วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 21:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 52 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2012, 09:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
ก็ดูที่มหาวรรคอานาปานกถา กับการทำจิตแบบที่หลวงพ่อวัดปากน้ำสอนสิ ง่ายที่ไหนล่ะ ไม่งั้นบรรลุกันไปหมดแล้ว

แสดงว่า คุณบรรลุแล้วล่ะซิครับ ถ้างั้นถามคำถามก็ตอบได้ใช่มั้ย
ถ้าผมถามจะตอบมั้ยครับ แต่ตอบแบบอับดุลคนเล่นกลขายยาไม่เอาน่ะ :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2012, 09:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


เสียเวลา ถ้าอ่านแล้วยังส่อเสียด ว่าผมบรรลุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2012, 10:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนตั้งใจ....มันก็ไม่ได้

พอไม่ตั้งใจ....ก็ไม่รู้ไปถึงไหนอีก...
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2012, 10:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




ฝากให้กบน้อย ขำๆชิวๆ ขอตัวเตรียมตัวไปวัดและทำมาหากินก่อน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2012, 12:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
เสียเวลา ถ้าอ่านแล้วยังส่อเสียด ว่าผมบรรลุ

ไม่ได้ส่อเสียด แค่อยากรู้ ตอบไม่ได้ก็บอกว่าตอบไม่ได้ ไม่ใช่มาย้อนในลักษณะ
สิ้นคิดแบบนี้ครับ ก็เห็นพูดแสดงว่าความเห็น แบบนี้
หลับอยุ่ เขียน:
จำให้ติดตาต่อมาก็ใช้ใจเพ่งให้ถูกส่วน บริกรรมภาวนาทำคู่ไปกับบริกรรมนิมิต
สำคํญ คือเพ่งเพื่อให้ใจหยุด แล้วดำเนินกลาง เข้าไประงับ สังขารต่างๆ(ยาก)

ก็เลยนึกว่ารู้ เพราะตามหลักแล้วใครจะแสดงความเห็นอะไรในที่สาธารณะ แสดงว่า
ผู้นั้นจะต้องรู้และประสบผลในสิ่งนั้นมาแล้ว ถ้าพูดแบบไม่เคยประสบมาหรือพูดตามชาวบ้าน
แบบนี้แสดงว่าผู้นั้น...ขี้โม้ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 19:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


gtagtaza เขียน:
คือผมงงว่าการเพ่งกสินเป็นอย่างไรคับ เพ่งแบบจำเหมือนจำหน้าคนหรือว่าแบบเวลาเรามองพระอาทิตแล้วตาจะเห็นแสงติดตาแบบนั้นคับ เพ่งอย่างไรช่วยตอบด้วยคับ ผมงง มากๆ ครูแต่ล่ะท่านสอนไม่เหมือนกันคับงงมาก


กระทู้แบบนี้ เคยตอบไปในเวบธรรมเวบหนึ่ง นะ
คุณไปเพ่งมองดวงอาทิตย์ ตาคุณจะไม่เห็นแสงติดตาดอกขอรับ แต่ตาคุณจะบอด เพ่งมองดวงอาทิตย์ทำไม ทำเป็นเล่นไป
กสิณ คือ การใช้วัตถุจูงใจเข้าไปผูกอยู่ มี ๑๐ ชนิด เพ่งกสิณเพื่อมิให้คิดฟุ้งซ่าน เพื่อมิให้เกิดความโลภ ความหลง รวมความเพ่งเพื่อให้เกิดสมาธิ นั่่นแหละ
การเพ่งกสิณ(หมายถึงการมองไปที่วัตถุที่ใช้จูงใจนะขอรับ แต่ความจริงแล้วไม่มองก็ได้) ไม่ใช่การเพ่งแล้วจดจำติดตา แต่เป็นการเพ่งหรือมองแบบเอาใจไปอยู่ที่วัตถุทั้งหลายที่มองหรือเพ่งเหล่านั้น เพื่อให้เกิดสมาธิ
ถ้าเพ่งหรือมองแล้วจำติดตา หรือจดจำวัตถุทั้งหลายเหล่านั้นเอาไว้ ไม่นาน คุณก็จะเกิดอาการทางจิต เช่น ภาพหลอน หูแว่วตามมา ถ้าควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็วิกลจริตไปเลยขอรับ
หมายเหตุ...ข้าพเจ้าไม่ได้ฝึกกสิณดอกนะขอรับ เป็นเพียงได้ ศึกษา ค้นคว้า วิจัย และทดลองปฏิบัติดูเท่านั้น แต่ไม่ได้ฝึกปฏิบัติ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับหลักธรรมหรือหลักวิชชาแห่งข้าพเจ้าขอรับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 22:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 20:54
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แนะนำให้ฝึกกสินน้ำก่อน เอาน้ำใส่ขันไม่ต้องเต็มจนเกินไปให้เหลือซัก1นิ้วจึงเต็ม
เอาวางห่างตัวประมาณระยะสายตา แล้วเพ่งน้ำในขันประมาณว่าภาพน้ำนั้นให้มันติดตา หลับๆตื่น
แบบนั้นจนไปเลื่อยจนว่าภาพนั้นเป็นแก้วใส กสินน้ำจะฝึกง่ายสุด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 22:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ธ.ค. 2010, 14:56
โพสต์: 122

โฮมเพจ: chanachai20102553@gmail.com
แนวปฏิบัติ: ค้นหาธรรมของพุทธเจ้า
งานอดิเรก: มองธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่ม
ชื่อเล่น: แค่นามสมมุติ
อายุ: 32

 ข้อมูลส่วนตัว


การเพ่งกสินนั้น..................เพื่อให้จิตมีสมาธิมากขึ้น
ไม่ว่าผู้ฝีกทุกท่านได้ฝึกกสินไหนก็ตามในจำนวนทั้ง 40 กองนี้
ก็เพื่อให้สมาธิก้าวเข้าไปสู่ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป เป็นธรรมดา
พิจารณาตามจิตที่นิมิตออกมา..........แต่มิพึ่งยึดติดในอารมณ์นั้นๆ
ขอให้ท่านเจริญในธรรมทุกท่านเทอญฯ

.....................................................
เราจักขออำนาจบุญกุศลที่ตัวเราได้กระทำไว้ในอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต
จงแผ่อำนาจแห่งบุญกุศลทั้งหลายไปสู่ทั่วทั้งสากลโลก ทั้ง16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน วิญญาณที่มีรูป และ ไม่มีรูป ทั่วทั้งทุกอณูใน 3 โลกจงได้รับแห่งบุญกุศลที่เราได้จักกระทำไว้ด้วยเทอญ สาธุ.................................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2012, 00:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


เจ้าวังทอง เขียน:
แนะนำให้ฝึกกสินน้ำก่อน เอาน้ำใส่ขันไม่ต้องเต็มจนเกินไปให้เหลือซัก1นิ้วจึงเต็ม
เอาวางห่างตัวประมาณระยะสายตา แล้วเพ่งน้ำในขันประมาณว่าภาพน้ำนั้นให้มันติดตา หลับๆตื่น
แบบนั้นจนไปเลื่อยจนว่าภาพนั้นเป็นแก้วใส กสินน้ำจะฝึกง่ายสุด


วิธีฝึกน่าสนใจดีครับ จะลองเอาไปปฏิบัติดู ส่วนตัวไม่เคยฝึกกสิน แต่จะเป็นลักษณะสังเกตุตัวเองจากการมอง มีการฝึกให้การมองให้เป็นการมองแบบเข้าไปกำหนดรู้จักษุธาตุ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2012, 00:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Introduction to....กสิน..ทั้ง 10



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2012, 17:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


วิธี ทดสอบจิตที่เรามีเมตตาเจโต ว่าแรงพอหรือไม่กับพระอาจารย์ ที่ทรงคุณวิเศษ
พึงเข้าใจว่าการเจริญสมาธิจิตที่เป็นเมตตาเป็นกรรมฐานอย่างนึงและเป็นจิตที่เป็นกุศล
ในป่าปริวาส ที่3ก่อนสึก
เมื่อเรากำหนดลมหายใจเข้าออกจะบริกรรมเข้าพุทออกโธ หรือ เข้า สัม ออก มา แล้วต่อด้วยอรหัง ก็ได้

จนใจหยุดได้ในระดับนึง นิวรณ์ในขณะนั้นทำอะไรเราไม่ได้ ให้เราน้อมพระอาจารย์ มาให้ถูกส่วน ณภายใน
แล้วกระทำจิตให้เป็นเมตตา ให้ดุจว่า พระอาจารย์ท่านเป็น พ่อแม่เรา แล้วอัดจิตที่เป็นเมตตาสมาธินั้นนั้นให้สุดแรงเท่าที่เราจะทำได้ อย่าไปกั๊ก หรือชะลอ หรือลังเลสงสัยให้นิ่งนานๆที่สุด


ยามฝึกเสร็จ พักฉันน้ำปานะ พระอาจารย์ท่านเดินมาทีหลังเราซึ่งกลับมาที่เต๊นท์ แล้ว บอกว่า "แหม ท่าน(ชื่อเรา) เมตตาท่านใช้ได้จริงๆ นี่ถ้าหากท่านได้ธรรมกายลูกศิษย์คงจะเยอะเหมือนแม่อาจารย์"
แม่อาจารย์คืออุบาสิกา ศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำ ครูบาอาจารย์ของหลับอยู่ ท่านมีอภิญญา ที่ในหมู่สงฆ์พระเถระผู้ใหญ่ ในแวดวงสงฆ์บ้านเรารู้จักดี


คำกล่าวหาขี้โม้ ในแบบที่คนพาลยัดเยียด คงใช้ไม่ได้กับผม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2012, 18:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


วิธีดูโยมแม่ว่ากำลังทำอะไร ที่ยะลา ในขณะที่เราอยู่วัดปากน้ำ หรือวัดเนินพระ จ.ระยอง

กำหนดลมหายใจ เข้าพุทออกโธ หรือ หายใจเข้า(สัม) หายใจออก(มา )จะต่อด้วยคำว่า ในระหว่างลมต่อช่วงออกหมดด้วยคำว่าอรหังแบบที่หลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดิน สอนก็ได้ ได้ทั้งนั้น
บจังหวะนั้นให้ลมหยาบๆหยุดโดยอัตโนมัติ (อย่าไปกั้นลมหายใจซึ่งเป็นอัตกิมถานุโยค)

อย่าส่งใจออกนอก พอสงบระงับจากนิวรณ์ จิตเรามีปิติ นิ่งหายปีติหาย กำหนดเอาโยมแม่มาไว้ณภายใน อธิฐานเอา ก็จะปรากฏ ภาพโยมแม่ที่ยะลา ในบ้านของยายเรา กำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวราดหน้า แบล๊กกราวน์จะเป็นสีดำ เมื่อโทรศัพท์คุยภายหลังปรากฏว่า โยมแม่ กำลังกินราดหน้า แบบที่เราเห็น ณ ภายใน จริงๆ




สำหรับคำว่าขี้โม้ ที่คนพาลที่อนาคตจะเป็นวิกลจริตภายหน้าอันเกิดจากวิบากกรรมยัดเยียดให้ ใช้กับผมไมได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2012, 19:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ตอนตั้งใจ....มันก็ไม่ได้

พอไม่ตั้งใจ....ก็ไม่รู้ไปถึงไหนอีก...
:b32: :b32:


แบบนี้ยังไม่เท่าไหร่ เมื่ออยู่ในเพศบรรพชิตและมีคุณภาพทางจิตในระดับนึง ก็จะมีเหตุให้ พวกที่ปาราชิกไปแล้วถืออำนาจขับไล่หาเหตุให้เราสึกและออกจากวัด ซึ่งพระอาจารย์หลายๆท่านที่ทรงคุณวิเศษไม่กระทำเช่นนั้นกับเรา ที่สุดเราก็ต้องย้ายวัด และเราก็ใช้กลเม็ดเอาใบสุทธิมาให้ได้ก่อน
ก็ไม่พ้น เหตุอื่นๆที่ต้องสึก เช่นพอไปเข้าป่าปริวาสเราเลือกที่เงียบๆส่วนตัวได้แล้ว มารก็มาสิงพระที่ชอบทำตัวเป็นเกจิใบ้หวย มาอยู่ใกล้เรา เปิดเพลงฟังสนองกิเลสอย่างเต็มที่ๆลๆ
การที่จะบรรลุธรรม ไม่ใช่ง่ายๆ เอาแต่ทำฌานให้เป็นวสี ก็รากเลือดแล้ว หรือให้โยมมากวน หรือจะส่งคนที่จะทำให้เราปาราชิกๆลๆ เมื่อบวชแล้วการหากุฏิอยู่ภาวนาเงียบๆคนเดียว ยังยาก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2012, 19:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


วิธีทำจิตให้เป็นสมาธิโดยศีล


เมื่อทำวัตรและปลงอาบัติเรียบร้อยแล้ว ก้มมองลงสบงจีวร หรืออังสะ คำนึงถึงศีลของพระที่เราทรงอยู่จนเกิดปีติ ว่าศีลเราบริสุทธิ์แล้วๆๆทรงจิตนั้นไว้ให้นานๆแรงๆ อธิฐานให้บารมีนั้นช่วยสรรพสัตว์ให้ได้ทั้งหมด แล้วค่อยแผ่ออกไป จากณภายใน กว้างออกไปรอบกุฏิ รอบๆวัด รอบๆ บริเวณ กว้างลามขยายออกไปๆครอบจักรวาลนี้ อัดแผ่ให้แรงมากๆขึ้นให้ขยายไปในอนัต์จักรกวาลไม่มีสิ้นสุด และเมื่อเอาจิตประเภทนี้แผ่มายังสมาชิกลานธรรมจักรก็จะรู้ได้ว่ามีคนคิดถึงเราอยู่หลายๆคนและบางคนก็ดันสงสัยไม่หยุด (หวังว่าคงยังจำกันได้นะ) และใช้จิตประเภทนี้ อัดเข้าวัตถุมงคลต่างๆได้ด้วย ขึ้นอยู่กับ กำลังจิตของแต่ละท่าน ให้เป็นโภคทรัพย์ตามพระบาลี ให้อยู่เย็นเป็นสุข ให้สบายใจ ให้แคล้วคลาดปลอดภัยในทุกที่ทุกสถานในการณ์ทุกเมื่อ

สำหรับคำว่าขี้โม้ของคนพาล ใช้กับผมไม่ได้ แม้แต่นิดเดียว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2012, 19:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


วิธี เห็นเลขรางวัลลอตเตอรี่ เลขท้ายหวย(ฝึกได้ห้ามซื้อ)

ก่อนบวชเคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มามาก พอบวชเราทำได้ไม่ต้องสงสัย และครูบาอาจารย์ของผมอีกท่านนึงท่านมรณะภาพไปแล้วในท่าสีหไสยยาหน์ ท่านนั้นคือ หลวงพ่อสังเวียน แห่งวัดปากน้ำภาษีเจริญ
ท่านมีสมาธิระดับนึงก่อนบวช(อานาปาน)ท่านเป็นช่างซ่อมเรือบินในสมัยก่อน ท่านเห็นหวยในสมาธิแล้วท่านก็ซื้อแล้วท่านก็ถูก ท่านก็เลี้ยงคนทั้งซอย หลวงพ่อสดวัดปากน้ำท่านรู้ท่านจึงบอกว่ามีคนบ้าเอาสมาธิไปแลกกับหวย ภายหลังหลวงพ่อสังเวียน ท่านต้องใช้กรรม เพราะอาหารไม่ย่อยต้องเอาน้ำกรด1หยดผสมน้ำกินเป็นเวลา20ปี ท่านได้และเข้าพระธรรมกาย(ของจริง)และเป็นท่านนึงที่สอนการจับลมหายใจให้เข้าถึง ฌานและแนะให้เข้าใจคำว่าธรรมเอกผุดขึ้นตั้งมั่นในภายใน
การเห็นเลขนั้น เห็นภายนอก ไม่ตรง ถ้าเห็นจากจิตท่ปราศจากนิวรณ์
ขณะใดขณะนึงอธิฐานผุดขึ้นมา ณในภายใน นิ่งๆนานๆ โดยใจเราห้ามโลภเด็ดขาด ทำหลายๆครั้งถ้าเป็นเลขแบบเดิม งวดนั้นออกตามนั้นแน่นอน เคยพิสูจน์มาแล้วเพราะแผงลอตเตอรี่อยู่หน้าวัด และผมมักจะเปิดดูในนสพฉบับตรวจลอตเตอรรี่ ก็ไม่ได้บอกใครว่าเราทำได้ แต่มีพระอาจารย์อีกท่านที่รู้โดยญานทัศนะและเตือนดักหน้า
ถึงจุดจบของพระนวกะที่เคยทำได้เช่นนี้และทำได้มากกว่าเรา

สำหรับคำว่าขี้โม้ของคนพาลที่ยัดเยียดให้ ใช้กับผมไม่ได้ แม้แต่นิดเดียว


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 52 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร