วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 06:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 43 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2012, 22:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านกัลยาณมิตรทั้งหลาย เห็นหรือยังว่าเพราะเหตุใด พระพุทธองค์จึงให้เห็นว่า จิตก็คือวิญญาณ และ จิตไม่ใช่เรา


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 06:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


s006 cry

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 11:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อย่าว่าแต่ จิต ไม่ใช่เรา
แม้แต่ รูป ก็ไม่ใช่เรา
เวทนา ไม่ใช่เรา
สัญญา ไม่ใช่เรา
สังขาร ไม่ใช่เรา

รวมความว่า ขันธ์5 ไมใช่ เรา

เราไม่มีจริง แต่ ขันธ์5 มีจริง

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 12:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ท่านกัลยาณมิตรทั้งหลาย เห็นหรือยังว่าเพราะเหตุใด พระพุทธองค์จึงให้เห็นว่า จิตก็คือวิญญาณ และ จิตไม่ใช่เรา


:b8: :b8: :b8:



:b1: เห็นว่า ไม่ใช่จิตไม่ใช่เรา แต่ไม่มีเราต่างหาก จิตคือจิต ประภัสสร

ส่วนที่ว่า จิตก็คือวิญญาณนั้น ถ้าจะเรียกว่าวิญญานก็คงเป็นวิญญานธาตุตามธรรมชาติ

แต่จะเรียกว่าจิตหรือวิญญาน ก็มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ ก่อนเกิดความหมายคำว่าเรา

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 13:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


Quote Tipitaka:
[๔๔๔] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย วิญญาณอาศัยปัจจัยใดๆ เกิดขึ้น
ก็ถึงความนับด้วยปัจจัยนั้นๆ
วิญญาณอาศัยจักษุและรูปทั้งหลายเกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่า จักษุวิญญาณ
วิญญาณอาศัยโสตและเสียงทั้งหลายเกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่า โสตวิญญาณ
วิญญาณอาศัยฆานะและกลิ่นทั้งหลายเกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่า ฆานวิญญาณ
วิญญาณอาศัยชิวหาและรสทั้งหลายเกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่าชิวหาวิญญาณ
วิญญาณอาศัยกายและโผฏฐัพพะทั้งหลายเกิดขึ้นก็ถึงความนับว่ากายวิญญาณ
วิญญาณอาศัยมนะและธรรมารมณ์ทั้งหลายเกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่ามโนวิญญาณ

เปรียบเหมือนไฟอาศัยเชื้อใดๆ ติดขึ้น ก็ถึงความนับด้วยเชื้อนั้นๆ ไฟอาศัยไม้
ติดขึ้น ก็ถึงความนับว่า ไฟไม้ ไฟอาศัยป่าติดขึ้น ก็ถึงความนับว่า ไฟป่า ไฟอาศัยหญ้าติดขึ้น
ก็ถึงความนับว่า ไฟหญ้า ไฟอาศัยโคมัยติดขึ้น ก็ถึงความนับว่าไฟโคมัย ไฟอาศัยแกลบติดขึ้น
ก็ถึงความนับว่า ไฟแกลบ ไฟอาศัยหยากเยื่อติดขึ้น ก็ถึงความนับว่า ไฟหยากเยื่อ ฉันใด ดูกร-
*ภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล วิญญาณอาศัยปัจจัยใดๆ เกิดขึ้น ก็ถึงความนับด้วยปัจจัยนั้นๆ
วิญญาณอาศัยจักษุและรูปทั้งหลายเกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่า จักษุวิญญาณ วิญญาณอาศัยโสตและ
เสียงทั้งหลายเกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่า โสตวิญญาณ วิญญาณอาศัยฆานะและกลิ่นทั้งหลายเกิดขึ้น
ก็ถึงความนับว่า ฆานวิญญาณ วิญญาณอาศัยชิวหาและรสทั้งหลายเกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่า
ชิวหาวิญญาณ วิญญาณอาศัยกายและโผฏฐัพพะทั้งหลายเกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่า กายวิญญาณ
วิญญาณอาศัยมนะและธรรมารมณ์ทั้งหลายเกิดขึ้น ก็ถึงความนับว่า มโนวิญญาณ.


http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 041&Z=8506


[๑๐๘๖] จิต ๗ เป็นไฉน
คือ จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญ-
*ญาณธาตุ มโนธาตุ มโนวิญญาณธาตุ
เหล่านี้เรียกว่า จิต ๗
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... agebreak=0

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 15:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 17:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ท่านกัลยาณมิตรทั้งหลาย เห็นหรือยังว่าเพราะเหตุใด พระพุทธองค์จึงให้เห็นว่า จิตก็คือวิญญาณ และ จิตไม่ใช่เรา


:b8: :b8: :b8:

จริงหรือเจ้าค่ะ ปฏิบัติให้ได้นะเจ้าค่ะ ท่องไว้ด้วยละ จิตไม่ใช่เรา เราไม่ใช่จิต ว่าแต่อะไรๆก็ไม่แน่ ที่แน่ๆคือจิตปภัสสร :b29: :b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 21:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าใจปฏิจจสมุปบาท
ยึดถือกายเป็นตัวตน ยังดีกว่ายึดถือจิตเป็นตัวตน

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ปุถุชนผู้มิได้สดับแล้ว จะพึงเบื่อหน่ายได้บ้าง พึงคลาย
กำหนัดได้บ้าง พึงปล่อยวางได้บ้าง ในกายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้งสี่นี้. ข้อนั้น
เพราะเหตุไรเล่า? ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ข้อนั้นเพราะเหตุว่า การก่อขึ้นก็ดี การสลาย
ลงก็ดี การถูกยึดครองก็ดี การทอดทิ้งซากไว้ก็ดี แห่งกายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูต
ทั้งสี่นี้ ย่อมปรากฎอยู่. เพราะเหตุนั้น ปุถุชนผู้มิได้สดับแล้ว จึงเบื่อหน่ายได้บ้าง
จึงคลายกำหนัดได้บ้าง จึงปล่อยวางได้บ้าง ในกายนั้น. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ส่วนสิ่ง
ที่เรียกกันว่า "จิต" ก็ดี ว่า "มโน" ก็ดี ว่า "วิญญาณ" ก็ดี ปุถุชนผู้มิได้สดับแล้ว ไม่
อาจจะเบื่อหน่าย ไม่อาจจะคลายกำหนัด ไม่อาจจะปล่อยวาง ซึ่งจิตนั้น. ข้อนั้นเพราะ
เหตุไรเล่า? ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ข้อนั้นเพราะเหตุว่า สิ่งที่เรียกว่าจิตเป็นต้นนี้
เป็นสิ่งที่ปุถุชนผู้มิได้สดับแล้ว ได้ถึงทับแล้วตัณหา ได้ยึดถือแล้วด้วยทิฏฐิโดยความ
เป็นตัวตน มาตลอดกาลช้านานว่า "นั่นของเรา นั่นเป็นเรานั่นเป็นตัวตนของเรา" ดังนี้;

เพราะเหตุนั้น ปุถุชนผู้มิได้สดับแล้ว จึงไม่อาจจะเบื่อหน่าย ไม่อาจจะคลายกำหนัด
ไม่อาจจะปล่อยวาง ซึ่งสิ่งที่เรียกว่าจิตเป็นต้นนั้น.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ปุถุชนผู้มิได้สดับแล้ว จะพึงเข้าไปยึดถือเอากาย
อันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้งสี่นี้ โดยความเป็นตัวตน ยังดีกว่า. แต่จะเข้าไป
ยึดถือเอาจิตโดยความเป็นตัวตน ไม่ดีเลย.
ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า? ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย! ข้อนั้นเพราะเหตุว่า กายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้งสี่นี้ ดำรงอยู่ปี
หนึ่งบ้าง สองปีบ้าง สามปีบ้าง สี่ปีบ้าง ห้าปีบ้าง สิบปีบ้าง ยี่สิบปีบ้าง สามสิบปีบ้างสี่
สิบปีบ้าง ห้าสิบปีบ้าง ร้อยปีบ้าง เกินกว่าร้อยปีบ้าง ปรากฏอยู่. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย!
ส่วน สิ่งที่เรียกกันว่า "จิต" ก็ดี ว่า "มโน" ก็ดี ว่า "วิญญาณ" ก็ดี นั้น ดวงอื่น
เกิดขึ้น ดวงอื่นดับไป ตลอดวัน ตลอดคืน.

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 22:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
อย่าว่าแต่ จิต ไม่ใช่เรา
แม้แต่ รูป ก็ไม่ใช่เรา
เวทนา ไม่ใช่เรา
สัญญา ไม่ใช่เรา
สังขาร ไม่ใช่เรา

รวมความว่า ขันธ์5 ไมใช่ เรา

เราไม่มีจริง แต่ ขันธ์5 มีจริง


ขอยวนหน่อย... :b32:

รวมความว่า ขันธ์5 ไมใช่ เรา....ทำไม....มันไม่ใช่เรา

เราไม่มีจริง แต่ ขันธ์5 มีจริง...ขันธ์ 5 มีจริงหรอ...ทำไมถึงว่า...มีจริง


นานมาแล้วก็เคยยวนคุณโกวิทมาก่อน...ตอนนี้ก็ขอยวนอีกทีเน๊าะ :b12: :b12:

ยวนกันดี..ดี...ธรรมะก็มีได้... :b13:


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 05 มิ.ย. 2012, 23:55, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 22:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b12: :b12:


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 05 มิ.ย. 2012, 23:53, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 22:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วจะมาพูดทำไมว่า จิตคือวิญาณ และจิตไม่ใช่เรา พูดโดยที่ไม่เข้าใจวิธีปฏิบัติจริงๆ มันทำให้ผู้ปฏิบัติเขาสับสน โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติใหม่หรือผู้ที่ยังศึกษาธรรมไม่ลึกซึ้ง แบบนี้ คนที่เค้าฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียก คิดอกุศลจิต แล้วก็บอกว่า จิตคือวิญญาณ จิตไม่ใช่เรา เราไม่มีในจิต แบบนี้ได้พากันลงอบายภูมิกันเป็นขโยง เพราะขาดความเข้าใจ พระพุทธองค์ ให้ปุถุชนที่ไม่ได้สดับแล้ว ปฏิบัติโดย การสำรวมกาย สำรวม วาจา สำรวมใจ ถือศีล5 เพื่อควบคุมตนไม่ให้ร่วงลงสู่อบายภูมิ ไม่ใช่มาพูดว่า จิตคือวิญญาณ จิตไม่ใช่เรา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 23:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
govit2552 เขียน:
อย่าว่าแต่ จิต ไม่ใช่เรา
แม้แต่ รูป ก็ไม่ใช่เรา
เวทนา ไม่ใช่เรา
สัญญา ไม่ใช่เรา
สังขาร ไม่ใช่เรา

รวมความว่า ขันธ์5 ไมใช่ เรา

เราไม่มีจริง แต่ ขันธ์5 มีจริง


ขอยวนหน่อย... :b32:

รวมความว่า ขันธ์5 ไมใช่ เรา....ทำไม....มันไม่ใช่เรา

เราไม่มีจริง แต่ ขันธ์5 มีจริง...ขันธ์ 5 มีจริงหรอ...ทำไมถึงว่า...มีจริง


นานมาแล้วก็เคยยวนคุณโกวิทมาก่อน...ขอยวนอีกทีเน๊าะ :b12: :b12:



ผมว่านะ ต้องเข้าใจว่าพูดกันถึงขั้นไหน ไม่งั้น เหนื่อย ก็ขอให้ทำความเข้าใจใน
สมมุติบัญญัติ ปรมัตถธรรม โลกียธรรม โลกุตรธรรม สังขตธาตุ และอสังขตธาตุ

ผมก็จะพยายามทำความเข้าใจเช่นกัน
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 23:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
แล้วจะมาพูดทำไมว่า จิตคือวิญาณ และจิตไม่ใช่เรา พูดโดยที่ไม่เข้าใจวิธีปฏิบัติจริงๆ มันทำให้ผู้ปฏิบัติเขาสับสน โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติใหม่หรือผู้ที่ยังศึกษาธรรมไม่ลึกซึ้ง แบบนี้ คนที่เค้าฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียก คิดอกุศลจิต แล้วก็บอกว่า จิตคือวิญญาณ จิตไม่ใช่เรา เราไม่มีในจิต แบบนี้ได้พากันลงอบายภูมิกันเป็นขโยง เพราะขาดความเข้าใจ พระพุทธองค์ ให้ปุถุชนที่ไม่ได้สดับแล้ว ปฏิบัติโดย การสำรวมกาย สำรวม วาจา สำรวมใจ ถือศีล5 เพื่อควบคุมตนไม่ให้ร่วงลงสู่อบายภูมิ ไม่ใช่มาพูดว่า จิตคือวิญญาณ จิตไม่ใช่เรา

:b17: :b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2012, 00:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:

ผมว่านะ ต้องเข้าใจว่าพูดกันถึงขั้นไหน ไม่งั้น เหนื่อย ก็ขอให้ทำความเข้าใจใน
สมมุติบัญญัติ ปรมัตถธรรม โลกียธรรม โลกุตรธรรม สังขตธาตุ และอสังขตธาตุ

ผมก็จะพยายามทำความเข้าใจเช่นกัน
:b8:


ก็ไล่จากหยาบ ๆ ไปละเอียดก็ได้....ค่อย ๆ ว่าไป

ก็เหมือนอย่างที่คุนน้อง...ว่ามานั้นแหละ...ว่าทีก็ไปละเอียกเลย..อาจเป็นพิษกับผู้มาใหม่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2012, 00:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ฝึกจิต เขียน:

ผมว่านะ ต้องเข้าใจว่าพูดกันถึงขั้นไหน ไม่งั้น เหนื่อย ก็ขอให้ทำความเข้าใจใน
สมมุติบัญญัติ ปรมัตถธรรม โลกียธรรม โลกุตรธรรม สังขตธาตุ และอสังขตธาตุ

ผมก็จะพยายามทำความเข้าใจเช่นกัน
:b8:


ก็ไล่จากหยาบ ๆ ไปละเอียดก็ได้....ค่อย ๆ ว่าไป

ก็เหมือนอย่างที่คุนน้อง...ว่ามานั้นแหละ...ว่าทีก็ไปละเอียกเลย..อาจเป็นพิษกับผู้มาใหม่


ผมก็ตั้งหัวข้ออ้างอิงไปแล้ว ว่าจากกระทู้ ทั้ง2 ที่เคยคุยกัน จึงอยากลองให้สรุปกันดู มันเลยเป็นจังซีเด่อครับ :b12:
แค่ไหนก็แค่นั้นแหละ :b4:
:b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 43 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร