วันเวลาปัจจุบัน 24 มิ.ย. 2025, 06:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 68 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 13:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านทั้งหลาย เห็นเช่นไร อธิบายให้ฟังหน่อยนะครับ
:b8: ขอบคุณครับ

ขอถามเพิ่มอีกนิดนะครับว่า ธรรมะที่แท้จริงคืออะไร ตามที่ท่านเห็น
สาธุ


แก้ไขล่าสุดโดย ฝึกจิต เมื่อ 02 มิ.ย. 2012, 16:56, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 14:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


การเข้าไปรู้สภาวะการทำงานของอายตนะภายใน เวลากระทบอายตนะภายนอกอย่างมีสติ โดยที่วิญญาณอยู่ที่อายตนะภายใน เช่น การได้ยิน วิญญาณอยู่ที่โสต ไม่ใช่อยู่ที่เสียง หรือการเห็น วิญญาณอยู่ที่จักษุธาตุ ไม่ใช่อยู่ที่แสง จิตจึงจะเห็นความเป็นจริงของขันธ์5ในเวลานั้น ไม่ได้ปรุงแต่ง

ความเห็นส่วนตัวครับ ควรพิจารณา เป็นคำถามที่ละเอียดลึกซึ้งมากครับผม

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 14:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ปรุงแต่ง....หมดจดได้...เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์...

คือ...ผล

แต่เรา..เรา..ปุถุชน...จะถือเอามาเป็นอารมณ์ได้...แม้ชั่วคราว...ก็ถือว่าดี

ทีนี้....ไม่ปรุงแต่ง....ก็มีได้2 อย่าง..แบบง่าย..ๆ...(ในปุถุชน..นะ)

..ตั้งใจไม่ปรุง..คือ..กำหนดใว้ในใจตนว่า...ผัสสะกับสิ่งใดแล้ว..จะหยุดเพียงแค่นั้น...

..รู้ซึ้งถึงใจมาก่อนแล้วว่า...ความทุกข์ใจเกิดจากใจตนเป็นผู้ปรุงแต่ง...จึงกำหนดใว้ในใจตนว่า...ผัสสะกับสิ่งใดแล้ว....จะหยุด....

พอผัสสะ...มีสติระลึกรู้...ก็ระลึกถึงสัญญาที่ตนกระทำใว้แล้วในใจ...ความปรุงก็ไม่เกิด

เรียกว่า..ปุถุชนยึดเอาอารมณ์พระอรหันต์มาเป็นอารมณ์...

ส่วนจะเป็นได้นานเท่าไร..ก็ขึ้นกับสติ....

แต่..อาจมีบางคนหลงตน...ว่าตนเป็นนั้นเป็นนี้ได้....

ผลของสติ...ขั้นแรกจะเป็นสมาธิ...นั้นคือ....เป็นสมถะนั้นเอง

ยังต้องทำความเพียรต่อ....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 15:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


มีสติระลึกอยู่เสมอว่าเรากำลังทำอะไร หรือจะพูดง่ายๆใช้เหตุใช้ผลในการตัดสินหรือแก้ไขปัญหา ไม่จับเอาอารมณ์ส่วนตัวมาเจือกับเหตุและผล วางอารมณ์นั้นไว้ ไม่แสดงกิริยาสื่อออกไปทาง กาย วาจา และ ใจ แค่นี้ชีวิตก็ไม่ประมาทแล้วเจ้าค่ะ จะต้องการธรรมมะอะไรอีก นี่แหละธรรมมะของพระพุทธองค์ :b45: :b41: มีอยู่จริง รู้สึกได้จริง สัมผัสได้จริง :b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 15:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตธรรมดาประภัสสรอยู่ตามธรรมชาติ อิสระจากการปรุงแต่งแห่งปกิจสมุปบาท :b39:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 15:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2010, 23:10
โพสต์: 194

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




2.jpg
2.jpg [ 750 ไบต์ | เปิดดู 6133 ครั้ง ]
เป็นแบบนี้ครับ.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 15:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ชายสบายๆ เขียน:
...^^



อืมม... ว่างจริงๆ :b9:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 16:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2010, 23:10
โพสต์: 194

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




2.jpg
2.jpg [ 5.67 KiB | เปิดดู 6129 ครั้ง ]
จิตที่ไม่ปรุงแต่งนั้นไม่มีการกำหนดใดๆทั้งสิ้นเมื่อไหร่แม้ว่ามีการกำหนดว่าว่างปล่าวอุปมาจะเหมือนกระดาษแผ่นนี้เขียนคำว่า "ว่างปล่าว" ลงไปแล้วจะว่างได้อย่างไรในเมื่อมีคำว่า ว่างปล่าวจิตที่สงบแท้ๆมีอุปมาดังภาพแรกนั้นนั่นเองครับ... :b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 16:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอถามเพิ่มอีกนิดนะครับว่า ธรรมะที่แท้จริงคืออะไร ตามที่ท่านเห็น
สาธุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 17:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ขอถามเพิ่มอีกนิดนะครับว่า ธรรมะที่แท้จริงคืออะไร ตามที่ท่านเห็น
สาธุ


ธรรมทั้งมวลนี่แหละล้วนเป็นธรรมที่แท้จริง ล้วนมีอำนาจตามธรรมนั้นๆของมันอยู่

แต่ที่ควรทำให้แจ้งนั้นมี

ธรรมที่เป็นตัวทุกข์ ธรรมที่เป็นเหตุแห่งทุกข์

ธรรมที่เป็นการดับสิ้นเชิงแห่งทุกข์ ธรรมที่เป็นเครื่องถึงความดับสิ้นเชิงแห่งทุกข์

:b1: เห็นดังนี้

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 17:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ขอถามเพิ่มอีกนิดนะครับว่า ธรรมะที่แท้จริงคืออะไร ตามที่ท่านเห็น
สาธุ

สิ่งใด...ที่เกินไปจากจิตปภัสสร....สิ่งนั้นมีการแปรผันไม่เที่ยงและดับไป...เป็นธรรมดา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 18:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิต เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ขอถามเพิ่มอีกนิดนะครับว่า ธรรมะที่แท้จริงคืออะไร ตามที่ท่านเห็น
สาธุ


ธรรมทั้งมวลนี่แหละล้วนเป็นธรรมที่แท้จริง

แต่ที่ควรทำให้แจ้งนั้นมี

ธรรมที่เป็นตัวทุกข์ ธรรมที่เป็นเหตุแห่งทุกข์

ธรรมที่เป็นการดับสิ้นเชิงแห่งทุกข์ ธรรมที่เป็นเครื่องถึงความดับสิ้นเชิงแห่งทุกข์

:b1: เห็นดังนี้



เอาเป็นว่าเราหนุกๆกันนะครับอย่าถือเป็นจริงจังนัก เดียวท่านจะโกรธผมเอา

สภาวะธรรมแท้ จะเหมือนกันหมด
ท่านเป็นผู้ข้ามฝาก ที่เห็นฝั่ง แต่ยังมีหมอกบางๆ ลอยคั่นกลางอยู่

ท่านคงสงสัยใช่มั้ยครับ เดียวดูท่านอื่นเขาก่อน แต่อย่าลืม เอาแค่หนุกๆนะครับ :b12:
(ผมก็ฟังเขามาอีกที)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 18:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2009, 21:22
โพสต์: 29

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิต ไม่ปรุ่งแต่ง มันเป็นสภาวะอย่างไร.....ลองกราบเรียนถามครูบาอาจารย์ดูครับ

ธรรมะที่แท้จริงคืออะไร......... มันเป็นอย่างที่มันเป็นโดยไม่บิดเบือน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 18:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ขอถามเพิ่มอีกนิดนะครับว่า ธรรมะที่แท้จริงคืออะไร ตามที่ท่านเห็น
สาธุ

สิ่งใด...ที่เกินไปจากจิตปภัสสร....สิ่งนั้นมีการแปรผันไม่เที่ยงและดับไป...เป็นธรรมดา


ขอออกตัวก่อนนะครับ ว่าผมฟังเขามาอีกที เอาว่า เราแค่หนุกๆกันนะครับ เดียวกัลยาณมิตรจะเกลียดผมหมด
ท่านกบ แอบผิดหวังกับคำตอบนิดหน่อยนะนี้
ท่านมาเห็นแค่กลางทางเองหรือนี้ เอาใหม่ได้มั้ยท่านลองพิจารณาใหม่ นะ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 18:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ขณะจิต เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ขอถามเพิ่มอีกนิดนะครับว่า ธรรมะที่แท้จริงคืออะไร ตามที่ท่านเห็น
สาธุ


ธรรมทั้งมวลนี่แหละล้วนเป็นธรรมที่แท้จริง

แต่ที่ควรทำให้แจ้งนั้นมี

ธรรมที่เป็นตัวทุกข์ ธรรมที่เป็นเหตุแห่งทุกข์

ธรรมที่เป็นการดับสิ้นเชิงแห่งทุกข์ ธรรมที่เป็นเครื่องถึงความดับสิ้นเชิงแห่งทุกข์

:b1: เห็นดังนี้



เอาเป็นว่าเราหนุกๆกันนะครับอย่าถือเป็นจริงจังนัก เดียวท่านจะโกรธผมเอา

สภาวะธรรมแท้ จะเหมือนกันหมด
ท่านเป็นผู้ข้ามฝาก ที่เห็นฝั่ง แต่ยังมีหมอกบางๆ ลอยคั่นกลางอยู่

ท่านคงสงสัยใช่มั้ยครับ เดียวดูท่านอื่นเขาก่อน แต่อย่าลืม เอาแค่หนุกๆนะครับ :b12:
(ผมก็ฟังเขามาอีกที)



:b12: ไม่ได้เครียดหรอกครับ คำว่าธรรมทั้งมวลนี่แหละล้วนเป็นธรรมที่แท้จริงของผม หมายถึงธรรมทั้งมวลล้วนมีอำนาจปรุงแต่งกันรวมทั้งจิตที่ยังข้องติดธรรมนั้นได้จริง แต่เมื่อจิตอิสระจากอำนาจปรุงแต่งแล้ว ธรรมทั้งหลายย่อมไม่มีความหมายสำหรับจิต (ในแง่การปรุงแต่งแต่ความหมายสำหรับธรรมนั้นๆยังคงอยู่) จิตเองก็เป็นธรรมหนึ่ง และธรรมทั้งหลายย่อมเป็น อนัตตา

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


แก้ไขล่าสุดโดย ขณะจิต เมื่อ 02 มิ.ย. 2012, 18:22, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 68 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร