42821.ทำไมการพนันถึงไม่ผิดศิล5

กบนอกกะลา

bigtoo เขียน:

มีศิลห้าสมบูรณ์ กีถือว่าสุดๆแล้วครับ ถ้าข้ามสีลลัพตปรามาส..ได้ ก็ต้องงดไหว้พระพรหมกันแล้วล่ะครับ

ไหว้พระพรหม...หากคิดว่า...เพื่อให้ให้ท่านบันดาลทุกสรรพสิ่งให้...สีลลัพตปรมาส..เต็ม ๆ

หากไหว้พระพรหม...แล้วระลึกถึงความดีที่ได้เป็นพรหม...ความดีของพรหม...เป็นเทวตานุสสติกรรมฐาน...ครับ

bigtoo

กบนอกกะลา เขียน:

หากBigtoo ไม่ได้อยากได้เงินใคร...แต่อยากเล่น บังเอิญในวงไพ่....ก็ไม่มีใครอยากได้เงินใคร...ลงเงินไปอย่างนั้นแหละ แค่..ขำขำ ศีล อันเป็นของสังคมธรรมดา...มันไม่ขาด แต่...สัมมากัมมันตะ...คุณบกพร่อง

ก็ผมถึงพูดอยู่นี้ไงครับว่ามันอยู่ที่เจตนา ไม่ได้เหมารวมใครคิดอย่างไรใครทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้นพี่กบว่าจริงมั้ยละ เราคุยกันมันมีประโยชน์เพื่อ คนศึกษาธรรมมะใหม่ๆจะได้เข้าใจให้ตรงประเด็นก็เท่านั้นจะได้ไปกันถูกทาง

student

เจอคำถามแบบนี้ ทำให้หวนมาคิดเลยครับ ว่า ผิดศีล หรือ ไม่ผิด ไล่ทุกข้อก็ไม่มี ก็เลยมาคิดว่า ถ้าไม่ผิดศีล5 แล้วทำไมจึงถูกมองในด้านลบ

น่าจะเป็นอยากได้ของคนอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเองครับ คือ สังขารขันธ์คิดไปว่า ตัวเองน่าจะได้ครอบครองรางวัลนั้น

และอีกอย่างคือ ไม่อยู่ในพรหมวิหาร4 แต่เกิดทุกอย่างตรงกันข้าม คือ ไม่ทำมรรคข้อที่2 ให้สมบูรณ์

กบนอกกะลา

bigtoo เขียน:

ก็ผมถึงพูดอยู่นี้ไงครับว่ามันอยู่ที่เจตนา ไม่ได้เหมารวมใครคิดอย่างไรใครทำอย่างก็ได้อย่างนั้นพี่กบว่าจริงมั้ยละ เราคุยกันมันมีประโยชน์เพื่อ คนศึกษาธรรมมะใหม่ๆจะได้เข้าใจให้ตรงประเด็นก็เท่านั้นจะได้ไปกันถูกทาง

กิเลสมันไว....เห็นช่องปั้ป...มันอ้างเลย

ใหม่ ๆ ต้องทำแบบทื่อ ๆ ไปก่อน...

อย่าด่วน Advance ไปก่อนเลย..

กิเลสมันเจ้าเล่ห์จะตาย..

กบนอกกะลา

student เขียน:

และอีกอย่างคือ ไม่อยู่ในพรหมวิหาร4 แต่เกิดทุกอย่างตรงกันข้าม คือ ไม่ทำมรรค......ให้สมบูรณ์

bigtoo

สรุปการพนัน นั้นไม่ผิดศิลห้าแต่ประการใด รับรองได้เลย การพนั้นนั้นไม่ได้เอาเปรียบกัน เป็นการยินยอมกันทั้งสองฝ่าย แต่การพนันนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์มักจะควบคุมอารมณ์ไม่ให้สู่การติดใจไม่ได้ และผลของมันส่งให้เกิดโทษได้มากแต่ ผู้ที่ติดการพนันนั้นกำลังทำความเสื่อมให้ตนเองเพราะการพนันนั้นสามารถนำความทุกมาให้มากมายและรุนแรง และเป็นที่ถูกตำหนิของหมู่ชน ก็เลยถูกดูมองว่าเป็นที่น่าติเตียบ ส่วนการพนันในที่เป็นไปเพื่อความสนุกสนานนั้นมิได้ปรารถนาในทรัพมีหลายอย่าง มิต่างอะไรกับการติดในรสชาติต่างๆที่มิได้เกิดโทษเพียงเป็นอกุศลเท่านั้น เหมือนอริยชนที่ยังตัดเรื่องราว ที่เป็นอกุศลไม่ได้อย่างที่ได้ยกตัวอย่างข้างต้นนั้น ซึ่งหาบุคคลกระทำได้ยาก ฉะนั้นการพนันจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวสำหรับบุคคลโดยทั่วไป :b38:

bigtoo

กบนอกกะลา เขียน:

bigtoo เขียน:

ก็ผมถึงพูดอยู่นี้ไงครับว่ามันอยู่ที่เจตนา ไม่ได้เหมารวมใครคิดอย่างไรใครทำอย่างก็ได้อย่างนั้นพี่กบว่าจริงมั้ยละ เราคุยกันมันมีประโยชน์เพื่อ คนศึกษาธรรมมะใหม่ๆจะได้เข้าใจให้ตรงประเด็นก็เท่านั้นจะได้ไปกันถูกทาง

กิเลสมันไว....เห็นช่องปั้ป...มันอ้างเลย ใหม่ ๆ ต้องทำแบบทื่อ ๆ ไปก่อน... อย่าด่วน Advance ไปก่อนเลย.. กิเลสมันเจ้าเล่ห์จะตาย..

อะไรมันก็เป็นช่องทั้งนั้นแหละ พี่กบ พวกเราถึงจำเป็นจะต้องมีข้อวัตรอยู่กันตลอดตราบใดพวกเรายังไม่หลุดพ้น ขนาดพระอรหันต์ยังต้องอยู่ในวินัยเลย ถึงจิตจะหลุดพ้นแล้ว แล้วนับประสาอะไรกับเราๆๆ การมีข้อวัตรนั้นเท่ากับเรามีพระองค์อยู่ใกล้คอยตักเตื่อนเราตลอดดีน่ะครับ :b37:

ลูกพระป่า

bigtoo เขียน:

สรุปการพนัน นั้นไม่ผิดศิลห้าแต่ประการใด รับรองได้เลย การพนั้นนั้นไม่ได้เอาเปรียบกัน เป็นการยินยอมกันทั้งสองฝ่าย แต่การพนันนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์มักจะควบคุมอารมณ์ไม่ให้สู่การติดใจไม่ได้ และผลของมันส่งให้เกิดโทษได้มากแต่ ผู้ที่ติดการพนันนั้นกำลังทำความเสื่อมให้ตนเองเพราะการพนันนั้นสามารถนำความทุกมาให้มากมายและรุนแรง และเป็นที่ถูกตำหนิของหมู่ชน ก็เลยถูกดูมองว่าเป็นที่น่าติเตียบ ส่วนการพนันในที่เป็นไปเพื่อความสนุกสนานนั้นมิได้ปรารถนาในทรัพมีหลายอย่าง มิต่างอะไรกับการติดในรสชาติต่างๆที่มิได้เกิดโทษเพียงเป็นอกุศลเท่านั้น เหมือนอริยชนที่ยังตัดเรื่องราว ที่เป็นอกุศลไม่ได้อย่างที่ได้ยกตัวอย่างข้างต้นนั้น ซึ่งหาบุคคลกระทำได้ยาก ฉะนั้นการพนันจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวสำหรับบุคคลโดยทั่วไป :b38:

สวัสดีครับพี่bigtoo :b8:

ขออภัยที่ต้องบอกว่าพี่กำลังเห็นผิดอยู่นะครับ และถ้าเอาตามเหตุผลที่พี่ยกมาอ้างแล้ว ศีลทั้งหลายก็แทบจะไม่มีความหมายใดๆเลย...แล้วก็การพนันที่ไม่มีการเดิมพันได้เสีย เค้าไม่เรียกว่าเป็นการพนันนะครับ แต่เรียกเป็นการละเล่นหรือเกมครับ แต่ถ้ามีการวางเดิมพันได้เสียเมื่อไหร่จะแต่สตางค์เดียวมันก็คือการพนันครับ...ขอให้พิจารณาในเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนดูอีกครั้งนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:

bigtoo

ลูกพระป่า เขียน:

bigtoo เขียน:

สรุปการพนัน นั้นไม่ผิดศิลห้าแต่ประการใด รับรองได้เลย การพนั้นนั้นไม่ได้เอาเปรียบกัน เป็นการยินยอมกันทั้งสองฝ่าย แต่การพนันนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์มักจะควบคุมอารมณ์ไม่ให้สู่การติดใจไม่ได้ และผลของมันส่งให้เกิดโทษได้มากแต่ ผู้ที่ติดการพนันนั้นกำลังทำความเสื่อมให้ตนเองเพราะการพนันนั้นสามารถนำความทุกมาให้มากมายและรุนแรง และเป็นที่ถูกตำหนิของหมู่ชน ก็เลยถูกดูมองว่าเป็นที่น่าติเตียบ ส่วนการพนันในที่เป็นไปเพื่อความสนุกสนานนั้นมิได้ปรารถนาในทรัพมีหลายอย่าง มิต่างอะไรกับการติดในรสชาติต่างๆที่มิได้เกิดโทษเพียงเป็นอกุศลเท่านั้น เหมือนอริยชนที่ยังตัดเรื่องราว ที่เป็นอกุศลไม่ได้อย่างที่ได้ยกตัวอย่างข้างต้นนั้น ซึ่งหาบุคคลกระทำได้ยาก ฉะนั้นการพนันจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวสำหรับบุคคลโดยทั่วไป :b38:

สวัสดีครับพี่bigtoo :b8:

ขออภัยที่ต้องบอกว่าพี่กำลังเห็นผิดอยู่นะครับ และถ้าเอาตามเหตุผลที่พี่ยกมาอ้างแล้ว ศีลทั้งหลายก็แทบจะไม่มีความหมายใดๆเลย...แล้วก็การพนันที่ไม่มีการเดิมพันได้เสีย เค้าไม่เรียกว่าเป็นการพนันนะครับ แต่เรียกเป็นการละเล่นหรือเกมครับ แต่ถ้ามีการวางเดิมพันได้เสียเมื่อไหร่จะแต่สตางค์เดียวมันก็คือการพนันครับ...ขอให้พิจารณาในเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนดูอีกครั้งนะครับ ขอบคุณครับ :b8:

ผมเข้าใจครับ ผมถึงบอกว่าความอยากมันไม่แตกต่างกัน มันก็อยากได้ทั้งนั้น เช่นอยาซื้อของที่มันไม่มีประโยชน์ อยากเล่นเกมส์เพราะอยากเสพสุขต่าง หรือจะเป็นการพนันอย่างที่ผมกล่าวข้างตนที่ว่าผมอยากสนุก สมมุติผมมีเงินสัก10ล้านผมไปเล่นเสียสัก500 แล้วผมก็เลิกมันไม่เห็นเกิดโทษเลยกับผม แต่ถ้ามันเป็นกิเลสอันนี้ถูกต้องครับ แต่ศิลห้ามันเป็นสิ่งที่เกิดโทษแกผู้อื่นโดยตรง ล่วงเกินชีวิต ลาวงเกินทรัพย์สินฯ มันลึกซึ้งในเรื่องการพนัน ผมนักเล่นการพนันตัวยงครับ ผมเล่นก่อนปฤบัติธรรมผมรู้ว่ามันเป็นอย่างไร และหลังการที่เรียนรู้เรื่องธรรมมะแล้วมันคนละเรื่องครับ รับรองได้ :b38:

ลูกพระป่า

bigtoo เขียน:

ลูกพระป่า เขียน:

bigtoo เขียน:

สรุปการพนัน นั้นไม่ผิดศิลห้าแต่ประการใด รับรองได้เลย การพนั้นนั้นไม่ได้เอาเปรียบกัน เป็นการยินยอมกันทั้งสองฝ่าย แต่การพนันนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์มักจะควบคุมอารมณ์ไม่ให้สู่การติดใจไม่ได้ และผลของมันส่งให้เกิดโทษได้มากแต่ ผู้ที่ติดการพนันนั้นกำลังทำความเสื่อมให้ตนเองเพราะการพนันนั้นสามารถนำความทุกมาให้มากมายและรุนแรง และเป็นที่ถูกตำหนิของหมู่ชน ก็เลยถูกดูมองว่าเป็นที่น่าติเตียบ ส่วนการพนันในที่เป็นไปเพื่อความสนุกสนานนั้นมิได้ปรารถนาในทรัพมีหลายอย่าง มิต่างอะไรกับการติดในรสชาติต่างๆที่มิได้เกิดโทษเพียงเป็นอกุศลเท่านั้น เหมือนอริยชนที่ยังตัดเรื่องราว ที่เป็นอกุศลไม่ได้อย่างที่ได้ยกตัวอย่างข้างต้นนั้น ซึ่งหาบุคคลกระทำได้ยาก ฉะนั้นการพนันจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวสำหรับบุคคลโดยทั่วไป :b38:

สวัสดีครับพี่bigtoo :b8:

ขออภัยที่ต้องบอกว่าพี่กำลังเห็นผิดอยู่นะครับ และถ้าเอาตามเหตุผลที่พี่ยกมาอ้างแล้ว ศีลทั้งหลายก็แทบจะไม่มีความหมายใดๆเลย...แล้วก็การพนันที่ไม่มีการเดิมพันได้เสีย เค้าไม่เรียกว่าเป็นการพนันนะครับ แต่เรียกเป็นการละเล่นหรือเกมครับ แต่ถ้ามีการวางเดิมพันได้เสียเมื่อไหร่จะแต่สตางค์เดียวมันก็คือการพนันครับ...ขอให้พิจารณาในเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนดูอีกครั้งนะครับ ขอบคุณครับ :b8:

ผมเข้าใจครับ ผมถึงบอกว่าความอยากมันไม่แตกต่างกัน มันก็อยากได้ทั้งนั้น เช่นอยาซื้อของที่มันไม่มีประโยชน์ อยากเล่นเกมส์เพราะอยากเสพสุขต่าง หรือจะเป็นการพนันอย่างที่ผมกล่าวข้างตนที่ว่าผมอยากสนุก สมมุติผมมีเงินสัก10ล้านผมไปเล่นเสียสัก500 แล้วผมก็เลิกมันไม่เห็นเกิดโทษเลยกับผม แต่ถ้ามันเป็นกิเลสอันนี้ถูกต้องครับ แต่ศิลห้ามันเป็นสิ่งที่เกิดโทษแกผู้อื่นโดยตรง ล่วงเกินชีวิต ลาวงเกินทรัพย์สินฯ มันลึกซึ้งในเรื่องการพนัน ผมนักเล่นการพนันตัวยงครับ ผมเล่นก่อนปฤบัติธรรมผมรู้ว่ามันเป็นอย่างไร และหลังการที่เรียนรู้เรื่องธรรมมะแล้วมันคนละเรื่องครับ รับรองได้ :b38:

สวัสดีครับพี่bigtoo :b8:

ถ้าอ้างแบบนี้ ผมถามสักนิดนะครับว่าแล้ว ศีลข้อ 5 นั้นมันเป็นสิ่งที่เกิดโทษแก่ผู้อื่นโดยตรงหรือครับ ถ้าบอกว่าเล่นแค่ขำๆสนุกๆ ไม่ผิดศีล เพียงเพราะบัญญัติไว้เพียงว่า "สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี" ไม่มีเรื่องของการพนัน นั่นก็คือความเห็นผิดครับ และถ้าเป็นอย่างนั้นพี่คงเห็นว่าการเสพกัญชา ยาม้า เฮโรอีน โคเคน น้ำกระท่อม ไม่ผิดศีล 5 ใช่มั้ยครับ...ขอให้พิจารณาโดยธรรมอย่างรอบครอบนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:

ฝึกจิต

ลูกพระป่า เขียน:

bigtoo เขียน:

ลูกพระป่า เขียน:

bigtoo เขียน:

สรุปการพนัน นั้นไม่ผิดศิลห้าแต่ประการใด รับรองได้เลย การพนั้นนั้นไม่ได้เอาเปรียบกัน เป็นการยินยอมกันทั้งสองฝ่าย แต่การพนันนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์มักจะควบคุมอารมณ์ไม่ให้สู่การติดใจไม่ได้ และผลของมันส่งให้เกิดโทษได้มากแต่ ผู้ที่ติดการพนันนั้นกำลังทำความเสื่อมให้ตนเองเพราะการพนันนั้นสามารถนำความทุกมาให้มากมายและรุนแรง และเป็นที่ถูกตำหนิของหมู่ชน ก็เลยถูกดูมองว่าเป็นที่น่าติเตียบ ส่วนการพนันในที่เป็นไปเพื่อความสนุกสนานนั้นมิได้ปรารถนาในทรัพมีหลายอย่าง มิต่างอะไรกับการติดในรสชาติต่างๆที่มิได้เกิดโทษเพียงเป็นอกุศลเท่านั้น เหมือนอริยชนที่ยังตัดเรื่องราว ที่เป็นอกุศลไม่ได้อย่างที่ได้ยกตัวอย่างข้างต้นนั้น ซึ่งหาบุคคลกระทำได้ยาก ฉะนั้นการพนันจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวสำหรับบุคคลโดยทั่วไป :b38:

สวัสดีครับพี่bigtoo :b8:

ขออภัยที่ต้องบอกว่าพี่กำลังเห็นผิดอยู่นะครับ และถ้าเอาตามเหตุผลที่พี่ยกมาอ้างแล้ว ศีลทั้งหลายก็แทบจะไม่มีความหมายใดๆเลย...แล้วก็การพนันที่ไม่มีการเดิมพันได้เสีย เค้าไม่เรียกว่าเป็นการพนันนะครับ แต่เรียกเป็นการละเล่นหรือเกมครับ แต่ถ้ามีการวางเดิมพันได้เสียเมื่อไหร่จะแต่สตางค์เดียวมันก็คือการพนันครับ...ขอให้พิจารณาในเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนดูอีกครั้งนะครับ ขอบคุณครับ :b8:

ผมเข้าใจครับ ผมถึงบอกว่าความอยากมันไม่แตกต่างกัน มันก็อยากได้ทั้งนั้น เช่นอยาซื้อของที่มันไม่มีประโยชน์ อยากเล่นเกมส์เพราะอยากเสพสุขต่าง หรือจะเป็นการพนันอย่างที่ผมกล่าวข้างตนที่ว่าผมอยากสนุก สมมุติผมมีเงินสัก10ล้านผมไปเล่นเสียสัก500 แล้วผมก็เลิกมันไม่เห็นเกิดโทษเลยกับผม แต่ถ้ามันเป็นกิเลสอันนี้ถูกต้องครับ แต่ศิลห้ามันเป็นสิ่งที่เกิดโทษแกผู้อื่นโดยตรง ล่วงเกินชีวิต ลาวงเกินทรัพย์สินฯ มันลึกซึ้งในเรื่องการพนัน ผมนักเล่นการพนันตัวยงครับ ผมเล่นก่อนปฤบัติธรรมผมรู้ว่ามันเป็นอย่างไร และหลังการที่เรียนรู้เรื่องธรรมมะแล้วมันคนละเรื่องครับ รับรองได้ :b38:

สวัสดีครับพี่bigtoo :b8:

ถ้าอ้างแบบนี้ ผมถามสักนิดนะครับว่าแล้ว ศีลข้อ 5 นั้นมันเป็นสิ่งที่เกิดโทษแก่ผู้อื่นโดยตรงหรือครับ ถ้าบอกว่าเล่นแค่ขำๆสนุกๆ ไม่ผิดศีล เพียงเพราะบัญญัติไว้เพียงว่า "สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี" ไม่มีเรื่องของการพนัน นั่นก็คือความเห็นผิดครับ และถ้าเป็นอย่างนั้นพี่คงเห็นว่าการเสพกัญชา ยาม้า เฮโรอีน โคเคน น้ำกระท่อม ไม่ผิดศีล 5 ใช่มั้ยครับ...ขอให้พิจารณาโดยธรรมอย่างรอบครอบนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:

ตามอ่านมาตั้งแต่แรก คอยดูสรุปท่าน บิกตู เลยอยากกล่าว ลงความคิดเห็นหน่อยนะครับ
ความเป็นปกติในปุถุชนทั่วไป โดยส่วนใหญ่ นั้นคือความเป็นปกติ ที่ไม่ควรจะเป็น อันที่ไม่ควรจะเป็นดูได้จาก สิ่งที่ตกไปในส่วนของ อกุศล อันพึงละ

พระอาจารย์หลายท่านจึงยก การพนัน มาไว้ในศิลข้อ5 เพราะเป็นสิ่งที่ มอมเมาจิตใจ ให้มืดบอด มากกว่าเดิม หากจะเอาคำในศิลมาตรงๆโดยไม่ได้ ขยายความ ไปในส่วนกุศล ก็คงเหมือนกับที่ลูกพระป่า ท่านได้กล่าว
อันศิลข้อ5 นั้น สุรา ท่านได้หมายลงไปในส่วนที่ เป็นสิ่งมอมเมาจิตใจ ที่นำไปสู่การผิดศิล ข้ออื่นๆได้โดยง่าย และคำว่า เสพ ก้มิได้ความหมายเพียงแค่ดืมกิน แต่ได้หมายลงไปในส่วน ทวารทั้ง 5

หากมีคนศรัทธาท่าน โดยไม่ได้ใช้ปัญญา มาอ่าน แล้วบอกว่า ทำได้ มันอันตราย นะครับ

bigtoo

ลูกพระป่า เขียน:

bigtoo เขียน:

ลูกพระป่า เขียน:

bigtoo เขียน:

สรุปการพนัน นั้นไม่ผิดศิลห้าแต่ประการใด รับรองได้เลย การพนั้นนั้นไม่ได้เอาเปรียบกัน เป็นการยินยอมกันทั้งสองฝ่าย แต่การพนันนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์มักจะควบคุมอารมณ์ไม่ให้สู่การติดใจไม่ได้ และผลของมันส่งให้เกิดโทษได้มากแต่ ผู้ที่ติดการพนันนั้นกำลังทำความเสื่อมให้ตนเองเพราะการพนันนั้นสามารถนำความทุกมาให้มากมายและรุนแรง และเป็นที่ถูกตำหนิของหมู่ชน ก็เลยถูกดูมองว่าเป็นที่น่าติเตียบ ส่วนการพนันในที่เป็นไปเพื่อความสนุกสนานนั้นมิได้ปรารถนาในทรัพมีหลายอย่าง มิต่างอะไรกับการติดในรสชาติต่างๆที่มิได้เกิดโทษเพียงเป็นอกุศลเท่านั้น เหมือนอริยชนที่ยังตัดเรื่องราว ที่เป็นอกุศลไม่ได้อย่างที่ได้ยกตัวอย่างข้างต้นนั้น ซึ่งหาบุคคลกระทำได้ยาก ฉะนั้นการพนันจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวสำหรับบุคคลโดยทั่วไป :b38:

สวัสดีครับพี่bigtoo :b8:

ขออภัยที่ต้องบอกว่าพี่กำลังเห็นผิดอยู่นะครับ และถ้าเอาตามเหตุผลที่พี่ยกมาอ้างแล้ว ศีลทั้งหลายก็แทบจะไม่มีความหมายใดๆเลย...แล้วก็การพนันที่ไม่มีการเดิมพันได้เสีย เค้าไม่เรียกว่าเป็นการพนันนะครับ แต่เรียกเป็นการละเล่นหรือเกมครับ แต่ถ้ามีการวางเดิมพันได้เสียเมื่อไหร่จะแต่สตางค์เดียวมันก็คือการพนันครับ...ขอให้พิจารณาในเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนดูอีกครั้งนะครับ ขอบคุณครับ :b8:

ผมเข้าใจครับ ผมถึงบอกว่าความอยากมันไม่แตกต่างกัน มันก็อยากได้ทั้งนั้น เช่นอยาซื้อของที่มันไม่มีประโยชน์ อยากเล่นเกมส์เพราะอยากเสพสุขต่าง หรือจะเป็นการพนันอย่างที่ผมกล่าวข้างตนที่ว่าผมอยากสนุก สมมุติผมมีเงินสัก10ล้านผมไปเล่นเสียสัก500 แล้วผมก็เลิกมันไม่เห็นเกิดโทษเลยกับผม แต่ถ้ามันเป็นกิเลสอันนี้ถูกต้องครับ แต่ศิลห้ามันเป็นสิ่งที่เกิดโทษแกผู้อื่นโดยตรง ล่วงเกินชีวิต ลาวงเกินทรัพย์สินฯ มันลึกซึ้งในเรื่องการพนัน ผมนักเล่นการพนันตัวยงครับ ผมเล่นก่อนปฤบัติธรรมผมรู้ว่ามันเป็นอย่างไร และหลังการที่เรียนรู้เรื่องธรรมมะแล้วมันคนละเรื่องครับ รับรองได้ :b38:

สวัสดีครับพี่bigtoo :b8:

ถ้าอ้างแบบนี้ ผมถามสักนิดนะครับว่าแล้ว ศีลข้อ 5 นั้นมันเป็นสิ่งที่เกิดโทษแก่ผู้อื่นโดยตรงหรือครับ ถ้าบอกว่าเล่นแค่ขำๆสนุกๆ ไม่ผิดศีล เพียงเพราะบัญญัติไว้เพียงว่า "สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี" ไม่มีเรื่องของการพนัน นั่นก็คือความเห็นผิดครับ และถ้าเป็นอย่างนั้นพี่คงเห็นว่าการเสพกัญชา ยาม้า เฮโรอีน โคเคน น้ำกระท่อม ไม่ผิดศีล 5 ใช่มั้ยครับ...ขอให้พิจารณาโดยธรรมอย่างรอบครอบนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:

ที่ท่านกล่าว่าศิลข้อที่5เพียงข้อเดียว การดื่มสุรารวมทั้งเมรัย พวกกัญญาชา ยาไอซ์ สิ่งเหล่านี้ท่านรู้มั้ยว่ามันมีประโยชน์มากมายแก่ชีวิตมนุษย์มาก ท่านจึงอนุญาติให้พอประมาณ ผมบอกแล้วไงว่าผมนี่ทุกอย่าง ผมเสพที่ท่านกล่ามาทั้งหมดมันยังน้อยไปสำหรับผม ผมเสพพวกนี้มาหลายปีครับ (โดยเฉพาะยาไอซ์ ครั้งหนึ่งถือว่าเป็นการค้นพบของมนุษยชาติเลยก็ว่าได้ มันมีประโยชน์มาก) แต่โทษของสุรามันร้ายแรงกว่าการพนันมากมหาศาล เพราะมันทำให้คนขาดสติที่จะยับยั้ง ทำสิ่งที่สูญเสียให้มากมาย ลองพิจารณาดูดีๆๆครับ การติดต่างหากครับมันเป็นโทษ ศิลห้าเพียงเล็กน้อยเพื่อประโยชน์ทางยาก็ไม่ผิดครับ

1. ติดสุราและของมึนเมา
2. ติดเที่ยวกลางคืน
3. ติดเที่ยวดูการเล่น
4. ติดการพนัน
5. ติดคบเพื่อนชั่ว
6. ติดเกียจคร้านการงาน

ฝึกจิต

bigtoo เขียน:

ลูกพระป่า เขียน:

bigtoo เขียน:

ลูกพระป่า เขียน:

bigtoo เขียน:

สรุปการพนัน นั้นไม่ผิดศิลห้าแต่ประการใด รับรองได้เลย การพนั้นนั้นไม่ได้เอาเปรียบกัน เป็นการยินยอมกันทั้งสองฝ่าย แต่การพนันนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์มักจะควบคุมอารมณ์ไม่ให้สู่การติดใจไม่ได้ และผลของมันส่งให้เกิดโทษได้มากแต่ ผู้ที่ติดการพนันนั้นกำลังทำความเสื่อมให้ตนเองเพราะการพนันนั้นสามารถนำความทุกมาให้มากมายและรุนแรง และเป็นที่ถูกตำหนิของหมู่ชน ก็เลยถูกดูมองว่าเป็นที่น่าติเตียบ ส่วนการพนันในที่เป็นไปเพื่อความสนุกสนานนั้นมิได้ปรารถนาในทรัพมีหลายอย่าง มิต่างอะไรกับการติดในรสชาติต่างๆที่มิได้เกิดโทษเพียงเป็นอกุศลเท่านั้น เหมือนอริยชนที่ยังตัดเรื่องราว ที่เป็นอกุศลไม่ได้อย่างที่ได้ยกตัวอย่างข้างต้นนั้น ซึ่งหาบุคคลกระทำได้ยาก ฉะนั้นการพนันจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวสำหรับบุคคลโดยทั่วไป :b38:

สวัสดีครับพี่bigtoo :b8:

ขออภัยที่ต้องบอกว่าพี่กำลังเห็นผิดอยู่นะครับ และถ้าเอาตามเหตุผลที่พี่ยกมาอ้างแล้ว ศีลทั้งหลายก็แทบจะไม่มีความหมายใดๆเลย...แล้วก็การพนันที่ไม่มีการเดิมพันได้เสีย เค้าไม่เรียกว่าเป็นการพนันนะครับ แต่เรียกเป็นการละเล่นหรือเกมครับ แต่ถ้ามีการวางเดิมพันได้เสียเมื่อไหร่จะแต่สตางค์เดียวมันก็คือการพนันครับ...ขอให้พิจารณาในเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนดูอีกครั้งนะครับ ขอบคุณครับ :b8:

ผมเข้าใจครับ ผมถึงบอกว่าความอยากมันไม่แตกต่างกัน มันก็อยากได้ทั้งนั้น เช่นอยาซื้อของที่มันไม่มีประโยชน์ อยากเล่นเกมส์เพราะอยากเสพสุขต่าง หรือจะเป็นการพนันอย่างที่ผมกล่าวข้างตนที่ว่าผมอยากสนุก สมมุติผมมีเงินสัก10ล้านผมไปเล่นเสียสัก500 แล้วผมก็เลิกมันไม่เห็นเกิดโทษเลยกับผม แต่ถ้ามันเป็นกิเลสอันนี้ถูกต้องครับ แต่ศิลห้ามันเป็นสิ่งที่เกิดโทษแกผู้อื่นโดยตรง ล่วงเกินชีวิต ลาวงเกินทรัพย์สินฯ มันลึกซึ้งในเรื่องการพนัน ผมนักเล่นการพนันตัวยงครับ ผมเล่นก่อนปฤบัติธรรมผมรู้ว่ามันเป็นอย่างไร และหลังการที่เรียนรู้เรื่องธรรมมะแล้วมันคนละเรื่องครับ รับรองได้ :b38:

สวัสดีครับพี่bigtoo :b8:

ถ้าอ้างแบบนี้ ผมถามสักนิดนะครับว่าแล้ว ศีลข้อ 5 นั้นมันเป็นสิ่งที่เกิดโทษแก่ผู้อื่นโดยตรงหรือครับ ถ้าบอกว่าเล่นแค่ขำๆสนุกๆ ไม่ผิดศีล เพียงเพราะบัญญัติไว้เพียงว่า "สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี" ไม่มีเรื่องของการพนัน นั่นก็คือความเห็นผิดครับ และถ้าเป็นอย่างนั้นพี่คงเห็นว่าการเสพกัญชา ยาม้า เฮโรอีน โคเคน น้ำกระท่อม ไม่ผิดศีล 5 ใช่มั้ยครับ...ขอให้พิจารณาโดยธรรมอย่างรอบครอบนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:

ที่ท่านกล่าว่าศิลข้อที่5เพียงข้อเดียว การดื่มสุรารวมทั้งเมรัย พวกกัญญาชา ยาไอซ์ สิ่งเหล่านี้ท่านรู้มั้ยว่ามันมีประโยชน์มากมายแก่ชีวิตมนุษย์มาก ท่านจึงอนุญาติให้พอประมาณ ผมบอกแล้วไงว่าผมนี่ทุกอย่าง ผมเสพที่ท่านกล่ามาทั้งหมดมันยังน้อยไปสำหรับผม ผมเสพพวกนี้มาหลายปีครับ (โดยเฉพาะยาไอซ์ ครั้งหนึ่งถือว่าเป็นการค้นพบของมนุษยชาติเลยก็ว่าได้ มันมีประโยชน์มาก) แต่โทษของสุรามันร้ายแรงกว่าการพนันมากมหาศาล เพราะมันทำให้คนขาดสติที่จะยับยั้ง ทำสิ่งที่สูญเสียให้มากมาย ลองพิจารณาดูดีๆๆครับ การติดต่างหากครับมันเป็นโทษ ศิลห้าเพียงเล็กน้อยเพื่อประโยชน์ทางยาก็ไม่ผิดครับ

1. ติดสุราและของมึนเมา
2. ติดเที่ยวกลางคืน
3. ติดเที่ยวดูการเล่น
4. ติดการพนัน
5. ติดคบเพื่อนชั่ว
6. ติดเกียจคร้านการงาน

มันขึ้นอยู่กับเจตนา+ผล อันเป็นกุศล หรือ อกุศล

bigtoo

ฝึกจิต เขียน:

bigtoo เขียน:

ลูกพระป่า เขียน:

bigtoo เขียน:

ลูกพระป่า เขียน:

bigtoo เขียน:

สรุปการพนัน นั้นไม่ผิดศิลห้าแต่ประการใด รับรองได้เลย การพนั้นนั้นไม่ได้เอาเปรียบกัน เป็นการยินยอมกันทั้งสองฝ่าย แต่การพนันนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์มักจะควบคุมอารมณ์ไม่ให้สู่การติดใจไม่ได้ และผลของมันส่งให้เกิดโทษได้มากแต่ ผู้ที่ติดการพนันนั้นกำลังทำความเสื่อมให้ตนเองเพราะการพนันนั้นสามารถนำความทุกมาให้มากมายและรุนแรง และเป็นที่ถูกตำหนิของหมู่ชน ก็เลยถูกดูมองว่าเป็นที่น่าติเตียบ ส่วนการพนันในที่เป็นไปเพื่อความสนุกสนานนั้นมิได้ปรารถนาในทรัพมีหลายอย่าง มิต่างอะไรกับการติดในรสชาติต่างๆที่มิได้เกิดโทษเพียงเป็นอกุศลเท่านั้น เหมือนอริยชนที่ยังตัดเรื่องราว ที่เป็นอกุศลไม่ได้อย่างที่ได้ยกตัวอย่างข้างต้นนั้น ซึ่งหาบุคคลกระทำได้ยาก ฉะนั้นการพนันจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวสำหรับบุคคลโดยทั่วไป :b38:

สวัสดีครับพี่bigtoo :b8:

ขออภัยที่ต้องบอกว่าพี่กำลังเห็นผิดอยู่นะครับ และถ้าเอาตามเหตุผลที่พี่ยกมาอ้างแล้ว ศีลทั้งหลายก็แทบจะไม่มีความหมายใดๆเลย...แล้วก็การพนันที่ไม่มีการเดิมพันได้เสีย เค้าไม่เรียกว่าเป็นการพนันนะครับ แต่เรียกเป็นการละเล่นหรือเกมครับ แต่ถ้ามีการวางเดิมพันได้เสียเมื่อไหร่จะแต่สตางค์เดียวมันก็คือการพนันครับ...ขอให้พิจารณาในเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนดูอีกครั้งนะครับ ขอบคุณครับ :b8:

ผมเข้าใจครับ ผมถึงบอกว่าความอยากมันไม่แตกต่างกัน มันก็อยากได้ทั้งนั้น เช่นอยาซื้อของที่มันไม่มีประโยชน์ อยากเล่นเกมส์เพราะอยากเสพสุขต่าง หรือจะเป็นการพนันอย่างที่ผมกล่าวข้างตนที่ว่าผมอยากสนุก สมมุติผมมีเงินสัก10ล้านผมไปเล่นเสียสัก500 แล้วผมก็เลิกมันไม่เห็นเกิดโทษเลยกับผม แต่ถ้ามันเป็นกิเลสอันนี้ถูกต้องครับ แต่ศิลห้ามันเป็นสิ่งที่เกิดโทษแกผู้อื่นโดยตรง ล่วงเกินชีวิต ลาวงเกินทรัพย์สินฯ มันลึกซึ้งในเรื่องการพนัน ผมนักเล่นการพนันตัวยงครับ ผมเล่นก่อนปฤบัติธรรมผมรู้ว่ามันเป็นอย่างไร และหลังการที่เรียนรู้เรื่องธรรมมะแล้วมันคนละเรื่องครับ รับรองได้ :b38:

สวัสดีครับพี่bigtoo :b8:

ถ้าอ้างแบบนี้ ผมถามสักนิดนะครับว่าแล้ว ศีลข้อ 5 นั้นมันเป็นสิ่งที่เกิดโทษแก่ผู้อื่นโดยตรงหรือครับ ถ้าบอกว่าเล่นแค่ขำๆสนุกๆ ไม่ผิดศีล เพียงเพราะบัญญัติไว้เพียงว่า "สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี" ไม่มีเรื่องของการพนัน นั่นก็คือความเห็นผิดครับ และถ้าเป็นอย่างนั้นพี่คงเห็นว่าการเสพกัญชา ยาม้า เฮโรอีน โคเคน น้ำกระท่อม ไม่ผิดศีล 5 ใช่มั้ยครับ...ขอให้พิจารณาโดยธรรมอย่างรอบครอบนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:

ที่ท่านกล่าว่าศิลข้อที่5เพียงข้อเดียว การดื่มสุรารวมทั้งเมรัย พวกกัญญาชา ยาไอซ์ สิ่งเหล่านี้ท่านรู้มั้ยว่ามันมีประโยชน์มากมายแก่ชีวิตมนุษย์มาก ท่านจึงอนุญาติให้พอประมาณ ผมบอกแล้วไงว่าผมนี่ทุกอย่าง ผมเสพที่ท่านกล่ามาทั้งหมดมันยังน้อยไปสำหรับผม ผมเสพพวกนี้มาหลายปีครับ (โดยเฉพาะยาไอซ์ ครั้งหนึ่งถือว่าเป็นการค้นพบของมนุษยชาติเลยก็ว่าได้ มันมีประโยชน์มาก) แต่โทษของสุรามันร้ายแรงกว่าการพนันมากมหาศาล เพราะมันทำให้คนขาดสติที่จะยับยั้ง ทำสิ่งที่สูญเสียให้มากมาย ลองพิจารณาดูดีๆๆครับ การติดต่างหากครับมันเป็นโทษ ศิลห้าเพียงเล็กน้อยเพื่อประโยชน์ทางยาก็ไม่ผิดครับ

1. ติดสุราและของมึนเมา
2. ติดเที่ยวกลางคืน
3. ติดเที่ยวดูการเล่น
4. ติดการพนัน
5. ติดคบเพื่อนชั่ว
6. ติดเกียจคร้านการงาน

มันขึ้นอยู่กับเจตนา+ผล อันเป็นกุศล หรือ อกุศล

ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ :b8:

กบนอกกะลา

คนเล่นการพนัน...ที่จะไม่ผิดศีล..ข้อใดข้อหนึ่งในศีล..5..มีน้อย...มาก

คนเล่นการพนันเป็นอาจิณ....ผิดศีล...แน่นอน

ที่ว่าการพนัน...เป็นทางแห่งความเสื่อม....อบายมุข.....นั้น...นะตรงเฝ้งเลย

อริยะชน...เขารังเกียจมันไปเอง...เป็นธรรมชาติของเขา...

แต่กับอริยะชนมั้ง....นี้ก็หาช่องให้ตัวเองใด้สบายใจไป

ดูที่ใจ....ทำแล้วมันทุกข์มั้ย?....บีบคั้นใจมั้ย?...

มันทุกข์...ก็ไม่อยากทำแล้วละ...ไม่ต้องไปดูว่าผิดศีลข้อไหนหรอก..นี้และศีลของอริยะ

ที่ว่าคนดี...ทำชั่วได้ยาก...ก็เพราะเหตุนี้

ถ้าบอกดูใจ....แต่ผู้ดู..มีวุฒิภาวะต่ำ....มันก็ว่า....ไม่เห็นทุกข์เลย

นี้แหละ...ที่ว่า....คนชั่วทำชั่วได้ง่าย....

42821.ทำไมการพนันถึงไม่ผิดศิล5

ผู้ใช้งานขณะนี้