วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 20:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2012, 07:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ช่วยด้วย....
ผมได้ยินเสียงของความเงียบ... :b5: :b5:

ความเงียบ..มันมีดังน้อย ๆ กับ..ดังมาก ๆ ด้วย..นะ s002

เคยคิดเล่น ๆ ว่า...

ชาติที่แล้วผมตายขณะที่จิ้งหรีดมันมาร้องที่ข้าง ๆ หูหรืองัยนะ??


cool
หลังจากได้ฟังว่าคุณกบได้ยินเสียงเงียบ ....ผมจึงกลับไปถามอาจารย์จิ้งหรีด (ไปนิ่งใส่เจตนากำหนดเอาเสียงจิ้งหรีดร้องเป็นกรรมฐาน) เลยได้คำตอบออกมาว่า

"เสียงเงียบ" ......นั้นไม่มีอยู่จริง มีอยู่แต่ในความคิดฝัน และสมมุติฐานของนักคิดเท่านั้น

ที่มีอยู่จริงๆคือ ....."เงียบเสียง หรือ เงียบจากเสียง".....

:b10:
ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้น......ก็เพราะ การใช้สมมุติบัญญัติว่า...เสียงเงียบ....นั้นมันผิดธรรม ไม่เป็นไปตามธรรม เพราะเมื่อขึ้นต้นด้วยคำว่า...เสียง...ก็ย่อมหมายถึงสิ่งที่จะมากระทบแก้วหูแล้วเกิดการได้ยินขึ้นมาแต่คำว่า ......เงียบ....นั้นมันหมายถึง..ไม่มีเสียง....

:b39:
ความเงียบจากเสียงนั้น บนโลกที่มีอากาศเป็นสื่อหรือพาหะพาคลื่นเสียงไปสู่ประสาทหูหรือแก้วหูได้นี้ กับคนหูดีๆ จะไม่มีโอกาสได้เจอกับความเงียบสัมบูรณ์ หรือความ ไม่มีเสียง เพราะ สิ่งแวดล้อมและสภาวในตัวของมนุษย์ มีเหตุปัจจัยก่อให้เกิดเสียงอยู่ตลอดเวลา......ถ้าสังเกตให้ดี จะไม่มีที่แห่งใดในโลกนี้ที่จะปลอดจากเสียงได้ .....มีแต่คนที่หูหนวก คนเข้าสมาธิลึก กับ คนที่สติ ปัญญา สมาธิ ไม่คมกล้า ไม่ละเอียดอ่อนเท่านั้น ที่สำคัญว่าโลกนี้เงียบ หากไม่เชื่อ ขอให้ทุกท่านลองไปหาที่ๆท่านคิดว่าเงียบที่สุดแล้วนั่งลงหลับตา กำหนดสติไว้ที่หู แล้ว สังเกตพิจารณาดูกันนะครับ พิสูจน์เลย
.......ในอวกาศ ที่ไม่มีอากาศเป็นสื่อเสียง อาจจะเงียบจริงๆ หรือไม่มีเสียง แต่โอกาสที่คนจะไปอยู่ในอวกาศเพื่อพิสูจน์....ความเงียบสัมบูรณ์....นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากและลงทุนสูง


:b48: :b48:
ความเงียบจากเสียงของผู้คนในโลกนี้อาจทำได้แค่.....ไม่มนสิการ....ไม่ใส่ใจ...ไม่ตั้งเจตนา ไปรับรู้เสียงต่างๆที่กำลังเกิดอยู่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงบนโลกนี้......หรือทำให้เงียบจากการรับรู้โดยการเอาสติ เอาจิตไปผูกมัดอยู่กับสิ่งใดหรือการงานใดๆจนจิตไม่ยอมรับรู้เสียง อย่างเช่นการทำสมาธิให้เกิดกับงานที่ทำหรือการเจริญสมถะภาวนา วิปัสสนาภาวนา

onion onion
อาจารย์จิ้งหรีด กล่าวว่า ถ้าอยากพิสูจน์ว่าโลกนี้ไม่เงียบจริง ก็ลองมานั่งสงบกายสงบใจ สังเกต การกระทบสัมผัสของหูกับคลื่นเสียงที่มีอยู่รอบตัวเราตลอดเวลาดูซิ อย่างน้อยๆ เสียงของอาจารย์จิ้งหรีดและพวกพ้องก็จะดังก้องอยู่ทุกทิวาราตรีกาลให้มนุษย์ทุกท่านพิสูจน์สัจธรรมความจริงนี้...นอกจากนั้นยังมีเสียงกบ เขียด ลม การกระทบกัน การเคลื่อนไหวของวัตถุ....ฯลฯ
:b16:
เลิกฝันถึงเสียงเงียบได้แล้วนะครับ แต่ถ้าอยากได้รับ ความเงียบ ก็ต้องมาฝึกทำสมาธิวิปัสสนากันจึงจะได้พบกับ ......ความเงียบจากการรับรู้ .....ซึ่งมีอยู่จริงตามธรรม
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2012, 08:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อโสกะ....ก็ขาดความปราณีต...ขาดความสุขุลุ่มลึก..ความละเอียดอ่อน..เช่นเคย..นะ

อิ...อิ...อิ...

เสียงของความเงียบ....นะ

ไม่ใช่เสียงเงียบ...ซะหน่อย... :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2012, 10:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อโสกะ....ก็ขาดความปราณีต...ขาดความสุขุลุ่มลึก..ความละเอียดอ่อน..เช่นเคย..นะ

อิ...อิ...อิ...

เสียงของความเงียบ....นะ

ไม่ใช่เสียงเงียบ...ซะหน่อย... :b32: :b32:

เสียงเงียบ มันไม่ใช่เสียง ถ้าอายตนะภายในที่เรียกว่าหู
ไม่มีผัสสะเกิดขึ้น นั้นแสดงว่าไม่มีเสียง

เสียงเงียบเรารู้สึกถึงความเงียบได้ด้วยใจ ดังนั้นเสียงเงียบที่ว่า
จึงหมายถึง ธัมมารมณ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2012, 12:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อโสกะ....ก็ขาดความปราณีต...ขาดความสุขุลุ่มลึก..ความละเอียดอ่อน..เช่นเคย..นะ

อิ...อิ...อิ...

เสียงของความเงียบ....นะ

ไม่ใช่เสียงเงียบ...ซะหน่อย... :b32: :b32:

สวัสดีครับพี่กบนอกกะลา :b8:

ผมก็ไม่เข้าใจกับ เสียงของความเงียบ ถ้าจะกรุณาขยายความด้วยก็จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ...
ปล.ถ้าหมายถึงเสียงของความคิด ผมก็เข้าใจนะครับ

ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2012, 19:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อโสกะ....ก็ขาดความปราณีต...ขาดความสุขุลุ่มลึก..ความละเอียดอ่อน..เช่นเคย..นะ

อิ...อิ...อิ...

เสียงของความเงียบ....นะ

ไม่ใช่เสียงเงียบ...ซะหน่อย... :b32: :b32:

:b10: :b10: :b10:
ไม่ใช่ผมคนเดียวที่สงสัยและติง เรื่อง "เสียงเงียบ" หรือที่เอาไปกรอกใส่ในขวดใหม่ให้ชื่อว่า "เสียงของความเงียบ" มันมีอยู่ในความเป็นจริงได้หรือเปล่า หรือเป็นเพียงความคิดเพ้อฝัน เพราะ คำพูดมันผิดธรรม ขนาดท่านโฮฮับยังให้เกียรติ์มาติงด้วยเหตุผลดังที่เห็น สงสัยคุณกบจะต้องอธิบายตามคำถามของคุณลูกพระป่าให้ชัดเจนแจ่มแจ้งตามธรรมเสียแล้วหละครับ
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2012, 22:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รู้สึก....จะมีปัญหาต้องอธิบายแล้วรึ...? :b12:

ทุกคนอยากได้ ความจริงแบบวิทยาศาสตร์ที่จับต้องได้...

แต่คุณปลีกวิเวก...กลับมองไปที่อุบายธรรม...

ไม่เห็นจะมีใครผิดเลยนิ....สาธุกับทุกคน :b8: ...

โฮฮับ เขียน:
เสียงเงียบ มันไม่ใช่เสียง ถ้าอายตนะภายในที่เรียกว่าหู
ไม่มีผัสสะเกิดขึ้น นั้นแสดงว่าไม่มีเสียง

เสียงเงียบเรารู้สึกถึงความเงียบได้ด้วยใจ ดังนั้นเสียงเงียบที่ว่า
จึงหมายถึง ธัมมารมณ์


รู้สึกว่าที่โฮพูด....มันได้อธิบายตัวเองไปในตัวแล้วส่วนหนึ่งนะ... :b17:

คือการได้ยิน...ที่เรียกว่าเสียง...มีที่มาได้ 2 อย่างคือ..โสตะวิญญาณจากผัสสะที่หู..และ..มโนวิญญาณ...ที่ผัสสะจากธรรมารมณ์

แล้ว...กระผมยังจะไปอธิบายอะไรได้อีก... :b9: :b9:

มีใครเคยถูกเรียกชื่อตัวเองอยู่ตรงหู....แต่รอบ ๆ ไม่มีใครอยู่เลยมั้ย? :b12:

ลูกพระป่า เขียน:
สวัสดีครับพี่กบนอกกะลา

ผมก็ไม่เข้าใจกับ เสียงของความเงียบ ถ้าจะกรุณาขยายความด้วยก็จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ...
ปล.ถ้าหมายถึงเสียงของความคิด ผมก็เข้าใจนะครับ

ขอบคุณครับ


ความคิด...ก็ได้เช่นกันครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2012, 23:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b10: :b10: :b10:
ไม่ใช่ผมคนเดียวที่สงสัยและติง เรื่อง "เสียงเงียบ" หรือที่เอาไปกรอกใส่ในขวดใหม่ให้ชื่อว่า "เสียงของความเงียบ" มันมีอยู่ในความเป็นจริงได้หรือเปล่า หรือเป็นเพียงความคิดเพ้อฝัน เพราะ คำพูดมันผิดธรรม....

:b32: ...ผมไม่ได้เล่นคำอะไรเลยครับ...ผมหมายตรงที่ผมพูด... :b12:

...เสียงของความเงียบ...

อโสกะ...ลองไปหาที่ที่คิดว่าไม่มีเสียงอะไรเลยดูซิครับ...เอาที่เงียบที่สุดนะ...

แล้วตั้งใจฟังให้ดี..ดี...นะ..(ไม่นับรวมเสียงของความคิดนะ)..

ไม่งั้น...ผมอาจจะเป็นโรคเฉพาะตน...ก็เป็นได้...


asoka เขียน:
ขนาดท่านโฮฮับยังให้เกียรติ์มาติงด้วยเหตุผลดังที่เห็น สงสัยคุณกบจะต้องอธิบายตามคำถามของคุณลูกพระป่าให้ชัดเจนแจ่มแจ้งตามธรรมเสียแล้วหละครับ
:b4: :b4:


ทำแล้วครับ... :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2012, 07:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


cool
อ้างคำพูด:
...ผมไม่ได้เล่นคำอะไรเลยครับ...ผมหมายตรงที่ผมพูด...

...เสียงของความเงียบ...

อโสกะ...ลองไปหาที่ที่คิดว่าไม่มีเสียงอะไรเลยดูซิครับ...เอาที่เงียบที่สุดนะ...

แล้วตั้งใจฟังให้ดี..ดี...นะ..(ไม่นับรวมเสียงของความคิดนะ)..

ไม่งั้น...ผมอาจจะเป็นโรคเฉพาะตน...ก็เป็นได้...

:b12: :b16:
มันหาไม่ได้จริงๆครับ บนโลกธรรมดาๆใบนี้ ไม่มีที่ไหนเลยที่เงียบจนไม่มีเสียงใดเกิดขึ้น
สงสัยต้องไปขอใช้ห้องสุญญากาศ ของสถานีทดลองอวกาศเสียแล้วกระมังครับ
หรือว่าคุณกบหาได้ครับ

:b10:
ก็คงจะพอมีแต่ที่คิดเอาว่าเงียบอย่างคุณกบบอก มันก็เลยเป็นเพียงความเงียบสมมุติ ไม่ซึ้งใจจริงๆได้หรอกครับ คงจะคล้าย นิพพานสมมุติ บรรลุธรรมสมมุติ โดยคิดเอา อย่างที่คุณกบมักจะติงใครต่อใครอยู่เสมอ
cool
แต่เรื่องนี้น่าจะจบลงได้ที่การยอมรับและเปลี่ยนมาใช้บัญญัติให้ถูกต้องตามธรรมน่าจะยุติข้อสงสัยและกังขาได้กระมังครับ

"เสียงเงียบ"เป็นการเข้าใจตามความเห็นของคุณกบ

"เงียบเสียง" เป็นสภาวธรรมที่ไม่มีสิ่งกระทบแก้วหู เป็นการคู่กันของ "ความเงียบ กับ เสียง"
ไม่ใช่การคู่กันของ "เสียงดัง กับ เสียงค่อย"

ใช้บัญญัติให้ถูกต้องตามสภาวธรรมเป็นของดีนะครับ เขาเรียกว่า "ปรมัตถบัญญัติ" ส่วนการใช้บัญญัติตามความเห็นของตนนั้นเขาเรียกว่า "สมมุติบัญญัติ"ซึ่งจะมีข้อถกเถียงกันอย่างจบยาก เพราะเอาความเห็นเป็นที่ตั้งไม่ได้เอาธรรมเป็นที่ตั้ง

:b44:
หรือจะเอาอย่างที่คุณโฮฮับบอก ความเงียบเป็นสภาวธรรมที่รู้ที่ใจ ไม่ใช่เสียง
:b39:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2012, 09:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
อโสกะ....ก็ขาดความปราณีต...ขาดความสุขุลุ่มลึก..ความละเอียดอ่อน..เช่นเคย..นะ

อิ...อิ...อิ...

เสียงของความเงียบ....นะ

ไม่ใช่เสียงเงียบ...ซะหน่อย... :b32: :b32:

สวัสดีครับพี่กบนอกกะลา :b8:

ผมก็ไม่เข้าใจกับ เสียงของความเงียบ ถ้าจะกรุณาขยายความด้วยก็จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ...
ปล.ถ้าหมายถึงเสียงของความคิด ผมก็เข้าใจนะครับ

ขอบคุณครับ :b8:

ความคิดไม่ใช่ผัสสะ ความคิดไม่ใช่เวทนา ความคิดไม่ใช่สัญญา
แต่ความคิดเป็นสังขารขันธ์ ที่เรียกว่าจิตสังขาร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2012, 14:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ลูกพระป่า เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
อโสกะ....ก็ขาดความปราณีต...ขาดความสุขุลุ่มลึก..ความละเอียดอ่อน..เช่นเคย..นะ

อิ...อิ...อิ...

เสียงของความเงียบ....นะ

ไม่ใช่เสียงเงียบ...ซะหน่อย... :b32: :b32:

สวัสดีครับพี่กบนอกกะลา :b8:

ผมก็ไม่เข้าใจกับ เสียงของความเงียบ ถ้าจะกรุณาขยายความด้วยก็จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ...
ปล.ถ้าหมายถึงเสียงของความคิด ผมก็เข้าใจนะครับ

ขอบคุณครับ :b8:

ความคิดไม่ใช่ผัสสะ ความคิดไม่ใช่เวทนา ความคิดไม่ใช่สัญญา
แต่ความคิดเป็นสังขารขันธ์ ที่เรียกว่าจิตสังขาร


คำพูดนี้น่านำเอามาพิจารณาว่า จิตสังขารเป็นผลไม่ใช่เหรอครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2012, 03:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ลูกพระป่า เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
อโสกะ....ก็ขาดความปราณีต...ขาดความสุขุลุ่มลึก..ความละเอียดอ่อน..เช่นเคย..นะ

อิ...อิ...อิ...

เสียงของความเงียบ....นะ

ไม่ใช่เสียงเงียบ...ซะหน่อย... :b32: :b32:

สวัสดีครับพี่กบนอกกะลา :b8:

ผมก็ไม่เข้าใจกับ เสียงของความเงียบ ถ้าจะกรุณาขยายความด้วยก็จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ...
ปล.ถ้าหมายถึงเสียงของความคิด ผมก็เข้าใจนะครับ

ขอบคุณครับ :b8:

ความคิดไม่ใช่ผัสสะ ความคิดไม่ใช่เวทนา ความคิดไม่ใช่สัญญา
แต่ความคิดเป็นสังขารขันธ์ ที่เรียกว่าจิตสังขาร


คำพูดนี้น่านำเอามาพิจารณาว่า จิตสังขารเป็นผลไม่ใช่เหรอครับ

กับคำพูดที่ว่า "เสียงของความคิด" มันเป็นการเอาบัญญัติมาใช้ผิดที่ผิดทางแต่ต้น
ปัญหาแบบนี้มักเกิดจาก ผู้ที่ไม่รู้ธรรมที่แท้จริง แต่ชอบวางมาดเป็นผู้ทรงภูมิ
ชอบเอาบัญญัติมาเล่น อวดอ้างโวหาร หารู้ไม่ว่ามันเป็นภัยต่อธรรมแท้ๆของพระพุทธเจ้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2012, 04:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ความคิดไม่ใช่ผัสสะ ความคิดไม่ใช่เวทนา ความคิดไม่ใช่สัญญา
แต่ความคิดเป็นสังขารขันธ์ ที่เรียกว่าจิตสังขาร


คำพูดนี้น่านำเอามาพิจารณาว่า จิตสังขารเป็นผลไม่ใช่เหรอครับ

ความคิดก็เป็นผล ที่ว่าเป็นผลก็คือความคิดจะเกิดหลังจาก มีการกระทบอารมณ์เกิดขึ้น
แต่ความคิดสามารถแปลเปลี่ยนเป็น อายตนะภายนอกหรือธัมมารมณ์ได้ก็ต่อเมื่อเกิด
ตัวรู้ขึ้น หมายความว่า จะเกิดกระบวนการขันธ์ขึ้นใหม่ จนเกิดผลที่เรียกว่าสติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2012, 07:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อุ่นเครื่องกันมากับความเห็นที่หลากหลายเรื่องเสียง ทั้งตามธรรม และ ทั้งตามความจินตนาการ นึกคิด
วันนี้ลองมาฟังธรรมะจากจิ้งหรีดกันอีกสักกัณฑ์นะครับ
onion

ผมเคยได้ฟังคำเล่าของตุ๊จก.....เมื่อสมัยเป็นหนุ่มว่า

"จิ๊กกุ่ง ตี้อยู่ในซ้อยเนียะ มันดีดกั๋นบ้บๆตลอดเวลา ทั้งๆตี้ว่ากำเดียวก่อจะได้ลงหม้อขางโตยกั๋นแล้ว"

ตุ๊จก .....ชูชก....หมายถึงพระที่เทศน์กัณฑ์ชูชก

จิ๊กกุ่ง......จิ้งโกร่ง..คือจิ้งหรีดตัวโตๆ คนทางเหนือเขาชอบขุดมาคั่ว ทอดหรือตำน้ำพริก กิน

ซ้อย....คือพวงร้อยที่ได้ก้านดอกหญ้าแห้วหมูขนาดใหญ่

ดีดกั๋นบ้บๆ....คืออาการที่จิ้งโกร่งใช้ขาหลังดีดตีตัวที่ใกล้เคียงกันอยู่ตลอดเวลา

กำเดียวก่อจะได้ลงหม้อขางโตยกั๋น......คือ เดี๋ยวก็จะต้องลงกระทะด้วยกันอยู่แล้ว
:b13:

อุปมัยในเรื่องนี้ ตุ๊จก ก็ได้บอกต่อไปได้ความหมายเป็นภาษาไทยภาคกลางว่า
:b10:
จิ้งโกร่งเหล่านี้ เปรียบเหมือนคนที่อวดดีอวดเด่น อวดรู้อวดเก่ง ที่กำลังทะเลาะเบาะแว้ง แข่งดีแข่งเด่น
เอาความเห็นความรู้ มาถูไถ เอาชนะคะคานกัน ด้วยอำนาจอัตตา ความเห็นต่าง มานะ ทิฏฐิ มิรู้หยุดหย่อน เถียงกันไป โต้กันมา มีกิริยาอาการเหมือนจิ้งหรีดหรือจิ้งโกร่ง ที่ถูกขุดมาร้อยคอติดกันด้วยต้นดอกหญ้า แล้วเอาแข้งขาดีดกันไปมาไม่หยุด มันจะดีดกันไป จนถึงวาระสุดท้ายที่ถูกตัดก้นควักเอาขี้ออกแล้วล้างลงทอดหรือคั่วในกระทะ คือไปสู่ความตายเหมือนกันหมด

:b14:
ฟังเรื่องนี้แล้วทำให้คิดถึงผู้คนในสังคมโลกปัจจุบัน หรือแม้แต่ในลานธรรมทั้งหลายก็มีสภาพไม่แตกต่างกัน....เมื่อมาหวนย้อนคิดพิจารณาแล้ว เรื่องจิ้งโกร่งในซ้อยเดียวกันนี้ มีคติและอุธาหรณ์สอนใจเยอะ ทำให้นึกปลงอะไรไปได้แยะเลยเชียวครับ
onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2012, 09:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b8:
อุ่นเครื่องกันมากับความเห็นที่หลากหลายเรื่องเสียง ทั้งตามธรรม และ ทั้งตามความจินตนาการ นึกคิด
วันนี้ลองมาฟังธรรมะจากจิ้งหรีดกันอีกสักกัณฑ์นะครับ
onion

ผมเคยได้ฟังคำเล่าของตุ๊จก.....เมื่อสมัยเป็นหนุ่มว่า

"จิ๊กกุ่ง ตี้อยู่ในซ้อยเนียะ มันดีดกั๋นบ้บๆตลอดเวลา ทั้งๆตี้ว่ากำเดียวก่อจะได้ลงหม้อขางโตยกั๋นแล้ว"

ตุ๊จก .....ชูชก....หมายถึงพระที่เทศน์กัณฑ์ชูชก

จิ๊กกุ่ง......จิ้งโกร่ง..คือจิ้งหรีดตัวโตๆ คนทางเหนือเขาชอบขุดมาคั่ว ทอดหรือตำน้ำพริก กิน

ซ้อย....คือพวงร้อยที่ได้ก้านดอกหญ้าแห้วหมูขนาดใหญ่

ดีดกั๋นบ้บๆ....คืออาการที่จิ้งโกร่งใช้ขาหลังดีดตีตัวที่ใกล้เคียงกันอยู่ตลอดเวลา

กำเดียวก่อจะได้ลงหม้อขางโตยกั๋น......คือ เดี๋ยวก็จะต้องลงกระทะด้วยกันอยู่แล้ว
:b13:

อุปมัยในเรื่องนี้ ตุ๊จก ก็ได้บอกต่อไปได้ความหมายเป็นภาษาไทยภาคกลางว่า
:b10:
จิ้งโกร่งเหล่านี้ เปรียบเหมือนคนที่อวดดีอวดเด่น อวดรู้อวดเก่ง ที่กำลังทะเลาะเบาะแว้ง แข่งดีแข่งเด่น
เอาความเห็นความรู้ มาถูไถ เอาชนะคะคานกัน ด้วยอำนาจอัตตา ความเห็นต่าง มานะ ทิฏฐิ มิรู้หยุดหย่อน เถียงกันไป โต้กันมา มีกิริยาอาการเหมือนจิ้งหรีดหรือจิ้งโกร่ง ที่ถูกขุดมาร้อยคอติดกันด้วยต้นดอกหญ้า แล้วเอาแข้งขาดีดกันไปมาไม่หยุด มันจะดีดกันไป จนถึงวาระสุดท้ายที่ถูกตัดก้นควักเอาขี้ออกแล้วล้างลงทอดหรือคั่วในกระทะ คือไปสู่ความตายเหมือนกันหมด

:b14:
ฟังเรื่องนี้แล้วทำให้คิดถึงผู้คนในสังคมโลกปัจจุบัน หรือแม้แต่ในลานธรรมทั้งหลายก็มีสภาพไม่แตกต่างกัน....เมื่อมาหวนย้อนคิดพิจารณาแล้ว เรื่องจิ้งโกร่งในซ้อยเดียวกันนี้ มีคติและอุธาหรณ์สอนใจเยอะ ทำให้นึกปลงอะไรไปได้แยะเลยเชียวครับ
onion


จะนึกปลงทำไม่ มันมีทั้งได้ ทั้งเสีย เลือกเอาไปเถอะ

สัญญา กับ ปัญญา

ความเห็นตามสัญญากับความเห็นด้วยปัญญา
ต่างกันอยู่มากราวฟ้ากับดิน

ความเห็นด้วยสัญญาพาให้ผู้เห็นมีอารมณ์มาก
มักเสกสรรตัวว่ามีความรู้มาก ทั้งที่กำลังหลงมาก
จึงมีทิฏฐิมานะมาก ไม่ยอมลงให้ใครง่ายๆ...

ส่วนความเห็นด้วยปัญญาเป็นความเห็นซึ่งพร้อมที่จะถอดถอน ความสำคัญมั่นหมายต่างๆ อันเป็นตัวกิเลสทิฏฐิมานะน้อยใหญ่ออกไปโดยลำดับที่ปัญญาหยั่งถึง ถ้าปัญญาหยั่งลงโดยทั่วถึงจริงๆ กิเลสทั้งมวลก็พังทลายไปหมด

เจริญธรรม

โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2012, 07:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


cool
อ้างคำพูด:
เอราก้อน-โจ.....
จะนึกปลงทำไม่ มันมีทั้งได้ ทั้งเสีย เลือกเอาไปเถอะ

:b10:
ยังปฏิบัติเพื่อ "เอา" อยู่หรือครับคุณเอก้อน
คำว่า "ปลง" นี่เขากินความหายลึกซึ้งมากนะครับ ครอบคลุมไปทั่วเลยเชียว แล้วแต่จะตีความแตก

ปลง....เพราะเห็นความจริงแล้วเบื่อหน่ายคลายจาง

ปลง....คือละวาง หรือ สลัดคืนสิ่งที่ผิดธรรมกลับไปสู่ธรรม

ปลง....คือ พอ

ปลง....คือ ฯลฯ

:b16:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร