วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 04:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2012, 16:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5326


 ข้อมูลส่วนตัว


ความจริงผู้ปฏิบัติธรรมที่มีภูมิธรรมในใจที่น่าเคารพนับถือ
เพียงกิริยาที่แสดงออกก็พอทราบได้ว่า เป็นผู้ควรแก่โลกแก่ธรรม
เพียงไร ไม่จำต้องนำสิ่งที่น่าเอือมออกประกาศ โลกก็เคยใช้
ความสังเกตพอรู้เรื่องดีชั่วกันมาอยู่แล้ว เพราะในโลกมนุษย์
พุทธบริษัทเรามิได้มีเฉพาะคนโง่รักษาศาสนาโดยถ่ายเดียว ที่ควรจะ
นำวิธีการซึ่งนักปราชญ์ชาติอริยะจะพึงตำหนิมาใช้ประกาศศาสนา
เนื่องจากวิธีที่ดีงามและละเอียดสุขุม ซึ่งเต็มไปด้วยอรรถด้วยธรรม
ความจริงทั้งหลาย ที่ท่านเคยพาใช้เพื่อความราบรื่นชื่นใจแก่หมู่ชน
ยังไม่หายสาบสูญไปจากศาสนาและวงปฏิบัติ ยังเป็นวิธีที่ทรงดอก
ทรงผลที่น่ารื่นรมย์ชื่นตาเย็นใจแก่ผู้ได้เห็นได้ชมตลอดมาถึงปัจจุบัน
ดังพระอัสสชิอรหันต์ท่านแสดงธรรมแก่พระสารีบุตร
พุทธสาวก ซึ่งเป็นความถ่อมตนเจียมตัวสมนามท่านที่เป็น
พระขีณาสพ ไม่มีโลกามิสใด ๆ เข้าไปแอบแฝงใจได้ มีนัยแห่ง
ธรรมที่แสดงออกในเวลานั้นว่า รูปเพิ่งบวชในธรรมวินัยใหม่ ๆ
ยังไม่มีความรู้ลึกซึ้งกว้างขวาง จึงไม่อาจแสดงธรรมให้ท่านฟังอย่าง
พิสดารกว้างขวางได้ จะขอแสดงแต่ใจความเพียงย่อ ๆ เท่านั้นว่า
ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ และดับเพราะเหตุพาให้ดับ พระสมณ
โคดมผู้เป็นศาสดาของรูปทรงแสดงสั่งสอนอย่างนี้ เพียงเท่านี้
พระสารีบุตรคลังปัญญาที่กำลังเป็นปริพาชก และกำลังยืนอยู่
ระหว่างทางสองแพร่งแห่งลัทธิเดิมกับพระพุทธศาสนา ก็ทราบ
ธรรมรสทันทีในขณะนั้น และยึดสายทางแห่งพุทธศาสนาเข้าสู่
ดวงใจอย่างฝังลึกทันที
ราวกับจะอุทานว่า ได้พบเส้นชีวิตที่ฝากเป็นฝากตาย
อย่างสมใจแล้ว จากท่านผู้มหาคุณอัสสชิเถระอย่างไม่คาดฝันเป็นเพียงเพศเดิมแห่งปริพาชกเท่านั้นยังปรากฏอยู่ในร่าง ส่วน
สมณเพศที่หนึ่งทางภายในที่ได้รับจากพระอัสสชิเถระนั้น ได้เป็น
อริยสาวกผู้หนึ่งโดยธรรมชาติไปแล้ว แม้เช่นนั้นปริพาชกอุปดิส
ยังไม่ทราบเลยว่า อาจารย์ผู้ให้กำเนิดแห่งอริยภูมิแก่ตนเป็นสมณะ
ที่เท่าไร เพราะท่านพระอัสสชิมิได้สนใจกับการประกาศตนอันเป็น
เพียงลมปากผ่านออกมาแล้วก็หายไป ยิ่งกว่าการประกาศธรรมของ
จริงให้อุปดิสได้รับผลเป็นที่พึงพอใจในเวลานั้น นี่คืออริยประเพณี
ของท่านผู้มีความสิ้นสุดจากโลกามิสอันมีพิษ ราวกับเบ็ดที่เป็นภัย
แก่ฝูงปลาฉะนั้น การปฏิบัติต่อโลกจึงมีแต่ของอัศจรรย์ออกแสดง
กระแสเสียงและกิริยาที่ท่านแสดงธรรมแก่อุปดิสปริพาชก
ครั้งนั้น แม้จะเป็นเวลานานได้สองพันปีแล้ว ก็เหมือนยังกึกก้อง
กังวานอยู่ในโสตประสาทของชาวพุทธเรา มิได้ร่วงโรยไปตาม
กาลสมัยเลย แม้อุปดิสที่ได้ถูกชุบชีวิตใหม่จนกลายเป็นพระสารีบุตร
พุทธสาวกแล้ว ก็มิได้ผยองพององค์ดังที่มักปรากฏอยู่เสมอมาเลย
ยังยิ่งมีความเคารพระลึกในพระคุณท่านผู้เป็นอาจารย์ จนเป็นที่
ปรากฏเด่นในวงพระสาวกทั้งหลายตลอดมา ทั้งได้รับความยกย่อง
สรรเสริญจากพระบรมศาสดาด้วยว่า เป็นผู้รู้จักบุญคุณของผู้อื่น
ที่เคยมีแล้วแก่ตนแม้น้อยก็มิได้หลงลืม ดังเรื่องราธพราหมณ์เป็น
ตัวอย่างซึ่งได้รับการบวชเพราะพระสารีบุตรเป็นผู้รับอาสา ได้ด้วย
ความระลึกในบุญคุณที่ราธพราหมณ์เคยนำข้าวมาใส่บาตรท่าน
ทัพพีหนึ่ง
ซึ่งถ้าเทียบกับธรรมดาของสามัญทั่ว ๆ ไปก็คงไม่มีอะไรพอ
เป็นเครื่องระลึกได้ เพราะความเป็นอัครสาวกเบื้องขวาอันเป็น
ตำแหน่งใหญ่โตรองพระพุทธเจ้าลงมา อาจบดบังลบล้างความเป็นของเล็กน้อยไปในตัว แต่ธรรมและอัครสาวกผู้เป็นคลังแห่งธรรม
จึงมิได้เป็นดังที่โลกมักเป็นกัน คือยิ่งดียิ่งเด่น ใครไปบำเพ็ญความดี
กับท่านแม้น้อยก็พลอยเด่นไปด้วย เพราะความดีของท่านพาให้เด่น
ทั้งนี้เพราะความดีนอกกับความดีใน สมบัติภายนอกกับ
สมบัติภายในต่างกัน การแสดงออกของผู้มีสมบัติดังกล่าวต่าง ๆ
กันจึงมีลักษณะต่างกัน ดังนั้นการเสวยกับการประดับสมบัติทั้งสอง
นี้จึงมีความสวยงามลึกซึ้งต่างกัน ดังเหตุระหว่างพระอัสสชิกับ
พระสารีบุตรคราวยังเป็นอุปดิสปริพาชกแสดงต่อกัน จึงเป็นที่
ซาบซึ้งตรึงใจ เพราะเป็นกิริยาของท่านผู้หมดเยื่อใยในอามิสทั้งปวง
ที่โลกปรารถนากัน จึงเป็นการแสดงออกที่บอกให้โลกทราบโดย
นัยว่า “ท่านสมบูรณ์ทุกอย่างแล้ว” ไม่มีความบกพร่องต้องการ
อะไรอีกแม้คำสรรเสริญเยินยอ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกาฝาก
ที่คอยเกาะกินเพื่อสร้างเนื้อหนังของตัวให้เจริญ ด้วยการทำลาย
สิ่งที่ตนอาศัยให้ย่อยยับไป ท่านจึงไม่ยอมให้สิ่งเหล่านี้ไปอาศัย
เกาะกิน ดังที่โลกยอมตัวเป็นภาชนะของมันตลอดมาไม่มีวันอิ่มพอ
ฝ่ายพระสารีบุตรซึ่งเป็นคลังแห่งมหาสติมหาปัญญา กตัญญู
กตเวทิตา เวลาประกาศคุณสมบัติของท่านผู้มีคุณแก่ตนออกมา
แทนที่การประกาศความดีของผู้อื่นที่มีแก่ท่านให้โลกทราบ แต่กลับ
เป็นการส่อแสดงถึงความเป็นผู้เด่นในคุณธรรมข้อนี้มากขึ้น เพราะ
การแสดงออกนั้นไม่มีความเยื่อใยเสียดายทิฐิมานะว่า ท่านเป็นถึง
ขั้นอัครสาวก ไม่ควรแสดงคุณของท่านผู้อื่นจนเป็นการลบล้างฐานะ
ของตน แต่กลับคว้าเอาฐานะที่น่าสงวนอย่างยิ่งนั้นขึ้นมาเป็น
เครื่องรำลึกว่า สิ่งอัศจรรย์ในตัวเราเหล่านี้เกิดมีขึ้นมาได้ เพราะท่าน
ผู้อื่นช่วยอนุเคราะห์เมตตา แล้วประกาศคุณธรรมที่ได้รับจากท่านผู้นั้นให้สูงยิ่งขึ้นโดยไม่มีการแบ่งรับแบ่งสู้ อันเป็นนิสัยของคนเห็น
แก่ตัวเหลืออยู่เลย ด้วยเหตุนี้คุณธรรมทุกด้านบรรดาที่มีอยู่ในองค์
ท่านพระสารีบุตรพุทธสาวก จึงปรากฏเด่นในวงพุทธศาสนาตลอด
สมัยปัจจุบัน
ปฏิปทาที่พระอัสสชิกับพระสารีบุตรดำเนินมา จึงเป็นที่
ประทับใจท่านที่หวังพึ่งผู้อื่น เพื่อเป็นเครื่องพยุงตลอดเวลาที่ยังหวัง
พึ่งผู้อื่นอยู่ และเทิดทูนคุณธรรมนั้นไว้บนเศียรเกล้าตลอดกาล ไม่มี
วันเสื่อมคลายหายสูญไปเสีย ศาสนาก็เจริญ หัวใจคนผู้รักธรรม
และเทิดทูนธรรมข้อนี้ก็สงบเย็น เห็นความสุขในปัจจุบันทันตา
ท่านอาจารย์มั่นเองก็ปรากฏเด่นในทางนี้อยู่มาก เราพอทราบได้
ตอนท่านพูดยกคุณท่านอาจารย์เสาร์ขึ้นเทิดทูนอยู่เสมอ โดยยก
การแรกบวชและออกปฏิบัติทีแรกที่ได้อาศัยอยู่กับท่านเรื่อยมา
ท่านอาจารย์เสาร์เป็นผู้ให้การอบรมทุกอย่าง เกี่ยวกับความเป็นอยู่
และความประพฤติของนักบวช ตลอดการอบรมภาวนา พอมี
ความเข้าใจอะไรบ้างก็เพราะได้อาศัยท่านเป็นองค์แรก ที่ให้กำเนิด
ความเป็นพระและเป็นกรรมฐานเรื่อยมา อันดับต่อมาก็พรรณนา
คุณของคณะศรัทธาญาติโยมและชาวป่าชาวเขาที่เคยมีคุณแก่ท่าน
ในคราวบำเพ็ญเพียรแบบเอาเป็นเอาตายเข้าแลกกัน สมัยท่านอยู่
จังหวัดเชียงใหม่ ท่านเคยไปพักที่ไหน มักจะพรรณนาคุณของ
คณะศรัทธาในแถวนั้นมิได้ขาด ข้อนี้รู้สึกจะเป็นนิสัยประจำองค์ท่าน
มิฉะนั้นคงไม่แสดงออกจนเห็นได้ชัดแก่ผู้อื่น
ตอนที่ผ่านมาได้พรรณนาการสนทนาธรรมของพระกรรมฐาน
ที่มีนัยแห่งธรรมและปัญหาต่าง ๆ กันตามภูมิและนิสัยของแต่ละ
ท่าน พอสรุปได้ว่า ความหายสงสัยปัญหาภายในใจเกิดจากการวินิจฉัยได้เอง หนึ่ง เกิดจากการสนทนากันหรือมีครูอาจารย์เป็น
คู่สนทนาด้วย หนึ่ง เกิดจากการฟังขณะท่านแสดงธรรมอบรม หนึ่ง
การสนทนาธรรมระหว่างกรรมฐานด้วยกันเป็นไปอย่างเงียบ ๆ
ถ้าเทียบกับสภากรรมฐานก็คือสภาหนูเราดี ๆ นี่เอง มิใช่สภาแมว
อะไรเลย แต่การสนทนาธรรมกันท่านถือเป็นสำคัญและเป็นคู่เคียง
กับการปฏิบัติ ฉะนั้นพระกรรมฐานจึงมีการสนทนากันอยู่เสมอจน
ปัจจุบันทุกวันนี้
จวนวาระสุดท้ายแห่งปฏิปทา จึงขอกล่าวถึงพระอาจารย์
สำคัญอีกองค์หนึ่งซึ่งเป็นลูกศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่นบ้างเล็กน้อย
เพื่อเป็นอนุสรณุตตริยะแด่ท่านที่ไม่เคยผ่านประวัติท่าน คือ พระ
อาจารย์พรหม ท่านอยู่วัดบ้านดงเย็น อำเภอหนองหาน จังหวัด
อุดรธานี ที่เพิ่งมรณภาพไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้เขียนเคยได้อ่านประวัติ
ย่อที่พิมพ์แจกในงานศพท่านเหมือนกัน แต่หลงลืมไปบ้างแล้ว ทาง
วัดได้ถวายเพลิงท่านเมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๑๔ ท่านมีประวัติย่อ
ประจำองค์อยู่แล้ว แต่ที่มาเขียนซ้ำอีกเล็กน้อยนี้ เพื่อท่านที่ยังไม่ได้
รับหนังสือนั้น จะพอมีทางทราบได้บ้างว่าท่านเป็นพระเช่นไร ที่
ระบุนามท่านนี้เพราะประวัติท่านได้ระบุไว้อย่างชัดเจนแล้ว จึงคิดว่า
น่าจะไม่ขัดกันกับที่เขียนผ่านมาซึ่งมิได้ระบุนามท่านองค์อื่น ๆ แต่
การเขียนนี้จะไม่ขอกล่าวถึงความเป็นมาแห่งฆราวาสของท่าน จะ
นำมาลงเฉพาะที่จำเป็นและปฏิปทาที่เกี่ยวกับนักบวชท่านเท่านั้น
ก่อนบวชทราบว่า ท่านประกาศความใจบุญอันกว้างขวาง
แก่โลกให้คนแถบนั้นทราบโดยทั่วกันว่า ท่านประสงค์จะสละทาน
ในบรรดาสมบัติที่มีอยู่ทั้งสิ้น ทั้งที่มีวิญญาณและหาวิญญาณมิได้
จนหมดสิ้น แล้วท่านและศรีภรรยาคู่บารมีได้ออกบวชตามเสด็จพระพุทธเจ้าและสาวกทั้งหลายให้ทันในชาตินี้ ไม่ขออยู่ในโลก
เกิดตายให้เนิ่นนานต่อไป ท่านผู้ประสงค์การสงเคราะห์โดยไม่คิด
ค่าตอบแทนใด ๆ กรุณามารับทานนี้ไปเป็นสมบัติอันชอบธรรม
ของตน ภายในกำหนดที่กำลังประกาศนี้ ทราบว่าท่านประกาศให้
ทานอยู่หลายวัน ประชาชนผู้ยากจนต่าง ๆ จึงพากันหลั่งไหลมา
รับทานเป็นจำนวนมาก จนวัตถุทุกประเภทหมดสิ้นไปภายในไม่กี่วัน
ทั้งนี้เนื่องจากท่านเป็นผู้มีฐานะมั่นคง มั่งมีสมบัติมากใน
แถบนั้น เพราะท่านเป็นพ่อค้าสารพัดอย่าง แต่ไม่มีลูกหญิงชาย
เป็นของตัวนับแต่วันแต่งงานกันมา มีเฉพาะศรีภริยาและเหล่า
หลานญาติมิตรบ้างเท่านั้น ซึ่งต่างยินดีในการสละทานเพื่อความ
ออกเป็นนักบวชด้วยกัน เมื่อการให้ทานเสร็จสิ้นลงแล้ว ทั้งสองคน
ต่างแยกทางกันเดิน ท่านเองก็ออกบวชเป็นพระธุดงคกรรมฐาน
มุ่งหน้าต่อท่านพระอาจารย์มั่นเป็นที่ฝากเป็นฝากตายในชีวิต
พรหมจรรย์ ส่วนศรีภริยาก็ไปอีกทางหนึ่งเพื่อบวชเป็นชีมุ่งหนี
สงสารสมความปณิธานที่ปรารถนาไว้ และดำรงตนอยู่ในเพศ
พรหมจรรย์จนอวสานแห่งชีวิต มิได้เอนเอียงหวั่นไหวต่อโลกามิส
ใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งควรเป็นตัวอย่างได้เป็นอย่างดี
เฉพาะท่านอาจารย์พรหม ตอนบวชทีแรกยังไม่สมความ
มุ่งหมายที่ตั้งไว้ ต้องไปอาศัยท่านพระอาจารย์สารเป็นผู้พาอยู่
อบรมไปก่อนจนกว่าโอกาสจะอำนวย จากนั้นจึงได้เที่ยวไปทาง
จังหวัดเชียงใหม่เพื่อแสวงหาท่านพระอาจารย์มั่น ซึ่งเวลานั้นท่าน
พักอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ นัยว่าท่านอาจารย์พรหมนี้ได้เที่ยวไปใน
ที่ต่าง ๆ จนถึงประเทศพม่า และพักอยู่หลายเมืองด้วยกัน มี
ท่านอาจารย์ชอบ ซึ่งมีนิสัยเด็ดเดี่ยวอาจหาญชนิดถึงไหนถึงกันแบบเพชรน้ำหนึ่งเป็นหัวแหวนในวงเดียวกันเป็นเพื่อนเดินทาง
เรื่องเหล่านี้ท่านอาจารย์พรหมเคยเล่าให้ผู้เขียนฟังเหมือนกันแต่
หลงลืมไปบ้างแล้ว มีปรากฏเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยที่ได้นำมาเขียนนี้
เท่านั้น ผิดพลาดจึงขออภัยด้วย
ท่านมีเรื่องแปลก ๆ และอัศจรรย์เกี่ยวกับการปฏิบัติ
ทั้งภายในและภายนอกอยู่มาก ทั้งในและนอกประเทศ แต่จะขอ
ผ่านไป ฟังแล้วทั้งน่าสงสารทั้งน่าตื่นเต้นเพลิดเพลินและน่าอัศจรรย์
ในความเป็นนักต่อสู้และความรู้ความเห็นของท่าน ในการบำเพ็ญ
และการเดินบุกป่าฝ่าดงไปในที่ต่าง ๆ ที่ปราศจากบ้านเรือนผู้คน
ในเวลาเช่นนั้น มีแต่ความอดอยากทรมานมากกว่าความอิ่มกาย
สบายใจ ท่านว่าบางวันก็พบหมู่บ้านและได้บิณฑบาตมาฉันพอ
ประทังชีวิต บางวันก็ยอมอดยอมทนต่อความหิวโหยอ่อนเพลีย
เพราะหลงทาง ทั้งนอนค้างอยู่ในป่าในเขา
เฉพาะเวลาไปเที่ยวประเทศพม่านั้น ท่านว่าลำบากมากใน
เวลาเดินทาง เพราะทางที่ไปมีแต่ป่าแต่เขา ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์เสือ
นานาชนิด บางครั้งต้องปลงอนิจจังต่อความเป็นอยู่ ที่เต็มไปด้วย
ความทุกข์ทรมานซึ่งสุดแสนจะทนได้และมีชีวิตสืบต่อไปในวัน
ข้างหน้า ขณะนั้นปรากฏว่าอะไร ๆ ภายในตัว ราวกับจะสุดสิ้นลง
พร้อมในเวลาเดียวกัน ลมหายใจก็เหมือนจะขาดความสืบต่อลงไป
ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง ในบรรดาเหตุทั้งหลายที่เป็นเครื่องกดถ่วง
ทรมานร่างกายและจิตใจ แต่ก็พอทนต่อไปได้ตามเหตุการณ์และ
วันเวลาที่ผ่านไป
การบำเพ็ญทางจิตท่านก็มีกำลังก้าวหน้าและเป็นที่แน่ใจ
ตัวเอง ก็ตอนที่ไปถึงท่านอาจารย์มั่น รับการอบรมโดยสม่ำเสมอเรื่อยมา บางปีท่านเมตตาอนุเคราะห์ให้จำพรรษาด้วย และมีการ
เข้า ๆ ออก ๆ อยู่เสมอ คือออกเที่ยวบำเพ็ญในสถานที่ต่าง ๆ
ตามอัธยาศัย เมื่อเกิดปัญหาข้องใจก็เข้ามารับการศึกษาอบรมกับ
ท่านเป็นระยะไป สมัยอยู่กับท่านอาจารย์มั่นที่จังหวัดเชียงใหม่
ทราบว่าท่านบำเพ็ญอยู่ที่เชียงใหม่อีกหลายปี แล้วจึงได้ตาม
ท่านอาจารย์มั่นกลับไปจังหวัดสกลนคร
ท่านอาจารย์องค์นี้เป็นผู้มีนิสัยเคร่งขรึมและเด็ดเดี่ยวมาก
สมที่สละสมบัติอันมีค่าออกบวชจริง ๆ จึงขอสรุปผลแห่งการปฏิบัติ
ที่ท่านได้รับเป็นที่พึงใจว่า ท่านได้สมบัติอันล้นค่ามหัศจรรย์ที่จังหวัด
เชียงใหม่ ในเขาลึกกับคนชาวป่า ตามที่ท่านเล่าให้ฟังถ้าจำไม่ผิด
แต่จำไม่ได้ว่าเป็นหมู่บ้านอะไร เขาลูกใด และอำเภอใด ที่นั่นแล
เป็นที่ปลดเปลื้องภาระแห่งวัฏวนภายในใจออกได้โดยสิ้นเชิง เมื่อ
ท่านอาจารย์มั่นกลับไปจังหวัดสกลนครได้หลายปีแล้ว ท่านจึงได้
ตามท่านไปราว พ.ศ.๒๔๘๖ และจำพรรษาอยู่ที่วัดสุทธาวาส
จังหวัดสกลนคร จากนั้นท่านจึงได้หวนกลับมาสร้างวัดที่บ้านดงเย็น
อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี อันเป็นภูมิลำเนาเดิม และได้
มรณภาพลงที่นั่น ดังที่เขียนผ่านมาแล้ว
เมื่อถึงวันงานถวายเพลิงศพท่าน บรรดาพุทธบริษัท
นักแสวงบุญทั้งหลาย ทั้งใกล้ทั้งไกล ตลอดชาวนครหลวงก็อุตส่าห์
สละเวลาไปเป็นจำนวนมาก แม้พี่น้องชาวเชียงใหม่ก็ยังอุตส่าห์
ไปกัน ทุก ๆ ท่านที่ไปมิได้คำนึงถึงความลำบากและสิ้นเปลือง
ใด ๆ เลย มุ่งแต่ความสมหวังดังใจหมายในงานโดยถ่ายเดียว
ฉะนั้น วัดที่ตั้งของงานแม้จะกว้างใหญ่ไพศาลในยามปกติธรรมดา
แห่งสายตาคนทั่วไป แต่ก็ได้กลายเป็นวัดที่คับแคบแออัดขึ้นมาในเวลานั้น เพราะผู้คนพระเณรจำนวนมากต่างหลั่งไหลกันมาในงาน
ท่าน แม้เช่นนั้นก็มิได้เป็นความเอิกเกริกวุ่นวายแก่งานแต่อย่างใด
เลย เพราะต่างท่านต่างมาด้วยจิตผ่องใสใจศรัทธา มิได้มาด้วย
ความหวังอย่างอื่นที่อาจเป็นอันตรายแก่งานและประชาชนที่มา
ในงานได้
ตอนกลางคืนของงาน คณะกรรมการวัดได้จัดให้มีการอบรม
กรรมฐานตลอดรุ่ง โดยขออาราธนาพระอาจารย์กรรมฐานผู้ทรง
คุณวุฒิเป็นองค์แสดง ด้วยปกิณกธรรมบ้าง ด้วยสมาธิธรรมบ้าง
ด้วยปัญญาธรรมบ้าง สับปนกันไป เพื่อประโยชน์แก่ท่านที่เป็น
นักบวชฝ่ายธุดงคกรรมฐานซึ่งนาน ๆ จะได้มีโอกาสมาฟังกันบ้าง
เพื่ออุบาสกอุบาสิกาที่สนใจธรรมปฏิบัติ บ้างเพื่อสาธุชนทั่ว ๆ
ไปบ้าง
การถวายเพลิงจริงท่านเริ่มเวลาประมาณสี่ทุ่มของคืน
วันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ขณะประชุมเพลิงนั้น มีประชาชน
พระเณรมาแสดงธรรมสังเวชเป็นจำนวนมากมาย ต่างท่านต่างมีท่า
อันสงบงามตาอย่างยิ่ง ราวกับต่างระลึกรำพึงถึงพระคุณและความดี
งามท่านอาจารย์พรหมผู้เคยบำเพ็ญมาด้วยความกล้าหาญชาญชัย
และความเสียสละทุกอย่างไม่อาลัยเสียดาย และเคยประสิทธิ์
ประสาทธรรมแก่บรรดาศิษย์ ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์หญิงชาย
ไม่มีประมาณ แล้วได้จากไปตามกฎอนิจจัง และไม่มีใครแม้มี
ความเคารพรักเลื่อมใสท่านอย่างสุดจิตสุดใจ จะช่วยต้านทานไว้ได้
สักรายเดียว บางท่านที่ไม่เคยพบเห็นท่านมาก่อน อาจคิดไปในแง่
กฎอนิจจังอันเป็นธรรมสอนโลกและสอนตน มากกว่าจะคิดถึงแง่
แห่งคุณธรรมท่านขณะที่กำลังถวายเพลิง ในบริเวณเมรุจะมีเฉพาะคณะ
กรรมการที่ทำหน้าที่ต่อศพท่านเท่านั้น ไม่มีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะคำโฆษณาประกาศเตือนอยู่เป็นพัก ๆ ก็ได้
หรืออาจเป็นเพราะมรรยาทของท่านผู้เห็นภัยและคุณในขณะนั้น
ก็ยากแก่การสันนิษฐาน
อัฐิท่านได้กลายเป็นพระธาตุในเวลาอันสั้น
อัฐิท่านที่ได้ทำการแจกจ่ายแก่ท่านที่มาในงาน ไปไว้เป็นที่
ระลึกสักการบูชาในที่ต่าง ๆ มีมากต่อมาก จึงไม่อาจทราบได้ว่า
ของท่านผู้ใดได้แปรสภาพจากเดิมหรือหาไม่ประการใดบ้าง แต่เมื่อ
ไม่นานมานี้ ได้มีท่านที่ได้รับแจกอัฐิท่านมาแล้ว อัฐินั้นได้กลายเป็น
พระธาตุสององค์ และได้เชิญไปให้ผู้เขียนดูที่วัดอย่างประจักษ์
หลังจากนั้นก็ได้ทราบจากหนังสือพิมพ์ “ศรีสัปดาห์” อีกว่า อัฐิ
ท่านได้กลายเป็นพระธาตุแล้วก็มี ที่ยังไม่กลายก็มีซึ่งอยู่ในผอบ
อันเดียวกัน จึงทำให้เกิดความอัศจรรย์ในคุณธรรมท่านว่า ท่าน
เป็นผู้บรรลุถึงแก่นธรรมโดยสมบูรณ์แล้ว ดังวงปฏิบัติเคยพากัน
คาดหมายท่านมาเป็นเวลานาน แต่ท่านมิได้พูดออกหน้าออกตา
เหมือนทางโลกปฏิบัติกัน เพราะเป็นเรื่องของธรรมซึ่งผู้ปฏิบัติธรรม
จะพึงสำรวมระวังให้อยู่ในความพอดี
ความผ่านพ้นทุกข์ทางใจของท่าน
กาลเวลาที่ท่านผ่านพ้นดงหนาป่ากิเลส และกองทุกข์ทางใจ
ทั้งมวลไปได้นั้น ท่านเล่าให้ผู้เขียนฟังเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๖ ว่า
ท่านผ่านไปแต่สมัยพักอยู่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ไม่ทราบว่าผ่านไปกี่ปี



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2012, 09:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5326


 ข้อมูลส่วนตัว


แล้ว ท่านจึงได้กลับไปจังหวัดสกลนคร จึงขอสรุปแต่ใจความว่า
ปี พ.ศ.๒๔๘๕ ที่ท่านไปจำพรรษาที่วัดสุทธาวาส สกลนคร จนถึง
พ.ศ.๒๕๑๓ อันเป็นปีท่านมรณภาพ ก็คงไม่น้อยกว่า ๒๘–๒๙ ปี
จึงพอจับใจความได้ว่า นับแต่วันจิตหลุดพ้นและครองขันธ์ด้วยใจที่
บริสุทธิ์ตลอดมาจนถึงวาระสุดท้าย นับว่านานพอสมควร ดังนั้น
การที่อัฐิท่านสามารถกลายเป็นพระธาตุได้อย่างรวดเร็วในภายใน
ไม่ถึงปีเต็ม จึงเป็นฐานะที่ควรเป็นได้ไม่มีทางสงสัย
เฉพาะจังหวัดเชียงใหม่เท่าที่ทราบมา มีพระอรหันต์
สมัยปัจจุบันอุบัติขึ้นที่นั่นถึง ๓ องค์ คือท่านพระอาจารย์มั่นซึ่ง
เป็นอาจารย์ของท่านทั้ง ๒ องค์นี้เป็นองค์แรก ท่านอาจารย์พรหม
และท่านอาจารย์…..ท่านยังมีชีวิตอยู่เป็นองค์ต่อมา ส่วนจังหวัด
อื่น ๆ ทางภาคอีสานเช่น จังหวัดสกลนคร เป็นต้น ก็มีพระ
ประเภทอัศจรรย์ได้ครองธรรมบริสุทธิ์ไม่ด้อยกว่าจังหวัดเชียงใหม่
เหมือนกัน นอกจากไม่มีใครทราบได้เท่านั้น เพราะท่านไม่เป็น
นักพูดนักโฆษณา ต่างท่านต่างรู้กันอยู่ในวงเฉพาะของนักปฏิบัติ
เท่านั้น สถานที่นั้นหมายถึงป่าและเขาแห่งจังหวัดนั้น ๆ ที่ท่าน
นักปฏิบัติไปอาศัยบำเพ็ญและได้บรรลุมรรคผลสมความมุ่งหมาย
อย่างเงียบ ๆ ไม่ค่อยมีใครทราบ ถ้าไม่นำเรื่องท่านมาเขียนไว้บ้าง
พอเป็นร่องรอย ศาสนธรรมก็จะปรากฏแต่ชื่อแต่นาม ส่วนตัวจริง
แท้จะไม่ปรากฏ จึงได้ตัดสินใจเขียนลงในท่ามกลางแห่งขวากหนาม
ซึ่งน่าจะไม่พ้นจากความทิ่มแทงที่เกิดจากความขัดข้องสงสัยใน
แง่ต่าง ๆ ดังที่เคยเป็นมา
การกล่าวทั้งนี้กล่าวด้วยความเชื่อสมรรถภาพของท่าน
นักปฏิบัติ ที่สามารถทำตนให้เป็นหลักจิตหลักธรรมอย่างมั่นคงและเชื่อถือตนได้อย่างตายใจหนึ่ง กล่าวด้วยความเชื่อสวากขาต
ธรรมที่ประทานไว้ว่า จะเป็นสวากขาตธรรมอยู่อย่างตายตัว ไม่มี
การเปลี่ยนแปลงไปตามสมัยนิยมแห่งสมมุติทั้งหลาย ที่แสน
ปลิ้นปล้อนหลอกลวงประจำตน ผู้เข้ายึดอาศัยไม่มีทางไว้ใจพอ
หายใจเต็มปอดตลอดมาหนึ่ง กล่าวทางภาคปฏิบัติ ปฏิเวธ อันเป็น
ทางแสดงออกแห่งผลของการปฏิบัติว่า ไม่เป็นโมฆะโดยเสียกำลัง
ไปเปล่า ไม่มีผลเป็นเครื่องสนองตอบแทนความเหนื่อยยากจาก
การปฏิบัติหนึ่ง
ท่านอาจารย์ที่กล่าวถึงเหล่านี้เป็นอาจารย์ที่ทรงมรรค
ข้อปฏิบัติด้วยศีล สมาธิ ปัญญาอย่างเต็มภูมิ ไม่มีทางต้องติ และ
เป็นอาจารย์ที่ควรทรงผลคือวิมุตติหลุดพ้นอย่างสมเหตุสมผล
ตามธรรมที่ประทานไว้จริงไม่ขัดแย้งกัน ท่านที่ยังเชื่อว่าธรรมยังเป็น
ธรรมอยู่ ท่านอาจารย์เหล่านี้ก็ควรเป็นผู้ทรงมรรคทรงผลด้วย
ข้อปฏิบัติตามนโยบายแห่งธรรม และอยู่ในข่ายแห่งปุญญักเขต
ได้อย่างไม่แคลงใจ ไม่ฝืนใจในการเขียนเรื่องท่านนำลงในหนังสือ
เล่มต่าง ๆ และไม่แสลงใจท่านผู้อ่านทั้งหลายดังกล่าวมา ที่
นอกเหนือไปจากนี้ท่านผู้ใดจะคิดเห็นอย่างไรนั้น ขอมอบให้เป็น
สิทธิของแต่ละรายโดยไม่ขอยื้อแย่งแบ่งส่วนด้วย เพราะธรรมมี
บอกไว้ว่า สัตว์มีกรรมและผลกรรมเป็นของตน คนอื่นจึงไม่ควร
เข้าไปเกี่ยวข้องแย่งชิง จะผิดกับกฎแห่งกรรมข้อนี้ที่ประกาศไว้อย่าง
ตายตัวมาแต่ดึกดำบรรพ์
ท่านอาจารย์องค์นี้ได้เคยพูดความขี้ขลาดไม่เป็นท่าของท่าน
ให้ผู้เขียนฟัง โดยกล่าวถึงสมัยบวชใหม่ และคราวไปพักอยู่ในภูเขา
จังหวัดเชียงใหม่ว่า คราวท่านบวชใหม่ยังไม่ได้พรรษา ท่านไปเที่ยววิเวกในภูเขาแถบอำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ขากลับจากเที่ยว
ท่านมาตามทางสายอำเภอนาแกที่ตรงไปจังหวัดสกลนคร ซึ่งแต่ก่อน
ไม่มีถนน แม้ทางล้อทางเกวียน และทางคนเดินเท้ารกรุงรังมาก
แทบมองไม่เห็นทาง เพราะระยะทางที่ห่างจากอำเภอนาแกมา
ประมาณสี่กิโลเมตร เป็นป่าดงกว้างใหญ่รกชัฏ ด้านยาวติดกับภูเขา
มีสัตว์เสือชุกชุมพอเรียกความหวาดกลัวจากคนขี้ขลาดได้ไม่ยากเลย
เผอิญพอท่านเดินทางมาถึงดงนั้นก็เป็นเวลาค่ำมืดพอดี
เทียนไขก็ไม่มีเหลือติดมาเลย ถ้าจะฝืนเดินทางต่อไปก็กลัวหลงทาง
เพราะแถบนั้นไม่มีบ้านคน ทั้งทางก็รกชัฏตีบตันปกคลุมไปด้วย
ป่าไม้ทั้งหลาย ไม่เหมือนทุกวันนี้ซึ่งไปที่ไหนเจอแต่บ้านและผู้คน
แม้ป่าดงดังกล่าวนี้ก็ได้กลายเป็นบ้านเรือนนาสวนไปหมดแล้ว จน
ไม่มีซากแห่งป่าเหลือหลออยู่บ้างเลย ท่านจึงตัดสินใจพักค้างคืน
ในดงนั้น โดยปลีกออกจากทางไปเพียงเล็กน้อยแล้วก็แขวนกลดกับ
กิ่งไม้ มือลูบคลำเก็บกวาดใบไม้แห้งแถบบริเวณที่พักนั้นมารวมกัน
พอเป็นที่นอนได้ เสร็จแล้วก็พักผ่อนและภาวนาต่อไป
เวลาประมาณสามทุ่ม ซึ่งเป็นขณะที่ท่านกำลังนั่งทำสมาธิ
ภาวนาอยู่ด้วยความหวาดระแวงเรื่องต่าง ๆ ขณะนั้นได้มีอีเก้ง
ตัวหนึ่งด้อม ๆ เข้ามาที่บริเวณที่พักโดยไม่รู้ตัว พออีเก้งโผล่หน้า
ออกมาก็มาเจอเอากลดกับมุ้งที่กางและลดลงไว้อย่างมิดชิดพอดี
เพราะความตื่นตกใจกลัวของสัตว์ที่มีนิสัยระแวงประจำตัวตลอด
เวลาอยู่แล้ว ก็ร้องขึ้นอย่างเต็มเสียง “เก้ก” คำเดียว พร้อมกับ
กระโดดชนป่า ศีรษะโดนต้นไม้โครมคราม ๆ ดังสนั่นไป ท่านเองก็
สะดุ้งตกใจสุดขีดจนเผลอตัวร้องออกมา “เอิ้กอ้าก” เช่นกัน อีเก้ง
ตื่นเสียงคนวิ่งหูตั้งตาถลนป่าเลิกไปในขณะเดียวกันพอได้สติ ท่านนึกอายความไม่เป็นท่า
ของตัว จนอดขบขันหัวเราะตัวเองไม่ได้ว่า พระทั้งองค์แท้ ๆ
ออกบวชด้วยความเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง แม้ตายที่ไหนก็ยอมแล้ว
ด้วยความปลงใจใฝ่ธรรม แต่ทำไมเพียงอีเก้งซึ่งเป็นสัตว์ป่าธรรมดา
มิใช่เสือ หมี ผี เปรตที่ควรจะน่ากลัว ทั้งมันก็วิ่งหนีตายจนสุดขีด
และร้องออกมาด้วยความกลัวเราแท้ ๆ เพราะความตกใจไร้สติ
แต่เราเองซึ่งเป็นคนและเป็นพระกรรมฐานทั้งองค์ยังตกใจกลัวมัน
แทบหัวใจหยุด ตายทิ้งเปล่า ๆ ไม่มีสติรั้งใจ ถึงกับปล่อยความ
ต่ำทรามชนิดขายตัวและพระศาสนาออกมา ให้มันได้ยินอย่าง
ถนัดชัดเจน จนมันวิ่งป่าเปิงไปไม่คิดชีวิต ถ้าอีเก้งตัวนี้มีความฉลาด
พอทราบได้ว่าพระเป็นเพศที่เชื่อกรรมและเสียสละ ไม่ขี้ขลาด
หวาดกลัวเหมือนพระกรรมฐานองค์กำลังแสดงความกลัวตายอย่าง
สุดขีดไม่มีสติอยู่กับตัวเวลานี้ มันคงนึกขบขันและกลับมาหัวเราะ
เยาะเย้ยเราจนอับอายไม่มีหน้าพระเหลืออยู่เลยเป็นแน่ แต่นี้มัน
เป็นสัตว์พอนำชีวิตผ่านไปได้ก็หมดปัญหากันไป ไม่สนใจว่าใครจะ
เป็นคนบ้าหรือคนดีอะไรต่อไป
คราวท่านพักอยู่ในภูเขา จังหวัดเชียงใหม่นั้น ท่านว่าเป็น
เรื่องธรรมดาไม่ติดใจในเหตุการณ์ คือตอนเย็นราวบ่ายห้าโมง ท่าน
ลงไปสรงน้ำในคลองลึกที่อยู่ตีนเขา ไม่ได้คิดนึกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
เวลานั้น เพราะท่านเคยไปทุกเย็น แต่เฉพาะเย็นวันนั้น พอท่าน
เดินลงไปตามคลองแคบและลึกชันมาก พอไปถึงตอนนั้นซึ่งเป็น
คลองคดเคี้ยวและชันมาก ท่านก็โผล่ออกไป เจ้าหมีใหญ่ตัวหนึ่ง
ก็โผล่ออกมาจ๊ะเอ๋กันอย่างจัง ๆ พอดี ขณะที่ต่างคนต่างเจอกัน
อย่างจัง ๆ ไม่มีทางหลบหลีก เจ้าหมีใหญ่ตกใจกลัวกระโดดขึ้นฝั่งคลองชัน ๆ แล้วตกลงมา กระโดดขึ้นตกลงมา ตกลงมา และ
พยายามโดดขึ้น ตกลงอยู่ถึงสี่ห้าครั้งก็ไม่สำเร็จ จึงได้สติวิ่งกลับคืน
ทางเก่าแล้วหายไป
ส่วนท่านเองขณะนั้นจะว่ากลัวก็พูดไม่ถูก จะว่าไม่กลัวก็
ผิดถนัด เพราะทั้งสองฝ่ายต่างตกตะลึงงงงันจนไม่มีสติรั้งใจด้วยกัน
ตลอดจนการแสดงต่อเหตุการณ์ของทั้งสองฝ่ายในขณะนั้น บ่งบอก
ด้วยความกลัวตายอย่างชัดเจนไม่สงสัย คือฝ่ายหมีก็กระโดดปีน
ขึ้นฝั่ง และปีนป่ายด้วยความกลัวเต็มประดา ฝ่ายท่านก็ยืนย่ำเท้า
อยู่บริเวณนั้นจนพื้นที่ที่เหยียบย่ำเหลวแหลกเป็นตมเป็นโคลนไป
หมด ราวกับเขาขยำดินเหนียวปั้นอิฐหรือทำภาชนะดินฉะนั้น
พร้อมกับพูดหลุดปากออกมาโดยไม่รู้สึกตัวว่า เอ้า ๆ ๆ ไม่หยุด
ปาก พอหมีใหญ่ตัวน่ารักน่าสงสารถึงใจวิ่งหนีไปแล้ว ท่านว่าท่าน
เลยเดินกลับที่พักด้วยความขบขันและสงสารหมีใหญ่ตัวแสนรู้แสนดี
นั้นเป็นกำลัง ท่านเองไม่ทราบว่าเหงื่อหรือยางตายออกมาเวลานั้น
เปียกมหาเปียกยิ่งกว่าลงอาบน้ำเป็นไหน ๆ
ท่านว่าที่ท่านไม่เดินเลยไปสรงน้ำแอ่งหินที่เคยสรงนั้น ท่าน
คิดว่า บางทีหมีใหญ่ตัวนั้นมันโดดและวิ่งเสียจนอ่อนเพลียแล้ว อาจ
ไปลงนอนแช่น้ำในแอ่งหินนั้นเพื่อบรรเทาก็ได้ เผื่อไปเจอกันเข้าอีก
กลัวเหตุการณ์จะไม่เป็นดังที่เคยเป็นมาแล้ว วันต่อไปท่านจึงไป
สรงน้ำที่นั่น ขณะเดินไปถึงที่ที่หมีกับคนจ๊ะเอ๋กัน จึงได้มีโอกาส
ตรวจดูสภาพของความกลัวตายประจำสัตว์โลก พอดูแล้ว ท่านว่า
ท่านอดหัวเราะออกมาคนเดียวไม่ได้ เพราะดูรอยหมีโดดปีน
ฝั่งคลองกับรอยท่านย่ำเท้าไปมานั้นราวกับรอยหมี ๑๐ ตัว และ
รอยพระกรรมฐาน ๑๐ องค์เล่นกีฬากัน บริเวณนั้นแหลกเป็นตมเป็นโคลนไปหมดไม่มีชิ้นดีเลย ดูแล้วทำให้หวาดเสียวและสงสารหมี
เป็นอารมณ์เครื่องระลึกเตือนใจอยู่จนกระทั่งวันท่านจากไป เพราะ
ขณะที่พักอยู่ท่านลงไปสรงน้ำทุกวัน และเห็นรอยคนและสัตว์
แสดงความกลัวตายทุกวัน ตามธรรมดาสัตว์พรรค์นี้โดยมากเมื่อเจอ
กันซึ่ง ๆ หน้า มันมักจะโดดมาตะปบและกัดคนให้เจ็บและเสียท่า
ก่อนแล้วจึงจะโดดหนีไป การเจอคนระหว่างหมีกับเสือ หมีร้ายกว่า
เสือ ต้องกัดคนก่อนแล้วจึงจะโดดหนีไป เสือถ้าถูกยิงเจ็บร้ายกว่า
หมี ฉะนั้นท่านจึงนึกหวาดกลัวในเหตุการณ์อยู่ไม่วาย แม้ไม่เป็น
อันตราย
ที่ได้พยายามตะเกียกตะกายเขียน ปฏิปทาพระกรรมฐาน
สายท่านพระอาจารย์มั่นมา ก็รู้สึกว่าเป็นภาระอันหนักสำหรับ
ผู้เขียนอยู่มาก แต่ความหนักนี้ก็ยังเป็นรองการเขียนประวัติท่าน
พระอาจารย์มั่น จึงพอมีเวลาหายใจได้บ้าง แม้จะเป็นภาระหนัก
ในการเขียน แต่ก็ได้พยายามจนสุดกำลังความสามารถเรื่อยมา
ดังท่านผู้อ่านทั้งหลายได้เห็นได้อ่านอยู่เวลานี้ ผิดถูกดีชั่วประการใด
จำต้องยอมรับคำติชมโดยไม่มีข้อแก้ตัว เพราะสุดกำลังจริง ๆ
ทั้งสองเรื่อง
พระกรรมฐานสายท่านพระอาจารย์มั่นนั้นมีมาก นับแต่
รุ่นหัวปี รุ่นกลาง รุ่นสุดท้าย และรุ่นหลานเหลน ที่ได้รับการอบรม
สืบทอดปฏิปทาสายเดียวกันมาจนปัจจุบัน แต่การเขียนปฏิปทานี้
ได้เคยเรียนไว้บ้างแล้วว่า ขอไม่ระบุนามท่านประกอบในปฏิปทาที่
ท่านดำเนิน เพราะเป็นความไม่สะดวกสำหรับผู้เขียนและองค์
ท่านเอง ดังที่เคยระบุนามท่านมาบ้างแล้วในเล่มประวัติฯ รู้สึก
เป็นความขัดข้องสำหรับท่านผู้เป็นเจ้าของเรื่องที่ผู้เขียนนำมาลงบางท่านเคยต่อว่าให้ผู้เขียนบ้างเหมือนกัน ซึ่งก็เห็นด้วยท่านและ
ยอมรับไม่ฝ่าฝืน คราวนี้จึงได้ระงับการระบุนามท่านเสีย เหลือแต่
ปฏิปทาคือข้อปฏิบัติซึ่งนำมาลงอยู่เวลานี้
การปฏิบัติของแต่ละองค์มีความหนักเบาไปในแง่แห่ง
ธรรมต่าง ๆ กัน องค์ที่หนักไปในแง่ใด เช่น อดนอน ผ่อนอาหาร
เป็นต้น ท่านก็เร่งดำเนินทางนั้นโดยสม่ำเสมอ จนเห็นผลประจักษ์
ใจโดยลำดับไม่มีการท้อถอยอ่อนแอ แต่ผลที่ได้รับจากวิธีนั้น ๆ
ย่อมเป็นความสงบสุขทางจิตใจ และเกิดสติปัญญาเป็นชั้น ๆ ซึ่ง
เป็นธรรมเครื่องหนุนจิตให้ถึงจุดหมายปลายทางเช่นเดียวกัน ดังนั้น
การปฏิบัติธรรมจึงสำคัญที่จริตนิสัยกับบทธรรมที่นำมากำกับเป็น
คำบริกรรมภาวนาไปตามขั้นเป็นราย ๆ ไป มิได้ขึ้นอยู่กับอาจารย์ผู้
ให้การอบรมสั่งสอนนัก ที่จะชี้ขาดลงแต่ผู้เดียว แล้วมอบธรรมบท
เดียวบาทเดียวกันแก่คณะศิษย์เป็นจำนวนมากไปปฏิบัติภาวนา
โดยไม่คำนึงจริตนิสัยของศิษย์เป็นราย ๆ ไป เพราะจะทำให้ขัดต่อ
จริตของศิษย์รายที่ไม่ถูกกับธรรมบทนั้นบาทนั้น แล้วจะไม่เกิดผล
เท่าที่ควร
อาจารย์เป็นเพียงคอยแนะแนวทางให้ หลังจากอธิบายธรรม
หลายบทหลายหมวดให้ฟัง และผู้มาศึกษาอบรมเลือกนำไปปฏิบัติ
จนปรากฏผลมาเล่าให้ฟัง ตอนใดที่เห็นว่าจะควรแก้ไขหรือเพิ่มเติม
อย่างไร ก็ชี้แจงให้ฟังเป็นราย ๆ ไป มิใช่ผู้ชี้ขาดในการมอบ
บทธรรมให้ศิษย์โดยถ่ายเดียว นอกจากอาจารย์เป็นผู้เชี่ยวชาญ
ในธรรมปฏิบัติและฉลาดรู้ ปรจิตตวิชชา คือสามารถรู้อุปนิสัย
และวาระจิตของผู้อื่น พร้อมกับอุบายแห่งการสั่งสอนได้อย่าง
คล่องแคล่วว่องไวเท่านั้น จึงจะสามารถชี้ขาดได้ตามความรู้เห็นอันถูกต้องของตน แต่สมัยนี้จะมีใครบ้างที่สามารถฉลาดรู้ได้ในธรรม
ดังกล่าวนี้ รู้สึกจะหายากยิ่งกว่าเพชรนิลจินดาเป็นไหน ๆ
เพียงจะปฏิบัติตนให้รู้ถึงเหตุถึงผลของกิเลสที่เกิดมีอยู่กับ
ใจแต่ละราย จนสามารถถอดถอนออกได้ประจักษ์ใจ แล้วนำมา
สั่งสอนคนอื่นด้วยความถูกต้องแม่นยำก็ยังหายาก จนแทบจะกล่าว
ตู่พระพุทธศาสนาว่าเป็นโมฆะหาสาระมิได้อยู่แล้ว ทั้งที่พุทธศาสนา
เป็นสถาบันรับรองมรรคผลนิพพาน มาแต่องค์พระศาสดาแรกเริ่ม
ตรัสรู้ ตลอดมาจนปัจจุบันวันนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ในบรรดาพุทธบริษัท
จะมีใครบ้างหรือไม่ที่ทรงไว้ซึ่งปรจิตตวิชชา สามารถรู้อุปนิสัยและ
วาระจิตของผู้อื่น พอจะกล้ายืนยันสั่งสอนด้วยธรรมเพียงบทเดียว
บาทเดียว โดยข้อยืนยันทางภายในของตน และทำให้บรรดาศิษย์
จำนวนมากมายได้รับผลเป็นที่พึงใจไปโดยลำดับ จนสามารถบรรลุ
ถึงที่สุดแห่งธรรมได้ โดยไม่มีการยักย้ายเปลี่ยนแปลงธรรมไป
ตามภูมิจิตภูมิธรรม และความเปลี่ยนแปลงของกิเลสอาสวะ ซึ่ง
เต็มไปด้วยความสลับซับซ้อนยิ่งกว่าตามรอยโคในคอกเป็นร้อยเท่า
พันทวี นอกจากจะสั่งสอนด้วยพลการในฐานะที่เขายกย่องว่าเป็น
อาจารย์มากกว่าความมีคุณธรรมภาคปฏิบัติภายในใจ
ผู้เขียนจึงไม่แน่ใจนักเลยในการสั่งสอนด้วยธรรมบทเดียว
บาทเดียว เพราะตัวเองก็เป็นพระประเภทล้มลุกคลุกคลานมา
ประจำฐานะและนิสัยอยู่แล้ว แต่เมื่อมีท่านผู้ฝักใฝ่ใคร่ธรรมมาศึกษา
ไต่ถามก็เรียนตอบไปแบบมือหนึ่งจับงู อีกมือหนึ่งจับปลาอย่างนั้น
เอง เพื่อผู้ศึกษาจะได้เลือกถือเอาตามอัธยาศัยไม่ขัดต่อจริต ถ้าจับ
เพียงมือเดียวเผื่อถูกมือที่จับปลาก็ดีมีประโยชน์แก่ตนและผู้อื่น
อยู่บ้าง เผื่อไปถูกมือที่จับงูเข้าก็จะเป็นภัยแก่ผู้มาศึกษาไม่มีประมาณ คือใครมาหาเพื่อรับการอบรมก็สอนแต่ธรรมบทเดียวบาท
เดียวดะไปเลย ราวกับศาสนามีธรรมสอนโลกเพียงเท่านั้น ทั้งที่
ศาสดาและสาวกทั้งมวลมิได้สำเร็จจากธรรมบทเดียวบาทเดียว แต่
สำเร็จด้วยธรรมแง่ต่าง ๆ กี่ร้อยกี่พันนัยและทรงสั่งสอนและสั่งสอน
โลก ด้วยธรรมที่นับพอประมาณที่สัตว์โลกจะพึงรับได้ แต่รู้สึก
น้อยมากสำหรับความรู้ความฉลาดแห่งภูมิของพระพุทธเจ้าผู้เป็น
จอมศาสดาของโลก
การปฏิบัติและอุบายแห่งการสั่งสอนลูกศิษย์
ของท่านพระอาจารย์มั่น
หนังสือนี้จวนจะสิ้นสุด จึงขอนำวิธีที่ท่านพระอาจารย์มั่น
ปฏิบัติทางจิตตภาวนาและอุบายวิธีสั่งสอนลูกศิษย์ผู้เข้าไปรับ
การอบรมกับท่าน มาลงไว้พอเป็นแนวทางเล็กน้อย คล้ายทำนอง
สรุปความ แต่จะเขียนปฏิปทาการดำเนินของท่านโดยเฉพาะก่อน
จึงจะเขียนวิธีการที่ท่านสั่งสอนสานุศิษย์ในวาระต่อไป การเขียน
คราวนี้จะไม่ระบุกาลสถานที่ที่ท่านบำเพ็ญและได้รับผลนั้น ๆ
ลงอีก เพราะเคยเขียนลงแล้วในเล่มประวัติท่าน จะเขียนเฉพาะวิธี
ปฏิบัติจิตตภาวนาของท่านอย่างเดียว เรื่องภายนอก เช่น เปรต ผี
เทวบุตรเทวดา นาค ครุฑ อะไร ๆ จะไม่เกี่ยวข้องอีกดังที่เคยเขียน
มาแล้ว
จิตท่านพระอาจารย์มั่นเป็นจิตที่ผาดโผน และรวดเร็ว
ต่อเหตุการณ์ที่มาเกี่ยวข้องมากผิดธรรมดา การภาวนาเบื้องต้นท่าน
ใช้พุทโธเป็นบทบริกรรม พอจิตสงบรวมลงแล้วปรากฏภาพนิมิต ซึ่ง
เป็นองค์ท่านเองออกไปตายอยู่ต่อหน้าบ้าง เป็นซากผีมาตายอยู่ต่อหน้าบ้าง ดังที่เคยเขียนผ่านมาแล้วในประวัติท่าน ท่านจึง
กำหนดนิมิตที่ปรากฏนั้น ๆ เป็นองค์พยานแห่งการภาวนาต่อไป
โดยกำหนดเป็นของปฏิกูลด้วยวิธีต่าง ๆ ตามแต่ความแยบคาย
ของสติปัญญาจะหนักไปในทางใด กำหนดให้แตกสลายลงไปเหลือ
แต่โครงกระดูกล้วนๆ บ้าง กำหนดให้โครงกระดูกหลุดจากกัน
ตกเรี่ยราดอยู่เฉพาะหน้าบ้าง กำหนดเก็บกวาดกระดูกนั้น ๆ มา
รวมกันเป็นกองเดียว แล้วกำหนดไฟเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านลงใน
ขณะนั้นบ้าง
ทั้งซากผีตายและซากองค์ท่านตายเป็นภาพนิมิตอยู่เฉพาะ
หน้า ท่านกำหนดโดยวิธีเดียวกัน เป็นแต่ต่างวาระกันไปตามความ
สะดวกของการพิจารณาในเวลานั้น ๆ เท่านั้น หลังจากกำหนดไฟ
เผากระดูกจนละเอียดเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว จิตท่านรวมลงถึงฐาน
แห่งสมาธิอย่างเต็มภูมิ และพักอยู่นานเป็นชั่วโมง ๆ จึงถอนขึ้นมา
พอจิตถอนขึ้นมาแล้วก็กำหนดต่อไป ท่านว่านับแต่วันที่จิตปรากฏ
ภาพนิมิตและกำหนดให้เป็นต่างๆ ได้ตามต้องการ ตลอดการ
เผาผลาญซากนั้น ๆ ลงได้ประจักษ์ใจทุกเวลาที่ต้องการแล้ว ไม่ว่า
ยืน เดิน นั่ง นอน หรืออยู่ในท่าใด ๆ ท่านกำหนดเอาซากศพ
ที่กำหนดให้เป็นโครงกระดูกติดแนบอยู่กับตัวท่านทุกเวลาไป เว้น
เฉพาะเวลาพิจารณาซากศพนั้นด้วยวิธีต่าง ๆ แล้วจิตรวมลงเป็น
สมาธิพักอยู่โดยลำพัง จึงไม่สนใจกับอะไรในขณะนั้น
กำลังจิตท่านเริ่มก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัดและได้หลักสมาธิ
มั่นคง ก็เพราะได้นิมิตเป็นหินลับสติปัญญาอยู่โดยสม่ำเสมอ
จนสามารถน้อมโครงกระดูกแห่งนิมิตภาพให้เข้าอยู่กับตัว ตัวกับ
โครงกระดูกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จนปราศจากความสงสัยว่า


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2012, 09:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5326


 ข้อมูลส่วนตัว


โครงกระดูกนี้เป็นมาจากไหน ใครมาเป็นโครงกระดูกนี้ แล้วท่านจึง
ปล่อยการกำหนดโดยลักษณะนั้นเสีย เพราะเมื่อภาพนิมิตกลับมา
เป็นองค์ท่านเสียเองแล้ว การส่งจิตไปกำหนดภาพภายนอกจึง
ไม่จำเป็นนับแต่ขณะนั้นมา จากนั้นท่านกำหนดถือเอากายท่านเป็น
ที่ตั้งแห่งการพิจารณา ตามแต่ความถนัดและความแยบคายของ
สติปัญญา จะพิจารณากายให้เป็นไปในลักษณะใด ก็กำหนดเอา
ตามต้องการ ตอนนี้ท่านว่าสมาธิรู้สึกแน่นหนามั่นคงมาก เพราะ
อาศัยการพิจารณากายด้วยปัญญา จนจิตพักรวมลงเป็นสมาธิได้
อย่างง่ายดาย
คำบริกรรมภาวนาพุทโธที่เคยกำกับจิตมาดั้งเดิม ก็เริ่ม
ปล่อยวางนับแต่วันปรากฏภาพนิมิตนั้นโดยชัดเจนแล้ว ท่านยึด
นิมิตกับคำบริกรรมว่าอัฐิ ๆ เป็นอารมณ์ของใจแทนพุทโธ มีแต่
การกำหนดและพิจารณาโดยความตั้งขึ้นแปรสภาพไปแตกไปแห่ง
กายอยู่ทุกอิริยาบถ เว้นแต่ขณะหลับเท่านั้น จนร่างกายท่านเอง
แม้มีอยู่ก็ได้กลายเป็นอากาศธาตุไปด้วยการพิจารณา จิตว่างเปล่า
จากวัตถุมีกายเป็นต้น เพราะอำนาจแห่งสติปัญญาที่พิจารณา
ไม่ลดละปล่อยวาง สมาธิทุกขั้นก็ชำนาญ วิปัสสนาขั้นรูปธรรมก็
ชำนาญและรวดเร็วทันใจ ท่านว่าวิปัสสนาขั้นนี้ทำจิตให้สว่างไสว
มากน่าอัศจรรย์ ถ้าเป็นความสะเพร่าคอยหาแต่ความสุขสบาย
ไม่ตระหนักในปัญญา คงจะติดจมอยู่กับความว่างเปล่านี้โดยไม่รู้ตัว
ด้วยความเข้าใจว่านิพพานอย่างแน่นอน เพราะความเคยได้ยิน
จนฝังใจว่านิพพานคือความว่างเปล่านั่นเอง แต่หาทราบไม่ว่า
นิพพานนั้นว่างเปล่าในลักษณะใด เฉพาะความว่างเปล่าที่ปรากฏ
อยู่ขณะนี้มีอะไรแฝงอยู่บ้าง นั่นคือตัวกิเลสส่วนลึกลับของใจเราดี ๆ นี่เอง จะเป็นความว่างแห่งนิพพานมาแต่ที่ไหนกัน
แต่ก่อนจะผ่านรูปธรรมคือกายทั้งภายในภายนอกไปได้
ด้วยการพิจารณาโดยวิธีต่าง ๆ สติปัญญาต้องหมุนตัวอยู่กับ
กายแทบทุกเวลา นอกจากจิตผู้ทำการขุดค้นจนอ่อนเพลียเพราะ
การทำงานมากไป ก็เข้าพักสงบในสมาธิเสียชั่วระยะหนึ่ง พอ
ถอนออกมาและมีกำลังแล้ว ก็ทำการพิจารณาคลี่คลายร่างกาย
อีกต่อไป โดยถือหลักไตรลักษณ์เป็นทางเดิน เพราะกายเป็น
สิ่งสำคัญในวงปฏิบัติ ผู้พิจารณากายได้ละเอียดคล่องแคล่ว
เพียงไร ย่อมเป็นผู้องอาจกล้าหาญต่อปฏิปทาเครื่องดำเนินของตน
เพียงนั้น เนื่องจากกายเป็นรวงรังของราคะตัณหามานะทิฐิส่วน
หยาบ ๆ ทั้งหลาย ที่อาศัยอยู่อย่างเปิดเผยและออกหน้าออกตา
บางรายถึงกับลืมตัวปล่อยให้แสดงออกมาอย่างหยาบโลน แม้ผู้มี
กิเลสด้วยกันก็ทนดูไม่ได้ จนเกิดความสลดสังเวชเอือมระอาไป
ตาม ๆ กัน
ด้วยเหตุดังกล่าวมา นักปฏิบัติผู้มุ่งทำลายกิเลสด้วยใจจริง
จำต้องสนใจต่อกายวิภาค จนเกิดความชำนิชำนาญและตัดราคะ
ตัณหาไปได้ประจักษ์ใจเป็นทอด ๆ เพราะกิเลสมานะทิฐิประเภท
แสลงแทงใจตนและผู้อื่น มากกว่ากิเลสชนิดอื่น ๆ นั้น มักเป็น
กิเลสปากคอกที่คอยแสดงออกอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาศัยอุปาทาน
ความยึดถือกายเป็นสำคัญ ท่านจึงสอนให้พิจารณากายคตาสติใน
สติปัฏฐานสี่ และอริยสัจสี่อันเป็นธรรมสำคัญในวงศาสนาให้มาก
จนหายสงสัย แล้วผ่านไปอย่างหมดเยื่อใย ท่านอาจารย์มั่นท่าน
ชำนาญคล่องแคล่วในกายานุปัสสนาสติปัฏฐานมาก ท่านจึง
แตกฉานในธรรมทั้งหลายทั้งภายในภายนอกผิดนักปฏิบัติทั้งหลายท่านว่าขณะที่ผ่านกายคตาไปได้แล้ว กามราคะก็หมดปัญหา
ไปในขณะเดียวกัน โดยไม่จำต้องถามใครให้เสียเวลา และแสดง
ความโง่งมงายของตนให้ผู้อื่นหัวเราะเปล่า ๆ เพราะเป็นของมีอยู่
กับตัวและสิ้นไปจากตัวคนเดียวกัน ด้วยความรอบคอบแห่งสติ
ปัญญาขั้นนี้ เพียงขั้นราคะตัณหาตายหายซากไปจากใจก็เป็น
อยู่สบาย ทรงตัวได้ ไม่เดือดร้อน เพราะราคะตัณหาประเภทกิน
ไม่รู้จักอิ่มพอรบรวนกวนใจ กระซิบยุแหย่แผ่อำนาจบนหัวใจ ทำให้
เป็นคนขี้ขลาดหวาดกลัวท้อแท้อ่อนแอต่อทางดำเนินเพื่อมรรคผล
นิพพาน ที่มีอยู่ในวงสัจธรรมและสติปัฏฐาน อันผู้ปฏิบัติจะพึงบรรลุ
ได้ด้วยความเพียร
ก่อนกายจะหมดปัญหาในการพิจารณา ท่านว่ากายที่เรา
พิจารณาด้วยวิธีต่าง ๆ นั้น ได้รวมตัวเข้าสู่ใจดวงเดียว สังขาร
ทั้งฝ่ายสมุทัยที่คิดว่าร่างกายเป็นของสวยของงามน่ารักใคร่
ชอบใจมาดั้งเดิม และสังขารซึ่งเป็นฝ่ายมรรคที่คิดปรุงว่าร่างกาย
เป็นปฏิกูลน่าเกลียด เป็นอนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา ย่อมระงับตัวลง
ในขณะเดียวกันกับร่างกายภาพที่รวมตัวเข้าสู่ใจ สุภะความสวยงาม
และอสุภะความไม่สวยงามจึงแยกตัวออก ปล่อยเป็นทางเดินของใจ
ที่ก้าวผ่านไปในระหว่างแห่งธรรมทั้งสองนั้นอย่างหมดเยื่อใย ไม่มี
นิมิตใดติดตามไปหลอกลวงว่าสวยงามและน่าเกลียดอีกต่อไป
พิจารณาทีไรก็เห็นแต่จิตเป็นผู้แสดงกิริยาเป็นภาพอยู่ภายใน แล้ว
ก็ดับไปอยู่เพียงเท่านั้น จากนั้นก็เป็นจิตว่างเปล่าจากวัตถุต่าง ๆ
ทั้งร่างกายที่มีอยู่กับตัวและวัตถุต่าง ๆ ภายนอกที่มีอยู่ทั่วไป ไม่มี
อะไรเป็นนิมิตเครื่องหมายว่าเป็นสุภะและอสุภะอีกดังที่เคยเป็นมา
มีแต่ความสว่างไสว และเป็นจิตว่างจากสิ่งทั้งหลายอยู่ทั้งดวงและหมุนตัวอยู่ด้วยความใคร่ครวญโดยสติปัญญาเป็นเครื่องจักร
ผู้พาเดิน ลำดับต่อไปสิ่งที่เป็นเป้าหมายแห่งสติปัญญาที่จะทำหน้าที่
ต่อไปก็คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันเป็นธรรมที่เกิด
กับดับพร้อมอยู่กับใจ และอวิชชาซึ่งเป็นตัวเดิมแห่งกิเลสทั้งหลาย
การพิจารณาปัจจยาการของท่านพระอาจารย์มั่น
ท่านว่าปัจจยาการมีแยกเป็นสองนัย คือที่แสดงไว้ในตำรา
นั้น ท่านแสดงเป็นความเกี่ยวโยงแห่งความเจริญของอวิชชา หนึ่ง
แสดงความดับไปโดยลำดับแห่งอวิชชาจนไม่เหลือหลอ หนึ่ง ถ้า
เทียบก็เหมือนแบบแปลนแผนผังของบ้านเรือนที่ผู้จะปลูกบ้านสร้าง
อาคารใด ๆ จำต้องทำตามแปลนที่นายช่างทำเป็นแบบไว้แล้ว จน
สำเร็จรูปเป็นบ้านเรือนขึ้นมา แม้การรื้อถอนบ้านเรือนจะไม่มีแปลน
บอกไว้เหมือนวิธีการดับอวิชชาก็ตาม แต่ผู้รื้อถอนก็ย่อมคำนึงถึงวิธี
การรื้อถอนด้วยสติปัญญาอันเป็นธรรมคู่ควรแก่เหตุผลด้วยดีก่อน
ทำการ
อวิชชาในตำราเป็นเพียงความบอกเล่าว่า อวิชชาเป็นปัจจัย
ให้เกิดสังขาร สังขารเป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ จนถึง สมฺภวนฺติ
เป็นฝ่ายสมุทัยล้วน ๆ และการดับอวิชชาเพียงอันเดียว สังขาร
วิญญาณ นามรูป ฯ ย่อมดับไปตาม ๆ กัน ไม่มีกิเลสตัวใด
เหลืออยู่พอจะเป็นเชื้อแห่งภพชาติต่อไป อันเป็นฝ่ายนิโรธ ดังบท
สุดท้ายแห่งอวิชชาว่า นิรุชฺฌนฺติ ทั้งฝ่ายส่งเสริมอวิชชาให้ติดต่อ
ก่อแขนงกลายเป็นภพชาติ เป็นสัตว์เป็นบุคคล จนถึงความชรา
คร่ำคร่าและสลายไปในที่สุด ทั้งฝ่ายบำราบปราบปรามอวิชชาให้
สิ้นไปจากใจ หมดการต่อภพต่อชาติ ดังท่านที่ทำพระนิพพานให้แจ้งด้วยการดับอวิชชามีพระพุทธเจ้าเป็นต้น
ทั้งสองนัยนี้ท่านแสดงเรื่องหรือโครงร่างความเป็นไปของ
อวิชชา และการดับอวิชชาไว้เท่านั้น มิได้แสดงวิธีส่งเสริมอวิชชา
ว่าทำอย่างไร อวิชชาจึงมีกำลังกำเริบถึงกับพาสัตว์ให้เกิดตายไม่มีที่
สิ้นสุดไว้ และมิได้แสดงวิธีการระงับดับอวิชชาว่าทำอย่างไร อวิชชา
จึงถูกตัดกำลังลงโดยลำดับ จนดับไปจากใจโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถ
ทำใจที่อวิชชาไปปราศแล้วให้เกิดตายต่อไปอีกได้ ในปัจจยาการ
ที่แสดงไว้ก็มีเพียงเท่านี้ท่านว่า
ผู้ปฏิบัติเพื่อกำจัดอวิชชาให้สิ้นไป จำต้องยึดอริยสัจสี่หรือ
สติปัฏฐานสี่อันเป็นที่รวมแห่งอวิชชาเป็นทางดำเนิน ท่านเองว่า
เมื่อจิตก้าวขึ้นสู่ความว่างเปล่าจากรูปธรรมทั้งหลายแล้ว ก็มีแต่
ตามติดสังขารความปรุงของใจกับวิญญาณที่สัมผัสรับรู้จากสิ่งต่าง ๆ
และเวทนาจิตที่แสดงผลให้ปรากฏจากการปรุงการรับรู้ทางวิญญาณ
ด้วยสติกับปัญญาที่มีอยู่ในที่แห่งเดียวกันเท่านั้น เพราะสังขารก็
ปรุงจากจิต วิญญาณก็รับทราบจากจิต ต่างก็ดับลงที่จิต เมื่อสติ
ตามทันปัญญาค้นพบสาเหตุและวิพากษ์คลี่คลายทันกับเหตุการณ์
สิ่งเหล่านั้นย่อมกำเริบรุนแรงไปไม่ได้ การตามรู้สังขารวิญญาณว่า
ปรุงเรื่องอะไร รับทราบเรื่องอะไร เพียงเท่านั้นยังไม่สากับใจที่มีสติ
ปัญญาอัตโนมัติเป็นพี่เลี้ยงอยู่ตลอดเวลาไม่เผลอตัว ยังสามารถ
ขุดค้นลงถึงต้นตอที่เกิดแห่งสังขารและวิญญาณอีกว่าเกิดมาจาก
ที่ไหน อะไรเป็นเครื่องผลักดันให้เกิดอยู่ไม่หยุดไม่ถอย ตัวที่ผลักดัน
นี้คือตัวอวิชชาแท้
การพิจารณาอวิชชาเพื่อถอนรากถอนโคนจริง ๆ จึงอยู่
ที่ตรงนี้ คือ ขุดค้นลงที่ใจอันเป็นเรือนรังของอวิชชาฝังจมอยู่นั่นแล จึงเห็นตัวอวิชชาแตกกระจายสลายตัวลงในขณะที่
มหาสติมหาปัญญาเข้าถึงตัว นี้คือการพิจารณาอวิชชาแท้ และ
คือวิธีการถอดถอนอวิชชาออกจากใจตามทางมรรคทางผลที่
พระศาสดาทรงสั่งสอนไว้แท้ ไม่เพียงไปอ่านแต่แบบแผนตำรับ
ตำราแล้วก็มาถกเถียงกันจนตาดำตาแดงหาที่สิ้นสุดยุติมิได้ พอ
ให้อวิชชารำคาญและหัวเราะเปล่า ๆ โดยไม่มีกิเลสแม้ตัวเดียว
ที่ถูกกระทบกระเทือนจากการถกเถียงกันพอผิวถลอกปอกเปิก
ไปบ้างเลย เราเป็นชาวพุทธที่มีศาสดาองค์เอกเป็นครูสั่งสอน จึง
ควรมีเหตุมีผลเป็นเครื่องตามเสด็จบ้าง อย่ามีแต่ทิฐิมานะความรู้
ความเห็นดิ่งลงไปถ่ายเดียว ทำนองกิเลสบาปธรรมทั้งหลายอยู่
ในตำรา แล้วก็มาถกเถียงกันแทนการแก้กิเลส สิ่งที่ได้รับจึงมักมี
แต่ลมปากไม่มีเนื้อมีหนังติดมือมาบ้างเลย ถ้าเป็นทำนองนี้เรียน
มากเท่าไรรู้มากเท่าไร ขึ้นเวทีโต้เถียงจัดเจนเพียงไร ก็ยิ่งเหลวไป
เพียงนั้น ไม่มีอะไรเป็นเครื่องหมายของปราชญ์ตามทางศาสดาและ
ศาสนธรรมเลย
อวิชชาตัณหาจริง ๆ มันอยู่ที่ใจ สร้างโครงร่างขึ้นที่ใจคนใจ
สัตว์ และทำการระงับดับลงที่ใจเรานี่เท่านั้น ไม่มีที่อื่นเป็นที่เกิด
และสร้างโครงร่างตลอดความดับของอวิชชาตัณหาทั้งมวล ขณะ
อวิชชาดับลงอย่างราบคาบแล้วนั่นแล จึงเห็นความโง่ความหลง
งมงายของตัวของมนุษย์และของสัตว์ทั้งหลาย ที่อยู่ใต้อำนาจแห่ง
ความบังคับทรมานของมัน ว่าแสนโง่แสนลำบากตลอดกาล แม้จะ
มีความสุขบ้างก็ชั่วขณะราวฟ้าแลบเท่านั้น แต่สัตว์โลกก็หลงพอใจ
กันและอยู่กันอย่างเพลิดเพลิน ไม่คิดถึงภัยว่าจะมีแก่ตัวหนักเบา
มากน้อยเพียงไรคน ๆ เดียวกัน จิตดวงเดียวกัน เมื่อถูกขัดเกลาด้วยดี
จนเต็มภูมิแล้ว ย่อมผิดกันอยู่มากยิ่งกว่าฟ้ากับดิน จิตที่พ้นจาก
อำนาจอวิชชานั้นเป็นจิตที่ไม่อยู่ในขอบเขตแห่งข้อบังคับของสิ่งใด
ในโลกสมมุติ เป็นจิตที่ทรงอิสระสุดส่วน เกินความคาดหมายที่จะ
ด้นเดาได้ถูก นั่นแลที่ท่านเรียกว่าแดนแห่งความเกษมสำราญ เป็น
ภูมิของท่านผู้ทรงอำนาจเหนือสมมุติทรงไว้และเสวยกัน ถ้าอยากรู้
อยากเห็นก็อย่าพากันขี้เกียจอันเป็นเหยื่อล่อของกิเลสตัณหาอวิชชา
ทั้งมวล เราเป็นภิกษุบริษัทที่พร้อมแล้วทุกอย่าง จงพากันตื่นตัว
อย่ามัวเอากิเลสออกอวดกัน ด้วยอากัปกิริยาที่ขัดต่อธรรมเครื่อง
นำออกจากกองทุกข์ จะเสียชาติที่เกิดซึ่งเป็นภาชนะที่เหมาะแก่
ศาสนธรรมอยู่แล้ว ในชาติและเพศที่เป็นอยู่ขณะนี้
พอท่านแสดงอวิชชาจบลง แทนที่จะเมตตาฝากของดี
แห่งผลที่เกิดจากการถอดถอนอวิชชาคือวิชชาวิมุตติให้เพียงเท่านั้น
ยังเมตตาฝากธรรมเผ็ดร้อนแก่บรรดาศิษย์ให้เป็นที่ระลึกไม่ลืม
อีกวาระหนึ่ง ทำให้จดจำได้ดี ดังที่นำมาเขียนให้ท่านผู้อ่านทั้งหลาย
ได้อ่านอยู่ขณะนี้ ปกตินิสัยท่าน ถ้าลงได้พูดธรรมขั้นสูง กิริยา
ท่าทางต้องแสดงความเข้มข้นออกมาตามธรรมขั้นนั้น ๆ จนผู้ฟัง
ที่ยังไม่เคยชินต่อนิสัยท่านต้องตกใจกลัวในเวลานั้น โดยคิดว่าท่าน
ดุด่าเฆี่ยนตีด้วยวาทะ ความจริงเพราะอำนาจแห่งธรรมเป็นพลัง
สามารถยังกิริยาท่านให้แสดงออกในลักษณะนั้นต่างหาก พอแสดง
ธรรมจบลงกิริยาก็เป็นปกติทันทีราวกับไม่เคยแสดงอย่างนั้นมาก่อน
เลย บางครั้งยังมีความขบขันและเสียงหัวเราะแทรกออกมากับกิริยา
เผ็ดร้อนนั้นด้วยก็มี จึงไม่มีใครสามารถดูนิสัยท่านออกเป็น
ความจริงได้เลยการอธิบายอวิชชาของท่านก็ทำนองที่นำมาลงให้ท่าน
ได้อ่านอยู่เวลานี้ ส่วนความหลุดพ้นจากอวิชชาตามที่ท่านเล่าให้ฟัง
รู้สึกกว้างขวางพิสดารจับใจอย่างยิ่ง แต่นำมาลงเฉพาะเนื้อความ
ที่เห็นว่าเหมาะกับเรา ๆ ท่าน ๆ ที่อยู่ในฐานะแห่งการศึกษา ถ้า
ลึกมากนักก็อาจไม่เข้าใจ การอ่านก็เสียเวลาไปเปล่า ไม่ค่อยเกิด
ประโยชน์เท่าที่ควร
การอบรมสั่งสอนของท่านไม่มีตารางสอน ไม่มีแผนผัง
ไม่มีหลักสูตร ไม่มีหลักวิชาแน่นอนตายตัวว่า เวลานั้นสอน
หลักสูตรนั้น เวลานั้นสอนวิชานั้น กลุ่มนี้ต้องสอนสูตรนี้ คณะนี้
ต้องสอนวิชานี้ เวลานั้นฝึกแบบนั้น เวลานั้นฝึกแบบนี้ เวลานั้น
ฝึกกายกรรม เวลานั้นฝึกวจีกรรม เวลาโน้นฝึกมโนกรรม เวลานั้น
ออกกำลังด้วยท่าต่าง ๆ ดังที่โลกฝึกทำกัน แต่ท่านถือธรรมวินัยที่
เป็นหลักตายตัวอยู่แล้วเป็นแบบฝึกหัดอบรมสานุศิษย์ แล้วแต่ท่าน
ผู้ใดชอบธรรมบทใด ก็นำธรรมบทนั้นไปปฏิบัติตามอัธยาศัย ใครมา
เรียนถามตามภูมิจิตภูมิธรรมที่ปรากฏจากจิตตภาวนาของตน ท่าน
ก็อธิบายให้ฟังเป็นตอน ๆ และเป็นราย ๆ ไป โดยไม่อัดไม่อั้นใน
การสงเคราะห์ด้วยอรรถธรรมภายในใจ นอกจากไม่มีผู้มาศึกษา
เมื่อถึงวันประชุมอบรมพระเณร ท่านแสดงธรรมทางภาค
ปฏิบัติเป็นกลาง ๆ เริ่มแต่ธรรมขั้นต่ำคือวิธีฝึกอบรมสมาธิขึ้นไป
โดยลำดับ เพื่อผู้ฟังที่มีภูมิต่างกันจะได้รับประโยชน์จากการอบรม
โดยทั่วถึง การถามปัญหาก็ไม่มีจำกัด ตามแต่ผู้มาอบรมจะมีธรรม
ข้อข้องใจสงสัยในแง่ใด โดยไม่นิยมว่าเป็นความรู้เกี่ยวกับภายนอก
เช่น เปรตผี เทวบุตรเทวดา เป็นต้น หรือภายในเกี่ยวกับสมาธิหรือ
ปัญญาขั้นใด ท่านย่อมชี้แจงให้ฟังเป็นเรื่อง ๆ และเป็นราย ๆไปตามโอกาสที่ควร ผู้เขียนจึงรู้สึกเสียดายที่ท่านผู้อ่านทั้งหลาย
ไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ชิดสนิทองค์ท่านเมื่อเวลาท่านยังมีชีวิตอยู่
จะได้พบเห็นท่านประจักษ์ตาและฟังธรรมท่านอย่างถึงใจหายสงสัย
ไม่ต้องมาลังเลคาดเดาภาพและกิริยาอาการท่านในลักษณะต่าง ๆ
ดังที่เป็นอยู่เวลานี้
เพราะคนเราโดยมากมีความรู้สึกคล้ายคลึงกัน และมีเหตุผล
เป็นที่รับฟังและยินยอม เมื่อได้ฟังธรรมท่านทั้งภายนอกภายในที่
เต็มไปด้วยเหตุผลและน่าฟังน่าเชื่อ ย่อมจะไม่มีท่านผู้ใดกล้าฝืนใจ
ไปเชื่อความคาดคะเนด้นเดา ที่ไม่มีเหตุผลแฝงอยู่บ้างเลย ว่าเป็น
ความจริงหรือไม่จริงตามใจชอบอย่างเลื่อนลอย เพราะท่านอาจารย์
มั่นท่านปฏิบัติด้วยเหตุผลล้วน ๆ เสมอมา แม้เวลารู้ก็น่าจะรู้ด้วย
เหตุผลที่ควรจะรู้ ด้วยหลักปฏิบัติทางใจ การระบายความรู้นั้น ๆ
ออกมา จึงมีเหตุผลตามมาด้วยเสมอ ไม่เคยเห็นท่านพูดออกมา
อย่างลอย ๆ เลย ท่านผู้ไปศึกษาอบรมจากท่านจึงมักเชื่อท่าน
อย่างฝังใจในธรรมทุกประเภทแม้ตนยังไม่รู้ เนื่องจากธรรมนั้นมี
เหตุผลเป็นที่เชื่อถือได้
สำหรับผู้เขียนไม่อาจยกยอตนว่าเก่งว่าดีในแง่ใด ๆ เลย
นอกจากจะกล้าตำหนิตนอย่างไม่สะทกสะท้านมาเป็นประจำ
เพราะสิ่งที่ควรตำหนินั้นมีอยู่ในหัวใจแทบล้นฝั่งก็ว่าได้ สิ่งนั้นคือ
ทิฐิมานะที่ไม่ยอมลงใครเอาง่าย ๆ ถ้าไม่ได้ต่อสู้จนสุดกำลังทิฐิที่มี
อยู่เสียก่อน เมื่อเห็นท่าจะสู้ไม่ได้จริงถึงได้ยอมลง เพราะหมด
หนทางต่อสู้ สำหรับท่านอาจารย์มั่นที่ผู้เขียนเคารพเทิดทูนอยู่
เวลานี้ ก่อนหน้าจะก้มลงกราบแบบบุคคลผู้สิ้นท่า ก็ได้เห็นได้ฟัง
ท่านมานานพอสมควร และได้ต่อสู้ท่านตามนิสัยคนที่มีทิฐิจัดจนบางครั้งราวกับวัดจะแตกพระเณรจะร้างวัด เมื่อได้ยินเสียง
จิ้งหรีดกับพญาราชสีห์โต้วาทีกันบนกุฎีท่านอย่างเอาเป็นเอาตาย
ด้วยเหตุผลที่ตนเข้าใจว่าถูก ซึ่งสุดท้ายผู้เขียนที่เทียบกับจิ้งหรีดที่
หมดฤทธิ์ ก้มกราบและยอมตนเป็นที่เช็ดเท้าให้ท่านดุด่าเฆี่ยนตี
ตามอัธยาศัย หากท่านผู้อ่านได้เห็นท่านแสดงออกทางมารยาท
ในอิริยาบถต่าง ๆ และได้ฟังสำเนียงการแสดงธรรมอบรมราวกับ
ราชสีห์ที่กังวานด้วยอัจฉริยธรรมในแง่ต่าง ๆ ก็น่าจะมีความรู้สึก
อัศจรรย์ภายในใจ เช่นเดียวกับท่านที่เคยฟังมาแล้วจำนวนมาก
คงไม่สงสัยวิพากษ์วิจารณ์นิมิตภาพและอากัปกิริยาตลอดความรู้
ธรรมแง่ต่าง ๆ ของท่านให้เป็นการกังวลใจ
ท่านที่ประสงค์อยากทราบปฏิปทาเครื่องดำเนินของท่าน
โดยสังเขป ที่ผู้เขียนมิได้อธิบายไว้โดยกว้างขวางละเอียดลออ ทั้ง
ธรรมขั้นต่ำ ขั้นกลาง และขั้นสูง ก็กรุณาตามอ่านเรื่องท่านที่นำมา
ลงนี้ คิดว่าจะพอเป็นแนวทางแห่งการปฏิบัติสำหรับท่านที่สนใจได้
พอสมควร ถ้าจะลงให้พิสดารมากไป ก็เกรงจะฟั่นเฝือเหลือกำลังจะ
คิดค้นและปฏิบัติตามได้ เนื่องจากความรู้ทางสมาธิก็ดี ทางปัญญา
ก็ดี ความวิมุตติหลุดพ้นก็ดีของท่าน รู้สึกว่ากว้างขวางพิสดารเกิน
กว่าภูมิของเราทั้งหลายจะสามารถติดตามท่านได้ทุกแง่ทุกมุม
จึงควรยุติปฏิปทาท่านไว้แค่กำลังของผู้เขียนเพียงเท่านี้ ผิดถูก
ประการใด หวังว่าคงได้รับความกรุณาอภัยจากท่านผู้อ่านโดยทั่วกัน




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 07:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5326


 ข้อมูลส่วนตัว


ประมวลปฏิปทาพระกรรมฐาน
สายท่านพระอาจารย์มั่น
การนำปฏิปทาของพระกรรมฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น
มาลงมากท่านด้วยกัน โดยสงวนนามท่านไว้ เรื่องของบางท่านก็
ยืดยาวพอควร แต่ของบางท่านก็สั้น โดยตัดเอาเฉพาะที่จำเป็น
มาลง โดยมิได้ขออนุญาตจากท่านก่อน จึงขออภัยโทษโปรดเมตตา
จากครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ตลอดท่านนักปฏิบัติด้วยกันที่ได้นำ
ปฏิปทามาลง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ท่านที่สนใจและอนุชนรุ่นหลัง
ได้ยึดเป็นร่องรอยปฏิบัติตาม กลายเป็นประโยชน์แก่หมู่ชนไม่มี
สิ้นสุด ดังเราทั้งหลายที่ได้อาศัยบรรพบุรุษและครูอาจารย์พาดำเนิน
มาจนถึงสมัยปัจจุบัน จึงพอมีหูมีตาอ้าปากได้บ้าง ไม่โง่เขลาเฝ้าร่าง
แห่งมนุษย์ผู้ควรฉลาดอยู่เปล่า ๆ ยังพอมีสติปัญญาเอาตัวรอดได้
ทั้งทางโลกและทางธรรม ดังนั้นการนำปฏิปทาท่านมาลงเพื่อเป็น
ร่องรอยแห่งการปฏิบัติ จึงหวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชน
พระเณรอยู่บ้างดังกล่าวมา
ปฏิปทานี้เป็นที่ถูกจริตจิตใจท่านผู้ใดในตอนใด กรุณายึดไป
ปฏิบัติเพื่อกำจัดสิ่งรกรุงรังภายในใจของเราให้เบาบางลงบ้าง
ส่วนมากก็คือความเห็นแก่ตัวตามนโยบายของกิเลสที่มักพาคน
ให้เกียจคร้านในการงานที่ชอบ และเป็นประโยชน์ในทางสงบสุข
ไม่กระทบกระเทือนตนและผู้อื่นนั่นแล เป็นงานที่กิเลสพาให้
ขัดขืนไม่อยากให้ทำ แต่ที่ไม่เกิดประโยชน์โดยชอบธรรม และเป็น
ความเสียหายทั้งแก่ตนและผู้อื่นนั้น มันชอบยุเราให้ทำอยู่เสมอ
ทำได้มากเท่าไรยิ่งดี มันชอบและชมเชยส่งเสริมว่าดี ทั้งที่ตน
และโลกได้รับความกระทบกระเทือนเดือดร้อนและติเตียน เพราะงานนั้นไม่ถูกไม่ดี คนเราเมื่อมีธรรมในใจอยู่บ้าง ย่อมมีทางทราบ
ความผิดถูกของตัวได้ และมีการระมัดระวังไม่กล้าเอาตนเข้าไปเสี่ยง
กับสิ่งไม่ดีและเป็นโทษทั้งหลาย
ฉะนั้นมนุษย์เราจึงดีเพราะธรรม เพราะความประพฤติ
มีคุณค่าเพราะความประพฤติ สัตว์มีคุณค่าเพราะเนื้อเพราะหนัง
อวัยวะและกำลังงานของมัน สัตว์ตัวหนึ่ง ๆ ตายลงไป เนื้อหนัง
มังสังตลอดอวัยวะต่าง ๆ ของมันเป็นเงินเป็นทอง จนกลายเป็น
สินค้าซื้อขายกันทั่วโลก ให้คนและสัตว์ได้อาศัยมีความสุขเป็นชีวิต
จิตใจตลอดมา ส่วนคนตายแล้วไม่มีอะไรเกิดประโยชน์ นอกจาก
กลัวผีกันเท่านั้น ยิ่งเวลามีชีวิตอยู่สนุกทำตัวให้เหม็นคลุ้งไปด้วย
ความประพฤติ ที่เชือดเฉือนสมบัติและหัวใจมนุษย์ด้วยกันให้
ฉิบหายวายปวง ทำให้คนเกลียดกลัวกันมากมาย เวลาตายไม่มีใคร
มามองหน้าศพ มิหนำเขายิ่งอยากให้ตายวันละกี่ร้อยกี่พันคน
แผ่นดินจะได้สูงขึ้นบ้าง ไม่หนักมากเกินไปแทบจะทรุดหรือถล่ม
เพราะคนชนิดที่มีความหนักหน่วงเกินกว่าธรรมดา
การทำตัวให้ดีด้วยความรู้ความประพฤติ หน้าที่การงานที่
สะอาดปราศจากโทษเท่านั้น จะเป็นเครื่องส่งเสริมคุณค่าเกียรติยศ
ชื่อเสียงให้คนเป็นคนสมบูรณ์แบบ และทรงคุณค่าอันสูงส่งไม่มี
ประมาณไว้ได้ ชาวโลกเคารพนับถือไม่มีใครรังเกียจ เกียรติยศ
ชื่อเสียงก็หอมหวนทวนลม ใครอยู่ที่ใดก็อยากชมบุญบารมี เวลา
ตายก็สลายไปเพียงรูปร่าง ส่วนคุณงามความดีทั้งหลายยังฟุ้งขจร
อยู่ในโลก มิได้สลายร่วงโรยไปด้วย
ปฏิปทานี้จึงเข้าใจว่า จะเป็นเครื่องประดับท่านนักปฏิบัติ
และวงกรรมฐานให้สง่างามได้ต่อไปนี้เป็นเวลานาน เพราะเป็นปฏิปทาที่ได้รับผลมาแล้วตามจริตนิสัยของท่านผู้หนักในแง่ใดแห่ง
วงปฏิปทานี้ เนื่องจากปฏิปทานี้มีหลายแบบมีหลายรสหลายชาติ
ที่ต่างท่านต่างปฏิบัติตามจริตของตน และได้รับผลเป็นเครื่องตอบ
แทนมาด้วยกัน จึงได้นำมาลงรวมไว้ในที่แห่งเดียว อาจจะเป็น
ความสะดวกแก่ท่านที่สนใจเลือกเฟ้นเพื่อถูกกับนิสัยของตน ๆ
นำไปปฏิบัติเพื่อเกิดประโยชน์ต่อไป
แต่ปฏิปทาสายนี้น่าจะเป็นความลำบากในความรู้สึก
ทั่ว ๆ ไป สำหรับท่านผู้เป็นต้นเรื่องก็รู้สึกลำบากทรมานเหมือนกัน
ทั้งในขณะที่ทำและผ่านมาแล้ว เพราะเป็นกิจที่ไม่ควรหลงลืมอย่าง
ง่ายดาย เนื่องจากเป็นกิจที่ออกมาจากใจจริงของผู้ทำแต่ละท่าน
และเป็นความทุ่มเทกำลังทุกด้านลงแบบไม่คิดชีวิตว่าจะเป็นหรือ
จะตายในขณะที่ทำ มุ่งต่อผลที่ตนพึงหวังเป็นที่ตั้งเท่านั้น จึงไม่มี
อะไรที่จะมามีอำนาจเหนือกว่าความหวังในธรรม เวลาผลปรากฏ
ขึ้นมาก็สมเหตุ คือถึงใจไม่มีทางตำหนิ ไม่ว่าท่านองค์ใดลงได้ทุ่มเท
กำลังกายกำลังใจลง จนถึงเหตุถึงผลถึงเป็นถึงตายจริง ๆ แล้ว
ผลที่ได้รับนั้นมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ถึงใจ”
จะอย่างไรก็ตามที่ว่าลำบาก ก็ไม่ปรากฏว่าท่านผู้ใดมี
ความเพียรยิ่งกว่าครูคือศาสดาไปได้เลย อย่างมากก็พออนุโลมได้ว่า
ปฏิบัติแบบลูกศิษย์มีครูสอนเท่านั้น เฉพาะผู้เขียนไม่มีอะไรทั้งฝ่าย
เหตุและผล ที่ควรจะนำมาออกสังคมหน้ากระดาษให้ท่านผู้อ่าน
ได้อ่านได้ชมบ้างเลย จึงขอเพียงได้นำเรื่องครูอาจารย์และเพื่อนฝูงที่
ปฏิบัติด้วยกันมาลงให้ท่านได้อ่าน ก็พอแก่วาสนาของตนอยู่แล้ว
จึงขอเชิญวิงวอนให้ท่านผู้อ่านทั้งหลาย ได้อ่านและได้ปฏิบัติจน
ปรากฏผลเป็นที่พอใจเถิด จะสมเจตนาความมุ่งหมายของผู้เขียนที่ตั้งปณิธานไว้เพื่อประโยชน์สุขแก่ส่วนรวมอยู่แล้วอย่างพึงใจ
ในอวสานแห่งปฏิปทานี้ จึงขอขอบคุณ ม.ล.หญิง จิตติ
นพวงศ์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ศรีสัปดาห์เป็นอย่างยิ่ง สุดจะ
กล่าวได้ถูกต้องตามความรู้สึก ซึ่งอุตส่าห์ตามใจทุกอย่างที่ขอ
ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือมาทุกกรณี ได้นำปฏิปทานี้ลงใน
ศรีสัปดาห์แต่ต้นตลอดมา ซึ่งสำนวนป่าบางประโยค บางตอน
ผู้เขียนไม่สงสัยว่าต้องทำความยุ่งยากลำบากและฝืนใจแก่
ท่านผู้ปฏิบัติตามอยู่เรื่อยมา แต่ก็จำต้องทนและปฏิบัติเต็ม
ความสามารถจนถึงวาระสุดท้ายแห่งหนังสือนี้ เพราะความเป็นผู้
มีจิตใจสูง เล็งเห็นประโยชน์แก่ส่วนรวม จึงกล้าเสียสละทุกอย่าง
ด้วยความเต็มใจไม่มีอะไรมาเป็นอุปสรรคได้ และขอขอบคุณ
เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยจัดทำทุกท่านมาพร้อมนี้ ขอความสวัสดีมงคลที่
พึงปรารถนา จงเกิดมีแด่ ม.ล.จิตติ บรรณาธิการและคณะผู้จัดทำ
ศรีสัปดาห์ทุกท่านดังใจหมายเถิด
หนังสือปฏิปทานี้ หากมีท่านผู้ศรัทธาพิมพ์แจกเป็น
ธรรมทาน ผู้เขียนมีความยินดีอนุโมทนาด้วยทุกโอกาส กรุณาทราบ
ตามนัยที่เรียนมาแล้วนี้ จะไม่เป็นกังวลในการต้องขออนุญาต
อีกในวาระต่อไป แต่การพิมพ์จำหน่ายนั้นขอสงวนลิขสิทธิ์ ดังที่
เคยปฏิบัติมากับหนังสือทุกเล่มที่ผู้เขียนเป็นผู้เรียบเรียง เพราะมุ่ง
ประโยชน์แก่โลกด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ประสงค์ให้มีอะไรเป็น
เครื่องผูกพัน จึงขอความเห็นใจมาพร้อมนี้ด้วย ขอความเป็นสิริ
มงคลที่โลกปรารถนา จงเกิดมีแด่ท่านผู้อ่านผู้ฟังและท่านผู้ปฏิบัติ
ตามทั้งหลายโดยทั่วกัน
จบ.....


ต่อไปเป็นเรื่องของหลวงพ่อจรัญ
ครอบครัวไม่สุขเป็นเพราะเหตุใด ?
๑. ครอบครัวไม่มีความสุข เพราะไม่เคยสวดมนต์ไหว้พระ
ไม่เคยปฏิบัติธรรม หาความสุขไม่ได้ไม่มีความผูกพันกันเลย สามี
ภรรยาทะเลาะกัน
๒. แก้ไขชีวิตไม่ได้ ขาดสติสัมปชัญญะ เครียดกลายเป็นโรค
ประสาท เดี๋ยวนี้เป็นกันมาก หลายปัญหาแก้ปัญหาชีวิตไม่ได้ ถ้าเจริญ
พระกัมมัฏฐานจะแก้ได้ถูกจุด
๓. ปัญหาลูกไม่ยอมเรียนหนังสือ ไม่ต้องการเรียนหนังสือ
ไปที่วัดอัมพวันเป็นจำนวนมาก เถียงพ่อเถียงแม่มีทุกวัน ลูกไม่ยอมเรียน
หนังสือ ไม่อยากจะเรียนหนังสือ เป็นเวรกรรมของพ่อแม่ สร้างความ
ไม่ดีให้กับลูก ทำไม่ถูกให้กับหลาน รักไม่ถูกวิธี ทำความไม่ดีให้ลูกดู
บ้านนั้นหาความเจริญไม่ได้แน่ คนที่เถียงพ่อเถียงแม่ พ่อแม่ก็เจ๊ง
รับราชการก็ไม่ได้ตำแหน่ง เป็นนักธุรกิจก็ค้าขายไม่ดี เอาดีไม่ได้
คิดไม่ดีกับพ่อกับแม่ เท่านี้เองไม่ใช่กฎหมาย กฎหมายต้องลงมือทำ
กฎหมายมีโจทก์ จำเลย กฎหมายลงมือทำแล้วมีโจทก์ จำเลย เราจะถูก
ยืนยันจากเอกสาร ศาลเชื่อแน่ แต่เดี๋ยวนี้ไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว แต่หลัก
ธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่แบบกฎหมาย เพียงแต่คิด
เท่านั้น คิดว่าพ่อเราเป็นคนไม่ดี เจ๊งเลยนะ รับราชการก็โดนถอด
แค่เพียงคิดก็บาปแล้ว กฎหมายทำอะไรไม่ได้ ขาดเหตุผลอย่างนี้
ศีลธรรมหมดแล้ว เพียงแต่คิดก็ออกหลายราย คิดว่าแม่เป็นคนไม่ดี
ไม่ต้องลงมือกระทำก่อน เพียงคิดไม่ได้ทำ ธรรมะโดนแล้ว กฎหมาย
ทำอะไรไม่ได้ แต่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ขาดเหตุผล
ข้อ ๓ ลูกไม่ยอมเรียนหนังสือ จะแก้อย่างไร แก้ไขได้แน่นอน พอกัน
เลย ลูกก็ดีไม่ได้
๔. เศรษฐกิจไม่พอปากพอท้อง เป็นหนี้เป็นสินเขา แต่เราตาม
คำสอนของพระพุทธเจ้า เศรษฐกิจมันตก แต่ไม่เป็นหนี้ใครเลย
สร้างฐานะแต่พอตัว รับผิดชอบจะเสียหาย น่าจะแก้ตรงนี้ มีเงิน
แค่ ๓๐ % ไปกู้มาตั้ง ๘๐ % ไปไม่รอด ทำงานแต่พอตัว นกขมิ้น
เหลืองอ่อนเอ๋ย ทำรังแต่พอตัว เศรษฐกิจเลวร้ายที่จะแก้ปัญหาชีวิตได้
เศรษฐกิจไม่พอปากพอท้อง เป็นหนี้เป็นสินมากมาย
๕. มีเงินมีทองมากมายก่ายกองยังไม่พอ ตะเกียกตะกาย
ไปยากจน เอาเงินตามเงิน อย่าเอาเงินตามเงินเจ๊งทุกราย ยกตัวอย่างให้
ท่านเห็นไปเล่นการพนันเสียไป ๑ หมื่น เอาเงินไปตามอีก ๒ หมื่น
ได้มา ๕ หมื่นและไปตามอีกหมดไปแสนหนึ่ง หมดเลย อย่าเอาเงิน
ไปตามเงิน มีที่ไหน งานตามงาน งานเดินเงินก็ตาม เงินเข้า ไปกู้เงิน
เข้ารัฐบาลไปกู้เงินเข้ามาเมืองไทย งานจะเดินเงินจะตามมา ไม่ให้กู้
ไม่สะพัด ไม่คล่องแคล่วว่องไว เงินจะมาได้ ขอฝากไว้ งานจะเดิน
ได้เงินจะตามมาหาท่านเอง งานไม่เดินเงินก็ไม่ตาม ชีวิตจะแร้นแค้น
ไม่มีแปลนและแผนผัง พระพุทธเจ้าคิดจะแก้ปัญหา มีเหตุผลมาก
หลายครอบครัวไม่ดี ทำให้ลูกติดยาเสพติด
เด็กเรียบร้อยเหมือนกันไม่ได้ บางคนเรียบร้อยไม่เหมือนกัน
บางคนเรียบร้อยไหว้พระสวดมนต์ บางคนเจอผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้เฒ่า
ผู้แก่ ผู้สูงอายุ อ่อนน้อมถ่อมตน เด็กบางคนปีกกล้าขาแข็ง มาจากไหนสิ่งแวดล้อมมาจากพ่อแม่ ขอฝากไว้ สิ่งแวดล้อมมาจากพ่อแม่
บางบ้านชวนลูกสวดมนต์ไหว้พระ แม่ก็สวดพ่อก็สวด ลูกสวดเอง
ตามโดยอัตโนมัติ บ้านนั้นก็เป็นบ้านแสนสุข
ครอบครัวเป็นจุดมุ่งหมาย ครอบครัวสำคัญเป็นสถาบันที่จะ
แก้ไขตั้งแต่เริ่มต้น พ่อแม่ต้องรักลูกคิดปลูกฝัง คิดตั้งตนให้ลูกมีการ
ศึกษา ลูกได้ดีมีปัญญา เป็นคนดีมีวิชา สร้างให้ลูกเป็นคนดีให้ได้
พ่อแม่สำคัญ สถาบันครอบครัวสำคัญ
พ่อแม่ไม่รู้จักจะแก้ไขปัญหา แม้บิดาเจ้าชู้เล่นการพนัน จะไม่
สามารถดูแลลูกได้ แต่มารดาก็สามารถทำให้เป็นแบบอย่างแก่ลูก
สร้างตัวให้ดีดูแลลูกให้ได้ รับรองไปรอด ให้แผ่เมตตาให้สามี
ได้ลูกดีทุกคน ถ้าแม่ดีเสียคนหนึ่ง “กันอยู่ที่แม่ แก้อยู่ที่พ่อ ก่ออยู่ที่ลูก
ปลูกอยู่ที่ครู ความรู้อยู่ที่ศิษย์ จะได้เป็นมิตรกัน”
ถ้าพ่อแม่ไม่ดี ลูกจะก่อเรื่องให้พ่อแม่เดือดร้อน จะไม่เชื่อฟัง
พ่อแม่ ถ้าพ่อแม่ดีมีปัญญา ลูกจะก่อวิชาให้พ่อแม่ จะเรียนเก่งเร่งก้าวหน้า
ไม่เถียงพ่อเถียงแม่ ให้สวดมนต์เป็นนิจ อธิษฐานจิตเป็นประจำ
อโหสิกรรมก่อนแผ่เมตตา ครอบครัวนั้นไปรอด ลูกหลานเรียน
เป็นดอกเตอร์หมด นี่เรียกว่ากรรมอยู่ที่แม่ แม่สำคัญมากในครอบครัวนั้น
ถึงเรียกว่าเป็นแม่แบบ แม่แผน แม่แปลน สามีจะดีชั่วไม่เป็นไร
แต่ถ้าสามีดีที่สุดแต่ภรรยาแตกแหลกลาญ รับรองลูกดีไม่ได้ เพราะ
ลูกกับแม่ผูกพันกันมากกว่าพ่อ แบบแผนที่จะให้กับลูกก็ดีกว่าพ่อ
เพราะพ่อนี่ห่างมาก พ่อไปงานสังคมเยอะแม่งานมาก การเรือน
เคหศาสตร์ที่เขาไปรบกันเขาเรียกพ่อทัพ มีแต่แม่ทัพ เป็นผู้ชายแต่ควบคุมกองทัพได้ ก็เรียกว่าแม่ทัพ จะเป็นชายก็ได้หญิงก็ได้ แต่
ใครคุมเรือได้เรียกว่ากัปตัน อยู่ที่ต้นหนต้นกลกราบเรือ
ยกตัวอย่างให้ญาติโยมได้ทราบว่าเมื่อเดือนก่อนโน้น พ่อเป็น
ฝรั่ง แม่เป็นคนไทย ลูกเป็นเด็กผู้หญิง ๓ ขวบ มาที่วัดอัมพวัน
คลานเข้าเลย แล้วก็กราบ ตั้งนะโม ๓ จบ อิติปิโส ภะคะวาฯ
สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ และก็สวด
พาหุงมหากา คาถาสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ถวายพรชัยมงคล
สมเด็จพระนเรศวร ไม่เคยแพ้ทัพ ว่าได้จบ อาตมาก็ถามหนูอายุเท่าไร
ยังไม่ได้เข้าโรงเรียนโรงเรียนอนุบาล อายุ ๓ ขวบ ทำไมสวดมนต์เก่ง
ว่าได้ชัดเจนเหมือนผู้ใหญ่ ว่าได้จังหวะจะโคน แม่ก็ยิ้ม พ่อก็ยิ้ม
ฝรั่งอเมริกัน อาตมาบอกเอาปัจจัยมา ๑,๐๐๐ บาท เรียกมาหนูเธอ
จะต้องเป็นดอกเตอร์นะ หลวงพ่อให้หนู หนามแหลมใครเสี้ยม
แหลมออกจากท้องแม่ได้ ดูเสื่อให้ดูลาย ดูชายให้ดูพ่อ ไม่ต้องมีใครสอน
กราบก็สวย คุกเข่าแบบเทพธิดา แม่เขาปริญญาโท พ่อเป็นอเมริกัน
เป็นดอกเตอร์ ขอบพระคุณหลวงพ่อมากที่ให้หนูไปเรียนเป็น
ดอกเตอร์ ขอบพระคุณอย่างสูงแล้วกราบลง ๓ หน การอ่อนน้อม
ถ่อมตน ปากหวาน นอบน้อม ตัวอ่อน มือเป็นหงอน กตัญญู
เชิดชูระเบียบ คุณหนูจำใส่ใจ นี่เป็นวิทยานิพนธ์ชีวิต ฝรั่งคนนั้น
เป็นคริสต์พูดไม่ค่อยชัดบัดนี้เป็นพุทธ ปริญญาโทอเมริกา เอาใจใส่
มีเมตตาดีเหลือเกิน เขายกย่องพุทธศาสนา ว่าสามารถแก้ปัญหาได้
ทุกอย่าง ทำให้เขามีความสุขมาก เขาจึงรักเมืองไทยผูกพันกับเมือง
ไทยมากแท้จริง เวลาทำงานรับราชการในต่างประเทศ สามีจะกลับ



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2012, 20:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5326


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็มาคอยรับ ถอดเสื้อ ถอดรองเท้า ปฏิบัติอย่างดี เพราะภรรยาเป็น
คนดี เขาจึงหันมาสวดพาหุง สวดได้ชัดเจนลูกสวดไปด้วย สวดมา
ไม่กี่เดือน ลูกสวดได้หมด ๕ โมงเย็น พ่อยังไม่มา ลูกบอกแม่
สวดมนต์เถอะ นี่ลูกนำพ่อแม่มีเหตุผลและพ่อแม่ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส
บอกว่าลูกเตือนพ่อให้สวดมนต์ เด็กพอเขาถึงธรรมะเด็กจะทำตาม
เวลา ตรงเวลา
คุณบิดามารดาที่รัก โปรดผลิตลูกให้ดีหน่อยได้ไหม ก่อนจะมี
บุตรธิดา สวดมนต์ภาวนา บ้านไหนสะอาดนักปราชญ์มาเกิด บ้าน
ไหนสกปรกสัตว์นรกมาเกิด บ้านไหนสกปรกลามกเหลือเกิน
ใจก็สกปรก บ้านไหนสะอาดเฉียบขาดเป็นธรรม เทพเจ้าทุกแหล่งหล้า
ก็จะส่งเทพเจ้ามาเกิดประเสริฐทุกประการ นักปราชญ์มาเกิดบ้านนั้นแน่
อยู่เย็นเป็นสุขให้ช่วยกันผลิต ช่วยกันสวดมนต์ไหว้พระ ช่วยกัน
กำหนดจิตที่ลิ้นปี่ให้แก้ไว้
ถ้ามีลูกมีหลาน อย่าให้อยู่ว่าง อย่าให้ห่างผู้ใหญ่ จะหลงทาง
ได้ง่าย โดยเสียใจต่อภายหลัง จะแก้ไขไม่ได้ ตรงนี้น่าคิด
ถ้าท่านมีลูกผู้หญิงโปรดสอนวิชาเอกของพระพุทธเจ้าคือ
แม่บ้านการเรือนเคหศาสตร์ แม่แบบ แม่แผน แม่แปลน เรือน ๓
น้ำ ๔ สร้างความดีในลูกสาว ถ้ามีลูกสาวถึงสำเร็จจะปริญญาโท - เอก
ก็ต้องให้มีแม่บ้านการเรือนเคหศาสตร์ให้ได้ จะได้รู้หลักของลูก
ผู้หญิง ลูกผู้หญิงเดี๋ยวนี้ทำกับข้าวก็ไม่เป็น รับแขกกันอย่างไร
เดินจะเหยียบหัวคนเฒ่าคนแก่ ใช้ไม่ได้ ไม่มีระบบ ไม่มีระเบียบเลย
อาตมาเห็นพระเจ้าหลานเธอฯ คลาน เห็นแล้วขนหัวลุก สวยน่ารักคลานตลอด เข้าห้องน้ำก็คลาน ออกจากห้องน้ำก็คลาน เด็กเดี๋ยวนี้
เดินจะเหยียบหัวคนแก่คนเฒ่า ไปลามาไหว้ ขอประทานโทษ
โปรดอภัยขอทางไปได้ไหม ไม่มีเลย ไม่มีใครสอน เพราะพ่อแม่เขา
เป็นอย่างนั้น
ก็ขอฝากพี่น้องสาธุชนและพุทธศาสนิกชนทั่วไปในประเทศ
ไทยนี้ โปรดตีความคิดให้เข้ามาหาตัวท่านเองให้ชัด นี่แหละตามใจตัว
เสียคนหมด ไม่รู้จักจะฝืนใจ คนที่เลวร้ายมันตามใจตัว มันกลัว
ลำบาก ความยากจะเกิดขึ้น คนที่ไม่ตามใจตัว ไม่กลัวลำบาก ฝืนใจ
เข้าไปสู่ความดีได้ สมมุติว่าเราติดเหล้า ฝืนใจไม่กินซะอย่างเดียว
ถือสัจจะรับรองแก้ได้แน่นอน แต่ฝืนใจไม่ได้ ปล่อยไปตามอารมณ์
ตามใจคนเช่นนี้ ขอฝากท่านผู้ใหญ่ไว้ด้วยปล่อยให้ลูกตามใจตัว แล้ว
ตัวเองก็ตามใจด้วย รับรองเอาดีไม่ได้แน่นอน
มีลูกขอให้เรียนหนังสือ หาวิชาใส่ตัวลูกให้ได้ ถึงจะยากดี
มีจนก็ไม่เป็นไร พ่อก็จนแม่ก็จน ไม่จนปัญญา ไม่จนสติ รับจ้างหากิน
เอาลูกเรียนเป็นดอกเตอร์ได้ ที่จังหวัดสิงห์บุรีเป็นตัวอย่าง พ่อเป็น
จับกัง แม่รับจ้างซักรีด ลูก ๕ คน เป็นดอกเตอร์ ๓ คน เป็นเถ้าแก่เนี้ย
ขายทองที่เยาวราช ๒ คน เพราะลูกเขาทั้งหมด ๕ คนสวดมนต์
ภาวนาเจริญพระกรรมฐาน แต่บางครอบครัวพ่อเป็นนายพล พ่อเป็น
เศรษฐี พ่อเป็นอาเสี่ย ลูกเป็นอาเฮียหลายคน ตามใจลูก พระพุทธเจ้า
ตามใจไม่ได้นะ ตามใจก็เสียคนหมด ตรงนี้เป็นต้นเหตุปล่อยไป
ตามใจตามอารมณ์ จะเสียคน เสียอนาคตของเขาเอง จะเสียใจ
ต่อภายหลังโดยไม่รู้ตัววันเกิดนี่สำคัญเป็นการกตัญญูกตเวทีธรรมอย่างยิ่ง วันขึ้น
ปีใหม่นี้ก็เป็นการกตัญญูกตเวทีต่อตัวเอง ที่เรารำลึกคุณงามความดี
ถึงบิดามารดาผู้ให้กำเนิดเกิดมาเป็นตัวตน
ลูกไม่สนใจในการเรียน ร้องไห้มาที่วัดอัมพวันเป็นจำนวนมาก
เพราะตามใจลูก จนไม่อยากเรียนหนังสือไปติดเพื่อนอันธพาล ความ
ผูกพันกับพ่อแม่ไม่มี หาความผูกพันกับพ่อแม่ได้ยาก เลยลูกก็ต้อง
ไปติดเพื่อน ไปรักเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ เพราะพ่อแม่ทุกวันนี้ให้โอกาส
ลูกได้ยากมาก ไม่มีเวลาให้ลูกเลย เพราะยากจน ต้องไปทำมาหากิน
สามีก็ไปทางหนึ่ง ภรรยาไปทางหนึ่ง ต่างคนต่างไป ในเมื่อต่างคน
ต่างไปก็เกิดปัญหา ลูกก็เลยไม่มีความผูกพันกับพ่อแม่ กินข้าวก็คน
ละหม้อ อยู่กันคนละทิศคนละทาง ลูกก็เลยเลเพลาดพาดไปคบเพื่อน
อันธพาล คบพาลมันจะได้ผิด คบบัณฑิตได้ผล คบคนชั่วทำตัวให้
อับจน คบคนดีให้ผลจนวันตาย เมาเพศก็หมดค่า เมาสุราหมดความ
สำคัญ เมาการพนันหมดตัว เมาเพื่อนชั่วหมดดี เอาดีไม่ได้ นี่ตรงนี้
เป็นเรื่องสำคัญที่แก้ไม่ได้ เลยลูกไม่เชื่อพ่อแม่เพราะความผูกพันกับ
พ่อแม่ยุคใหม่สมัยนี้ไม่มีแล้ว เลยไปผูกพันกับเพื่อน
บ้านนั้นครอบครัวดีหมดทั้งบ้าน ดีทั้งลูกทั้งหลานในอนาคต
ด้วย มาจากพ่อแม่ทั้งสิ้น พ่อแม่ไม่เคยชวนลูกสวดมนต์ไหว้พระ
ลูกก็เลเพลาดพาดเหมือนพ่อแม่ดังกล่าวแล้ว ทะเลาะให้ลูกเห็น หลั่ง
น้ำตาให้ลูกเห็น เล่นการพนันให้ลูกเห็น กินเหล้าให้ลูกเห็น ลูกก็เป็น
พยานหลักฐาน ลูกมันก็บันทึกหลักฐานความชั่วมาจากพ่อแม่ ไว้ใน
จิตใจของเขาไหนเลยเขาจะดีได้ ท่านทั้งหลายเอ๋ย ตีความให้ตัวท่านเองถ้าท่านยังกินเหล้าเมายา เล่นการพนันบ้าบออยู่เช่นนี้ ลูกท่านจะดี
ไม่ได้แน่นอนนี่มีความหมาย ถ้าท่านหมั่นสวดมนต์ไหว้พระพาหุง
มหากาฯ จิตใจก็ซึ้งไปในรสพระธรรม ฝังจริยธรรมให้แน่น ลูกท่าน
จะดีทุกคน นี่แหละตีลูกด้วยแบบอย่าง อย่าตีลูกให้หัวแตก เอาไม้
หวดลูก เมตตาเจือโทสะอย่างนี้ลูกท่านดีไม่ได้แน่นอน
ลูกทำเลวเสียหายอย่าไปเข้าข้างลูก ส่วนมากพ่อแม่จะเข้าข้างลูก
ทำให้ลูกเสียหาย กันอยู่ที่แม่ แก้อยู่ที่พ่อ ก่ออยู่ที่ลูก ปลูกอยู่ที่ครู
ความรู้อยู่ที่ศิษย์ จะได้เป็นมิตรกัน แม่จะต้องกันลูกตลอดลูกจะเสียหาย
อย่างไรก็ตาม พ่อต้องแก้ให้ลูก แม่กันไม่ได้แล้วต้องไปให้พ่อแก้
แต่ลูกถ้าเกิดเลวร้ายขึ้นมาแล้วจะก่อเรื่องเดือดร้อนให้กับพ่อแม่ตลอด
ถ้าลูกดีมีปัญญาจะก่อวิชาการ ก่อความดีให้กับพ่อแม่ได้ชื่นอกชื่นใจ
ขอฝากพ่อแม่ไว้ด้วย

ชีวิตมาเด่นกลับไปด้อย


โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
ผู้เกิดมาในตระกูลที่พ่อแม่เด่น เด่นด้วยวิทยฐานะ เด่นด้วย
ตำแหน่งหน้าที่ และเด่นด้วยยศศักดิ์ หากแต่เขาประมาทหลงงมเมา
ในปมเด่นของตระกูลวงศ์ หารู้สึกไม่ว่าการศึกษาและการงานเป็น
สิ่งจำเป็นแก่ปมเด่นของคน ที่จริงการศึกษาคือการสร้างความฉลาด
และการงานคือการสร้างสมรรถภาพ ไว้เพื่อเผชิญกับสถานการณ์
แห่งชีวิต ความฉลาดและสมรรถภาพนี่แหละคือ เหตุแห่งปมเด่น
ของคน แต่เขาไม่สนใจที่จะบำเพ็ญตนให้ฉลาดและมีสมรรถภาพ
ดีแต่มุ่งมั่นสนุกสนานเพลิดเพลินจนเลยเถิด เมื่อเขามาเกิดในร่มเงา
ของปมเด่นแล้ว น่าจะสร้างตนให้เด่นยิ่งขึ้น แต่กลับหลงเพลินไม่เอา
งานเอาการอะไรเลย ลืมนึกว่า ปมเด่นที่ตนอาศัยอยู่เป็นของพ่อแม่
เกิดกำเริบเหิมหื่นสำคัญเอาว่าปมเด่นเป็นของตน มัวดูคนอื่นด้วย
ตาหน้า ดูตัวเองด้วยตาหลัง ประมาณตนจนเกินค่าของตน เที่ยวเอา
รัศมีศรีศักดิ์ของพ่อแม่ไปอวดว่าตัวดีเด่น ให้เป็นเครื่องขันสำหรับ
เพื่อนบ้านเขาแย้มสรวลเล่น เมื่อพ่อแม่นั้นหาไม่แล้วปมเด่นนั้นก็หายไป
ปมด้อยที่อยู่ในตัวได้ผุดขึ้นมาแทนที่ และกดดันให้เขาด้อยลง
ด้อยอย่างล่มจม ได้ในคำว่า กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าอันน้อย
จะถอยจม นี่คนมีชีวิตมาเด่นกลับไปด้อยการสร้างความดีให้กับลูกทำถูกให้กับหลานนั้น ไม่ใช่เป็นของยาก
แต่ก็ไม่ใช่ของง่าย การที่เลี้ยงลูกให้เป็นคนดีได้ก็ไม่ใช่ของง่าย แต่ก็
ไม่ใช่ของยาก ถ้าท่านทั้งหลายสร้างความดีไว้ ลูกเขาก็จะตามท่าน
ถ้าท่านสร้างความไม่ดีไว้เขาก็จะไปทางไม่ดี จะไปโทษลูกไม่ดี
เกะกะกินเหล้าเมายาติดยาเสพติดและเล่นการพนันก็ไม่ได้ พ่อเขาเล่น
และในบ้านนั้นก็เล่นกันกินเหล้าเมายาทะเลาะวิวาทกัน ลูกเสียหมด
มันย่อมจะติดเป็นกฎแห่งกรรมที่สร้างกรรมไว้ให้ลูก


ถ้าใครต้องการให้ตัวเองดี
ต้องมีกิจกรรม ๔ ประการ คือ๑. ต้องแสวงหาความรู้ให้ได้ทั้งหมด อย่านิ่งดูดาย รู้ไว้ใช่ว่า
ใส่บ่าแบกหาม ขอให้ท่านทั้งหลายโปรดทราบ วิชาความรู้ต้องแสวงหา
ปัญหาอยู่ตรงนี้ สุนทรภู่ กล่าวว่า “อันข้าไทมีอำนาจวาสนา เขาไม่
อยู่คู่ชีวา แต่วิชาความรู้อยู่คู่กายจนวายปราณ” รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม
นี่พระพุทธเจ้าสอนไว้ชัดเจน ท่านจบถึง ๑๘ ศาสตร์ อย่างนั้นท่าน
สอนพวกเราไม่ได้ ท่านรู้ทางโลกแล้ว มีครอบครัวมีลูกมีเมียแล้ว
รู้หมดแล้วทั้งทางโลก รู้ไม่จริงอย่าไปสอนเขา ถ้ารู้จริงไปสั่งสอน
คนอื่นจะขลัง ถ้ารู้ไม่จริงไปสอนคนอื่นจะคลั่ง
๒. สร้างความดีต้องละความชั่วให้ได้ สร้างบุญก็ต้องละบาป
ให้ได้ ต้องรู้ ต้องมีเหตุมีผล ต้องมีข้อเท็จจริง ต้องอยู่ที่จิต ต้องละ
เลิกอบายมุข ละให้หมด อย่าเอามาพันพัว จงขจัดออกไป
๓. ต้องพัฒนาตนเอง “อ่านตัวออก บอกตัวได้ ใช้ตัวเป็น
จะได้เห็นตัวตาย จะได้คลายทิฏฐิ จะได้ดำริชอบ จะได้ประกอบกุศล
ได้ผลอนันต์เป็นหลักฐานสำคัญ” ต้องพัฒนาให้ได้ มือ ๒ เท้า ๒
สมอง ๑ ถ้าเราขาดไปเสียซึ่งมือ ๒ เท้า ๒ สมอง ๑ ท่านจะพัฒนา
ไม่ได้ ต้องใช้มือ ๒ เท้า ๒ สมอง ๑ ต้องใช้สิ่งนี้ช่วยเหลือตนเอง
ในการพัฒนาตนเอง
๔. จะทำให้แจ้งถึงใจ ทำอะไรให้มีเหตุมีผล ถ้าทำไม่แจ้ง
ถึงใจแล้ว มันจะหละหลวม เหลาะแหละ เหลวไหล มันจะได้แต่เปลือกไป ทำอะไรให้มันถึงจิตใจ ให้มันผูกพันถึงจิตใจด้วยรัตนตรัย
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์
รับรองท่านมีบุญวาสนาในโอกาสหน้า ท่านจะต้องมีบุญวาสนาต่อไป
ในอนาคต ถ้าท่านทำตัวดีรับรองต้องดีแน่ จะต้องเป็นใหญ่ในอนาคต
ครอบครัวของท่านจะมีสันติสุข จะสนุกสนาน สบายในครอบครัว
ท่านจะไม่มีปัญหาในครอบครัวท่านถ้าทำได้ นี่แหละกิจกรรม
พฤติกรรมแสดงออกให้คนอื่นเขาเห็นชัดว่าครอบครัวนี้เป็นคนดี
แสดงออกทางกิริยา แสดงออกทางมารยาท แสดงออกทางวาจา
วันเกิดของเรา คือ วันตายของใคร ?

โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
คนหมดอายุแล้วต่ออายุได้ นี่จะถึงวันตายของอาตมาแล้ว ๑๔
ตุลาคม เราต่ออายุมาได้ตั้ง ๒๒ ปีแล้ว รถชนคอหักตาย ตกเหวตาย
แต่ทำไมไม่ตาย ขอฝากพี่น้องทุก ๆ คน ต่ออายุได้ เวลาวันเกิดของ
โยมนะ จะเป็นโยมหญิงโยมชาย โยมผู้น้อย โยมผู้ใหญ่ก็ตาม ถ้าถึง
วันเกิดขอร้องให้สวดมนต์แผ่เมตตา ตักบาตรหน้าบ้าน ไม่ต้องทำ
อะไรมาก อย่าเลี้ยงเหล้า อย่าดื่มสุรายาเมาในวันเกิด แล้วถ้ามีพ่อมีแม่
เลี้ยงพ่อแม่ให้อิ่มเลย วันเกิดของเราคือวันตายของแม่ ถ้าทำได้ก็
สวดมนต์นั่งกรรมฐานในวันเกิด จะเลี้ยงเพื่อนก็เลี้ยงในภายหลัง
รับรองไปรอด อายุก็ยืน ถ้าคนไหนวันเกิดเลี้ยงเหล้า แล้วก็ไม่ไปเลี้ยง
พ่อแม่ ไปเลี้ยงเพื่อน รับรองหารได้เลย เอา ๒ หารอายุ ต้องตาย
อายุไม่ยืน

วันเกิดของเราอย่าลืมพ่อ-แม่
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
วันเกิดของเราทุกคนอย่าลืมพ่อลืมแม่นะ อย่าให้พ่อแม่อดอยาก
ปากแห้งแต่ประการใด ทั้งอามิสบูชา และปฏิบัติบูชา
อามิสบูชา คือ เตรียมอาหารการบริโภค ผ้าผ่อนท่อนสไบ
ยารักษาโรค เตรียมให้เต็มไม้เต็มมือไปเลย
ปฏิบัติบูชา หมายความว่า พ่อแม่ไม่มีทาน ให้ท่านมาบำเพ็ญ
ทานเสียบ้าง พ่อแม่เราไม่มีศีล ก็ให้พ่อแม่มารักษาศีลอุโบสถ เจริญ
กรรมฐาน เจริญภาวนาบ้าง นี่แหละเป็นอภิชาตบุตร บุตรที่สนองพระ
เดชพระคุณบิดามารดา ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
มีหลักฐานยืนยันพิสูจน์ได้ พระพุทธเจ้าสำเร็จพระสัมมา
สัมโพธิญาณแล้ว รำลึกถึงพุทธมารดาก่อน ไปโปรดบนสรวงสวรรค์
แม้กระทั่งไปเกิดเป็นเทพบุตร เป็นชาย ก็ยังติดตามไปให้ค่าป้อน
น้ำนม ที่สิทธัตถะได้ดูดเลือดในอกของแม่มา ก็ไปสนองพระคุณ
นี่เป็นตำราชัดเจน

นึกถึงผู้มีพระคุณ

โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
คนที่เห็นแก่ตัวไม่มีระลึกถึงพระคุณของครูอาจารย์และพ่อแม่
ใช้ไม่ได้แค่นั้นเอง ดีกว่านี้ไม่ได้แน่ ๆ ถ้าท่านเจริญกุศลภาวนา จิตใจ
ท่านจะสบาย สงบ เกิดผลคือความสุขที่แน่นอนและแท้จริง ไม่เจือ
ปนด้วยความทุกข์อีกแล้ว จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองวัฒนาสถาพร
ต่อไปในอนาคตถึงลูกหลานของท่าน ตรงนี้ซิบุญ ถ้าเราเกิดความสุข
แท้จริงเมื่อใด จะนึกถึงแม่ นึกถึงพ่อ นึกถึงครูบาอาจารย์ นึกถึง
อุปกรณ์ใช้สอยประจำวัน ถ้วยโถโอชาม แก้วน้ำร้อนแก้วน้ำชา อุปกรณ์
ต่าง ๆ ที่ให้ความสะดวกสบายแก่เรา เราจะไม่ลืมพระคุณมันเลย
จะรักษาไว้ นอกจากจะไม่ลืมพระคุณคนแล้ว จะไม่ลืมพระคุณสัตว์
ที่เลี้ยงไว้ จะไม่ลืมพระคุณชาติภูมิ มาตุภูมิบ้านเกิดของตน แหล่งให้
เกิดวิชา แหล่งให้เกิดสภาพชีวิตคือความดี จะย้อนกลับคืนรังคืนบ้าน
เก่าที่ช่วยเหลือ จะไม่ลืมพระคุณเครื่องอุปกรณ์ใช้สอยที่พ่อแม่หา
มาให้ หรือที่ผู้มีพระคุณมอบหมายมาให้ อีกประการหนึ่ง จะไม่ลืม
พระคุณ มือสอง เท้าสอง สมองหนึ่ง เป็นที่พึ่ง พ่อให้หัวใจ แม่ให้
น้ำเลือดน้ำเหลืองแล้ว จะต้องเร่งรัดพัฒนาให้ยิ่งใหญ่




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2012, 07:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5326


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณมารดา บิดา
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
มารดา บิดา เป็นบุคคลที่รู้จักกันทั่วโลก คนเราเกิดมาเห็นโลก
อันกว้างใหญ่นี้ได้ เพราะมารดาบิดาเป็นผู้ให้กำเนิด เป็นผู้ให้อวัยวะ
ทุกส่วนของร่างกายแก่ลูก ซ้ำมารดาบิดายังบำเพ็ญตนเป็นยอดนักบุญ
สำหรับชีวิตของลูกอีกด้วย เป็นผู้เสียสละความสุขของตนเองทุก ๆ
อย่าง เฝ้าทะนุถนอมเอาใจใส่ลูกทุกเวลา ทำทุกอย่าง เพื่อความผาสุก
ของลูก ลูกต้องการปรารถนาสิ่งใด อันเป็นสิ่งที่ไม่เหลือวิสัยก็พยายาม
จัดหาให้ทุกอย่าง เป็นผู้ใกล้ชิดลูกยิ่งกว่าใคร ๆ ทุกคนจึงรู้จักมารดา
บิดาดี
ส่วนลูกส่วนมาก หารู้จักและซึ้งถึงพระคุณของผู้เป็นมารดา
บิดาไม่ คงรู้จักแต่เพียงว่าชายผู้ให้กำเนิดแก่ตนเรียกว่า บิดา หญิงผู้ให้
กำเนิดแก่ตน เรียกว่ามารดาเท่านั้น แท้จริงแล้ว ท่านผู้ให้กำเนิด
ทั้งสองนั้น เป็นผู้มีพระคุณมากมาย สุดที่ลูกผู้กตัญญูรู้คุณ จะทดแทน
พระคุณให้สิ้นสุดได้
เพราะเหตุนี้เอง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นนาถของโลก ทรง
ซึ้งถึงพระคุณของผู้เป็นมารดาบิดาผู้อนุเคราะห์บุตรว่า เป็นพระพรหม
เป็นบุรพเทวดา เป็นบุรพาจารย์ เป็นอาหุเนยยบุคคล ของบุตรดังนี้
มารดาบิดา เป็นผู้ที่มั่นคงในพรหมวิหารธรรมโดยไม่ยอมทิ้ง
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ในลูกของตน ย่อมมีเมตตารักใคร่ในลูก
ปรารถนาจะเห็นลูกของตนปราศจากโรคภัยเบียดเบียน มีความสุขร่าเริง แจ่มใส มีกรุณา สงสาร เมื่อลูกของตนต้องประสบความทุกข์
คิดแต่จะช่วยให้พ้นจากความทุกข์ความเดือดร้อน มีความสุขความ
เจริญ เมื่อเห็นว่าลูกของตนมีความสุข สามารถเลี้ยงและปกครอง
ตนเองและครอบครัวให้มีความสุขได้ ก็พลอยมีมุทิตายินดีด้วย ไม่
อิจฉาริษยาในความสุขของลูก เมื่อเห็นลูกต้องประสบทุกข์เดือดร้อน
ก็ไม่ซ้ำเติม วางจิตมัธยัสถ์เป็นกลางเสมอ มารดาบิดา จึงเป็นดุจ
ท้าวมหาพรหมที่ไม่เคยละภาวนา ๔ ในหมู่สัตว์ จึงได้รับนามบัญญัติ
ว่าเป็น “พระพรหมของลูก”
มารดา บิดา เป็นผู้พิทักษ์รักษาลูกก่อนเทวดาทั้งปวง นับตั้งแต่
ลูกอยู่ในครรภ์ เมื่อลูกเกิดมาแล้ว ก็เอาใจใส่ดูแล แม้บางคราวลูกทุบตีตน
เพราะไม่รู้เดียงสา แทนที่มารดาบิดาจะเกลียดและโกรธกลับยกโทษ
ให้และยังเพิ่มความรักใคร่ในลูกของตนเสียอีก ไม่คำนึงถึงความผิด
ใด ๆ ของลูกทั้งสิ้น บางครั้งลูกทำผิด มารดาบิดาก็ดุว่ากล่าวหรือ
ลงโทษ แต่ด้วยใจจริงแล้ว ไม่ปรารถนาจะให้ลูกของตนเดือดร้อน
ทำไปด้วยความรักความหวังดี ปรารถนาให้ลูกของตนมีความสุข
ความเจริญ มารดาบิดาจึงชื่อว่าเป็นเทวดา คือ ผู้ประเสริฐสุดสำหรับลูก
ท่านไม่พยายามที่จะทำความชั่วให้ปรากฏแก่ลูก เกรงลูกจะถือเอา
แนวปฏิบัติสร้างตนในทางที่ผิด เมื่อลูกรู้จักคุณแล้ว ทำปฏิการะ
ตอบแทน จึงเป็นบุญเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ เพราะเหตุที่ท่านทั้งสอง
บำเพ็ญตนเป็นเหมือนพระวิสุทธิเทพผู้ประเสริฐ ซึ่งท่านไม่ปรารภ
ถึงความผิดใด ๆ ที่พวกคนพาลก่อขึ้น มุ่งแต่ให้พวกเขามีความสุข
ความเจริญฝ่ายเดียว คุณความดีของมารดาบิดาข้อนี้เอง ท่านจึงได้
นามว่า “บุรพเทวดาของลูก”
มารดา บิดา เป็นทั้งครูอาจารย์ก่อนกว่าครูอาจารย์อื่น ๆ เป็น
ผู้แนะนำอบรมสั่งสอนให้ลูกรู้จักกิน นอน พูด ทำ รู้จักดีชั่ว ควรไม่ควร
เป็นทั้งผู้สอนและผู้ฝึกหัดให้ทุกอย่าง ท่านจึงสงเคราะห์มารดาบิดาว่า
เป็นบุรพทิศในทิศ ๖ คุณความดีข้อนี้เอง ท่านจึงได้นามว่า
“บุรพาจารย์ของลูก”
มารดา บิดา เป็นผู้มีพระคุณหลายประการดังกล่าวมาแล้ว
เป็นทั้งผู้ให้กำเนิด เป็นทั้งผู้เลี้ยงดูให้อุปการะและสั่งสอน จนเป็นผู้
สมควรอย่างยิ่งที่ลูกผู้กตัญญูรู้คุณ จะพึงนำสักการะ มีอาหารและ
ผ้าผ่อนท่อนสไบ เป็นต้น มาบูชาเป็นการตอบแทนพระคุณท่าน
เพราะเมื่อสักการบูชาท่านแล้ว ย่อมได้ผลานิสงส์มาก เหมือนได้
สักการบูชาแด่พระอรหันต์ขีณาสพ ท่านจึงได้นามว่าเป็น “อาหุเนยย
บุคคลของลูก
มารดา บิดา เป็นทั้งผู้สร้าง และผู้อุปถัมภ์ เป็นผู้ให้กำเนิดแก่
ลูกแล้ว ก็ต้องรับภาระเป็นผู้อนุเคราะห์เลี้ยงดูอีก ไม่ทอดทิ้ง พยายาม
ที่จะเสกสรรปั้นแต่งลูกของตนให้เป็นคนดี เพราะเหตุนี้เอง พระมหา
มุนีศาสดาจารย์ จึงตรัสแก่คฤหบดีบุตรชื่อ สิคาลกะว่า ดูกร คฤหบดี
บุตร มารดาบิดาพึงอนุเคราะห์บุตรของตนโดยสถาน ๕ คือ
๑. ป้องกันบุตรธิดามิให้ทำความชั่ว
๒. ส่งเสริมให้ตั้งอยู่ในความดี
๓. ให้ศึกษาศิลปวิทยา
๔. หาคู่ครองที่สมควรให้
๕. มอบทรัพย์ให้ในสมัย
เพราะมารดาบิดา มีพระคุณอันใหญ่หลวงดังกล่าวมานี้ ผู้เป็น
ลูกจึงต้องคำนึงระลึกถึงเสมอ และหาทางตอบแทนพระคุณ แม้องค์
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงสนองพระคุณของพระชนนี เพื่อ
ชดใช้ค่าข้าวป้อนและค่าน้ำนม โดยเสด็จไปจำพรรษา ณ ดาวดึงส์
พิภพ แล้วทรงแสดงพระอภิธรรมโปรด จึงเป็นเนติแบบอย่างอันดี
สำหรับพุทธบริษัทผู้เคารพนับถือในพระองค์ จึงพึงปฏิบัติตาม ถ้าหวัง
จะบำเพ็ญตนเป็นลูกที่ดี จึงเป็นการสมควรแล้ว ที่จะหาทางสนอง
พระคุณท่าน ตามฐานะและโอกาส ด้วยการเลี้ยงดูท่านให้ได้รับ
ความสุข เป็นการแสดงกตัญญูกตเวทิตาธรรม ต่อท่านผู้ดำรงอยู่ใน
ฐานะบุพการี ผู้ทำอุปการะให้แก่ตนก่อน ข้อนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ตรัสแก่คฤหบดีบุตร ชื่อ สิคาลกะว่า ดูกร คฤหบดีบุตร เมื่อมารดา
บิดา ได้อนุเคราะห์บุตรธิดาโดยสถาน ๕ แล้ว บุตรธิดาพึงปฏิการะ
ตอบแทนโดยสถาน ๕ เช่นเดียวกัน คือ
๑. ท่านเลี้ยงมาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ
๒. ช่วยทำกิจของท่าน ไม่ดูดาย
๓. ดำรงวงศ์สกุล ไม่ให้เสื่อม
๔. ประพฤติตนให้เป็นคนควรได้รับมรดก
๕. เมื่อท่านล่วงลับไป ทำบุญอุทิศให้แก่ท่าน
ทั้ง ๕ สถานนี้ สถานตน้ เปน็ ขอ้ ที่ผูเ้ ปน็ ลูกควรทำ เพราะเรา
เจริญเติบโตได้ก็อาศัยที่ท่านมีเมตตาจิตให้การเลี้ยงดู เมื่อท่านแก่เฒ่า
ลงจึงเป็นหน้าที่ที่ลูกจะพึงเลี้ยงดูท่าน เป็นการตอบแทน เป็นการ
ชดใช้หรือทดแทนพระคุณท่านที่ทำไว้ก่อน มีภาษิตบทหนึ่งสำหรับเตือนใจผู้เป็นลูก ให้ทดแทนพระคุณท่านด้วยการเลี้ยงดูว่า
อันทิศเบื้องหน้า บิดามารดาพึ่งอาศัย อย่าได้ดูถูก หมั่นปลูกอาลัย
หมั่นเลี้ยงท่านไป ตราบม้วยชีวา
การเลี้ยงท่านนั้น ท่านแสดงไว้ ๒ ประการ คือ
๑. การเลี้ยงภายนอก ได้แก่ การอุปัฏฐากอย่างต่ำ
๒. การเลี้ยงภายใน ได้แก่ การอุปัฏฐากอย่างสูง
การเลี้ยงภายนอกนั้น ได้แก่ การจัดหาข้าวปลาอาหาร และ
ผ้าผ่อนท่อนสไบให้แก่ท่าน เป็นการเลี้ยงและให้ความสุขทางกาย
แก่ท่าน อันนับว่าเป็นอามิสบูชา เป็นส่วนการอุปัฏฐากอย่างต่ำ
ส่วน การเลี้ยงดูภายใน นั้น ได้แก่ การเลี้ยงดูน้ำใจท่าน โดย
เป็นผู้เชื่อฟังตั้งอยู่ในคำสั่งสอนไม่ขัดข้อง ทั้งเป็นผู้หาโอกาส ทำให้
ท่านเป็นผู้มีจิตใจ เป็นผู้เจริญด้วยคุณธรรม หาทางนำท่านผู้ไม่มีศรัทธา
ให้มีศรัทธา ผู้ไม่มีศีลให้มีศีล ผู้ไม่มีจาคะการบริจาค ให้มีจาคะ
การบริจาค ผู้ไม่มีปัญญาให้มีปัญญา ดังพระสารีบุตรเถระเจ้า
แนะนำมารดาผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ ให้เป็นสัมมาทิฏฐิ นับว่าเป็นปฏิบัติ
บูชา เป็นส่วนแห่งการอุปัฏฐากอย่างสูง
ลูกบางคนเลี้ยงมารดาบิดา เพราะเห็นแก่ทรัพย์สมบัติ ไม่คำนึง
ถึงพระคุณเป็นส่วนใหญ่ การทำเช่นนั้นไม่ชื่อว่าเป็นการสนอง
พระคุณท่าน อันเป็นส่วนกตัญญูกตเวทีเลย หากมารดาบิดาไม่มีทรัพย์
สมบัติแล้ว ลูกก็ไม่เลี้ยงดูนำพาปล่อยให้เป็นอยู่ตามยถากรรม ลูกเช่น
ว่านี้เป็นลูกอกตัญญู ไม่รู้จักคุณ เพราะเหตุนั้นการเลี้ยงดูท่าน จึงเป็น
หลักอันสำคัญที่ลูกผู้กตัญญูกตเวที จะพึงทำ เพราะเป็นเหตุนำมงคล
คือความเจริญมาให้ ดังพระศาสดาตรัสไว้ในมงคลสูตรว่ามาตาปิตุอุปฏฺฐานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ
การเลี้ยงดูมารดาบิดา เป็นมงคลอย่างสูงสุด
พระพุทธเจ้าทรงยกย่องและสรรเสริญผู้เลี้ยงมารดาบิดาไว้มาก
แม้ภิกษุผู้บวชในพระธรรมวินัยก็ยังทรงอนุญาตให้เลี้ยงมารดาบิดาได้
เที่ยวบิณฑบาตได้อาหารมา แม้ตนเองมิยังไม่ได้ฉันก็ให้แก่มารดา
บิดาได้ ไม่ชื่อว่าทำศรัทธาไทยของทายกให้เสียไป ทั้งไม่มีโทษทาง
พระวินัยด้วย การช่วยเหลือทำกิจการงานของท่านนั้น เป็นหน้าที่ที่ลูก
จะพึงกระทำ เพราะเป็นการผ่อนแรงท่าน ที่ตรากตรำหาเลี้ยงเรามา
ไม่ทำตนเป็นคนดูดาย เอาแต่เที่ยวเตร่หาความสนุกสนานปล่อยให้
ท่านทั้งสองทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำไปตามลำพัง อย่างน้อยผู้เป็นลูก
ต้องนึกบ้างว่า มารดาบิดาของลูกทุกคน เมื่อมีลูกก็ย่อมปรารถนาหวัง
พึ่งพาอาศัยบ้าง โบราณภาษิตบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า
“มีลูกเหมือนปลูกต้นโพธิ์ เมื่อใหญ่เมื่อโตจะได้อาศัย ยาม
เจ็บไข้จะได้ฝากไข้ ยามตายจะได้ฝากผี เวลาดี ๆ เอาไว้ใช้สอย”
ฉะนั้น จึงเป็นหน้าที่ที่ลูกไม่พึงละเลยในการช่วยเหลือทำ
กิจการงานของท่าน ส่วนการประพฤติตนเป็นคนดี เพื่อรักษาวงศ์สกุล
ของตนไม่ให้เสียหาย และการประพฤติตนให้เป็นคนสมควรรับและ
ปกครองทรัพย์มรดกของท่านนั้น ก็ล้วนเป็นหลักสำคัญทั้งนั้น นอก
จากจะเป็นการทำตนให้เจริญแล้ว ยังเป็นการทำให้ท่านพอใจและเกิด
ความสุข อันเป็นการเลี้ยงน้ำใจท่านด้วย
ส่วนประการหลังนั้น เป็นการสนองพระคุณครั้งสุดท้าย แม้
จะเป็นการทำลับหลังก็ตาม ก็เป็นการแสดงออกให้เห็นว่า ตนเป็นลูกกตัญญูกตเวที ไม่ลืมความดีที่ท่านทำไว้แก่ตน ขวนขวายที่จะทำ
ตอบแทนในเมื่อมีโอกาส เป็นการประกาศให้ทราบว่าเป็นคนน่าคบหา
สมาคม แม้ฝ่ายหนึ่งล่วงลับไปแล้ว ก็ยังระลึกถึงและหาทางสนองคุณ
ฉะนั้นเมื่อมารดาบิดาล่วงลับไปจึงเป็นหน้าที่ ที่ลูกต้องทำบุญอุทิศให้
โดยแท้ ถ้าอยากเป็นลูกดี ก็ควรนึกถึงภาษิตเตือนใจบทหนึ่งที่ว่า

ลูกไม่ดี มีเท่าไร ไม่คุ้ม
ดุจลูกตุ้ม แกว่งไกว ไพร่สถุล
แต่ลูกดี มีหลัก รู้จักคุณ
หมั่นทำบุญ อุทิศให้ เมื่อวายปราณ.

การทดแทนพระคุณมารดาบิดานั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ตรัสไว้ ในมาตาปิตุคุณสูตรทุตนิบาต อังคุตตรนิกาย ความว่า
ภิกษุทั้งหลาย เราไม่กล่าว การทำตอบแทนได้ง่ายแก่ท่าน
ทั้งสอง ท่านทั้งสองนั้นคือใคร? คือ มารดาบิดา บุตรพึงประคับ
ประคองมารดาด้วยบ่าขวาบิดาด้วยบ่าซ้าย เขามีชีวิตอยู่ถึง
๑๐๐ ปี และเขาพึงบำรุงมารดาบิดานั้น ด้วยการอบกลิ่น การนวด
การให้อาบน้ำ และการดัด และท่านทั้งสองนั้นพึงถ่ายอุจจาระ
ปัสสาวะรดบนบ่าทั้งสอง นั่นแหละ
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่งบุตรพึงสถาปนามารดาบิดาไว้ในราชสมบัติ
อันเป็นอิสราธิปัตย์แห่งแผ่นดินใหญ่นี้ อันมีรัตนะ ๗ ประการมากมาย
กิจอย่างนั้นยังไม่เป็นอันบุตรทำแล้วหรือทำตอบแล้วแก่มารดาบิดา
นั้นเลย ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุไร? ภิกษุทั้งหลาย เพราะมารดาบิดา
เป็นผู้มีอุปการะมาก เป็นผู้บำรุงเลี้ยง แสดงโลกนี้แก่บุตรทั้งหลาย
ภิกษุทั้งหลาย ก็บุตรใดและยังมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธาให้ดำรงมั่นอยู่ในศรัทธา ยังมารดาบิดาที่ทุศีลให้สมาทานดำรงมั่นอยู่ในศีล
ยังมารดาบิดาตระหนี่เหนียวแน่น ให้ดำรงมั่นอยู่ในจาคะ ยังมารดา
บิดาผู้ไร้ปัญญา ให้สมาทานดำรงมั่นอยู่ในปัญญา ภิกษุทั้งหลาย
ด้วยเหตุนี้มีประมาณเท่านี้แหละ กิจนั้นจึงชื่อว่า เป็นอันบุตรทำแล้ว
ทำตอบแทนแล้ว ทำยิ่งแล้วแก่มารดาบิดา ดังนี้ เมื่อลูกทำได้ดังแสดง
มานี้ จึงชื่อว่าเป็นการทดแทนพระคุณท่าน เป็นเหตุให้บุตรได้รับ
ผลานิสงส์หลายประการคือ
๑. เป็นมงคล คือมีความสุขความเจริญแก่ชีวิต
๒. เปน็ ที่สรรเสริญของนักปราชญ์
๓. เป็นเหตุให้ปฏิบัตินั้นพ้นจากทุกข์ทั้งปวง
เพื่อจะแสดงอานิสงส์ของบุตรเพื่อเลี้ยงมารดาบิดานั้น พระ
สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่อง พญานกแขกเต้าบรมโพธิสัตว์เป็น
อุทาหรณ์ ความว่า
ดังได้ยินมาแต่กาลก่อน พระบรมโพธิสัตว์ เสวยพระชาติ
เป็นพญานกแขกเต้า อาศัยอยู่ป่าไม้งิ้ว แถบไหล่เขา วันหนึ่งพาบริวาร
ไปหาอาหารยังป่าหิมพานต์ เพื่อเลี้ยงมารดาบิดาของตน ครั้งนั้น
มีพราหมณ์ผู้หนึ่งชื่อว่าโกสิยะพราหมณ์ อาศัยอยู่ในสาลิยะคาม
พราหมณ์ได้ใช้บริวารไปหว่านข้าวสาลี ในเนื้อที่ประมาณ ๗,๐๐๐ ไร่
แล้วให้บริวารอยู่รักษา พระโพธิสัตว์ก็พาบริวารไปลงในนาของ
โกสิยะพราหมณ์ ฝูงนกแขกเต้าทั้งหลาย กินอิ่มแล้วบินมาแต่ปากเปล่า
ส่วนพระโพธิสัตว์เจ้ากินแล้วก็คาบรวงข้าวมาเลี้ยงมารดาบิดาทุก ๆ วัน
บุรุษที่รักษานาข้าวสาลี จึงไปบอกแก่โกสิยะพราหมณ์ พราหมณ์ก็สั่ง
ให้จับพญานกแขกเต้าทั้งเป็น อย่าฆ่าให้ตาย บุรุษผู้รักษานาก็ทำบ่วงแล้วดักพระโพธิสัตว์ จับพระโพธิสัตว์ได้ มัดมาให้แก่พราหมณ์
พราหมณ์จึงไต่ถามว่า ดูกรท่านผู้เป็นปักษี ท่านมาคาบรวงข้าวสาลี
ของเราไปทุก ๆ วัน ท่านมีความโกรธเคืองเราหรือ ๆ ท่านนำไปใส่
ยุ้งใส่ฉางไว้เป็นประการใด พระโพธิสัตว์จึงแจ้งว่า เรามิได้โกรธเคือง
ท่าน ยุ้งฉางสำหรับใส่ก็ไม่มี เรานำข้าวสาลีของท่านไปเพราะเหตุ
๓ ประการ คือ
๑. เอาไปใช้หนี้เก่า
๒. เอาไปฝังไว้
๓. เอาไปให้เขายืม
พราหมณ์จึงถามว่า เอาไปใช้หนี้เก่าก็ดี เอาไปฝังไว้ก็ดี
เอาไปให้เขายืมก็ดี ท่านทำอย่างไร? พระโพธิสัตว์บอกว่า
เอาไปใช้หนี้เก่า นั้นคือ เอาไปเลี้ยงมารดาบิดาที่ชราหากิน
ไม่ได้ ท่านเลี้ยงเรามาไว้เติบใหญ่ เหมือนหนึ่งเป็นเจ้าหนี้เราควรเลี้ยง
ดูท่านเหมือนเป็นลูกหนี้ เพราะฉะนั้น เราจึงคาบรวงข้าวสาลีไปให้
แก่มารดาบิดาทุกวัน
เอาไปฝังไว้ นั้นคือไปให้นกทั้งหลายที่เจ็บไข้และมีขนปีก
ยังอ่อนหากินไม่ได้ ให้เป็นทานการกุศล
เอาไปให้เขายืม นั้นคือ เอาไปให้ลูกยังอยู่ในรังยังหากินไม่ได้
นานไปเขาโตใหญ่ เขาจะเลี้ยงเราเมื่อแก่ชรา
พราหมณ์ทราบดังนั้น มีความโสมนัสยินดี บอกแก่พระ
โพธิสัตว์ว่า นับแต่นี้ไป เราจะมอบนาข้าวสาลีให้ท่าน จงพาบริวาร
มากินเถิด แล้วแก้เชือกที่มัดเท้าออกให้ ฝ่ายพระโพธิสัตว์ก็รู้จัก
ประมาณ รับเอาเพียงเนื้อที่ ๘ ไร่เท่านั้น แล้วให้โอวาทแก่พราหมณ์ให้ตั้งอยู่ในธรรมสุจริต ลาพราหมณ์ไปสู่ป่าไม้งิ้วอันเป็นที่อยู่แห่งตน
เรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่า การเลี้ยงมารดาบิดานั้นเป็นมงคล คือเป็น
ความดีสำหรับผู้ปฏิบัติ ดังเช่นพระยานกแขกเต้า ได้รับนาข้าวสาลีจาก
พราหมณ์ ไม่ต้องเดือดร้อนอีกต่อไป เป็นที่สรรเสริญของนักปราชญ์
คือผู้รู้ ดังเช่นพญานกแขกเต้าได้รับการสรรเสริญจากโกสิยะพราหมณ์
เป็นเหตุทำตนให้พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง เหมือนพญานกแขกเต้า
ได้รับอิสระพ้นจากเครื่องพันธนาการของพราหมณ์
เพราะฉะนั้น เราทั้งหลายหญิงชายที่เกิดมาจงอย่าได้ประมาท
จงปฏิบัติมารดาบิดาให้มีความสุข ทั้งส่วนที่เป็นอามิสบูชา และปฏิบัติ
บูชา เพราะเหตุว่ามารดาบิดา เป็นผู้มีคุณมาก จะเอาแผ่นดินและน้ำ
ท้องฟ้าอากาศและเขาสุเมรุราช มาชั่งด้วยคุณมารดาบิดาเบากว่า และ
ยังชื่อว่าผู้ปฏิบัติย่อมได้รับประโยชน์ทั้งชาตินี้และชาติหน้าด้วย
แข่งบุญวาสนาเราแข่งกันไม่ได้ ภาษิตท่านกล่าวไว้ว่า ยามบุญมา
กาไก่กลายเป็นหงส์ ยามบุญลงหงส์เป็นกาน่าฉงน น้ำไม่เซาะ
เกาะไม่พังพึงวังวน วิสัยผลที่จะผลิตเพราะเหตุมี หรือดังคำพังเพย
ที่กล่าวว่า เวลาบุญมา ปัญญาก็ช่วย ที่ป่วยก็หาย ที่หน่ายก็รัก เวลา
บุญไม่มา ปัญญาก็ไม่ช่วย ที่ป่วยก็หนัก ที่รักก็หน่าย สิ่งทั้งหมด
ที่มันปรากฏการณ์อยู่แก่ตัวเราในปัจจุบัน มันเป็นผลที่ไหลมาจากเหตุ
จากภพก่อนทั้งนั้น สมดังคำพระอัสสชิเถระกล่าวแก่อุปติสสะมาณพว่า
เย ธมฺมา เหตุปพฺพวา เตสํ เหตุ ตถาคโต
ธรรมทั้งหลายย่อมไหลมาจากเหตุ คือมีเหตุเป็นแดนเกิด
พระตถาคตตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น ดังนี้.




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 07:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5326


 ข้อมูลส่วนตัว


ใช้ค่าน้ำนมแม่
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
ใครทำกรรมฐานได้ จะรู้น้ำพระคุณของแม่น้ำใจของพ่อ
รู้แน่ ๆ คือรู้จักตัวเอง สร้างความดีให้เห็นเด่นชัดขึ้นมา นั่นแหละ
ใช้ค่าน้ำนมของแม่ได้ โยมจะเป็นสาว หรือเป็นผู้สูงอายุ หรือพ่อแม่
ล้มหายตายจากไปแล้วด้วยกันทุกคนก็ตาม สามารถติดตามผลไป
ช่วยพ่อแม่ที่ลงนรกได้ พ่อแม่ที่ป่วยไข้ขอให้หายวันหายคืน ฟื้นคืน
มาอยู่กับลูกกับหลานต่อไป เป็นการสวัสดีมีชัยในโลกมนุษย์ต่อไปเถิด
ประเสริฐที่สุด ซึ่งได้มาจากการเจริญวิปัสสนาสูงสุด
ลูกทำกรรมฐานให้แม่
เด็กหญิงทัศนีย์ อยู่โรงเรียนสงวนหญิง จ.สุพรรณบุรี บ้าน
ตำบลมะขามล้ม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เธออยู่ ม.๑
ไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน ๒๘๐ คน เมื่อสมัยนั้น ๕-๖ ปีแล้ว
แม่เป็นโรคมะเร็ง แม่เป็นครูที่โรงเรียนที่อำเภอบางปลาม้า วาระสุดท้าย
ของโรคมะเร็งขั้นสุดท้ายแล้ว เหลือแต่กระดูก อาเจียน มดลูกเน่า
หมดแล้ว ต้องตายภายใน ๓ เดือน แต่ลูกสาวคนนี้ดีมาก ก็เรียนให้
อาตมาทราบว่า หลวงพ่อคะ หนูนี่แม่จะตายแล้ว หนูยังไม่ได้ทดแทน
บุญคุณพ่อแม่เลย แม่ก็จะมาตายแล้ว ถ้าแม่ตายแล้วหนูจะอยู่กับป้าก็ไม่เหมือนอยู่กับแม่ อะไรหนอจะอุ่นเท่ากับตักแม่เราไม่มีแล้ว
พูดน่าสงสาร หลวงพ่อคะ หนูจะช่วยแม่ได้อย่างไรบ้าง หนูมีศรัทธา
ไหม นั่งกรรมฐาน พอนั่งกรรมฐานได้ ๓ วัน โรงเรียนสงวนหญิง
ลากลับ อาจารย์บรรเลง เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการ จังหวัดสุพรรณบุรี
ก็บอกว่าหลวงพ่อ ฝากเด็กไว้สักคนหนึ่งนั่งกรรมฐานต่อ ๗ วัน
สวดพาหุงมหากาฯ เข้า หลวงพ่อคะ หนูจะทำได้ไหมคะ ถ้าหากว่า
แม่จะต้องตาย ทดแทนบุญคุณแม่ด้วยน้ำนมที่แม่เลี้ยงมาได้ไหม ได้
เลยเขาก็นั่งกรรมฐานต่อไป ๗ วัน กลับไปแม่หายจากโรคมะเร็ง
จนทุกวันนี้ บัดนี้ ด.ญ.ทัศนีย์ เป็นนางสาวทัศนีย์ อยู่ ม.๖ โรงเรียน
สงวนหญิง สุพรรณบุรี ไปถามได้เดี๋ยวนี้ ลูกช่วยพ่อแม่ได้แน่นอน
พ่อแม่กำลังป่วยไข้ ลูกสาวหรือลูกชายเจริญสมาธิ สวดพาหุงมหากาฯ
สวดพุทธคุณเท่าอายุเกินหนึ่ง แม่กลับหายจากโรคมะเร็งได้จนทุกวันนี้
ขอฝากไว้ว่าลูกช่วยพ่อแม่ได้ พ่อแม่ก็ช่วยลูกได้ ต้องการให้บุตรธิดา
ของท่านเป็นคนดี ท่านทั้งสองสามีภรรยาอย่าทะเลาะกัน แล้วก็สวด
มนต์ไหว้พระ สวดพาหุงมหากาฯ เข้า อธิษฐานจิตให้ลูกท่านเป็นคนดี
เท่านี้เอง ลูกท่านจะกลับร้ายกลายเป็นดี จะไม่ไปในส่วนร้ายต่อไป
ก็เกิดประโยชน์ดี

กันอยู่ที่แม่ แก้อยู่ที่พ่อ ก่ออยู่ที่ลูก ปลูกอยู่ที่ครู ความรู้อยู่ที่ศิษย์
จะได้เป็นมิตรกัน


ลูกไม่ดีแก้ที่พ่อ-แม่ พ่อ-แม่ไม่ดีแก้ที่ลูก
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี ลูกไม่ดีแก้ที่พ่อแม่
พ่อแม่กินเหล้าเมายาสอนลูกให้เป็นโจร ต้องแก้ที่ลูก ให้ลูกสร้างแต่
ความดี อย่าเชื่อฟังพ่อแม่ที่สอนลูกให้เป็นโจร ขอฝากท่านไว้
ไม่ใช่เข้าวัดไปหาพระช่วยนะ พระท่านช่วยไม่ได้ แต่ตถาคต
เพียงชี้บอกหนทางให้เราเดินกันเท่านั้น ให้เราทำหน้าที่ให้ถูกต้อง
สำหรับมนุษย์ แต่ถ้าท่านทำหน้าที่ไม่ถูกต้องและก็ปฏิบัติไม่ถูกทาง
พระท่านจะช่วยได้ไหม ยกตัวอย่าง ขออภัยที่จะขออนุญาตกล่าว
ถ้าท่านดื่มเหล้าเมาสุรา เล่นการพนันมีอบายมุข สนุกในสังคมแล้ว
ก็ไปบนบานศาลกล่าวขอให้พระช่วย พระคงช่วยท่านไม่ได้
อย่างแน่นอน ท่านอย่าโง่ต่อไป ท่านจะเป็นชาวพุทธซังกะตาย เป็น
ชาวพุทธ แบบฟอร์ม ไม่เข้าถึงพระพุทธศาสนาโดยแท้จริง เข้าใจว่า
พระพุทธศาสนาคือเครื่องรางของขลัง เป่าหัวให้ลูกหน่อยจะได้สอบ
เข้ามหาวิทยาลัยได้ แต่แม่เช่าหนังมาให้ลูกดูทุกวัน พระช่วยไม่ได้
ท่านตีความให้เข้าใจในข้อนี้ให้มากที่สุด

พ่อ-แม่ที่ดี ต้องทำดีให้ลูกเห็น
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
พ่อแม่ที่ดี สร้างความดีให้กับลูก ทำถูกให้กับหลาน
พ่อแม่ที่ดี รักลูกให้ถูกวิธี ทำความดีให้ลูกดู
อันนี้กรรมฐานทั้งหมด ไม่ใช่นอกกรรมฐานเลย พ่อแม่ที่ไม่มี
กรรมฐาน ไม่มีศีล สมาธิ ปัญญาแล้ว จะสร้างแต่ความไม่ดีให้กับลูก
ทำไม่ถูกไว้กับหลาน แถมรักลูกไม่ถูกวิธี ทำความไม่ดีให้ลูกดู
ยกตัวอย่างให้เห็น เช่น พ่อแม่ทะเลาะกันให้ลูกเห็นให้ลูกฟัง พ่อก็
ดื่มเหล้าให้ลูกเห็น แม่ก็เล่นการพนันให้ลูกดู พ่อแม่รบราฆ่าฟันกัน
ทะเลาะกัน ลูกก็เห็นกำหนดจดจำเป็นกฎแห่งกรรมใช่หรือไม่
ท่านทั้งหลายเอ๋ย ฟังแล้วคิดสักหน่อย ไม่ใช่พูดให้ท่านมี
ความรู้ ที่บรรยายธรรมะมานี้ ถ้าโยมปฏิบัติจิตได้จะเห็นด้วย ๑๐๐%
พ่อมีสติแม่มีสติสัมปชัญญะ ลูกดีทุกคน ไม่ทำแบบเสียให้ลูกดู
รักวัวให้ผูก รักลูกต้องตี รักมีต้องค้า รักหน้าต้องคิด รักมิตรต้อง
เตือนกัน รักวัวต้องผูกไว้ เดี๋ยวมันจะหาย จะเสียดายมัน

ปลุกลูกให้ตื่น เสกลูกให้เป็นงาน
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
ถ้าท่านได้กรรมฐานแล้ว ท่านจะไปปลุกลูกให้ตื่น เสกลูกให้
เป็นงาน จะพูดกับลูกก็เพราะ ไม่ดุไม่ด่าลูกต่อไป และเป็นภรรยา
แม่บ้านแม่เรือนที่ดี จะไม่ด่าเสียดสีสามีเลย สามีก็เห็นใจภรรยา
จะไม่ว่าเสียดสีภรรยาเช่นเดียวกัน ยกย่องภรรยา อุตส่าห์เลี้ยงลูก
ตั้งหลายคน และยังเอาใจใส่สามีอย่างดีด้วย ภรรยาก็เห็นใจสามี
หาเงินหาทองมากมายไว้ในครอบครัว ผู้ที่จะรู้จริงอย่างนี้ต้องเจริญ
กรรมฐาน
ถ้าท่านเจริญกรรมฐานเข้าขั้นของเขาแล้ว โยมจะรู้เลยว่า
มีกรรมอะไรลูกจึงเป็นเช่นนี้ พ่อแม่หูดีตาดี มีลูก ๖ คน หูตึงหมดเลย
เป็นเพราะอะไร ถ้าโยมเจริญกรรมฐานเข้าขั้นของเขาแล้ว ปัญญา
เกิดแล้ว จะได้รู้ว่าทำไมลูกหูตึงหมด เพราะเวรกรรมตามสนองมา
ครั้งอดีตชาติ ควรจะแก้ไขอย่างไร น่าจะเข้าใจตรงนี้
หนามแหลมใครเสี้ยม มะนาวกลมเกลี้ยงใครไปกลึง
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
เรื่องมีอยู่ว่า มีเด็กประถม ๔ คนหนึ่ง เดี๋ยวนี้เป็นดอกเตอร์
อยู่สหรัฐอเมริกา พ่อกินเหล้า สูบกัญชายาฝิ่น ชอบเล่นการพนัน ตีไก่
อยู่ที่บางระจัน สิงห์บุรี แม่ก็หาหวยตามวัด อาตมาดูหนูคนนี้แล้วบอก
ต้องเป็นใหญ่เป็นโตแน่ จดไว้เป็นกฎแห่งกรรม ติดตามดูแลโดย
ต่อเนื่อง อาตมาประสบมาเราก็ต้องจดต้องจำ จึงจะกำหนดจดจำ
ก็จดชื่อไว้ บอกเด็กไปว่าหลวงพ่อจะสอน จะให้ตังค์ไป ๑๐๐ บาท
ถามว่า เขาเกิดวันอะไร เขาบอกเกิดวันอังคาร หลวงพ่อสอนเด็กคนนี้
ครั้งเดียวจำได้ บอกวันเกิด หนูซื้อขนม ๒ ห่อ เรียกพ่อแม่มาคู่กัน
แล้วกราบนะลูกนะ พ่อก็เมา แม่ก็บอกเดี๋ยวจะรีบไปวัด ลูกก็บอกเดี๋ยว
ความผิดอันใดที่ลูกพลั้งเผลอด้วยกาย วาจา ใจ ที่คิดไปไม่ดีต่อคุณพ่อ
คุณแม่ ขอให้คุณพ่อคุณแม่อโหสิกรรมให้แล้วล้างเท้าให้พ่อแม่ ลูก
ไม่มีสตางค์ ลูกซื้อขนมมา ๒ ห่อ ให้แม่ก่อน ๑ ห่อ เพราะแม่อุ้ม
ท้องมา แล้วจึงให้พ่ออีก ๑ ห่อ ลูกขอปฏิญาณตนว่า ลูกขอเป็นลูกที่ดี
ต่อพ่อแม่แล้วจะเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ ลูกจะไม่ทำให้พ่อแม่
ผิดหวัง แล้วลูกจะเรียนหนังสือให้เก่งให้ก้าวหน้า พ่อฟังแล้วน้ำตาร่วง
สร่างเมาเลย ส่วนแม่ก็ร้องไห้ ลูกไปโรงเรียนแล้ว พ่อแม่ก็สำนึกได้
บอกลูกมันปฏิญาณตนเป็นคนดีแล้ว เรายังทำตัวอย่างไม่ดีให้ลูกดู
อีกหรือ ตกลงพ่อแม่ก็ปฏิญาณตนกัน พ่อก็บอกข้าจะเลิกสูบกัญชา

เลิกกินเหล้า และข้างฝ่ายแม่ก็เลิกหาหวยตามวัด ลูกจบปริญญาโท
ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปต่อดอกเตอร์ที่สหรัฐฯ ได้ดีแล้วเขาก็ไม่
ลืมวัดอัมพวัน ไม่ลืมอาตมา ยังมาทำบุญถวายข้าวสารทีละ ๕๐
กระสอบ
ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
ญาติโยมก็เช่นเดียวกัน เป็นผู้นำเขาต้องตามดูตัวเองว่าทำถูก
หรือผิดประการใด แล้วก็ไปดูลูกของตัวเองด้วย ลูกดีหรือลูกชั่ว
ประการใด ไปแก้ไขให้ทันปัจจุบัน ถ้าแก้ไขไม่ได้ ลูกเสียหายไม่ต้อง
ไปแก้ จนโตเหมือนต้นตาล เป็นหนุ่มเป็นสาวใหญ่ แล้วก็แก้ไม่ได้
แม่ทุกคน ไม้อ่อนบอกอ่อนหัดไม้แก่ไปแก้มันได้หรือ มันจะรัดเอา
มันแก่ แก่เกินการเกิด แก่เกินแก้ แล้วจะแก้ไม่ทัน มันจะเสียกาลเวลา
ไม้แก่นี่ดัดยาก มันจะหักกลางคัน ไม้อ่อนบอกอ่อนหัด พอดัดได้
นี่อย่างนี้เป็นต้น

มีลูกต้องเสี้ยมสอน
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
ขอฝากเป็นการบ้านไปด้วยว่า มีลูกมีหลานหัดสวดมนต์
ลูกจะได้ว่านอนสอนง่าย เจอพระธุจ๊ะ นมัสการ เจอคนแก่เลี่ยงทาง
จะอ่อนน้อมถ่อมตน โดยไม่ต้องตามไปสอนลูกอีกต่อไป
เรามีลูกต้องเสี้ยมสอนนะ ถ้าไม่เสี้ยมสอน มันเป็นไปไม่ได้
ต้องฝึกลูกตั้งแต่ยังเล็ก ๆ นกอยู่ในกรงให้รีบสอน มีปีก มีหาง หนี
ออกจากกรงแล้ว ไม่ต้องตามไปสอนนะ จะเสียใจอย่างน่าเสียดาย
ลูกกระด้างลางแข็งมาจากพ่อแม่ไม่ดี ไม่เคยสอนลูกสวดมนต์
ไหว้พระ ลูกจะมีระเบียบวินัยได้อย่างไร พ่อแม่เขายังไม่มีระบบ
จะให้ลูกเขามีระเบียบยังไม่ได้ เป็นที่พ่อแม่นำไม่ดี และไม่ได้ตามดูลูก
แต่ประการใด ผลงานร้ายก็ออกมาจากลูกของเขาด้วยพ่อแม่นั่นเอง
พ่อแม่ดีมีปัญญา ลูกหลานดีหมด ถ้าพ่อแม่ไม่มีเหตุมีผล
ลูกหลานเสียหมด ติดยาเสพติดในสังคม โปรดดูลูกหลานต่อไปด้วย

ให้ลูกดีตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
โบราณท่านพูดไว้ บวชเณรให้แม่ บวชพระให้พ่อ เขาพูดกัน
อย่างนั้น เรามานึกดูว่าทำไมหนอบวชเณรจึงให้แม่ บวชพระให้พ่อ
เราจะเห็นล้านนาไทย มีลูกแก้วลูกขวัญตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ ปู่ย่าตายาย
รับมิ่งชิงขวัญ ลูกเกิดมาเป็นชาย เขาเรียกลูกแก้วลูกขวัญ ลูกที่จะดำรง
วงศ์ตระกูลต่อไป บรรพชาเป็นสามเณรล้านนาไทย เขาจะแห่รอบบ้าน
ขี่คอแต่งตัวเหมือนเทวดา ว่าบ้านนี้มีชายโสภา ลูกดีมีปัญญา ลูกแก้ว
ลูกขวัญ แห่กันรอบหมู่บ้านของตน
เข้ามาวัดแห่มา ญาติวงศ์พงศามากมายเป็นการรับมิ่งชิงขวัญ
ว่าลูกแก้วลูกขวัญยังเด็กเล็กนัก มาบรรพชาเป็นสามเณร คนแก่คนเฒ่า
ก็มารับมิ่งชิงขวัญ เชิญบายศรีขึ้นหลัก ดอกไม้นานาชนิด และเอาด้าย
สายสิญจน์มาผูกมือลูกหลานรับมิ่งชิงขวัญ เรียกสามเณรแก้วสามเณร
ขวัญ จะดำรงวงศ์ตระกูลเขาต่อไป นี่แหละพ่อแม่ครั้งโบราณรักลูก
อย่างนี้ เขาก็ต้องให้ลูกดีตั้งแต่ลูกหัวเท่ากำปั้น

สร้างความดีไว้ให้กับลูก
• สร้างถูกในการใช้สถานที่ทางพระพุทธศาสนา คือ วัด หรือ
สถานที่ต่าง ๆ (ไม่ทำบาป ทำชั่ว ในสถานที่นั้น)
• สร้างถูกในการจัดงานบวช ไม่มีอบายมุขในงานบวชนั้น ๆ
• สร้างถูกในการจัดงานศพ ไม่มีอบายมุขในงานศพนั้น ๆ
• สร้างถูกในการเคารพทิศทั้ง ๖ (เบื้องหน้า - ขวา - ซ้าย -
หลัง -บน - ล่าง)
• สร้างถูกในการรู้จักแสวงหาอริยทรัพย์ภายใน
• สร้างถูกเรื่องเห็นโทษของอบายมุขทั้ง ๖
• สร้างถูกเรื่องเห็นคุณของชีวิตในกาลทั้ง ๓ กาล
• สร้างถูกเรื่องการเคารพเวลา
• สร้างถูกเรื่องการเคารพผู้สูงโดยวัย - โดยชาติ - โดยคุณธรรม
- สมณพราหมณ์ - ศีลธรรม - กฎหมาย
• สร้างถูกเรื่องไม่นอนตื่นสาย - ไม่อายหากิน -
ไม่หมิ่นเงินน้อย - ไม่คอยวาสนา
• สร้างถูกเรื่องแต่งตัวพอเหมาะพอดี ไว้ผมพอเหมาะพอดี
• สร้างถูกเรื่องการรักนวลสงวนตัวของกุลสตรี
• สร้างถูกเรื่องให้เห็นความสำคัญในวันสำคัญทางพระพุทธ
ศาสนา




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ



ร่วมกันปรับปรุงห้องน้ำวัดหมื่นสาร ถนนวัวลาย อ.เมือง จ.เชียงใหม่
081 7646556


ขอเชิญร่วมปลูกป่า สร้างวัดสวนป่าบุญฤทธิ์ อ.วังน้ำเขียว วันที่ ๖-๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕
๐๒-๘๖๕-๕๖๔๖


เชิญร่วมสร้างตึกสงฆ์อาพาธ ร่วมกับหลวงปู่ทอง วัดพระธาตุจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่



ร่วมเป็นเจ้าภาพปูพื้นกระเบื้องศาลาปฏิบัติธรรม รับเพชรพญานาค
080-0439156



ร่วมสร้างบุญใหญ่พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ขนาด 7 ศอก วัดป่าพรหมญาน
วัดป่าพรหมยาน ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา


ที่พักสงฆ์ทุ่งรวงทองขอเชิญญาติโยมร่วมสร้างลานปฏิบัติธรรม
0828403623<O </O





ขอประทานความเมตตา ถวายทุนทรัพย์สร้างถนนเข้าวัดม่อนป่าสัก จ.พะเยาด้วย
โทร. ๐๘๖-๙๑๔-๖๕๔-๘



ขอเชิญร่วมสมทบทุนสร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาท
ขอเชิญร่วมบริจาคสมทบทุนได้ที่ ธ.ธกส.บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 5568026708 ชื่อบัญชี คุณพูลทรัพย์ภสิทธิ์ ภิวงศ์



เชิญชวนร่วมทำบุญสร้าง ศาลา/กุฎิ ที่บรรจุร่างหลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ
วัดขนอนเหนือ ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

ขอเชิญร่วมบุญสร้างโบสถ์ สร้างรั้ว กับวัดเวฬุวันคีรีวงค์
โทร.0813837748


ด่วน ประดับองค์ พระยอดพระเกศอุณาโลม ทาสี เจ้าภาพฉัตรทอง
โทร0856044849 หรือ 0904935499 ได้ทุกวัน


ด่วน ขอเชิญเป็นเจ้าภาพซื้อดินถมที่วัดบนเขา อานิสงค์มาก บอกต่อได้กุศล
0856044849

ร่วมสร้างอุโบสถแก้วกลางน้ำและเสนาสนะภายในวัดวีระโชติธรรมาราม ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา 24000
ติดต่อสอบถามได้ที่ พระครูปลัดเฉลิมพล 087-922-4888



ขอเชิญท่านที่มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสร้างพระอุโบสถ (พระวิหาร) ณ สำนักสงฆ์บ้านนาเงิน
085-1253371







ร่วมสร้างถนนเทคอนกรีตเข้า วัดป่าคำสง่าภูยอ อ.เขมรา




เชิญร่วมสร้างพระอุโบสถฟื้นวัดโบราณ ๕๒๑ ปี
โทร. ๐๘๖-๙๑๔-๖๕๔๘


ร่วมถวายแสงสว่าง ณ องค์พระมหาเจดีย์ศรีสุวรรณภูมิ
โทร. 081-857-5897


ขอเชิญร่วมบริจาคสมทบทุนสร้างร.พ.ผู้สูงอายุ ติดต่อที่ มูลนิธิกรุงเทพมหานคร ๒๕๕๒


ขอเชิญผู้มีบุญบารมีทุกท่าน ร่วมสร้างพระนาคปรก 9เศรียร
083-2894990


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพรอยพระพุทธบาทจำลองขนาด1เมตร
0894799162


ขอเชิญร่วมสร้างศาลาหอฉัน และ หล่อพระสมเด็จองค์ปฐมปางจักรพรรดิ
โทร. 088 – 4746010


ขอเชิญร่วมสร้างรูปหล่อหลวงปู่ทองทิพย์ มหาโพธิสัตว์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง
โทร. 088 – 4746010


เชิญชวนสร้างพระพุทธรูปที่ จ.ขอนแก่น
ณ วัดป่าเทพนิมิตรประสิทธิ์วนาราม ตำบลสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ในวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน 2555 เวลา 9.00 น



ขอเชิญร่วมงานยกช่อฟ้าอุโบสถวัดธรรมยานจ.เพชรบูรณ์ 15 ก.ค. 55


ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างพระมหาเจดีย์ถวายหลวงพ่อคำบ่อ ฐิตปัญโญ ณ.วัดใหม่บ้านตาล
087-859-9129


ร่วมบุญใหญ่สร้างศาลาเจดีย์พระวิหารหลวงพ่อสุก
088-3529078



ขอเชิญร่วมสร้างหอพระ สำนักสงฆ์สิมเก่าศรีมงคล จ.ศรีสะเกษ ครับ
มูลนิธิของทางสำนักสงฆ์สิมเก่าศรีมงคล หมายเลขบัญชี
487-052-518-7 ธนาคารกรุงเทพ สาขาอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ



สร้างสมเด็จพระมารดา นานาชาติ ร่วมกันถวายบุญนี้แด่แม่ของพวกเราทุกภพชาติ
0860152130


ขอเชิญร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพสร้างห้องน้ำ วัดบ้านหนองม่วงหวาน
โทรศัพท์ ๐๘-๗๓๓๑-๑๓๘๗


บุญด่วนทันใจ..หล่อพระพุทธปรกพุทธชยันตยานุสรณ์
โทร. 089-8523498

สมทบทุนสร้างโรงยิมในร่มโรงเรียนวัดโฆสิตาราม
http://www.watkositaram.com/index.php?o ... &Itemid=39

เชิญร่วมบุญสร้างโบสถ์ วัดหลักเมือง ปัตตานี0836586761

วัดป่าน้อยบ้านหนองฟ้า ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ได้จัดสร้าง พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ขนาดหน้าตักประมาณ ๒ เมตร และปิดทองทั้งองค์ ซึ่งต้องใช้ปัจจัยจำนวนประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ประสงค์จะบอกบุญแก่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญปิดทองพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมดังกล่าว


ด่วน..ต้องการเจ้าภาพหลังคาสรรไท ทั้งหมดทั้งสิ้น 56,423 บาท
โทร.๐๘๕-๑๙๘-๒๙๑๑


ขอเชิญชวนร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระพุทธชินราช สูง 40 ม.
0896760389
ขอเชิญสาธุชนร่วมซ่อมแซมศาลาของสำนัึกปฏิบัติธรรมรัตนบรรพรต
๐๘๔ ๓๘๖ ๓๓๙๙


ร่วมเททองหล่อรูปเหมือน(ยืนเท่าองค์จริง) หลวงพ่อพุธ ฐานิโย 9 พ.ค.55
พุทธาภิเษก และวางศิลาฤกษ์มณฑปอุโบสถ วัดป่าเขาจำปา ฐานิยะเถรปฏิปทาราม (ธ) 83 บ้านซับน้อย หมู่ 7 ต.ลำนางแก้ว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา 30150 ในวันพุธ (พืชมงคล) ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 (แรม 4 ค่ำ, เดือน 6 ปีมะโรง)


พระอาจารย์เยื้อนสร้างกุฏิวัดบางแสม บางปะกง ฉะเชิงเทรา จึงขอเชิญร่วมบุญ


ร่วมสร้างเจดีย์วัดป่าสุทธิมงคล (หลวงปู่โฮม ญาณธัมโม) อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร
หากท่านใดมีจิตศรัทธา สามารถร่วมทำบุญบริจาคได้ที่ <O </O
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์<O </O
สาขาป่าติ้ว ประเภทออมทรัพท์<O </O
เลขที่บัญชี 551-200-9995<O </O
พระโฮม ญาณธัมโม/นางนุกูล หอมหวล <O </O
หรือ ทำบุญถวายได้โดยตรง ที่กุฏิหลวงปู่ฯ ณ.วัดสุทธิมงคล อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร <O </O
หมายเหตุ เป็นบัญชีส่วนองค์หลวงปู่โดยตรง ที่ใช้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุถือสมุดโดยลูกสาวหลวงปู่โฮม ญาณธัมโม<O </O


!!งานบุญด่วน พัฒนาพิพิธภัณฑ์พระธาตุวัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย


สืบเนื่องจากการหล่อพระเจ้า 28 พระองค์ สำนักสงฆ์ดอยวังเฮือ จ.ลำปาง
โทร. 081-821-6583


ขอเชิญชวนซื้อหินแดงปรับพื้นเพื่อการสร้างพระประธาน 109 นิ้ว
086-0152130


บุญด่วน++ถวายปัจจัยพระคุณเจ้าในพิธีเททองหล่อพระ วันวิสาขบูชา
089-6427273


ร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างกำแพงวัด ช่องละ ๑,๐๐๐ บาท
________________________________________
โทร ๐๘๓-๑๑๔๓๖๘๑

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระพุทธรูป,พระอัครสาวก,พระอานนท์ แกะสลักจากไม้ตะเคียนทอง
087-6599998

บุญวิหารทานขอเชิญร่วมสร้างศาลาปฎิบัติธรรม (แม่ชีถ้ำเขากา) 4 แยกตากฟ้า จ.นครสวรรค์
โทร 085-731-4628

ขอเชิญเป็นเจ้าภาพร่วมถวายพระในโครงการพระพุทธมหากรุณาโปรดไตรภพจรดโลกันต์
________________________________________นายปัญญา โตมะ
บัญชีออมทรัพย์ธนาคารทหารไทย สาขาเซ็นทรัลเวิลด์
บัญชีเลขที่ 216-2-13403-1

โครงการหล่อองค์พระพุทธเจ้าน้อย
ท่านที่สนใจสามารถร่วมทำบุญแผ่นทองได้ที่ 7-eleven ทุกสาขา และ ไปรษณีย์ไทย


สร้างพระประธานวัดสายป่ากรรมฐาน วัดที่ขาดแคลน
หมายเลขบัญชีสำหรับผู้่ที่จะร่วมบุญสร้างพระประธานองค์แรกของวัดสายป่ากรรมฐาน ธนาคารเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) สาขากุยบุรี ชื่อบัญชี วัดหาดขาม หมายเลขบัญชี 2352145608

ขอเชิญซื้อทองคำเพื่อร่วมเททองพระประธาน 99 นิ้ววัดเขาวงศ์ สุพรรณบุรีรับถึง 31 พ.ค. นี้
________________________________________
รับบริจาคถึงวันที่ 31 พ.ค. 2555 เวลา 20.00 น.
เพื่อไปซื้อทองคำวันที่ 1 มิ.ย. 2555
ธ. กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสวังหิน
ประเภทบัญชีออมทรัพย์
เลขบัญชี 980-1-94158-8
ชื่อบัญชี นายสมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล


มูลนิธิพระธาตุดอยสุเทพ ร่วมกับ มร.ชม. เชิญร่วมสร้างองค์มหาเจดีย์ ถวายเป็นพระราชกุศล
053-885395 – 7


ขอเชิญร่วมทำบุญผ้าป่าสามัคคีหลวงปู่หงษ์ ๕๕
วันอาทิตย์ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕
เวลา ๑๑.๐๐ น

วัตถุประสงค์ เพื่อสร้างเสนาสนะต่างๆ และสมทบทุนสร้างอาคาร(ตึก ๓ ชั้น ๑ หลัง )
เพื่อเป็นที่พักอุบาสกอุบาสิกา ที่มาปฎิบัติธรรมณ.สุสานทุ่งมน

เชิญร่วมสมทบทุนสร้างเจดีย์ศรีสุทธาวาส บรรจุพระบรมสารีริกธาตุฯ
โทร...053-384684

ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้างพระประธานหน้าตัก59 นิ้วณวัดสุตตประดิษฐ์ จ.หนองบัวลำภู
________________________________________
0888-988-704



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ พิธีเททองหล่อพระประธาน<O

พระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า พระธรรมจักร หน้าตัก ๒๙ นิ้ว ฐานชินราช ๓๒ นิ้ว ปิดทองแท้<O
<O </O 085 545 8977
เนื่องด้วยวัดดอนไชย ตำบลศิลาแลง อำเภอปัว จังหวัดน่าน ได้มีการสร้างวิหารหลังใหม่แทนหลังเก่าที่ชำรุด จึงเรียนมาเพื่อทราบในความคืบหน้าในการก่อสร้าง และเชิญชวนท่านมีจิตศรัทธาร่วมบุญในการสร้างวิหารในครั้งนี้ด้วย


ร่วมบริจาคสร้างพระพุทธเมตตาประชาไทย ฯ ที่วัดชนะ ฯ
ชื่อบัญชี วัดชนะสงคราม ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทเวศน์ เลขที่บัญชี ๐๒๐-๒๖๙๖๖๔-๙


ขอเชิญร่วมเททองหลวงปู่ดู่ 108 นิ้ว 4 มิ.ย. 55
086-989-5355


ร่วมสมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรม วัดอรุณราชวราราม
โทร. ๐๘๙-๒๑๑-๖๓๙๙

ขอเชิญร่วมบุญกับสถานปฏิบัติธรรมพุทธพรหมปัญโญ สาขาขอนแก่น


ข่าวงานบุญมาฝากจาก ม.ร.ว ทองศิริ ทองแถม เมื่อวันที่ 6 พ.ค.55
โครงการ บูรณะสวนแสงธรรม หลังน้ำท่วม โดยใช้งบประมาณ 5 ล้านกว่าบาททุกท่านสามารถร่วมทำบุญโดยเข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขาเอกมัย
เลขที่บ/ช 059-214290-2 ชื่อบัญชี ม.ร.ว ทองศิริ ทองแถม

ร่วมสร้างพระศรีอริยะเมตไตรย์ พระประธานองค์ใหญ่เพื่อประดิษฐานไว้ที่วัดป่าสระจันทร์ อ.ผาขาว จ.เลย
หน้าตัก 6 เมตร สูง 10 เมตร
สามารถร่วมสร้างโดยผ่านบัญช่ี ธนาคารกสิกรไทย สาขาศรีบุญเรือง
ชื่อบัญชี นางน้อย ยางศรี เลขที่บัญชี 314-271-0411
ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณสงกรานต์ โทร 081-112-4218


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2012, 09:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5326


 ข้อมูลส่วนตัว


อานิสงส์ของการสวดพุทธคุณ
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
พระพุทธคุณ อาตมาสังเกตมาว่า บางคนเขาไปหาหมอดู
เคราะห์ร้ายก็ต้องสะเดาะเคราะห์ อาตมาก็มาดูเหตุการณ์ โชคลาง
ไม่ดีก็เป็นความจริงของหมอดู อาตมาก็ตั้งตำราขึ้นมาด้วยสติ บอกว่า
โยมไปสวดพุทธคุณเท่าอายุให้เกินกว่า ๑ ให้ได้ เพื่อให้สติดี แล้ว
สวดพาหุงมหากาฯ หายเลย สติก็ดีขึ้น เท่าที่ใช้ได้ผล สวดตั้งแต่
นะโม พุทธัง ธรรมมัง สังฆัง พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุง
มหากาฯ จบแล้วย้อนกลับมาข้างต้น เอาพุทธคุณห้องเดียว ห้องละ
๑ จบ ต่อ ๑ อายุ อายุ ๔๐ สวด ๔๑ อายุ ๓๕ สวด ๓๖ ก็ได้ผล
พุทธคุณกับชาวคริสต์
มีชาวคริสต์คนหนึ่ง มีลูกชายคนเดียว อยู่ที่ลาดพร้าว เป็น
เศรษฐีที่ดิน อายุ ๕๑ ปี มีลูกชายคนเดียว สามีตาย ลูกชายเรียน
หนังสือไม่เก่ง ก็ไปส่งเรียนปริญญาที่อเมริกา เป็นเศรษฐีที่กทม. ราชา
ที่ดิน ที่ดินข้างคลองแสนแสบของเขาทั้งนั้น ไปจรดลาดพร้าวหลาย
ร้อยไร่ เมื่อสมัยก่อนก็ขายได้หลายร้อยล้าน เป็นผู้มีเงิน ก็ส่งลูกไป
เรียนเมืองนอก ลูกไม่เอาไหน ไปก็ไปซื้อรถเก๋ง พาจิ๊กโก๋ไปหาจิ๊กกี๋
๓ ปีมาแล้ว แล้วก็มีหนังสือมาหลอกแม่เรื่อย เรียนจวนใกล้สำเร็จ
ขอเงินอีก ๑ แสน ขอเงินอีก ๕ แสน
แล้วในที่สุดเขาก็ไม่รู้จะไปหาที่พึ่งที่ไหน ก็ไปหาหมอดู หมอดูก็เอา
เงินสะเดาะเคราะห์ ลูกถึงจะเรียนได้ แล้วก็ได้เงินสะเดาะเคราะห์
ไปหาหมอทำก็ไม่สามารถจะสำเร็จได้ แต่พอดีก็มีคนสิงห์บุรีไปเป็น
ลูกจ้างบ้านนั้น เขาเป็นนายทุนให้ก็พากันไปนครสวรรค์ กลับมาเขา
ก็เลยแวะ เขาบอกอย่าแวะ ก็เลยแกล้งเพทุบายว่าปวดท้อง แวะเข้า
มาวัดนี้หน่อย จะหาห้องน้ำแวะเข้ามาแล้ว นายทุนคนนี้ก็เข้าห้องน้ำ
ด้วย คนนั้นก็มาบอกกับอาตมาว่าหลวงพ่อช่วยทีเถอะ แต่อาตมาก็ยัง
ไม่รู้ว่าเขาเป็นคริสต์ บอกช่วยหน่อยเถอะเขามีลูกชายคนเดียว ผมก็
ขอยืมเงินเขาใช้เรื่อย เราก็นึกในใจว่า ขอดูหน้าก่อน แล้วเขาก็พามา
แล้วก็บอกให้ฟังว่า ลูกชายไปเรียนที่อเมริกา ไม่เอาไหนเลย พอรู้
เข้าว่าเรียนไม่สำเร็จ ไปเที่ยวพานักศึกษาไทยไปเสียหายกัน ฉันก็จะ
เป็นโรคประสาทแล้ว ท่านจะมีทางช่วยได้ไหม ดูหน้าแล้วก็รู้ว่า
ลูกชายต้องสำเร็จปริญญาโท และจะสำเร็จปริญญาเอกด้วย แต่ทำไม
เรียนไม่สำเร็จ เดี๋ยวมีวิธีทางแก้ เพราะลักษณะบอกให้รู้ถึงลูกด้วย
ว่าลูกชายต้องเรียนสำเร็จ แต่ทำไมถึงเรียนไม่สำเร็จ
มีวิธีแก้ อาตมาก็บอกว่า โยมไปสวดมนต์ สวดพุทธคุณ
๕๒ จบ เพราะตอนนี้อายุ ๕๑ เขาบอกว่า “ฉันสวดไม่ได้ ฉันเป็น
คริสต์” “พระบิดา พระบุตร พระจิต สวดได้ไหม” “ฉันก็เป็นคริสต์
แบบชาวพุทธที่สวดมนต์ไม่เป็น ไปวัดเข้าโบสถ์ก็เข้าไปอย่างนั้นเอง”
วันนั้นก็เจ๊ากันไป ไม่ยอมรับ ก็อยู่ได้อีก ๔ - ๕ เดือน อาตมาจำหน้า
ได้ ทีนี้มีคนพามาละ เขามากันเอง ๓ คน บอกว่า “ฉันยอมจำนน”
บอก “เอาอย่างนี้โยม ไปซื้อหนังสือสวดมนตเ์ ขา้ เลม่ หนึ่ง” “ฉันไม่
อยากให้หนังสือสวดมนต์มีในบ้านฉัน ท่านช่วยเขียนให้หน่อย”อาตมาก็ต้องเขียน พอตอนหลังขี้เกียจเขียนต้องพิมพ์เป็นใบ นี่พุทธคุณ
ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุงมหากาฯ “ฉันไม่นับถือพระ ฉันจะสวดได้
หรือ” “ที่นอนนั้นแหละสวดไปก่อน” อาตมาหาอุบาย เลยก็สวด
พาหุงมหากาฯ “ฉันท่องไม่ได้ อ่านตามตัวแล้วฉันจะรู้ได้อย่างไรว่า
อายุ ๕๑ สวด ๕๒” “ใช้ก้านไม่ขีด ทิ้งเข้าซิ ทำไปก่อน” เขาเลย
มั่นใจว่าคิดว่าจะทำได้ บอกว่า “โยมสวดมนต์เสร็จแล้วแผ่เมตตา
ให้ลูก อย่าด่าลูกนะ อย่าแช่งลูก ให้ลูกมีความเจริญสุข และให้ลูกมี
ความตั้งใจเรียนหนังสือให้สำเร็จ”
พอไปสวดได้ ๓ เดือน ท่องได้หมดเลย หนักเข้าก็ไม่ต้องใช้
ก้านไม้ขีดแล้ว จึงเกิดอานิสงส์ ๒ ประการ
หนึ่ง โรคประสาทหาย กินได้นอนหลับ ชื่นอกชื่นใจ นอน
หลับก็ใจดี เริ่มแผ่ส่วนกุศลให้ถึงลูกแล้ว บุญกุศลของแม่จะถึงลูกถึง
ตอนไหน รู้กันตอนนี้ เพราะลูกนี่เฟ้อในการเงิน ขอเงินแม่เรื่อยเลย
ไม่รู้บุญกุศลของแม่แต่ประการใด วันนั้นบุญกุศลของแม่ถึง ประมาณ
๖ เดือนหลังจากสวดมนต์ อาตมาจดไว้ วันนั้นพอดีลูกชายพาพวก
นักศึกษาไทยที่ส่งด้วยทุนของตัวเองไปเที่ยว ขับรถไปชนเสาไฟฟ้า
เพื่อนอยู่ข้างหลังกระเด็นออกจากรถหมด ไม่ตายไม่เป็นอะไรเลย
แต่เจ้านี่ต้องไปอัดก๊อปปี้กับเสาไฟฟ้า เสาล้ม ต้องเสียเงินหลายแสน
พวงมาลัยอัดหน้าอกไปโคม่าอยู่โรงพยาบาล ไม่รู้สึกตัว แล้วพอดีมี
ลูกพี่อยู่คนหนึ่ง เป็นแพทย์อยู่ที่อเมริกาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ก็ไปเยี่ยม
ถ้าจะไม่รอดแน่ ก็ให้อ๊อกซิเจน นายแพทย์อเมริกาบอกว่าไม่รอดแน่
วันนั้นผ่านไป รุ่งขึ้นลืมตา พอรอดมาแล้วปวดเมื่อยจะตาย
น้ำตาร่วงคิดถึงแม่ มันเฟ้อไปในสังคม มันจะไม่คิดถึงแม่ บางคนอายุ๘๐ แก่จะตาย เวลาใกล้ตายหลงคิดถึงแม่จ๋า กระทั่งแม่ตายไปตั้งนาน
แล้วอย่างนี้แน่นอน มันทุกข์หนัก บอกปวดเมื่อยทั่วสรรพางค์กาย
คุณแม่จ๋ารำพันคิดถึงแม่
ข้อสอง ลูกคิดถึงแม่ ถ้าแม่ทราบว่าหนูไม่เรียนหนังสือแล้ว
แม่จะเสียใจแค่ไหน ทราบเข้าก็ดีอกดีใจมาวัดเลย เลี้ยงเพลพระ
สวดธรรมจักรให้ ๑ จบ
ในที่สุด พอลูกกลับจากอเมริกาพาลูกมาเลย อาตมาให้
พระบูชาไป ๑ องค์ แม่ก็เล่าให้ฟังเพราะเหตุอย่างนี้ ลูกเลยสวดมนต์
ภาวนาแล้วไปเข้าวัดไทย ไปนั่งวิปัสสนาที่เมืองนอก เจ้าคุณเทพ
โสภณรู้จัก แต่ไม่รู้เรื่องวัดอัมพวัน รู้ว่าเจ้านี่มันนักกรรมฐานปริญญาเอก
เดี๋ยวนี้ไม่ยอมกลับบ้าน แม่บอกหลวงพ่อให้ฉันสวดมนต์อะไรให้ลูก
กลับประเทศไทย ไม่มีกลับเรารู้แล้วไม่กลับแน่
อันนี้ได้ผลแน่นอน ขอฝากไว้ว่าเด็กหรือใครก็ตาม ก็ต้อง
ประสบทุกข์จะคิดถึงแม่ ถ้าไม่ประสบทุกข์ให้เงินไปเฟ้อ ไม่คิดถึงแน่
ต้องประสบทุกข์จึงจะเห็นตัวธรรมะ เห็นอกเห็นใจเลยเชียว เขามาเล่า
ให้อาตมาฟัง บอกหลวงพ่อครับ ผมไมคิ่ดถึงแมเ่ ลย ๓-๔ ป  ที่อเมริกา
แต่ก็คิดถึงแม่ว่า อยู่กับแม่ป้อนข้าวให้พัดวีให้ ได้คิดอย่างนี้เลยจึงกลับ
แม่ก็เลยเล่าให้ฟังว่าหลวงพ่อนี่ช่วยเอาไว้ เขาเลื่อมใส อาตมาบอกว่า
ถา้ เชื่อนะ ไปเดี๋ยวนี้ ตัดผม เพราะผมเขายาวประบา่ เลยตัดผมที่นี่
สิงห์บุรีเห็นได้ชัดมาก เจ้าคนนี้ บอกแหมหลวงพ่อว่าผมนี่ผลาญเงิน
แม่ไปหลายล้านบาท ดังที่กล่าวแล้ว อาตมาก็ตั้งตำรา ถ้าคนไหน
เคราะห์ร้ายสวดพุทธคุณพ่อ-แม่ทำกรรมฐานให้กับลูก
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
ถ้าพ่อมีบุญแม่มีบุญได้เจริญกรรมฐาน ลูกออกมาก็จะมีบุญ
วาสนาด้วย สมองกลดลบันดาล ลูกก็มีปัญญา ถ้าพ่อมีเวร แม่ซ้ำมีเวร
สร้างเวรสร้างกรรมกันมา ลูกจะมีสมองดีไม่ได้ ออกมาก็เป็นคน
ใบบ้า เสียจริตผิดมนุษย์ เป็นคนปัญญาอ่อนไม่สามารถจะสอนให้เขา
ดีได้ นี่แหละกรรมมาจากพ่อแม่
เพราะฉะนั้น การเจริญพระกรรมฐานทำให้สะสมบุญ ทำให้
มีคุณประโยชน์ถึงบุตรของตน อันนี้พระพุทธเจ้าสอนไว้ ที่เราสวด
มนต์ว่า “กัมมะทายาโท กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปะฏิสะระโณ
ยังกัมมัง กะริสสามิ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา” ทา่ นทั้งหลายเอย๋
ที่เราสร้างบุญสร้างบาปกันมาเอง นี่แหละพ่อแม่สร้างความไม่ดีให้กับลูก
ทำความไม่ถูกให้กับหลาน เวรกรรมก็จะโยนให้กับลูกของตน
จุดมุ่งหมายอันนี้ นี่แหละปัญจสาขา แยกออกมาจากท้องของ
มารดา บางคนก็ออกมามือง่อย ขาก็ง่อย แถมหัวโตมีน้ำอยู่ในสมอง
แล้วก็อยู่อย่างเป็นทุกข์ บางคนก็เป็นโรคตับโรคไต ก็เนื่องจากพ่อแม่
สมประดีสร้างปาณาติบาตมา ใจดำอำมหิตเหี้ยมโหด ทารุณดุร้าย
ลูกก็จะเป็นอย่างนี้ ออกมาอาการ ๓๒ ไม่ครบ เอาดีไม่ได้อย่างนี้
เป็นต้น
ทำกรรมฐานแก้กรรมให้ลูก
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
ขอเจริญพรให้ญาติพี่น้องได้ทราบว่า กรรมฐานแก้กรรมได้
มีนายทหารคนหนึ่ง ยศร้อยโท อยู่ศูนย์การทหารปืนใหญ่มาบวชที่นี่
พ.ศ.๒๕๐๐ มีลูกผู้หญิง ๒ คนแล้ว ปู้ยี่ปู้ยำกับผู้หญิงจริง ๆ ไม่เชื่อบุญ
เชื่อกุศล ไมเ่ ชื่อเวรเชื่อกรรมดว้ ย
อาตมาบอก “ผู้บังคับหมวด อาตมาขอบิณฑบาต สึกหาลา
เพศแล้ว อย่าไปยุ่งกับผู้หญิงเขานะ”
“โอ๊ยหลวงพ่อ ผมไม่เชื่อ ไม่มีทางหรอก สนุกสนานไป
ชั่วคราวเท่านั้น ตอนตายแล้วมันก็สูญ จะไปเกิดที่ไหนอีก ที่ผมมาบวช
ที่นี่ไม่ใช่เพราะศรัทธานะ แม่ให้มาบวช แม่บอกว่าสำเร็จนักเรียน
นายร้อยแล้วบวชให้แม่หน่อย เลยผมก็ไปมีครอบครัวเสียก่อน”
“เอาละผู้หมวด ไม่เชื่ออาตมาไม่เป็นไรนะ จดไว้นะไม่มีลูก
ผู้หญิงบ้างก็แล้วไปนะ”
“โอ๊ย ผมมี ๒ คนแล้ว”
“จดไว้เผื่อจะมีลูกผู้หญิงอีก”
ในที่สุดก็สึกหาลาเพศไป จากไปเป็นเวลานานหลายสิบปี
ยศสุดท้ายก่อนที่จะมาพบกัน เป็นนายพันเอกพิเศษ มีลูกสาว ๓ คน
ลูกชาย ๒ คน ภรรยาเป็นอาจารย์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอฝาก
ข้อคิดท่านทั้งหลายไว้
หนักเข้าลูกสาวสามคนเป็นอย่างไร ลูกสาวจบ ม.๖ ทุกคน
จบแล้วออกเลเพลาดพาดไปด้วยกฎแห่งกรรมจากที่พ่อทำให้กับลูก
มาหาพ่อพ่อก็เตะทั้งรองเท้า มาหาแม่แม่ก็บ่นจู้จี้ สอนลูกด้วยด่า
ลูกด้วย
ลูกก็เลยออกจากบ้านไป ไปร้องเพลงอยู่ตามโฮเต็ล ตาม
โรงแรม ทำเสียหายน่าบัดสีในวงศ์ตระกูลเหลือเกิน ลูกชายสอง
คนดีหมด นี่แหละกฎแห่งกรรม
หนักเข้าสามีภรรยาก็ร้องไห้มาหา เพราะว่าบันทึกหลักฐาน
จำได้ว่าบวชที่วัดนี้เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ บันทึกไว้ว่า ไม่เชื่อตามใจ
ลูกจะต้องเสียหาย
มากราบนมัสการอาตมา อาตมาบอก ท่านจะแก้ไหมล่ะ
ถ้าจะแก้ลาพักร้อนมาด้วยกันทั้งคู่ มานั่งเจริญกรรมฐาน ๗ วัน แล้ว
ก็แผ่เมตตาให้ลูก อโหสิกรรมให้ลูกทุกวัน ๆ อย่าด่าลูกอีกต่อไป ตั้งแต่
นาทีนี้เป็นต้นไป
ลูกมาแล้วก็อย่าไปพูดเรื่องเก่ามาเล่ากันใหม่โดยเด็ดขาด
เอาเรื่องใหม่เลย ให้ลูกไปเรียนปริญญาต่อไป
ก็ได้ความว่า กลับไป ลูกกลับทีละคน ไปตามน้องมาหมด
พ่อแม่ไม่ได้ว่าอะไร หนักเข้าทั้งสามคนก็ไปเรียนรามคำแหง สำเร็จ
ปริญญาด้วยกันทั้งหมด และบัดนี้เข้าทำงานด้วยกันทั้งหมด ลูกสาว
ก็มานั่งวิปัสสนาที่นี่ด้วย
นั่งกรรมฐานให้พ่อแม่เป็นใหญ่เป็นโต
ลูกแผ่ส่วนกุศลให้พ่อ-แม่ได้ พระณรงค์ศักดิ์ ฐิตเปโม เป็น
บุตรของ พ.อ. ประกิต ศิริพันธ์ุ กรุงเทพมหานคร ท่านบวชหน้าศพ
ให้คุณปู่ บวชแล้วโยมนำมาฝากเจริญกรรมฐานที่วัดนี้ จะขออยู่ ๗ วัน
แล้วจึงจะสึก พอเจริญกรรมฐานได้ ๗ วัน โยมแม่มารับ บอกกับ
โยมแม่ว่า ขออยู่ต่ออีก ๑ เดือน นั่งเจริญกรรมฐานแล้วแผ่เมตตา
ให้ปู่ ให้พ่อให้แม่ บัดนี้น่าอนุโมทนา คุณพ่อได้เลื่อนยศเป็นนายพล
เลย และเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการศูนย์ป้องกันภัยทางอากาศ
กองทัพบก เมื่อสองสามวันมานี้ นำสายสะพายมาให้เจิม บอกว่า
หลวงพ่อครับ ผมไม่เคยคิดว่าจะเป็นนายพลเลย เส้นก็ไม่มี ผมดีใจมาก
ตอนนี้ลูกยังบวชอยู่ ลูกนั่งกรรมฐานให้พ่อแม่เป็นใหญ่เป็นโตก็ได้
พ่อแม่จะสร้างบ้านเมืองให้ยิ่งสุข
ลูกต้องสร้างชาติให้ยิ่งใหญ่
การสิ้นสุดของสูตรที่ไม่คาดคิด อาตมาจดจำมา โยมเป็นพ่อ
เป็นแม่สร้างบ้านเมืองให้ลูก ให้ลูกอยู่เย็นเป็นสุข ลูกต้องสร้างชาติให้
ยิ่งใหญ่ เรียนหนังสือให้เป็นปริญญาเอก เป็นรัฐมนตรี ช่วยเหลือชาติ
ศาสน์ กษัตริย์พ่อแม่ต้องสร้างบ้านเมืองให้ยิ่งสุข หมายความว่า พ่อแม่ต้อง
สร้างความดีให้กับลูก ทำถูกให้กับหลาน รักให้มันถูกวิธี ทำความ
ดีให้ลูกดู
ลูกต้องสร้างชาติให้ยิ่งใหญ่ หมายความว่า ลูกต้องเรียนหนังสือ
ให้เก่ง กล้าประหยัด ไม่ขาดพวกพรรค รักษาความสะอาด ฉลาด
รอบคอบ ชอบระวัง ตั้งใจตรง ดำรงศีลธรรม นำทางถูก ปลูกสติ
ดำริชอบ ประกอบกุศล ได้ผลอนันต์เป็นหลักฐานสำคัญ ชาติคือ
ตัวเรา ดูชาติก็คือดูลูก รักลูกจึงคิดปลูกฝัง ให้ลูกตั้งตนรับฝึกศึกษา
ให้ลูกได้ดีมีปัญญา ให้ลูกมีวิชาตั้งตนเป็นคนดี นี่แหละได้จาก
กรรมฐานทั้งหมด ถ้าไม่ได้กรรมฐานจะออกมาได้อย่างไร
ก็ขอเจริญพรต่อไป พ่อแม่ปลูก เหมือนปลูกต้นไม้ ปลูกใน
กระถาง ขึ้นในกระถาง ปลูกถี่ขึ้นถี่ ปลูกห่างขึ้นห่าง ต้นไม้มันโต
แล้วเราจะบอกต้นไม้บ้าอะไรขึ้นไม่มีระเบียบ ขึ้นไม่เท่ากัน ห่างบ้าง
สั้นบ้าง ถ้าต้นไม้พูดได้จะบอกว่าใครเป็นคนปลูก เดี๋ยวนี้สถาบัน
๓ สถาบันทำลายสังคม คือ วัด โรงเรียน ครอบครัว พ่อแม่ไม่ได้
ดูแลลูก ลูกจึงติดยาเสพติดกันมากมาย ถ้าบ้านไหนทำกรรมฐาน
ทั้งโรงเรียนทำกรรมฐาน รับรองไปรอดแน่ ไม่ใช่กรรมฐานแบบไป
สวรรค์นิพพาน ญาณ ๑๖ อย่างที่เขาพูดกันในกรุงเทพฯ นี่แหละพ่อ
แม่ที่เคารพรักของลูก อาตมาจึงได้พูดกับผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีว่า
กลุ่มบ้าน กลุ่มวัด ต้องช่วยกลุ่มเมือง กลุ่มเมืองต้องเข้ากับกลุ่มวัด
ช่วยกลุ่มบ้านและกลุ่มเมือง เพราะสามัคคีสร้างความดีร่วมกัน
“รักสามัคคี สร้างความดีร่วมกัน” ในหลวงท่านรับสั่งไว้ ไม่มีการรักสามัคคี สร้างความดีร่วมกันไม่ได้ แตกแยกกันไปหมด แตกพรรค
แตกพวก ควรจะรักสามัคคี สร้างความดีร่วมกัน อย่าเป็นพลูต่างใบ
ไม่ร่วมใจกัน นี่แหละความรู้คู่กับความดีมีปัญญา ไม่ใช่พระพุทธเจ้า
สอนให้นั่งหลับตาตามวัด สถาบันครอบครัวนี้สำคัญ
ถ้าเราไม่มีการเคารพผู้ใหญ่จะไม่มีระเบียบวินัย ประเพณีไทย
ก็หมดไปแล้วไม่มีการเคารพผู้ใหญ่ ในเมื่อขาดการเคารพผู้ใหญ่
ประเพณีไทยหมด แต่ทำไมเด็กเสียหาย เพราะไม่เคารพผู้ใหญ่
เถียงพ่อเถียงแม่คำไม่ตกฟาก เสียหายตรงนี้ ก็ขอฝากญาติพี่น้องไว้
ในโอกาสนี้
เราทุกคนต้องมีการงาน ถ้าไม่มีการงาน ไม่รับผิดชอบ ถ้าจะ
อยู่ในโลกได้ ประการใดเล่า ขอฝากไตเติ้ลไปฝากลูกหลานด้วย
“อย่าให้ลูกอยู่ว่าง อย่าให้ห่างผู้ใหญ่ จะหลงทางได้ง่าย” คนเรายุคใหม่
สมัยนี้ มันอยู่ว่างกันมาก มันถึงเลวร้ายเหลือเดน สร้างความดีไม่ได้
“โลกเจริญไปข้างหน้าไกลแสนไกล แต่จิตใจมันล้าหลังเหลือ
เกิน จิตใจก้าวไม่ทัน จิตใจก้าวหลัง จิตใจเจริญก้าวหลัง โลกเจริญ
ก้าวหน้าไปไกลแสนไกลแต่จิตใจล้าหลังเหลือเกิน จิตใจจึงเลวทราม
ต่ำช้า” จึงมีปัญหา สร้างปัญหาที่เลวทรามต่ำช้าในระหว่างครอบครัว
สามี ภรรยา เป็นต้น ลูกหลานในครอบครัวของท่านสร้างปัญหา
ลูกสร้างปัญหาให้กับพ่อแม่ ลูกศิษย์สร้างปัญหาให้ครูบาอาจารย์
ครูบาอาจารย์ก็สร้างปัญหาให้กับโรงเรียน ปัญหามีอยู่มากมาย และ
เราจะเอาอะไรมาเป็นหลัก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของ
เรานั้น ท่านทรงเห็นการณ์ไกล ท่านทรงสร้างบารมี หลายชาติ



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและที่ผ่านมาได้บริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยที่ รพ.ศิริราช บริจาคเงินทำบุญกับวัดเน่งเล่งยี่ 2 กับคุณแม่และ ญาติพี่น้อง และได้อาสาเป็นเด็กวัดส่งของในการบิณฑบาตรในกรณีที่พระท่านถือของบิณฑบาตรไม่ไหว และตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน ได้บริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยที่ รพ.ศิริราช บริจาคเงินทำบุญกับวัดเน่งเล่งยี่ 2 กับคุณแม่และ ญาติพี่น้อง และได้อาสาเป็นเด็กวัดส่งของในการบิณฑบาตรในกรณีที่พระท่านถือของบิณฑบาตรไม่ไหว
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ใครจะสร้างเจดีย์แก้ว, ผอบแก้ว, ครอบโค้งแก้วเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.40 เมตร
มือถือ 086-1050222


ขอเชิญเป็นเจ้าภาพสร้างฐานพระประจำวันเกิด ค้ำจุน หนุนดวงเสริมบารมีชีวิต
โทร ๐๘๓-๑๑๔๓๖๘๑


ขอเชิญร่วมทำบุญหล่อพระเกตุเพื่อสร้างพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดในไทย
ดูที่ Link ด้านล่าง
http://www.nextmediatrend.com/nongpl...dha_image.html



ขอเชิญร่วมสร้างวิหารทานทุกอย่างภายในวัดกับ ลป.คำบุ วัดกุดชมภู อุบล
082-2155279


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2012, 08:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5326


 ข้อมูลส่วนตัว


หลายกัป หลายกัลป์แล้ว ไม่ใช่ชาติเดียว ไม่ใช่ทำความดีวันเดียว
ก็ได้เลย ไปนั่งหลับตาแล้วไปสวรรค์ ไปนิพพานเลย สร้างโบสถ์
สร้างวิหารแล้วไปสวรรค์นิพพานเลย น่าจะตีปัญหาให้มันเข้ามา
หาตัวเอง เราจึงควรสร้างตัวเองให้ได้ “ปลุกตัวเองให้ตื่น เสกตัวเอง
ให้เป็นงาน” จะได้รับผิดชอบต่อการงานในหน้าที่รับผิดชอบตัวเอง
อย่าเกียจคร้านการงานและหน้าที่ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีความรับผิดชอบ
ตัวเองในการงานและหน้าที่ เราจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีการงานและหน้าที่
อันเป็นศักยภาพของมนุษย์ ไร้แบบแปลนและแผนผัง ไม่มีโอกาส
ที่จะดีได้ น่าจะแก้นิสัยตั้งแต่ต้นจนอวสาน ชีวิตนี้จะได้มีแบบแปลน
และแผนผัง จะได้ไปสู่จุดมุ่งหมายปลายทางได้
ท่านโปรดจำไว้ วันเกิดของลูกคือวันตายของแม่ เพราะวันที่
ลูกเกิดนั้น แม่อาจต้องเสียชีวิต การออกศึกสงครามเป็นการเสี่ยงชีวิต
สำหรับคนเป็นพ่อฉันใด การคลอดลูกก็เป็นการเสี่ยงตายสำหรับ
คนเป็นแม่ฉันนั้น ในสมัยโบราณที่วิทยาการต่าง ๆ ยังไม่เจริญก้าวหน้า
เหมือนสมัยนี้ อัตราการตายเพราะคลอดลูกมีสูงมาก คนโบราณ
เขาจึงกล่าวว่า วันเกิดของลูกคือวันตายของแม่
พอ่ แมเ่ ลี้ยงลูก เปรียบเสมือนปลูกตน้ ไม  ปลูกอยา่ งมีระเบียบ
แบบแผน ต้นไม้ก็จะขึ้นอย่างมีระเบียบสวยงามตามแบบตามแผนที่
วางไว้ ถ้าปลูกอย่างไม่มีระเบียบปลูกตรงโน้นต้นหนึ่ง ตรงนี้ต้นหนึ่ง
นึกจะปลูกตรงไหนก็ปลูก เกะกะเต็มไปหมด มองดูรกรุงรัง หาความ
สวยงามไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนี้จะไปโทษต้นไม้ว่ามันขึ้นไม่เป็นระเบียบ
จะถูกหรือ จะต้องโทษคนปลูก เพราะคนปลูกไม่มีระเบียบ ต้นไม้จึงขึ้นอย่างไม่มีระเบียบ
อาตมาไม่สอนใครไปสู่สวรรค์นิพพาน แต่สอนกรรมฐานให้
ระลึกชาติได้ ระลึกบุญคุณคนได้ นึกถึงพ่อแม่ นึกถึงตัวเองและ
สงสารตัวเอง จะได้ทำแต่สิ่งดี ๆ แค่นี้พอก่อน บางคนลืมพ่อลืมแม่
อย่าลืมนะการเถียงพ่อเถียงแม่ไม่ดี ขอบิณฑบาต สอนลูกหลาน
อย่าเถียงพ่อแม่ อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่ ไม่งั้นจะก้าวหน้าได้อย่างไร
ก้าวถอยหลังเลยดำน้ำไม่โผล่
หนี้บุญคุณอันยิ่งใหญ่เหลือจะนับจะประมาณนั้น คือ
หนี้พระคุณของบิดามารดา คำพังเพยเปรียบเทียบสั่งสอนมาสองพัน
กว่าปีแล้ว ว่าจะเอาท้องฟ้าหรือแผ่นดินมาเป็นกระดาษ เอาเขาพระ
สุเมรุมาศมาเป็นปากกา จะเอาน้ำมหาสมุทรมาเป็นน้ำหมึก ก็ไม่
สามารถจะจารึกพระคุณของบิดามารดาไว้ได้ เพราะน้ำในมหาสมุทร
จะเหือดแห้งหมด ก่อนที่จะจารึกพระคุณบิดามารดาได้จบสิ้น

พระองค์แรก ผู้แสนดี ให้ชีวิต
ครูคนแรก ผู้ประสิทธิ์ การศึกษา
หมอคนแรก ผู้ถือช้อน คอยป้อนยา
รวมคุณค่า นี้ได้แก่ พ่อแม่ฉันเองฯ

กตัญญูนะลูก
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
อาตมาสอนเด็กนะโมทุนหลัก คือ กตัญญูนะลูกนะ นอบน้อม
กตัญญูเชิดชูระเบียบ เรียบด้วยวินัย หนูจงตั้งใจศึกษา นำมาพ้นทุกข์
เป็นสุขอนันต์ เป็นหลักสำคัญ คุณหนูจำใส่ใจ ถ้าเห็นครู
เหยียบหัวครูตลอดรายการ รับรองเป็นใหญ่เป็นโตไม่ได้ ไม่ต้องอะไร
พระสารีบุตร อุปติสสะปริพาชก เห็นพระอัสสชิแล้วเลื่อมใส ถามว่า
มีธรรมอะไร บวชที่สำนักไหน พระอัสสชิตอบว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่
แปรปรวน ดับไป
จงไปหาครูบาอาจารย์เอาเอง เท่านี้ ยังลืมบุญคุณไม่ได้ คือ
พระสารีบุตร หันหน้าไปทางทิศที่ครูบาอาจารย์อยู่ เจอบ้าน เจอป่า
เจอภูเขาก็ไหว้ พระพุทธเจ้าถูกพระภิกษุฟ้องจึงสอบสวน พระสารี
บุตรบอกว่า เป็นที่อยู่ของครูบาอาจารย์สอนหนังสือ ข้าพระพุทธเจ้า
จึงไหว้ครู ไม่ใช่ไหว้ภูเขา ที่ไหว้ท่าน้ำเพราะบ้านของข้าพระพุทธเจ้า
อยู่ตรงนั้น และท่าน้ำก็มีประโยชน์แก่ข้าพระพุทธเจ้ามาก พระสารี
บุตรจึงมีปัญญาเทียมเวหา คล้ายคลึงกับพระพุทธเจ้า มียศศักดิ์เป็นถึง
อัครสาวกของสมเด็จพระชินสีห์ศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
พ่อ-แม่ไม่เคยดูแลลูก
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
พ่อแม่ไม่เคยดูแลลูกเลย ยกตัวอย่างที่เพชรบุรี พ่อเป็นอาจารย์
ใหญ่ซีเจ็ด แม่ก็เป็นอาจารย์ใหญ่ซีเจ็ด เอาไปฝากน้องสาว
เรียนหนังสือที่โรงเรียนอัสสัมชัญ น้องสาวทำงานที่กระทรวงมหาดไทย
เขาจะมีเวลาดูลูกให้หรือ ตีสี่ต้องออกไปทำงานแล้ว ขอฝากท่าน
ทั้งหลาย ท่านเป็นพ่อแม่เขา เป็นผู้นำลูก ต้องไปตามดูลูกด้วยนะ
ไม่อย่างนี้ลูกเสียนะ เด็กเสียหายนี่ อาตมาไม่โทษเด็กเลยนะ โทษพ่อ
แม่ไม่ดี เลี้ยงลูกไม่โต ปลูกต้นโพธิ์ไม่ได้ร่ม ยังมีตัวอย่างอีก
รองศาสตราจารย์ที่จุฬาฯ มีลูก ๕ คน ติดยาเสพติดไป ๓ คนแล้ว
พ่อแม่เป็นใหญ่เป็นโต เป็นถึงรองศาสตราจารย์เป็น ดร. ด้วย มันมา
จากตรงไหน
พ่อ-แม่เป็นที่พึ่งให้ลูกไม่ได้เพราะอะไร ?
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
พ่อแม่แก้ไขปัญหาชีวิตไม่ได้เลย หาที่พึ่งให้ลูกไม่ได้ ลูกพิการ
หรือเป็นอะไรก็ตาม พ่อแม่จะช่วยกันสวดมนต์ภาวนา เจริญกรรมฐาน
บางทีก็หายได้เลยนะ พ่อแม่บางคนก็ไม่เอาไหนอีก สร้างความดี
ไม่ถึงที่ดีไม่ถึงขั้น ดีไม่พอลูกจะดีได้อย่างไร พ่อแม่เลี้ยงลูก ไม่ได้ดูลูก
เพราะไม่ได้สวดมนต์ เจริญกรรมฐาน อาตมาจับจุดได้หมด คือกฎแห่งกรรม เอาลูกไปฝากวัด ไม่เคยให้เงินลูกเรียนหนังสือ
มีตัวอย่างที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี อาตมาต้องแก้ปัญหาให้เด็ก
ให้ทุนไปเรียนหนังสือ วันนี้ให้ไปอีกเป็นทุนต่อเนื่อง
เด็กร้องไห้เลยบอกว่า หลวงพ่อไม่ได้เป็นอะไรกับผม พ่อผม
ยังไม่เคยให้เลยแม้แต่สตางค์เดียว เอาละ! หลวงพ่อจะส่งเรียน บัดนี้
เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เขาเขียนจดหมายมาบอกว่า จะหางานทำด้วย
ช่วยหลวงพ่อ พอมีงานทำแล้ว หลวงพ่อจะได้ส่งน้อยลงไป จะได้
ช่วยอีกแรงหนึ่ง เด็กดีน่ะมีลักษณะอย่างนี้
เลี้ยงลูกเอาบุญ
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
“ปวดหนอ” ลูกเอ๋ยมาช่วยบีบให้พ่อแม่หน่อย ลูกเขาไม่มาบีบ
ก็เสียใจ แล้วให้สมบัติเขาไปแล้วหวังผลตอบแทนจากเขา เขาก็ไป
ดีแล้วก็ตามใจ เลี้ยงลูกเอาบุญเถอะ อย่าเอาคุณประโยชน์ ทำใจให้ได้
เถอะ เราจะได้ไปสวรรค์นิพพานได้ โปรดทำใจ เรารักลูก หวังจะพึ่ง
ลูกนี้แล้วไม่ได้พึ่ง เตรียมทำใจไว้ก่อน เจ็บนี่ลูกเขาจะมาปฏิบัติไหม
จะเอาใจเราไหม โปรดอย่าคิดอย่างนั้นเลย จงทำใจเสียให้ได้ ณ
บัดนี้ แฟนเขาไม่ได้รักเราด้วยใจจริง เขารักเราด้วยกามคุณทั้ง ๖
ไม่ได้รักด้วยน้ำใจด้วยเมตตาเลย เขาจึงไม่มาช่วยเรา ดังนั้น ทั้งเงิน
ทองทรัพย์สินสมบัติพัสถาน เราช่วยใครไป อย่าหวังผลตอบแทนเลย
มิฉะนั้น เราจะเสียใจไปนรก ถ้าท่านผู้ใดเจริญวิปัสสนากรรมฐานจิตมั่นคง จะไม่ง้อใครแล้ว เราต้องช่วยตัวเองได้ ทำใจได้ เราจะไม่
เสียใจ ไม่น้อยใจต่อบุคคลใด ความเสียใจน้อยใจเป็นเมืองอบาย
เป็นเมืองนรก หมกไหม้ตัวเอง
กำลังใจของบรรพบุรุษ - ผู้สูงอายุ
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
บรรพบุรุษคือ พ่อแม่ เป็นพระอรหันต์ของลูก ไม่ต้องไป
ตามพระอรหันต์ที่ไหนหรอก เหลียวดูพ่อแม่ในบ้านบ้าง โยมทุกคน
ที่เป็นพ่อแม่ อย่าเอาบุญคุณกับลูก เลี้ยงเอาบุญอย่างเดียว ไม่ต้องเอาคุณ
มาตอบแทน จะเสียใจภายหลัง คนเดี๋ยวนี้มีน้อยเหลือเกินที่จะมี
กตัญญูต่อพ่อแม่
อาตมาตั้งแต่คอหักมา หายใจทางสะดือ พองหนอยุบหนอ
คิดถึงแม่ทุกวัน หายใจเข้าก็คิดถึงแม่ หายใจออกก็คิดถึงแม่ เพราะ
เราอยู่ในท้องแม่ กินเลือดเนื้อแม่ทางสะดือ แต่คนเราไม่ได้เคยคิดเลย
พ่อแม่เลี้ยงลูกเหมือนปลูกต้นโพธิ์ เมื่อใหญ่เมื่อโตจะได้อาศัย ถึงคราว
เจ็บจะได้ฝากไข้ ถึงคราวตายจะได้ฝากผี ดี ๆ เอาไว้รับใช้สอย โยมจำ
อาตมาไว้ คนแก่ว้าเหว่ ปู่ย่าตายาย พ่อแม่ที่แก่แล้วว้าเหว่ตลอดชาติ
ลูกไม่มาหาหลานไม่มาสู่พ่อแม่ก็หมดกำลังใจ ปู่ย่าตายายไม่มีกำลังใจ
พอเห็นลูกหลานมาหา หลานมาสู่ ชื่นอกชื่นใจ ไม่ว้าเหว่แต่ประการใด
ตรงนี้เป็นกำลังใจให้แก่บรรพบุรุษ เป็นกำลังใจต่อผู้สูงอายุ พอสูงอายุ
แล้วเป็นอย่างนี้ทุกคน
อุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
วันนี้เป็นวันปูชนียบุคคล เป็นวันที่เราได้บำเพ็ญกุศลอุทิศให้แก่
บรรพบุรุษ มีบิดามารดา ปู่ย่าตายาย ผู้มีพระคุณทั้งหลาย จะเป็นสามี
ภรรยา หรือญาติวงศ์พงศา หลายชาติ หลายกัปหลายกัลป์ ทั้งบิดา
มารดายุคใหม่ปัจจุบันนี้ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ผลด้วย บิดามารดาชาติเก่า
ครั้งอดีตก็มีโอกาสมารับส่วนบุญกุศลด้วย เรามีบิดามารดามาหลาย
ชาติ หลายกัปหลายกัลป์ มาชาตินี้ก็มิได้ทราบว่าคนนั้นเป็นบิดา
มารดาของเราหรือไม่
พระเกจิอาจารย์ท่านเล่าสืบมา บางทีบิดามารดาญาติวงศ์พงศา
มาเกิดเป็นสุนัข เป็นวัว เป็นควาย เป็นม้า เป็นช้าง และเราก็หารู้
ไม่ว่า เขาเหล่านั้นเป็นญาติของเรา เพราะล้มหายตายจากไปหลายชาติ
หลายกัปหลายกัลป์แล้ว

ภรรยาแผ่ส่วนกุศลให้สามี
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
ภรรยาแผ่ส่วนกุศลให้สามี มีข้าราชการซีเจ็ดคนหนึ่งรับ
ราชการที่จังหวัดลพบุรี แต่ตอนนี้ย้ายไปแล้ว จะไม่ขอออกชื่อ สามี
รับราชการระดับซีแปด สามีเป็นคนเจ้าชู้ เล่นการพนัน กลับบ้านเที่ยง
คืนทุกวัน ภรรยาก็เสียใจ ร้องไห้มาหาอาตมา บอกว่าสามีไปชอบ
เด็กสาวที่ศาลากลาง ชื่อนางสาววาสนา อาตมาก็บอกว่า เอาละ
คุณนายไม่เป็นไร จะแก้ที่โยมภรรยา โยมลาพักร้อนสัก ๗ วัน
ได้ไหม มานั่งกรรมฐาน เขาก็มาที่นี่ พอนั่งกรรมฐานเสร็จ แผ่เมตตา
ทุกวัน ให้สามีมีความสุข แผ่เท่านี้เป็นการแก้กรรม กลับไปบ้านแล้ว
ก็ไปนั่งสวดมนต์ไหว้พระ สามีมาก็ไม่ว่ากระไร ไม่ชวนทะเลาะอีก
ต่อไป หากับข้าวให้เต็มสำรับไว้ เขาจะทานหรือไม่ทานก็แล้วไป
ทำหน้าที่แม่บ้านการเรือนอย่างดียิ่ง และจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก
ขอเจริญพรว่า จะแก้บทใดอย่าพูดเรื่องนั้น อย่าไปด่าว่าสามี
เจ้าชู้ เล่นการพนัน จะไม่มีทางแก้ไขได้ จะเป็นการหยิกเล็บเจ็บเนื้อ
จะเหลือวิสัย อย่าไปจี้แผลนัก เดี๋ยวจะกลายเป็นโรคมะเร็ง และ
จะแก้ไขปัญหาไม่ได้ ในที่สุดสามีก็กลับใจ เลิกเที่ยว หันมาดูแลลูก
เพิ่มขึ้น มานั่งสวดมนต์กับภรรยา และนางสาววาสนาที่ศาลากลาง
ก็กลับมาหาคุณนายนี้ บอกว่า “คุณพี่ขา หนูไม่มีอะไรหรอกนะ”
คุณนายก็บอกว่า “ฉันไม่ว่าอะไรเธอหรอก ตามใจเธอ ฉันแผ่ให้เธอมีความสุขแล้ว” เลยร้ายกลับกลายดี นางสาววาสนามีพี่ชายเป็น
นายแพทย์ใหญ่อยู่อเมริกา ได้อุปการะลูกบ้านนี้ไปเรียนต่อที่อเมริกา
มันช่วยกันได้อย่างนี้ แต่ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันดังที่กล่าวแล้ว สามี
บ้านอยู่สันป่าข่อย จังหวัดเชียงใหม่ ยังไม่เคยบวช ได้ปรึกษากับภรรยา
ว่าจะบวชที่วัดอัมพวัน เลยขออนุญาตลาอุปสมบท ๑๒๐ วัน ภรรยา
พาสามีบวชได้แล้ว วิธีแก้กรรมอย่าไปผูกใจเจ็บ ให้อโหสิกรรมเสีย
ก็จะเป็นสุขทุกฝ่าย
ปัจฉิมโอวาทในพิธีปิดการอบรมสามเณร
ภาคฤดูร้อนปี ๒๕๓๒
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
มีพ่อแม่บางคนที่ไม่เข้าใจ พ่อเณรบวชได้สองสามวัน ร้องไห้
จะไปเล่นสงกรานต์ โยมตามใจให้เณรสึกไป นี่เห็นไหม ให้ลูกอยู่ว่าง
ห่างผู้ใหญ่ หลงทางได้ง่าย ตามใจลูกถึงขนาดนี้ รับรองโยม
ลูกของโยมไม่ดีแน่ เอาดีไม่ได้
บางทีลูกร้องไห้จะไปกับเพื่อน นัดเพื่อนไว้ แม่ตามใจให้
เณรสึก ขอฝากไว้ด้วยนะ
ส่วนใหญ่หาหนังมาให้ลูกดู ทั้งที่ลูกยังอยู่ในการเรียน ในการ
ศึกษา แล้วลูกไม่ดีขึ้นมา ต่อภายหลัง อย่าไปด่าลูกนะ เพราะพ่อแม่
เป็นคนก่อสร้าง ปลูกนิสัยลูกออกมาไม่ดีเช่นนี้และพ่อแม่ไม่ให้ความอบอุ่นลูก และไม่ให้การแนะแนวแก่ลูก
ลูกก็ไปติดเพื่อน
โชคดีของตระกูลเรา ไปติดเพื่อนดีก็พาไปทางดี ถ้าโชคร้าย
ไปติดเพื่อนเลว อันธพาลก็จะพาลูกเราไปเสียหาย
ลูกเราอยากได้ดีมีปัญญาทุกคน แต่เขาไม่ทราบ เขาไม่เข้าใจ
ทำไมไม่บอกเขา รักวัวต้องผูกไว้ก่อน เดี๋ยวมันจะหาย รักลูกต้องตี
ด้วยเป็นแบบอย่าง ไม่ตีให้หัวร้างข้างแตก ตีด้วยเมตตา ไม่ใช่ตี
ด้วยโทสะ ต้องเมตตาปรารถนาดีกับลูกเรา นี่ตีด้วยแบบอย่าง
อาตมาไม่โทษเด็ก เด็กเขาเกิดมาอยากเป็นพระเอกทั้งนั้น
อยากรวย อยากสวย อยากดี อยากมีปัญญา แต่เขาไม่รู้ เขาไม่ทราบ
เขาไม่มีวันเข้าใจ
ไปโรงเรียน โรงเรียนเขาก็สอนดี เจ้าคะเจ้าขา วาจาดี มาถึง
บ้านมีแต่คำหยาบคาย นี่เป็นที่พ่อแม่นะ ขอฝากไว้ด้วย สิ่งแวดล้อม
ในบ้านไม่ดี ลูกจึงเลว
คุณธรรมทางศาสนานี้ ทำคนดีให้ขยันหมั่นเพียรเรียนวิชา
ให้มีความรู้ มีหลักฐาน มีงานทำ ให้มีคู่ครอง และมีมนุษยสัมพันธ์
กันในสังคม อยู่ด้วยเมตตาธรรมกันอย่างนี้ โลกจึงจะเป็นสุข โบราณ
ท่านว่าไว้ รักวัวต้องผูก รักลูกต้องตี รักมีต้องค้า รักหน้าต้องคิด
รักมิตรต้องเตือนกัน
เพราะเด็กเขาไม่รู้ พ่อแม่เท่านั้นเป็นครูใหญ่ สำคัญมากกว่าครูนะ
พ่อเณรเอ๋ย เรามาปฏิบัติธรรมแล้ว อย่าเถียงผู้ใหญ่ ต้อง
ดุษณีภาพนิ่งไว้ด้วยความเคารพ และสงบจิตด้วยการเจริญวิปัสสนา





เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ



ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญสร้างพระมหาเจดีย์กับหลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ
087-8599129


ขอเชิญร่วมหล่อพระพุทธชินราชพร้อมอัครสาวกทั้งสองพระองค์ เพื่อนำมาประดิษฐานที่โบสถ์ชั้นล่าง ณ วัดรัตนรังสี จ.นครปฐม ในวันที่ 10 มิ.ย. 55


3 มิ.ย. 55 ขอเรียนเชิญหล่อหลวงปู่ดู่หน้าตัก 86 นิ้ว ณ โรงหล่อลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี


ขอเชิญร่วมบุญขุดสระน้ำถวายวัดป่า-ปรับพื้นที่รอบสมเด็จองค์ปฐม
0860152130


ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าสร้างบันไดทางขึ้นพระอุโบสถ วัดป่าเจริญราช ปทุมธานี
02 995 2112


กรมวิทย์ฯ ขอเชิญร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี
สมทบทุนสร้างกุฏิสงฆ์

ณ วัดเชิงเลน

ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

วันเสาร์ที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
โดยส่งเงินร่วมทำบุญได้ที่ ฝ่ายคลัง สำนักงานเลขานุการกรม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยกระทรวงสาธารณสุข-ติวานนท์ ชื่อบัญชี ผ้าป่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เลขที่บัญชี ๑๔๒-๐-๐๗๑๓๑-๙ ทั้งนี้ ขอความกรุณาส่งใบโอนเงินพร้อมระบุชื่อผู้ร่วมทำบุญ ไปยังโทรสารหมายเลข ๐-๒๕๙๑-๔๒๗๓


ทำบุญผ้าป่าสร้างหอระฆัง-หอสมุด-หอสวดมนต์
โทร. 089-8523498


ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าฯเพื่อบูรณะพระมหาเจดีย์และสร้างอุโบสถวัดป่าไม้ห้า จ.ตาก
ท่านใดที่ไม่สะดวกเดินทางไปทอดผ้าป่าร่วมกันที่วัด ท่านสามารถโอนเงินทำบุญผ่านบัญชีของ
คุณสุภัทก์ กุญชร ณ อยุธยา ซึ่งจะช่วยรวบรวมเงินทำบุญส่งต่อให้กับคณะผ้าป่า
เลขที่บัญฃี : 788-2-04944-7 สาขาย่อยมันนี่พาร์ค มาบุญครอง
ธ.กสิกรไทยโดยขอกำหนดระยะเวลาการโอนเงินได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 26 กรกฎาคม 2555

ผ้าป่าฯเพื่อขุดสระเก็บน้ำ ณ "ที่พักสงฆ์รัตนะวิเวกคลองวาฬ" จ.ประจวบคีรีขันธ์ (19 พ.ค. 55)
โทร. 0-2259-2791


ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างไชยมงคลเจดีย์ศรีหริภุญชัย วัดชัยมงคล (วังมุย) ลำพูน
๐๘๕-๐๔๑-๔๔๕๖


ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี กองละ 555บาท หล่อเทียนจำนำพรรษา
085-195-9625


โครงการถวายมหาสังฆทาน 9 วัด ครั้งที่ 7 (29 พ.ค. 55)
โทร. 081-8696068


วันวิสาขบูชา 1 - 5 มิย. 55 ขอเชิญปฏิบัติธรรม ที่วัดบางพาน
โทรศัพท์ 086-3077955<O


๒๗ พ.ค-๕ มิ.ย ๒๕๕๕ พิธีอุปสมบทหมู่งานฉลองพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี ณ วัดต้นโพธิ์ ปราจีนบุรี
ณ วัดต้นโพธิ์ ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี
ในวันที่ ๒๗ พฤษภาคม – ๕ มิถุนายน ๒๕๕๕ (๑๐ วัน)

http://www.watpamafai.org/index.php?mo=14&newsid=311166




ชวนผู้มีจิตอาสา ร่วมทำงาน “ถอดเทป” พระธรรมเทศนา
ของหลวงพ่อไพฑูรย์ ขันติโก (สามเณรรูปแรกของ หลวงพ่อชา สุภัทโท) เพื่อจะเผยแพร่เป็นหนังสือ และทาง internet ผ่าน blog ของวัดสุภัททมงคล (สาขาวัดหนองป่าพงที่35) http://supattamongkon.blogspot.com


ขอเจริญพรร่วมสร้างพระไตรปิฎก ถวายวัดปางมดแดง จ.พะเยา
โทร.0869789561



แจกและเชิญร่วมสร้างหนังสือสวดมนต์ "ทิพยมนต์" ของท่านพ่อลี วัดอโศการาม
เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ [url=http://www.extrasoul.com/pray3.html]˹ѧ



เรียนเชิญร่วมถวายหนังสือสวดมนต์ 299 วัดทั่วไทย ครั้งที่ 1
มือถือ 088-118-1867


ขอความช่วยเหลือพิมพ์ประวัติพระอสีติมหาสาวก
โทร. 0817291797


มูลนิธิเทียนฝอธรรมสถาน ขอเชิญรับฟังการบรรยายธรรม เพื่อสุขภาพกายและใจที่ดี ฟรี! หัวข้อ "สวดมนต์...เอา(โรค)อยู่"
โดย พระอาจารย์พรพล ปสันโน ในวันพฤหัสบดี ที่ 17 พฤษภาคม 2555 เวลา 09.00-11.00 น.
ณ ห้องประชุมเทียนฝอธรรมสถาน อาคารจูเวลเลอรี่เซ็นเตอร์ ชั้น 24 (ใกล้สน.บางรัก) ถ.นเรศ แขวงสี่พระยา
เขตบางรัก กรุงเทพฯ
โทรสำรองที่นั่ง : 02 266 6901-6



ขอเชิญร่วมบุญจัดพิมพ์หนังสือ "คู่มือทำวัตร-สวดมนต์แปล ฉบับประชาชน"
โทรศัพท์ 082-4448270


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 07:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5326


 ข้อมูลส่วนตัว


กรรมฐาน อย่าเถียงพ่อไม่เถียงครูบาอาจารย์เถียงผู้ใหญ่เลย ถึงท่าน
จะผิดถูกประการใด ท่านเป็นรัตตัญญูรู้เวลากาลกว่าเรา เราเป็นเด็ก
เกิดมาภายหลัง เราว่าท่านพูดไม่ถูกสำหรับเรา แต่ถูกสำหรับท่านนะ
พ่อแม่เกิดมาก่อน อย่าเถียงนะ เป็นบาป และเรียนหนังสือไม่จบ เรียน
หนังสือไม่ได้ดี ไม่มีปัญญา อย่างนี้เป็นต้น
ขอฝากข้อคิดอีกนิดเดียว ไปไหน ไปลา มาไหว้ พบผู้หลัก
ผู้ใหญ่อ่อนน้อมถ่อมตน ปากหวาน ตัวอ่อน มือเป็นหงอน นอบน้อม
กตัญญู เชิดชูระเบียบ จงเพียรด้วยวินัย จงตั้งใจศึกษา นำมาพ้นทุกข์
เป็นสุขอนันต์ เป็นหลักฐานสำคัญ พ่อเณรจงจำใส่ใจ เอาไปใช้
เวลาไปโรงเรียนกราบพ่อแม่ ๓ ครั้ง ตามประเพณีส่วนใหญ่
เขากราบครั้งเดียว เรากราบถึงพระรัตนตรัยเลย คุณพ่อ คุณแม่
พระพุทธเจ้า พระสงฆ์ เป็นพ่อแม่ของเราอย่างแน่นอน
วีโก้ บรูน อุทิศส่วนกุศลให้พ่อ-แม่
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
วีโก้ก็ปฏิบัติ เดินจงกรม ๑ ชั่วโมง นั่ง ๑ ชั่วโมง แล้วอุทิศ
ส่วนกุศลให้พ่อแม่ ส่งโทรจิตไปใจความว่า ข้าพเจ้าวีโก้ บรูน ได้
บวชแล้ว จะเอาของดีไปฝากปู่ให้จงได้ ได้นุ่งเหลืองห่มเหลือง และ
เจริญกรรมฐาน ขอแผ่ส่วนกุศลที่ลูกชายทำกรรมฐานได้ดี ขอให้แม่
หายวันหายคืน จากโรคภัยไข้เจ็บ ณ บัดนี้
อีกข้อหนึ่ง ขอให้ปู่ของข้าพเจ้าได้รับทราบว่า หลานได้ของดี
ใส่ตัวแล้วจะเอาไปฝากปู่ และขอให้พ่อของข้าพเจ้ามีความเจริญ
รุ่งเรือง ด้วยการเจริญกรรมฐานของข้าพเจ้า และขอให้เพื่อนของ
ข้าพเจ้า ๓ คนที่อยู่ออสโลนั้น จงมีความเจริญเท่าเทียมกัน แค่กะพริบ
ตาเดียว วินาทีเดียว แล้ววันนั้นตรงกับวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๑๐
เป็นวันชาตินอรเวย์ ทุกคนหยุดงานทั่วประเทศ แม่กำลังป่วยพักฟื้น
อยู่ในห้อง ปู่กับเพื่อนอีก ๓ คน และพ่อเขากำลังนั่งรับประทาน
อาหารกัน ขณะนั้นเวลา ๙ นาฬิกา แต่เป็นเวลากลางคืนที่นี่
เกิดสังหรณ์จิต เห็นผ้าเหลืองลอยมาแวบแล้วออกไป เขาก็ตกใจ
ปู่คิดได้เลย ชื่นใจว่าหลานคงได้บวชในพระพุทธศาสนาแล้ว และได้
ของดีจากเมืองไทยแล้ว และพวกเขาก็พูด วีโก้ บรูน ออกมาพร้อมกัน
แม่กำลังป่วยหนัก ได้ยินเสียงวีโก้ ด้วยความรักลูกอยู่แล้ว คลานออก
มาจากห้องมานั่งร่วมวง หายเลย แล้วก็เขียนจดหมายส่งมา เขียนวันเดือนปีและเวลาด้วย ปู่ก็ยังฝากความมาด้วยว่า หลานเอ๋ย อยู่เมือง
ไทยสงสัยเหลือเกินว่าคงได้บวช เพราะมีผ้าเหลืองลอยมา นี่แหละ
โทรจิต เลยแม่หายวันหายคืน ใช่ไหมล่ะ
ยามแก่เฒ่า หวังเจ้า เฝ้ารับใช้
ยามป่วยไข้ หวังเจ้า เฝ้ารักษา
เมื่อถึงยาม ต้องตาย วายชีวา
หวังลูกช่วย ปิดตา เมื่อสิ้นใจ
การมาเจริญกรรมฐานเป็นการใช้หนี้กรรม ที่เราทำไว้เมื่อ
ชาติก่อน เป็นการอโหสิกรรม และเป็นการใช้บุญคุณคนตั้งแต่
ครั้งอดีตมา จะรำลึกถึงบุพการีได้ จะนึกถึงบุญคุณคนขึ้นมา นี่ข้อนี้
อย่าผัด
ถ้าเราขาดความสบาย มีความทุกข์ แผ่ตอนนั้นไปให้ใคร
แผ่ให้ลูก ลูกก็ทุกข์ด้วย เอาความทุกข์ไปให้ลูกเสียแล้ว แผ่ตอน
ไม่สบายใจ ตอนเศร้าใจ หมองใจ คิดถึงแม่แล้วก็แผ่ออกไปรับรอง
ไม่ได้ผลนะ เอาของไม่ดีไปให้แม่ของเรา

ทรพีทรพา
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
นานาจิตตัง ต่างเวรต่างกรรมกันมา บางคนมาจากนรกมาเกิด
ในโลกมนุษย์ไม่สามารถเจริญกรรมฐานได้ เข้าวัดก็เดินผ่านไปผ่านมา
เพราะกรรมมันบังจิตใจ คือ ทรพีทรพา อกตัญญูต่อพ่อแม่ตลอดมา
คนประเภทนี้จะเจริญกรรมฐานไม่ได้ ถ้าเจริญกรรมฐาน ต้องอก
แตกตาย เพราะคิดไม่ดีกับพ่อแม่ คิดจะฆ่าพ่อฆ่าแม่
เมื่อเร็ว ๆ นี้ฆ่าพ่อตาย บอกให้มาเจริญกรรมฐานมันร้อนหมด
พอเข้าวัดทนไม่ได้ต้องเอารถออกไป นี่เรื่องจริงที่วัดนี้ ฆ่าพ่อตายแล้ว
แม่เขาสงสารลูกเขา อุตส่าห์พาลูกมาจะเจริญกรรมฐาน นี่โยมเห็นไหม
กรรมมันบัง ร้อน พอรถมาถึงวัดอัมพวันเข้าวัดไม่ได้ ร้อนหมดเลย
ปวดหัวเข้าไม่ได้ แม่นึกว่าผีพ่อสิงเลยเข้ามาบอกอาตมาว่า
หลวงพ่อช่วยดูลูกชายสิผีพ่อเข้าสิงไหม เปล่าเลยเวรกรรมมัน
ตามสนอง ปิตุฆาต มาตุฆาต ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน นี่ฆ่าพ่อ
ขอฝากไว้ทำกรรมฐานไม่ได้แน่ เลยก็ต้องหันรถกลับ นี่เรื่องจริงที่
วัดนี้ ผ่านมาสิบกว่าวันมานี่เอง คนประเภทนี้ไปสวรรค์ไปนิพพาน
ไม่ได้
ขออโหสิกรรม
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
นี่ขอฝากญาติโยมไว้ไปสอนลูกหลาน อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่เลย
ไม่ต้องถึงกับฆ่าหรอก แค่คิดว่าพ่อแม่เราไม่ดี จะทำมาหากินไม่ขึ้น
เจ๊ง ท่านต้องแก้ปัญหาก่อน คือ ถอนคำพูด ขอสมาลาโทษ
พ่อแม่เสีย แล้วมาเจริญกรรมฐาน รับรองสำเร็จแน่ มรรคผลเกิดแน่
ถ้ายังด่าพ่อด่าแม่ทิ้งไว้ แล้วมาเจริญกรรมฐาน อาตมาขอเจริญพรว่า
เจริญไปอีกร้อยปีก็ไม่ได้ผล เพราะเวรกรรมตามสนอง
หากท่านทั้งหลาย เคยด่าท่านผู้มีพระคุณ ถอนคำพูดแล้ว
ขอสมาลาโทษเสีย ท่านจะได้ผลจากการเจริญกรรมฐานทันที เหมือน
พระภิกษุต้องแสดงอาบัติให้บริสุทธิ์เสียก่อน แล้วมาเจริญกรรมฐาน
จึงจะได้ผล เช่น แม่แต้มอยู่ที่บ้านเตาปูนใต้วัดสว่าง เจริญกรรมฐาน
มาตั้ง ๗-๘ ปีไม่ได้ผลเพราะเรื่องอะไร อ๋อ! แกด่าสามีแกที่เป็นปลัด
อำเภอชื่อ ปลัดเขียว แม่แต้มด่าผัวเก่ง
มาปฏิบัติคราวรุ่นแม่ใหญ่ บอกแม่แต้มเอ๊ย ขออโหสิกรรมเสีย
บอกดวงวิญญาณให้อนุโมทนาต่อพระสงฆ์ด้วย หลังจากนั้นก็ขอ
อโหสิกรรมให้ดวงวิญญาณรับทราบว่า พ่อเอ๋ย ฉันขอสมาลาโทษ
กายกรรม วจีกรรมต่อดวงวิญญาณ ขอพระสงฆ์รับทราบ อนุโมทนา
แล้วยะถาสัพพีให้ ตั้งแต่นั้นมาแม่แต้มเข้าผลสมาบัติได้ เจริญ
กรรมฐานได้ผลวันนั้นเลย

ขอขมาแก่พ่อ-แม่
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
เขามานั่งกรรมฐานหายใจยาว ๆ กำหนดได้ร้องไห้เลย บอกว่า
“หลวงพ่อคะ หนูเสียใจที่ด่าแม่ แม่เกลียดหนูเหลือเกิน แม่ไม่อยาก
เลี้ยงลูกสาว หนูก็ด่าแม่ ไปดูเพื่อน พ่อแม่เขาก็รักลูกเหลือเกิน
แต่ทำไมแม่ด่าหนูทุกวัน หนูก็เสียใจ”
มานั่งกรรมฐานก็เกิดคุณสมบัติ กลับไปนำเทียนแพ ไปขอขมา
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม แก่พ่อแม่เขา อาตมาให้ไปทั้งชุด
รวมทั้งทานด้วย พ่อแม่เขาเป็นคนจีนไม่รู้เรื่องหรอก อยู่ต่อมาอีก
๕ เดือน เตี่ยตาย ไม่อย่างนั้นก็เป็นเวรกรรมติดตัวไปอีก เพราะไป
ด่าเตี่ยด้วย
ตั้งแต่กราบขอขมาลาโทษ แล้วส่งเงินเดือนให้แม่ และแผ่
เมตตาให้แม่ ตั้งแต่นั้นมาแม่ไม่เคยด่าลูกเลย และตัวเองก็ได้เลื่อนเป็น
ผู้อำนวยการ ซี. ๘ กลิ่นตัวหาย แต่เวลามีเหงื่อก็เหม็นเหมือนกันนะ
ที่วัดเป็นพยานกันเยอะ
สวดมนต์แผ่เมตตาให้ลูก
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
การแผ่เมตตาสรุปผลงานที่ขอนแก่น ลูกติดยาเสพติด พ่อแม่
สวดมนต์ไม่เป็น ลูกไม่เคยเข้าวัด ค้าเฮโรอีนด้วย ทำอย่างไรถึงจะ
แก้ได้ ตำรวจบอกว่า ลูกคุณพี่ถ้ายังค้าอยู่ จะเก็บเลยนะ ลูกก็หนี
ไปอยู่กรุงเทพฯ พ่อแม่ก็เสียใจ ไปเข้าศูนย์ฯ เวฬุวันที่ขอนแก่น
ไปสวดมนต์ไหว้พระตามแบบเขาไปก่อน พออ่านได้คล่องปาก
คล่องใจ แล้วจึงมีสมาธิ จิตใจดี แล้วนึกถึงลูก ให้ลูกอยู่เย็นเป็นสุข
ลูกก็เลยหันเหเร่เข้าไปพบหนังสือธรรมะ เอามาอ่าน เลิกได้เลย
สัจจะตัวเดียวทำกันไม่ได้ เลยกลับมาบ้าน เดี๋ยวนี้ช่วยพ่อแม่
ค้าขายอย่างดีแล้ว พ่อแม่ก็เข้าวัดไป สวดมนต์ไม่เป็นก็ต้องสวดเป็น
ให้พรลูก
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
คำว่า “พร” นี้ เมื่อให้แล้ว จะถอนไม่ได้มันเป็นบาป พ่อแม่
ที่ให้พรลูกให้มีความรุ่งเรืองแล้ว พอโมโหจะถอนพรก็จะถอนไม่ได้
จะเป็นบาปอย่างร้ายแรง แต่พ่อแม่สมัยนี้ทำได้ พอโมโหไม่พอใจ
ก็แช่งลูก ขับไล่ลูกออกจากบ้านไป พ่อแม่สมัยนี้ทำได้ แต่พระอินทร์
ท่านทำไม่ได้ ให้พรแล้วจะมาถอนไม่ได้ เพราะฉะนั้นกัมมัฏฐานก็สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้อีกอันหนึ่ง เราจะได้รู้ว่าเราได้รับพรมา
จากชาติไหนบ้าง
นึกถึงตัวเอง สงสารตัวเอง
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
เด็กคนหนึ่งมานั่งกรรมฐานได้ ๗ วัน บอกขอกราบลาจะไป
ช่วยคุณแม่คุณพ่อขายของ เมื่อก่อนไม่เคยช่วยเลย กลับไปได้สักพัก
พาแม่มาเข้ากรรมฐาน แม่ไม่เคยเข้าวัด ลูกนำแม่มาเข้าวัด
เป็นอภิชาตบุตร แม่ไม่มีทานให้แม่บำเพ็ญทาน แม่ไม่มีศีลให้แม่
บำเพ็ญศีล แม่ไม่มีภาวนาให้แม่มาสวดมนต์ไหว้พระ ปฏิบัติธรรม
จะได้ไปสวรรค์นิพพาน ต่อมาไม่ช้านานก็พาเตี่ยมาอีกนั่งได้ ๗ วัน
กลับไปนำญาติพี่น้องมาหมด นี่ที่วัดนี้เป็นตัวอย่าง
ท่านทั้งหลาย เมื่อคนเราเกิดความสุขแล้วจะนึกถึงกัน คนที่
ไม่มีความสุขจากการชำระใจจะไม่คิดถึงใครเลย แม้แต่ตัวเองก็ยัง
ไม่คิดถึง ถ้ามีคุณค่าของคน มีบุญเมื่อไร ชำระใจให้หมดจด ใจสบาย
ไม่เศร้าหมองแล้ว จะนึกถึงตัวเองสงสารตัวเอง เมื่อก่อนนี้เคยเล่นการ
พนันก็ขอเลิก เคยดื่มเหล้าก็ขอเลิก เคยเที่ยวเสียเงินเสียทองเลิกหมด
จะรวบรวมเงินทองไว้เลี้ยงครอบครัว ไว้ให้ลูกเรียนหนังสือ ไว้ให้
คุณพ่อคุณแม่ที่แก่เฒ่าไม่มีคนเลี้ยงดู
คนไหนมีความสุขแล้วจะนึกถึงคุณ เรียกว่ากตัญญูกตเวทิตาธรรม
จะระลึกถึงแม่ก่อน ระลึกถึงพ่อก่อน เมื่อก่อนนี้คุณยายด่าก็ว่าชอบบ่นพอมานั่งกรรมฐาน นึกถึงคุณยายเลย ที่ด่าว่านะถูกแล้ว ด่าให้เราดี
เลยกลับไปนอนกับยาย ซื้อผ้าซื้อผ่อนไปให้คุณยาย
ให้ของขวัญ แก่ท่าน นับแต่นี้
ทำความดี ตอบแทน ให้ท่านเห็น
ให้ท่านชื่น หัวใจ ทุกเช้าเย็น
ดีกว่าเป็น คนดีได้ เมื่อวายชนม์
ทำอย่างไรให้ได้ชื่อว่า ได้ทดแทนบุญคุณพ่อแม่อย่างเลิศที่สุด
สรุปคือ ถ้าพ่อแม่เป็นมิจฉาทิฏฐิแล้ว ลูกสามารถชักจูงพ่อแม่ให้กลับ
เป็นสัมมาทิฎฐิได้นั้น ถือว่าได้ทดแทนคุณอย่างเลิศ เช่น พ่อแม่มีความ
เห็นผิด เป็นต้นว่าไม่เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ แล้วลูกสามารถชักจูง
ชี้แจงให้ท่านมีความเห็นที่ถูกต้อง เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
บุญบาปมีจริง ถ้าทำอย่างนี้ได้ถือว่า ทดแทนบุญคุณอย่างเลิศที่สุด
วิธีใช้หนี้พ่อแม่ไม่ยากเลยลูกทั้งหลายเอ๋ย จงสร้างความดีให้กับ
ตัวเองและก็เป็นการใช้หนี้ตัวเองนี่เป็นเรื่องสำคัญ ตัวเราพ่อให้หัวใจ
แม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองแล้วอยู่ในตัวเรา จะไปแสวงหาพ่อที่ไหน จะไป
แสวงหาแม่ที่ไหนอีกเล่า
บางคนรังเกียจแม่ ว่าแก่เฒ่าไม่สวยไม่งาม พอตัวเองแก่ก็เลย
ถูกลูกหลานรังเกียจ จึงเป็นกงกรรมกงเกวียนยืดเยื้อกันต่อไปอีก ใครที่
คุณแม่ล่วงลับไปแล้วก็ให้หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน และถ้า
จะทำบุญด้วยการมาเจริญกรรมฐานแล้วอุทิศส่วนกุศลไป การทำ
เช่นนี้ ถือว่าได้บุญมากที่สุดทั้งฝ่ายผู้ให้และผู้รับมีลูกให้เรียนหนังสือ ถ้าลูกไม่อยากเรียนไม่ยอมเรียน มีวิธีการ
พ่อแม่ให้แผ่เมตตาอย่าไปดุลูกไปตีลูกนะ ไอ้ที่ภาษาโบราณที่ว่า
รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี รักมีให้ค้า รักหน้าให้คิด รักมิตรให้เตือนกัน
ตีตัวนี้ไม่ใช่ตีด้วยไม้เรียว แต่ตีด้วยแบบอย่าง จะพูดกับลูกจะสอนลูก
อย่าโมโหนะ ถ้าเมตตาเจือโทสะลูกจะเสียหาย
จะสอนลูกจะพูดอะไร เมตตา อย่าเจือด้วยโทสะ พูดให้
เพราะ ๆ ลูกจะเชื่อถือ จะเคารพบูชาพ่อแม่ ถ้าพูดด้วยโมโหด้วย
ด่าด้วยลูกจะไม่เชื่อฟัง พูดจนเคยชินด่าจนเคยชิน พอด่าเข้าไปแล้วปั๊บ
ลูกไม่เอาไหนก็ไปหาเพื่อน พูดให้เพราะ ๆ พูดให้มีมนุษยสัมพันธ์
พูดให้ดึงน้ำใจลูกได้ไหม ไม่มีเลย พูดให้ลูกออกจากบ้านไป
การแก้กรรมที่เยี่ยมยอดที่สุดคือ การที่ญาติโยมมานั่งเจริญ
กรรมฐาน แล้วแผ่ส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ทุกท่านจะกลับร้าย
กลายดี ลูกหลานจะมั่งมีศรีสุข จะประกอบอาชีพการงานก็จะมีเงิน
ไหลนองทองไหลมา
ปฏิบัติได้แล้วออกจากกรรมฐาน โยมจิตว่าง จะแผ่ไปให้ใคร
ก็แผ่ไป แผ่ไปให้ลูกอยู่เย็นเป็นสุข แผ่ให้บิดามารดา จงเกิดเจริญสุข
เมื่อเกิดมีสุขในพฤติกรรมของเราอย่างไร พ่อแม่เราก็มีความสุข
อย่างนั้น
เพราะพ่อแม่ก็อยากให้ลูกมีความสุข แต่ลูกมีความทุกข์ ไหนเลย
พ่อแม่จะช่วยลูกให้ถึงเหตุดับทุกข์ ให้เกิดความสุขได้ เพราะฉะนั้น
เราท่านทั้งหลาย ต้องช่วยตัวเอง ช่วยตัวเองทำอย่างไร? ช่วยตัวเอง
ก็มาเจริญกุศล สร้างบุญไว้ในใจ สร้างจิตใจให้สบาย ทำใจให้เป็นสุข




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร