือ ตัณหานั้นเอง
ตัณหามีอำนาจทำให้เกิด อกุศลจิตโทสะ โมหะและโลภะ
เช่นนั้น เขียน:
วิญญาณขันธ์ ....ก็คือวิญญาณ จิต มโน ฯลฯ ในขันธ์ 5

วิญญานขันธ์ ไม่ใช่วิญญาน จิต หรือมโนอะไรอย่างที่เช่นนั้นบอก
วิญญานขันธ์ เกิดจาก ความไม่รู้หรืออวิชา
นั้นก็คือความไม่รู้ว่า จิตหรือวิญญานเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป
ความไม่รู้ว่าจิตหรือวิญญานนั้นได้ดับไปแล้ว ทำให้หลงคิดว่ายังมีจิตหรือวิญญานตัวนั้นอยู่
ความหลงนี่แหล่ะคือ วิญญานขันธ์

เช่นนั้น เขียน:
ขันธ์ 5 เป็นวิบากก็มี ขันธ์ 4 เป็นวิบากก็มี เป็นเหตุก็มี


เช่นนั้นผู้ชอบอ้างพุทธวจน คำพูดนี้ทำให้รู้เลยว่า พุทธวจนในคำพูดของเช่นนั้น
เป็นเพียงคำข่ม เอาคำว่าพุทธวจนมาพูดข่มคนอื่น ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ

เช่นนั้นรู้หรือเปล่า ว่าเช่นนั้นกำลังมั่วพุทธพจน์ เอาอะไรมาแสดงความเห็น
รู้หรือเปล่าว่ามันเป็นคนล่ะเรื่อง :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2013, 13:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
student เขียน:
สงสัยครับ วิญญาณที่ว่าเป็นปฏิจจสมุปบาทหรือปล่าวครับ เพราะความเข้าใจผมคือจิตจุติขึ้นมา ส่วนวิญญาณขันธ์ก็คือขันธ์5


การจะพิจารณาเรื่องวิญญาน เราต้องเข้าใจก่อนว่า วิญญานแบ่งเป็นสองนัย

หนึ่งคือ วิญญานที่เป็น....ธรรมฐิติ(ปฏิจจสมุบาท)
สองวิญญานที่เป็น......ธรรมนิยามหรือวิญญานหก


ถ้าเราให้คำจำกัดความ วิญญานคือจิต จุตติจิตก็แบ่งเป็นสอง ปฏิสนธฺ์จิตก็เช่นกัน

จากคำถามของคุณstudent ที่ถามว่าจิตจุติลงมาเป็นวิญญานในปฏิจจสมุบาท
ใช่ครับ เป็นการที่วิญญานไปปฏิสนธฺ์ในครรภ์มารดาครับ

แต่อย่าสับสนนะครับ ยังมีจุติจิตและปฏิสนธฺ์จิต ในธรรมนิยามหรือในกระบวนการขันธ์อีกครับ
จิตที่จุติและปฏิสนธิ์ ก็คือการเกิดดับของจิตที่สืบต่อในกระบวนการขันธ์นั้นเอง

วิญญานขันธ์หรือขันธ์ห้า มันแตกต่างกับวิญญาน
วิญญานขันธ์มันเกิดขึ้นเพราะ บุคคลไม่เห็นการเกิดดับของวิญญาน
วิญญานหรือผัสสะสัมปยุต มีลักษณะเกิดดับมันมีจิตหรือวิญญานที่เกิดดับอยู่
วิญญานอันเป็นจิตผู้รู้เป็นหนึ่งในผัสสะสัมปยุต มันเกิดและดับไปแล้ว
แต่ด้วยอวิชาอันเป็นสันตติมาปิดบังไว้ ผัสสะสัมปยุตจึงเกิดเป็นขันธ์ขึ้น

ถ้าบุคคลรู้ว่า วิญญานหรือจิตผู้รู้มีสภาพเกิดดับ ไม่ควรยึดมั่น
ผัสสะและวิญญานก็จะไม่เกิด ขันธ์หรือวิญญานขันธ์ จะมีเพียงวิญญานรู้แล้วก็ดับไป



จิตจุติและจิตปฏิสนธิ์ในธรรมนิยาม(กายใจ)
ในอารมณ์หนึ่งๆนั้นจะมีจิตเกิดดับหรือจิตจุติและปฏิสนธิ์ขึ้นมากมาย
มันไม่ใช่เป็นการเคลื่อนจากภพหนึ่งไปภพหนึ่ง

ภพมาเกี่ยวข้องได้นั้นเพราะว่า จิตไม่เห็นการเกิดดับ ทำให้จิตเกิดยินดียินร้าย
ซึ่งความยินดียินร้ายก่อให้เกิดภพ..... อารมณ์ไม่ใช่ภพ แต่อารมณ์คือความยินดี
ยินร้ายที่ทำให้เกิดภพ

อำนาจแห่งความยินดียินร้ายก็คือ ตัณหานั้นเอง
ตัณหามีอำนาจทำให้เกิด อกุศลจิตโทสะ โมหะและโลภะ

วิญญานขันธ์ ไม่ใช่วิญญาน จิต หรือมโน
วิญญานขันธ์ เกิดจาก ความไม่รู้หรืออวิชา
นั้นก็คือความไม่รู้ว่า จิตหรือวิญญานเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป
ความไม่รู้ว่าจิตหรือวิญญานนั้นได้ดับไปแล้ว ทำให้หลงคิดว่ายังมีจิตหรือวิญญานตัวนั้นอยู่
ความหลงนี่แหล่ะคือ วิญญานขันธ์

เช่นนั้น เขียน:
ขันธ์ 5 เป็นวิบากก็มี ขันธ์ 4 เป็นวิบากก็มี เป็นเหตุก็มี


เช่นนั้นผู้ชอบอ้างพุทธวจน คำพูดนี้ทำให้รู้เลยว่า พุทธวจนในคำพูดของเช่นนั้น
เป็นเพียงคำข่ม เอาคำว่าพุทธวจนมาพูดข่มคนอื่น ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ

เช่นนั้นรู้หรือเปล่า ว่าเช่นนั้นกำลังมั่วพุทธพจน์ เอาอะไรมาแสดงความเห็น
รู้หรือเปล่าว่ามันเป็นคนล่ะเรื่อง :b32:


:b29: :b31: :b26:
หมดทางเยียวยา โฮฮับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2013, 13:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
student เขียน:
สงสัยครับ วิญญาณที่ว่าเป็นปฏิจจสมุปบาทหรือปล่าวครับ เพราะความเข้าใจผมคือจิตจุติขึ้นมา ส่วนวิญญาณขันธ์ก็คือขันธ์5


การจะพิจารณาเรื่องวิญญาน เราต้องเข้าใจก่อนว่า วิญญานแบ่งเป็นสองนัย

หนึ่งคือ วิญญานที่เป็น....ธรรมฐิติ(ปฏิจจสมุบาท)
สองวิญญานที่เป็น......ธรรมนิยามหรือวิญญานหก


ถ้าเราให้คำจำกัดความ วิญญานคือจิต จุตติจิตก็แบ่งเป็นสอง ปฏิสนธฺ์จิตก็เช่นกัน

จากคำถามของคุณstudent ที่ถามว่าจิตจุติลงมาเป็นวิญญานในปฏิจจสมุบาท
ใช่ครับ เป็นการที่วิญญานไปปฏิสนธฺ์ในครรภ์มารดาครับ

แต่อย่าสับสนนะครับ ยังมีจุติจิตและปฏิสนธฺ์จิต ในธรรมนิยามหรือในกระบวนการขันธ์อีกครับ
จิตที่จุติและปฏิสนธิ์ ก็คือการเกิดดับของจิตที่สืบต่อในกระบวนการขันธ์นั้นเอง

วิญญานขันธ์หรือขันธ์ห้า มันแตกต่างกับวิญญาน
วิญญานขันธ์มันเกิดขึ้นเพราะ บุคคลไม่เห็นการเกิดดับของวิญญาน
วิญญานหรือผัสสะสัมปยุต มีลักษณะเกิดดับมันมีจิตหรือวิญญานที่เกิดดับอยู่
วิญญานอันเป็นจิตผู้รู้เป็นหนึ่งในผัสสะสัมปยุต มันเกิดและดับไปแล้ว
แต่ด้วยอวิชาอันเป็นสันตติมาปิดบังไว้ ผัสสะสัมปยุตจึงเกิดเป็นขันธ์ขึ้น

ถ้าบุคคลรู้ว่า วิญญานหรือจิตผู้รู้มีสภาพเกิดดับ ไม่ควรยึดมั่น
ผัสสะและวิญญานก็จะไม่เกิด ขันธ์หรือวิญญานขันธ์ จะมีเพียงวิญญานรู้แล้วก็ดับไป



จิตจุติและจิตปฏิสนธิ์ในธรรมนิยาม(กายใจ)
ในอารมณ์หนึ่งๆนั้นจะมีจิตเกิดดับหรือจิตจุติและปฏิสนธิ์ขึ้นมากมาย
มันไม่ใช่เป็นการเคลื่อนจากภพหนึ่งไปภพหนึ่ง

ภพมาเกี่ยวข้องได้นั้นเพราะว่า จิตไม่เห็นการเกิดดับ ทำให้จิตเกิดยินดียินร้าย
ซึ่งความยินดียินร้ายก่อให้เกิดภพ..... อารมณ์ไม่ใช่ภพ แต่อารมณ์คือความยินดี
ยินร้ายที่ทำให้เกิดภพ

อำนาจแห่งความยินดียินร้ายก็คือ ตัณหานั้นเอง
ตัณหามีอำนาจทำให้เกิด อกุศลจิตโทสะ โมหะและโลภะ

วิญญานขันธ์ ไม่ใช่วิญญาน จิต หรือมโน
วิญญานขันธ์ เกิดจาก ความไม่รู้หรืออวิชา
นั้นก็คือความไม่รู้ว่า จิตหรือวิญญานเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป
ความไม่รู้ว่าจิตหรือวิญญานนั้นได้ดับไปแล้ว ทำให้หลงคิดว่ายังมีจิตหรือวิญญานตัวนั้นอยู่
ความหลงนี่แหล่ะคือ วิญญานขันธ์

เช่นนั้น เขียน:
ขันธ์ 5 เป็นวิบากก็มี ขันธ์ 4 เป็นวิบากก็มี เป็นเหตุก็มี


เช่นนั้นผู้ชอบอ้างพุทธวจน คำพูดนี้ทำให้รู้เลยว่า พุทธวจนในคำพูดของเช่นนั้น
เป็นเพียงคำข่ม เอาคำว่าพุทธวจนมาพูดข่มคนอื่น ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ

เช่นนั้นรู้หรือเปล่า ว่าเช่นนั้นกำลังมั่วพุทธพจน์ เอาอะไรมาแสดงความเห็น
รู้หรือเปล่าว่ามันเป็นคนล่ะเรื่อง :b32:


:b29: :b31: :b26:
หมดทางเยียวยา โฮฮับ
เดี่ยวคุณโฮฮับก็จะค่อยๆดีขึ้นเองครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 02:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:

การจะพิจารณาเรื่องวิญญาน เราต้องเข้าใจก่อนว่า วิญญานแบ่งเป็นสองนัย

หนึ่งคือ วิญญานที่เป็น....ธรรมฐิติ(ปฏิจจสมุบาท)
สองวิญญานที่เป็น......ธรรมนิยามหรือวิญญานหก

:b29: :b31: :b26:
หมดทางเยียวยา โฮฮับ

๒. มหานิทานสูตร (๑๕)
[๕๗] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้:-
สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ ณ กุรุชนบท มีนิคมของชาวกุรุ
นามว่า กัมมาสทัมมะ ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึง
ที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้วถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วน
ข้างหนึ่ง ครั้นท่านพระอานนท์นั่งเรียบร้อยแล้ว ได้กราบทูลความข้อนี้กะ
พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมา ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ปฏิจจสมุปบาทนี้ลึกซึ้งสุดประมาณ และปรากฏเป็นของลึก ก็แหละถึงจะ
เป็นเช่นนั้น ก็ยังปรากฏแก่ข้าพระองค์ เหมือนเป็นของตื้นนัก ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า เธออย่าพูดอย่างนั้น อานนท์ เธออย่าพูดอย่างนั้น
อานนท์ ปฏิจจสมุปบาทนี้ ลึกซึ้งสุดประมาณและปรากฏเป็นของลึก ดูกรอานนท์
เพราะไม่รู้จริง เพราะไม่แทงตลอด ซึ่งธรรมอันนี้ หมู่สัตว์นี้ จึงเกิดเป็นผู้ยุ่งประดุจ
ด้ายของช่างหูก เกิดเป็นปมประหนึ่งกระจุกด้าย เป็นผู้เกิดมาเหมือนหญ้ามุง
กระต่ายและหญ้าปล้อง จึงไม่พ้นอุบาย ทุคติ วินิบาต สงสาร ดูกรอานนท์
เมื่อเธอถูกถามว่า ชรามรณะ มีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี ถ้าเขาถามว่า
ชรามรณะมีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีชาติเป็นปัจจัย เมื่อเธอถูกถามว่า
ชาติมีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี ถ้าเขาถามว่า ชาติมีอะไรเป็นปัจจัย
เธอพึงตอบว่า มีภพเป็นปัจจัย เมื่อเธอถูกถามว่า ภพมีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอ
พึงตอบว่า มี ถ้าเขาถามว่า ภพมีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีอุปาทานเป็น
ปัจจัย เมื่อเธอถูกถามว่า อุปาทานมีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี ถ้าเขา
ถามว่า อุปาทานมีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีตัณหาเป็นปัจจัย เมื่อเธอ
ถูกถามว่า ตัณหามีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี ถ้าเขาถามว่า ตัณหามี
อะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีเวทนาเป็นปัจจัย เมื่อเธอถูกถามว่า เวทนามี
สิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี ถ้าเขาถามว่า เวทนามีอะไรเป็นปัจจัย เธอ
พึงตอบว่า มีผัสสะเป็นปัจจัย
" เมื่อเธอถูกถามว่า ผัสสะมีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ
เธอพึงตอบว่า มี ถ้าเขาถามว่า ผัสสะมีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีนามรูปเป็นปัจจัย
เมื่อเธอถูกถามว่า นามรูปมีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี
ถ้าเขาถามว่า นามรูปมีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีวิญญาณเป็นปัจจัย
เมื่อเธอถูกถามว่า วิญญาณมีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี
ถ้าเขาถามว่าวิญญาณมีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีนามรูปเป็นปัจจัย
ดูกรอานนท์ เพราะนามรูปเป็นปัจจัยดังนี้แล จึงเกิดวิญญาณ
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัยจึงเกิดนามรูป
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดผัสสะ
เพราะผัสสะเป็นปัจจัยจึงเกิดเวทนา"

เพราะเวทนาเป็นปัจจัยจึงเกิดตัณหา เพราะตัณหาเป็นปัจจัยจึงเกิดอุปาทาน
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัยจึงเกิดภพ เพราะภพเป็นปัจจัยจึงเกิดชาติ เพราะชาติเป็น
ปัจจัย จึงเกิดชรามรณะ โสกปริเทวทุกขโทมนัสอุปายาส ฯ
ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ย่อมมีด้วยประการฉะนี้ ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 455&Z=1887


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 09:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:

การจะพิจารณาเรื่องวิญญาน เราต้องเข้าใจก่อนว่า วิญญานแบ่งเป็นสองนัย

หนึ่งคือ วิญญานที่เป็น....ธรรมฐิติ(ปฏิจจสมุบาท)
สองวิญญานที่เป็น......ธรรมนิยามหรือวิญญานหก

:b29: :b31: :b26:
หมดทางเยียวยา โฮฮับ

๒. มหานิทานสูตร (๑๕)
[๕๗] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้:-......

" เมื่อเธอถูกถามว่า ผัสสะมีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ
เธอพึงตอบว่า มี ถ้าเขาถามว่า ผัสสะมีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีนามรูปเป็นปัจจัย
เมื่อเธอถูกถามว่า นามรูปมีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี
ถ้าเขาถามว่า นามรูปมีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีวิญญาณเป็นปัจจัย
เมื่อเธอถูกถามว่า วิญญาณมีสิ่งเป็นปัจจัยหรือ เธอพึงตอบว่า มี
ถ้าเขาถามว่าวิญญาณมีอะไรเป็นปัจจัย เธอพึงตอบว่า มีนามรูปเป็นปัจจัย
ดูกรอานนท์ เพราะนามรูปเป็นปัจจัยดังนี้แล จึงเกิดวิญญาณ
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัยจึงเกิดนามรูป
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดผัสสะ
เพราะผัสสะเป็นปัจจัยจึงเกิดเวทนา"

เพราะเวทนาเป็นปัจจัยจึงเกิดตัณหา เพราะตัณหาเป็นปัจจัยจึงเกิดอุปาทาน
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัยจึงเกิดภพ เพราะภพเป็นปัจจัยจึงเกิดชาติ เพราะชาติเป็น
ปัจจัย จึงเกิดชรามรณะ โสกปริเทวทุกขโทมนัสอุปายาส ฯ
ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ย่อมมีด้วยประการฉะนี้ ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 455&Z=1887


นี่ก็คือตัวอย่างหนึ่ง ที่เอาของดีมาทำให้เน่า

อ้างคำพูด:
วิญญานที่เป็น....ธรรมฐิติ(ปฏิจจสมุบาท)
สองวิญญานที่เป็น......ธรรมนิยามหรือวิญญานหก


เน่าอย่างไร
เน่าโดยการแบ่งแยก วิญญาณหก ไว้ในเฉพาะธัมมนิยาม
วิญญาณ 6 ต่างก็เป็นได้ทั้ง ธัมมฐิติ ธัมมนิยาม จำไว้ให้ดี โฮฮับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 13:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:

เน่าอย่างไร
เน่าโดยการแบ่งแยก วิญญาณหก ไว้ในเฉพาะธัมมนิยาม
วิญญาณ 6 ต่างก็เป็นได้ทั้ง ธัมมฐิติ ธัมมนิยาม จำไว้ให้ดี โฮฮับ

ทำเนียน ไหนเอาพุทธพจน์มาโชว์หน่อยซิ

อย่ามาตีกิน ชาวบ้านเขารู้ทัน :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 16:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:

เน่าอย่างไร
เน่าโดยการแบ่งแยก วิญญาณหก ไว้ในเฉพาะธัมมนิยาม
วิญญาณ 6 ต่างก็เป็นได้ทั้ง ธัมมฐิติ ธัมมนิยาม จำไว้ให้ดี โฮฮับ

ทำเนียน ไหนเอาพุทธพจน์มาโชว์หน่อยซิ

อย่ามาตีกิน ชาวบ้านเขารู้ทัน :b32:

เน่าก็ยอมรับว่าเน่านะโฮฮับ

Quote Tipitaka:
[๑๔] ก็นามรูปเป็นไฉน เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ
นี้เรียกว่านาม มหาภูตรูป ๔ และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ นี้เรียกว่ารูป นามและ
รูปดังพรรณนามาฉะนี้ เรียกว่านามรูป ฯ
[๑๕] ก็วิญญาณเป็นไฉน วิญญาณ ๖ หมวดเหล่านี้คือ จักขุวิญญาณ
โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ มโนวิญญาณ นี้เรียกว่า
วิญญาณ ฯ
http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=16&A=33&Z=87&pagebreak=0

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 18:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:

เน่าอย่างไร
เน่าโดยการแบ่งแยก วิญญาณหก ไว้ในเฉพาะธัมมนิยาม
วิญญาณ 6 ต่างก็เป็นได้ทั้ง ธัมมฐิติ ธัมมนิยาม จำไว้ให้ดี โฮฮับ

ทำเนียน ไหนเอาพุทธพจน์มาโชว์หน่อยซิ

อย่ามาตีกิน ชาวบ้านเขารู้ทัน :b32:

เน่าก็ยอมรับว่าเน่านะโฮฮับ

Quote Tipitaka:
[๑๔] ก็นามรูปเป็นไฉน เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ
นี้เรียกว่านาม มหาภูตรูป ๔ และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ นี้เรียกว่ารูป นามและ
รูปดังพรรณนามาฉะนี้ เรียกว่านามรูป ฯ
[๑๕] ก็วิญญาณเป็นไฉน วิญญาณ ๖ หมวดเหล่านี้คือ จักขุวิญญาณ
โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ มโนวิญญาณ นี้เรียกว่า
วิญญาณ ฯ
http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=16&A=33&Z=87&pagebreak=0

ว่าแล้วต้องมั่ว พอเห็นคำศัพท์คล้ายกัน อ้างส่งเลย
ไม่ได้พิจารณาเรื่องเหตุปัจจัยการเกิด และเหตุแห่งการดับเลย
เอาที่เอามาอ้างน่ะ เขาเรียก คนไร้ซึ่งปัญญา

ปฏิจจสมุบาทสายเกิด มีวิญญานยังไม่เกิดรูปนาม สฬารยตนะ ผัสสะ
แล้ววิญญานสายเกิด จะเป็นวิญญานหกได้อย่างไร มั่วไม่ดูตาม้าตาเรือเลย

ในปฏิจจฯสายเกิด วิญญานหกคือสฬารยตนะ เพราะวิญญานหกเกิดที่ ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ

ปฏิจจสมุบาทสายเกิด.......

เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี
เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี
เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปทานจึงมี
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ภพจึงมี
เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี
เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี
ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจ ก็มีพร้อม ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมี

เช่นนั้นเอาไปอ่านเป็นการบ้าน พรุ่งนี้จะมาอธิบายให้ฟัง :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 21:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:

เน่าอย่างไร
เน่าโดยการแบ่งแยก วิญญาณหก ไว้ในเฉพาะธัมมนิยาม
วิญญาณ 6 ต่างก็เป็นได้ทั้ง ธัมมฐิติ ธัมมนิยาม จำไว้ให้ดี โฮฮับ

ทำเนียน ไหนเอาพุทธพจน์มาโชว์หน่อยซิ

อย่ามาตีกิน ชาวบ้านเขารู้ทัน :b32:

เน่าก็ยอมรับว่าเน่านะโฮฮับ

Quote Tipitaka:
[๑๔] ก็นามรูปเป็นไฉน เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ
นี้เรียกว่านาม มหาภูตรูป ๔ และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ นี้เรียกว่ารูป นามและ
รูปดังพรรณนามาฉะนี้ เรียกว่านามรูป ฯ
[๑๕] ก็วิญญาณเป็นไฉน วิญญาณ ๖ หมวดเหล่านี้คือ จักขุวิญญาณ
โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ มโนวิญญาณ นี้เรียกว่า
วิญญาณ ฯ
http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=16&A=33&Z=87&pagebreak=0

ว่าแล้วต้องมั่ว พอเห็นคำศัพท์คล้ายกัน อ้างส่งเลย
ไม่ได้พิจารณาเรื่องเหตุปัจจัยการเกิด และเหตุแห่งการดับเลย
เอาที่เอามาอ้างน่ะ เขาเรียก คนไร้ซึ่งปัญญา

ปฏิจจสมุบาทสายเกิด มีวิญญานยังไม่เกิดรูปนาม สฬารยตนะ ผัสสะ
แล้ววิญญานสายเกิด จะเป็นวิญญานหกได้อย่างไร มั่วไม่ดูตาม้าตาเรือเลย

ในปฏิจจฯสายเกิด วิญญานหกคือสฬารยตนะ เพราะวิญญานหกเกิดที่ ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ

ปฏิจจสมุบาทสายเกิด.......

เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี
เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี
เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปทานจึงมี
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ภพจึงมี
เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี
เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี
ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจ ก็มีพร้อม ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมี

เช่นนั้นเอาไปอ่านเป็นการบ้าน พรุ่งนี้จะมาอธิบายให้ฟัง :b13:


จะรอ โฮฮับ ว่าจะมั่วอะไรออกมาอีก

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 228 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 11, 12, 13, 14, 15, 16  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร