วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 13:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 120 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 01:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


หลาย ๆ คนเขาอยาก..อนัตตากันนะ....ไม่มีตัวตนแล้ว..มันดูขลังมั้ง? :b13:


โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 04:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ชมพร้อมกันครับ
http://www.youtube.com/watch?v=Gyk-wzjlKxA&feature=relmfu

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 07:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ปุจฉา : อนัตตา เป็นเช่นไรหนอ

ท่่านทั้งหลายช่วย วิสัชนา ให้ยิ่งๆขึ้นด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ


ไต่stepกันใหม่ก่อน

สิ่งใดเป็นทุกข์สิ่งนั้นเป็นอนัตตา



เชิญท่านหลับอยู่ ช่วยแนะนำด้วยครับ ตั้งแต่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นสายต่อเนื่องกันมาเลยครับ

ขอบคุณครับ


โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 09:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2011, 15:12
โพสต์: 190


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเสริมเรื่องนี้อีกความเห็นครับ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มันตัวเดียวกันนั่นแหละ แต่จะมองให้รู้ให้เห็นด้วยปัญญานี้ ก็ด้วยเฉพาะบุคคล สิ่งไหนที่เราเห็นไม่เที่ยง ก็แปลว่ามันหาสาระอะไรมิได้ ตัวที่หาสาระมิได้นั้น มันเป็นทุกข์ หากไปเห็นว่า มันเป็นสาระด้วยอุปาทานยึดเอา สำคัญเอา ก็ในเมื่อเห็นว่ามันเป็นทุกข์ ก็ไม่ควรจะมีอุปาทาน เพราะไม่ใช่สาระตัวตน ตัวที่ไม่ใช่สาระตัวตนนั่นแหละ ไม่ควรจะเป็นตัวตนให้สำคัญมั่นหมายเอา การพิจารณาก็พิจารณาสิ่งที่มันเกิดมีนั้น มีแล้วมันก็ไม่มี แล้วสิ่งที่เกิดมีแล้วไม่มีนั้นก็มาจากพื้นอันเดียวกัน ตัวเดียวกัน กองเดียวกัน เป็นแต่ว่า มีเหตุปัจจัยให้เกิดมันก็เกิด เหตุนี้ ไตรลักษณ์ก็มาจากพื้นอันเดียวกัน ถ้าเห็นว่า สิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตา ก็คงจะเป็นอริยบุคคลที่หมดภาระ หมดงาน หมดทุกอย่าง จบกิจพรหมจรรย์เรียบร้อยสมบูรณ์


โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 10:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
ชมพร้อมกันครับ
http://www.youtube.com/watch?v=Gyk-wzjlKxA&feature=relmfu


:b8:

smiley smiley

ท่านช่างเข้าใจหยิบมาฝาก

smiley smiley


โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 14:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


world2/2554 เขียน:

ขอเสริมเรื่องนี้อีกความเห็นครับ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มันตัวเดียวกันนั่นแหละ แต่จะมองให้รู้ให้เห็นด้วยปัญญานี้ ก็ด้วยเฉพาะบุคคล สิ่งไหนที่เราเห็นไม่เที่ยง ก็แปลว่ามันหาสาระอะไรมิได้ ตัวที่หาสาระมิได้นั้น มันเป็นทุกข์ หากไปเห็นว่า มันเป็นสาระด้วยอุปาทานยึดเอา สำคัญเอา ก็ในเมื่อเห็นว่ามันเป็นทุกข์ ก็ไม่ควรจะมีอุปาทาน เพราะไม่ใช่สาระตัวตน ตัวที่ไม่ใช่สาระตัวตนนั่นแหละ ไม่ควรจะเป็นตัวตนให้สำคัญมั่นหมายเอา การพิจารณาก็พิจารณาสิ่งที่มันเกิดมีนั้น มีแล้วมันก็ไม่มี แล้วสิ่งที่เกิดมีแล้วไม่มีนั้นก็มาจากพื้นอันเดียวกัน ตัวเดียวกัน กองเดียวกัน เป็นแต่ว่า มีเหตุปัจจัยให้เกิดมันก็เกิด เหตุนี้ ไตรลักษณ์ก็มาจากพื้นอันเดียวกัน ถ้าเห็นว่า สิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตา ก็คงจะเป็นอริยบุคคลที่หมดภาระ หมดงาน หมดทุกอย่าง จบกิจพรหมจรรย์เรียบร้อยสมบูรณ์

:b8: :b8: :b8:


โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 15:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 15:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=5JO8S67jQUg&feature=relmfu[/youtube]


โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 15:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้ายังจินตนาการและเข้าใจว่า อนัตตากับอัตตาเป็นธรรมที่เป็นคู่ปรับกันแบบ เมตตาและพยาบาท หรือ ราคะกับพิจารณาอสุภะ
หรือเข้าใจอนัตตาเป็นสิ่งดีเลิศสุดวิเศษอัตตาคือสิ่งเลวร้ายมากๆ แยกไม่ออกระหว่างสังขารกับวิสังขาร
คงต้องปล่อยให้เข้าใจกันอย่างนั้นต่อไป

อนัตตาเข้มขลังดูเท่ห์มาก ใครถือเข้าเป็นผู้วิเศษทันทีดูดีมีชาติตระกูลไม่หลงไม่โง่และดูไม่ยึดติด


โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 15:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
หลาย ๆ คนเขาอยาก..อนัตตากันนะ....ไม่มีตัวตนแล้ว..มันดูขลังมั้ง? :b13:

ดูเท่ห์ดี มีปาดชะยา


โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 15:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อยากให้นักปราชญ์ทำวิชา 3 ก็พอ...ก็น่าจะหายสงสัย

แต่กระผมดูท่าจะโง่ไป...ก็ทำตามแบบโง่..ๆ..ไปก่อน

(อาจารย์มาบอกให้ทำโง่..ๆ...ตามพระพุทธเจ้า..อรหันตเจ้า...คือขอโง่กว่าพระพุทธเจ้า..พระอรหันต์..แค่นั้น)

:b32: :b32:

ใครพอจะทำโง่.ได้...ตามข้าพเจ้ามา.. :b13: :b13:


โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 16:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คุนน้องเคยทำโง่มาแล้วท่านกบ..แกล้งโง่...
แต่ตอนนั้นยัง..มีโกรธ...พยาบาท..ทิฏฐิ..เรากะร้อนทุรนทุรายในกายใจ
คนอื่นนะสิ มีความสุข...เวลาได้ดูถูกเรา..คำว่าโง่แล้วอวดฉลาด.ในสายตาของคนอื่นคือ
คนที่จิตใจดี..เห็นใจคนอื่น..มีความเห็นที่สวนทางกับผู้อื่น ..มักจะถูกมองว่าโง่แล้วอวดฉลาด.. :b6:
(มารมันมาในทุกรูปแบบจริงๆ) :b43:


โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 18:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เขาอาจจะรักคุนน้อง..มากไปหน่อย..ก็ได้

ถ้าเกลียด....ก็คงไม่ใส่ใจว่าคุนน้อง..จะทำอะไร...ละนะ


โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 19:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


เคยถามตัวเองว่า..ทำไมอุปสรรค ขวากหนามเราเยอะอย่างนี้..ทำไมเราไม่เป็นบ้าหรือเพี้ยนเข้าศรีธัญญาไปเลย..เพราะสิ่งที่เราเจอมามันหนักหนาสาหัสมาก..ผู้หญิงอายุแค่นี้.ต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้...
แต่ก็ได้คำตอบลงที่กายใจตัวเองว่า..มารไม่มีบารมีไม่เกิด.. :b43: :b9:


โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2012, 20:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


world2/2554 เขียน:
ขอเสริมเรื่องนี้อีกความเห็นครับ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มันตัวเดียวกันนั่นแหละ แต่จะมองให้รู้ให้เห็นด้วยปัญญานี้ ก็ด้วยเฉพาะบุคคล สิ่งไหนที่เราเห็นไม่เที่ยง ก็แปลว่ามันหาสาระอะไรมิได้ ตัวที่หาสาระมิได้นั้น มันเป็นทุกข์ หากไปเห็นว่า มันเป็นสาระด้วยอุปาทานยึดเอา สำคัญเอา ก็ในเมื่อเห็นว่ามันเป็นทุกข์ ก็ไม่ควรจะมีอุปาทาน เพราะไม่ใช่สาระตัวตน ตัวที่ไม่ใช่สาระตัวตนนั่นแหละ ไม่ควรจะเป็นตัวตนให้สำคัญมั่นหมายเอา การพิจารณาก็พิจารณาสิ่งที่มันเกิดมีนั้น มีแล้วมันก็ไม่มี แล้วสิ่งที่เกิดมีแล้วไม่มีนั้นก็มาจากพื้นอันเดียวกัน ตัวเดียวกัน กองเดียวกัน เป็นแต่ว่า มีเหตุปัจจัยให้เกิดมันก็เกิด เหตุนี้ ไตรลักษณ์ก็มาจากพื้นอันเดียวกัน ถ้าเห็นว่า สิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตา ก็คงจะเป็นอริยบุคคลที่หมดภาระ หมดงาน หมดทุกอย่าง จบกิจพรหมจรรย์เรียบร้อยสมบูรณ์



:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 120 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร