วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 02:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2013, 20:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2013, 13:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes
:b12:
...ในการอบรมเจริญปัญญาทางธรรมเป็นวิชาที่ต้องศึกษาเรียนรู้และนำมาปฏิบัติให้เกิดผลกับตนเอง...
...ข้าพเจ้าว่าต้องฝึกสมาธิแบบนั่งหลับตาด้วยค่ะ...เพราะการเห็นที่ผิดจากพระธรรมคือโรคจิตวิปลาศ...
...รากฐานที่ใหญ่และทำให้มนุษย์ทุกคนหลงสมมุติในโลกที่เป็นไปตามกิเลสก็คือการเห็นรูปทางตา...
...การทำความเข้าใจว่าทำไมพระพุทธเจ้าบอกว่ามนุษย์ทุกคนป่วยทางจิตเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรีบแก้ไข...
:b20: :b8:
:b48: :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2013, 21:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


s002
...การปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า...
...ทรงตรัสเรื่องของวิธีปฏิบัติในเรื่องที่ควรสงสัยก่อนละหรือปฏิบัติตามของกาลามชน...
...ว่าอย่าปลงใจเชื่อเพราะ 1.การฟังตามๆกันมา 2.การถือสืบๆกันมา 3. การเล่าลือ...
...4.การอ้างตำราหรือคัมภีร์ 5.ตรรก 6.การอนุมาน 7.การคิดตรองตามเหตุผล...
...8.เข้ากันได้กับทฤษฎี 9.เห็นรูปการณ์ว่าน่าเป็นไปได้ 10. นับถือว่าท่านสมณะเป็นครูของเรา...
:b12:
...ถ้าท่านไม่เคยฝึกสมาธิเลยจะถอดจิตเข้าสู่นิพพานได้ยังไงล่ะท่าน...
...ในเมื่อการเข้าสู่นิพพานจะต้องเคลื่อนจิตเข้าไปสู่ฌาน4จึงดับขันธ์...
:b22: :b23:
:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2013, 21:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 พ.ค. 2004, 12:30
โพสต์: 147


 ข้อมูลส่วนตัว www


มรรคแปด เป็น ทางสายกลาง .. ขาดไม่ครบ ก็บรรลุ ไม่ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2013, 10:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


อาจจะแทงใจดำสักหน่อยนะ

ในเมื่อบรรดาผู้ที่ถูกยกย่องว่า เข้าถึงธรรมชั้นสูง ยังสงสัย และไม่เข้าใจใน วิปัสสนาฌาน

มันจึงอนุมานได้ว่า บรรดาเกจิอาจารย์เหล่านั้น ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จัก ในวิปัสสนาฌาน
และเมื่อไม่รู้จักวิปัสสนาฌาน ก็ย่อมไม่รู้จักสังขารุเปกขาญาน

เมื่อไม่รู้จักสังขารุเปกขาญาน จึงย่อมอนุมานได้ในท้ายที่สุดว่า...

ไม่มีอริยบุคคลในยุคปัจจุบัน ไม่มีผู้ใดบรรลุธรรมในยุคปัจจุบัน

หรืออีกคำหนึ่ง... ศาสนาพุทธได้หักลงในกึ่งพุทธกาล ไม่มีพระสงฆ์เหลืออยู่ในกึ่งพุทธกาล... อาเมน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2013, 22:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
อาจจะแทงใจดำสักหน่อยนะ

ในเมื่อบรรดาผู้ที่ถูกยกย่องว่า เข้าถึงธรรมชั้นสูง ยังสงสัย และไม่เข้าใจใน วิปัสสนาฌาน

มันจึงอนุมานได้ว่า บรรดาเกจิอาจารย์เหล่านั้น ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จัก ในวิปัสสนาฌาน
และเมื่อไม่รู้จักวิปัสสนาฌาน ก็ย่อมไม่รู้จักสังขารุเปกขาญาน

เมื่อไม่รู้จักสังขารุเปกขาญาน จึงย่อมอนุมานได้ในท้ายที่สุดว่า...

ไม่มีอริยบุคคลในยุคปัจจุบัน ไม่มีผู้ใดบรรลุธรรมในยุคปัจจุบัน

หรืออีกคำหนึ่ง... ศาสนาพุทธได้หักลงในกึ่งพุทธกาล ไม่มีพระสงฆ์เหลืออยู่ในกึ่งพุทธกาล... อาเมน

:b10:
ด่วนตัดสินเกินไปหรือเปล่าครับ คุณ Murano
:b24:
แล้ว...วิปัสสนาฌาณ นั้น ไม่เคยเห็นใครพูดถึง คงมีแต่ วิปัสสนาญาณ...อันมีอยู่ 16 ขั้นตอน ตามวิสุทธิมรรค หรือ 9 - 10 ขั้นตอน ในไตรปิฎก
onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2013, 23:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
...การปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า...
...ทรงตรัสเรื่องของวิธีปฏิบัติในเรื่องที่ควรสงสัยก่อนละหรือปฏิบัติตามของกาลามชน...
...ว่าอย่าปลงใจเชื่อเพราะ 1.การฟังตามๆกันมา 2.การถือสืบๆกันมา 3. การเล่าลือ...
...4.การอ้างตำราหรือคัมภีร์ 5.ตรรก 6.การอนุมาน 7.การคิดตรองตามเหตุผล...
...8.เข้ากันได้กับทฤษฎี 9.เห็นรูปการณ์ว่าน่าเป็นไปได้ 10. นับถือว่าท่านสมณะเป็นครูของเรา...
:b12:
...ถ้าท่านไม่เคยฝึกสมาธิเลยจะถอดจิตเข้าสู่นิพพานได้ยังไงล่ะท่าน...
...ในเมื่อการเข้าสู่นิพพานจะต้องเคลื่อนจิตเข้าไปสู่ฌาน4จึงดับขันธ์...
:b22: :b23:
:b13:

:b10: smiley :b10: :b12:

จะถอดจิตเข้าสู่นิพพานได้ยังไงล่ะท่าน

:b10:
ประโยคนี้ดูแปลกๆยังไงๆอยู่นะครับ คุณRosarin
:b6:
การเข้าถึงนิพพานมิใช่การถอดจิตไปเข้า....แต่เป็นกระบวนการที่เหตุทุกข์อันเกิดจากสังโยชน์ทั้ง 10 ดับขาดไปตามลำดับ...นิโรธ หรือนิพพาน อันเป็น ผลสุข ก็เกิดปรากฏขึ้นในใจของผู้เข้าถึงโดยธรรม
:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2013, 09:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


deecup เขียน:
ไม่ฝึกสมาธิ สามารถบรรลุธรรมได้ไหม คือไม่ฝึกนั่งสมาธิ แต่อาศัยปัญญาแบบสติปัฐฎาน4
ไม่ต้องฝึกสมาธิมาก่อน ก็บรรลุธรรมได้ ..

สมัยครั้งพุทธกาล ..
ประชาชนทั่วไป เมื่อฟังพระธรรมเทศนาจบ ก็บรรลุธรรมเป็นหมื่นเป็นแสน
ไม่ปรากฎว่าต้องเป็นผู้เคยฝึกสมาธิ หรือรู้จักสติปัฎฐานสี่มาก่อน ..

แต่การบรรลุธรรมนั้น "ต้องตั้งใจฟัง" ตั้งใจคิดพิจารณาตามไป "ความตั้งใจ" นี่แหละ
คือ "สมาธิตั้งใจมั่น" และที่ "ตั้งใจคิดพิจารณา" ก็คือ "การพิจารณาธรรมในธรรม"
หนึ่งใน "สติปัฏฐานสี่" นั่นเอง จึงทำให้สามารถตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทประหารได้ ..


:b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2013, 09:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วิปัสสนาฌาน


"ภิกษุทั้งหลาย ในกรณีนี้ ภิกษุ เพราะสงัดจากกามและสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย
จึงบรรลุปฐมฌาน...ทุติยฌาน...ตติยฌาน...จตุตถฌาน...แล้วแลอยู่

ภิกษุนั้นเข้าไปอาศัยธรรมเป็กำลังของพระเสขะ ๕ ประการเหล่านี้คือ
สัทธาพละ หิริพละ โอตัปปพละ วิริยพละ ปัญญาพละ

แต่อินทรีย์ ๕ ประการเหล่านี้ของเธอนั้นปรากฏว่ามีประมาณยิ่ง
คือสัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์

"เพราะเหตุที่อินทรีย์ทั้งห้าเหล่านี้มีประมาณยิ่ง ภิกษุนั้นจึงบรรลุอนันตริยกิจ เพื่อความสิ้นอาสวะได้เร็ว" ภิกษุทั้งหลายนี้เรียกว่า ปฏิบัติสบาย รู้ได้เร็ว ภิกษุทั้งหลาย เหล่านี้แลปฏิปทาสี่ประการ ...( อํ.จตุกฺก.21/163/210-211อสุภสูตร)


วิปัสสนาญาณ

เป็นสภาวะหรือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติ ในสัมมาสมาธิ

ผู้ที่รู้หรือเห็นแล้ว จึงนำสภาวะที่เกิดขึ้นในสัมมาสมาธิ มาถ่ายทอด เพื่อปฏิบัติให้ตรงกับสภาวะของวิปัสสนา ที่เกิดขึ้นในสัมมาสมาธิ

จึงเป็นที่มาของคำเรียกว่า "วิปปัสสนา" ที่มีปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้


ถ้าอยากฟัง หาหลวงพ่อพุธฟังดู ท่านอธิบายสภาวะต่างๆที่เกิดขึ้นในสัมมาสมาธิได้ละเอียด

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2013, 10:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


อะไรที่ไม่เคยได้ยินหรือเคยได้ฟังมาก่อน ควรจะถามคนที่พูดมา นำมาจากไหน พอจะอธิบายให้ฟังได้ไหม หรือบอกรายละเอียดของสภาวะได้ไหม

ไม่ควรใช้คำพูด ที่มีแต่ก่อวิวาทะให้เกิดขึ้นกับอีกฝ่าย ไม่ควรไปกล่าวโทษอีกฝ่าย ทั้งๆที่ตัวเองไม่เคยได้ยินหรือเคยได้อ่านผ่านตามาก่อน

การไม่รู้ ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เมื่อไม่รู้อะไร ควรสอบถามกับอีกฝ่าย ไม่ใช่ไปกล่าวโทษกัน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2013, 11:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


grin ก็ยอมรับว่า อาจเป็นการด่วนสรุปไปหน่อย...

มันเป็นการไล่อนุมานไปเรื่อยๆ น่ะ
เกจิอาจารย์ หรือพวกพราหมณ์ ที่เข้าถึงตาที่สาม รู้กระบวนการของจักระในร่างมนุษย์ รู้กลไกบางส่วนของระบบประสาท, กลุ่มคนเหล่านี้ มีอยู่จริง

กลุ่มคนเหล่านี้ ชอบทดสอบคนอื่นๆ โดยมีลักษณะของการ ลองวิชา
กลุ่มคนเหล่านี้ สืบทอดวิชากันมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไม่เปิดเผย
ก็จะมีแค่ช่วงไม่กี่ปีนี้กระมัง ที่แสดงวิชากันอย่างเอิกเกริก

เพราะการยึดมั่นในความเก่งกาจของตนนี่แหล่ะ ทำให้ใครก็ตามที่ถูกยกย่องว่า มีคุณธรรม จะถูกทดลอง ชี้นำ ชักจูง จนเสื่อมเสียในที่สุด โดยเฉพาะว่า ถ้าคนๆ นั้น ไม่ได้มีวิชาจากการสั่งสอนของพวกตน

ลักษณะของการ ทำให้เหลือแต่พวกตน นี่แหล่ะ ที่ทำให้พวกนี้ ทั้งทดสอบ ทดลอง ไปจนถึงทำร้าย กับทุกคนที่มีแนวโน้มจะก้าวขึ้นมา

ดังนั้น เมื่อเกิดอุบัติของคนผู้หนึ่ง ที่ทำให้คนพวกนี้ งุนงงในลักษณะของฌานแบบหนึ่ง ที่ไม่ใช่สมถะฌาน. งุนงงกับสภาวะสมาธิ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน. งุนงงกับมโนมยิทธิ ที่ตนไม่เคยเห็น ฯลฯ

มันจึงอนุมานได้ว่า สิ่งประหลาดๆ เหล่านี้ ได้สูญไปจากแผ่นดินนี้ อย่างน้อยก็ห้าสิบปี จนหาคนที่เคยรู้จักและพบเห็น ไม่ได้

ให้บังเอิญว่า สิ่งประหลาดๆ เหล่านั้น ล้วนเป็นรากฐานในศาสนาพุทธ รวมไปถึงอำนาจพิเศษที่เรียกกันว่า อภิญญา

แต่เอาเป็นว่า เราก็ด่วนสรุปเกินไปก็แล้วกัน grin


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2013, 11:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


กิเลสคน...มันยุ่งไม่รู้จบ....ความจริง...เขาอาจไม่ได้ตั้งใจขนาดจองทำลายพวกที่ไม่ใช่พวกตนเสมอไป...แค่กิเลสมันทำงานเฉพาะหน้า...เฉพาะตัวบุคคล..แค่นั้น...แต่บังเอิญว่า..กิเลสมันทำงานไปในแนวทางเดียวกัน...อย่างไม่ตั้งใจ

ไม่มีแผนการอะไรหรอก...มันเป็นเรื่องปัจจุบัน...ทั้งนั้น..


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 43 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร