วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 23:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2012, 22:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
พี่เต้เล่าให้ฟังได้มั้ยว่าทำไมเลิกทำสมาธิค่ะ :b10: คุนน้องรอฟังอยู่นะค่ะ :b55: :b45:





ไม่ใช่เลิกค่ะหยุดการทำนอนสมาธิชั่วคราว เพราะว่ามีอยู่ครั้งนึ่งนอนบริกรรม"สัมมาอระหังๆๆๆๆ"จนหลับแล้วก็เห็นองค์เงาดำเดินทะลุประตูเข้ามา ซึ่งก้อเป็นปกติของทุกๆคืนอยู่แล้ว
พอวิญญนของเราออกจากร่างมายืนข้างเตียง องค์เงาดำก็บอกว่า"วันนี้ป้าของเธอต้องการจะเจอเธอ"
เราก็พยักหน้า (คือคุณป้าของเราเสียชีวิตนานแล้วค่ะ)

เราก้าวขาก็ไปถึงตรงที่ป้าเราอยู่ ก้อเป็นบ้านไม้สมัยโบราณน่ะ เป็นเหมือนห้องแถว
เราก็เห็นป้าเรายืนอยู่ เราก้อยกมือไหว้
ป้าเราก้อบอก "ป่ะๆๆๆๆเข้าไปข้างใน"
เราก็เดินเข้าไปข้างใน เราก้อเห็นในบ้านนี้มีเฟอร์นิเจอร์อยู่ 2 ชุด
คือชุดรับแขกเป็นไม้สัก-ตู้นาฬิกาไม้สักสมัยโบราณ เราจำของทั้ง2ชุดนี้ได้
เพราะเป็นของป้าเรา

แล้วป้าถวายให้วัด ใจเราก็คิดว่า "อือ! ถวายของอะไรให้วัดพอตายแล้วก็ใช้ของสิ่งนั้นจริงๆ"
เราก็นั่งคุยกับป้าเราซักพักหนึ่ง
ป้าเรามีพูดว่า "อีกไม่นานป้าใหญ่ก็จะมาแล้วหล่ะ"
(ป้าใหญ่ของเรายังไม่เสียชีวิต แต่พอลังจากนั้นไม่นานป้าใหญ่เราก้อเสียชีวิต)

พอซักพักหนึ่ง เราก้อบอกว่า"ป้าเต้กลับแล้วค่ะ"
ป้าเราก้อบอกว่า "อย่าเพิ่งกลับซิอยู่ก่อน"

แต่เรากลับค่ะ เราเดินมาตรงหน้าประตู ซึ่งองค์เงาดำยืนอยู่
เราก็พูดกับองค์เงาดำว่า"ฉันจะกลับล่ะ"
องค์เงาดำก็พูดกับเราว่า "เธอยังกลับไม่ได้ป้าเธอยังไม่ปล่อยวิญญานเธอ"

เราก็คิดว่าวิญญานอะไร วิญญานฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้ เราก็กลับ
พอก้าวขาก็มาถึงที่ห้อง เราก็เห็นตัวของเรานอนอยู่บนเตียง
องค์เงาดำก้อพูดอีกว่า "เธอยังเข้าร่างไม่ได้ ญาติของเธอยังไม่ปล่อยวิญญานของเธอ" :b41: :b55: :b50:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2012, 22:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


เราไม่ฟังใจ เราก็คิดว่าแปลกองค์เงาดำนี่ พูดอะไร
เราก็ไปเข้าร่าง แต่พอเข้าไปแล้ว เรารู้สึกหายใจไม่ออกมันแน่นไปหมด
พยายามจะหายใจ แต่ก็หายใจไม่ได้

วิญญานของเราก็ลุกขึ้นนั่ง พอนั่งล้วก็หายใจได้
องค์เงาดำก็พูดอีก "บอกแล้วไง เธอยังเขาร่างไม่ได้ เค้ายังไม่ปล่อยวิญญานเธอ"

เราก็เข้าร่างเราอีก เข้าไปแล้วเราก็หายใจไม่ออกอีก มันรู้สึกทรมาน
วิญญานของเราก็ลุกขึ้นมาอีก พอลุกขึ้นมาก็หายใจได้
เราก็เห็นองค์เงาดำส่ายหัว แล้วพูดว่า"เธอนี่ พูดอะไรทำไมถึงไม่ฟังน่ะ"

เราก็ลงไปนอนเข้าร่างอีก ทีนี้ยิ่งทรมานทั้งแน่นทั้งหายใจไม่ออก เราก็เลยรีบลุกขึ้น
ทีนี้เราเศร้าแล้วค่ะ เราออกจากร่างมายืนที่ข้างเตียง รู้สึกเศร้าน่ะตอนนั้น

แล้วเราก็พูดกับงค์เงาดำว่า "จะพาฉันไปที่ไหนก็ไป"
เราก็หันมามองร่างเราที่นอนอยู่
แล้วองค์เงาดำก็พาเราขึ้นไปข้างบน เพราะเรามองที่เท้าเราเห็นมีแต่หมอก
แต่ใจตอนนั้นเนี่ยเศร้ามาก เพราะกลัวว่าแฟนเราจะเขาใจว่าเราตายแล้ว เอาร่างเราไปเผา

องค์เงาดำก็พาเราไปที่ ที่แห่งหนึ่ง แล้วบอกว่า
" เธอรออยู่ที่นี่ก่อนน่ะ ที่เนี่ยพอเธอตาย เธอก็มาอยู่ที่นี่หล่ะ"

แล้วองค์เงาดำก็ไม่รู้ไปไหน เหมือนเค้ารีบจะไปน่ะ
ใจเราก็ไม่อยากจะมองอะไรทั้งนั้นเลย เราก็เดินไปยืนที่ตรงด้านข้างๆ
ทีนี้เราก็เห็นมีผู้หญิงหลายคน ยกกระถางต้นไม้มา บางคนก็เอามาปลูก
เหมือนพวกเค้าจะจัดสวน แต่เราก็เห็นต้นไม้มีแต่สีสดๆ
แต่ก็ไม่สนใจอะไร ใจเราก็นึกถึงแฟน ก็พูดว่า " เต้ยังไม่ตายน่ะอย่าเอาร่างเต้ไปเผาน่ะ "

ตอนนั้นร้องไห้เลย ใจก็คิดว่าใครจะช่วยเราได้ พอนึกอย่างนี้แล้วก็นึกถึงองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม :b8: :b41: :b55: :b50:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2012, 23:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


เราก็อธิฐานให้องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมช่วย พอเราอธิฐานจบ
องค์เงาดำก็มาเลย ท่าทางเหมือนดีใจ แล้วบอกว่า
" เธอกลับได้แล้ว ญาติเธอปล่อยวิญญานเธอแล้ว "

เราก็ดีใจจูงมือองค์เงาดำกลับ พอมาถึงห้องเรารีบเข้าร่างเลย องค์เงาดำยืนมองอยู่
ท่าทางเค้าเหมือนดีใจที่เราเข้าร่างได้ พอหัวของเราไปชนที่หน้า
องค์เงาดำก็กลับไป

เราก็ตื่น แต่เวลาที่เราตื่นขึ้นมานั้นน่ะ เกือบ10โมงเช้า เรารู้สึกสยองเลย
โชคดีที่วันนั้นแฟนเราไปดูงานแต่เช้า ถ้าเค้าอยู่บ้าน
เค้าจะต้องชวนเราไปทานอาหารเช้าที่ข้างนอก
ถ้าเค้ามาปลุกเรา แล้วเราไม่ตื่นขึ้นมา

เราไม่กล้าที่จะคิดถึงตรงนี้เลย เราก็เลยหยุดการนอนทำสมาธิ
แล้วตั้งแต่นั้น เราก้อไม่เคยได้ไปท่องนิมิตอีกเลยค่ะ
กลัวค่ะ :b41: :b55: :b50:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2012, 13:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ฟังจากพี่เต้เล่า พี่เต้กำลังหลีกเลี่ยงทุกข์ในอริยสัจสี่อยู่นะค่ะ ในนิมิตพี่เต้กลับเข้าร่างไม่ได้ และพี่เต้ก็กลัวว่าวิญญานจะเข้าร่างไม่ๆได้ ทำให้พี่เต้เป็นทุกข์เสียใจเพราะกลัวจะไม่ได้กลับมาเจอคนที่ตนเองรัก พื้นฐานจิตของพี่เต้น่าจะกลัวว่าจะต้องตาย พี่เต้หยุดการณ์ทำสมาธิเพราะเหตุนี้ คุนน้องเคยกลัวการทำสมาธิค่ะ แต่พื้นฐานจิตคุนน้องคือมีอัตตากับคนที่เป็นมิจฉาทิฏฐิทำให้คุนน้องเกิดนิมิต บ้าอิทฤทธ์ไล่จัดการกับผี ปีศาจในฝัน แต่คุนน้องไม่เคยกลัวนะถ้าในฝันจะโดนฆ่าตาย เพราะชีวิตคุนน้องผ่านความตายมาหลายครั้งแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2012, 14:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ใช่ค่ะเราไม่ได้กลัวตายค่ะ ถ้าตายแบบถึงเวลาที่จะต้องตาย ไม่กลัว
ความตายไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย จากที่เคยเฉียดตายมาแล้ว รู้เลยว่าความตายไม่น่ากลัวเลย
แต่ที่พี่เต้กลัวสุดคือความเจ็บปวดก่อนตาย :b12:

อย่างตอนที่เจ็บในท้องตอนนั้น ทรมานมากๆ :b5: แต่พอถึงจุดที่เจ็บมากที่สุดแล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนเป็นเบา ตรงนั้นรู้เลย เราหลุดพ้นจากความทุกข์แล้ว

ทุกวันนี้เวลาที่เห็นใครตาย ก็คิดว่าเค้าหลุดพ้นจากทุกข์ไปแล้ว ส่วนภพภูมิใหม่นั้น
ก็ต้องแล้วแต่สิ่งที่ทุกคนสร้าง

ส่วนเรื่องต้องตายจากคนทีรักนั้น ตรงจุดนี้พี่เต้ไม่นึกกลัวเลยค่ะ
พี่ปล่อยวางทั้งหมด ลูกๆเริ่มจะโตขึ้นทุกวัน ช่วยเหลือตัวเองได้

พี่เต้เคยขอเลิกกับแฟนค่ะ บอกกับเค้าว่า "เต้จะกลับไปอยู่เมืองไทยน่ะ
เพราะต่อไปลูกๆก็จะต้องไปเรียนต่อที่อื่น ซึ่งอาจจะ2-3ปีกลับมาบ้านซักครั้งหนึ่ง
ซึ่งเต้ก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่นี่แล้ว เต้ขอไปตามทางที่เต้ต้องการ
เต้อยากจะไปอยู่ในโลกของธรรมะ"

แฟนตกใจค่ะ แฟนบอก" ไม่ได้เต้ยังไม่แก่ยังไม่ต้องคิดรอให้แก่ก่อน"
เราก็บอกว่า "ไม่ต้องรอให้แก่หรอก สาวๆกว่าเต้เค้ายังไปใช้ชีวิตอย่างนั้นเลย"

แฟนบอก "เค้าไม่มีสามีแต่เต้มีไม่เหมือนกัน"
เราก็เลยบอกว่า "สรุปว่าไม่เลิก"
แฟนบอก" เราต้องอยู่ด้วยกัน ไปจนแก่จนตายจากกัน"
เราฟังแฟนเราพูดแล้ว เราก็ต้องปลงค่ะ :b12: :b41: :b55: :b50:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2012, 15:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากมีประสบการณ์ แบบนี้บ้างจัง

Kiss

คนที่ได้เห็นพวกนี้ จะเชื่อในเรื่อง บาปบุญ และเร่งทำความเพียร เพื่อหลุดพ้น :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2012, 17:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


choochu เขียน:
อยากมีประสบการณ์ แบบนี้บ้างจัง

Kiss

คนที่ได้เห็นพวกนี้ จะเชื่อในเรื่อง บาปบุญ และเร่งทำความเพียร เพื่อหลุดพ้น :b8:


:b1:

smiley

ใช่ ถ้ามีประสบการณ์แบบนี้
หยิบตรงไหนมาพิจารณาได้ คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

:b1: :b16: :b16: :b1:

กลับเข้าร่างไม่ได้
เพราะ ระดับความถี่ของจิตตอนที่ออกมา กับ ตอนที่จะกลับคืนสภาพในคราวต้น
ปีนระดับกันอยู่ :b1:

:b8: :b8: :b8:

บางครั้ง เมื่อเราจะถอดจิตออกจากร่างในสมาธิ
บางครั้งจะมีสัญญาณมารั้งไว้ ไม่ให้เราออกไป
เพราะ ระนาบจิตตอนออก ต้องเป็นระนาบเดียวกับตอนเข้า
ถ้าระนาบจิตตอนออก แล้วปรากฎไปเจอสิ่งที่ทำให้ระนาบจิตเปลี่ยนแปลงไป
เช่นเจอเรื่องที่ทำให้ตื่นตระหนก จะทำให้จิตกระเจิง กลับคืนสภาพไม่ได้
จิตต้องถูกปรับสภาพให้ใกล้เคียงกับตอนที่ออกมาเสียก่อน
สิ่งที่มาเตือน ก็คือ สิ่งที่รู้ดีไปหมด...นั่นล่ะ

มันมีบางอย่างที่รู้ดีกว่าเรา อยู่ใกล้เรามากอย่างกะเงาตามตัว
ใกล้เรามาก...แต่กลับจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราจะรู้

สิ่งที่ถ้าพบ เราอาจจะเรียกว่านั่นเป็นรักแรก และรักครั้งสุดท้าย

:b20: :b3: :b3: :b20:

:b6: :b6: อิอิ ... เดาหง่ะ ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2012, 21:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


คือ เราต้องเข้าใจ ความสัมพันธ์ของ กาย-จิต
ตอนที่เราจะไปสู่การท่องนิมิต
ถ้าเรารู้ว่า ช่วงนั้น อุณหภูมิร่างกายเป็นอย่างไร
อัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ
อัตราต่าง ๆ ของร่างกายเป็นอย่างไร
และ ความสงบ ความละเอียดของจิต เป็นอย่างไร
ถ้า สองสิ่งนี้สัมพันธ์กัน คือ กาย-จิต

ความละเอียดจิตเปลี่ยนไป
ด้วยกลไก มันจะผสานกลับเข้าสู่สภาวะเดิมไม่ได้

ประมาณเหมือนการดำน้ำลึก ที่จะต้องมีการปรับ ความดัน

เออ...มันเป็นสิ่งที่พอจะเปรียบเทียบได้กับ เรื่อง อินเซ็ปชั่น

:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2012, 21:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
อยากมีประสบการณ์ แบบนี้บ้างจัง

Kiss

คนที่ได้เห็นพวกนี้ จะเชื่อในเรื่อง บาปบุญ และเร่งทำความเพียร เพื่อหลุดพ้น :b8:




จริงอย่างที่คุณเขียนมาค่ะ สำหรับเราแล้วเชื่อโดยที่ไม่มีอะไรให้สงสัยเลยค่ะ
พอได้เริ่มศึกษาธรรม จิตของเราทุกวันนี้ คิดแต่เรื่องการสร้างบุญ-บารมีอย่างเดียวค่ะ
ไม่ยึดติดอะไรทั้งนั้น คิดอย่างเดียวว่าสิ่งเหล่านี้ เวลาที่เราตายไป
สิ่งพวกนี้ติดตัวเราไปไม่ได้ สิ่งที่จะติดตัวเราไปได้คือบุญเท่านั้นเอง :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2012, 22:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


เราเคยฟัง CDธรรมะของพระจีนที่มาเลย์ ท่านเล่าให้ฟังน่ะค่ะ
ท่านบอกว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง มีเหล่าพูซ่าท่านหนึ่ง(คือเหมือนพระไทยเรียกคำว่าโยมหรือปล่าวไม่รู้น่ะ)
นิมนต์ให้ท่านไปสวดมนต์ที่บ้าน สาเหตุเพราะวิญญานของลูกสาว มาร้องหาร่างของตัวเองทุกคืน

คือลูกสาวของเค้านอนหลับแล้วไม่ตื่นขึ้นมา เหล่าพูซ่าท่านนี้ก็นำร่างลูกสาวไปทำพิธี3วัน
แล้วก็นำไปเผา แล้วพอหลังจากนั้นไม่กี่วัน ตอนกลางคืนก็ได้ยินเสียงลูกสาวร้องไห้
แล้วก็พูดว่า "เอาร่างของฉันคืนมาๆ"

ท่านก็ไปที่บ้านของเหล่าพูซ่าท่านนี้ โดยมีเณรไปด้วย เพราะเณรองค์นี้สามารถที่จะสัมผัสวิญญานได้ท่านบอกว่าพอไปที่บ้านแล้ว ท่านก็เข้าไปในห้องผู้หญิงคนนี้
ท่านก็มีความรู้สึกว่า วิญญานของผู้หญิงคนนี้อยู่ที่ข้างฝาห้อง
ซึ่งเณรก็บอกว่าอยู่ที่ข้างฝาห้อง

เณรก็ถามวิญญานผู้หญิงคนนี้ว่า "เธอเสียชีวิตไปแล้ว เธอจะมาหวงร่างทำไม ร่างของเธอก็เผาไปแล้ว
ให้ไปซะ อย่ายึดติดกับร่างนี้อีกเลย"

วิญญานของผู้หญิงก็ตอบว่า " เค้ายังไม่เสียชีวิต ตอนที่เค้าหลับวิญญานเค้าไปที่ ที่แห่งหนึ่ง
แล้วเค้ากลับมาไม่ได้ พอเค้ากลับมาได้ ร่างของเค้าก็ไม่มีแล้ว"

พอท่านฟังแล้ว ก้อไม่รู้จะพูดยังไงเพราะร่างของเค้าก็ไม่มีแล้วร่างโดนเผาไป
แล้วแต่จิตยังไม่ตาย


ทีนี้มีใครพอจะรู้มั้ย!ค่ะ ว่าถ้าคนที่จิตยังไม่ตาย แต่ไม่มีร่างของตัวเองแล้วนั้น
วิญญานของเค้าจะไปอยู่ที่ไหนล่ะค่ะ
:b41: :b55: :b50:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2012, 22:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณstudentเขียน


อ้างคำพูด:
ส่วนตัวไม่เคยปรากฏนิมิตลักษณะนี้ครับ มีแต่คันยุบยิบที่หน้า




เราก็เป็นค่ะ เฉพาะเวลาที่นั่งสมาธิซึ่งเป็นบางครั้งค่ะ
ตอนแรกๆไม่รู้ก็เลิกนั่ง พอตอนหลังต้องเอาชนะเจ้าความคันนั้นค่ะ
โดยบริกรรม " คันหนอๆๆ " แล้วก็เกาค่ะ กำหนดจนกว่าสมาธิจะเกิดนั่นแหล่ะค่ะ
พอจิตเป็นสมาธิแล้วอาการคันก็หายไป :b12:


แต่บางครั้งมีอาการอย่างนี้ค่ะ พอนั่งสมาธิแล้วเท้าข้างขวา เกิดอาการกระตุก
พอไม่สนใจก็กระตุกๆๆๆ :b1:
ไม่สนใจอีก ทีนี้กระตุกหนักค่ะ คือเหมือนมีอะไรมายกที่เท้าแล้วปล่อยลงมา
ทีนี้นั่งสมาธิไม่ได้แล้วค่ะ
ก้อสวดมนต์แผ่เมตตาให้เค้า อาการเท้ากระตุกก็หายค่ะ :b1: :b41: :b55: :b50:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร