วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 15:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 20 ม.ค. 2013, 19:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ธ.ค. 2010, 11:11
โพสต์: 94


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุญาต คือสงสัยครับ ความรัก จัดอยู่ในกิเลสประเภทไหนครับ ในสามตัว โลภ โกรธ หลง

s006

* ตะกี๊โพสผิดที่ * :b3:


โพสต์ เมื่อ: 21 ม.ค. 2013, 00:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ความรัก...หรือ...ความใคร่...??


โพสต์ เมื่อ: 21 ม.ค. 2013, 08:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ให้ทาง เขียน:
ขออนุญาต คือสงสัยครับ ความรัก จัดอยู่ในกิเลสประเภทไหนครับ ในสามตัว โลภ โกรธ หลง


เพื่อให้เห็นแนวทางของการสนทนาได้กว้างขึ้นแล้วจะเห็นธรรมะโล่งไปหมดด้วย จึงขอขยายความหน่อย

ความรัก พูดให้ชัดให้ครบองค์ประกอบของมัน ก็คือว่า ต้องมีทั้ง "ผู้รัก" กับ "สิ่ง/ผู้ที่ถูกรัก" ตัวอย่าง เช่น ฉันรักเธอ :b20: มีฉัน กับ มีเธอ (เลียนหลักปฏิบัติธรรม ต้องประกอบด้วย ผู้รู้ กับ สิ่งที่ถูกรู้/ผู้ทำ กับ สิ่งที่ถูกทำ) ถ้าเป็นวัตถุสิ่งของ ก็มีผู้รัก กับ สิ่งที่ถูกรัก เช่น ฉันรักรถคันนี้มากๆ ฉันชอบบ้านหลังนี้ ฉันรักทีดินแปลงนี้ ฉันรักสุนัขตัวนี้ ฯลฯ

มนุษย์แสวงหาความสุข ถูกไหม และความสุขนั้นก็มีมากกมาย เช่น กามสุข ฌานสุข นิพพานสุข...เอาเฉพาะกามสุขที่มนุษย์ (อย่างเราๆท่านๆ) พอสัมผัสได้ ยังแยกออกได้อีกมาก เช่น เป็นบุคคล เป็นวัตถุสิ่งของต่างๆ...แต่ความรักความสุขที่เกิดจากกามนั้นไม่จิรังเพราะขึ้นอยู่กับสิ่งภายนอก ดังนั้น ความรัก (ความสุข)ที่อาศัยกามเกิด ที่เรียกว่ากามสุขนั้น แปรเปลี่ยนเป็นกามทุกข์ได้ :b32: ยังเป็นอะไรต่ออะไรได้อีกแยอะแยะบานตะเกียง ...ขณะนั้นๆวงจรภายในจิตใจ จะประกอบด้วยกิเลสสามตัวดังว่า ก็เกิด-ดับเกิด-ดับสลับไปมา หนัก-เบาแรงเข้มแล้วแต่เหตุการณ์ (แล้วแต่เหตุปัจจัย) ยังเป็นฉันทะอีกก็ได้ เป็นตัณหาก็ยังได้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 03:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ให้ทาง เขียน:
ขออนุญาต คือสงสัยครับ ความรัก จัดอยู่ในกิเลสประเภทไหนครับ ในสามตัว โลภ โกรธ หลง


เพื่อให้เห็นแนวทางของการสนทนาได้กว้างขึ้นแล้วจะเห็นธรรมะโล่งไปหมดด้วย จึงขอขยายความหน่อย

พี่โฮว่า ก่อนที่จะคุยอะไรให้มันกว้าง แนะนำให้กรัชกาย เข้าวัดไปปล่อยปลาปล่อยเต่า
ช่วยพระหิ้วปื่นโตตอนเช้า ตายไปจะได้ไปสวรรค์
พี่โฮว่ามันเป็นหนทางของกรัชกายน่ะ อย่ามามัวเสียเวลาพูดฟุ้งธรรมเพ้อเจ้ออยู่เลย
เสียเวลาเต่า เสียเวลาปลา พระเณรจะได้ไม่ต้องล้างบาตร ซักจีวรเองด้วย :b32:

กรัชกาย เขียน:
ความรัก พูดให้ชัดให้ครบองค์ประกอบของมัน ก็คือว่า ต้องมีทั้ง "ผู้รัก" กับ "สิ่ง/ผู้ที่ถูกรัก" ตัวอย่าง เช่น ฉันรักเธอ :b20: มีฉัน กับ มีเธอ (เลียนหลักปฏิบัติธรรม ต้องประกอบด้วย ผู้รู้ กับ สิ่งที่ถูกรู้/ผู้ทำ กับ สิ่งที่ถูกทำ) ถ้าเป็นวัตถุสิ่งของ ก็มีผู้รัก กับ สิ่งที่ถูกรัก เช่น ฉันรักรถคันนี้มากๆ ฉันชอบบ้านหลังนี้ ฉันรักทีดินแปลงนี้ ฉันรักสุนัขตัวนี้ ฯลฯ

แบบนี้เรียกว่า.....ชัดแล้วเหรอ :b32:

กรัชกาย เขียน:
มนุษย์แสวงหาความสุข ถูกไหม และความสุขนั้นก็มีมากกมาย เช่น กามสุข ฌานสุข นิพพานสุข...เอาเฉพาะกามสุขที่มนุษย์ (อย่างเราๆท่านๆ) พอสัมผัสได้ ยังแยกออกได้อีกมาก เช่น เป็นบุคคล เป็นวัตถุสิ่งของต่างๆ...แต่ความรักความสุขที่เกิดจากกามนั้นไม่จิรังเพราะขึ้นอยู่กับสิ่งภายนอก ดังนั้น ความรัก (ความสุข)ที่อาศัยกามเกิด ที่เรียกว่ากามสุขนั้น แปรเปลี่ยนเป็นกามทุกข์ได้ :b32: ยังเป็นอะไรต่ออะไรได้อีกแยอะแยะบานตะเกียง ...ขณะนั้นๆวงจรภายในจิตใจ จะประกอบด้วยกิเลสสามตัวดังว่า ก็เกิด-ดับเกิด-ดับสลับไปมา หนัก-เบาแรงเข้มแล้วแต่เหตุการณ์ (แล้วแต่เหตุปัจจัย) ยังเป็นฉันทะอีกก็ได้ เป็นตัณหาก็ยังได้

เลอะเทอะ กามก็กาม สุขก็สุข รักก็รัก เอามาปนกันซะเละ :b9:
วงจรจิต ทำให้เกิดกิเลสสามตัว มั่วจริงๆ กิเลสมันมีสามตัวเองหรือ :b32:
แล้วที่บอกเป็น ฉันทะก็ได้ เป็นตัณหาก็ได้ กรัชกายตลกไม่รู้เดียงสาเอาซะเลย :b13:


โพสต์ เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 05:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ให้ทาง เขียน:
ขออนุญาต คือสงสัยครับ ความรัก จัดอยู่ในกิเลสประเภทไหนครับ ในสามตัว โลภ โกรธ หลง


เพื่อให้เห็นแนวทางของการสนทนาได้กว้างขึ้นแล้วจะเห็นธรรมะโล่งไปหมดด้วย จึงขอขยายความหน่อย

พี่โฮว่า ก่อนที่จะคุยอะไรให้มันกว้าง แนะนำให้กรัชกาย เข้าวัดไปปล่อยปลาปล่อยเต่า
ช่วยพระหิ้วปื่นโตตอนเช้า ตายไปจะได้ไปสวรรค์
พี่โฮว่ามันเป็นหนทางของกรัชกายน่ะ อย่ามามัวเสียเวลาพูดฟุ้งธรรมเพ้อเจ้ออยู่เลย
เสียเวลาเต่า เสียเวลาปลา พระเณรจะได้ไม่ต้องล้างบาตร ซักจีวรเองด้วย :b32:

กรัชกาย เขียน:
ความรัก พูดให้ชัดให้ครบองค์ประกอบของมัน ก็คือว่า ต้องมีทั้ง "ผู้รัก" กับ "สิ่ง/ผู้ที่ถูกรัก" ตัวอย่าง เช่น ฉันรักเธอ :b20: มีฉัน กับ มีเธอ (เลียนหลักปฏิบัติธรรม ต้องประกอบด้วย ผู้รู้ กับ สิ่งที่ถูกรู้/ผู้ทำ กับ สิ่งที่ถูกทำ) ถ้าเป็นวัตถุสิ่งของ ก็มีผู้รัก กับ สิ่งที่ถูกรัก เช่น ฉันรักรถคันนี้มากๆ ฉันชอบบ้านหลังนี้ ฉันรักทีดินแปลงนี้ ฉันรักสุนัขตัวนี้ ฯลฯ

แบบนี้เรียกว่า.....ชัดแล้วเหรอ :b32:

กรัชกาย เขียน:
มนุษย์แสวงหาความสุข ถูกไหม และความสุขนั้นก็มีมากกมาย เช่น กามสุข ฌานสุข นิพพานสุข...เอาเฉพาะกามสุขที่มนุษย์ (อย่างเราๆท่านๆ) พอสัมผัสได้ ยังแยกออกได้อีกมาก เช่น เป็นบุคคล เป็นวัตถุสิ่งของต่างๆ...แต่ความรักความสุขที่เกิดจากกามนั้นไม่จิรังเพราะขึ้นอยู่กับสิ่งภายนอก ดังนั้น ความรัก (ความสุข)ที่อาศัยกามเกิด ที่เรียกว่ากามสุขนั้น แปรเปลี่ยนเป็นกามทุกข์ได้ :b32: ยังเป็นอะไรต่ออะไรได้อีกแยอะแยะบานตะเกียง ...ขณะนั้นๆวงจรภายในจิตใจ จะประกอบด้วยกิเลสสามตัวดังว่า ก็เกิด-ดับเกิด-ดับสลับไปมา หนัก-เบาแรงเข้มแล้วแต่เหตุการณ์ (แล้วแต่เหตุปัจจัย) ยังเป็นฉันทะอีกก็ได้ เป็นตัณหาก็ยังได้

เลอะเทอะ กามก็กาม สุขก็สุข รักก็รัก เอามาปนกันซะเละ :b9:
วงจรจิต ทำให้เกิดกิเลสสามตัว มั่วจริงๆ กิเลสมันมีสามตัวเองหรือ :b32:
แล้วที่บอกเป็น ฉันทะก็ได้ เป็นตัณหาก็ได้ กรัชกายตลกไม่รู้เดียงสาเอาซะเลย :b13:



อ่านความคิดความอ่านของนายโฮเด้งแล้ว นึกถึงคนกลุ่มหนึ่งวิบขึ้นมา ตะแบงแบบเดียวกันเลย เช่น เขาว่าทางซ้าย แกก็ว่าทางขวา เขาว่าทางขวา แกก็ว่าทางซ้าย เขาว่าถอยหลัง แกก็ว่าเดินหน้า อ้าวถ้างั้นเดินหน้า พวกนี้จะว่ายืนเฉยๆ ไม่เดินหน้าไม่ถอยหลัง...หลงชีวิตหลงความคิดหลงจิตใจ ไม่ได้รู้เรื่อง... คงเข้าใจนามธรรมคือจิตใจนี่เป็นวัตถุสิ่งของ เป็นดังตู้เสื้อผ้าเป็นต้น คนจับไปตั้งตรงไหนก็อยู่ตรงนั้นทั้งกะปีกะชาติไม่ไปไหน ...แต่จิตใจหาเป็นเช่นวัตถุไม่ มันเคลื่อนไหวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทุกลมหายใจเข้าออก ภาษาทางพระเรียกว่าเกิดดับๆๆๆ ความคิดอย่างนี้เกิด เกิดแล้วดับ ความคิดอย่างเกิดต่อเนื่องกันไปจนกว่าจะสิ้นชีวิต เกิดดับสลับไปมา....มิใช่ฉันทะเกิดก็ฉันทะโด่ทั้งกะปีกะชาติ ตัณหาเกิดก็โด่ทั้งกะปีกะชาติ โลภะ โทสะ เกิดก็โด่อยู่ยังงั้นทั้งกะปีกะชาติ ไม่ใช่ๆ โฮเด้ง

ถึงบอกไงว่าให้เอาไม้ลูกชิ้นปิ้งแทงก็โหลกตนเองแทงให้ทะลุถึงสมองแล้วค่อยมาสนทนาเรื่องจิตใจกัน :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 06:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


ให้ทาง เขียน:
ขออนุญาต คือสงสัยครับ ความรัก จัดอยู่ในกิเลสประเภทไหนครับ ในสามตัว โลภ โกรธ หลง

s006

* ตะกี๊โพสผิดที่ * :b3:


ความรัก ถ้าจะจัดเป็นกิเลสนั้นได้แก่ โลภะ
เพราะความรักจัดเป็นตัณหา เป็นสิ่งที่อยากได้มาครอบครอง

ความรักที่ไม่จัดว่าเป็นกิเลสก็มี ได้แก่ เมตตา
เป็นควารักที่เกิดจากความเมตตาสงสารให้ผู้อื่นได้มีสุข
เช่น พ่อแม่มีความรักให้แก่บุตร เป็นต้น

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสต์ เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 07:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


(นามธรรม) จิตใจเกิดดับนี่แหละจึงพัฒนาได้ ถ้าไม่เกิดไม่ดับ เกิดยังไงก็โด่อยู่ยังงั้นทั้งกะปีกะชาติ ก็พัฒนาจิตปัญญาไม่ได้ ถ้าแบบนั้นนะ องคุลีมาล คงเป็นโจรไล่ฆ่าคนไปจนตลอดชีวิต ความที่ท่านรู้จักพัฒนาจิตปัญญาที่มันเกิดดับ คิดดีได้คิดร้ายได้นี่แหละ ท่านจึงพัฒนาไปถึงระดับสูงสุดของมัน

...อุปติสสะ กับ โกลิตะ คงอยู่ครองเรือนไปจนตาย คงไม่มาอยู่กับสัญชัย แล้วเปลี่ยนไปอยู่กับพระพุทธเจ้า แล้วท่านก็พัฒนาจิตปัญญาจนถึงระดับสูงสุดของมัน

...เทวทัตคงไม่เปลี่ยนใจสำนึกผิดในวันใกล้ตาย ...นี่ยกตัวอย่างหยาบๆพอมองเห็นการเกิดดับของความคิดหรือจิตใจ


แต่จิตใจมันเกิดดับทุกขณะ แล้วแต่ละขณะๆที่มันเกิดมันดับ มีผลถึงร่างกายด้วย :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 07:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:


เลอะเทอะ กามก็กาม สุขก็สุข รักก็รัก เอามาปนกันซะเละ :b9:
วงจรจิต ทำให้เกิดกิเลสสามตัว มั่วจริงๆ กิเลสมันมีสามตัวเองหรือ :b32:
แล้วที่บอกเป็น ฉันทะก็ได้ เป็นตัณหาก็ได้ กรัชกายตลกไม่รู้เดียงสาเอาซะเลย :b13:


ข้อเขียนนี้ เป็นความคิดของคนที่เห็นจิตใจโด่ๆ คือแยกแยะเป็นขณะๆไม่ออกแยกแยะไม่เป็น

เอานะถามโฮเด้งนะ กามได้แก่อะไร? :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 10:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:


เลอะเทอะ กามก็กาม สุขก็สุข รักก็รัก เอามาปนกันซะเละ :b9:
วงจรจิต ทำให้เกิดกิเลสสามตัว มั่วจริงๆ กิเลสมันมีสามตัวเองหรือ :b32:
แล้วที่บอกเป็น ฉันทะก็ได้ เป็นตัณหาก็ได้ กรัชกายตลกไม่รู้เดียงสาเอาซะเลย :b13:


ข้อเขียนนี้ เป็นความคิดของคนที่เห็นจิตใจโด่ๆ คือแยกแยะเป็นขณะๆไม่ออกแยกแยะไม่เป็น

เอานะถามโฮเด้งนะ กามได้แก่อะไร? :b1:

รู้จักกามคุณห้ามั้ย เวลาเห็นภาพแล้วพอใจ ไม่พอใจ
เวลาได้ยินเสียง แล้วพอใจ ไม่พอใจ
เวลากินอะไรแล้ว พอใจ ไม่พอใจ
เวลาได้กลิ่นอะไรแล้วพอใจ ไม่พอใจ
เวลาสัมผัสอะไรแล้วพอใจไม่พอใจ

รูป...รส...กลิ่น...เสียง...สัมผัส นั้นน่ะเขาเรียก.....กามหรือกามคุณห้ามันเป็นตัณหา :b13:


โพสต์ เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 10:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ให้ทาง เขียน:
ขออนุญาต คือสงสัยครับ ความรัก จัดอยู่ในกิเลสประเภทไหนครับ ในสามตัว โลภ โกรธ หลง


เพื่อให้เห็นแนวทางของการสนทนาได้กว้างขึ้นแล้วจะเห็นธรรมะโล่งไปหมดด้วย จึงขอขยายความหน่อย

ความรัก พูดให้ชัดให้ครบองค์ประกอบของมัน ก็คือว่า ต้องมีทั้ง "ผู้รัก" กับ "สิ่ง/ผู้ที่ถูกรัก" ตัวอย่าง เช่น ฉันรักเธอ :b20: มีฉัน กับ มีเธอ (เลียนหลักปฏิบัติธรรม ต้องประกอบด้วย ผู้รู้ กับ สิ่งที่ถูกรู้/ผู้ทำ กับ สิ่งที่ถูกทำ) ถ้าเป็นวัตถุสิ่งของ ก็มีผู้รัก กับ สิ่งที่ถูกรัก เช่น ฉันรักรถคันนี้มากๆ ฉันชอบบ้านหลังนี้ ฉันรักทีดินแปลงนี้ ฉันรักสุนัขตัวนี้ ฯลฯ

มนุษย์แสวงหาความสุข ถูกไหม และความสุขนั้นก็มีมากกมาย เช่น กามสุข ฌานสุข นิพพานสุข...เอาเฉพาะกามสุขที่มนุษย์ (อย่างเราๆท่านๆ) พอสัมผัสได้ ยังแยกออกได้อีกมาก เช่น เป็นบุคคล เป็นวัตถุสิ่งของต่างๆ...แต่ความรักความสุขที่เกิดจากกามนั้นไม่จิรังเพราะขึ้นอยู่กับสิ่งภายนอก ดังนั้น ความรัก (ความสุข)ที่อาศัยกามเกิด ที่เรียกว่ากามสุขนั้น แปรเปลี่ยนเป็นกามทุกข์ได้ :b32: ยังเป็นอะไรต่ออะไรได้อีกแยอะแยะบานตะเกียง ...ขณะนั้นๆวงจรภายในจิตใจ จะประกอบด้วยกิเลสสามตัวดังว่า ก็เกิด-ดับเกิด-ดับสลับไปมา หนัก-เบาแรงเข้มแล้วแต่เหตุการณ์ (แล้วแต่เหตุปัจจัย) ยังเป็นฉันทะอีกก็ได้ เป็นตัณหาก็ยังได้

คนที่จะตอบได้แบบนี้ ต้องเป็นคนที่เข้าถึงปฏิจสมุปปบาท พี่กุ้งไม่ยึดบัญญัติศัพทางธรรมแต่ขยายความได้กว้างขวาง สมแล้วที่เป็นบัณฑิต :b27:
Kiss


โพสต์ เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 10:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ให้ทาง เขียน:
ขออนุญาต คือสงสัยครับ ความรัก จัดอยู่ในกิเลสประเภทไหนครับ ในสามตัว โลภ โกรธ หลง

s006

* ตะกี๊โพสผิดที่ * :b3:

ความรักเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง จัดอยู่ในกิเลสหรือสังโยชน์เบื้องสูง

ไอ้โลภ โกรธ หลง มันไม่ใช่กิเลส แต่มันเป็นผลที่เกิดจากกิเลส
เรียกว่า....อาการของจิตหรือเจตสิก เรียกง่ายๆว่า อาการของจิตฝ่ายอกุศล

จำไว้เลยว่า กิเลสคือสิ่งที่มัดใจสัตว์ให้วนเวียนอยู่ในวัฎฎะสงสาร
นั้นก็คือสังโยชน์สิบ :b13:


โพสต์ เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 10:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ให้ทาง เขียน:
ขออนุญาต คือสงสัยครับ ความรัก จัดอยู่ในกิเลสประเภทไหนครับ ในสามตัว โลภ โกรธ หลง


เพื่อให้เห็นแนวทางของการสนทนาได้กว้างขึ้นแล้วจะเห็นธรรมะโล่งไปหมดด้วย จึงขอขยายความหน่อย

ความรัก พูดให้ชัดให้ครบองค์ประกอบของมัน ก็คือว่า ต้องมีทั้ง "ผู้รัก" กับ "สิ่ง/ผู้ที่ถูกรัก" ตัวอย่าง เช่น ฉันรักเธอ :b20: มีฉัน กับ มีเธอ (เลียนหลักปฏิบัติธรรม ต้องประกอบด้วย ผู้รู้ กับ สิ่งที่ถูกรู้/ผู้ทำ กับ สิ่งที่ถูกทำ) ถ้าเป็นวัตถุสิ่งของ ก็มีผู้รัก กับ สิ่งที่ถูกรัก เช่น ฉันรักรถคันนี้มากๆ ฉันชอบบ้านหลังนี้ ฉันรักทีดินแปลงนี้ ฉันรักสุนัขตัวนี้ ฯลฯ

มนุษย์แสวงหาความสุข ถูกไหม และความสุขนั้นก็มีมากกมาย เช่น กามสุข ฌานสุข นิพพานสุข...เอาเฉพาะกามสุขที่มนุษย์ (อย่างเราๆท่านๆ) พอสัมผัสได้ ยังแยกออกได้อีกมาก เช่น เป็นบุคคล เป็นวัตถุสิ่งของต่างๆ...แต่ความรักความสุขที่เกิดจากกามนั้นไม่จิรังเพราะขึ้นอยู่กับสิ่งภายนอก ดังนั้น ความรัก (ความสุข)ที่อาศัยกามเกิด ที่เรียกว่ากามสุขนั้น แปรเปลี่ยนเป็นกามทุกข์ได้ :b32: ยังเป็นอะไรต่ออะไรได้อีกแยอะแยะบานตะเกียง ...ขณะนั้นๆวงจรภายในจิตใจ จะประกอบด้วยกิเลสสามตัวดังว่า ก็เกิด-ดับเกิด-ดับสลับไปมา หนัก-เบาแรงเข้มแล้วแต่เหตุการณ์ (แล้วแต่เหตุปัจจัย) ยังเป็นฉันทะอีกก็ได้ เป็นตัณหาก็ยังได้

คนที่จะตอบได้แบบนี้ ต้องเป็นคนที่เข้าถึงปฏิจสมุปปบาท พี่กุ้งไม่ยึดบัญญัติศัพทางธรรมแต่ขยายความได้กว้างขวาง สมแล้วที่เป็นบัณฑิต :b27:
Kiss

แหม่! พอได้ยิน ฉันรักเธอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถึงกับเคลิ้มเลยเชียวน่ะ
ระวังเล็บไปจิกหนังหัวลูกค้าล่ะ :b32:


โพสต์ เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 11:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ถึงบอกไงว่าให้เอาไม้ลูกชิ้นปิ้งแทงก็โหลกตนเองแทงให้ทะลุถึงสมองแล้วค่อยมาสนทนาเรื่องจิตใจกัน :b32:

ดันบอกมาได้ว่า ให้หยิบเอาไม้แทงกระโหลกตัวเอง แล้วจะทำให้เกิดจิต
ปุดโด่! ถ้าไม่มีจิตแล้วจะยกมือหยิบไม้ลูกชิ้นปิ้งได้หรือ พูดไม่คิด :b32:

กรัชกาย รู้จักสมุฐานสี่มั้ย เคยได้ยินเรื่อง...จิตตชรูปมั้ย
ถ้าไม่เคยก็ไปฝากตัวเป็นศิษย์ อิตาลุงหมาน หรือยัยหนู ซัวมูซ่า(ลูกเจี๊ยบ)ก็ได้
แล้วก็ถามเขารู้ว่า....จิตตชรูปเป็นอย่างไร :b32:


โพสต์ เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 11:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ให้ทาง เขียน:
ขออนุญาต คือสงสัยครับ ความรัก จัดอยู่ในกิเลสประเภทไหนครับ ในสามตัว โลภ โกรธ หลง


เพื่อให้เห็นแนวทางของการสนทนาได้กว้างขึ้นแล้วจะเห็นธรรมะโล่งไปหมดด้วย จึงขอขยายความหน่อย

ความรัก พูดให้ชัดให้ครบองค์ประกอบของมัน ก็คือว่า ต้องมีทั้ง "ผู้รัก" กับ "สิ่ง/ผู้ที่ถูกรัก" ตัวอย่าง เช่น ฉันรักเธอ :b20: มีฉัน กับ มีเธอ (เลียนหลักปฏิบัติธรรม ต้องประกอบด้วย ผู้รู้ กับ สิ่งที่ถูกรู้/ผู้ทำ กับ สิ่งที่ถูกทำ) ถ้าเป็นวัตถุสิ่งของ ก็มีผู้รัก กับ สิ่งที่ถูกรัก เช่น ฉันรักรถคันนี้มากๆ ฉันชอบบ้านหลังนี้ ฉันรักทีดินแปลงนี้ ฉันรักสุนัขตัวนี้ ฯลฯ

มนุษย์แสวงหาความสุข ถูกไหม และความสุขนั้นก็มีมากกมาย เช่น กามสุข ฌานสุข นิพพานสุข...เอาเฉพาะกามสุขที่มนุษย์ (อย่างเราๆท่านๆ) พอสัมผัสได้ ยังแยกออกได้อีกมาก เช่น เป็นบุคคล เป็นวัตถุสิ่งของต่างๆ...แต่ความรักความสุขที่เกิดจากกามนั้นไม่จิรังเพราะขึ้นอยู่กับสิ่งภายนอก ดังนั้น ความรัก (ความสุข)ที่อาศัยกามเกิด ที่เรียกว่ากามสุขนั้น แปรเปลี่ยนเป็นกามทุกข์ได้ :b32: ยังเป็นอะไรต่ออะไรได้อีกแยอะแยะบานตะเกียง ...ขณะนั้นๆวงจรภายในจิตใจ จะประกอบด้วยกิเลสสามตัวดังว่า ก็เกิด-ดับเกิด-ดับสลับไปมา หนัก-เบาแรงเข้มแล้วแต่เหตุการณ์ (แล้วแต่เหตุปัจจัย) ยังเป็นฉันทะอีกก็ได้ เป็นตัณหาก็ยังได้

คนที่จะตอบได้แบบนี้ ต้องเป็นคนที่เข้าถึงปฏิจสมุปปบาท พี่กุ้งไม่ยึดบัญญัติศัพทางธรรมแต่ขยายความได้กว้างขวาง สมแล้วที่เป็นบัณฑิต :b27:
Kiss

แหม่! พอได้ยิน ฉันรักเธอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถึงกับเคลิ้มเลยเชียวน่ะ
ระวังเล็บไปจิกหนังหัวลูกค้าล่ะ :b32:

:b12: ถ้าลูกค้าคนนั้นเป็นพี่โฮก็ไม่แน่ เสียงพระพุทงค์ก็เอาไม่อยู่ เราหยุดแล้ว แต่เจ้าเองที่ไม่หยุด :b32: (คุนน้องจะตอบเสียงนั้นกลับไปว่า เด่วจะหยุดแต่ก่อนอื่น ขอจิกหัวอิตาคนนี้ก่อนค่อยหยุด555 :b32: )


โพสต์ เมื่อ: 22 ม.ค. 2013, 11:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:


เลอะเทอะ กามก็กาม สุขก็สุข รักก็รัก เอามาปนกันซะเละ :b9:
วงจรจิต ทำให้เกิดกิเลสสามตัว มั่วจริงๆ กิเลสมันมีสามตัวเองหรือ :b32:
แล้วที่บอกเป็น ฉันทะก็ได้ เป็นตัณหาก็ได้ กรัชกายตลกไม่รู้เดียงสาเอาซะเลย :b13:


ข้อเขียนนี้ เป็นความคิดของคนที่เห็นจิตใจโด่ๆ คือแยกแยะเป็นขณะๆไม่ออกแยกแยะไม่เป็น

เอานะถามโฮเด้งนะ กามได้แก่อะไร? :b1:

รู้จักกามคุณห้ามั้ย เวลาเห็นภาพแล้วพอใจ ไม่พอใจ
เวลาได้ยินเสียง แล้วพอใจ ไม่พอใจ
เวลากินอะไรแล้ว พอใจ ไม่พอใจ
เวลาได้กลิ่นอะไรแล้วพอใจ ไม่พอใจ
เวลาสัมผัสอะไรแล้วพอใจไม่พอใจ

รูป...รส...กลิ่น...เสียง...สัมผัส นั้นน่ะเขาเรียก.....กามหรือกามคุณห้ามันเป็นตัณหา :b13:


โฮเด้งเอ้ย พอใจไม่พอใจมันปรุงแต่งไปแล้ว มันเลยธรรมชาติไปแล้ว ก็คิดกันอย่างนี้แหละ ถึงบอกว่าถ้าไม่อยากเป็นตัณหา ก็เอาไม้เสียบลูกชิ้นแทงตาสะให้บอดจะได้ไมเห็นอะไร จะไม่เป็นตัณหา
-แล้วทะลวงแก้วหูสะให้แตกทั้งสองข้าง เพื่อว่าจะไม่ได้ยินเสียงอะไรๆ
-เอามีตัดจมูกให้ขาดวิ่นให้เหมือนหกเขย (ในเรื่องสังข์ทอง) แล้วเอาไม้ก๊อกอุดรูจมูกสะจะได้ไม่ได้กลิ่นอะไร
-เอามีดตัดลิ้นสะให้ขาดสะบั่นจะได้ไม่รับรู้รสเปรั้ยวหวานมันเค็ม เดี๋ยวจะเป็นตัณหา
-เอามีดตัดเส้นเอ็นในร่างกายหมดทุกเส้นนะเพื่อให้เป็นอัมพาตจะได้ไม่รู้สึกเย็นร้อนอ่อนแข็งหย่อนตึง เพื่อไม่ให้ตัณหามีช่องทางเกิดนะๆๆ

ทั้งหมดทั้งมวลนั้น ก็เพื่อชาวพุทธที่คิดแบบนายโฮเด้งจะได้ไปนิพพาน เพราะตันหาไม่มีที่เกิดแล้ว ทีนี้ละนิโลดกันเป็นแถว คิกๆ

นี่ธรรมชาติมันทำหน้าที่ของมัน ตา+รูป หู+เสียง จมูก+กลิ่น ลิ้น+รส กาย+สัมผัส ใจ+ธรรมารมณ์ แล้วไปยินดียินร้ายในเมื่อเห็นเป็นต้นทำไม :b32: แค่นี้ก็ไม่เข้าใจ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร