วันเวลาปัจจุบัน 10 มิ.ย. 2025, 18:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 92 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2013, 22:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ทีนี้คุณโกวิท...เห็นหรือรู้จักตัวอัตตาที่ไม่มีอยู่จริงในธรรมแต่มีอยู่จริงในจิตปุถุชนทุกคนหรือยังล่ะครับ?

ตัวกู คือ มานะ และทิฏฐิ
ของกู คือ ตัณหา

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2013, 01:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 01:57
โพสต์: 324

แนวปฏิบัติ: อริยสัจ4
อายุ: 27
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว


ความเชื่อที่ว่า "สามารถทำให้ทุกคนเชื่อตามที่เราเชื่อ รู้ตามที่เรารู้ คิดตามที่เราคิด" ก็เป็นอัตตารูปแบบหนึ่ง เกิดจากความยึดมั่นในความรู้ที่ตัวเองมี

ความเชื่อแบบนี้ ขัดต่อเหตุผล เพราะมุ่งใช้ตัวเองเป็นเกณฑ์ ย่อมขัดต่อความเป็นจริงที่ว่า สิ่งต่างๆล้วนไม่เป็นไปตามใจ แต่เป็นไปตามเหตุปัจจัย

ความเชื่อแบบนี้ นำไปสู่ความทุกข์ เพราะเป็นสาเหตุแห่งความขัดใจ ทะเลาะเบาะแว้งยืดยาวเมื่อมีคนแย้ง เป็นสาเหตุแห่งความพอใจเมื่อมีคนชื่นชม เป็นสาเหตุแห่งความเปรียบเทียบ ความขาดสมดุล

ใจจะไม่มีความสุขสงบเลย จะต้องทนทำตามแรงขับให้มุ่งแต่จะแก้สิ่งต่างๆ แก้คนโน้นคนนี้ เรื่องโน้นเรื่องนี้ให้เป็นไปตามใจตนอยู่เสมอๆ

ถ้ารู้ชัดแล้วในอนัตตา ทำไมใจยังพยายามแก้อนัตตาให้กลายเป็นอัตตาอยู่เล่า?

ความรู้ใด ถ้ารู้แล้วไม่ทำให้ชีวิตพอดีขึ้น ไม่ทำให้ทุกข์น้อยลง ความรู้นั้นยังไม่เต็มรอบ ยังไม่สมบูรณ์

แต่เมื่อใดบุคคลรู้ถึงความพร่อง ทางในขั้นต่อไปก็จะเปิดขึ้น

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง การฝืนความจริงทำให้เกิดทุกข์ การเห็นและยอมตามความจริงทำให้หายทุกข์

คนที่รู้ธรรมะ มักจะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนเข้าใจธรรมะ มักจะเอาชนะใจตนเอง

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด

.....ติลักขณาทิคาถา.....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2013, 13:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


Quote Tipitaka:
อัตตานุทิฏฐิ ความตามเห็นว่ามีอัตตาตัวตน เป็นไฉน
ปุถุชนในโลกนี้ ผู้ไร้การศึกษา ไม่ได้เห็นพระอริยะเจ้า ไม่ฉลาดใน
ธรรมของพระอริยะเจ้า ไม่ได้รับการแนะนำในธรรมของพระอริยะเจ้า ไม่ได้เห็น
สัปบุรุษ ไม่ฉลาดในธรรมของสัปบุรุษ ไม่ได้รับการแนะนำในธรรมของสัปบุรุษ
ย่อมเห็นรูปเป็นตน หรือเห็นตนมีรูป เห็นรูปในตน เห็นตนในรูป ย่อมเห็น
เวทนาเป็นตน ฯลฯ ย่อมเห็นสัญญาเป็นตน ฯลฯ ย่อมเห็นสังขารเป็นตน ฯลฯ
ย่อมเห็นวิญญาณเป็นตน หรือเห็นตนมีวิญญาณ เห็นวิญญาณในตน เห็นตนใน
วิญญาณ ทิฏฐิ ความเห็นไปข้างทิฏฐิ ฯลฯ การถือเอาโดยวิปลาส อันใด มี
ลักษณะเช่นว่านี้ นี้เรียกว่า อัตตานุทิฏฐิ ความตามเห็นว่ามีอัตตาตัวตน

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2013, 11:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
อนัตตา ไม่ใช่ องค์ธรรมครับ คุณอโศกะ

องค์ธรรม มีแต่ สังขาร กับวิสังขาร ..................... เท่านั้นครับ

อนัตตา แค่เป็นคำที่บ่งชี้ลักษณะ เท่านั้นครับ

รูป มี
เวทนา มี
สัญญา มี
สังขาร มี
วิญญาณ มี
นิพพาน มี

ที่เหลือ นอกจากนี้ มิได้มีอยู่จริงๆ .......... เป็นแต่เพียงสมมุติบัญญัติ เรียกชื่อ พอได้สื่อสารกันเท่านั้น

:b16: :b16: :b16:

อนัตตา ไม่ได้มีอยู่ตามความเห็นทางสมมุติบัญญัติ ของคุณโกวิท

แต่อนัตตาเป็นสภาวธรรมที่มีอยู่จริงในทุกหนทุกแห่ง...ดังคำสรุปของพระบรมศาสดาว่า

"สัพเพ ธัมมา อนัตตา".......ไม่เคยได้ยินพุทธวัจจนะว่า...."สัพเพธัมมา สังขารา วิสังขารา"

จึงทำให้สงสัยว่า.....บัญญัติจะท่ีวมท้นหัว...ใจหรือสมองของคุณโกวิทหรือเปล่า จึงไม่เห็น

ความสำคัญของ..."อนัตตา"....อยู่ในสายตา....ทั้งๆที่ อนัตตา นี่แหละคือสุดยอดแห่งธรรมและคำบริกรรม

:b4: :b11:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2013, 13:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนัตตา เป็นส่วนหนึ่ง อยู่ใน รูป 28 หรือ
อนัตตา เป็นส่วนหนึ่ง ในเวทนาทั้ง 5 หรือ
อนัตตา เป็นส่วนหนึ่ง ในสัญญาทั้งหลายหรือ
อนัตตา เป็นส่วนหนึ่ง ในสังขารทั้ง 50 หรือ
อนัตตา เป็นนิพพาน หรือ

ในเมื่อไม่ใช่ แล้ว อนัตตาจะเป็นองค์ธรรม ได้อย่างไร

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2013, 13:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปเป็นอนัตตา
เวทนาเป็นอนัตตา
สัญญาเป็นอนัตตา
สังขารเป็นอนัตตา
วิญญาณเป็นอนัตตา
ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา


อนัตตาจึงเป็นองค์ธรรมหมายถึงขันธ์ห้าได้มั้ย ........ ??????


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2013, 15:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

อนัตตา ไม่ได้มีอยู่ตามความเห็นทางสมมุติบัญญัติ ของคุณโกวิท

แต่อนัตตาเป็นสภาวธรรมที่มีอยู่จริงในทุกหนทุกแห่ง...ดังคำสรุปของพระบรมศาสดาว่า

"สัพเพ ธัมมา อนัตตา".......ไม่เคยได้ยินพุทธวัจจนะว่า...."สัพเพธัมมา สังขารา วิสังขารา"

จึงทำให้สงสัยว่า.....บัญญัติจะท่ีวมท้นหัว...ใจหรือสมองของคุณโกวิทหรือเปล่า จึงไม่เห็น

ความสำคัญของ..."อนัตตา"....อยู่ในสายตา....ทั้งๆที่ อนัตตา นี่แหละคือสุดยอดแห่งธรรมและคำบริกรรม

:b4: :b11:


คุยอะไรกันเนี้ย..อิอิ

สัพเพ..ธัมมา...อนัตตา...
ธรรมทั้งหลายมีสภาพอนัตตา...

ถ้า..ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา
หมู..เป็น..อนัตตา
ไก่..เป็น..อนัตตา
หมู...ก็ต้องเป็น...ไก่....ไปแล้ว

:b32: :b32: :b32:

เขาแปลว่าเป็นอนัตตา...คือ...เขาไม่คิดว่าใครจะเอา...นาม..กับ...คำขยายนาม...มาปนกัน.คือโบราณาจารย์..คิดไม่ถึง่าลูกหลานท่านจะเป็นได้...อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2013, 23:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b10:
[quote]คุยอะไรกันเนี้ย..อิอิ

สัพเพ..ธัมมา...อนัตตา...
ธรรมทั้งหลายมีสภาพอนัตตา...

ถ้า..ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา
หมู..เป็น..อนัตตา
ไก่..เป็น..อนัตตา
หมู...ก็ต้องเป็น...ไก่....ไปแล้ว[/quote]

:b10:
น่าแปลกที่คนอย่างคุณกบคิดว่าหมูเป็นไก่เพราะทั้ง 2 อย่างเป็นอนัตตา

1,500 - 1500 = 0

1-1 = 0

ถ้าอย่างงั้น 1,500 ก็เท่ากับ 1........นะซิ

คิดได้ยังไงคุณกบ?

คุณกบเข้าใจความหมายของคำว่าอนัตตาว่าอย่างไร?......เข้าใจความหมาายของอนัตตา ผิดไปหรือเปล่าครับ?

:b10: :b10: :b10: :b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2013, 23:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ในบ้าน เลี้ยงสัตว์ เอาไว้ 4 ชนิด คือ หมู หมา แมว ม้า
หมู เป็น สัตว์ 4 ขา
หมา เป็น สัตว์ 4 ขา
แมว เป็นสัตว์ 4 ขา
ม้า เป็นสัตว์ 4 ขา

ไปๆ มาๆ อย่าให้กลายเป็นว่า ในบ้านมีสัตว์ เพิ่มขึ้นมาอีก 1 คือ สัตว์4ขา

อย่าสรุปว่า

ในบ้าน เลี้ยงสัตว์เอาไว้ 5 ชนิด คือ หมู หมา แมว ม้า และ สัตว์4ขา

คุณอโสกะ คงไม่สรุปอย่างที่ว่านะ .................... ไม่งั้น :b12: :b12: :b12:

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 01:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b10:

:b10:
น่าแปลกที่คนอย่างคุณกบคิดว่าหมูเป็นไก่เพราะทั้ง 2 อย่างเป็นอนัตตา

1,500 - 1500 = 0

1-1 = 0

ถ้าอย่างงั้น 1,500 ก็เท่ากับ 1........นะซิ

คิดได้ยังไงคุณกบ?

คุณกบเข้าใจความหมายของคำว่าอนัตตาว่าอย่างไร?......เข้าใจความหมาายของอนัตตา ผิดไปหรือเปล่าครับ?

:b10: :b10: :b10: :b10:


ผมนะ...ไม่ได้คิด...คนที่คิดใกล้เคียงกันนี้..น่าจะเป็นอโสกะ.มากกว่า..อิอิ

อโสกะเอา..ธรรม...และ..อนัตตา...เป็นอันเดียวกัน..นะซิ...ถึงได้มีปัญหาอยู่นี้

"ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา"...ธรรมเป็นคำนาม....อนัตตาเป็นคำคุณศัพย์ขยายนาม...บอกคุณลักษณะของนาม
(เอ๋...หลักภาษาไทยผมถูกเป้านี้..อิอิ)
แปลเป็นไทยอีกที..ก็คือ...ธรรมทั้งหลายมีสภาพอนัตตา

ทีนี้..จะเอา..อนัตตา..ไปเป็นธรรม....อีกมั้ย?...อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 23:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
ในบ้าน เลี้ยงสัตว์ เอาไว้ 4 ชนิด คือ หมู หมา แมว ม้า
หมู เป็น สัตว์ 4 ขา
หมา เป็น สัตว์ 4 ขา
แมว เป็นสัตว์ 4 ขา
ม้า เป็นสัตว์ 4 ขา

ไปๆ มาๆ อย่าให้กลายเป็นว่า ในบ้านมีสัตว์ เพิ่มขึ้นมาอีก 1 คือ สัตว์4ขา

อย่าสรุปว่า

ในบ้าน เลี้ยงสัตว์เอาไว้ 5 ชนิด คือ หมู หมา แมว ม้า และ สัตว์4ขา

คุณอโสกะ คงไม่สรุปอย่างที่ว่านะ .................... ไม่งั้น :b12: :b12: :b12:

:b12: :b12: :b12: :b12:
เป็นคำสรุปของคุณกบครับ ผมอ่านดูแล้วมันทะแม่งๆ เลยยกเลขลบเปรียบเทียบกับความคิดของคุณกบให้พิจารณากันครับ

อ้างคำพูด:
คุยอะไรกันเนี้ย..อิอิ

สัพเพ..ธัมมา...อนัตตา...
ธรรมทั้งหลายมีสภาพอนัตตา...

ถ้า..ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา
หมู..เป็น..อนัตตา
ไก่..เป็น..อนัตตา
หมู...ก็ต้องเป็น...ไก่....ไปแล้ว

:b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 23:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s006
อ้างคำพูด:
ผมนะ...ไม่ได้คิด...คนที่คิดใกล้เคียงกันนี้..น่าจะเป็นอโสกะ.มากกว่า..อิอิ

อโสกะเอา..ธรรม...และ..อนัตตา...เป็นอันเดียวกัน..นะซิ...ถึงได้มีปัญหาอยู่นี้

"ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา"...ธรรมเป็นคำนาม....อนัตตาเป็นคำคุณศัพย์ขยายนาม...บอกคุณลักษณะของนาม
(เอ๋...หลักภาษาไทยผมถูกเป้านี้..อิอิ)
แปลเป็นไทยอีกที..ก็คือ...ธรรมทั้งหลายมีสภาพอนัตตา

ทีนี้..จะเอา..อนัตตา..ไปเป็นธรรม....อีกมั้ย?...อิอิ


:b12: :b12: :b12:
อ้างคำพูด:
อ้างคำพูด:
คุยอะไรกันเนี้ย..อิอิ

สัพเพ..ธัมมา...อนัตตา...
ธรรมทั้งหลายมีสภาพอนัตตา...

ถ้า..ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา
หมู..เป็น..อนัตตา
ไก่..เป็น..อนัตตา
หมู...ก็ต้องเป็น...ไก่....ไปแล้ว


ที่อ้างอิงมานี้ใช่ความคิดของคุณกบหรือเปล่าครับ?

s006 s006 :b10: :b10:

ธรรม...น่าจะเป็น ลักษณะนาม......อนัตตา...ก็น่าจะเป็นลักษณะนาม ไม่ใช่คุณศัพท์ขยายคำว่าธรรมกระมังครับ

อนัตตา....เป็นธรรมสภาวะ...เกิดขึ้นได้เมื่อจิตหมดความเห็นผิด หมดความยึดผิด...สัมผัสได้ด้วยมโนวิญญาณธาตุ .ทำไมจึงมีหลายๆคนพยายามบอกว่า อนัตตา ไม่ใช่ธรรม....

สงสัยไปติดกันอยู่ที่คำว่าปรมัตถธรรม ที่ว่ามี เพียง 4 อย่าง คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน หรือเปล่า
เพราะไม่มีชื่อว่า อนัตตา อยู่ในนั้นด้วย
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2013, 23:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุยอะไรกันเนี้ย..อิอิ

สัพเพ..ธัมมา...อนัตตา...
ธรรมทั้งหลายมีสภาพอนัตตา...

ถ้า.. ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา
หมู..เป็น..อนัตตา
ไก่..เป็น..อนัตตา
หมู...ก็ต้องเป็น...ไก่.. ..ไปแล้ว


เป็นการเปรียบเทียบ..เชิงแดกดันนะอโศกะ...ยังไม่เห็นอีกรึ?
:b32: :b32:


asoka เขียน:
ธรรม...น่าจะเป็น ลักษณะนาม......อนัตตา...ก็น่าจะเป็นลักษณะนาม ไม่ใช่คุณศัพท์ขยายคำว่าธรรมกระมังครับ

นี้มันหลักภาษาอะไร...คุณอโศกะ.. :b13:
"ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา"
ธรรม..เป็นลักษณะนาม
อนัตตา...ก็เป็นลักษณะนาม

แล้วอะไรเป็นคำนาม..ของประโยคนี้ละคุณ..โอ้ยปวดเฮด
:b6: :b6:


[color


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2013, 00:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
s006

อนัตตา....เป็นธรรมสภาวะ...เกิดขึ้นได้เมื่อจิตหมดความเห็นผิด หมดความยึดผิด...สัมผัสได้ด้วยมโนวิญญาณธาตุ .ทำไมจึงมีหลายๆคนพยายามบอกว่า อนัตตา ไม่ใช่ธรรม....

สงสัยไปติดกันอยู่ที่คำว่าปรมัตถธรรม ที่ว่ามี เพียง 4 อย่าง คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน หรือเปล่า
เพราะไม่มีชื่อว่า อนัตตา อยู่ในนั้นด้วย
onion onion onion


ถ้ามันเป้น...ธรรม....แล้วตัวอนัตตา..มันอนัตตาไปด้วยมั้ย?

ถ้ามันเองก็อนัตตาไปด้วย....ผมถึงจะเชื่อว่า...มันก็จัดอยู่ใน...สัพเพ..ธัมมา...ด้วย

อย่าลืมนะ...สัพเพ...ธัมมา....อนัตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2013, 00:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
s006

อนัตตา....เป็นธรรมสภาวะ...เกิดขึ้นได้เมื่อจิตหมดความเห็นผิด หมดความยึดผิด...สัมผัสได้ด้วยมโนวิญญาณธาตุ .ทำไมจึงมีหลายๆคนพยายามบอกว่า อนัตตา ไม่ใช่ธรรม....

สงสัยไปติดกันอยู่ที่คำว่าปรมัตถธรรม ที่ว่ามี เพียง 4 อย่าง คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน หรือเปล่า
เพราะไม่มีชื่อว่า อนัตตา อยู่ในนั้นด้วย
onion onion onion


ถ้ามันเป้น...ธรรม....แล้วตัวอนัตตา..มันอนัตตาไปด้วยมั้ย?

ถ้ามันเองก็อนัตตาไปด้วย....ผมถึงจะเชื่อว่า...มันก็จัดอยู่ใน...สัพเพ..ธัมมา...ด้วย

อย่าลืมนะ...สัพเพ...ธัมมา....อนัตตา

:b12: :b12: :b12:
อนัตตา....เมื่อใหม่ๆ และสำหรับผู้ฝึกใหม่ ให้แปลว่า "บังคับบัญชาไม่ได้" จะทำให้ง่ายในการพิสูจน์และเข้าใจ

เมื่อได้รู้หรือเห็น ความเป็น ทุกขัง...ทนอยู่ไม่ได้ ...จึงต้อง อนิจจัง...เปลี่ยนแปลง.....

ทั้งอนิจจังและทุกขังต่างก็เป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ย่อมปรวนแปรไปตามอำนาจแห่งเหตุและปัจจัยชั่วนิจนิรันดร์

:b36: :b37: :b38: :b48: :b48: :b48:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 92 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร