วันเวลาปัจจุบัน 24 มิ.ย. 2025, 04:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 247 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15 ... 17  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2012, 07:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อิอิ....

เขาไม่ชอบลำบากกันหรอก บิกทู...

วาสนาเขาสบายกว่า บิกทู..เยอะ

:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2012, 08:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อิอิ....

เขาไม่ชอบลำบากกันหรอก บิกทู...

วาสนาเขาสบายกว่า บิกทู..เยอะ

:b13:
ระวังสบายตอนเด็กจะลำบากตอนแก่นะพี่กบอิๆๆ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2012, 08:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องไปเตือนพวกเขา..โน้น...

ไม่ใช่ผม...

อิอิ.... :b12:

ไม่อยากโม้...ว่าผมรู้ว่าตัวเองจะสำเร็จท่าไหน..หุหุ

ท่าลำบาก ๆ เฉียด ๆ ตาย...นั้นแหละ

ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาของมัน.. :b32: :b32: :b32:

ฝากใว้ก่อน..นะโรบิ้น :b12:


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 20 ส.ค. 2012, 08:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2012, 08:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ต้องไปเตือนพวกเขา..โน้น...

ไม่ใช่ผม...

อิอิ.... :b12:
นึกว่าพี่กบชอบสบายเหมือนเขาอิๆๆ :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2012, 08:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สบาย ๆ ใครก็ชอบ...

ผมก็ชอบ..

แต่...มันรู้..งะ

อิอิ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2012, 08:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
สบาย ๆ ใครก็ชอบ...

ผมก็ชอบ..

แต่...มันรู้..งะ

อิอิ..
ผมก็ชอบความสบาย.. เหมือนกัน ทุกคนชอบนะความสบายนะ แต่จะเอาแบบถาวรก็ต้องออกแรงกันหน่อยเหมือนเราสร้างฐานะให้กับตนเอง ให้รวย.. ให้ไว.. จะได้พักผ่อนได้เร็วและตลอดจนวันตาย เหมือนกับธรรมะนั้นตอนแรกก็ต้องออกแรงก่อน พอได้แล้วก็สบายๆไม่ต้องอะไรมาก :b4: :b4:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แก้ไขล่าสุดโดย bigtoo เมื่อ 20 ส.ค. 2012, 09:00, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2012, 08:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
bigtoo เขียน:
ไม่มีอะไร เขียน:
เมื่อท่านทั้งหลายอ่านในสิ่งที่นำมาโพสนี้
แล้ว ไม่ตรงกับทิฐิมานะของท่าน ก็ช่างมันเถอะ นะ
ไม่ต้องไปมีอะไรกับมัน ก็ปล่อยมันไป

แต่ถ้าท่านใดอ่านแล้ว คลายออกจากวังวนที่หลงวนอยู่ได้
สาธุโมทนา ด้วยครับ

สำหรับข้อถามที่ท่าน จขกท ถามไว้ น่าจะมีคำตอบจาก
ที่โพสไว้นี้แล้วนะ



สิ่งใดที่ล่วงเกิดต่อท่านทั้งหลาย ขออโสิกรรม ณ ที่นี่
ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา ในกิเลสกรรมทั้งหลายอีกต่อไป
สาธุ อโหสิ อโหสิ อโหสิ


ความเห็นของท่าน ดูเหมือนจะเข้าใจธรรมะดีพอควร แต่ผิดในหลักการมากเลย เพราะพระพุทธองค์ทรงตรัสแต่สิ่งที่มีประโยชน์และเป็นจริงเท่านั้น ท่านคงรู้นะครับว่าพระพุทธองค์ทรงตรัสอะไรไว้มาก บทอธิฐานความเพียร อานาปานสติ ฯลฯ ทุกอย่างล้วนแต่ต้องลงมือทำทั้งนั้น ใช้แต่จินตามยปัญญาไม่ได้หรอกครับ และถ้าท่านยังไม่สามารถรับความรู้สึกที่เกิดดับทั่วร่างกายในขณะนี้นั้นซึ่งมันเกิดขึ้นจริงทุกขณะนั้นท่านยังห่างไกลความจริงมากครับ





ตาทู่ ถามจริงๆ นอกจากทำกับข้าวให้ภรรยา พวกงานบ้าน งานรีดเสื้อผ้า เรียกว่า งานต่างๆในบ้านทั้งหมด ตาทู่ทำเองหมดเลยหรือเปล่า?




สิ่งที่วลัยพร ถามไป เพื่อต้องการรู้ว่า เขาทำงานบ้านทั้งหมดหรือไม่ หรือ ว่า ทำเพียงกับข้าวอย่างเดียว งานอื่นๆไม่เอา ปล่อยให้ภรรยาทำ ถ้าทำแบบนี้ ถือว่า ใช้ไม่ได้ เอาเปรียบคนทำงาน



ขออภัยท่านพุทธฎีกา ที่จำเป็นต้องเขียนแบบนั้น ข้อความที่ท่านลบทิ้งไป อาจจะดูเป็นถ้อยคำที่ไม่สุภาพ แต่สิ่งวลัยพรกล่าว นำมาจากสิ่งที่อาจมีเกิดขึ้นในชีวิต ตามความเป็นจริง วลัยพรไม่ได้คิดล่วงเกินแต่อย่างใด

เพียงแต่ ต้องการนำเหตุการณ์จริงๆ มาถาม เพื่อจะดูว่า คำตอบนั้น จะตอบมาทำนองไหน ถ้ายังมีการพยายามอธิบาย แบบที่กระทำอยู่ในเว็บบอร์ด

ก็จะอธิบายให้เขาได้รู้ว่า สิ่งที่คุณไม่มีอะไร กล่าวมาทั้งหมดนั้น คำว่า ช่างมัน ไม่ว่าใครจะพูดว่าอะไร ช่างมัน นั่นหมายถึง การอยู่กับปัจจุบันธรรม เป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่คุณบิ๊กทู่กำลังทำอยู่


สิ่งที่คณไม่มีอะไร นำมากล่าวนั้น เป็นการดับเหตุของการเกิดภพชาติปัจจุบัน เป็นผลให้การเจริญภาวนา เป็นไปตามเหตุปัจจัย

ส่วนผู้ที่ยังสร้างเหตุนอกตัว สภาวะมักจะวนๆเดิมๆซ้ำๆ อยู่แค่นั้นเอง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2012, 08:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
walaiporn เขียน:
bigtoo เขียน:
ไม่มีอะไร เขียน:
เมื่อท่านทั้งหลายอ่านในสิ่งที่นำมาโพสนี้
แล้ว ไม่ตรงกับทิฐิมานะของท่าน ก็ช่างมันเถอะ นะ
ไม่ต้องไปมีอะไรกับมัน ก็ปล่อยมันไป

แต่ถ้าท่านใดอ่านแล้ว คลายออกจากวังวนที่หลงวนอยู่ได้
สาธุโมทนา ด้วยครับ

สำหรับข้อถามที่ท่าน จขกท ถามไว้ น่าจะมีคำตอบจาก
ที่โพสไว้นี้แล้วนะ



สิ่งใดที่ล่วงเกิดต่อท่านทั้งหลาย ขออโสิกรรม ณ ที่นี่
ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา ในกิเลสกรรมทั้งหลายอีกต่อไป
สาธุ อโหสิ อโหสิ อโหสิ


ความเห็นของท่าน ดูเหมือนจะเข้าใจธรรมะดีพอควร แต่ผิดในหลักการมากเลย เพราะพระพุทธองค์ทรงตรัสแต่สิ่งที่มีประโยชน์และเป็นจริงเท่านั้น ท่านคงรู้นะครับว่าพระพุทธองค์ทรงตรัสอะไรไว้มาก บทอธิฐานความเพียร อานาปานสติ ฯลฯ ทุกอย่างล้วนแต่ต้องลงมือทำทั้งนั้น ใช้แต่จินตามยปัญญาไม่ได้หรอกครับ และถ้าท่านยังไม่สามารถรับความรู้สึกที่เกิดดับทั่วร่างกายในขณะนี้นั้นซึ่งมันเกิดขึ้นจริงทุกขณะนั้นท่านยังห่างไกลความจริงมากครับ





ตาทู่ ถามจริงๆ นอกจากทำกับข้าวให้ภรรยา พวกงานบ้าน งานรีดเสื้อผ้า เรียกว่า งานต่างๆในบ้านทั้งหมด ตาทู่ทำเองหมดเลยหรือเปล่า?




สิ่งที่วลัยพร ถามไป เพื่อต้องการรู้ว่า เขาทำงานบ้านทั้งหมดหรือไม่ หรือ ว่า ทำเพียงกับข้าวอย่างเดียว งานอื่นๆไม่เอา ปล่อยให้ภรรยาทำ ถ้าทำแบบนี้ ถือว่า ใช้ไม่ได้ เอาเปรียบคนทำงาน



ขออภัยท่านพุทธฎีกา ที่จำเป็นต้องเขียนแบบนั้น ข้อความที่ท่านลบทิ้งไป อาจจะดูเป็นถ้อยคำที่ไม่สุภาพ แต่สิ่งวลัยพรกล่าว นำมาจากสิ่งที่อาจมีเกิดขึ้นในชีวิต ตามความเป็นจริง วลัยพรไม่ได้คิดล่วงเกินแต่อย่างใด

เพียงแต่ ต้องการนำเหตุการณ์จริงๆ มาถาม เพื่อจะดูว่า คำตอบนั้น จะตอบมาทำนองไหน ถ้ายังมีการพยายามอธิบาย แบบที่กระทำอยู่ในเว็บบอร์ด

ก็จะอธิบายให้เขาได้รู้ว่า สิ่งที่คุณไม่มีอะไร กล่าวมาทั้งหมดนั้น คำว่า ช่างมัน ไม่ว่าใครจะพูดว่าอะไร ช่างมัน นั่นหมายถึง การอยู่กับปัจจุบันธรรม เป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่คุณบิ๊กทู่กำลังทำอยู่
เป็นอันว่างานที่คุณบอกมามันเล็กน้อย ผมทำมันมากพอ เพราะผมทำทั้งส่วนตัว สังคม คนรอบข้าง สัตว์รอบข้าง :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2012, 09:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
walaiporn เขียน:
walaiporn เขียน:
bigtoo เขียน:
ไม่มีอะไร เขียน:
เมื่อท่านทั้งหลายอ่านในสิ่งที่นำมาโพสนี้
แล้ว ไม่ตรงกับทิฐิมานะของท่าน ก็ช่างมันเถอะ นะ
ไม่ต้องไปมีอะไรกับมัน ก็ปล่อยมันไป

แต่ถ้าท่านใดอ่านแล้ว คลายออกจากวังวนที่หลงวนอยู่ได้
สาธุโมทนา ด้วยครับ

สำหรับข้อถามที่ท่าน จขกท ถามไว้ น่าจะมีคำตอบจาก
ที่โพสไว้นี้แล้วนะ



สิ่งใดที่ล่วงเกิดต่อท่านทั้งหลาย ขออโสิกรรม ณ ที่นี่
ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา ในกิเลสกรรมทั้งหลายอีกต่อไป
สาธุ อโหสิ อโหสิ อโหสิ


ความเห็นของท่าน ดูเหมือนจะเข้าใจธรรมะดีพอควร แต่ผิดในหลักการมากเลย เพราะพระพุทธองค์ทรงตรัสแต่สิ่งที่มีประโยชน์และเป็นจริงเท่านั้น ท่านคงรู้นะครับว่าพระพุทธองค์ทรงตรัสอะไรไว้มาก บทอธิฐานความเพียร อานาปานสติ ฯลฯ ทุกอย่างล้วนแต่ต้องลงมือทำทั้งนั้น ใช้แต่จินตามยปัญญาไม่ได้หรอกครับ และถ้าท่านยังไม่สามารถรับความรู้สึกที่เกิดดับทั่วร่างกายในขณะนี้นั้นซึ่งมันเกิดขึ้นจริงทุกขณะนั้นท่านยังห่างไกลความจริงมากครับ





ตาทู่ ถามจริงๆ นอกจากทำกับข้าวให้ภรรยา พวกงานบ้าน งานรีดเสื้อผ้า เรียกว่า งานต่างๆในบ้านทั้งหมด ตาทู่ทำเองหมดเลยหรือเปล่า?




สิ่งที่วลัยพร ถามไป เพื่อต้องการรู้ว่า เขาทำงานบ้านทั้งหมดหรือไม่ หรือ ว่า ทำเพียงกับข้าวอย่างเดียว งานอื่นๆไม่เอา ปล่อยให้ภรรยาทำ ถ้าทำแบบนี้ ถือว่า ใช้ไม่ได้ เอาเปรียบคนทำงาน



ขออภัยท่านพุทธฎีกา ที่จำเป็นต้องเขียนแบบนั้น ข้อความที่ท่านลบทิ้งไป อาจจะดูเป็นถ้อยคำที่ไม่สุภาพ แต่สิ่งวลัยพรกล่าว นำมาจากสิ่งที่อาจมีเกิดขึ้นในชีวิต ตามความเป็นจริง วลัยพรไม่ได้คิดล่วงเกินแต่อย่างใด

เพียงแต่ ต้องการนำเหตุการณ์จริงๆ มาถาม เพื่อจะดูว่า คำตอบนั้น จะตอบมาทำนองไหน ถ้ายังมีการพยายามอธิบาย แบบที่กระทำอยู่ในเว็บบอร์ด

ก็จะอธิบายให้เขาได้รู้ว่า สิ่งที่คุณไม่มีอะไร กล่าวมาทั้งหมดนั้น คำว่า ช่างมัน ไม่ว่าใครจะพูดว่าอะไร ช่างมัน นั่นหมายถึง การอยู่กับปัจจุบันธรรม เป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่คุณบิ๊กทู่กำลังทำอยู่


เป็นอันว่างานที่คุณบอกมามันเล็กน้อย ผมทำมันมากพอ เพราะผมทำทั้งส่วนตัว สังคม คนรอบข้าง สัตว์รอบข้าง :b12:





สิ่งที่สำคัญ คือ ข้อความที่ท่านพุทธฎีกา ลบไปต่างหาก แต่ช่างมันเถอะ ปล่อยมันทิ้งไป เหตุของใคร ของคนนั้น เท่านั้นเอง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2012, 09:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมกำลังคิดว่า....

การไปเป็น...อรูปพรหม...นี้....ด้วยการยึดว่าไม่มีอะไร(แต่..จริง ๆ คือ ยังมีอยู่)

การไม่สร้างเหตุ...อย่างคุณวลัยพร..หรือ....ช่างมัน...อย่างคนไม่มีอะไร...เนี้ย

จะมีโอกาส..ไหนบ้างมั้ย..ที่จะหลุด..เข้าเขตอรูปพรหม????

s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2012, 09:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


การปฎิบัติธรรมที่ถกเถียงกันอยู่ทุกวันนี้ก็มีอยู่2แบบ คือแบบคุณไม่มีอะไร และแบบนั่งปฎิบัติ และทุกอริยบถ อานาปานสติ บทอธิฐานความเพียร พระองค์ก็ทรงตรัสเองแม้เลือดเนื้อจะเหือดแห้งกระดูกจะแตก ถ้าไม่บรรลุธรรมก็จะไม่ยอมถ้อถอย ตรงนี้เอาไปไว้ไหน จะเอาแต่ทางความคิดอย่างเดียวมันได้จริงเหรอ สัมมาทิฎฐิอย่างเดียวถ้าได้จริง มรรคอีก7ข้อจะมีทำไม ลองพิจารณาดูศิครับ :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2012, 09:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ผมกำลังคิดว่า....

การไปเป็น...อรูปพรหม...นี้....ด้วยการยึดว่าไม่มีอะไร(แต่..จริง ๆ คือ ยังมีอยู่)

การไม่สร้างเหตุ...อย่างคุณวลัยพร..หรือ....ช่างมัน...อย่างคนไม่มีอะไร...เนี้ย

จะมีโอกาส..ไหนบ้างมั้ย..ที่จะหลุด..เข้าเขตอรูปพรหม????

s006



"ด้วยการยึดว่าไม่มีอะไร"

ยังมียึด ยอมรับไปตามความเป็นจริง แต่ไม่เอาสิ่งที่ยึดอยู่(ความยินดี ยินร้าย) ไปสร้างเหตุนอกตัว



"จะมีโอกาส..ไหนบ้างมั้ย..ที่จะหลุด..เข้าเขตอรูปพรหม"

อรูปพรหม เป็นเรื่องของสมาธิ ที่เป็นมิจฉาสมาธิ (สมาธิที่ขาดความรู้สึกตัวทั่วพร้อม)



"การไม่สร้างเหตุ...อย่างคุณวลัยพร..หรือ....ช่างมัน...อย่างคนไม่มีอะไร..."

เป็นเรื่องของ โยนิโสมนสิการ คนละเรื่องกันกับอรูปพรหม

โยนิโสมนสิการ ผลที่เกิด คือ มรรค มีองค์ ๘

เช่น ปัจจุบันธรรม ที่ยกตัวอย่างให้ฟังบ่อยๆ เรื่อง การไม่สร้างเหตุ ยิ่งไม่สร้าง กำลังของสติยิ่งมีมากขึ้น สัมปชัญญะ ย่อมเกิดขึ้นได้ง่าย

เมื่อหยุดสร้างเหตุนอกตัว สภาวะย่อมดำเนินไปตามเหตุปัจจัย เวลาปฏิบัติเต็มรูปแบบ เช่น การนั่งสมาธิ จิตย่อมตั้งมั่นได้ง่าย เมื่อปรับอินทรีย์ สติกับสมาธิสมดุลย์ สัมมาสมาธิย่อมเกิดขึ้น ใช้หลักโยนิโสมนสิการ เหมือนเดิม คือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขณะจิตเป็นสมาธิ แค่รู้ไปอย่างเดียว ทำได้แบบนี้ มรรค มีองค์ ๘ ย่อมเกิดขึ้น ตามเหตุปัจจัยเอง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2012, 10:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
การปฎิบัติธรรมที่ถกเถียงกันอยู่ทุกวันนี้ก็มีอยู่2แบบ คือแบบคุณไม่มีอะไร และแบบนั่งปฎิบัติ และทุกอริยบถ อานาปานสติ บทอธิฐานความเพียร พระองค์ก็ทรงตรัสเองแม้เลือดเนื้อจะเหือดแห้งกระดูกจะแตก ถ้าไม่บรรลุธรรมก็จะไม่ยอมถ้อถอย ตรงนี้เอาไปไว้ไหน จะเอาแต่ทางความคิดอย่างเดียวมันได้จริงเหรอ สัมมาทิฎฐิอย่างเดียวถ้าได้จริง มรรคอีก7ข้อจะมีทำไม ลองพิจารณาดูศิครับ :b12:

อิอิ....อย่าเพิ่งไปอคติเลย..นะ..พี่บิกทู..เหตุของแต่ละคนสร้างมาไม่เหมือนกัน...(อิอิ...เลียนแบบคุณวลัยพร..นะ)

แบบไหนก็ตาม..หากมรรค์ 8 สมบูรณ์..ก็ใช้ได้หมด

หลวงตา..เทศน์ให้ฟังว่า...หลวงปู่สิงห์ทอง...ภาวนาไปเรื่อย...พิจารณาตัดไปเรื่อย...จนที่สุดไม่รู้ว่าขาดหมดไปตอนไหน...รู้แต่ว่า....หามันไม่มีอีก....คือ..ขาดแบบไม่มีขณะ...ซึ่งไม่เหมือนของหลวงตา....ท่านว่าเมื่อได้คุยกันถึงรู้ว่า...มันก็ลงจุดเดียวกัน...ท่านว่านี้แบบสุขวิปปัสสโก...

หุหุ...เรื่องนอกตัวเรานะ...
:b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2012, 10:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
การปฎิบัติธรรมที่ถกเถียงกันอยู่ทุกวันนี้ก็มีอยู่2แบบ คือแบบคุณไม่มีอะไร และแบบนั่งปฎิบัติ และทุกอริยบถ อานาปานสติ บทอธิฐานความเพียร พระองค์ก็ทรงตรัสเองแม้เลือดเนื้อจะเหือดแห้งกระดูกจะแตก ถ้าไม่บรรลุธรรมก็จะไม่ยอมถ้อถอย ตรงนี้เอาไปไว้ไหน จะเอาแต่ทางความคิดอย่างเดียวมันได้จริงเหรอ สัมมาทิฎฐิอย่างเดียวถ้าได้จริง มรรคอีก7ข้อจะมีทำไม ลองพิจารณาดูศิครับ :b12:

อิอิ....อย่าเพิ่งไปอคติเลย..นะ..พี่บิกทู..เหตุของแต่ละคนสร้างมาไม่เหมือนกัน...(อิอิ...เลียนแบบคุณวลัยพร..นะ)

แบบไหนก็ตาม..หากมรรค์ 8 สมบูรณ์..ก็ใช้ได้หมด

หลวงตา..เทศน์ให้ฟังว่า...หลวงปู่สิงห์ทอง...ภาวนาไปเรื่อย...พิจารณาตัดไปเรื่อย...จนที่สุดไม่รู้ว่าขาดหมดไปตอนไหน...รู้แต่ว่า....หามันไม่มีอีก....คือ..ขาดแบบไม่มีขณะ...ซึ่งไม่เหมือนของหลวงตา....ท่านว่าเมื่อได้คุยกันถึงรู้ว่า...มันก็ลงจุดเดียวกัน...ท่านว่านี้แบบสุขวิปปัสสโก...

หุหุ...เรื่องนอกตัวเรานะ...
:b16:
ไม่ค่อยซีเรียสหรอกครับพี่กบ ก็แค่อยากบอกให้เห็นสองมุมเท่านั้น :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2012, 11:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
เป็นเรื่องของ โยนิโสมนสิการ คนละเรื่องกันกับอรูปพรหม

โยนิโสมนสิการ ผลที่เกิด คือ มรรค มีองค์ ๘



ถ้ามันผ่านจาก..โยนิโส..มาแล้ว...ก็ไม่ว่าอะไร...

ที่เห็น..ก็มีแต่พูดเฉพาะ..ส่วนที่ได้มนสิการ..ใว้แล้ว...ซึ่งคนอื่นจะมาใช้ร่วมตรง ๆ เลยไม่ได้

มันต้องผ่านทางโยนิโส...มาทุกคน...ซึ่งตอนจะเก็บใว้ในใจคือมนสิการ...คำนั้นอาจแตกต่างกันไปบ้าง..

อย่าลืม..ว่า...เหตุเราสร้างมาไม่มีทางเหมือนกัน...อย่างที่วลัยพรว่า...

ดังนั้น...คำที่มันโดนใจ..มันจะเหมือนกันหรือ?

คิดเล่น..ๆ...นะ..อิอิ..


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 247 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15 ... 17  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร