วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 04:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 33 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 00:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อยู่กับความมืด เขียน:
พระเจ้าช่วยท่านได้.................... :b11: :b11:


พระเจ้า...บอกว่า...ส่งคนไปช่วยแล้ว...เอ็งไม่เชื่อเอง..นี้หว่า :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 00:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อี๊..... :b10:

คนอะไรเป็น....โรค

โรคไม่เที่ยง.....เกิด..แล้วก็ดับ :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 08:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2012, 15:49
โพสต์: 20

ชื่อเล่น: ทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าฟังตามที่ฝรั่งเขาวิจารณ์ ผมเข้าใจว่าเขาเปรียบเทียบกับศาสนาคริสต์ ยูดาย อิสลาม ฮินดู คือมองตรงมีพระเจ้าองค์หนึ่งเป็นพระผู้สร้าง แต่เขาไม่ได้มองลงมาที่ระดับเทวดา จึงแบ่งศาสนาเป็น 2 กลุ่มว่าเป็นกะเทวนิยม อเทวนิยม แต่มุมมองของจขกท ก็น่าจะมองได้ด้วยคำอธิบายที่ต่างกัน สรุปแบบของท่านกบนอกกะลา ว่าเป็นการมองด้วยแว่นคนละสี อันนี้หมายถึงว่า ต่างกันอย่างไรครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 09:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________

แก้ไขล่าสุดโดย อยู่กับความมืด เมื่อ 15 เม.ย. 2012, 00:26, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง



กบนอกกะลา เขียน:

อี๊..... :b10:

คนอะไรเป็น....โรค

โรคไม่เที่ยง.....เกิด..แล้วก็ดับ :b32: :b32:


เอิ๊ก....เอิ๊ก....เอิ๊ก...

กบนอกกะลา เขียน:
เป็นอะไรไป....โลเลโล้เล้ก...รึงัย

เขียน..ลบ...เขียน..ลบ

ไม่มั่นใจขนาดนั้นเลยหรือ?

viewtopic.php?f=1&t=41752&start=30

เอิ๊ก....เอิ๊ก....เอิ๊ก...

:b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 09:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
สรุปแบบของท่านกบนอกกะลา ว่าเป็นการมองด้วยแว่นคนละสี อันนี้หมายถึงว่า ต่างกันอย่างไรครับ


นี้เป็นคำถามรึเปล่าครับ....งง..งง..นะ :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 09:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไปถามนักวิชาการ...เขาก็ว่าอันนี้เป็นเทวนิยม...อันนี้อเทวนิยม

ไปถามคริสตศาสนิกชน...เขาก็ว่าอันนี้ของเขาเป็นความจริงอันประเสริฐ

ไปถามอิสลามมิก...เขาก็ว่าอันนี้ของเขาเป็นความจริงอันประเสริฐ

มาถามพุทธศาสนิก...เราก็ว่าอันนี้แหละความจริงอันประเสริฐ


แต่..ความจริงมีอยู่...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 09:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แว่นของใคร..สีเขียวดำน้ำเงิน...สีเข้ม..สีจาง...หรือไม่มีสี

มีอยู่..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 11:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


สัตว์ทั้งปวง ต่างให้คุณให้โทษ ซึ่งกันและกันได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกฏแห่งกรรม
การที่เรา ช่วยเหลือ สัตว์อื่น เราก็เหมือนเทวดานั่นเอง ในตอนนั้น

คุณหมอช่วยเราให้หายป่วย เราก็ยกย่องท่านว่า หมอเทวดา

แต่สัตว์ใดมาทำอันตรายเรา เราก็ตำหนิว่า สัตว์นรก หรือไม่ก็อสุรกาย หรือไม่ก็ผี ปีศาจ

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 11:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าใช้คำถามว่าเป็นเทวนิยมหรืออเทวนิยมเลย

ให้ท่านไปศึกษาพระไตรปิฎกเพิ่มก็จะได้คำตอบเองอย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องขอความเห็นสนับสนุนเลย.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 13:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


หนับหนุน... :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 14:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


voy4832 เขียน:
ด้วยความเคารพ มีหลายนักวิชาการทางศาสนาเปรียบเทียบ กล่าวว่า ศาสนาพุทธเป็น แบบ อเทวนิยม
ซึ่งกระผม ก็ไม่เห็นด้วยนัก น่าจะเป็นกึ่งเทวนิยมเพราะ คำสอนในศาสนาพุทธ
1. เชื่อว่าเทวดามีจริง
2. เชื่อว่าเทวดามีฤทธิ์มากกว่า มนุษย์สามัญชน และสามารถให้คุณ ให้โทษ ปกป้อง มนุษย์ได้
3. เชื่อว่าเทวดาเป็นผู้ที่มนุษย์สามัญ ควรเคารพ และระลึกถึงคุณเทวดา
4. แต่ไม่เชื่อว่าจะมีเทวดา หรือ พรหม องค์ไหน จะเป็นผู้สร้างโลก และกำหนดชะตาของมนุษย์
5. แม้แต่เทวดา หรือ พรหม คงอยู่ภายใต้กฏแห่งกรรม
6. ทุกวิญญาณ หรือ ดวงจิต มีสิทธิเลือกที่จะเป็น เทวดา พรหม มนุษย์ อสูร เปรต สัตว์นรก ตามการกระทำของตนเอง
ใครมีความเห็นอย่างไร ช่วยกัน แชร์ด้วยนะครับ



:b10: นั่นเป็นมุมมองของนักวิชาการที่ศึกษาพุทธศาสนาเพียงภายนอก

เรื่องเหล่านั้นเป็นเพียงความเชื่อและตัวอักษรที่สืบต่อกันมา

นักศึกษาพุทธที่แท้นั้นจะไม่สนใจเสียงกล่าวอ้างตามภาษาโลกเหล่านั้น

เมื่อศึกษาในเนื้อแท้แล้วพุทธศานาสอนเพียงทุกข์กับการการดับทุกข์

หากแม้นมีเทพเทวดาจริง นั่นก็เป็นเพียงธรรมหนึ่งเท่านั้น ในบรรดาธรรมธาตุมากมาย

แต่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า ธรรมทั้งปวงไม่ใช่ตน

การถึงความไม่ใช่ตนนั่นแหละเป็นเนื้อแท้เป็นปลายทางของศาสนานี้ :b16:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2012, 07:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นักประวัติศาสตร์แบ่งศาสนาออกเป็น ๓ กลุ่มคือ
๑. ไม่มีเทพเจ้า ๒.มีเทพเจ้าองค์เดียว ๓.มีเทพเจ้าหลายองค์
โดยอาศัยการค้นคว้าขุดค้นหาหลักฐานทางโปราณคดี
โชคดีที่ประมาณ ๓๐๐กว่าปีหลังพุทธกาล พระเจ้าอโศกได้ปักเสาศิลาพร้อมจารึกตามสถานที่สำคัญทางศาสนาพุทธไว้ทุกแห่ง ทำให้ง่ายต่อการหาหลักฐาน
และอาศัยเปรียบเทียบกับศาสนาร่วมสมัยคือศาสนาเชน (ไม่ใช่ศาสนาเซ็นซึ่งเป็นนิกายหนึ่งของศาสนาพุทธ) ซึ่งเป็นศาสนาที่ไม่มีเทพเจ้าเหมือนกัน
หลักคำสอนคล้ายกับศาสนาพุทธมาก เน้นการปล่อยวางไม่ยึดติด นักปวชไม่มีเครื่องนุ่งห่มใดๆ
นักประวัติศาสตร์ยังสัญนิฐานว่าศาสนาพุทธพัฒนามาจากศาสนาเชนด้วยซ้ำ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2012, 09:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
หลักคำสอนคล้ายกับศาสนาพุทธมาก เน้นการปล่อยวางไม่ยึดติด นักปวชไม่มีเครื่องนุ่งห่มใดๆ
นักประวัติศาสตร์ยังสัญนิฐานว่าศาสนาพุทธพัฒนามาจากศาสนาเชนด้วยซ้ำ


ไม่ใช่หรอกนะครับ

..............................

ปล.จริงๆ สิ่งที่ควรสนใจ ใส่ใจยังมีอีกมากนะครับ บางเรื่องก็ไม่ได้เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์แต่ประการใด ฝากไว้ให้พิจารณา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2012, 11:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นว่าโอปปาติกสัตว์ คือสัตว์ที่เกิดขึ้นเองโดยไม่มีบิดามารดา เกิดแล้วโตเต็มที่ทันทีอย่างพวกเทวดาเป็นต้นไม่มีเป็นมิจฉาทิฐิ


Quote Tipitaka:
[๒๕๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็มิจฉาทิฐิเป็นไฉน คือ ความเห็นดังนี้ว่า
ทานที่ให้แล้ว ไม่มีผล ยัญที่บูชาแล้ว ไม่มีผล สังเวยที่บวงสรวงแล้ว ไม่มีผล
ผลวิบากของกรรมที่ทำดีทำชั่วแล้วไม่มี โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี มารดาไม่มี
บิดาไม่มี สัตว์ที่เป็นอุปปาติกะไม่มี สมณพราหมณ์ทั้งหลายผู้ดำเนินชอบ ปฏิบัติ
ชอบ ซึ่งประกาศโลกนี้โลกหน้าให้แจ่มแจ้ง เพราะรู้ยิ่งด้วยตนเอง ในโลกไม่มี
นี้มิจฉาทิฐิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2012, 11:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
[๒๑๔] เทพ ในอุเทศว่า "ปสฺสามหํ เทวมนุสฺสโลเก" ดังนี้ มี ๓
คือ สมมติเทพ ๑ อุปบัติเทพ ๑ วิสุทธิเทพ ๑. สมมติเทพเป็นไฉน? พระราชา พระราช-
*กุมารและพระเทวี เรียกว่า สมมติเทพ.
อุปบัติเทพเป็นไฉน? เทวดาชาวจาตุมหาราชิกา เทวดาชาวดาวดึงส์ เทวดาชาวยามา
เทวดาชาวดุสิต เทวดาชาวนิมมานรดี เทวดาชาวปรนิมมิตวสวัตดี เทวดาที่นับเนื่องในหมู่พรหม
และเทวดาในชั้นที่สูงกว่า เรียกว่าอุปบัติเทพ.
วิสุทธิเทพเป็นไฉน? พระอรหันตขีณาสพสาวกของพระตถาคต และพระปัจเจก-
*สัมพุทธเจ้า เรียกว่า วิสุทธิเทพ.
พระผู้มีพระภาคเป็นเทพ เป็นเทพยิ่งกว่าสมมติเทพ กว่าอุปบัติเทพ และกว่าวิสุทธิเทพ
ทั้งหลาย เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ
เป็นสีหะยิ่งกว่าสีหะ เป็นนาคยิ่งกว่านาค เป็นเจ้าคณะยิ่งกว่า
เจ้าคณะ เป็นมุนียิ่งกว่ามุนี เป็นพระราชายิ่งกว่าพระราชา.
คำว่า ปสฺสามหํ เทว มนุสฺสโลเก ความว่า ข้าพระองค์ย่อมเห็นพระองค์ผู้เป็นเทพ
คือ ย่อมเห็นพระองค์ผู้เป็นอติเทพ ย่อมเห็น ย่อมดู ย่อมแลดู ย่อมเพ่งดู ย่อมเข้าพิจารณา
ซึ่งพระองค์ผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ข้าพระองค์ย่อมเห็นพระองค์ผู้เป็นเทพ ...
ในมนุษยโลก.
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๐ บรรทัดที่ ๒๐๒๐ - ๒๓๘๘. หน้าที่ ๘๒ - ๙๖.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... agebreak=0


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 33 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร