วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 17:48  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 89 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2012, 16:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุครับ :b8: ตอนนี้ขอแค่ 5 ก่อนละกันครับ 8 ยังไม่ถึง :b12:

แต่ตอนไหนที่ยังไม่ยุ่งกับภรรยา ผมก็มี 8 น้า ศีลน่ะ แต่แปดชั่วคราวยังไม่ถาวร

:b10: แต่ลองนับดูทั้งวันหรือหลายๆวันผมมี 8 มากกว่า 5 แฮะ :b16:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2012, 19:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิต เขียน:
สาธุครับ :b8: ตอนนี้ขอแค่ 5 ก่อนละกันครับ 8 ยังไม่ถึง :b12:

แต่ตอนไหนที่ยังไม่ยุ่งกับภรรยา ผมก็มี 8 น้า ศีลน่ะ แต่แปดชั่วคราวยังไม่ถาวร

:b10: แต่ลองนับดูทั้งวันหรือหลายๆวันผมมี 8 มากกว่า 5 แฮะ :b16:


ตะวัน เขียน:

.............ขออนุโมทนาด้วยมากๆครับ...............
ที่จะร่วมเดินทางไปให้พ้นทุกข์ในวัฏฏะสงสารด้วยกัน
โดยมีจุดหมาย...คือพระนิพพาน...อันเป็นแดนบรมสุข
..............ที่เที่ยงแท้ตลอดอนันตกาล...............


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2012, 16:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


หลายวันมานี้ผมใช้วิธีฝึกแบบเกลือจิ้มเกลือ แบบไม่ถอยข้าพเจ้าเปิดหนังอย่างว่าดูเป็นเวลานานทั้งภาพและเสียง ทำไห้ร่างกายเกิดปฎิกิริยาทางเคมีพอสมควร แต่หลายวันมานี้ มันทำอะไรข้าเจ้าไม่ได้เลย ข้าพเจ้าเป็นฝ่ายชนะมันแล้ว ข้าพเจ้ายิ่งมั่นใจว่าทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าศัตรูของข้าพเจ้าเหลือน้อยเต็มที่แล้ว :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2012, 17:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b17: :b17: :b17:

อิอิ....ทดสอบพละกำลังหรอ...กดหรือวาง..ละ

กด...อย่างไร....

วาง...อย่างไร...

อิอิ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2012, 17:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
:b17: :b17: :b17:

อิอิ....ทดสอบพละกำลังหรอ...กดหรือวาง..ละ

กด...อย่างไร....

วาง...อย่างไร...

อิอิ...
ทดสอบกำลังหน่อยซ้อมมานานแล้วอิๆ :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 01:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
student เขียน:
ผมคงทำไม่ได้เพราะผมยังไม่มีลูกเลย ต้องมีลูกก่อน ค่อยว่ากัน
ผมว่าการไม่มีลูกซิ ! ดี จะได้ไม่ต้องมีห่วง tongue



ชีวิตของผม ของความเป็นฆารวาสยังอีกนาน อาจจะตายในความเป็นฆารวาสเสียก่อนก็เป็นได้ เพียงแต่เราเตรียมพร้อม หากจะตายก็ต้องตายในคราบความเป็นมนุษย์นั่นเอง

ตอนนี้ไม่มีลูกจึงตอบไม่ได้ว่าจะห่วงแค่ไหน

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 03:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2011, 22:25
โพสต์: 59

แนวปฏิบัติ: รักษาศีลให้แน่นหนามั่นคง
ชื่อเล่น: Soduku
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาคุณBigtoo และทุกท่านๆนะครับที่ดำริหรือเคยดำริจะเดินทางสู่เส้นทางแห่งศีลพรหมจรรย์ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย เพราะแม้แต่พระภิกษุที่เดิมมีชื่อเสียงและมีคนนับถือมากรวมทั้งพระสงฆ์ตำแหน่งถึงเจ้าอาวาสหลายรูปต้องถูกปาราชิกไป ไม่สามารถฝืนแรงกระตุ้น DNA ที่มีมาตั้งแต่เกิดในการสืบดำรงเผ่าพันธุ์ของสัตว์โลก ตามที่เห็นเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์เป็นระยะ ๆ

อีกทั้งในแง่หลักปฏิบัติของนักบวชหรือภิกษุในบางนิกายทางพุทธศาสนาของต่างประเทศบางแห่งเช่น ญี่ปุ่น เวียตนาม จีน ธิเบต ดูเหมือนไม่ค่อยเคร่งครัดในหลักศึลแปด หรือศีลของพระเหมือนของไทย เช่น ตามข่าวนักบวชของเขาสามารถถูกตัวสีกา มีภรรยา ฉันอาหารหลังเที่ยง เล่นกีฬาดนตรี อะไร ทำนองนี้ได้ ซึ่งก็น่าแปลกใจเหมือนกันหรือว่าทำไมพระไตรปิฏก ที่ถือจึงยังต่างกันอยู่มาก

ส่วนตัวผมเห็นว่าจุดมุ่งหมายในการถือศีลพรหมจรรย์ ก็เพื่อให้เกิดความตระหนักแก่ผู้ปฏิบัติให้ละสิ่งที่เชื่อว่าเป็นต้นตอแห่งภพคือความอยากมีอยากเป็นที่ทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะสงสาร เพื่อให้สามารถเข้าสู่กระแสแห่งนิพพานซึ่งเป็นเป้าหมายในการเข้าถึงธรรมสูงสุดทางพระพุทธศาสนาซึ่งเข้าใจว่าคงเหมือนกับที่เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ในที่นี้เข้าใจกัน

อุบายในการเอาชนะมารกิเลสที่จะมาทำลายศีลพรหมจรรย์นี้ จากประสบการณ์ของผมใช้การพิจารณาแยกธาตุแยกขันต์ร่างกายออกเป็นส่วน ๆ และตระหนักเห็นความไม่เที่ยง เห็นสัจจะในเรื่องอสุภะ เมื่อผัสสะกระทบกับสิ่งเร้าอารมณ์ภายนอก ใช้กำลังสติที่ได้ฝึกไว้ก่อนหน้า ในการชนะมารกิเลสในใจตน โดยอาศัยพลังความมุ่งมั่นตั้งใจจากสัจจะที่จะยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นด้วยความไม่ประมาทของพระพุทธองค์ช่วยเสริมเป็นเกราะคุ้มกันให้ได้อย่างดีทางหนึ่ง

สรุป ผมเห็นว่าการถือศีลพรหมจรรย์เป็นสนามปฏิบัติธรรมใหญ่อันหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติได้มีโอกาสฝึกฝนกำลังสติ ปัญญา และความมั่นคงของจิตเพื่อให้สามารถชนะกิเลสที่ฝังอยู่ในใจตน จะได้เข้าถึงธรรมที่สูงขึ้นต่อไปได้ง่ายขึ้น และจนสุดท้ายเข้าถึงนิพานหมดสิ้นกิเลส ซึ่งหากบรรลุนิพานขณะยังเป็นฆราวาส ต้องเข้าบวชเป็นพระภายใน 7 วัน มิฉะนั้นจะต้องเสียชีวิต (สำหรับความสุดท้ายไม่แน่ใจว่าเป็นเท็จจริงประการใด ได้ยินจากพระผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเทศน์ให้ฟัง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 06:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Soduku เขียน:
ขออนุโมทนาคุณBigtoo และทุกท่านๆนะครับที่ดำริหรือเคยดำริจะเดินทางสู่เส้นทางแห่งศีลพรหมจรรย์ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย เพราะแม้แต่พระภิกษุที่เดิมมีชื่อเสียงและมีคนนับถือมากรวมทั้งพระสงฆ์ตำแหน่งถึงเจ้าอาวาสหลายรูปต้องถูกปาราชิกไป ไม่สามารถฝืนแรงกระตุ้น DNA ที่มีมาตั้งแต่เกิดในการสืบดำรงเผ่าพันธุ์ของสัตว์โลก ตามที่เห็นเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์เป็นระยะ ๆ

อีกทั้งในแง่หลักปฏิบัติของนักบวชหรือภิกษุในบางนิกายทางพุทธศาสนาของต่างประเทศบางแห่งเช่น ญี่ปุ่น เวียตนาม จีน ธิเบต ดูเหมือนไม่ค่อยเคร่งครัดในหลักศึลแปด หรือศีลของพระเหมือนของไทย เช่น ตามข่าวนักบวชของเขาสามารถถูกตัวสีกา มีภรรยา ฉันอาหารหลังเที่ยง เล่นกีฬาดนตรี อะไร ทำนองนี้ได้ ซึ่งก็น่าแปลกใจเหมือนกันหรือว่าทำไมพระไตรปิฏก ที่ถือจึงยังต่างกันอยู่มาก

ส่วนตัวผมเห็นว่าจุดมุ่งหมายในการถือศีลพรหมจรรย์ ก็เพื่อให้เกิดความตระหนักแก่ผู้ปฏิบัติให้ละสิ่งที่เชื่อว่าเป็นต้นตอแห่งภพคือความอยากมีอยากเป็นที่ทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะสงสาร เพื่อให้สามารถเข้าสู่กระแสแห่งนิพพานซึ่งเป็นเป้าหมายในการเข้าถึงธรรมสูงสุดทางพระพุทธศาสนาซึ่งเข้าใจว่าคงเหมือนกับที่เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ในที่นี้เข้าใจกัน

อุบายในการเอาชนะมารกิเลสที่จะมาทำลายศีลพรหมจรรย์นี้ จากประสบการณ์ของผมใช้การพิจารณาแยกธาตุแยกขันต์ร่างกายออกเป็นส่วน ๆ และตระหนักเห็นความไม่เที่ยง เห็นสัจจะในเรื่องอสุภะ เมื่อผัสสะกระทบกับสิ่งเร้าอารมณ์ภายนอก ใช้กำลังสติที่ได้ฝึกไว้ก่อนหน้า ในการชนะมารกิเลสในใจตน โดยอาศัยพลังความมุ่งมั่นตั้งใจจากสัจจะที่จะยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นด้วยความไม่ประมาทของพระพุทธองค์ช่วยเสริมเป็นเกราะคุ้มกันให้ได้อย่างดีทางหนึ่ง

สรุป ผมเห็นว่าการถือศีลพรหมจรรย์เป็นสนามปฏิบัติธรรมใหญ่อันหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติได้มีโอกาสฝึกฝนกำลังสติ ปัญญา และความมั่นคงของจิตเพื่อให้สามารถชนะกิเลสที่ฝังอยู่ในใจตน จะได้เข้าถึงธรรมที่สูงขึ้นต่อไปได้ง่ายขึ้น และจนสุดท้ายเข้าถึงนิพานหมดสิ้นกิเลส ซึ่งหากบรรลุนิพานขณะยังเป็นฆราวาส ต้องเข้าบวชเป็นพระภายใน 7 วัน มิฉะนั้นจะต้องเสียชีวิต (สำหรับความสุดท้ายไม่แน่ใจว่าเป็นเท็จจริงประการใด ได้ยินจากพระผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเทศน์ให้ฟัง)
สาธุๆ :b8:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 07:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ในขณะที่เราดูหนังประเภทนี้ ธาตุขันต์ทุกอย่างจะทำตามหน้าที่ของมันเองฮอร์โมนพุ่งพล่าน ถ้าเราไม่ได้ฝึกสติปัญญามากพอที่จะยับยั้งมันเลย มันก็จะจบกิจด้วยตัวมันเองคือกิเลสเสร็จความใคร่กลับไปนอนพักสบาย อ้วนพลีมีกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

การที่แขกมาเยี่ยมบ้านเราบ่อยๆแต่เราไม่เปิดโอกาสให้แขกได้กินน้ำกินท่าไม่พูดคุยโค้ตอบเดี๋ยวแขกก็หน้าแตกกับไปเอง ต่อไปแขกก็ไม่มาเยี่ยมเรา หรือพูดอีกนัยหนึ่งว่าเราไม่เติมอาหารให้แก่จิต เดี๋ยวจิตมันก็อ่อนแรงลงและหมดแรงไปในที่สุด ขอเพียงว่าในขณะนั้นอย่าใจอ่อนยอมมันเสียก่อนล่ะแล้วจะพลาดกลายเป็นไปเติมเชื้อให้มันไปในต้ว และทฤษฎีนี้ใช้ได้ทุกอย่าง นะครับรับประกัน :b4: :b4: :b4:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 07:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ตีงู....ต้องตีให้ถูกตัว...เอาให้ชัวร์ต้องที่หัวชั๊วะเดียว...

ตอนนี้...ยังคลำอยู่...ก็เอาศีลเอาสมถะ...กดมันใว้อย่าให้แพร่ระบาด

เห็นหัวเห็นตัวเมื่อไร....จะมาโม้ให้ฟัง..อิอิ..

:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 08:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ตีงู....ต้องตีให้ถูกตัว...เอาให้ชัวร์ต้องที่หัวชั๊วะเดียว...

ตอนนี้...ยังคลำอยู่...ก็เอาศีลเอาสมถะ...กดมันใว้อย่าให้แพร่ระบาด

เห็นหัวเห็นตัวเมื่อไร....จะมาโม้ให้ฟัง..อิอิ..

:b32: :b32:
การไม่ต้อนรับแขก นั้นแหละครับปัญญา :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 09:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ต่างกันมาก....ระหว่าง...ต้องใช้ความพยายามในการปัด..ปล่อย...วาง....กับ...วางไปแล้ว

แต่...จะต่างกันน้อยลงไปทุกที..ที่ฝึกการปัด การปล่อย...การวาง..จนชำนาญ...แต่ก็ยังไม่ใช่...การวางไปแล้ว

เพราะ...ยังมีความที่ต้องพยายามอยู่..นิด นิด...

อยากจะเรียกว่า....น่าจะเป็นปัญญา..ที่พ้นผ่านขึ้นไปจากปัญญาของสติสัมปชัญญะ...อีก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 09:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ครูบาอาจารย์...สั่งสอนเสมอว่า...ให้เพียรใส่ข้อมูลที่ถูกต้องไปเรื่อย ๆ...จนใจมันอิ่มเต็ม...เมื่อใจมันอื่มเต็มแล้ว...เขาจะตัดสินวางด้วยตัวเขาเอง.....

หน้าที่เราคือ...ป้อนข้อมูลที่ถูกต้องลงไปเรื่อย ๆ....

หากเราชนะกิเลสตัวไหนครั้งหนึ่งแล้ว....เราก็ชนะตัวอื่นได้ด้วยกระบวนการคล้าย ๆ กัน

ที่ใคร ๆ ชอบยกตัวอย่างเรื่อง.....การเติมน้ำสะอาดลงในแก้ว...นั้นแหละ...คือการกำจัดขยะใจ...เพียรใส่น้ำสะอาดไปเรื่อย ๆ...ที่สุดน้ำในแก้ว..ก็มีเพียงน้ำสะอาดแต่เพียงอย่างเดียว

ผมจึงค้านการกำจัดขยะใจที่เพียงนิ่งรู้อย่างเดียว....คือ...ต้องเกินนิ่งรู้ไปอีกนิดหนึ่ง...นะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 10:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ต่างกันมาก....ระหว่าง...ต้องใช้ความพยายามในการปัด..ปล่อย...วาง....กับ...วางไปแล้ว

แต่...จะต่างกันน้อยลงไปทุกที..ที่ฝึกการปัด การปล่อย...การวาง..จนชำนาญ...แต่ก็ยังไม่ใช่...การวางไปแล้ว

เพราะ...ยังมีความที่ต้องพยายามอยู่..นิด นิด...

อยากจะเรียกว่า....น่าจะเป็นปัญญา..ที่พ้นผ่านขึ้นไปจากปัญญาของสติสัมปชัญญะ...อีก
ของบางอย่างเพียงรู้ก็วางได้ ของบางอย่างรู้อย่างเดียววางไม่ได้ก็ต้องมีวิธี การไม่ต้อนรับแขก คืออุเบกขาดีๆนี่เอง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 10:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ครูบาอาจารย์...สั่งสอนเสมอว่า...ให้เพียรใส่ข้อมูลที่ถูกต้องไปเรื่อย ๆ...จนใจมันอิ่มเต็ม...เมื่อใจมันอื่มเต็มแล้ว...เขาจะตัดสินวางด้วยตัวเขาเอง.....

หน้าที่เราคือ...ป้อนข้อมูลที่ถูกต้องลงไปเรื่อย ๆ....

หากเราชนะกิเลสตัวไหนครั้งหนึ่งแล้ว....เราก็ชนะตัวอื่นได้ด้วยกระบวนการคล้าย ๆ กัน

ที่ใคร ๆ ชอบยกตัวอย่างเรื่อง.....การเติมน้ำสะอาดลงในแก้ว...นั้นแหละ...คือการกำจัดขยะใจ...เพียรใส่น้ำสะอาดไปเรื่อย ๆ...ที่สุดน้ำในแก้ว..ก็มีเพียงน้ำสะอาดแต่เพียงอย่างเดียว

ผมจึงค้านการกำจัดขยะใจที่เพียงนิ่งรู้อย่างเดียว....คือ...ต้องเกินนิ่งรู้ไปอีกนิดหนึ่ง...นะครับ
การเติมความรู้เป็นสิ่งดีครับ และความรู้ที่เรารู้นะมันสุดยอดแล้วไม่มีความรู้ใดยิ่งกว่านี้ แต่ความรู้มันมักมาไม่ทันหนึ่ง มาแล้วกำลังไม่ถึงหนึ่ง

มันก็เลยวางไม่ได้จริงๆ ฉะนั้นจำต้องมีการทดลองที่จะฝึกลดละไปทีละน้อยๆ วิธีที่จะฝึกลดละคือ การเข้าไปกำหนดเลยก็ว่าได้ ลดที่อะไร ลดยังไง ตั้งใจกำหนดลดไปทีละอย่างสองอย่าง และวิธีก็แตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่ผมใช้ตรงๆเจอกันตรงเราจะรู้ทั้งเขาและเรา ว่าเขามีกำลังแค่ไหนเรามีกำลังแคไหน และเขาคืออะไรทำไมเราถึงตัดเขาไม่ได้

ธัมวิจัยก็เกิดขึ้นเป็นสภาวะจริงๆทั้งความคิดและความรู้สึกก็เกิดขึ้นพร้อมกัน และเมื่อเรารู้จุดที่จะชนะมันก็จบเรื่องเท่านั้นครับ และวันนี้ที่ผมบอกเรื่องเพศนั้นถ้าเราเปิดหนังดูนานๆขนาดนั้นและเราชนะมันได้แล้ว ที่เหลือก็เป็นเรื่องเล็กขนาดบรรยากาศที่ก่อให้เกิดความกำหนัดเรายังห้ามได้ และบรรยากาศอื่นๆเรายิ่งสบายเลยนี่เป็นวิธีหนึ่งที่น่าทดลองใช้ได้ดีทีเดียว :b4:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แก้ไขล่าสุดโดย bigtoo เมื่อ 26 ส.ค. 2012, 11:51, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 89 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร