วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 06:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 387 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15 ... 26  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2012, 06:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ไม่ว่า...จะเห็นผิด...หรือ...จะยึดผิด

มันก็คำพูด....

อาการมัน....ก็ยึดเหมือนกันนั้นแหละ....

ใจรู้เห็นว่ายึดอะไร....ก็ปล่อยได้เท่าที่ใจรู้...รู้น้อยก็ปล่อยได้น้อย...รู้ลึกรู้ละเอียด..ก็ปล่อยได้มาก

รู้....นะ...ไม่ใช่จำมา

ยังไม่รู้ว่ายึดอะไร....แล้วจะปล่อยอะไรถูก


ไม่เห็นตน แล้วจะปล่อยวางตนได้อย่างไร :หลวงพ่อชา
ท่านกบ สุดยอด ต้องอย่างนี้ซิ จึงไม่ผิดหวัง :b8:

cool
กำลังชื่นชมอยู่กับคุณกบที่ช่วงนี้มีความนิ่มนวลมากขึ้นแต่พอมาเจอความท่อนนี้แล้วก็พบว่า ความละเอียดละออลึกซึ้งในธรรมชาติและความสังเกตยังตกหย่อนไปนิดหน่อย
ธรรมดาคนที่จิตอยู่กับธรรม(ชาติ)นานๆ จิตใจควรจะต้อง ละเอียดละออ ลึกซึ้ง นิ่มนวล สงบเย็นเป็นสุข มีสติคมกล้าปัญญาเฉียบแหลม
:b10:
บัญญัติ 2 ตัวนี้ คือ "เห็น"......กับ....."ยึด" .....ความหมายของอาการมันจะเหมือนกันได้อย่างไร? อย่าได้คิดดูหมิ่นคนโบราณผู้เริ่มต้นบัญญัติศัพท์ทั้ง 2 ตัวนี้ขึ้นมาเชียวนะครับ
:b39:
เพราะคิดเอาจึงกล่าวว่าอาการเหมือนกัน แต่จงลองปฏิบัติดู จะเห็นและรู้ว่า อาการ เห็น กับอาการ ยึด นั้นกิริยาอาการและความรับรู้ที่เกิดขึ้นต่างกันมาก
:b16:
เห็น เป็นอาการที่ ตากระทบรูป หรืออาการที่ตาปัญญาไปเข้าใจหรือรู้สภาวะที่ปรากฏต่อหน้าถ้าไม่ตรงตามความเป็นจริง เรียกวา "เห็นผิด" ถ้าตรงตามความเป็นจริงเรียกว่า "เห็นถูกต้อง"
:b43:
ยึด...เป็นอาการเกาะไว้แน่นด้วยมือ หรือยึดไว้แน่นด้วยใจ หากยึดไว้นานก็เหนื่อยและหนักเป็นภาระ กายใจจะไม่อิสระที่จะไปทำงานอื่น :b1:
ลองทำอาการดูซิครับ คุณกบกับคุณฝึกจิต
:b31:
สำหรับคุณฝึกจิตรู้สึกว่าจะยึดมั่นศรัทธาแน่นเกินไปกับคำอธิบายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำเกี่ยวกับเรื่องสักกายทิฐิ และคุณลักษณะของพระโสดาบันตามสำนวนที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำแสดงไว้จึงเมื่อไหร่ๆก็นำมาอ้างอยู่เสมอ ลองปล่อยวางในใจให้เป็นอิสระจากความยึดถือในตำรา คำสอนของครูบาอาจารย์ที่เรายึดไว้ มาเปิดใจดูโลกกว้างเราอาจได้พบทางที่สว่างไสวยิ่งๆขึ้นยิ่งกว่าที่เป็น
:b4:
ฤาจะเคยนั่งหลับตาให้หลวงพ่อฤาษีท่านพาไปชมนรกสวรรค์ ไปเฝ้ากราบพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์สาวกบนพระเกตแก้วจุฬามณี มีวิมานจากผลบุญที่สร้างไว้ให้ไปเยี่ยมชม เลยไม่ยอมละพรากจากหลวงพ่อและคำสอนของหลวงพ่อไปที่ไหน วาง ๆ อดีตอันสดใสมาอยู่กับปัจจุบันได้แล้วนะครับ มารับคำตอบดีๆที่คุณ "คนธรรมดานำมาอภินันทนาการให้" จิตใจจะได้ถึง"กลาง"กันเสียทีจะได้เดินไปถึงที่สุดแห่ง "ดี"พร้อมๆกันนะครับ คุณกบกับคุณฝึกจิต
tongue
สำหรับน้องคง ที่คุณคนธรรมดาเล่าสู่กันฟังคงเข้าใจดีนะครับ โมทนาสาธุด้วย กับผู้อิงธรรมจากการปฏิบัติหรือประสบการณ์จริงมาเล่าสู่กันฟังอย่างที่น้องคงทำ ทำต่อไปครับ เชียร์
:b4: :b4: :b4:
เจริญธรรมทุกคนครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2012, 07:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็ที่ผมจะเชื่อคำสอนของใครนั้น ผมฟังครูบาร์อาจารย์หลายท่านครับ เช่นท่านพุทธทาส หลวงพ่อชา หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่สิม หลวงพ่อพุธ หลวงตามหาบัว หลวงพ่อฤษีลิงดำ และมีอีกมาก พร้อมหา พุทธพจน์ต่างมา ประกอบ แล้วจึงไป วิปัสสนาต่อ ครับ จึงจะเชื่อ
หากเอาคำพูดของอาจารย์ท่านใดมาพูดแล้ว สุดท้าย เอาความเห็นของตน ที่ไม่ตรงกับที่ท่านเทศน์สอนไว้ผมว่า ไม่สู้ดีนัก นะครับ
หากเอามาพูด แล้ว บอกว่า เจอมาเองนะ คิดเองนะ มันก็จะถูกมองว่า อวดรู้อวดดีอีก ผมเลย เอาความคิดเห็นครูบาร์อาจารย์บ้าง คำภีร์บ้าง ความเห็นตัวเองบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะตรงกับพุทธพจน์แล้ว มาโต้ตอบ ไม่ได้หยิบมาด้วนๆนะครับ
ส่วนใครจะเป็นเช่นไร ก็ตามกำลังปัญญาตนเองเถิดครับ ผมแค่สนทนา ตามภาษา คนที่ยังโง่ เท่านั้น
ใครที่ฉลาดล้นแล้ว ก็เพียรต่อไปเถิด


เห็น อัตตา เด่นดวง :b21: :b22: :b34:
ของผมนะ เดียวหาว่า ว่าคนอื่น

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2012, 07:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b8: :b8: :b8: :b8: :b8:
"คนธรรมดาๆ"
โดยสรุป ความยึดถือ หรือหลงผิดระดับแรก คือความที่คิดว่าขันธ์ 5 เที่ยง เมื่อบุคคลรู้จักสงบจิตใจตัวเอง เจริญไตรสิกขา นิวรณ์ทั้ง 5 ที่บดบังความรู้ให้มืดมัวอยู่สงบลง แม้ชั่วครู่ หากบุคคลสังเกตกายใจตัวเองในขณะนั้น จะเกิดความรู้ทราบในความไม่เที่ยงของขันธ์ 5 เมื่อรู้แน่ตรงนี้ ความหลงผิดในขันธ์ 5 ระดับแรกจึงหมดไป

เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะมีเหตุอันเหมาะสม "เพราะมีเหตุอย่างนี้อยู่ สิ่งนี้จึงเกิดมีขึ้น หากต้องการจะดับสิ่งนี้ ต้องไปดับที่เหตุ" เมื่อนั้นสีลัพพัต ความงมงายไร้เหตุผลก็หมดไป

เมื่อเห็นว่าทุกคำสอนที่เราเคยพร่ำสวดไปวันๆแท้ที่จริงเป็นสัจธรรมความจริงที่ตัวเองรู้เห็นซาบซึ้งถึงใจแล้ว เมื่อนั้นวิจิกิจฉาความลังเลสงสัยในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยะสงฆ์สาวกทั้งหลายก็จะหมดไป จะเกิดความเคารพบูชาเลื่อมใสในพระรัตนตรัยแบบถึงจิตถึงใจ ไม่อาจโยกคลอนได้อีก

สังโยชน์ 3 ตัวแรก จึงไม่อาจขาดไปเพียงตัวใดตัวหนึ่ง แต่จะขาดไปพร้อมกันทีเดียวทั้ง 3 ตัวด้วยเหตุนี้

ส่วนความยึดถือ หรือหลงผิดระดับที่สอง จะเบาแรงลงในขั้นของพระสกิทาคามี และจะขาดไปในขั้นของพระอนาคามี ส่วนความยึดถือ หรือหลงผิดระดับที่สาม จะหมดไปในขั้นของพระอรหันต์

ส่วนที่ไม่ได้อยู่ในกรอบเขียวมีความเห็นของผมประกอบ ผมความรู้ยังน้อย อาจมีอะไรผิดพลาดไปบ้าง ผิดถูกอย่างไรทุกท่านโปรดพิจารณาดูก่อน

ท่านไหนสนใจอยากอ่านปฏิปัตติปุจฉาวิสัชนาเพิ่มเติม เชิญได้ที่นี่ครับ http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=8736
:b8:
:b8:
:b8:
:b20:
สาธุ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ สาธุอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งกับคุณ "คนธรรมดาๆ" ที่ไม่ธรรมดา
ปัญหาและความรู้ไม่ถึง ละเอียดไม่พอ คงจะจบได้จากการแจกแจง วิจัยธรรมให้ฟังของคุณ "คนธรรมดาๆนี้นะครับ

:b27:
:b16:
:b12:
:b4:


:b16: ดับขาดหมดแล้วไม่ละ :b12: แล้วไม่ตรงกับ อาจารย์ท่านอื่นๆ มั้ยหนอ :b27:
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2012, 07:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ไม่ว่า...จะเห็นผิด...หรือ...จะยึดผิด

มันก็คำพูด....

อาการมัน....ก็ยึดเหมือนกันนั้นแหละ....

ใจรู้เห็นว่ายึดอะไร....ก็ปล่อยได้เท่าที่ใจรู้...รู้น้อยก็ปล่อยได้น้อย...รู้ลึกรู้ละเอียด..ก็ปล่อยได้มาก

รู้....นะ...ไม่ใช่จำมา

ยังไม่รู้ว่ายึดอะไร....แล้วจะปล่อยอะไรถูก


ไม่เห็นตน แล้วจะปล่อยวางตนได้อย่างไร :หลวงพ่อชา
ท่านกบ สุดยอด ต้องอย่างนี้ซิ จึงไม่ผิดหวัง :b8:

cool
กำลังชื่นชมอยู่กับคุณกบที่ช่วงนี้มีความนิ่มนวลมากขึ้นแต่พอมาเจอความท่อนนี้แล้วก็พบว่า ความละเอียดละออลึกซึ้งในธรรมชาติและความสังเกตยังตกหย่อนไปนิดหน่อย
ธรรมดาคนที่จิตอยู่กับธรรม(ชาติ)นานๆ จิตใจควรจะต้อง ละเอียดละออ ลึกซึ้ง นิ่มนวล สงบเย็นเป็นสุข มีสติคมกล้าปัญญาเฉียบแหลม
:b10:
บัญญัติ 2 ตัวนี้ คือ "เห็น"......กับ....."ยึด" .....ความหมายของอาการมันจะเหมือนกันได้อย่างไร? อย่าได้คิดดูหมิ่นคนโบราณผู้เริ่มต้นบัญญัติศัพท์ทั้ง 2 ตัวนี้ขึ้นมาเชียวนะครับ
:b39:
เพราะคิดเอาจึงกล่าวว่าอาการเหมือนกัน แต่จงลองปฏิบัติดู จะเห็นและรู้ว่า อาการ เห็น กับอาการ ยึด นั้นกิริยาอาการและความรับรู้ที่เกิดขึ้นต่างกันมาก
:b16:
เห็น เป็นอาการที่ ตากระทบรูป หรืออาการที่ตาปัญญาไปเข้าใจหรือรู้สภาวะที่ปรากฏต่อหน้าถ้าไม่ตรงตามความเป็นจริง เรียกวา "เห็นผิด" ถ้าตรงตามความเป็นจริงเรียกว่า "เห็นถูกต้อง"
:b43:
ยึด...เป็นอาการเกาะไว้แน่นด้วยมือ หรือยึดไว้แน่นด้วยใจ หากยึดไว้นานก็เหนื่อยและหนักเป็นภาระ กายใจจะไม่อิสระที่จะไปทำงานอื่น :b1:
ลองทำอาการดูซิครับ คุณกบกับคุณฝึกจิต
:b31:

สำหรับคุณฝึกจิตรู้สึกว่าจะยึดมั่นศรัทธาแน่นเกินไปกับคำอธิบายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำเกี่ยวกับเรื่องสักกายทิฐิ และคุณลักษณะของพระโสดาบันตามสำนวนที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำแสดงไว้จึงเมื่อไหร่ๆก็นำมาอ้างอยู่เสมอ ลองปล่อยวางในใจให้เป็นอิสระจากความยึดถือในตำรา คำสอนของครูบาอาจารย์ที่เรายึดไว้ มาเปิดใจดูโลกกว้างเราอาจได้พบทางที่สว่างไสวยิ่งๆขึ้นยิ่งกว่าที่เป็น
:b4:
ฤาจะเคยนั่งหลับตาให้หลวงพ่อฤาษีท่านพาไปชมนรกสวรรค์ ไปเฝ้ากราบพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์สาวกบนพระเกตแก้วจุฬามณี มีวิมานจากผลบุญที่สร้างไว้ให้ไปเยี่ยมชม เลยไม่ยอมละพรากจากหลวงพ่อและคำสอนของหลวงพ่อไปที่ไหน วาง ๆ อดีตอันสดใสมาอยู่กับปัจจุบันได้แล้วนะครับ มารับคำตอบดีๆที่คุณ "คนธรรมดานำมาอภินันทนาการให้" จิตใจจะได้ถึง"กลาง"กันเสียทีจะได้เดินไปถึงที่สุดแห่ง "ดี"พร้อมๆกันนะครับ คุณกบกับคุณฝึกจิต
tongue
สำหรับน้องคง ที่คุณคนธรรมดาเล่าสู่กันฟังคงเข้าใจดีนะครับ โมทนาสาธุด้วย กับผู้อิงธรรมจากการปฏิบัติหรือประสบการณ์จริงมาเล่าสู่กันฟังอย่างที่น้องคงทำ ทำต่อไปครับ เชียร์
:b4: :b4: :b4:
เจริญธรรมทุกคนครับ

ผมไม่ยึดมั่นกับใครทั้งนั้นแหละ ถึงท่านพุทธทาส หลวงพ่อชา (สองท่านแรกที่ผมฟังและยังฟังอยู่เสมอ)หรือ พุทธพจน์ ก็ด้วย แต่ต้องหามาเพื่อ แสดงว่า ที่เราสนทนานั้น ความเห็น ลงกับ พระอาจารย์ หรือ พุทธพจน์หรือมั้ย ก็เท่านั้นนิ แล้วแต่ใครจะเชื่อ เด่อครับ
ส่วนเรื่อง นรก สวรรค์ เมืองนิพพาน นั้น ไว้ค่อยเจอเองดีกว่า เพราะผมเองยังไม่เจอ จึงไม่อยากพูด ยิ่งตรงกับความเชื่อคนอื่นๆด้วย เมียผมเป็นอิสลาม เพื่อนผมเป็นคริส ก็อยู่กันได้ โดยไม่ยึดมั่นถือมั่น ครับ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2012, 12:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุกับ ท่านคนธรรมดาๆ ที่นำธรรมทานของพระอาจรย์มั่นมาให้สมาชิกได้ศึกษาทำความเข้าใจ นับว่าเป็นบุญวาสนาของ คุนน้องโดยแท้ที่ได้กัลยามิตร หลายๆท่านคอยให้ความชี้แนะด้วยความเมตตา สาธุเจ้าค่ะ :b8: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2012, 12:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ก็ที่ผมจะเชื่อคำสอนของใครนั้น ผมฟังครูบาร์อาจารย์หลายท่านครับ เช่นท่านพุทธทาส หลวงพ่อชา หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่สิม หลวงพ่อพุธ หลวงตามหาบัว หลวงพ่อฤษีลิงดำ และมีอีกมาก พร้อมหา พุทธพจน์ต่างมา ประกอบ แล้วจึงไป วิปัสสนาต่อ ครับ จึงจะเชื่อ
หากเอาคำพูดของอาจารย์ท่านใดมาพูดแล้ว สุดท้าย เอาความเห็นของตน ที่ไม่ตรงกับที่ท่านเทศน์สอนไว้ผมว่า ไม่สู้ดีนัก นะครับ
หากเอามาพูด แล้ว บอกว่า เจอมาเองนะ คิดเองนะ มันก็จะถูกมองว่า อวดรู้อวดดีอีก ผมเลย เอาความคิดเห็นครูบาร์อาจารย์บ้าง คำภีร์บ้าง ความเห็นตัวเองบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะตรงกับพุทธพจน์แล้ว มาโต้ตอบ ไม่ได้หยิบมาด้วนๆนะครับ
ส่วนใครจะเป็นเช่นไร ก็ตามกำลังปัญญาตนเองเถิดครับ ผมแค่สนทนา ตามภาษา คนที่ยังโง่ เท่านั้น
ใครที่ฉลาดล้นแล้ว ก็เพียรต่อไปเถิด


เห็น อัตตา เด่นดวง :b21: :b22: :b34:
ของผมนะ เดียวหาว่า ว่าคนอื่น

:b8: :b8: :b8:

แต่คุนน้องว่าท่านฝึกจิตฉลาด รอบรู้เก่งกาจในธรรมของพระอาจารย์หลายๆท่าน ทำไมพอคุนน้องถามภาคปฏิบัติ กลับเฉไฉ มาสนทนากับคุนน้องด้วยก็ได้ แบ่งปันธรรมมะกัน ท่านเอาธรรมมะพระอาจารย์มาปุชฉา คุนน้องจะวิสัชนาตอบแบบสัมมาทิฏฐิของตนล้วนๆ จะได้รู้ภาคปฏิบัติกับภาคปริยัติแต่ไม่ปฏิบัติมันต่างกันยังงัย :b20: :b53:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2012, 20:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:

ก็ต้องแลกเปลี่ยนความคิดกันบ้าง แชร์ความรู้กันบ้าง แต่กลายเป็นว่า ให้คุนน้องลดละปล่อยวางธรรม ปล่อยวางธรรมตัวไหนหรือเจ้าค่ะ ไม่บอกให้หระจ่าง ที่คุนน้องคุยก็คุยด้วยสัมมาทิฏฐิเหมือนพวกท่านไม่ใช่หรือเจ้าค่ะ :b10: คุนน้องก็บอกสังโยชน์ตัวอัตตามันต้องระดับอนาคามี ถึงจะปฏิบัติได้จริงๆ คุนน้องก็พูดความจริงไม่ได้มุสาเพราะศีล 5ก็บริสุทธิ์ไม่ได้เสแสร้งนี่เจ้าค่ะ :b8:


:b8: ความคิดเหล่านี้
...........
1..2..3...เราปล่อยได้แล้ว...เราได้โสดา

4..5..เรามีแค่เบา ๆ ...เราเป็นสกิทา...

หากปล่อยได้ถึง. 5...เราก็จะได้อนาคา

...........

เป็นความคิด....ที่ควรปล่อยไปให้หมด...

หาทางฆ่าตัวทุกข์ที่อยู่เฉพาะหน้าเรา...ก็พอ... :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2012, 21:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
nongkong เขียน:

ก็ต้องแลกเปลี่ยนความคิดกันบ้าง แชร์ความรู้กันบ้าง แต่กลายเป็นว่า ให้คุนน้องลดละปล่อยวางธรรม ปล่อยวางธรรมตัวไหนหรือเจ้าค่ะ ไม่บอกให้หระจ่าง ที่คุนน้องคุยก็คุยด้วยสัมมาทิฏฐิเหมือนพวกท่านไม่ใช่หรือเจ้าค่ะ :b10: คุนน้องก็บอกสังโยชน์ตัวอัตตามันต้องระดับอนาคามี ถึงจะปฏิบัติได้จริงๆ คุนน้องก็พูดความจริงไม่ได้มุสาเพราะศีล 5ก็บริสุทธิ์ไม่ได้เสแสร้งนี่เจ้าค่ะ :b8:


:b8: ความคิดเหล่านี้
...........
1..2..3...เราปล่อยได้แล้ว...เราได้โสดา

4..5..เรามีแค่เบา ๆ ...เราเป็นสกิทา...

หากปล่อยได้ถึง. 5...เราก็จะได้อนาคา

...........

เป็นความคิด....ที่ควรปล่อยไปให้หมด...

หาทางฆ่าตัวทุกข์ที่อยู่เฉพาะหน้าเรา...ก็พอ... :b8: :b8:


smiley
มันสมมุติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2012, 22:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ก็ที่ผมจะเชื่อคำสอนของใครนั้น ผมฟังครูบาร์อาจารย์หลายท่านครับ เช่นท่านพุทธทาส หลวงพ่อชา หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่สิม หลวงพ่อพุธ หลวงตามหาบัว หลวงพ่อฤษีลิงดำ และมีอีกมาก พร้อมหา พุทธพจน์ต่างมา ประกอบ แล้วจึงไป วิปัสสนาต่อ ครับ จึงจะเชื่อ
หากเอาคำพูดของอาจารย์ท่านใดมาพูดแล้ว สุดท้าย เอาความเห็นของตน ที่ไม่ตรงกับที่ท่านเทศน์สอนไว้ผมว่า ไม่สู้ดีนัก นะครับ
หากเอามาพูด แล้ว บอกว่า เจอมาเองนะ คิดเองนะ มันก็จะถูกมองว่า อวดรู้อวดดีอีก ผมเลย เอาความคิดเห็นครูบาร์อาจารย์บ้าง คำภีร์บ้าง ความเห็นตัวเองบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะตรงกับพุทธพจน์แล้ว มาโต้ตอบ ไม่ได้หยิบมาด้วนๆนะครับ
ส่วนใครจะเป็นเช่นไร ก็ตามกำลังปัญญาตนเองเถิดครับ ผมแค่สนทนา ตามภาษา คนที่ยังโง่ เท่านั้น
ใครที่ฉลาดล้นแล้ว ก็เพียรต่อไปเถิด


เห็น อัตตา เด่นดวง :b21: :b22: :b34:
ของผมนะ เดียวหาว่า ว่าคนอื่น

:b8: :b8: :b8:

แต่คุนน้องว่าท่านฝึกจิตฉลาด รอบรู้เก่งกาจในธรรมของพระอาจารย์หลายๆท่าน ทำไมพอคุนน้องถามภาคปฏิบัติ กลับเฉไฉ มาสนทนากับคุนน้องด้วยก็ได้ แบ่งปันธรรมมะกัน ท่านเอาธรรมมะพระอาจารย์มาปุชฉา คุนน้องจะวิสัชนาตอบแบบสัมมาทิฏฐิของตนล้วนๆ จะได้รู้ภาคปฏิบัติกับภาคปริยัติแต่ไม่ปฏิบัติมันต่างกันยังงัย :b20: :b53:


ท่านคิดว่า การปฏิบัติ มันแค่นักสมาธิในรูปแบบเท่านั้นหรือ ผมนั่งตั้งแต่ก่อนปีใหม่ จนปัจจุบัน ทุกวัน จนนอน ร่วมกับ วิปัสสนา แต่ ของจริงมันอยู่ที่ทุกปัจจุบันขณะ นั้นแหละครับ
เพราะ สมาธิมี ปัญญาสมบูรณ์ / สมาธิข่ม ปัญญาตัด มันเกื้อหนุนกันอยู่ แต่ทุกอย่างอยู่ในสติ ทั้งนั้น
ให้เพียรมีสติอัตฺโนมัติให้ได้เถิด

หากปฏิบัติเพื่อ ไม่มี ไม่เป็น ไม่ได้ หรือไม่บรรลุถึง อะไรๆ แล้วค่อยคุยกันดีกว่าครับ

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2012, 06:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
nongkong เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ก็ที่ผมจะเชื่อคำสอนของใครนั้น ผมฟังครูบาร์อาจารย์หลายท่านครับ เช่นท่านพุทธทาส หลวงพ่อชา หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่สิม หลวงพ่อพุธ หลวงตามหาบัว หลวงพ่อฤษีลิงดำ และมีอีกมาก พร้อมหา พุทธพจน์ต่างมา ประกอบ แล้วจึงไป วิปัสสนาต่อ ครับ จึงจะเชื่อ
หากเอาคำพูดของอาจารย์ท่านใดมาพูดแล้ว สุดท้าย เอาความเห็นของตน ที่ไม่ตรงกับที่ท่านเทศน์สอนไว้ผมว่า ไม่สู้ดีนัก นะครับ
หากเอามาพูด แล้ว บอกว่า เจอมาเองนะ คิดเองนะ มันก็จะถูกมองว่า อวดรู้อวดดีอีก ผมเลย เอาความคิดเห็นครูบาร์อาจารย์บ้าง คำภีร์บ้าง ความเห็นตัวเองบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะตรงกับพุทธพจน์แล้ว มาโต้ตอบ ไม่ได้หยิบมาด้วนๆนะครับ
ส่วนใครจะเป็นเช่นไร ก็ตามกำลังปัญญาตนเองเถิดครับ ผมแค่สนทนา ตามภาษา คนที่ยังโง่ เท่านั้น
ใครที่ฉลาดล้นแล้ว ก็เพียรต่อไปเถิด


เห็น อัตตา เด่นดวง :b21: :b22: :b34:
ของผมนะ เดียวหาว่า ว่าคนอื่น

:b8: :b8: :b8:

แต่คุนน้องว่าท่านฝึกจิตฉลาด รอบรู้เก่งกาจในธรรมของพระอาจารย์หลายๆท่าน ทำไมพอคุนน้องถามภาคปฏิบัติ กลับเฉไฉ มาสนทนากับคุนน้องด้วยก็ได้ แบ่งปันธรรมมะกัน ท่านเอาธรรมมะพระอาจารย์มาปุชฉา คุนน้องจะวิสัชนาตอบแบบสัมมาทิฏฐิของตนล้วนๆ จะได้รู้ภาคปฏิบัติกับภาคปริยัติแต่ไม่ปฏิบัติมันต่างกันยังงัย :b20: :b53:


ท่านคิดว่า การปฏิบัติ มันแค่นักสมาธิในรูปแบบเท่านั้นหรือ ผมนั่งตั้งแต่ก่อนปีใหม่ จนปัจจุบัน ทุกวัน จนนอน ร่วมกับ วิปัสสนา แต่ ของจริงมันอยู่ที่ทุกปัจจุบันขณะ นั้นแหละครับ
เพราะ สมาธิมี ปัญญาสมบูรณ์ / สมาธิข่ม ปัญญาตัด มันเกื้อหนุนกันอยู่ แต่ทุกอย่างอยู่ในสติ ทั้งนั้น
ให้เพียรมีสติอัตฺโนมัติให้ได้เถิด

หากปฏิบัติเพื่อ ไม่มี ไม่เป็น ไม่ได้ หรือไม่บรรลุถึง อะไรๆ แล้วค่อยคุยกันดีกว่าครับ

:b8:

:b12:
น้อยใจแย่เลยน่ะ คุณฝึกจิต
ที่สรุปให้น้องคงฟังข้างท้ายนี่ก็ดูดีแล้วนะ
แล้วอันที่แสดงมาในคอมเมนท์ข้างบนก็ใช้ได้ เพราะใหม่ๆค่อนข้างจะโต่ง แต่พอเผยออกมาตรงๆให้ครบก็ไปดี ไม่เห็นมีอะไรจะต้องหลบไปพักตัวเลยนี่ครับ

อยู่กับมิตรนี่พระพุทธบิดาทรงตรัสสอนไว้ในคฤหัสธรรม สังคหวัตถุ 4 ว่า
ทาน
ปิยะวาจา
อัตถจริยา
สมานัตตา ความเสมอต้นเสมอปลาย
นี่ก็เป็นคุณธรรมสำหรับการคบมิตรเป็นธรรมะขั้นพื้นฐานที่นำมาสลับฉากกับธรรมะเพื่อความหลุดพ้นได้จะได้คลายกังวลนะครับ
:b12:
BE HAPPY
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2012, 07:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
nongkong เขียน:

ก็ต้องแลกเปลี่ยนความคิดกันบ้าง แชร์ความรู้กันบ้าง แต่กลายเป็นว่า ให้คุนน้องลดละปล่อยวางธรรม ปล่อยวางธรรมตัวไหนหรือเจ้าค่ะ ไม่บอกให้หระจ่าง ที่คุนน้องคุยก็คุยด้วยสัมมาทิฏฐิเหมือนพวกท่านไม่ใช่หรือเจ้าค่ะ :b10: คุนน้องก็บอกสังโยชน์ตัวอัตตามันต้องระดับอนาคามี ถึงจะปฏิบัติได้จริงๆ คุนน้องก็พูดความจริงไม่ได้มุสาเพราะศีล 5ก็บริสุทธิ์ไม่ได้เสแสร้งนี่เจ้าค่ะ :b8:


:b8: ความคิดเหล่านี้
...........
1..2..3...เราปล่อยได้แล้ว...[color=#FF0000]เราได้โสดา

4..5..เรามีแค่เบา ๆ ...เราเป็นสกิทา...

หากปล่อยได้ถึง. 5...[color=#FF0000]เรา[/color]ก็จะได้อนาคา
[/color]
...........

เป็นความคิด....ที่(เรา)ควรปล่อยไปให้หมด...

หาทางฆ่าตัวทุกข์ที่อยู่เฉพาะหน้าเรา...ก็พอ...
:b8: :b8:

:b12: :b12: :b12:
เห็นมี....."เรา".....อยู่ตลอดทางเลยนะครับ
ถ้าบรรลุธรรมโดยมี..."เรา"...ตามไปตลอดอย่างนี้คงยังอยู่ใต้อำนาจของ ..."เรา"...แน่ๆเลยครับ
:b10:
เอา "เรา" ออกเสียให้ได้แต่แรก น่าจะหมดเรื่องหมดปัญหา หมดทุกข์ได้จริงๆกระมังครับ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2012, 04:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
กระบวนการซักใจนั้นมีอยู่ 2 จังหวะคือ
1.ซัก.....ได้แก่การ "นิ่งรู้"ปัจจุบันอารมณ์ (วิปัสสนา)
2.พัก.....ได้แก่การ "นิ่งอยู่"กับ ลม อารมณ์หรือกรรมฐาน (สมถะ)

พัก....ซัก******พัก......ซัก*****พัก......ซัก@@@@@@พัก@@@@@@@ซัก@@@@@@พัก..ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ .....
:b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2012, 23:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
nongkong เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ก็ที่ผมจะเชื่อคำสอนของใครนั้น ผมฟังครูบาร์อาจารย์หลายท่านครับ เช่นท่านพุทธทาส หลวงพ่อชา หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่สิม หลวงพ่อพุธ หลวงตามหาบัว หลวงพ่อฤษีลิงดำ และมีอีกมาก พร้อมหา พุทธพจน์ต่างมา ประกอบ แล้วจึงไป วิปัสสนาต่อ ครับ จึงจะเชื่อ
หากเอาคำพูดของอาจารย์ท่านใดมาพูดแล้ว สุดท้าย เอาความเห็นของตน ที่ไม่ตรงกับที่ท่านเทศน์สอนไว้ผมว่า ไม่สู้ดีนัก นะครับ
หากเอามาพูด แล้ว บอกว่า เจอมาเองนะ คิดเองนะ มันก็จะถูกมองว่า อวดรู้อวดดีอีก ผมเลย เอาความคิดเห็นครูบาร์อาจารย์บ้าง คำภีร์บ้าง ความเห็นตัวเองบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะตรงกับพุทธพจน์แล้ว มาโต้ตอบ ไม่ได้หยิบมาด้วนๆนะครับ
ส่วนใครจะเป็นเช่นไร ก็ตามกำลังปัญญาตนเองเถิดครับ ผมแค่สนทนา ตามภาษา คนที่ยังโง่ เท่านั้น
ใครที่ฉลาดล้นแล้ว ก็เพียรต่อไปเถิด


เห็น อัตตา เด่นดวง :b21: :b22: :b34:
ของผมนะ เดียวหาว่า ว่าคนอื่น

:b8: :b8: :b8:

แต่คุนน้องว่าท่านฝึกจิตฉลาด รอบรู้เก่งกาจในธรรมของพระอาจารย์หลายๆท่าน ทำไมพอคุนน้องถามภาคปฏิบัติ กลับเฉไฉ มาสนทนากับคุนน้องด้วยก็ได้ แบ่งปันธรรมมะกัน ท่านเอาธรรมมะพระอาจารย์มาปุชฉา คุนน้องจะวิสัชนาตอบแบบสัมมาทิฏฐิของตนล้วนๆ จะได้รู้ภาคปฏิบัติกับภาคปริยัติแต่ไม่ปฏิบัติมันต่างกันยังงัย :b20: :b53:


ท่านคิดว่า การปฏิบัติ มันแค่นักสมาธิในรูปแบบเท่านั้นหรือ ผมนั่งตั้งแต่ก่อนปีใหม่ จนปัจจุบัน ทุกวัน จนนอน ร่วมกับ วิปัสสนา แต่ ของจริงมันอยู่ที่ทุกปัจจุบันขณะ นั้นแหละครับ เพราะ สมาธิมี ปัญญาสมบูรณ์ / สมาธิข่ม ปัญญาตัด มันเกื้อหนุนกันอยู่ แต่ทุกอย่างอยู่ในสติ ทั้งนั้น
ให้เพียรมีสติอัตฺโนมัติให้ได้เถิด

หากปฏิบัติเพื่อ ไม่มี ไม่เป็น ไม่ได้ หรือไม่บรรลุถึง อะไรๆ แล้วค่อยคุยกันดีกว่าครับ

:b8:

รู้สึกท่านฝึกจิตจะเข้าใจผิดแล้ว คุนน้องไม่เคยคิดว่าว่าทำสมาธิแล้วบรรลุธรรม มีถ้อยคำใดหรือเจ้าค่ะ ที่คุนน้องบอกทำสมาธิแล้วเข้าถึงธรรม ท่านไปอ่านที่คุนน้องอธิบาย ที่คุนน้องบอกว่า ภาคปฏิบัติเราต้องเจริญอะไรบ้าง อ่านดีแล้วหรือถึงได้ กล่าวหาคุนน้อง แล้วคุนน้องก็บอกไปหยกๆว่า ถามมาเลยธรรมมะ คุนน้องจะตอบแบบปัญญาสัมมาทิฏฐิ ไม่ต้องคุยว่าใครบรรลุไม่บรรลุ ลองคุยกัน หยิบเอาธรรมมะเรื่องใด เรื่องหนึ่งมา

ท่านก็อธิบายตามความเข้าใจของท่าน คุนน้องจะอธิบายตามความเข้าใจของคุนน้อง คนที่เข้าถึงกระแสธรรม เข้าถึงแก่นธรรมสามารถอธิบายธรรมใดโดยที่ไม่ต้องเรียนปริยัติ ว่าแต่ท่านจะกล้า ปุชฉา วิสัชนากับคุนน้องหรือเปล่า ที่คุนน้องคุยกับท่านเพราะเห็นธรรมมะที่เป็นอัตตาเด่นดวงของท่านเลยอยากลองภูมิ แต่ท่านก็ไม่กล้าคุยธรรมมะกับคุนน้อง แค่นี้คุนน้องก็รู้แล้ว :b11:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 05:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
nongkong เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ก็ที่ผมจะเชื่อคำสอนของใครนั้น ผมฟังครูบาร์อาจารย์หลายท่านครับ เช่นท่านพุทธทาส หลวงพ่อชา หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่สิม หลวงพ่อพุธ หลวงตามหาบัว หลวงพ่อฤษีลิงดำ และมีอีกมาก พร้อมหา พุทธพจน์ต่างมา ประกอบ แล้วจึงไป วิปัสสนาต่อ ครับ จึงจะเชื่อ
หากเอาคำพูดของอาจารย์ท่านใดมาพูดแล้ว สุดท้าย เอาความเห็นของตน ที่ไม่ตรงกับที่ท่านเทศน์สอนไว้ผมว่า ไม่สู้ดีนัก นะครับ
หากเอามาพูด แล้ว บอกว่า เจอมาเองนะ คิดเองนะ มันก็จะถูกมองว่า อวดรู้อวดดีอีก ผมเลย เอาความคิดเห็นครูบาร์อาจารย์บ้าง คำภีร์บ้าง ความเห็นตัวเองบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะตรงกับพุทธพจน์แล้ว มาโต้ตอบ ไม่ได้หยิบมาด้วนๆนะครับ
ส่วนใครจะเป็นเช่นไร ก็ตามกำลังปัญญาตนเองเถิดครับ ผมแค่สนทนา ตามภาษา คนที่ยังโง่ เท่านั้น
ใครที่ฉลาดล้นแล้ว ก็เพียรต่อไปเถิด


เห็น อัตตา เด่นดวง :b21: :b22: :b34:
ของผมนะ เดียวหาว่า ว่าคนอื่น

:b8: :b8: :b8:

แต่คุนน้องว่าท่านฝึกจิตฉลาด รอบรู้เก่งกาจในธรรมของพระอาจารย์หลายๆท่าน ทำไมพอคุนน้องถามภาคปฏิบัติ กลับเฉไฉ มาสนทนากับคุนน้องด้วยก็ได้ แบ่งปันธรรมมะกัน ท่านเอาธรรมมะพระอาจารย์มาปุชฉา คุนน้องจะวิสัชนาตอบแบบสัมมาทิฏฐิของตนล้วนๆ จะได้รู้ภาคปฏิบัติกับภาคปริยัติแต่ไม่ปฏิบัติมันต่างกันยังงัย :b20: :b53:


ท่านคิดว่า การปฏิบัติ มันแค่นักสมาธิในรูปแบบเท่านั้นหรือ ผมนั่งตั้งแต่ก่อนปีใหม่ จนปัจจุบัน ทุกวัน จนนอน ร่วมกับ วิปัสสนา แต่ ของจริงมันอยู่ที่ทุกปัจจุบันขณะ นั้นแหละครับ เพราะ สมาธิมี ปัญญาสมบูรณ์ / สมาธิข่ม ปัญญาตัด มันเกื้อหนุนกันอยู่ แต่ทุกอย่างอยู่ในสติ ทั้งนั้น
ให้เพียรมีสติอัตฺโนมัติให้ได้เถิด

หากปฏิบัติเพื่อ ไม่มี ไม่เป็น ไม่ได้ หรือไม่บรรลุถึง อะไรๆ แล้วค่อยคุยกันดีกว่าครับ

:b8:

รู้สึกท่านฝึกจิตจะเข้าใจผิดแล้ว คุนน้องไม่เคยคิดว่าว่าทำสมาธิแล้วบรรลุธรรม มีถ้อยคำใดหรือเจ้าค่ะ ที่คุนน้องบอกทำสมาธิแล้วเข้าถึงธรรม ท่านไปอ่านที่คุนน้องอธิบาย ที่คุนน้องบอกว่า ภาคปฏิบัติเราต้องเจริญอะไรบ้าง อ่านดีแล้วหรือถึงได้ กล่าวหาคุนน้อง แล้วคุนน้องก็บอกไปหยกๆว่า ถามมาเลยธรรมมะ คุนน้องจะตอบแบบปัญญาสัมมาทิฏฐิ ไม่ต้องคุยว่าใครบรรลุไม่บรรลุ ลองคุยกัน หยิบเอาธรรมมะเรื่องใด เรื่องหนึ่งมา

ท่านก็อธิบายตามความเข้าใจของท่าน คุนน้องจะอธิบายตามความเข้าใจของคุนน้อง คนที่เข้าถึงกระแสธรรม เข้าถึงแก่นธรรมสามารถอธิบายธรรมใดโดยที่ไม่ต้องเรียนปริยัติ ว่าแต่ท่านจะกล้า ปุชฉา วิสัชนากับคุนน้องหรือเปล่า ที่คุนน้องคุยกับท่านเพราะเห็นธรรมมะที่เป็นอัตตาเด่นดวงของท่านเลยอยากลองภูมิ แต่ท่านก็ไม่กล้าคุยธรรมมะกับคุนน้อง แค่นี้คุนน้องก็รู้แล้ว :b11:

ที่ท่านว่า
คุณน้องไม่มีธรรมมะมีแต่ภาคปฏิบัติเลยอยากมีส่วนร่วม อันนี้หมายถึงอะไร หมายถึงว่า ท่านไม่ได้ปริยัติ ใช่ไม่หรือหมายถึงอะไร :b10:
แล้วที่ท่านว่า คุนน้องอ่านเวปธรรมมะอยู่ดีๆ ตั้งใจอ่านแบบแน่วแน่มากเลย จำได้ว่าเข้าไปอ่านอภิธรรมเกี่ยวกับปฏิจสุปปบาท ก็ตั้งใจอ่านแล้วพิจารณาธรรมไปตามนั้น นี้เขาเรียกอะไร :b10:
คุนน้องเหลือปฏิฆะ ตัวเดียว ถ้าเอาออกได้ก็เป็นระดับ อนาคามี นี้แหละ ที่บันดาอาจารญ์ทั้งหลายเรียกว่า ตัวหลง
หากจะปุชฉา ก็ปุชฉา มาได้ครับ ผมจะเอาปัญญาอันน้อยนิดมาตอบท่าน แต่ท่านผู้มีปัญญาสัมมาทิฏฐิ ต้องเอาสิ่งที่ตนรู้ แล้วบอกว่า นั้นแหละแน่นอน ของฉันถูก ออกเสียก่อน
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2012, 07:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
nongkong เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
nongkong เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ก็ที่ผมจะเชื่อคำสอนของใครนั้น ผมฟังครูบาร์อาจารย์หลายท่านครับ เช่นท่านพุทธทาส หลวงพ่อชา หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่สิม หลวงพ่อพุธ หลวงตามหาบัว หลวงพ่อฤษีลิงดำ และมีอีกมาก พร้อมหา พุทธพจน์ต่างมา ประกอบ แล้วจึงไป วิปัสสนาต่อ ครับ จึงจะเชื่อ
หากเอาคำพูดของอาจารย์ท่านใดมาพูดแล้ว สุดท้าย เอาความเห็นของตน ที่ไม่ตรงกับที่ท่านเทศน์สอนไว้ผมว่า ไม่สู้ดีนัก นะครับ
หากเอามาพูด แล้ว บอกว่า เจอมาเองนะ คิดเองนะ มันก็จะถูกมองว่า อวดรู้อวดดีอีก ผมเลย เอาความคิดเห็นครูบาร์อาจารย์บ้าง คำภีร์บ้าง ความเห็นตัวเองบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะตรงกับพุทธพจน์แล้ว มาโต้ตอบ ไม่ได้หยิบมาด้วนๆนะครับ
ส่วนใครจะเป็นเช่นไร ก็ตามกำลังปัญญาตนเองเถิดครับ ผมแค่สนทนา ตามภาษา คนที่ยังโง่ เท่านั้น
ใครที่ฉลาดล้นแล้ว ก็เพียรต่อไปเถิด


เห็น อัตตา เด่นดวง :b21: :b22: :b34:
ของผมนะ เดียวหาว่า ว่าคนอื่น

:b8: :b8: :b8:

แต่คุนน้องว่าท่านฝึกจิตฉลาด รอบรู้เก่งกาจในธรรมของพระอาจารย์หลายๆท่าน ทำไมพอคุนน้องถามภาคปฏิบัติ กลับเฉไฉ มาสนทนากับคุนน้องด้วยก็ได้ แบ่งปันธรรมมะกัน ท่านเอาธรรมมะพระอาจารย์มาปุชฉา คุนน้องจะวิสัชนาตอบแบบสัมมาทิฏฐิของตนล้วนๆ จะได้รู้ภาคปฏิบัติกับภาคปริยัติแต่ไม่ปฏิบัติมันต่างกันยังงัย :b20: :b53:


ท่านคิดว่า การปฏิบัติ มันแค่นักสมาธิในรูปแบบเท่านั้นหรือ ผมนั่งตั้งแต่ก่อนปีใหม่ จนปัจจุบัน ทุกวัน จนนอน ร่วมกับ วิปัสสนา แต่ ของจริงมันอยู่ที่ทุกปัจจุบันขณะ นั้นแหละครับ เพราะ สมาธิมี ปัญญาสมบูรณ์ / สมาธิข่ม ปัญญาตัด มันเกื้อหนุนกันอยู่ แต่ทุกอย่างอยู่ในสติ ทั้งนั้น
ให้เพียรมีสติอัตฺโนมัติให้ได้เถิด

หากปฏิบัติเพื่อ ไม่มี ไม่เป็น ไม่ได้ หรือไม่บรรลุถึง อะไรๆ แล้วค่อยคุยกันดีกว่าครับ

:b8:

รู้สึกท่านฝึกจิตจะเข้าใจผิดแล้ว คุนน้องไม่เคยคิดว่าว่าทำสมาธิแล้วบรรลุธรรม มีถ้อยคำใดหรือเจ้าค่ะ ที่คุนน้องบอกทำสมาธิแล้วเข้าถึงธรรม ท่านไปอ่านที่คุนน้องอธิบาย ที่คุนน้องบอกว่า ภาคปฏิบัติเราต้องเจริญอะไรบ้าง อ่านดีแล้วหรือถึงได้ กล่าวหาคุนน้อง แล้วคุนน้องก็บอกไปหยกๆว่า ถามมาเลยธรรมมะ คุนน้องจะตอบแบบปัญญาสัมมาทิฏฐิ ไม่ต้องคุยว่าใครบรรลุไม่บรรลุ ลองคุยกัน หยิบเอาธรรมมะเรื่องใด เรื่องหนึ่งมา

ท่านก็อธิบายตามความเข้าใจของท่าน คุนน้องจะอธิบายตามความเข้าใจของคุนน้อง คนที่เข้าถึงกระแสธรรม เข้าถึงแก่นธรรมสามารถอธิบายธรรมใดโดยที่ไม่ต้องเรียนปริยัติ ว่าแต่ท่านจะกล้า ปุชฉา วิสัชนากับคุนน้องหรือเปล่า ที่คุนน้องคุยกับท่านเพราะเห็นธรรมมะที่เป็นอัตตาเด่นดวงของท่านเลยอยากลองภูมิ แต่ท่านก็ไม่กล้าคุยธรรมมะกับคุนน้อง แค่นี้คุนน้องก็รู้แล้ว :b11:

ที่ท่านว่า
คุณน้องไม่มีธรรมมะมีแต่ภาคปฏิบัติเลยอยากมีส่วนร่วม อันนี้หมายถึงอะไร หมายถึงว่า ท่านไม่ได้ปริยัติ ใช่ไม่หรือหมายถึงอะไร :b10:
แล้วที่ท่านว่า คุนน้องอ่านเวปธรรมมะอยู่ดีๆ ตั้งใจอ่านแบบแน่วแน่มากเลย จำได้ว่าเข้าไปอ่านอภิธรรมเกี่ยวกับปฏิจสุปปบาท ก็ตั้งใจอ่านแล้วพิจารณาธรรมไปตามนั้น นี้เขาเรียกอะไร :b10:
คุนน้องเหลือปฏิฆะ ตัวเดียว ถ้าเอาออกได้ก็เป็นระดับ อนาคามี นี้แหละ ที่บันดาอาจารญ์ทั้งหลายเรียกว่า ตัวหลง
หากจะปุชฉา ก็ปุชฉา มาได้ครับ ผมจะเอาปัญญาอันน้อยนิดมาตอบท่าน แต่ท่านผู้มีปัญญาสัมมาทิฏฐิ ต้องเอาสิ่งที่ตนรู้ แล้วบอกว่า นั้นแหละแน่นอน ของฉันถูก ออกเสียก่อน
:b8:

จะบอกความจริงให้ก็ได้ พอดีผัสสะรนหาที่มองเห็นกิเลศคนอื่น เลยอดไม่ได้ แล้วเห็นกิเลศคนบางคนออกมาเต้นลิเกร้องรำทำเพลง พูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอยเพราะกลัวจะเสียท่า หาว่าคนอื่นทำไม่ได้ แต่ตัวเองปากกล้าขาสั่น อัตตามีมากกว่าคนอื่นเห็นอยู่ทนโธ่ แต่ปัญญาสัมมาทิฏฐิดันไม่มีหรือ :b10: ไปตั้งกระทู้ถามเลย เอาหัวข้ออะไรยกมาซักหัวข้อ นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้ หัวข้อนี้ไหมเจ้าค่ะ กระแทกใจจริง :b32: ปล.บอกไว้อย่างคุยธรรมมะนะ ไม่ใช่มาบอกให้ไป ลด ละ ปล่อย วางธรรม :b18:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 387 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15 ... 26  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร