วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 16:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 47 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2012, 20:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


กระผมขอกราบอาราธนาพระธรรมเทศนาของพระอาจารย์ใหญ่องค์หลวงปู่มั่น ที่แสดงอบรมเตือนสติลูกศิษย์ท่านมาลงไว้ในที่นี้ครับ :b8:
ท่านเตือนไว้ว่า..."บุคคล...ผู้บำเพ็ญกัมมัฏฐานทั้งหลายควรสำเหนียกข้อนี้ให้มาก เพราะถือเอาทิฏฐิมานะเป็นเกณฑ์ แล้วจะเสียผล เนื่องจากที่เข้าใจตัวเองผิดๆโดยที่ตนเองมักจะตีความเข้าตัวเองอยู่เสมอ เมื่อความดีเกิดขึ้นประมาณ 100 ก็ตีความว่าเรานี้ได้ 1000 แต่การตีความเช่นนี้มันก็ไม่เสียหายอะไร และก็ไม่เป็นบาปด้วย เช่นเราทำสมาธิได้รูปฌานมา ก็เข้าใจว่าเราได้อรูปฌาน หรือกำลังพิจารณาความเกิดดับเป็นอุบายของสมถะข้างต้น ก็เข้าใจว่าตัวถึงวิปัสสนาที่แท้จริง เหล่านี้คือการเข้าใจตัวเองผิด ไม่เป็นบาป...แต่ก็ทำให้เกิดการเนิ่นช้าเสียเวลา ควรจะยอมรับความจริงเสีย...อย่ายกตัวเองให้มากไป...จะเสียเวลาเปล่า บำเพ็ญเพียรที่เขาได้ผลอย่างจริงจังนั้น เพราะยอมรับความจริงโดยไม่หลีกเลี่ยง และมีความมุ่งหวังความพ้นทุกข์...ด้วยความบริสุทธิ์ใจ"...คำเตือนอันนี้ผมถือเป็นคติของใจ เพราะผมคิดเสมอว่าตราบใดที่จิตสังขารยังมี ก็อย่าไว้ใจความคิดของตนเองให้มาก
ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2012, 23:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
เมื่อความดีเกิดขึ้นประมาณ 100 ก็ตีความว่าเรานี้ได้ 1000 แต่การตีความเช่นนี้มันก็ไม่เสียหายอะไร และก็ไม่เป็นบาปด้วย เช่นเราทำสมาธิได้รูปฌานมา ก็เข้าใจว่าเราได้อรูปฌาน หรือกำลังพิจารณาความเกิดดับเป็นอุบายของสมถะข้างต้น ก็เข้าใจว่าตัวถึงวิปัสสนาที่แท้จริง เหล่านี้คือการเข้าใจตัวเองผิด ไม่เป็นบาป...แต่ก็ทำให้เกิดการเนิ่นช้าเสียเวลา ควรจะยอมรับความจริงเสีย...อย่ายกตัวเองให้มากไป...จะเสียเวลาเปล่า


:b8: :b8: :b8:

หลง..มีทุกคน...

หลงมาก..หลงน้อย...หลงสั้น....หลงยาว

หายหลงนั้นแหละ...ถึงรู้ว่าหลงไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 02:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
กระผมขอกราบอาราธนาพระธรรมเทศนาของพระอาจารย์ใหญ่องค์หลวงปู่มั่น ที่แสดงอบรมเตือนสติลูกศิษย์ท่านมาลงไว้ในที่นี้ครับ :b8:
ท่านเตือนไว้ว่า..."บุคคล...ผู้บำเพ็ญกัมมัฏฐานทั้งหลายควรสำเหนียกข้อนี้ให้มาก เพราะถือเอาทิฏฐิมานะเป็นเกณฑ์ แล้วจะเสียผล เนื่องจากที่เข้าใจตัวเองผิดๆโดยที่ตนเองมักจะตีความเข้าตัวเองอยู่เสมอ เมื่อความดีเกิดขึ้นประมาณ 100 ก็ตีความว่าเรานี้ได้ 1000 แต่การตีความเช่นนี้มันก็ไม่เสียหายอะไร และก็ไม่เป็นบาปด้วย เช่นเราทำสมาธิได้รูปฌานมา ก็เข้าใจว่าเราได้อรูปฌาน หรือกำลังพิจารณาความเกิดดับเป็นอุบายของสมถะข้างต้น ก็เข้าใจว่าตัวถึงวิปัสสนาที่แท้จริง เหล่านี้คือการเข้าใจตัวเองผิด ไม่เป็นบาป...แต่ก็ทำให้เกิดการเนิ่นช้าเสียเวลา ควรจะยอมรับความจริงเสีย...อย่ายกตัวเองให้มากไป...จะเสียเวลาเปล่า บำเพ็ญเพียรที่เขาได้ผลอย่างจริงจังนั้น เพราะยอมรับความจริงโดยไม่หลีกเลี่ยง และมีความมุ่งหวังความพ้นทุกข์...ด้วยความบริสุทธิ์ใจ"...คำเตือนอันนี้ผมถือเป็นคติของใจ เพราะผมคิดเสมอว่าตราบใดที่จิตสังขารยังมี ก็อย่าไว้ใจความคิดของตนเองให้มาก
ขอบคุณครับ :b8:

อยากได้ใคร่ดีจนเกินงามจริงๆ บวชแค่ 7วัน แล้วไม่สำเหนียก :b32: อ้อ..อยากได้ลิงค์ของพระอาจารย์หลวงปุ่มั่นด้วยเจ้าค่ะ ประโยคที่พูดมาหวังว่าคงมีที่มาที่ไปนะเจ้าค่ะ :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 09:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อรู้แนวทาง ต้องมีความเพียรต่อไปเรื่อยๆ อนุโมทนาครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 09:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 20:04
โพสต์: 25

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
อ้อ..อยากได้ลิงค์ของพระอาจารย์หลวงปุ่มั่นด้วยเจ้าค่ะ ประโยคที่พูดมาหวังว่าคงมีที่มาที่ไปนะเจ้าค่ะ :b20:

onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 11:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากถามว่า เหนื่อยมั้ยเจ้าค่ะในกายและจิต ที่วิ่งโร่โห่กระเชิง ไปขอยืมบารมีพระอาจารย์ท่านนั้นท่านนี้
แล้วมาตั้งกระทู้ แถมเป็นกระทู้ในเชิงมานะทิฏฐิ ดิฉันเห็นคุนลูกพระป่ามีแต่ธรรมกับธรรมของพระอาจารย์
ยึดได้ ยึดดี ยึดอยู่นั่น อยากถามอีกว่า หา"ตัวกู ที่ไม่ใช่ของกู"เจอหรือยังเจ้าค่ะ หรือมัวหลงหาแต่ ธรรมของพระอาจารย์กู แต่ไม่ใช่ธรรมของกู :b32: แต่จะว่าไปแล้วก็ไม่ผิดหรอกเจ้าค่ะ เพราะธรรมไม่มี บารมีเลยไม่ผุด เลยต้องไปขอบารมีของพระอาจารย์ท่านมาแสดง เพื่อตัวเองจะได้ดูเป็นผู้ทรงภูมิ ซึ่งคุณลูกพระป่าเนียะแตกต่างจากดิฉันโดยสิ้นเชิง ดิฉันเน้น มารไม่มี บารมีไม่เกิด แถมต้องรบกับมารทุกวี่ทุกวันเลยเจ้าค่ะ cool


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 13:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
กระผมขอกราบอาราธนาพระธรรมเทศนาของพระอาจารย์ใหญ่องค์หลวงปู่มั่น ที่แสดงอบรมเตือนสติลูกศิษย์ท่านมาลงไว้ในที่นี้ครับ :b8:
ท่านเตือนไว้ว่า..."บุคคล...ผู้บำเพ็ญกัมมัฏฐานทั้งหลายควรสำเหนียกข้อนี้ให้มาก เพราะถือเอาทิฏฐิมานะเป็นเกณฑ์ แล้วจะเสียผล เนื่องจากที่เข้าใจตัวเองผิดๆโดยที่ตนเองมักจะตีความเข้าตัวเองอยู่เสมอ เมื่อความดีเกิดขึ้นประมาณ 100 ก็ตีความว่าเรานี้ได้ 1000 แต่การตีความเช่นนี้มันก็ไม่เสียหายอะไร และก็ไม่เป็นบาปด้วย เช่นเราทำสมาธิได้รูปฌานมา ก็เข้าใจว่าเราได้อรูปฌาน หรือกำลังพิจารณาความเกิดดับเป็นอุบายของสมถะข้างต้น ก็เข้าใจว่าตัวถึงวิปัสสนาที่แท้จริง เหล่านี้คือการเข้าใจตัวเองผิด ไม่เป็นบาป...แต่ก็ทำให้เกิดการเนิ่นช้าเสียเวลา ควรจะยอมรับความจริงเสีย...อย่ายกตัวเองให้มากไป...จะเสียเวลาเปล่า บำเพ็ญเพียรที่เขาได้ผลอย่างจริงจังนั้น เพราะยอมรับความจริงโดยไม่หลีกเลี่ยง และมีความมุ่งหวังความพ้นทุกข์...ด้วยความบริสุทธิ์ใจ"...คำเตือนอันนี้ผมถือเป็นคติของใจ เพราะผมคิดเสมอว่าตราบใดที่จิตสังขารยังมี ก็อย่าไว้ใจความคิดของตนเองให้มาก
ขอบคุณครับ :b8:

แบบนี้เรียกว่ายืมปากครูบาอาจารย์มาด่าชาวบ้าน
ช่างเป็นอกุศลจิตจริงๆ

"พูดมากเสียมาก พูดน้อยเสียน้อย
นิ่งเสียโพธิสัตว์"
:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 13:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ลูกพระป่า เขียน:
เมื่อความดีเกิดขึ้นประมาณ 100 ก็ตีความว่าเรานี้ได้ 1000 แต่การตีความเช่นนี้มันก็ไม่เสียหายอะไร และก็ไม่เป็นบาปด้วย เช่นเราทำสมาธิได้รูปฌานมา ก็เข้าใจว่าเราได้อรูปฌาน หรือกำลังพิจารณาความเกิดดับเป็นอุบายของสมถะข้างต้น ก็เข้าใจว่าตัวถึงวิปัสสนาที่แท้จริง เหล่านี้คือการเข้าใจตัวเองผิด ไม่เป็นบาป...แต่ก็ทำให้เกิดการเนิ่นช้าเสียเวลา ควรจะยอมรับความจริงเสีย...อย่ายกตัวเองให้มากไป...จะเสียเวลาเปล่า


:b8: :b8: :b8:

หลง..มีทุกคน...

หลงมาก..หลงน้อย...หลงสั้น....หลงยาว

หายหลงนั้นแหละ...ถึงรู้ว่าหลงไป

กะลาตื่นๆ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 21:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


วู้...กำลังฝันดี....ใครมาสกิดละเนี้ย... :b26: :b26:

ฝันว่าครูบาอาจารย์มาสอน..นี้นะ....ไม่อยากจะตื่น...เล้ยยย... huh huh


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 21:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
กระผมขอกราบอาราธนาพระธรรมเทศนาของพระอาจารย์ใหญ่องค์หลวงปู่มั่น ที่แสดงอบรมเตือนสติลูกศิษย์ท่านมาลงไว้ในที่นี้ครับ :b8:
ท่านเตือนไว้ว่า..."บุคคล...ผู้บำเพ็ญกัมมัฏฐานทั้งหลายควรสำเหนียกข้อนี้ให้มาก เพราะถือเอาทิฏฐิมานะเป็นเกณฑ์ แล้วจะเสียผล เนื่องจากที่เข้าใจตัวเองผิดๆโดยที่ตนเองมักจะตีความเข้าตัวเองอยู่เสมอ เมื่อความดีเกิดขึ้นประมาณ 100 ก็ตีความว่าเรานี้ได้ 1000 แต่การตีความเช่นนี้มันก็ไม่เสียหายอะไร และก็ไม่เป็นบาปด้วย เช่นเราทำสมาธิได้รูปฌานมา ก็เข้าใจว่าเราได้อรูปฌาน หรือกำลังพิจารณาความเกิดดับเป็นอุบายของสมถะข้างต้น ก็เข้าใจว่าตัวถึงวิปัสสนาที่แท้จริง เหล่านี้คือการเข้าใจตัวเองผิด ไม่เป็นบาป...แต่ก็ทำให้เกิดการเนิ่นช้าเสียเวลา ควรจะยอมรับความจริงเสีย...อย่ายกตัวเองให้มากไป...จะเสียเวลาเปล่า บำเพ็ญเพียรที่เขาได้ผลอย่างจริงจังนั้น เพราะยอมรับความจริงโดยไม่หลีกเลี่ยง และมีความมุ่งหวังความพ้นทุกข์...ด้วยความบริสุทธิ์ใจ"...คำเตือนอันนี้ผมถือเป็นคติของใจ เพราะผมคิดเสมอว่าตราบใดที่จิตสังขารยังมี ก็อย่าไว้ใจความคิดของตนเองให้มาก
ขอบคุณครับ :b8:


หลวงปู่มั่นกล่าวในโอกาสอะไรคะ ท่านมีจุดประสงค์จะสื่อในเรื่องของอะไร ขอลิงก์ที่มาได้มั้ยคะ
คือถ้าคุณนำบทความมาลงโดยไม่ระบุวัตถุประสงค์ของหลวงปู่มั่นให้ชัดเจนว่าหลวงปู่ท่านจะสอน
เรื่องอะไร กล่าวเนื่องในโอกาสอะไร ก็จะทำให้ผู้อ่านตีความกันไปแบบสะเปะสะปะนะคะ คุณต้อง
ระบุให้ชัดเจนว่าหลวงปู่ท่านกล่าวสอนเรื่องอะไร วาระใด หรือโอกาสอะไร คนอื่นจะได้เข้าใจตรงกัน
แต่ถ้าคุณไม่สะดวกจะระบุข้อมูลให้ครบถ้วน กรุณาระบุลิงก์ที่มาให้ชัดเจนได้มั้ยคะ ดิฉันจะตามไปอ่าน
เองก็ได้ค่ะ

s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 21:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านดู....

พิจารณา...

แล้วก็สอนตัวเอง....มีประโยชน์ที่สุด
rolleyes rolleyes


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 22:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อ่านดู....

พิจารณา...

แล้วก็สอนตัวเอง....มีประโยชน์ที่สุด
rolleyes rolleyes


อ่านอะไร ก็ควรจะได้อย่างนั้น
คนเขียนไปทาง คนอ่านไปทาง
อ่านอีกอย่าง แต่ได้อีกอย่าง
ดูยังไงๆ ก็ไม่รู้นะคะ
พิจารณาดู จริงมั้ยคะ

s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 22:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


หญิงไทย เขียน:
ลูกพระป่า เขียน:
กระผมขอกราบอาราธนาพระธรรมเทศนาของพระอาจารย์ใหญ่องค์หลวงปู่มั่น ที่แสดงอบรมเตือนสติลูกศิษย์ท่านมาลงไว้ในที่นี้ครับ :b8:
ท่านเตือนไว้ว่า..."บุคคล...ผู้บำเพ็ญกัมมัฏฐานทั้งหลายควรสำเหนียกข้อนี้ให้มาก เพราะถือเอาทิฏฐิมานะเป็นเกณฑ์ แล้วจะเสียผล เนื่องจากที่เข้าใจตัวเองผิดๆโดยที่ตนเองมักจะตีความเข้าตัวเองอยู่เสมอ เมื่อความดีเกิดขึ้นประมาณ 100 ก็ตีความว่าเรานี้ได้ 1000 แต่การตีความเช่นนี้มันก็ไม่เสียหายอะไร และก็ไม่เป็นบาปด้วย เช่นเราทำสมาธิได้รูปฌานมา ก็เข้าใจว่าเราได้อรูปฌาน หรือกำลังพิจารณาความเกิดดับเป็นอุบายของสมถะข้างต้น ก็เข้าใจว่าตัวถึงวิปัสสนาที่แท้จริง เหล่านี้คือการเข้าใจตัวเองผิด ไม่เป็นบาป...แต่ก็ทำให้เกิดการเนิ่นช้าเสียเวลา ควรจะยอมรับความจริงเสีย...อย่ายกตัวเองให้มากไป...จะเสียเวลาเปล่า บำเพ็ญเพียรที่เขาได้ผลอย่างจริงจังนั้น เพราะยอมรับความจริงโดยไม่หลีกเลี่ยง และมีความมุ่งหวังความพ้นทุกข์...ด้วยความบริสุทธิ์ใจ"...คำเตือนอันนี้ผมถือเป็นคติของใจ เพราะผมคิดเสมอว่าตราบใดที่จิตสังขารยังมี ก็อย่าไว้ใจความคิดของตนเองให้มาก
ขอบคุณครับ :b8:


หลวงปู่มั่นกล่าวในโอกาสอะไรคะ ท่านมีจุดประสงค์จะสื่อในเรื่องของอะไร ขอลิงก์ที่มาได้มั้ยคะ
คือถ้าคุณนำบทความมาลงโดยไม่ระบุวัตถุประสงค์ของหลวงปู่มั่นให้ชัดเจนว่าหลวงปู่ท่านจะสอน
เรื่องอะไร กล่าวเนื่องในโอกาสอะไร ก็จะทำให้ผู้อ่านตีความกันไปแบบสะเปะสะปะนะคะ คุณต้อง
ระบุให้ชัดเจนว่าหลวงปู่ท่านกล่าวสอนเรื่องอะไร วาระใด หรือโอกาสอะไร คนอื่นจะได้เข้าใจตรงกัน
แต่ถ้าคุณไม่สะดวกจะระบุข้อมูลให้ครบถ้วน กรุณาระบุลิงก์ที่มาให้ชัดเจนได้มั้ยคะ ดิฉันจะตามไปอ่าน
เองก็ได้ค่ะ

s006

คุนลูกพระป่าแก่หลายหนแล้ว สันดานเก่าแก้ไม่หายเจ้าค่ะพี่หญิงไทย ครั้งหนึ่งก็กระทู้พี่หญิงไทย ต่อมาก็กระทู้คุนน้อง ถัดไปก็ท่านเช่นนั้น แล้วมาสร้างวีรกรรมไว้อีกแล้ว พวกปมเขื่องเจ้าค่ะ อยากมีปมเด่นในทางธรรมแล้วชอบยกธรรมของพระอาจารย์ตนมาข่มผู้อื่น ดิฉันเอือมจริงๆคนประเภทนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2012, 08:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ครั้งพุทธกาล พระพุทธองค์ ไม่แสดงธรรมพร่ำเพรื่อ ไม่ยัดเยียดให้ใคร
พระองค์จะแสดงธรรมก็ต่อเมื่อ "เห็นประโยชน์" เท่านั้น

สมัยนี้แสดงธรรมกันเป็นว่าเล่น (รวมทั้งข้าน้อยด้วย ..อิ) หากกลัวคนอื่นไม่เชื่อ
ก็เอาคำพูดเรา "ใส่ปาก" หลวงปู่ฯ หลวงตาฯ ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย
กลายเป็นว่า "เราพูด เราคิด" คือ "หลวงตาฯ พูด หลวงตาฯ คิด" ไป เป็นต้น

"กัลยาณมิตร" เป็นสิ่งที่ดี ใครๆ ก็อยากได้ อยากเป็น อยากมี
แต่ "กัลยาณมิตร" เป็นฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องยอมรับทั้งสองฝ่าย

แม้อีกฝ่ายไม่ยอมรับ ไม่เห็นประโยชน์ ไม่ต้องการ
"กัลยาณมิตร" ก็ไม่มีความหมาย ...

:b12:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2012, 19:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อ่านดู....

พิจารณา...

แล้วก็สอนตัวเอง....มีประโยชน์ที่สุด
rolleyes rolleyes

ผมขออนุโมทนากับคำกล่าวนี้ของพี่กบนอกกะลาด้วยครับ :b8: ที่เข้าใจและพิจารณาธรรมโดยธรรม...สำหรับหลายๆท่านที่เห็นเป็นอย่างอื่นนั้นก็คงเป็นเพราะไม่ได้ตั้งใจพิจารณาธรรมโดยธรรม...แต่พิจารณาธรรมโดยตัวบุคคลก่อน...จึงเป็นเหตุให้มองข้ามธรรมแล้วมายึดติดอยู่ที่ตัวผม...คือมาวิตกวิจารณ์อยู่กับตัวผมแทนที่จะมุ่งพิจารณาที่ตัวธรรม ประโยชน์ที่ควรจะได้รับจากธรรมจึงไม่อาจยังผลได้เต็มที่นะครับ...ส่วนตัวผมจะเป็นเช่นไรจะดีชั่วอย่างไร...ผมก็เป็นเช่นนั้นตามแต่ความเห็นของแต่ละคนนั้นแหละครับ...ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรมนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 47 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร