วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 20:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 120 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 21:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:


:b8: :b8: :b8:

คงจะเหมาะกับผู้ศึกษามาทางปริยัติ...หรือชอบแนวบาลี
แต่...ไม่รู้ว่าจะเห็นด้วยมั้ย?

กระผมไม่รู้เรื่องปริยัติ.......แต่ชัดเจนดี...ว่า..ไม่สูญ :b16:

พอไม่สูญ...อนัตตาสาวก...ก็ว่า...คุณยึดแล้วนั้น...ยึดแล้วนิพพานไม่ได้หรอก :b9:

อย่างที่บางท่านว่า...ไม่มีอะไรเลย....สั่นสะเทือนกว่า :b5:

เคย..สั่นสะเทือนกว่า...มาก่อนแล้ว

แต่ตอนนี้....ไม่ใช่ :b16:

บางที.....เรา ๆ มีธรรมชาติที่เลือกข้างก่อนอยู่แล้ว..เน๊าะ...ก็เลือกที่จะเชื่อไอ้ที่จะมาแนวที่เราฝังใจใว้แล้ว...

จะฟังเรื่องอื่น ๆ ด้วยความเป็นกลาง...จริง..ๆ ...เนี้ย...ใครจะรู้มั้ย?

ที่นิโรธาราม....ฟังแล้ว...จุดแข็งก็เห็นแล้ว....จุดอ่อนก็เห็นเช่นกัน

แต่...ผมกลับมาโง่อย่างเดิมดีกว่า...อยู่เป็นสุขกว่า... :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 21:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: :b1: :b1:

ใจ....ไม่ใช่คน
ใจ...ไม่ใช่อัตตา
ใจ...ก็อนัตตา


อาจจะเหมาะกับเด็ก ๆ ฟัง...นะ

แต่อย่าเอาไปปนกับของพระพุทธเจ้าละ....

"สพฺพปาปสฺส อกรณํ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง,
กุสลสฺสูปสมฺปทา การบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อมบริบูรณ์,
สจิตฺต ปริโยทปนํ การยังจิตใจของตนให้สะอาดบริสุทธิ์
เอตํพุทฺธานสาสนํ นี่เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธองค์"


เดียวจะลังเลสงสัย...กลายเป็นฟุ้งซ่าน..ไป :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 21:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


นิพพานยังไม่แจ้ง แค่เข้าใจ เห็นว่า อัตตาก็ไม่สูญ อนัตตาก็ไม่สูญ หากยังมีขันธ์5 ก็ยังต้องเพียรให้เห็น และคงไม่พ้น อนัตตา

สาธุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 21:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
:b1: :b1: :b1:

ใจ....ไม่ใช่คน
ใจ...ไม่ใช่อัตตา
ใจ...ก็อนัตตา


อาจจะเหมาะกับเด็ก ๆ ฟัง...นะ

แต่อย่าเอาไปปนกับของพระพุทธเจ้าละ....

"สพฺพปาปสฺส อกรณํ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง,
กุสลสฺสูปสมฺปทา การบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อมบริบูรณ์,
สจิตฺต ปริโยทปนํ การยังจิตใจของตนให้สะอาดบริสุทธิ์
เอตํพุทฺธานสาสนํ นี่เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธองค์"


เดียวจะลังเลสงสัย...กลายเป็นฟุ้งซ่าน..ไป :b12:


หากยังไม่เข้าใจ อนัตตา ก็ไม่เข้าใจ คำว่า ตน ที่พระพุทธองค์ทรงตรัส
:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 21:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ปุจฉา : อนัตตา เป็นเช่นไรหนอ

ท่่านทั้งหลายช่วย วิสัชนา ให้ยิ่งๆขึ้นด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ


ที่อยากมีก็ไม่มี แต่บางทีก็มี

ที่ไม่อยากมีก็มี แต่บางทีก็ไม่มี

แล้วแต่เหตุปัจจัย ไม่แล้วแต่ใจ เฮ้อ ...เหนื่อย :b23:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 22:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
หากยังไม่เข้าใจ อนัตตา ก็ไม่เข้าใจ คำว่า ตน ที่พระพุทธองค์ทรงตรัส
:b12:

ใจก็คือใจ...ตนก็คือตน...ที่ปุถุชนเข้าใจได้

ง่าย ๆ ตรง ๆ ...พระองค์ไม่ตรัสในสิ่งที่ปุถุชนไม่เข้าใจหรอก...

ทำใจตนให้กลับมาที่...ธรรมดา...ธรรมดา...อ่านดูเข้าใจไปตามปกติของปุถุชน

อย่าไปทำอะไรให้เริดหรูพิศดาร.....เหมือนอย่างหลายคนที่อยากเป็นอาจารย์คน...ทำ...ที่พยายามเขียนหนังสือกลางอากาศ...ทำลึกล้ำเข้าใว้...ใครจะได้จับไม่ได้..ไล่ก็ไม่ทัน...เห็นกันมากในคนที่อยากกกก....สอนคน

ขณะจิต เขียน:


ที่อยากมีก็ไม่มี แต่บางทีก็มี

ที่ไม่อยากมีก็มี แต่บางทีก็ไม่มี

แล้วแต่เหตุปัจจัย ไม่แล้วแต่ใจ เฮ้อ ...เหนื่อย


ก็ต้องโทษ ท่าน จขกท...ที่ไม่ค่อยมาถือหางเสือ :b32: :b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 11 มิ.ย. 2012, 22:36, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 22:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คนที่จะเข้าใจว่า อนัตตา เป็น ทุกข์ ไม่เที่ยง
เจตสิกจะต้องปรุงแต่งเป็นโสภณเจตสิก=กุศลจิต +เหตุปัจจัย ทำให้เห็น..ทุกข์ พอเห็นเหตุแห่งทุกข์ก็คือ อนัตตา=สภาวะแปรปรวนต้องหาทางหลุดออกจากสภาวะนั้น.. แต่ที่น่าสังสัยคือ กุศลจิตเป็นอนุสัยที่เราสั่งสมมา(บารมี) หลายภพหลายชาติแล้ว เราถึงจะเห็นเช่นนั้น...(คุนน้องอธิบายจากประสบการณ์ของตน )
ทำไมเราต้องทุกข์..เมื่อเราเห็นผู้อื่นทุกข์...มันเกิดกับเจตสิกของเราล้วนๆ
แต่กับอีกบางคน.เห็นคนอื่นทุกข์..แต่ใจเค้าก็ไม่ได้ทุกข์..ไม่ได้ปรุงแต่งเป็นเวทนาว่ามันทุกข์ไม่เที่ยง
เรื่องแบบนี้อธิบายยากนะ คนที่จะเข้าถึงธรรมพระพุทธเจ้า ต้องเป็นคนจิตใจบริสุทธิ์ ความโลภ ความโกรธ ความพยาบาท อิจฉา ต้องคลายจางเบาบางลงไปด้วยเหตุปัจจัยเสียก่อน....
อันนี้เป็นสภาวะของคุนน้องเองนะ ผิดถูกประการใดก็พิจารณาด้วยปัญญา :b8:
:b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 22:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ง่ายๆอย่างนี้นะครับ.....การที่เราไม่เอาตนเข้าไปพัวพันในทุกข์ ตัวอย่างคือ ไม่เอาใจไปจรดกับ อัตกิมถานุโยค กามสุขัลนุโยค
ไม่ใช่ พอมีทุกข์แล้วไปเกิดอัตตา
สจิตฺต ปริโยทปนํ การยังจิตใจของตนให้สะอาดบริสุทธิ์
ภาษิตที่กบน้อยยกมาอ่านให้ดีๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 22:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิต เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ปุจฉา : อนัตตา เป็นเช่นไรหนอ

ท่่านทั้งหลายช่วย วิสัชนา ให้ยิ่งๆขึ้นด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ


ที่อยากมีก็ไม่มี แต่บางทีก็มี

ที่ไม่อยากมีก็มี แต่บางทีก็ไม่มี

แล้วแต่เหตุปัจจัย ไม่แล้วแต่ใจ เฮ้อ ...เหนื่อย :b23:



ต้องเห็นที่มี และเห็นที่ไม่มี ตามจริง
จริง เป็นเช่นไรเล่า ...
เฮ้อ... เหนื่อยด้วย :b23:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 22:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
[๑๙๙] ครั้งนั้น เวลาเย็น ท่านพระสารีบุตรออกจากที่พักผ่อนแล้วเข้าไปหาท่านยมกะ
ถึงที่อยู่ ได้สนทนาปราศรัยกับท่านยมกะ ครั้นผ่านการสนทนาปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว
จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ถามท่านยมกะว่า ดูกรอาวุโสยมกะ ทราบว่า ท่านเกิด
ทิฏฐิอันชั่วช้าเห็นปานนี้ว่า เรารู้ทั่วถึงธรรม ตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้วว่า พระขีณาสพ
เมื่อตายไปแล้ว ย่อมขาดสูญ ย่อมพินาศ ย่อมไม่เกิดอีก
ดังนี้ จริงหรือ? ท่านยมกะตอบว่า
อย่างนั้นแล ท่านสารีบุตร.
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ บรรทัดที่ ๒๔๔๗ - ๒๕๘๕. หน้าที่ ๑๐๖ - ๑๑๒.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v ... agebreak=0




Quote Tipitaka:
พระนิพพานอันเป็นอสังขตธาตุ ซึ่งได้บัญญัติว่า อัตตา
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๒๒๖๖ - ๒๒๗๗. หน้าที่ ๙๙.
http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B ... agebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=77


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 22:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ต้องเห็นที่มี และเห็นที่ไม่มี ตามจริง
จริง เป็นเช่นไรเล่า ...
เฮ้อ... เหนื่อยด้วย

ไปยุ่งกับของที่มัน...ไม่มี....

มันก็เหนื่อย...เป็นทุกข์....แล้วเห็นมัยนะ... :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 22:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
หากยังไม่เข้าใจ อนัตตา ก็ไม่เข้าใจ คำว่า ตน ที่พระพุทธองค์ทรงตรัส
:b12:
ใจก็คือใจ...ตนก็คือตน...ที่ปุถุชนเข้าใจได้

ง่าย ๆ ตรง ๆ ...พระองค์ไม่ตรัสในสิ่งที่ปุถุชนไม่เข้าใจหรอก...

ทำใจตนให้กลับมาที่...ธรรมดา...ธรรมดา...อ่านดูเข้าใจไปตามปกติของปุถุชน

อย่าไปทำอะไรให้เริดหรูพิศดาร.....เหมือนอย่างหลายคนที่อยากเป็นอาจารย์คน...ทำ...ที่พยายามเขียนหนังสือกลางอากาศ...ทำลึกล้ำเข้าใว้...ใครจะได้จับไม่ได้..ไล่ก็ไม่ทัน...เห็นกันมากในคนที่อยากกกก....สอนคน



สอนก็ดี ไม่สอนก็ดี สรรเสริญก็ดี วาจาทุจริตก็ดี ยินดีทั้งนั้น ไม่เป็นไร เลือกๆเอา
ดีใจโผล่ก็สำรอก ทุกข์ใจโผล่ก็สำรอก กิเลสโผล่ก็สำรอก เดียวมันก็หมดเองมั่ง :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 22:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


[quote="หลับอยุ่"]
Quote Tipitaka:
[๑๙๙] ครั้งนั้น เวลาเย็น ท่านพระสารีบุตรออกจากที่พักผ่อนแล้วเข้าไปหาท่านยมกะ
ถึงที่อยู่ ได้สนทนาปราศรัยกับท่านยมกะ ครั้นผ่านการสนทนาปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว
จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ถามท่านยมกะว่า ดูกรอาวุโสยมกะ ทราบว่า ท่านเกิด
ทิฏฐิอันชั่วช้าเห็นปานนี้ว่า เรารู้ทั่วถึงธรรม ตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้วว่า พระขีณาสพ
เมื่อตายไปแล้ว ย่อมขาดสูญ ย่อมพินาศ ย่อมไม่เกิดอีก
ดังนี้ จริงหรือ? ท่านยมกะตอบว่า
อย่างนั้นแล ท่านสารีบุตร.
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ บรรทัดที่ ๒๔๔๗ - ๒๕๘๕. หน้าที่ ๑๐๖ - ๑๑๒.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v ... agebreak=0




:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 22:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
หากยังไม่เข้าใจ อนัตตา ก็ไม่เข้าใจ คำว่า ตน ที่พระพุทธองค์ทรงตรัส


ใจก็คือใจ...ตนก็คือตน...ที่ปุถุชนเข้าใจได้

ง่าย ๆ ตรง ๆ ...พระองค์ไม่ตรัสในสิ่งที่ปุถุชนไม่เข้าใจหรอก...

ทำใจตนให้กลับมาที่...ธรรมดา...ธรรมดา...อ่านดูเข้าใจไปตามปกติของปุถุชน

อย่าไปทำอะไรให้เริดหรูพิศดาร.....เหมือนอย่างหลายคนที่อยากเป็นอาจารย์คน...ทำ...ที่พยายามเขียนหนังสือกลางอากาศ...ทำลึกล้ำเข้าใว้...ใครจะได้จับไม่ได้..ไล่ก็ไม่ทัน...เห็นกันมากในคนที่อยากกกก....สอนคน


สอนก็ดี ไม่สอนก็ดี สรรเสริญก็ดี วาจาทุจริตก็ดี ยินดีทั้งนั้น ไม่เป็นไร เลือกๆเอา
ดีใจโผล่ก็สำรอก ทุกข์ใจโผล่ก็สำรอก กิเลสโผล่ก็สำรอก เดียวมันก็หมดเองมั่ง


อย่าไปคิดอะไรพิศดาร....คิดธรรมดา...ธรรมดา :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 23:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
หากยังไม่เข้าใจ อนัตตา ก็ไม่เข้าใจ คำว่า ตน ที่พระพุทธองค์ทรงตรัส


ใจก็คือใจ...ตนก็คือตน...ที่ปุถุชนเข้าใจได้

ง่าย ๆ ตรง ๆ ...พระองค์ไม่ตรัสในสิ่งที่ปุถุชนไม่เข้าใจหรอก...

ทำใจตนให้กลับมาที่...ธรรมดา...ธรรมดา...อ่านดูเข้าใจไปตามปกติของปุถุชน

อย่าไปทำอะไรให้เริดหรูพิศดาร.....เหมือนอย่างหลายคนที่อยากเป็นอาจารย์คน...ทำ...ที่พยายามเขียนหนังสือกลางอากาศ...ทำลึกล้ำเข้าใว้...ใครจะได้จับไม่ได้..ไล่ก็ไม่ทัน...เห็นกันมากในคนที่อยากกกก....สอนคน


สอนก็ดี ไม่สอนก็ดี สรรเสริญก็ดี วาจาทุจริตก็ดี ยินดีทั้งนั้น ไม่เป็นไร เลือกๆเอา
ดีใจโผล่ก็สำรอก ทุกข์ใจโผล่ก็สำรอก กิเลสโผล่ก็สำรอก เดียวมันก็หมดเองมั่ง


อย่าไปคิดอะไรพิศดาร....คิดธรรมดา...ธรรมดา :b16:

ถูก... ก็มันธรรมดา แล้วเห็นว่ากิเลสมันธรรมดา ด้วยมั้ยหว่า :b23: ต้องให้ธรรมดาโดยไม่มี ลอย และจม :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 120 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร