วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 05:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 41 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2012, 04:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอพูดในฐานะเพื่อน เลยจำเป็นต้องพูดในลักษณะว่า ปากทำองศา180กับใจครับ
ใครอ่านแล้วรู้สึกโกรธ นั้นแสดงว่า กำลังโกรธเพื่อนกำลังโกรธกัลยาณมิตรผู้หวังดี
สรุปก็คือทนฟังให้ได้ แล้วก็คิดพิจารณาหาคำตอบตั้งคำถาม มันจะได้เกิดประโยชน์
แก่ส่วนรวม เอาล่ะเริ่มเรื่อง....

สังเกตุมานานแล้ว ถ้ามีใครเข้ามาถามปัญหาในทำนอง เป็นทุกข์ใจหรือกำลังแค้นใจ
มีบ้างท่านแนะนำว่าให้ใช้พรหมวิหารสี่ ผมอ่านแล้ว ไม่รู้ว่าผมผิดมนุษย์เขาหรือเปล่า
แทนที่จะออกมาในแนวดร่าม่า ผมกลับไปตลกขบขันกับสิ่งที่เพื่อนๆให้คำแนะนำครับ

ถ้าอยากรู้ว่าผมตลกตรงไหนอย่างไร ก็ช่วยกันมาแสดงความเห็นหน่อยครับว่า...
ท่านมีความเข้าใจในเรื่อง พรหมวิหารอย่างไร เมตตาคืออะไร กรุณาคืออะไร
มุตทิตาอีกคืออะไร เรื่องอุเบกขาไม่ต้องก็ได้

ที่อยากให้มาแสดงความเห็นมากที่สุดก็คือ พวกที่ชอบสอน ชอบแนะนำเรื่อง สติปัฏฐานสี่
โดยเฉพาะเรื่อง.....การดูจิต

ใครดูจิตเป็นย่อมต้องรู้อาการของจิตที่เป็น เมตตา กรุณาและมุทิตา
ช่วยเข้ามาอธิบายหน่อยครับ :b13:

เข้ามาตอบหน่อยครับ ผมสัญญาว่าจะไม่หัวเราะเยาะ ครับ :b40:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2012, 07:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อมองดูตัวเองแล้ว....ก็เห็นว่า..พรหมวิหารทั้ง 4 ของตน...ยังไม่สมบูรณ์

มารมักออกหน้า..กว่าพรหมจะมา..บางทีก็ช้านาน..อิอิ

มาร...กับ..พรหม....ในตัวตนอย่างไหน...เสนอหน้ามากกว่ากัน

ยักษ์มารชอบหัวเร้อเยิ่อหยิ่ง...ยกตนถือหาง....พรหมชอบอะไรหว้า? :b10: :b10:

ดูตนว่าเป็นลูกพรหม...หรือ...ลูกมาร

หากเป็นบุตรของมาร....จะมาเจื้อยแจ้วเรื่องของพรหม...ฮะฮ้า....เป็นเรื่องเกินตัว...รึเปล่า?
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2012, 08:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ขอพูดในฐานะเพื่อน เลยจำเป็นต้องพูดในลักษณะว่า ปากทำองศา180กับใจครับ
ใครอ่านแล้วรู้สึกโกรธ นั้นแสดงว่า กำลังโกรธเพื่อนกำลังโกรธกัลยาณมิตรผู้หวังดี
สรุปก็คือทนฟังให้ได้ แล้วก็คิดพิจารณาหาคำตอบตั้งคำถาม มันจะได้เกิดประโยชน์
แก่ส่วนรวม เอาล่ะเริ่มเรื่อง....

สังเกตุมานานแล้ว ถ้ามีใครเข้ามาถามปัญหาในทำนอง เป็นทุกข์ใจหรือกำลังแค้นใจ
มีบ้างท่านแนะนำว่าให้ใช้พรหมวิหารสี่ ผมอ่านแล้ว ไม่รู้ว่าผมผิดมนุษย์เขาหรือเปล่า
แทนที่จะออกมาในแนวดร่าม่า ผมกลับไปตลกขบขันกับสิ่งที่เพื่อนๆให้คำแนะนำครับ

ถ้าอยากรู้ว่าผมตลกตรงไหนอย่างไร ก็ช่วยกันมาแสดงความเห็นหน่อยครับว่า...
ท่านมีความเข้าใจในเรื่อง พรหมวิหารอย่างไร เมตตาคืออะไร กรุณาคืออะไร
มุตทิตาอีกคืออะไร เรื่องอุเบกขาไม่ต้องก็ได้

ที่อยากให้มาแสดงความเห็นมากที่สุดก็คือ พวกที่ชอบสอน ชอบแนะนำเรื่อง สติปัฏฐานสี่
โดยเฉพาะเรื่อง.....การดูจิต

ใครดูจิตเป็นย่อมต้องรู้อาการของจิตที่เป็น เมตตา กรุณาและมุทิตา
ช่วยเข้ามาอธิบายหน่อยครับ :b13:

เข้ามาตอบหน่อยครับ ผมสัญญาว่าจะไม่หัวเราะเยาะ ครับ :b40:



สำนักใดใครสอน เน้นแต่ดูจิตๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่างเดียว แปลว่าสุดโต่ง ตามขณะปัจจุบันไม่ทัน ตกอดีต ตามปัจจุบันไม่ทัน :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2012, 10:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




94.jpg
94.jpg [ 35.96 KiB | เปิดดู 7567 ครั้ง ]
เรายังมองไม่เห็นความสวัสดี
จักมีแก่สัตว์ทั้งหลาย
นอกจากปัญญาและความเพียร
นอกจากความสำรวมอินทรีย์
และความสละวางทุกสิ่งทุกอย่าง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2012, 11:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


s006 อาการหลงตัวหลงตน

ประโยคนี้ใครอ่านแล้วรู้สึกโกรธ นั้นแสดงว่า กำลังโกรธเพื่อนกำลังโกรธกัลยาณมิตรผู้หวังดี
สรุปก็คือทนฟังให้ได้ แล้วก็คิดพิจารณาหาคำตอบตั้งคำถาม มันจะได้เกิดประโยชน์

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2012, 11:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ถามพรหมบุตรทั้งหลายครับว่า.....?


อ่อ ที่แท้โฮฏฮากก็นับถือศาสนาฮินดู จึงได้เรียกและนึกเอาเองว่าคนอื่นเขาเป็นบุตรแห่งพรหม
ในศาสนาพุทธเราไม่คิดว่าตัวเองเป็นพรหมบุตรนะครับโฮกฮาก มิน่าล่ะโฮกฮากถึงไม่เข้าใจธรรมมะสักข้อเดียว

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2012, 12:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ขอพูดในฐานะเพื่อน เลยจำเป็นต้องพูดในลักษณะว่า ปากทำองศา180กับใจครับ
ใครอ่านแล้วรู้สึกโกรธ นั้นแสดงว่า กำลังโกรธเพื่อนกำลังโกรธกัลยาณมิตรผู้หวังดี
สรุปก็คือทนฟังให้ได้ แล้วก็คิดพิจารณาหาคำตอบตั้งคำถาม มันจะได้เกิดประโยชน์
แก่ส่วนรวม เอาล่ะเริ่มเรื่อง....

สังเกตุมานานแล้ว ถ้ามีใครเข้ามาถามปัญหาในทำนอง เป็นทุกข์ใจหรือกำลังแค้นใจ
มีบ้างท่านแนะนำว่าให้ใช้พรหมวิหารสี่ ผมอ่านแล้ว ไม่รู้ว่าผมผิดมนุษย์เขาหรือเปล่า
แทนที่จะออกมาในแนวดร่าม่า ผมกลับไปตลกขบขันกับสิ่งที่เพื่อนๆให้คำแนะนำครับ

ถ้าอยากรู้ว่าผมตลกตรงไหนอย่างไร ก็ช่วยกันมาแสดงความเห็นหน่อยครับว่า...
ท่านมีความเข้าใจในเรื่อง พรหมวิหารอย่างไร เมตตาคืออะไร กรุณาคืออะไร
มุตทิตาอีกคืออะไร เรื่องอุเบกขาไม่ต้องก็ได้

ที่อยากให้มาแสดงความเห็นมากที่สุดก็คือ พวกที่ชอบสอน ชอบแนะนำเรื่อง สติปัฏฐานสี่
โดยเฉพาะเรื่อง.....การดูจิต

ใครดูจิตเป็นย่อมต้องรู้อาการของจิตที่เป็น เมตตา กรุณาและมุทิตา
ช่วยเข้ามาอธิบายหน่อยครับ :b13:

เข้ามาตอบหน่อยครับ ผมสัญญาว่าจะไม่หัวเราะเยาะ ครับ :b40:


แต่คนที่ขำคือผมต่างหากล่ะ เหม่ ชะชะช้า ตั้งกระทู้อ่อยเหยื่อ นี่แสดงว่าถ้าใครเข้ามากระทู้นี้คงได้หลงกลโฮกฮาก ตกเป็นลูกพรหม ลูกมารตกตามโฮกฮากไปแหงมๆ แต่ที่ผมเข้ามาเพียงเพื่อจะบอกโฮกฮากว่า คิดว่าคนอื่นไม่รู้ทันน่ะคิดได้ แต่ต้องคิดแล้วเก็บไว้คนเดียว อย่าได้เอาความคิดตัวเองมาประจาน มันไม่เทห์หรอกนะ ชาวบ้านเขารู้ทัน แล้วก็จะอดขำไม่ได้ในความไร้สาระของโฮกฮาก :b13:

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2012, 02:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เสียงธรรม เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ถามพรหมบุตรทั้งหลายครับว่า.....?


อ่อ ที่แท้โฮฏฮากก็นับถือศาสนาฮินดู จึงได้เรียกและนึกเอาเองว่าคนอื่นเขาเป็นบุตรแห่งพรหม
ในศาสนาพุทธเราไม่คิดว่าตัวเองเป็นพรหมบุตรนะครับโฮกฮาก มิน่าล่ะโฮกฮากถึงไม่เข้าใจธรรมมะสักข้อเดียว

บักอันนี้นี่! เจ้าซิฮู้บ่จริง ยังสิเสนอหน้ามาว่าข่อย ฮ่วย... :b9:

พรหมบุตร มันมีความหมายว่า ลูกของพราหมณ์
ในสมัยพุทธกาล มีการแบ่งชั้นวรรณะกัน พราหมณ์เป็นวรรณะหนึ่ง
พระพุทธองค์และเหล่าสาวก มักเรียกคนหนุ่มที่อยู่ในวรรณะพราหมณ์ว่า...พรหมบุตร

ในความเป็นจริง พวกพราหมณ์หรือพรหมบุตร เป็นผู้ยังไม่รู้ซึ่งถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า
ถ้าเป็นในสมัยนี้ก็คือผู้ที่เข้าใจพระธรรมผิดๆถูกๆนั้นแหล่ะครับ

มันก็เหมือนกับเสียงดำหรืออีกหลายคน พออ่านหัวกระทู้
แล้วเข้ามาอ่านเนื้อหาในกระทู้แทนที่จะเข้าใจว่าผมจะสื่ออะไร กลับไปมองหัวกระทู้
แล้วก็หลงปรุงแต่งไปต่างๆนาๆ แทนที่จะเข้าใจให้ได้ว่า ผมจขกทกำลังจะกล่าวถึง ..
ธรรมของพระพุทธเจ้า ที่ว่าด้วยเรื่อง พรหมวิหารสี่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2012, 02:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เสียงธรรม เขียน:
แต่คนที่ขำคือผมต่างหากล่ะ เหม่ ชะชะช้า ตั้งกระทู้อ่อยเหยื่อ นี่แสดงว่าถ้าใครเข้ามากระทู้นี้คงได้หลงกลโฮกฮาก ตกเป็นลูกพรหม ลูกมารตกตามโฮกฮากไปแหงมๆ แต่ที่ผมเข้ามาเพียงเพื่อจะบอกโฮกฮากว่า คิดว่าคนอื่นไม่รู้ทันน่ะคิดได้ แต่ต้องคิดแล้วเก็บไว้คนเดียว อย่าได้เอาความคิดตัวเองมาประจาน มันไม่เทห์หรอกนะ ชาวบ้านเขารู้ทัน แล้วก็จะอดขำไม่ได้ในความไร้สาระของโฮกฮาก :b13:

ใครเขาไปอ่อยเหยี่อ เท่าที่เห็นมันก็ทำตัวเองประจานตัวเองทั้งนั้น
กระทู้เขามีจุดประสงค์จะสื่อธรรมของพระพุทธเจ้า เสียงดำเอากิเลสตัวเอง
มาละเลงอวดชาวบ้าน แทนที่จะเอาชนะคนอื่นด้วยธรรม ดันเอาคำพูดที่น่ารังเกียจ
มาใช้โดยคิดว่า คนอื่นเขาจะอาย "ครับผมอาย แต่เป็นการอายแทนเสียงดำครับ :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2012, 02:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่ผมถามประเด็นมันอยู่ที่ หลักธรรมของ....พรหมวิหารสี่
ก็แค่อยากรู้ว่าเพื่อนสมาชิก มีความเข้าใจกับหลักธรรมนี้แค่ไหนเพียงใด
เพราะเห็นแต่ละคน ชอบอ้างธรรมนี้มาสอนคนอื่นบ่อยๆ
ปากก็พูดจ่อยๆว่า ต้องมีเมตตา กรุณา มุทิตาและอุเบกขา
แทนที่จะสนใจกับสิ่งนี้ ดันไปสนใจเรื่องที่ไม่ได้เป็นสาระ

แบบนี้ก็ทำให้รู้แล้วว่า แต่ละคนไม่ได้มีสติไม่มีสมาธิซึ่งเป็น
หลักสำคัญในพุทธศาสนาเลย

ดังนั้นการที่ผมเรียกท่านทั้งหลายว่า...พรหมบุตร(บุตรของพราหมณ์)นั้นถูกต้องแล้ว
สาเหตุดังที่กล่าวมาแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม มันเป็นคำที่ให้เกียรติ์ยกย่องกันนะครับ
ไม่ใช่คำดูถูก เพราะฐานะพราหมณ์เป็นฐานะที่สูงสุดนะครับ

เมื่อผมยกย่องพวกท่านแล้ว ก็กรุณารักษาเกียรติ์ที่เขาให้ด้วย
ไม่ใช่เขาเรียกฐานะเป็นพราหมณ์ซี่งเป็นฐานะสูง แต่พยายามกระทำตนไม่สมฐานะ
ดันไปประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ต่ำกว่าฐานะที่คนอื่นเขาให้เกียรติ์

วรรณะของอินเดียครับ......

*วรรณะพราหมณ์
*วรรณะกษัตริย์
*วรรณะแพศย์
*วรรณะศูทร
และยังมีอีกวรรณะหนึ่งที่ต่ำมาก นั้นก็คือ จันฑาล :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2012, 03:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็แค่อยากจะรู้ว่า รู้ธรรมเรื่องพรหมวิหารแค่ไหน เข้าใจการพิจารณาธรรมมั้ย

หลักธรรมทั้งสี่ของพรหมวิหาร ไม่ใช่สักแต่พูดปลอบใจคนอื่นเขา
หรือเอาไว้แค่คิดว่าตัวเองดีเลิศประเสิฐศรีเพราะฉันจำคำศัพท์คำนี้ได้

พรหมวิหารสี่เป็นธรรมที่ต้องปฏิบัติต่อผู้อื่น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง
เข้าใจหลักธรรมแต่ละข้อ ธรรมและข้อในพรหมวิหาร ไม่ใช่ใช้ที่เดียวพร้อมกันทุกข้อ
การจะใช้ธรรมใด มันขึ้นกับสิ่งภายนอกที่มากระทบ ต้องพิจารณาว่าควรจะใช้ธรรมข้อใด
ให้เกิดเป็นกุศลต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

การพบเห็นสิ่งใด แล้วจะทำให้ใจเกิดกุศลที่ตรงกับสิ่งที่พบเห็น
มันจะต้องเข้าใจธรรมเสียก่อน...

ตัวอย่างง่ายเลย กับคำว่า"เมตตา" พวกท่านเข้าใจว่าอย่างไร
ปากบอกต้องมีเมตตา แล้วมันอย่างไรล่ะ ถึงตอนไหนต้องมีเมตตา
เท่าที่ผมเฝ้าสังเกตุมา บางคนพูดจ่อยๆเรื่องสติปัฏฐานสอนคนโน้น สอนคนนี้
พอผมถาม อาการของจิตที่เป็น"เมตตา"เป็นอย่างไร ดูคำตอบของแต่ละคน
มันเคยคิดที่จะละอกุศล มุ่งไปที่ธรรมมั้ยล่ะ ไม่เลยแต่ละคนล้วนแล้วแต่มุ่งตรงไป
ที่กิเลสหาอกุศลท่าเดียว มันก็เป็นเพราะไม่รู้จริงว่า อาการของจิตเป็นอย่างไร
แล้วที่สอนชาวบ้านทำกรรมฐานมันหมายถึงอะไร มันก็แค่พวกไม่รู้จริงครับ


***ผมให้แก้ตัวอีกที คนที่ทำกรรมฐานเป็น ย่อมต้องดูจิตเป็น เข้าใจว่าอาการของจิต
เป็นอย่างไร ถามเลยว่า ที่ว่าให้เมตตาคนอื่น อาการของจิตเป็นอย่างไรครับ***


ปล.จะยียวนกวนไนกี้อย่างไรไม่ว่า ขอร้องครับ เอาธรรมมาเสนอบ้าง
เพราะผมไม่ได้อ่านคนเดียว ยังมีเพื่อนๆอีกหลายคนที่อ่านครับ
ธรรมเอาไว้ให้คนอื่นอ่าน ไอ้คำยียวนผมอ่านเองก็ได้ครับ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2012, 03:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 01:57
โพสต์: 324

แนวปฏิบัติ: อริยสัจ4
อายุ: 27
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว


โค้ด:
อาการของจิตที่เป็น"เมตตา"เป็นอย่างไร


ผมเข้าใจว่าเป็นอาการของใจเราตอนที่เราเห็นคนอื่นทุกข์ แล้วเราเห็นใจเขา อยากจะช่วยเขาให้หายทุกข์ครับ

คุณโฮฮับละครับ คิดว่าเมตตาควรมีอาการอย่างไรครับ?

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง การฝืนความจริงทำให้เกิดทุกข์ การเห็นและยอมตามความจริงทำให้หายทุกข์

คนที่รู้ธรรมะ มักจะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนเข้าใจธรรมะ มักจะเอาชนะใจตนเอง

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด

.....ติลักขณาทิคาถา.....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2012, 03:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนธรรมดาๆ เขียน:
โค้ด:
อาการของจิตที่เป็น"เมตตา"เป็นอย่างไร


ผมเข้าใจว่าเป็นอาการของใจเราตอนที่เราเห็นคนอื่นทุกข์ แล้วเราเห็นใจเขา อยากจะช่วยเขาให้หายทุกข์ครับ

คุณโฮฮับละครับ คิดว่าเมตตาควรมีอาการอย่างไรครับ?

สิ่งที่คุณธรรมดาว่ามา ถ้าเอาบัญญัติมากล่าวแทน เขาเรียกว่า..
"กรุณา"ครับไม่ใช่เมตตา

กรุณาเป็นอาการของจิตที่เป็นกุศล อันเกิดจากเห็นคนอื่นกำลังทุกข์
นั้นก็คืออยากให้คนทีทุกข์ พ้นจากทุกข์นั้นครับ


คุณลองไปพิจารณาธรรมในเรื่องเมตตาใหม่ซิครับว่า ในธรรมทั้งสี่ของพรหมวิหาร
เรื่องเมตตา ว่ากันตามจริงแล้วมันมีหรือไม่ อาการของจิตที่ว่าด้วยเมตตามันเป็นอย่างไร
ในพระอภิธรรมที่ว่าด้วย เจตสิกมันไม่ได้กล่าวถึงเมตตาหรอกครับ
คนที่รู้จักพิจารณาธรรมมันเป็นไปไม่ได้เลย อาการของจิตที่เรียกว่าเมตตา

อาการของจิตที่เป็นพรหมวิหาร ในลักษณะที่เป็นเมตตามันเป็นอาการอื่นครับ
เอาไว้จะเข้ามาอธิบาย :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2012, 12:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่าน(ดู)กาย เหนจิต อ่าน(ดู)จิต เหน ธรรม
เหนธรรมที่ว่านี้ คือ วิหารธรรม พรหมวิหารธรรม และสติปัฐฐานทั้ง4 ฐาน
และมีความรู้ 4 รู้ 4 อย่างตามมา คือ4 รู้: รู้จัก รู้จำ รู้จริง รู้แจ้ง :b40:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2012, 13:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


cool พี่โฮจ๋า แล้วอาการของจิตที่จะต้องให้สิ่งที่เรารักปานแก้วตาดวงใจแก่คนอื่น เพราะเราอยากให้เค้าไปมีอนาคตที่ดี มีชีวิตที่ดี แบบนี้เค้าเรียกว่าเมตตาหรือเปล่าเจ้าค่ะ อยากเอาคืนนะเจ้าค่ะเพราะคิดถึงใจจะขาด cry cry คุนน้องทั้งรักทั้งเมตตาอ่ะ เลยทำแบบนี้ :b45:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 41 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร