วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 14:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 59 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 18:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:

ยายตอบว่า "ข้าไม่รู้ รู้แต่ว่าอีตากรัชกายมีเว็บเป็นของตัวเองแล้วนะ

แกไม่เห็นเรอะแอบมาโฆษณาในลานธรรมจักรบ่อยๆ"


แกไม่เห็นเรอะแอบมาโฆษณาในลานธรรมจักรบ่อยๆ

ย้ำคิด "เรื่องกะโหลกกะลา" :b32: ว่าแล้วตาก็หัวเราะ

แล้วยายพูดต่อว่า นิพพานอยู่ที่กายใจก็ดีจ้า จะขึ้นเหนือล่องใต้มีนิพพานติดเนื้อติดตัวไปด้วย มนุษย์ทั้งโลกจะได้สิ้นทุกข์คลายโศกกันสะที :b14: เพราะมีกายใจกันทุกคนนิ :b12:

แต่ยายยังข้องใจอยู่หน่อยว่า อวัยวะส่วนใหนกันล่ะที่เรียกว่านิพพาน :b10:

ตอบแบบสั้นๆให้ยายตาสว่างว่า..ถ้ายายไม่รุ้ว่าอวัยวะส่วนไหนที่เรียกว่านิพพาน แล้วใครจะไปรู้กะยายละเจ้าค่ะ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 18:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรรมนั้น เมื่อจำแนกตามคุณภาพ หรือตามธรรมที่เป็นมูลเหตุ ย่อมแบ่งได้เป็น 2 คือ

1. อกุศลกรรม กรรมที่เป็นอกุศล การกระทำที่ไม่ดี กรรมชั่ว หมายถึงการกระทำที่เกิดจากอกุศลมูลคือ โลภะ โทสะ หรือโมหะ

2. กุศลกรรม กรรมที่เป็นกุศล การกระทำที่ดี กรรมดี หมายถึงการกระทำที่เกิดจากกุศลมูลคือ อโลภะ อโทสะ หรืออโมหะ

แต่ถ้าจำแนกตามทวารคือทางที่ทำกรร หรือทางแสดงออกของกรรม จัดเป็น 3 คือ

1. กายกรรม กรรมทำด้วยกาย หรือการกระทำทางกาย
2. วจีกรรม กรรมทำด้วยวาจา หรือการกระทำทางวาจา
3. มโนกรรม กรรมทำด้วยใจ หรือการกระทำทางใจ

เมื่อจำแนกให้ครบตามหลักสองข้อที่กล่าวมาแล้ว ก็จะมีกรรมรวมทั้งหมด 6 อย่างคือ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม แต่ละอย่างที่เป็นอกุศล กับ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม แต่ละอย่างที่เป็นกุศล

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 18:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:

ยายตอบว่า "ข้าไม่รู้ รู้แต่ว่าอีตากรัชกายมีเว็บเป็นของตัวเองแล้วนะ

แกไม่เห็นเรอะแอบมาโฆษณาในลานธรรมจักรบ่อยๆ"


แกไม่เห็นเรอะแอบมาโฆษณาในลานธรรมจักรบ่อยๆ

ย้ำคิด "เรื่องกะโหลกกะลา" :b32: ว่าแล้วตาก็หัวเราะ

แล้วยายพูดต่อว่า นิพพานอยู่ที่กายใจก็ดีจ้า จะขึ้นเหนือล่องใต้มีนิพพานติดเนื้อติดตัวไปด้วย มนุษย์ทั้งโลกจะได้สิ้นทุกข์คลายโศกกันสะที :b14: เพราะมีกายใจกันทุกคนนิ :b12:

แต่ยายยังข้องใจอยู่หน่อยว่า อวัยวะส่วนใหนกันล่ะที่เรียกว่านิพพาน :b10:

ตอบแบบสั้นๆให้ยายตาสว่างว่า..

ถ้ายายไม่รุ้ว่าอวัยวะส่วนไหนที่เรียกว่านิพพาน แล้วใครจะไปรู้กะยายละเจ้าค่ะ :b32:


ตอบ ก็คนที่พูดว่า นิพพานอยู่ที่กายใจยังไงล่ะเจ้าครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 18:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อีกอย่างหนึ่ง ทานจำแนกกรรมตามสภาพที่สัมพันธ์กับวิบากหรือการให้ผล จัดเป็น 4 อย่างคือ

1. กรรมดำ มีวิบากดำ ได้แก่ กายสังขาร วิจีสังขาร และมโนสังขาร ที่มีการเบียดเบียน ตัวอย่างง่ายๆ เช่น ปาณาติบาต อทินนาทาน กาเมสุมิจฉาจาร มุสาวาท และดื่มสุราเมรัย

2. กรรมขาว มีวิบากขาว ได้แก่ กายสังขาร วิจีสังขาร และมโนสังขาร ที่ไม่มีการเบียดเบียน ตัวอย่าง คือ การประพฤติตามกุศลกรรมบถ 10

3. กรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบากทั้งดำทั้งขาว ได้แก่ กายสังขาร วิจีสังขาร และมโนสังขาร ทีมีการเบียดเบียนบ้าง ไม่มีการเบียดเบียนบ้าง เช่น การกระทำของมนุษย์ทั่วๆไป

4. กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม ได้แก่ เจตนาเพื่อละกรรมทั้งสามอย่างข้างต้น หรือว่าโดยองค์ธรรม ได้แก่ โพชฌงค์ 7 หรือมรรคมีองค์ 8

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 18:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ในชั้นอรรถกถา มีการแบ่งประเภทของกรรมอีกแบบหนึ่ง ซึ่งนิยมถือตามกันมา และเป็นที่รู้จักกันดีในยุคหลังๆ คือ การจัดแบ่งเป็นกรรม 12 หรือกรรมสี่ 3 หมวด เช่น ที่แสดงไว้ในคัมภีร์วิสุทธิมัคค์ เป็นต้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 18:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ในบรรดากรรม 3 อย่างคือ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ที่กล่าวข้างต้นนั้น มโนกรรมสำคัญที่สุด และมีผลกว้างขวางรุนแรงที่สุด ดังบาลีว่า


“ดูกรตปัสสี บรรดากรรม 3 อย่างเหล่านี้ ที่เราจำแนกไว้แล้วอย่างนี้ แสดงความแตกต่างกันแล้วอย่างนี้ เราบัญญัติมโนกรรมว่ามีโทษมากกว่า ในการทำบาปกรรม ในความเป็นไปแห่งบาปกรรม หาบัญญัติกายกรรมอย่างนั้นไม่ หาบัญญัติวจีกรรมอย่างนั้นไม่”

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 19:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เหตุที่มโนกรรมสำคัญที่สุด ก็เพราะเป็นจุดเริ่มต้น

คนคิดก่อนแล้วจึงพูดจึงกระทำ คือ แสดงออกทางกาย และวาจา ดังนั้น วจีกรรมและกายกรรม จึงขยายออกมาจากมโนกรรมนั่นเอง และที่ว่า มีผลกว้างขวางรุนแรงที่สุด ก็เพราะว่ามโนกรรมรวมถึงความเชื่อถือ ความเห็น แนวความคิดและค่านิยมต่างๆที่เรียกว่า ทิฏฐิ

ทิฏฐิ นี้เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมทั่วๆไปของบุคคล
ความเป็นไปในชีวิตของบุคคลและคติของสังคมทั้งหมด เมื่อเชื่อ เมื่อเห็น หรือนิยมอย่างไร ก็คิดการ พูดจาและทำการ ก็ดำเนินไปในทางผิด เป็นมิจฉาไปด้วย

ถ้าเป็นสัมมาทิฏฐิ การดำริ พูดจาและทำการต่างๆก็ดำเนินไปในทางถูกต้อง เป็นสัมมาด้วย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 19:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เหตุที่มโนกรรมสำคัญที่สุด ก็เพราะเป็นจุดเริ่มต้น

คนคิดก่อนแล้วจึงพูดจึงกระทำ คือ แสดงออกทางกาย และวาจา ดังนั้น วจีกรรมและกายกรรม จึงขยายออกมาจากมโนกรรมนั่นเอง และที่ว่า มีผลกว้างขวางรุนแรงที่สุด ก็เพราะว่ามโนกรรมรวมถึงความเชื่อถือ ความเห็น แนวความคิดและค่านิยมต่างๆที่เรียกว่า ทิฏฐิ

ทิฏฐิ นี้เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมทั่วๆไปของบุคคล
ความเป็นไปในชีวิตของบุคคลและคติของสังคมทั้งหมด เมื่อเชื่อ เมื่อเห็น หรือนิยมอย่างไร ก็คิดการ พูดจาและทำการ ก็ดำเนินไปในทางผิด เป็นมิจฉาไปด้วย

ถ้าเป็นสัมมาทิฏฐิ การดำริ พูดจาและทำการต่างๆก็ดำเนินไปในทางถูกต้อง เป็นสัมมาด้วย

คุณน้องเห็นสัจธรรม ความจริงที่เกิดขึ้นกับกายและใจตัวเองอีกอย่างหนึ่งแล้วเจ้าค่ะ
คุณน้องกินข้าวอยู่แล้วยุงมากัดตรงขา พอคุณน้องรู้สึกคันจากอาการยุงกัดมือคุนน้องก็ตบพั๊วะไปทันที(เป็นสัญชาตญาณที่ติดตัวมาหรือเรียกว่าสันดานติดตัวมา)
โดยที่คุณน้องไม่มีเจตนา(ถือว่าไม่บาปและไม่ได้ผิดศีล) แต่จิตคุณน้องไปกำหนดรู้ธาตุขันธ์ไม่ทัน แต่ถึงกระนั้น พอยุงตายค่อยมาคิดได้ว่า
เวรกรรมตบยุงตาย เพราะฉะนั้นเลยรู้ด้วยปัจจัตตังของตนว่า สมองเป็นตัวบงการ ธาตุขันธ์ของเรา ส่วนจิตเป็นตัวกำหนดรู้ธาตุขันธ์ คนที่จะสามารถกำหนดรู้ธาตุขันธ์ก่อนที่สมองจะสั่งการให้กระทำลงไปได้ คือคนที่ต้องมี อินทรีย์ แก่กล้า ส่วนสมองนี่แหละ คือ อวิชชา มารควบคุมไว้อยู่
ขอถามท่านกรัชกายหน่อย ว่ากรณีนี้เรียกว่า กายกรรมไหม แล้วแบบนี้ศีลดิฉันบริสุทธิ์หรือไม่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 19:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ลองใจไปงั้นๆแหละเจ้าค่ะ เรื่องบาปกรรม มันก็รู้ด้วย กายใจของตน :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 20:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
คุณน้องเห็นสัจธรรม ความจริงที่เกิดขึ้นกับกายและใจตัวเองอีกอย่างหนึ่งแล้วเจ้าค่ะ
คุณน้องกินข้าวอยู่แล้วยุงมากัดตรงขา พอคุณน้องรู้สึกคันจากอาการยุงกัดมือคุนน้องก็ตบพั๊วะไปทันที(เป็นสัญชาตญาณที่ติดตัวมาหรือเรียกว่าสันดานติดตัวมา)
โดยที่คุณน้องไม่มีเจตนา(ถือว่าไม่บาปและไม่ได้ผิดศีล) แต่จิตคุณน้องไปกำหนดรู้ธาตุขันธ์ไม่ทัน แต่ถึงกระนั้น พอยุงตายค่อยมาคิดได้ว่า

เวรกรรมตบยุงตาย เพราะฉะนั้นเลยรู้ด้วยปัจจัตตังของตนว่า สมองเป็นตัวบงการ ธาตุขันธ์ของเรา ส่วนจิตเป็นตัวกำหนดรู้ธาตุขันธ์ คนที่จะสามารถกำหนดรู้ธาตุขันธ์ก่อนที่สมองจะสั่งการให้กระทำลงไปได้ คือคนที่ต้องมี อินทรีย์ แก่กล้า ส่วนสมองนี่แหละ คือ อวิชชา มารควบคุมไว้อยู่

ขอถามท่านกรัชกายหน่อย ว่ากรณีนี้เรียกว่า กายกรรมไหม แล้วแบบนี้ศีลดิฉันบริสุทธิ์หรือไม่



ขอถามท่านกรัชกายหน่อย ว่ากรณีนี้เรียกว่า กายกรรมไหม แล้วแบบนี้ศีลดิฉันบริสุทธิ์หรือไม่

ไหนๆก็ปัจจัตตังแล้ว ก็ปัจจัตตังไปเถอะขอรับ ปัจจัตตังไปเรื่อยๆ

ส่วนกรัชกาย ขาดปัจจัย ไม่มีตัง :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 20:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
nongkong เขียน:
คุณน้องเห็นสัจธรรม ความจริงที่เกิดขึ้นกับกายและใจตัวเองอีกอย่างหนึ่งแล้วเจ้าค่ะ
คุณน้องกินข้าวอยู่แล้วยุงมากัดตรงขา พอคุณน้องรู้สึกคันจากอาการยุงกัดมือคุนน้องก็ตบพั๊วะไปทันที(เป็นสัญชาตญาณที่ติดตัวมาหรือเรียกว่าสันดานติดตัวมา)
โดยที่คุณน้องไม่มีเจตนา(ถือว่าไม่บาปและไม่ได้ผิดศีล) แต่จิตคุณน้องไปกำหนดรู้ธาตุขันธ์ไม่ทัน แต่ถึงกระนั้น พอยุงตายค่อยมาคิดได้ว่า

เวรกรรมตบยุงตาย เพราะฉะนั้นเลยรู้ด้วยปัจจัตตังของตนว่า สมองเป็นตัวบงการ ธาตุขันธ์ของเรา ส่วนจิตเป็นตัวกำหนดรู้ธาตุขันธ์ คนที่จะสามารถกำหนดรู้ธาตุขันธ์ก่อนที่สมองจะสั่งการให้กระทำลงไปได้ คือคนที่ต้องมี อินทรีย์ แก่กล้า ส่วนสมองนี่แหละ คือ อวิชชา มารควบคุมไว้อยู่

ขอถามท่านกรัชกายหน่อย ว่ากรณีนี้เรียกว่า กายกรรมไหม แล้วแบบนี้ศีลดิฉันบริสุทธิ์หรือไม่



ขอถามท่านกรัชกายหน่อย ว่ากรณีนี้เรียกว่า กายกรรมไหม แล้วแบบนี้ศีลดิฉันบริสุทธิ์หรือไม่

ไหนๆก็ปัจจัตตังแล้ว ก็ปัจจัตตังไปเถอะขอรับ ปัจจัตตังไปเรื่อยๆ

ส่วนกรัชกาย ขาดปัจจัย ไม่มีตัง :b32:

ระวังจะตกสวรรค์ เหมือนจิงฉางจื่อนะเจ้าค่ะ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 20:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กราบพระอาจารย์ :b8:


.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2012, 09:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:

ยายตอบว่า "ข้าไม่รู้ รู้แต่ว่าอีตากรัชกายมีเว็บเป็นของตัวเองแล้วนะ

แกไม่เห็นเรอะแอบมาโฆษณาในลานธรรมจักรบ่อยๆ"


แกไม่เห็นเรอะแอบมาโฆษณาในลานธรรมจักรบ่อยๆ

ย้ำคิด "เรื่องกะโหลกกะลา" :b32: ว่าแล้วตาก็หัวเราะ

แล้วยายพูดต่อว่า นิพพานอยู่ที่กายใจก็ดีจ้า จะขึ้นเหนือล่องใต้มีนิพพานติดเนื้อติดตัวไปด้วย มนุษย์ทั้งโลกจะได้สิ้นทุกข์คลายโศกกันสะที :b14: เพราะมีกายใจกันทุกคนนิ :b12:

แต่ยายยังข้องใจอยู่หน่อยว่า อวัยวะส่วนใหนกันล่ะที่เรียกว่านิพพาน :b10:

ปู่ได้ยินตาพูด เลยเดินมาตบหัวตา แล้วบอกตาว่า กระโหลกกะลาก็ที่ข้ากำลังตบอยู่นี่ไง
รู้อะไรมั้ยมันมีแต่กระโหลก แถมแข็งเป็นกะลา ตาแก่วันๆ ไม่เห็นทำอะไร โพสแต่รูปไร้สาระ
ดันไปว่าคนอื่นกะโหลกกะลาอีก..."แก่แล้วแก่เลยนะตาเฒ่า"
:b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2012, 09:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กราบพระอาจารย์ :b8:


"อย่าเอาความรู้ไปคดโกงใคร"

ขอค่าโฆษณาเว็บด้วยจ้า :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2012, 10:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่ว่า "นิพพานอยู่ที่กายใจ" ตอบได้หรือยังว่า อวัยวะส่วนไหนชื่อนิพพาน แขนเรียกว่านิพพานไหม ขา เรียกว่านิพพานไหม :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 59 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร