วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 04:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2013, 17:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว


ในปัจจุบันถึงแม้โลกเราจะมากไปด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวก แต่มนุษย์ส่วนใหญ่ต้องทนทุกข์มากขึ้น
กว่าในอดีตมาก ไม่ว่าจะเป็นในด้านทำมาหากิน ด้านชีวิตและสังคม
ทั้งนี้ก็เนื่องจากระบบต่างๆ ในระบบทางโลกดูเหมือนจะเร่งเร้าบีบคั้นเอาสิ่งต่างๆ
จากมนุษย์ส่วนใหญ่ไปไว้รวมกันแล้วก็จัดสรรอย่างไม่ยุติธรรม

เห็นได้จากความแตกต่างระหว่างรายได้ของคนรวย และคนจนซึ่งมีมากกว่าในอดีต
ท่ามกลางกระแสโลกเหล่านี้ สิ่งที่เหือดแห้งหายไปจากจิตใจของผู้คน คือ ความเมตตา
หรือความรักอันเกิดจากดวงใจที่บริสุทธิ์ ที่มีความปรารถนาดีต่อกันโดยไม่หวังผลประโยชน์ใดๆ
จากกัน เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งกว่าทรัพย์สมบัติใดๆ เมตตาจึงเป็นสมบัติทางใจ
ที่ต้องเร่งเร้าให้เกิดขึ้นมีในจิตใจของมวลมนุษย์ชาติโดยรีบด่วน
เพื่อบรรเทาทุกข์อันเกิดจากความบีบคั้นจากการดำเนินชีวิตที่แห้งแล้งทางจิตใจ

เมตตา คือ ความรักโดยไม่ปรารถนาจะครอบครองหรือการได้มา
เพราะรู้ดีว่า ในความจริงเหนือจริงในโลกนี้นั้นไม่มีการครอบครอง
และก็ไม่มีใครเป็นเจ้าของ นี่เป็นความรักอันประเสริฐ

เมตตา คือ ความรักโดยไม่ต้องนึกและพูดว่า "ฉันรักเธอ" เพราะรู้ดีว่า
ที่ว่า ฉันนั้นเป็นเพีงแค่ภาพลวงตา

เมตตา คือ ความรักโดยไม่เลือกเอา และไม่ตัดออกไป
เพราะรู้ดีว่าการกระทำเช่นนั้น หมายถึงทำสิ่งที่ตรงกันข้าม กับ เมตตา
นั่นคือ ความชัง ความเกลียด ความโกรธ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แก้ไขล่าสุดโดย ลุงหมาน เมื่อ 21 ก.ค. 2013, 21:29, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2013, 18:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสมัยนี้ สิ่งหลอกลวงเยอะมากครับ

อย่างกรณีสมีคำ ก็หลอกเอาความเมตตา ของคนเมตตาบริจาคให้ ไปเกือบหมื่นๆล้าน

พอคนรู้เช่นนั้น เขาจะรู้สึกไหมหนอ เพราะความเมตตาเราแท้ๆ จากนั้นความเมตตาก็จะแปรเปลี่ยนไป

อย่างผมเมตตาให้ลุงแก่ๆ เดินมาขอเงิน นึกว่าจะกินข้าว ดันเข้าเซเว่นไปซื้อ เบียร์กระป๋อง มาดื่มเฉยเลย รู้เช่นนั้น ทุกวันนี้เลยเมตตายากขึ้น :b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2013, 20:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5112

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


:b9: :b3: ลุงหมานเวอร์ชั่นหวานๆ :b1: :b16:


สาธุค่ะ ฮานาโกะจังก็พยายามพัฒนาเมตตาเหมือนกัน :b15:

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2013, 20:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5112

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


deecup เขียน:
โลกสมัยนี้ สิ่งหลอกลวงเยอะมากครับ

อย่างกรณีสมีคำ ก็หลอกเอาความเมตตา ของคนเมตตาบริจาคให้ ไปเกือบหมื่นๆล้าน

พอคนรู้เช่นนั้น เขาจะรู้สึกไหมหนอ เพราะความเมตตาเราแท้ๆ จากนั้นความเมตตาก็จะแปรเปลี่ยนไป

อย่างผมเมตตาให้ลุงแก่ๆ เดินมาขอเงิน นึกว่าจะกินข้าว ดันเข้าเซเว่นไปซื้อ เบียร์กระป๋อง มาดื่มเฉยเลย รู้เช่นนั้น ทุกวันนี้เลยเมตตายากขึ้น :b34:



เรื่องของคนอื่นอย่าเอามาทำให้เราพลาดโอกาสในการบำเพ็ญเพียรทางใจของเราเลยเนอะ
เขาทำอะไรนั่นเรื่องของเขา ส่วนเมตตามันเรื่องของเราเนอะ :b15:
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
:b39:

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2013, 21:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว


deecup เขียน:
โลกสมัยนี้ สิ่งหลอกลวงเยอะมากครับ

อย่างกรณีสมีคำ ก็หลอกเอาความเมตตา ของคนเมตตาบริจาคให้ ไปเกือบหมื่นๆล้าน

พอคนรู้เช่นนั้น เขาจะรู้สึกไหมหนอ เพราะความเมตตาเราแท้ๆ จากนั้นความเมตตาก็จะแปรเปลี่ยนไป

อย่างผมเมตตาให้ลุงแก่ๆ เดินมาขอเงิน นึกว่าจะกินข้าว ดันเข้าเซเว่นไปซื้อ เบียร์กระป๋อง มาดื่มเฉยเลย รู้เช่นนั้น ทุกวันนี้เลยเมตตายากขึ้น :b34:


ที่พูดมานั้นมันไม่ใช่เมตตาแท้ มันเป็นเมตตาเทียม

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2013, 21:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว


Hanako เขียน:
:b9: :b3: ลุงหมานเวอร์ชั่นหวานๆ :b1: :b16:


สาธุค่ะ ฮานาโกะจังก็พยายามพัฒนาเมตตาเหมือนกัน :b15:


สาธุครับ...ขอให้ผลจงสำเร็จ โดยเร็วพลัน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2013, 21:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว


เมตตา คือ รักมวลมนุษย์และสัตว์โลก
ไม่ว่าเล็กว่าใหญ่ ไม่ไกลว่าใกล้ ไม่ว่าจะอยู่บนบก หรือในน้ำ
หรือ บินอยู่ในอากาศ เมตตาสัตว์โลกย่อมเหมือนกันหมด

ไม่ใช่เมตตาเฉพาะที่มีประโยชน์แก่เรา เฉพาะที่มาทำให้เราพึงพอใจ
หรือเฉพาะที่ทำให้เราครื้นเครงเท่านั้น เมตตา ไม่ว่าผู้ดีหรือไพร่ คนดีหรือคนชั่ว
รักคนดีหรือผู้ดี ก็เพราะความรักหลั่งไหลไปถึงเองอยู่แล้ว
ไพร่หรือคนชั่วเขาเหล่านี้ เป็นผู้ที่ขาดความรักมากที่สุด

หลายๆคนในจำนวนนี้ เชื้อพันธุ์แห่งความดีของเขาอาจจะฝ่อไป
เพียงเพราะเขาขาดแคลนความอบอุ่นที่จำเป็น แก่ความเจริญงอกงามของความดี
และความเมตตาเหล่านั้น เพราะว่าความดีมันตาย เนื่องจากความเย็น และร้อนแห่งโลก
ที่ปราศจากความเมตตา :b8: :b8: :b8:

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ค. 2013, 04:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว


อานิสงส์ของการเจริญเมตตา ๑๑ ประการ
(อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เมตตาสูตร)

๑. หลับเป็นสุข คือ หลับสบาย หลับสนิท
๒. ตื่นเป็นสุข คือ เมื่อตื่นขึ้นมาก็สบายตัว สบายใจ หายอ่อนเพลีย ไม่มีอาการง่วงติดต่ออีก
๓. ไม่ฝันร้าย คือ จะไม่ฝันเห็นสิ่งเลวร้ายทำให้สะดุ้งตื่นกลางคัน หรือไม่ฝันหวาดเสียวต่าง ๆ
๔. เป็นที่รักของคนทั่วไป คือ จะเป็นคนมีเสน่ห์ ไปที่ใดก็ปราศจากศรัตรูผู้คิดร้าย
แม้ผู้ไม่ชอบใจก็จะกลับมาชอบได้
๕. เป็นที่รักของอมนุษย์ทั่วไป คือ แม้สัตว์ต่าง ๆ ก็รักผู้แผ่เมตตา ไม่ขบกัด ไม่ทำร้าย
ทำให้ปลอดภัยจากเขี้ยวงาทุกชนิด
๖. เทวดารักษาคุ้มครอง คือ จะเดินทางไปไหนมาไหนเทวดาจะคุ้มครองให้ความปลอดภัยตลอดเวลา จะไม่ประสบอุปัทวภัยต่าง ๆ ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ
๗.ไฟ ศาสตรา ยาพิษ ไม่แผ้วพาน คือ สิ่งเหล่านี้จะทำอันตรายมิได้ จะปลอดภัยจากสิ่งเหล่านี้
๘. จิตเป็นสมาธิเร็ว คือ ผู้แผ่เมตตาเป็นประจำ ถ้าทำสมาธิ จิตจะสงบนิ่งได้เร็ว หรือจะอ่านหนังสือ จะทำงานอันใดก็ตาม จิตจะไม่ฟุ้งซ่าน ย่อมตั้งใจได้เร็ว ทำงานนั้นสำเร็จสมประสงค์
๙. หน้าตาผิวพรรณจะผ่องใส คือ ผู้มีเมตตาจิตเป็นประจำ หน้าตาและผิวพรรณจะมีน้ำมีนวล
มีเสน่ห์เรียก ความสนใจได้ จะดูอิ่มเอิบตลอดเวลา แม้จะมีอายุมาก แม้รูปร่างจะไม่สวยงาม แม้จะไม่ได้
รับการแต่งเติมด้วย เครื่องสำอางใด ๆ หน้าตาผิวพรรณก็ผ่องใสน่าดูน่าชมได้เสมอ
๑๐. ไม่หลงเวลาตาย คือ เวลาใกล้ตาย จะไม่หลงเพ้อ ละเมอ หรือโวยวายอย่างนั้นอย่างนี้
หรือไม่ดิ้นทุรนทุรายเป็นที่น่าเวทนาของผู้พบเห็น จะสิ้นใจอย่างสงบเหมือนนอนหลับไป ฉะนั้น
๑๑.เมื่อไม่อาจบรรลุธรรมชั้นสูง ย่อมเข้าถึงพรหมโลก คือ ผู้มีเมตตาจิตเป็นประจำ
แม้ไม่ได้บรรลุธรรมชั้นสูงขึ้นไปกว่านี้ ก็ย่อมจะไปบังเกิดในพรหมโลกอันเป็นที่เกิดของผู้ได้ฌาน

เพราะฉะนั้น ผู้ประสงค์เป็นที่รักเป็นที่นับถือของผู้อื่น
หรือหวังความสุขความสงบความเยือกเย็นแห่งจิตใจ จึงควรได้แผ่เมตตากันดูเถิด
สร้างเมตตาธรรมไว้ในใจดีกว่าจะมานั่งเดือดร้อนใจด้วยไฟโกรธไฟริษยาอาฆาต
และดีกว่าจะมาเสียเวลาหานะหาเมตตามหานิยม นะหน้าทอง เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้แก่ตัวเอง
เพราะวิธีปลูกต้นเมตตานี้ ไม่ทำให้หนักตัวเพราะพกพาไป ไม่ต้องกลัวหาย
และไม่ต้องกลัวถูกลักขโมย เพราะมีติดตัวติตใจประจำอยู่ตลอดเวลา.

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2013, 23:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


:b20: ความรักความเมตตา รักแท้และรักเก๊ :b20:



งานบรรยายชุด ทำงานด้วยความรู้ ควบคู่ด้วยความรัก
โดย พลอากาศตรี นายแพทย์ บุญเลิศ จุลเกียรติ
บรรยายที่ มหาวิทยาลัย ราชภัฏจันทร์เกษม กรุงเทพมหานคร
วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓



:b44: ♡✿(◕‿◕)✿♡ กราบอนุโมทนาบุญกับกัลยาณมิตรและกัลยาณธรรมทุกท่าน ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ธรรมรักษา เทวดาคุ้มครองนะเจ้าค่ะ ♡✿(◕‿◕)✿♡ :b8: :b8: :b8: :b20:

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ค. 2013, 10:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
ในปัจจุบันถึงแม้โลกเราจะมากไปด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวก แต่มนุษย์ส่วนใหญ่ต้องทนทุกข์มากขึ้น
กว่าในอดีตมาก ไม่ว่าจะเป็นในด้านทำมาหากิน ด้านชีวิตและสังคม
ทั้งนี้ก็เนื่องจากระบบต่างๆ ในระบบทางโลกดูเหมือนจะเร่งเร้าบีบคั้นเอาสิ่งต่างๆ
จากมนุษย์ส่วนใหญ่ไปไว้รวมกันแล้วก็จัดสรรอย่างไม่ยุติธรรม

เห็นได้จากความแตกต่างระหว่างรายได้ของคนรวย และคนจนซึ่งมีมากกว่าในอดีต
ท่ามกลางกระแสโลกเหล่านี้ สิ่งที่เหือดแห้งหายไปจากจิตใจของผู้คน คือ ความเมตตา
หรือความรักอันเกิดจากดวงใจที่บริสุทธิ์ ที่มีความปรารถนาดีต่อกันโดยไม่หวังผลประโยชน์ใดๆ
จากกัน เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งกว่าทรัพย์สมบัติใดๆ เมตตาจึงเป็นสมบัติทางใจ
ที่ต้องเร่งเร้าให้เกิดขึ้นมีในจิตใจของมวลมนุษย์ชาติโดยรีบด่วน
เพื่อบรรเทาทุกข์อันเกิดจากความบีบคั้นจากการดำเนินชีวิตที่แห้งแล้งทางจิตใจ

กิเลส..มันติดเชื้อและลุกลามได้เร็ว...เพราะมันมีเชื้อเก่าอยู่ก่อนแล้ว..
ยิ่งมีสือกลาง....อย่างดาวเทียม..เครื่องบิน...อินทอร์เน็ต...ตลาดหุ้น...วิชาการตลาด...วิชานิเทศน์ศาสตร์
แขนขาของมารก็ใหญ่โต...แข็งแรง...เยื้อแย่งกอบโกยทรัพยากรได้มากขึ้น....โกยได้ไกลขึ้น...โกยมากองใว้ที่ตน...มากเกินกิน...กินจนตาย
ก็กินไม่หมด.....แต่ก็พอใจเก้บกองใว้อย่างนั่นแหละ...มองคนอื่นหิวโหยอย่างไม่หยีหระ
แถม..ดูแคลนผู้อื่นว่า...ช่วยไม่ได้อยากไม่เก่งเอง....แล้วมันก็แต่งหนังสือแต่งตำราขายให้กับพวกที่หิว
ก็พวกนี้แหละ...จะได้เข้ามาสู่กระบวนการกอบโกยของตนอีกชั้นหนึ่ง...เพราะถ้าไม่มีคนหิว...คนพวกนี้ก็ไม่รู้จะไปกอบโกยได้จากคนที่ไหน

เศรษฐกิจพอเพียง....พวกนี้จึงรับไม่ได้...เพราะจะขาดคนใหม่ๆ เข้ามาอยู่ในกระบวนการกอบโกย


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร