วันเวลาปัจจุบัน 03 ส.ค. 2025, 12:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2012, 21:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
สวัสดีครับ คุณ nongkong :b8:
บางครั้งบางทีความรู้ของเราที่เป็นปัตจัตตัง มันก็เป็นปัตจัตตังที่โดนกิเลสอวิชชามันหลอก...ที่เรียกว่าวิปัสนูปกิเลส จึงต้องสอบทานอารมณ์กับครูบาอาจารย์ที่ท่านสำเร็จมาก่อนแล้ว ในอดีตพ่อแม่ครูอาจารย์องค์หลวงตามหาบัวเองท่านยังโดนกิเลสตัวนี้เล่นงาน ทำให้หลงสมาธิขั้นละเอียดอยู่หลายปี จนท่านพระอาจารย์ใหญ่หลวงปู่มั่นท่านสอบทานและแสดงอุบายธรรมแก้ให้ หลวงตาจึงหายหลง...แต่ถ้ายังหาครูบาอาจารย์ที่เป็นที่พึ่งไม่ได้ เราก็ต้องมีหลักเอาไว้สอบทานตัวเราเอง เพื่อจะได้ไม่หลง...หลักหยาบๆ 4 ข้อที่ผมยกมามีความเกี่ยวพันกับสังโยชน์เบื้องต่ำ ข้อ 1-3 เป็นหลักนะครับ...ผมไม่ได้มีเจตนาจะป่วนหรือทำลายความมั่นใจของคุณ nongkong นะครับ แค่อยากฝากข้อคิดเอาไว้เป็นหลักพิจารณาอีกอย่างหนึ่งเท่านั้นเองครับ...ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรมนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:

ดิฉันคงไม่รีบกะว่าจะพยายามฝึกสมาธิให้ตามรู้อารมณ์ตัวเองไปเรื่อยๆ จนสมาธิระดับสูงแล้วค่อยหันหน้าหาพระอาจารย์ เพื่อ ตัดอวิชชา อย่างจริงจัง ตอนนี้ลูกยังเล็กอยู่เลย คิดว่าค่อยเป็นค่อยไปดีกว่าเจ้าค่ะยังไม่รีบอายุยังน้อยอยู่ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2012, 21:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


แต่ตอนนี้ จิตใจโล่ง สบาย ไม่ทุกข์ ไม่โกรธง่าย ไม่เคียดแค้นอาฆาตพยาบาทใครเหมือนแต่ก่อน :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2012, 21:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ทุกข์....ก็ดีแล้ว

พระอริยะเจ้าที่ยังไม่หมดกิเลส....จะทุกข์เพราะ...กิเลสที่ยังไม่หมด

สาธุคุณลูกพระป่า.....ที่ยังขยัน

ดู ๆ คนอื่น ๆ จะขี้เกียจ...ที่จะพูด...แบบนี้ :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2012, 22:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ที่คุณลูกพระป่าพูดมามันเป็น บารมี 30 ทัศใครทำได้ก็เป็นพระโพธิสัตย์เป็นของทางมหายานเน้นบารมีไม่ต้องละขันธื5 นะเจ้าค่ะ แนวทางเถรวาทคือเข้าถึงกระแสธรรม ศีลบริสุทธ์ ตัดกิเลศออกไปจากจิตใจให้หมด โดยละ ขันธ์5
อริยะ บุคคลขั้น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี ยังมีกิเลศ อยู่เจ้าค่ะ ยังงัยก็ตอบไม่ได้อยู่ดีเจ้าค่ะ อริยะบุคคลจะเฝ้าดูกายและจิตตัวเองนะเจ้าค่ะว่าหวั่นไหวไปกับอารมณืนั้นแค่ไหน ซึ่งดิฉันก็ปฏิบัติอยู่



ขออนุญาติสอบถามคุณnongkongครับว่าข้อธรรมที่กล่าวถึงนี้ศึกษามาจากสายปฏิบัติ เว็บไซด์หรือตำราใดครับ ผมไม่เคยศึกษาแนวทางนี้อยากทำความเข้าใจ ขอบคุณครับ :b16:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2012, 22:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิต เขียน:
nongkong เขียน:
ที่คุณลูกพระป่าพูดมามันเป็น บารมี 30 ทัศใครทำได้ก็เป็นพระโพธิสัตย์เป็นของทางมหายานเน้นบารมีไม่ต้องละขันธื5 นะเจ้าค่ะ แนวทางเถรวาทคือเข้าถึงกระแสธรรม ศีลบริสุทธ์ ตัดกิเลศออกไปจากจิตใจให้หมด โดยละ ขันธ์5
อริยะ บุคคลขั้น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี ยังมีกิเลศ อยู่เจ้าค่ะ ยังงัยก็ตอบไม่ได้อยู่ดีเจ้าค่ะ อริยะบุคคลจะเฝ้าดูกายและจิตตัวเองนะเจ้าค่ะว่าหวั่นไหวไปกับอารมณืนั้นแค่ไหน ซึ่งดิฉันก็ปฏิบัติอยู่



ขออนุญาติสอบถามคุณnongkongครับว่าข้อธรรมที่กล่าวถึงนี้ศึกษามาจากสายปฏิบัติ เว็บไซด์หรือตำราใดครับ ผมไม่เคยศึกษาแนวทางนี้อยากทำความเข้าใจ ขอบคุณครับ :b16:

สายปฏิบัติไม่เข้าใจอ่ะ แต่เป็นความรู้ของคุนน้องเองเพราะเวลาเราอยากรู้หลักธรรมใดก็เปิดตำรา มันเป็นปัจจัตตังอ่ะเจ้าค่ะ หลักธรรมของพระพุทธเจ้าจะมองมาที่กายกับจิตของเรา ส่วนความรู้อื่นๆก็เปิดตำราและเรียนรู้ เมื่อเราเข้าถึงกระแสธรรม เราจะรู้เองโดยปริยาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2012, 23:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ขณะจิต เขียน:
nongkong เขียน:
ที่คุณลูกพระป่าพูดมามันเป็น บารมี 30 ทัศใครทำได้ก็เป็นพระโพธิสัตย์เป็นของทางมหายานเน้นบารมีไม่ต้องละขันธื5 นะเจ้าค่ะ แนวทางเถรวาทคือเข้าถึงกระแสธรรม ศีลบริสุทธ์ ตัดกิเลศออกไปจากจิตใจให้หมด โดยละ ขันธ์5
อริยะ บุคคลขั้น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี ยังมีกิเลศ อยู่เจ้าค่ะ ยังงัยก็ตอบไม่ได้อยู่ดีเจ้าค่ะ อริยะบุคคลจะเฝ้าดูกายและจิตตัวเองนะเจ้าค่ะว่าหวั่นไหวไปกับอารมณืนั้นแค่ไหน ซึ่งดิฉันก็ปฏิบัติอยู่



ขออนุญาติสอบถามคุณnongkongครับว่าข้อธรรมที่กล่าวถึงนี้ศึกษามาจากสายปฏิบัติ เว็บไซด์หรือตำราใดครับ ผมไม่เคยศึกษาแนวทางนี้อยากทำความเข้าใจ ขอบคุณครับ :b16:

สายปฏิบัติไม่เข้าใจอ่ะ แต่เป็นความรู้ของคุนน้องเองเพราะเวลาเราอยากรู้หลักธรรมใดก็เปิดตำรา มันเป็นปัจจัตตังอ่ะเจ้าค่ะ หลักธรรมของพระพุทธเจ้าจะมองมาที่กายกับจิตของเรา ส่วนความรู้อื่นๆก็เปิดตำราและเรียนรู้ เมื่อเราเข้าถึงกระแสธรรม เราจะรู้เองโดยปริยาย


ตำราเรื่องอะไร เขียนหรือสอนโดยครูอาจารย์ท่านใดครับ :b8:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2012, 23:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิต เขียน:
nongkong เขียน:
ขณะจิต เขียน:
nongkong เขียน:
ที่คุณลูกพระป่าพูดมามันเป็น บารมี 30 ทัศใครทำได้ก็เป็นพระโพธิสัตย์เป็นของทางมหายานเน้นบารมีไม่ต้องละขันธื5 นะเจ้าค่ะ แนวทางเถรวาทคือเข้าถึงกระแสธรรม ศีลบริสุทธ์ ตัดกิเลศออกไปจากจิตใจให้หมด โดยละ ขันธ์5
อริยะ บุคคลขั้น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี ยังมีกิเลศ อยู่เจ้าค่ะ ยังงัยก็ตอบไม่ได้อยู่ดีเจ้าค่ะ อริยะบุคคลจะเฝ้าดูกายและจิตตัวเองนะเจ้าค่ะว่าหวั่นไหวไปกับอารมณืนั้นแค่ไหน ซึ่งดิฉันก็ปฏิบัติอยู่



ขออนุญาติสอบถามคุณnongkongครับว่าข้อธรรมที่กล่าวถึงนี้ศึกษามาจากสายปฏิบัติ เว็บไซด์หรือตำราใดครับ ผมไม่เคยศึกษาแนวทางนี้อยากทำความเข้าใจ ขอบคุณครับ :b16:

สายปฏิบัติไม่เข้าใจอ่ะ แต่เป็นความรู้ของคุนน้องเองเพราะเวลาเราอยากรู้หลักธรรมใดก็เปิดตำรา มันเป็นปัจจัตตังอ่ะเจ้าค่ะ หลักธรรมของพระพุทธเจ้าจะมองมาที่กายกับจิตของเรา ส่วนความรู้อื่นๆก็เปิดตำราและเรียนรู้ เมื่อเราเข้าถึงกระแสธรรม เราจะรู้เองโดยปริยาย


ตำราเรื่องอะไร เขียนหรือสอนโดยครูอาจารย์ท่านใดครับ :b8:

บารมี 30 ทัศ ลองเสริซอ่านดูเจ้าค่ะ คือ ทานบารมี อธิบายไม่ถูกแล้วเอาบทความของคุนลุกพระป่าไปเทียบเคียงดู เพราะแนวทางของเถรวาทคือ หาหนทางหลุดพ้นจากทุกข์ แต่คุนลุกพระป่ามาถาม ดิฉันว่าถ้ามีปื่นมาจ่อดิฉันให้ผิดศีล (มันเกี่ยวอะไรกันกับการหลุดพ้นจากทุกข์) ดิฉันเลยบอกว่ามันเป็น บารมี30ทัศ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 16:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอทำความเข้าใจกับ คุนลูกพระป่า กับคุณ ขณะจิต หน่อยเจ้าค่ะ :b1:
คนที่จะเข้าถึงกระแสธรรม ที่เป็นอริยะบุคคล จะต้องรู้แจ้งเห็นจริงในธรรมทั้งปวง โดยมองมาที่กายกับจิต แล้วคุณสมบัติของอริยะบุคคลดิฉันเคยบอกเป็นปัตจัตตังไปแล้วในกระทู้คุนขณะจิตที่ถาม การจะเห็นธรรมใดถึงได้ชื่อว่าเห็นตถาคต คนที่จะเห็นธรรมในตถาคตคือ ผุ้ที่มีธรรมอยู่ในกายและจิตไหลซ่านเป็นกระแส อยู่ภายใต้ความรู้สึกนึกคิด รู้จักบาปบุญคุนโทษ รู้ว่าอะไรผิดอาไรถูก แล้วคุนสมบัติก้มีดังนี้
1.คนที่กระทำดีทั้งกายและใจไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ ก่อให้เกิดวิบากกรรมดี(ตั้งใจทำไรก็จะได้อานิสงค์ผลของการทำดีหนุนนำเพื่อให้บรรลุผล)
2.เป็นคนที่มีบารมีสะสม มานาน(คนที่ชอบให้ทานผู้อื่น)
3.คนที่มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
4.คนที่มีศีล5บริสุทธิ์
5.คนที่มีหิริโอตัปปะอยู่ในใจ
6.คนที่มีสติปัญญาดี
7.คนที่เข้าใจธรรมชาติในโลกใบนี้(อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา)
แล้วลองไปเทียบเคียงดูนะเจ้าค่ะว่า คุณลูกพระป่า กับคุน ขณะจิตมีคุณสมบัตินี้ มีอาไรบ้าง ขาดสิ่งใด บ้างเพราะเหตุใดถึงทำให้เข้าใจธรรมช้าเร็วต่างกัน คนที่ไม่เข้าใจตัวเองแต่เข้าใจธรรมตามๆคนอื่นมานั่นไม่ใช่คนที่เข้าถึงกระแสธรรมเจ้าค่ะ คืออยากชี้แจงให้รู้ จะได้เลิกสับสนซะที :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 18:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับ คุณ nongkong :b8:
พระโสดาบันเป็นผู้ที่ก้าวข้ามสังโยชน์ในเบื้องต่ำข้อ1-3ได้แล้ว...เพราะก้าวข้ามสังโยชน์ข้อ1. สักกายทิฏฐิได้แล้ว ความถือตัวถือตนว่าเป็นเราเป็นเขาเป็นของเราเป็นของเขานี้เหลืออยู่เพียงเบาบาง จึงได้ไม่ไหวหวั่นกับโลกธรรมทั้ง 8 ถึงจะไหวหวั่นบ้างก็เพียงชั่วขณะจิต...เพราะก้าวข้ามสังโยชน์ข้อ2. วิจิกิจฉาได้แล้ว หมดสิ้นความสงสัยความงมงายในธรรมทั้งหลายที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ จึงเห็นความจริงว่าจิตเป็นของไม่ตายกายเป็นของเสื่อมได้ ความสงสัยเรื่องวิญญาณย่อมหมดไป...ความกลัวผีสางนางไม่ย่อมไม่มีแก่พระโสดาบัน...เพราะก้าวข้ามสังโยชน์ข้อ3. สีลัพตปรามาสได้แล้ว จึงมีคีลรวมลงที่ใจ ใจจึงเป็นศีลโดยอัตโนมัติ ความยึดในตัวศีลจึงหมดไป...เมื่อใจเป็นศีลแล้วแม้ตัวจะตายพระโสดาบันย่อมไม่ยอมล่วงละเมิดศีลโดยความตั้งใจ...จึงเป็นที่มาของหลักสอบทานตัวเองอย่างหยาบๆที่ผมฝากไว้ให้คุณ nongkong เอาไว้พิจารณาใจตัวเองดูครับ...ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรม
ปล.ทั้ง7ข้อที่คุณ nongkong แสดงไว้เป็นสิ่งที่ผู้ที่ใจเข้าสู่กระแสธรรมมีกันโดยธรรมดาอยู่แล้วครับ
ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 19:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
สวัสดีครับ คุณ nongkong :b8:
พระโสดาบันเป็นผู้ที่ก้าวข้ามสังโยชน์ในเบื้องต่ำข้อ1-3ได้แล้ว...เพราะก้าวข้ามสังโยชน์ข้อ1. สักกายทิฏฐิได้แล้ว ความถือตัวถือตนว่าเป็นเราเป็นเขาเป็นของเราเป็นของเขานี้เหลืออยู่เพียงเบาบาง จึงได้ไม่ไหวหวั่นกับโลกธรรมทั้ง 8 ถึงจะไหวหวั่นบ้างก็เพียงชั่วขณะจิต...เพราะก้าวข้ามสังโยชน์ข้อ2. วิจิกิจฉาได้แล้ว หมดสิ้นความสงสัยความงมงายในธรรมทั้งหลายที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ จึงเห็นความจริงว่าจิตเป็นของไม่ตายกายเป็นของเสื่อมได้ ความสงสัยเรื่องวิญญาณย่อมหมดไป...ความกลัวผีสางนางไม่ย่อมไม่มีแก่พระโสดาบัน...เพราะก้าวข้ามสังโยชน์ข้อ3. สีลัพตปรามาสได้แล้ว จึงมีคีลรวมลงที่ใจ ใจจึงเป็นศีลโดยอัตโนมัติ ความยึดในตัวศีลจึงหมดไป...เมื่อใจเป็นศีลแล้วแม้ตัวจะตายพระโสดาบันย่อมไม่ยอมล่วงละเมิดศีลโดยความตั้งใจ...จึงเป็นที่มาของหลักสอบทานตัวเองอย่างหยาบๆที่ผมฝากไว้ให้คุณ nongkong เอาไว้พิจารณาใจตัวเองดูครับ...ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรม
ปล.ทั้ง7ข้อที่คุณ nongkong แสดงไว้เป็นสิ่งที่ผู้ที่ใจเข้าสู่กระแสธรรมมีกันโดยธรรมดาอยู่แล้วครับ
ขอบคุณครับ :b8:

ดิฉันเข้าใจที่คุนลุกพระป่าพูดมา ไหนลองบอกวิธี 1.สักกายทิฏฐิของคุนลูกพระป่าให้ฟังหน่อยเจ้าค่ะ
วิจิกิจฉา.ช่วยแสดงให้ดิฉันหน่อยเจ้าค่ะว่า ไม่งมงายของคุนลูกพรป่าแบบไหน
3.ศีลพรตปรามาสคงมะต้องอธิบายมาก
งั้นคุนลูกพระป่าช่วยแสดง กุศลธรรม เบื้องต้น 10ประการให้ดิฉันเข้าใหน่อยเจ้าค่ะ ว่าคุนเข้าใจความหมายนี้ว่าอย่างไรบ้าง มันอยู่ในข้อ วิจิกิจฉา
ทานที่ให้แล้วมีผล
การสงเคราะห์กันมีผล
การยกย่องบูชาบุคคลที่ควรบูชามีผล
ผลแห่งกรรมดีและกรรมชั่วมีจริง
โลกนี้มี (ที่มา)
โลกหน้ามี (ที่ไป)
แม่มี
พ่อมี
สัตว์ที่เกิดแบบโอปปาติกะมี
พระอรหันต์ผู้หมดกิเลสแล้วมี
เห็นทำตัวเป็นผู้ทรงภูมิ เลยขอคำชี้แนะหน่อยนะเจ้าค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 19:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าคุนยังแสดงธรรมที่ดิฉันยกมาอ้างอิงไม่ได้ เลิกคิดว่าจะเข้าถึงกระแสธรรมได้เลยเจ้าค่ะ พูดง่ายๆ คุนลูกพระป่ายึดแค่ พรหมวิหาร 4 แต่คุนลูกพระป่ายังไม่เข้าใจธรรม ของพระพุทธเจ้าสอนอย่างแท้จริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 19:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับ คุณ nongkong :b8:
อย่างที่ผมเคยบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ความรู้ของผมมีแค่กว้างศอกยาววาหนาคืบกับใจตัวเองเท่านั้น ภูมิที่มีก็ยังไม่พ้นตัวกับใจตน ดังนั้นเรื่อง กุศลกรรม 10 ประการที่คุณถามผมคงตอบให้ไม่ได้แต่ถ้าคุณ nongkong จะกรุณาบอกกล่าวกันไว้บ้าง ณ ที่นี้ผมก็ยินดีและขออนุโมทนาด้วยครับ...แต่พอจะตอบเรื่องสักกายทิฏฐิได้บ้างเล็กน้อยครับ สักกายทิฏฐิคือความเห็นตัวตนนี้เป็นเราเป็นของเราเป็นเขาเป็นของเขา หรือการยึดถืออัตตานั่นแหละครับ...เมื่อมีอัตตา ทิฏฐิย่อมมี มานะความถือตัวย่อมมีมาก เมื่อมีมากแล้ว จิตย่อมผูกย่อมหวั่นไหวไปกับโลกธรรม 8 ได้โดยง่าย ย่อมติดในสุข ย่อมยินดีได้ปลื้มในคำสรรเสริญ ย่อมพอใจในลาภและยึดมั่นในยศ...เมื่อพบเจอสิ่งที่ตรงกันข้ามจิตย่อมประหวั่นย่อมเป็นทุกข์เกิดความไม่พอใจตามมา เพราะมีอัตตามาก สักกายทิฏฐิจึงยังมีอยู่มาก...ข้ามสักกายทิฏฐิได้เมื่อไหร่อัตตาย่อมเหลือเพียงเบาบางครับ...คำถามเล็กๆนะครับขันธ์ 5 เป็นทุกขเวทนาเพราะอะไรครับ
สำหรับวิจิกิจฉาขออธิบายอย่างนี้ว่า เป็นความหมดสงสัยในอริยะสัจจ์4 หมดความสงสัยในเรื่องเหตุและปัจจัย ในเรื่องกรรมและวิบากของกรรม และธรรมทั้งหลายที่เป็นผลให้ละความชั่ว ทำความดีและชำระจิตใจให้บริสุทธิ์...คำถามเล็กๆนะครับคนเราเกิดความกลัวเพราะอะไรครับ...ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรม
ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 20:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
สวัสดีครับ คุณ nongkong :b8:
อย่างที่ผมเคยบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ความรู้ของผมมีแค่กว้างศอกยาววาหนาคืบกับใจตัวเองเท่านั้น ภูมิที่มีก็ยังไม่พ้นตัวกับใจตน ดังนั้นเรื่อง กุศลกรรม 10 ประการที่คุณถามผมคงตอบให้ไม่ได้แต่ถ้าคุณ nongkong จะกรุณาบอกกล่าวกันไว้บ้าง ณ ที่นี้ผมก็ยินดีและขออนุโมทนาด้วยครับ...แต่พอจะตอบเรื่องสักกายทิฏฐิได้บ้างเล็กน้อยครับ สักกายทิฏฐิคือความเห็นตัวตนนี้เป็นเราเป็นของเราเป็นเขาเป็นของเขา หรือการยึดถืออัตตานั่นแหละครับ...เมื่อมีอัตตา ทิฏฐิย่อมมี มานะความถือตัวย่อมมีมาก เมื่อมีมากแล้ว จิตย่อมผูกย่อมหวั่นไหวไปกับโลกธรรม 8 ได้โดยง่าย ย่อมติดในสุข ย่อมยินดีได้ปลื้มในคำสรรเสริญ ย่อมพอใจในลาภและยึดมั่นในยศ...เมื่อพบเจอสิ่งที่ตรงกันข้ามจิตย่อมประหวั่นย่อมเป็นทุกข์เกิดความไม่พอใจตามมา เพราะมีอัตตามาก สักกายทิฏฐิจึงยังมีอยู่มาก...ข้ามสักกายทิฏฐิได้เมื่อไหร่อัตตาย่อมเหลือเพียงเบาบางครับ...คำถามเล็กๆนะครับขันธ์ 5 เป็นทุกขเวทนาเพราะอะไรครับ
สำหรับวิจิกิจฉาขออธิบายอย่างนี้ว่า เป็นความหมดสงสัยในอริยะสัจจ์4 หมดความสงสัยในเรื่องเหตุและปัจจัย ในเรื่องกรรมและวิบากของกรรม และธรรมทั้งหลายที่เป็นผลให้ละความชั่ว ทำความดีและชำระจิตใจให้บริสุทธิ์...คำถามเล็กๆนะครับคนเราเกิดความกลัวเพราะอะไรครับ...ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรม
ขอบคุณครับ :b8:

ถ้าคุนเข้ากระแสธรรม แล้วเข้าถึง โสดาบันแล้ว คุนต้องสามารถอธิบายอารมณ์ของโสดาบันได้ ใครๆก็รู้ว่าโสดาบัน ไม่ยึดตัวเราว่าเป็นเราขอถามอารมณืโสดาบันเป็นแบบไหนเจ้าค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 20:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


เอาแบบนี้ละกันเจ้าค่ะคุนลูกพระป่า คุนลูกพระป่าไม่ต้องมีความคืบแคลงสงสัยในตัวดิฉันอีกต่อไปแล้ว เพราะมันเป็นกิเลศอย่างหนึ่ง คุนลูกพระป่ากับดิฉัน คงจะเดินกันคนละเส้นทาง แนวทางปฏิบัติเราคงจะไม่เหมือนกัน เลยไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจกันได้ ขอฝากคำนี้เป็นอุทาหรสอนใจละกันเจ้าค่ะ
"ท่านอย่าให้ศีลแก่คนที่ได้ประสบพบเห็น จงให้แก่คนที่ขอเท่านั้น".อาจารย์ได้ฟังดังนั้นคิดว่า การันทิยะพูดถูกต้อง บัดนี้ เราจักไม่กระทำอย่างนั้น ครั้นรู้ว่าตนผิดแล้ว...(ถ้าเอาภาษาชาวบ้าน คุนเลิกมาจุกจิกกับดิฉันได้แล้วเจ้าค่ะคุนลูกพระป่า) ไม่ว่าจะเป็นท่านโฮ ท่านเช่นนั้น ท่านกรัชกาย ท่านกบ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ทรงภูมิทุกคนแต่ไม่เห็นมีใครมาจุกจิกดิฉันเหมือนกับคุนเลย onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 22:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
เอาแบบนี้ละกันเจ้าค่ะคุนลูกพระป่า คุนลูกพระป่าไม่ต้องมีความคืบแคลงสงสัยในตัวดิฉันอีกต่อไปแล้ว เพราะมันเป็นกิเลศอย่างหนึ่ง คุนลูกพระป่ากับดิฉัน คงจะเดินกันคนละเส้นทาง แนวทางปฏิบัติเราคงจะไม่เหมือนกัน เลยไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจกันได้ ขอฝากคำนี้เป็นอุทาหรสอนใจละกันเจ้าค่ะ
"ท่านอย่าให้ศีลแก่คนที่ได้ประสบพบเห็น จงให้แก่คนที่ขอเท่านั้น".อาจารย์ได้ฟังดังนั้นคิดว่า การันทิยะพูดถูกต้อง บัดนี้ เราจักไม่กระทำอย่างนั้น ครั้นรู้ว่าตนผิดแล้ว...(ถ้าเอาภาษาชาวบ้าน คุนเลิกมาจุกจิกกับดิฉันได้แล้วเจ้าค่ะคุนลูกพระป่า) ไม่ว่าจะเป็นท่านโฮ ท่านเช่นนั้น ท่านกรัชกาย ท่านกบ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ทรงภูมิทุกคนแต่ไม่เห็นมีใครมาจุกจิกดิฉันเหมือนกับคุนเลย onion



ความเมตตาและขันติของคุณลูกพระป่าดุจพี่ชายห่วงใยน้องสาวคุณnongkongอย่าเข้าใจเจตนาของท่านผิดเลยครับ smiley

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร