วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 03:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 121 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2012, 23:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นด้วยกับคุณnongkongครับและขออนุโมทนาด้วยครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2012, 23:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
เห็นด้วยกับคุณnongkongครับและขออนุโมทนาด้วยครับ :b8:

อนุโมทนาเจ้าค่ะ :b8:
:b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2012, 23:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
bigtoo เขียน:
คนที่มีสติปัญญาเขาถือเรื่องพวกนี้ว่าเป็นของสนุกสนานกันมาก

คนที่มีสติปัญญาเขาเห็นเรื่องพวกนี้เป็นไปตามคำสอนของพระพุทธองค์ :b39:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓
ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
๘. สิงคาลกสูตร (๑๓)
[๑๘๒] ดูกรคฤหบดีบุตร โทษในการประกอบเนืองๆ ซึ่งการพนันอัน
เป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๖ ประการเหล่านี้ คือ ผู้ชนะย่อมก่อเวร ๑ ผู้แพ้ย่อม
เสียดายทรัพย์ที่เสียไป ๑ ความเสื่อมทรัพย์ในปัจจุบัน ๑ ถ้อยคำของคนเล่นการ
พนัน ซึ่งไปพูดในที่ประชุมฟังไม่ขึ้น ๑ ถูกมิตรอมาตย์หมิ่นประมาท ๑ ไม่มีใคร
ประสงค์จะแต่งงานด้วย เพราะเห็นว่า ชายนักเลงเล่นการพนันไม่สามารถจะเลี้ยง
ภรรยา ๑ ดูกรคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการในการประกอบเนืองๆ ซึ่งการพนันอัน
เป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเหล่านี้แล ฯ
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/s ... 1&bookZ=11
ปล.คำกล่าวของท่านบิ๊กตู้เห็นได้ชัดว่า บิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2012, 03:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
bigtoo เขียน:
คนที่มีสติปัญญาเขาถือเรื่องพวกนี้ว่าเป็นของสนุกสนานกันมาก

คนที่มีสติปัญญาเขาเห็นเรื่องพวกนี้เป็นไปตามคำสอนของพระพุทธองค์ :b39:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓
ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
๘. สิงคาลกสูตร (๑๓)
[๑๘๒] ดูกรคฤหบดีบุตร โทษในการประกอบเนืองๆ ซึ่งการพนันอัน
เป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๖ ประการเหล่านี้ คือ ผู้ชนะย่อมก่อเวร ๑ ผู้แพ้ย่อม
เสียดายทรัพย์ที่เสียไป ๑ ความเสื่อมทรัพย์ในปัจจุบัน ๑ ถ้อยคำของคนเล่นการ
พนัน ซึ่งไปพูดในที่ประชุมฟังไม่ขึ้น ๑ ถูกมิตรอมาตย์หมิ่นประมาท ๑ ไม่มีใคร
ประสงค์จะแต่งงานด้วย เพราะเห็นว่า ชายนักเลงเล่นการพนันไม่สามารถจะเลี้ยง
ภรรยา ๑ ดูกรคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการในการประกอบเนืองๆ ซึ่งการพนันอัน
เป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเหล่านี้แล ฯ
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_name.php?name=%CA%D4%A7%A4%D2%C5%A1%CA%D9%B5%C3&book=11&bookZ=11
ปล.คำกล่าวของท่านบิ๊กตู้เห็นได้ชัดว่า บิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์

น้องคิงคองจ๋าจ๊ะ คุณบิกทู่เขาไม่ได้บิดเบือนคำสอนของพุทธองค์
เป็นน้องคิงคองนั้นแหล่ะ กำลังบิดเบือนคำสอนของพุทธองค์

ยังพิจารณาพระไตรปิฎกไม่เป็น ก็อย่าพยายามไปอ้างพระไตรปิฎก
เท่าที่เห็นมา แต่ละคนพอเห็นบัญญัติไหน คำศัพท์ไหนคล้ายกัน
ก็ยกมาอ้างซะแล้ว การพิจารณาธรรมไม่ใช่ไปลอกคำศัพท์ แต่มันต้องพิจารณาคำศัพท์
หาที่มาและผลของมัน ที่สำคัญการพิจารณาศัพท์หรือบัญญัติไม่ใช่การแปลศัพท์หรือบัญญัติ

ธรรมบทนี้มันต้องดูที่ เหตุผลที่พระพุทธองค์ทรงห้าม
ที่ทรงห้ามเพราะมันทำให้ขาดสติ พระองค์ถึงได้ตรัสว่า"ประกอบเนื่องๆ"

ที่นี้มันผิดหรือไม่ผิด ก็ต้องดูว่าบิกทู่เล่นการพนันเนื่องๆหรือเปล่า เล่นอย่างคนมีสติมั้ย
ถ้าบิกทู่นานๆเล่นทีและเล่นอย่างมีสติ มันก็ไม่ผิด และอยู่ดีๆทำไมถึงต้องเล่น
เราก็ต้องหาเหตุผล อย่าลืมเหตุผลนั้นต้องประกอบด้วยสติ สติเป็นกุศล เหตุผลย่อมต้องเป็นกุศล
ยกตัวอย่าง การเล่นการพนันแบบนานๆเล่นทีแล้วมีเหตุผลมีสติ
ก็คือ การสอยดาว ช้อนลูกปิงปองในงานกาชาด ซื้อลอตเตอรี่การกุศล
หรือแม้แต่การเล่นดัมมี่กินเงินเล็กๆน้อยๆ เหตุผลเพื่อทำบุญ รางวัลเป็นผลพลอยได้
ส่วนดัมมี่เป็นการฝึกสมอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2012, 04:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านทั้งหลาย ขอบคุณมากจริงๆที่ท่านกรุณาแสดงความเห็นเกี่ยวกับโทษของการพนัน ผมคิดว่าพวกท่านน่าจะมีความรู้จากการอ่านและเข้าใจได้เกี่ยวกับเริ้องนี้ เพราะท่านทั้งหลายมีจิตใจแนวโน้มที่ดี ท่านจึงเห็นโทษ ที่ท่านยกมาทั้งหมดถึงโทษต่างๆนั้นมันไม่ผิดเลย และข้าพเจ้า ก็มิได้เห็นต่างแต่อย่างไรเลย เพียงแต่ที่ข้าพเจ้ากล่าวว่า สิ่งใดๆในโลกมันไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านกล่าวทั้งหมด ความเห็นอย่างนี้ต่างหากน่าพิจารณามันเป็นความเห็นสองด้าน บางด้านท่านอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าใครคิดอะไรอยู่ ในขณะที่เขาเล่น มันเป็นกิเลสได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเรื่องอะไรความโลภมีมากมายไม่ต่างอะไรของลักษณะจิต ผมเป็นคนหนึ่งซึ่งเห็นโทษโดยตรงจากของจริงเพราะผมสูญเสียเงินเพราะการพนันจำนวนไม่น้อย ฉะนั้นการพนันมิใช่สิ่งที่ดี แต่ไม่ผิดศิลห้าครับ อาการไม่ต่างอะไรกับการเล่นหุ้น การเล่นหุ้นมีคนต้องสูญเสียที่เดียวครั้งละเป็นร้อยๆล้าน พันๆล้านสิ่งนี้ก็ไม่ต่างจากการพนันเป็นการเสี่ยงในการตัดสินใจในการลงทุน ก็ไม่ผิดศิลห้าครับ มองให้หลายมุมเถอะครับ มองให้เห็นในสิทธิส่วนบุคคล แยกกันให้ได้ระหว่างสิทธิ กับข้อห้าม

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2012, 04:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
[จากส่วนที่เป็นสีน้ำเงินนะครับ...ก็อย่าที่พี่เข้าใจนั่นแหละครับถ้าดูที่ความหมายดั้งเดิมในบัญญัติเมื่อสมัยพุทธกาล..การพนันก็ไม่อยู่ในศีลข้อไหนใน 5 ข้อครับ เพียงแต่ถ้าผมจำไม่ผิดพระพุทธเจ้าทรงให้สิทธ์ในการเพิ่มเติมศีลแก่คณะสงฆ์ได้ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์(หรือลดบางข้อเล็กๆน้อยๆได้ถ้ามีมติเห็นสมควร) ในที่นี้ครูบาอาจารย์ในสมัยโบราณจนถึงปัจจุบันจึงสอนเพิ่มลงไปว่ากาารเล่นพนันเที่ยวแหล่งอบายมุข อโคจรผิดศีล5 เพียงแต่ไม่แก้ไขเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น เพราะเคารพบูชาในพระศาสดา...พี่อาจจะไม่คิดเหมือนกับผมก็ได้นะครับนั่นคือสิทธ์ของพี่นะครับ
ส่วนที่เป็นสีแดงนะครับ...สั้นๆครับ มีแค่คนที่ได้ในขณะนั้นเท่านั้นแหละครับที่สนุกสนาน...ถ้าอีก 10 นาทีต่อมากลับกลายเป็นฝ่ายเสีย ณ ตอนนั้นมันก็ไม่สนุกสนานแล้วครับ...ดังนั้นเหตุผลอันนี้จึงดูไม่เข้าทีเท่าไหร่ครับ

คำถามสุดท้ายนะครับพี่...ถ้าคน 10 คน มีเงินคนละพันบาทเข้าไปเล่นไพ่ป้อก โดยตั้งใจก่อนเล่นว่าจะเล่นแค่ 5 ตาแล้วเลิก...เมื่อครบ 5 ตา แล้วปรากฏว่า เสียกันคนละ 100 บาท...พี่คิดว่าทั้ง 10 จะมีสักคนไหมที่จะเลิกเล่นอย่างที่ตั้งใจไว้ทีแรกครับ...พิจารณาจากประสบการณ์เก่าๆของพี่ก็ได้นะครับ

ขอบคุณครับ :b8:

พิจารณาธรรมอะไรแบบนี้ครับ จินตนาการธรรมเองยังพอทำเนา แต่นี้เล่นบังคับ
ธรรมให้เป็นไปตามความคิดตัวเอง ถ้าเป็นซะแบบนี้เมื่อไรจะรู้จะเข้าถึงธรรมครับ

จะอ้างธรรมจจะยกตัวอย่าง มันต้องอ้างเป็นคู่ อ้างสิ่งที่ตัวเองคิดแล้ว
มันต้องอ้างสิ่งที่มันตรงข้ามกับที่ตัวเองคิดด้วย ยึดมั่นถือมั่นข้างเดียวแบบนี้
แล้วเมื่อไรจะเจอธรรมที่เป็นกลางครับ เคยได้ยินครูบาอาจารย์พูดมั้ยครับว่า..
เรียนธรรมคู่เพื่อรู้ธรรมหนึ่งนะ

ลูกพระป่า เขียน:
ส่วนที่เป็นสีแดงนะครับ...สั้นๆครับ มีแค่คนที่ได้ในขณะนั้นเท่านั้นแหละครับที่สนุกสนาน...ถ้าอีก 10 นาทีต่อมากลับกลายเป็นฝ่ายเสีย ณ ตอนนั้นมันก็ไม่สนุกสนานแล้วครับ...ดังนั้นเหตุผลอันนี้จึงดูไม่เข้าทีเท่าไหร่ครับ:

การจะเพิ่มเติมศีลอะไรที่คุณอ้างได้ แต่ไม่ใช้ไปเพิ่มเติมความคิด ความยึดมั่นถือมั่นของตน
ไปให้คนอื่น

ก็เขาบอกว่า เล่นเพื่อสนุกสนาน ความหมายก็คือ ทั้งได้ทั้งเสียนั้นแหล่ะ
การพนันเขารู้กันทั้งนั้นว่ามีได้มีเสีย การเล่นแบบสนุกสนานย่อมเป็นสติของ
ผู้ที่คิดแบบนี้ก่อนเล่นแล้วครับ
อย่ายัดเหยียดเปลี่ยนแปลงความคิดคนอื่นไปในทางไม่ดีซิครับ มันบาป
ลูกพระป่า เขียน:
[
คำถามสุดท้ายนะครับพี่...ถ้าคน 10 คน มีเงินคนละพันบาทเข้าไปเล่นไพ่ป้อก โดยตั้งใจก่อนเล่นว่าจะเล่นแค่ 5 ตาแล้วเลิก...เมื่อครบ 5 ตา แล้วปรากฏว่า เสียกันคนละ 100 บาท...พี่คิดว่าทั้ง 10 จะมีสักคนไหมที่จะเลิกเล่นอย่างที่ตั้งใจไว้ทีแรกครับ...พิจารณาจากประสบการณ์เก่าๆของพี่ก็ได้นะครับ

พูดนอกเรื่องนอกธรรม หัวมังกุท้ายมังกร แบบนี้แหล่ะเขาเรียกจินตนาการเรื่องราวเอง
แล้วก็หักมุมเอง แบบนี้ใช่ธรรมะที่ไหนกันครับ

ก็ตัวเองกำหนดเรื่องเอง 10คนเล่น5ตาเลิก แล้วดันบอกว่าเสียคนละ100
แล้วจะไม่ยอมเลิก คุณจะเอาอย่างไรกันแน่ครับ
มองอะไรให้มันมีสัมมาทิฐิหน่อย ดูให้มันเป็นไปตามความเป็นจริง
กำหนดเองเล่น5ตาเลิก นี้แหล่ะคือสัมมาทิฐิตามความเป็นจริง
ไอ้ที่ไม่ยอมเลิกเป็นการปรุงแต่งที่คุณปรุงแต่งขึ้นมาเอง

คุณรู้หรือเปล่าว่าความคิดของคุณไม่มีสัมมาทิฐิ
ดันตั้งคำถามแสดงความเห็นขัดแย้งกันเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2012, 04:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
แต่หากจะเอาการพนัน....มาเปรียบกับ..ศีล 5..ว่าผิดมั้ย?

ก็ต้องบอกว่า..ผิดศีลข้อ 2...เพราะการได้มาของทรัพย์

หากจะบอกว่า...คนเล่นเขาพอใจเสีย...ลองลงเงินคนเดียวดูซิคนอื่นไม่ต้องลง...ยังพอใจจะเล่นมั้ย?

หากจะบอกว่า...คนได้ก็ไม่คิดอยากได้...ก็เล่นกันแบบ...แพ้กินน้ำ...ชนะกินขนม...อมสเปโตปั่นจิ่งหรีด...ไปซิ...ดูสิยังคิดจะเล่นอีกมั้ย?

เอิ๊ก...เอิ๊ก....เอิ๊ก... :b32: :b32: :b32:

แล้วจะเห็นว่า....ที่พอใจจะเสีย..และ..ไม่คิดอยากได้....มันเป็นเรื่องขี้โม้... :b12:
พี่กบถ้าท่านกำลังหลงประเด็นแล้วครับ อาการคำว่าพนันนั้นมีหลายอย่าง ท่านมองไปประเด็นเดียวก็คือเรื่องการเล่นการพนันแบบไม่ลืมหูลืมตาอย่างนั้นใช่มั้ย และในโลกแห่งความเป็นจริงมันมีอย่างนั้นอย่างเดียวหรือเปล่าล่ะ ถึงไปเหมาว่าคนที่เล่นผิดศิลหมด มันมองผิดหรือเปล่าลองคิดดูนะครับ เราโต้กันเรื่องนี้ ส่วนใครติดการพนันนั้นไม่ต้องกล่าวหรอกครับใครๆเขาก็รู้มันไม่ดี ไม่ต้องศึกษาพระไตรฯก็น่าจะมีพ่อแม่สั่งสอนอยู่แล้ว เรากำลังเถียงกันเรื่องผิดศิล5 ว่ามันผิด และที่ไม่บัญญัติว่าผิดศิล5ก็เพราะ มันมีเล่นพนันหลายแบบยังไงครับ ท่านจึงแยกออกไปเป็นศิลอื่นเกียวกับการหมกมุ่น และบ่งบอกถึงโทษ :b38:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2012, 04:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อตอนเป็นวัยรุ่น พอตรุษจีนได้เงินแต๊ะเอียจากอาเจ่ก อาแป่ะ
แล้วแกชวนลูกๆหลานๆเล่นไพ่ มันผิดศีลหรือเปล่า

อัฐยายซื้อขนมยายเนี่ยรู้จักมั้ย
เข้าใจเรื่องเล่นเพื่อสนุกสนานและเล่นอย่างมีสติหรือยัง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2012, 07:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
nongkong เขียน:
bigtoo เขียน:
คนที่มีสติปัญญาเขาถือเรื่องพวกนี้ว่าเป็นของสนุกสนานกันมาก

คนที่มีสติปัญญาเขาเห็นเรื่องพวกนี้เป็นไปตามคำสอนของพระพุทธองค์ :b39:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓
ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
๘. สิงคาลกสูตร (๑๓)
[๑๘๒] ดูกรคฤหบดีบุตร โทษในการประกอบเนืองๆ ซึ่งการพนันอัน
เป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๖ ประการเหล่านี้ คือ ผู้ชนะย่อมก่อเวร ๑ ผู้แพ้ย่อม
เสียดายทรัพย์ที่เสียไป ๑ ความเสื่อมทรัพย์ในปัจจุบัน ๑ ถ้อยคำของคนเล่นการ
พนัน ซึ่งไปพูดในที่ประชุมฟังไม่ขึ้น ๑ ถูกมิตรอมาตย์หมิ่นประมาท ๑ ไม่มีใคร
ประสงค์จะแต่งงานด้วย เพราะเห็นว่า ชายนักเลงเล่นการพนันไม่สามารถจะเลี้ยง
ภรรยา ๑ ดูกรคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการในการประกอบเนืองๆ ซึ่งการพนันอัน
เป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเหล่านี้แล ฯ
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_name.php?name=%CA%D4%A7%A4%D2%C5%A1%CA%D9%B5%C3&book=11&bookZ=11
ปล.คำกล่าวของท่านบิ๊กตู้เห็นได้ชัดว่า บิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์

น้องคิงคองจ๋าจ๊ะ คุณบิกทู่เขาไม่ได้บิดเบือนคำสอนของพุทธองค์
เป็นน้องคิงคองนั้นแหล่ะ กำลังบิดเบือนคำสอนของพุทธองค์

ยังพิจารณาพระไตรปิฎกไม่เป็น ก็อย่าพยายามไปอ้างพระไตรปิฎก
เท่าที่เห็นมา แต่ละคนพอเห็นบัญญัติไหน คำศัพท์ไหนคล้ายกัน
ก็ยกมาอ้างซะแล้ว การพิจารณาธรรมไม่ใช่ไปลอกคำศัพท์ แต่มันต้องพิจารณาคำศัพท์
หาที่มาและผลของมัน ที่สำคัญการพิจารณาศัพท์หรือบัญญัติไม่ใช่การแปลศัพท์หรือบัญญัติ

ธรรมบทนี้มันต้องดูที่ เหตุผลที่พระพุทธองค์ทรงห้าม
ที่ทรงห้ามเพราะมันทำให้ขาดสติ พระองค์ถึงได้ตรัสว่า"ประกอบเนื่องๆ"

ที่นี้มันผิดหรือไม่ผิด ก็ต้องดูว่าบิกทู่เล่นการพนันเนื่องๆหรือเปล่า เล่นอย่างคนมีสติมั้ย
ถ้าบิกทู่นานๆเล่นทีและเล่นอย่างมีสติ มันก็ไม่ผิด และอยู่ดีๆทำไมถึงต้องเล่น
เราก็ต้องหาเหตุผล อย่าลืมเหตุผลนั้นต้องประกอบด้วยสติ สติเป็นกุศล เหตุผลย่อมต้องเป็นกุศล
ยกตัวอย่าง การเล่นการพนันแบบนานๆเล่นทีแล้วมีเหตุผลมีสติ
ก็คือ การสอยดาว ช้อนลูกปิงปองในงานกาชาด ซื้อลอตเตอรี่การกุศล
หรือแม้แต่การเล่นดัมมี่กินเงินเล็กๆน้อยๆ เหตุผลเพื่อทำบุญ รางวัลเป็นผลพลอยได้
ส่วนดัมมี่เป็นการฝึกสมอง

ขึ้นไปอ่านคำพูดของท่าน บิ๊กตู้ก่อนนะเจ้าค่ะว่าทำไมคุนน้องถึงแย้งไป กระทู้ล่อเป้าแบบนี้ เอามาพูดในห้องสนทนาธรรม ยังงัยคุนน้องก็ต้องอ้างอิงคำสอนของพระพุทธองค์เพื่อให้เป็นไปตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์จะมาพูดว่าคนที่มีสติปัญญาเห็นเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่สนุกสนานมาก แล้วคนทีศรัธรทต่อพระพุทธองค์อย่างแท้จริง
ไม่สามารถพูดประโยคนั้นออกมาได้หรอก พระพุทธองค์ตรัสว่าการพนันเป็นหนทางไปสู่ความประมาท คุนน้องมีสิทธิ์ที่จะยกเอาพระไตรปิฎกมาแย้ง เห็นอ้างพระพุทธองค์ เรื่องการพนันไม่ผิดศีล5 คุนน้องก็มีสิทธิ์อ้างพระไตรปิฏกขึ้นมา อธิบายให้มันถูกต้องตามธรรม คุนน้องทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบุคคลส่วนรวม เอาเป็นว่าใครกำลังทำสิ่งที่สมควรทำ ใครทำสิ่งไม่สมควรทำ ให้สิ่งศักสิทธิ์เป็นพยานละกัน เพราะปกติคุนน้องก็ไม่อ้างพระไตรปิฏก ถ้าพี่มากล่าวหาว่าคุนน้องบิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์ ถ้าพระพุทธองค์ท่านทราบท่านจะรู้เจตนาของคุนน้องเองแหละ ใครผิดใครถูกก็เอาสิ่งศักสิทธิ์เป็นพยานเลยละกัน ให้พระพุทธองค์ตัดสินเลย :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2012, 08:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ในโลกใบนี้ปนเปื้อน ทั้งสิ่งดีและสิ่งไม่ดี มีทั้งกาลเวลา สังคมเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย การที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนานั้นต้องตรง ถ้าไม่ตรงก็จะกลายเป็นเอียง เมื่อเอียง ก็จะกลายผิดเป้า แทนที่จะได้คะแนนเต็ม 100มันอาจจะได้ น้อยลงหรือไม่มีคะแนนเลยก็ว่าได้ ประเด็นอยู่ที่ว่าอะไรผิดถูก ชี้เป็นประเด็นๆไป มิได้หมายความว่าใครคนใดหยิบยกเรื่องใดแม้กระทั้งคนที่มีเจตนากระทำความดี ยิบยกมาแสดงก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องถูกเสมอไป แม้แต่ตัวกระผมเอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ถูกประเด็นก็จะผิดจากความดีไป ขนาดพระอรหันต์อย่างพระสารีบุตรผู้ที่ได้ว่ามีปัญญาเลิศรองจากพระองค์ ยังถูกพระองค์ตำหนิต่อหน้าอริยสาวกท่านอื่นเลย แล้วปัญญาชนอย่างพวกเราทำไมจะไม่วิเคราะอะไรผิดไปบ้าง คุยกันมันจะตาย :b17: :b17: :b17:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2012, 09:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ก.ค. 2010, 15:02
โพสต์: 146

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ถ้าคนที่เป็น โรคติดการพนัน เลวร้ายกว่าผิดศีล5 เจ้าค่ะ คุนน้องเคยได้ยินสำนวนหนึ่งที่บอกว่า ไฟไหม้บ้านก็ยังไม่เท่าติดการพนัน คนประเภทนี้มีบ้านก็ขายบ้าน มีรถก็ขายรถเพื่อเอามาเล่นการพนัน ไม่ใช่พูดลอยๆ แต่เคยเจอคนประเภทนี้ แล้วคนแบบนี้ทำให้ครอบครัวญาติพี่น้องทุกข์ใจมาก สร้างหนี้สินพะรุงพะรัง ให้คนอื่นมารับกรรมกับการกระทำของตน พอร้อนเงินเป็นหนี้ก็ไปยืมหนี้นอกระบบ แต่แทนที่จะเอาไปใช้หนี้กับเอาไปเล่นการพนัน ขโมยแม้กระทั่งของคนในบ้านเพื่อเอาไปขายเพราะติดการพนัน อันนี้เรื่องจริงเจ้าค่ะ

เห็นด้วยคะ อบายมุข คือ หนทางแห่งความฉิบหาย จะผิดศีลหรือไม่ตาม สาธุ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2012, 10:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ขึ้นไปอ่านคำพูดของท่าน บิ๊กตู้ก่อนนะเจ้าค่ะว่าทำไมคุนน้องถึงแย้งไป กระทู้ล่อเป้าแบบนี้ เอามาพูดในห้องสนทนาธรรม ยังงัยคุนน้องก็ต้องอ้างอิงคำสอนของพระพุทธองค์เพื่อให้เป็นไปตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์จะมาพูดว่าคนที่มีสติปัญญาเห็นเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่สนุกสนานมาก แล้วคนทีศรัธรทต่อพระพุทธองค์อย่างแท้จริง
ไม่สามารถพูดประโยคนั้นออกมาได้หรอก :

น้องคิงคองอย่าลืมน่ะว่าเรากำลังสนทนาธรรม สิ่งแรกที่เราต้องคิดและทำใจให้เป็นกุศล
และน้อมจิตว่า ทุกคนที่เข้ามาสนทนาธรรมในห้องนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ตั้งใจจะทำความดี

แต่ในคำสอนของพระพุทธองค์ไม่ใช่จะสอน ให้ทุกคนทำดีเพียงอย่างเดียว
พระองค์สอนให้หาหนทางให้พ้นจากวัฏสงสาร คือให้พ้นจากความดีและความชั่ว
ฉะนั้นอย่าล้วนสรุปว่า คนอื่นเป็นคนไม่ดีเพียงเพราะเขาตั้งกระทู้ที่หมิ่นเหม่กับความดี

แล้วพี่ก็มองว่ากระทู้นี่ก็ไม่ได้ล่อเป้าอะไร มันเป็นกระทู้ที่ดีมากกระทู้หนึ่ง
กระทู้นี้มองให้ดีมันชี้ไปถึงแก่นธรรมของพระพุทธเจ้าเลยที่เดียว
ปัญหามันอยู่ที่พวกเรายังมองไม่เห็นถึงแก่นธรรมนั้น

รู้แต่เรื่องศีลข้อห้ามก็เอาศีลข้อห้ามเป็นหลักแล้วก็วิพากษ์คนอื่น
เป็นแบบนี้แล้ว เมื่อไรจะได้สัมมาศีลครับ

ที่พี่โฮว่าน้องคิงคองไปว่าบิดเบือนคำสอนของพุทธองค์ มันอาจแรงหรือใช้คำพูดผิด
อันที่จริงต้องใช้ว่า น้องอ้างพระธรมมาแย้งคุณบิกทู่ผิดที่ผิดทาง

คุณบิกทู่แกตั้งกระทู้ถามว่า เล่นการพนันผิดศีลมั้ย
น้องคิงคองคงรู้นะครับว่า ศีลก็คือศีลข้อห้ามของปุถุชน
แต่พระธรรมที่น้องเอามาแย้ง มันเป็นธรรมของอริยบุคคล
พระองค์ทรงบอกถึง สิ่งที่พระอริยบุคคลไม่ประพฤติปฏิบัติให้
สิงคาลกฟัง มันเป็นการสอนสิงคาลกเพื่อบรรลุธรรมเบื้องต้น
มันเลยเรื่องศีลข้อห้ามมาแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2012, 10:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
[ พระพุทธองค์ตรัสว่าการพนันเป็นหนทางไปสู่ความประมาท คุนน้องมีสิทธิ์ที่จะยกเอาพระไตรปิฎกมาแย้ง เห็นอ้างพระพุทธองค์ เรื่องการพนันไม่ผิดศีล5 คุนน้องก็มีสิทธิ์อ้างพระไตรปิฏกขึ้นมา อธิบายให้มันถูกต้องตามธรรม คุนน้องทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบุคคลส่วนรวม เอาเป็นว่าใครกำลังทำสิ่งที่สมควรทำ ใครทำสิ่งไม่สมควรทำ ให้สิ่งศักสิทธิ์เป็นพยานละกัน เพราะปกติคุนน้องก็ไม่อ้างพระไตรปิฏก ถ้าพี่มากล่าวหาว่าคุนน้องบิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์ ถ้าพระพุทธองค์ท่านทราบท่านจะรู้เจตนาของคุนน้องเองแหละ ใครผิดใครถูกก็เอาสิ่งศักสิทธิ์เป็นพยานเลยละกัน ให้พระพุทธองค์ตัดสินเลย :b8:

ถ้าบิกทู่เขาเล่นแบบมีสติ และไม่ได้เล่นบ่อยเนื่องๆ จนขาดสติมันก็ไม่ผิดศีล
เรื่องศีลนี่ก็เหมือนกัน ศีลข้อ1-4มันเป็นการห้ามกระทำโดยตรง แต่ศีลข้อห้า
เป็นการป้องปรามเอาไว้ก่อน ความหมายก็คือ การกระทำนั้นมันจะส่งผลให้เกิดการกระทำ
ที่ไม่ดีอื่นๆ ถ้าเรายังไม่ถึงขั้นไปกระการอันหลัง มันก็ยังไม่ผิดศีลข้อนี่ ท่านถึงได้บอกว่า
ให้อยู่ในความไม่ประมาท

คนกินเหล้าในที่สาธารณะกับคนที่ง่วงนอนแล้วมาขับรถ การกระทำทั้งสอง
มันก็เหมือนกัน คือประมาทขาดสติ คนง่วงแล้วขับรถยังไม่ได้ไปชนอะไร
มันก็ไม่ผิด มันก็เหมือนคนกินเหล้า ถ้ากินแล้วกลับบ้านนอน ไม่ไปหาเรื่องชาวบ้าน
มันก็ไม่ผิดศีลเช่นกันครับ


ผมสู้อุตสาห์ตอบตอนต้นแล้วว่า มันไม่ผิดศีล
แต่มันไม่เป็นสัมมาศีลหรือสัมมาอาชีโว

พระพุทธองค์ถึงได้เอาธรรมบทนี้มาสอนสิงคาลก
เพราะสิ่งคาลกถามถึงการปฏิบัติของตัวเองกับพระพุทธเจ้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2012, 11:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ลูกพระป่า เขียน:

[
คำถามสุดท้ายนะครับพี่...ถ้าคน 10 คน มีเงินคนละพันบาทเข้าไปเล่นไพ่ป้อก โดยตั้งใจก่อนเล่นว่าจะเล่นแค่ 5 ตาแล้วเลิก...เมื่อครบ 5 ตา แล้วปรากฏว่า เสียกันคนละ 100 บาท...พี่คิดว่าทั้ง 10 จะมีสักคนไหมที่จะเลิกเล่นอย่างที่ตั้งใจไว้ทีแรกครับ...พิจารณาจากประสบการณ์เก่าๆของพี่ก็ได้นะครับ


โฮฮับ เขียน
พูดนอกเรื่องนอกธรรม หัวมังกุท้ายมังกร แบบนี้แหล่ะเขาเรียกจินตนาการเรื่องราวเอง
แล้วก็หักมุมเอง แบบนี้ใช่ธรรมะที่ไหนกันครับ

ก็ตัวเองกำหนดเรื่องเอง 10คนเล่น5ตาเลิก แล้วดันบอกว่าเสียคนละ100
แล้วจะไม่ยอมเลิก คุณจะเอาอย่างไรกันแน่ครับ
มองอะไรให้มันมีสัมมาทิฐิหน่อย ดูให้มันเป็นไปตามความเป็นจริง
กำหนดเองเล่น5ตาเลิก นี้แหล่ะคือสัมมาทิฐิตามความเป็นจริง
ไอ้ที่ไม่ยอมเลิกเป็นการปรุงแต่งที่คุณปรุงแต่งขึ้นมาเอง


คุณโฮฮับพูดถูกต้องตามธรรมครับ อนุโมทนา
เกิดมโนวิญญาณขึ้นกับคุณลูกพระป่า ตอนเช้าผมอ่านแล้วแต่ไม่ได้พิจารณาธรรมเหมือนที่คุณโฮฮับพิจารณา แต่ปล่อยให้สังขารตัวเองไหลไปกับเรื่องราว

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2012, 11:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
nongkong เขียน:
[ พระพุทธองค์ตรัสว่าการพนันเป็นหนทางไปสู่ความประมาท คุนน้องมีสิทธิ์ที่จะยกเอาพระไตรปิฎกมาแย้ง เห็นอ้างพระพุทธองค์ เรื่องการพนันไม่ผิดศีล5 คุนน้องก็มีสิทธิ์อ้างพระไตรปิฏกขึ้นมา อธิบายให้มันถูกต้องตามธรรม คุนน้องทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบุคคลส่วนรวม เอาเป็นว่าใครกำลังทำสิ่งที่สมควรทำ ใครทำสิ่งไม่สมควรทำ ให้สิ่งศักสิทธิ์เป็นพยานละกัน เพราะปกติคุนน้องก็ไม่อ้างพระไตรปิฏก ถ้าพี่มากล่าวหาว่าคุนน้องบิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์ ถ้าพระพุทธองค์ท่านทราบท่านจะรู้เจตนาของคุนน้องเองแหละ ใครผิดใครถูกก็เอาสิ่งศักสิทธิ์เป็นพยานเลยละกัน ให้พระพุทธองค์ตัดสินเลย :b8:

ถ้าบิกทู่เขาเล่นแบบมีสติ และไม่ได้เล่นบ่อยเนื่องๆ จนขาดสติมันก็ไม่ผิดศีลเรื่องศีลนี่ก็เหมือนกัน ศีลข้อ1-4มันเป็นการห้ามกระทำโดยตรง แต่ศีลข้อห้า
เป็นการป้องปรามเอาไว้ก่อน ความหมายก็คือ การกระทำนั้นมันจะส่งผลให้เกิดการกระทำ
ที่ไม่ดีอื่นๆ ถ้าเรายังไม่ถึงขั้นไปกระการอันหลัง มันก็ยังไม่ผิดศีลข้อนี่ ท่านถึงได้บอกว่า
ให้อยู่ในความไม่ประมาท

คนกินเหล้าในที่สาธารณะกับคนที่ง่วงนอนแล้วมาขับรถ การกระทำทั้งสอง
มันก็เหมือนกัน คือประมาทขาดสติ คนง่วงแล้วขับรถยังไม่ได้ไปชนอะไร
มันก็ไม่ผิด มันก็เหมือนคนกินเหล้า ถ้ากินแล้วกลับบ้านนอน ไม่ไปหาเรื่องชาวบ้าน
มันก็ไม่ผิดศีลเช่นกันครับ


ผมสู้อุตสาห์ตอบตอนต้นแล้วว่า มันไม่ผิดศีล
แต่มันไม่เป็นสัมมาศีลหรือสัมมาอาชีโว

พระพุทธองค์ถึงได้เอาธรรมบทนี้มาสอนสิงคาลก
เพราะสิ่งคาลกถามถึงการปฏิบัติของตัวเองกับพระพุทธเจ้า

ถ้าท่านบิ๊กทู่พูดเกี่ยวกับตัวท่านเองคุนน้องก็เฉยๆ แต่ไปอ้างพระพุทธองค์ในหัวข้อกระทู้นี้ คุนน้องก็ต้องยกพระไตรปิฎกมาอ้าง คุนน้องว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันก็ถูกกาลละเทศะและเห็นสมควรนะเจ้าค่ะ ไม่ใช่คุนน้องไม่มี สัมมาศีล และไม่รู้จักสัมมาศีล หรือ ไม่มีสัมมาอาชีวะหรอกนะ แต่คุนน้องแค่แปลกใจ อริยะบุคคลอย่างท่านบิ๊กตู้ มีสติปัญญาเห็นเรื่องนั้นเป็นความสนุกสนาน
ถ้าท่านอยากจะเล่นการพนันแบบมีสติก็ไม่ผิด แต่คุนน้องอยากแนะนำเจ้าค่ะ ถ้าท่านสนุกกับการเล่นการพนันอยู่ ท่านไม่ต้องอดข้าวมื้อเดียวหรอก แล้วก็ไม่ต้องอดเรื่องเสพเมถุนกับเมียหรอกเจ้าค่ะ ทำๆไปเถอะมันไม่ผิดศีลหรอก :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 121 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร