วันเวลาปัจจุบัน 15 ก.ค. 2025, 18:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มี.ค. 2012, 22:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
eragon_joe เขียน:
:b1:

:b6: เอาแต่ยิ้ม ..ไม่พูดไม่จา เจ็บคออ่ะป่าว .. :b13:


ไม่เห็นคำพูด

:b1:

อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2012, 09:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
ไม่เห็นคำพูด

:b1:

อิอิ

:b1: ซุ่มฝึก วิทยายุทธอ่ะป่าว อิอิ .. :b32: :b13:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2012, 10:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
:b1: ซุ่มฝึก วิทยายุทธอ่ะป่าว อิอิ .. :b32: :b13:


อิอิ เมื่อไม่มีวิทยายุทธซะ
ก็ไม่มีเรื่องวิทยายุทธให้ต้องกังวล

:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2012, 19:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
อิอิ เมื่อไม่มีวิทยายุทธซะ
ก็ไม่มีเรื่องวิทยายุทธให้ต้องกังวล

:b12:

ลุ่มลึก ๆ ..เหมือน กระบี่อยู่ที่ใจ กับ ที่ใจไร้กระบี่ อิอิ .. :b1: :b13:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 09:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




71.jpg
71.jpg [ 20.57 KiB | เปิดดู 4235 ครั้ง ]
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม เป็นศิษย์รูปหนึ่งของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
... มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลวงปู่ชอบได้ธุดงค์ร่วมกับพระอาจารย์มั่น ท่านเล่าไว้ว่า

“เราตามท่านพระอาจารย์มั่นไปปักกลดอยู่ริมบึงน้ำใหญ่แห่งหนึ่ง
ในเขตป่าดงดิบ เราเดินสำรวจรอบๆ ปากบึง ได้พบความผิดปกติอย่างหนึ่ง
ทั้งนี้ เพราะปกติแล้ว น้ำในบึงย่อมเป็นที่พึ่งพาอาศัยของเหล่าสัตว์ป่าทั้งหลาย
เมื่อมีสัตว์มากินน้ำแล้ว ย่อมต้องทิ้งร่องรอยไว้
แต่ที่นี่ ทำไมไม่ปรากฏรอยเท้าสัตว์เลย...


เราจึงได้กำหนดจิตตรวจดู ก็ทราบว่า พญานาคไร้คุณธรรมตนหนึ่ง
ได้พ่นพิษครอบคลุมน้ำในบึงเอาไว้ ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ หากกินน้ำในบึงนี้แล้ว
ย่อมถึงความสิ้นชีวิต ด้วยพิษอันร้ายกาจนั้น เราจึงเข้าไปบอกพระธุดงค์รูปอื่นๆ
อย่าแตะต้องน้ำในบึงนี้ และได้ไปเรียนให้ท่านอาจารย์ทราบ...
ท่านอาจารย์ก็บอกว่า
“เธอพูดถูกต้องแล้ว ขอให้งดให้น้ำก่อน เราจะไปติดต่อกับพญานาคเอง”

ต่อมาวันหนึ่ง ท่านอาจารย์เรียกเราไปบอกว่า
"เธอไปบอกให้พระรูปอื่นใช้น้ำในบึงได้แล้ว”
ซึ่งเราได้ทราบภายหลังว่า ท่านอาจารย์ได้ทรมานพญานาคจนหมดทิฐิ แล้วบอกว่า
“ท่านใยจึงพ่นพิษลงมา หมายจะสังหารพระสงฆ์ผู้ทรงศีล
มิรู้หรือว่าเป็นกรรมหนักถึงตกนรกอเวจี
ท่านจงรีบไปถอนพิษออกเสียเถิด”


พระยานาคจึงไปถอนพิษออกจนหมดสิ้น ...
ต่อมาพญานาคนั้น ได้ชวนพวกพ้องบริวารมาฟังธรรมจากท่านอาจารย์
และถวายอารักขาแก่คณะพระธุดงค์ จนย้ายไปที่อื่น


:b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2012, 08:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


... หลวงปู่ชอบ เมื่อคราวท่านนำหมู่คณะพระสงฆ์ธุดงค์ข้ามไปฝั่งลาว
แล้วปักกลดอยู่ใกล้หมู่บ้านลาว ไม่ไกลจากแม่น้ำโขง ...
หลังจากท่านฉันภัตตาหารแล้ว
ชาวบ้านได้นำบาตรขอท่านไปล้างและเทเศษอาหารลงไปในน้ำโขง

ณ ขณะนั้น ท่านก็ได้ยินเสียง ตลิ่งพังครืนๆ พร้อมกับชาวบ้านที่อยู่ริมตลิ่ง
วิ่งหน้าตื่นตกใจหนีมาหาท่าน.. ท่านกำหนดจิตตรวจดูก็รู้ทั่วทั้งหมด...
พอชาวบ้านวิ่งมาถึง ก็เล่าให้ท่านฟังว่า

“น้ำในแม่น้ำโขงที่ใสๆ อยู่ๆ ก็ขุ่นคลั่ก
เหมือนมีอะไรมากวนน้ำจนน้ำเป็นน้ำวนใหญ่รุ่นแรง แรงหมุน
ทำให้คลื่นน้ำมากระทบตลิ่ง จนตลิ่งพังทลายลง
ถ้าวิ่งหนีไม่ทัน มีหวังจมลงไปในน้ำวนแน่ๆ”


หลวงปู่ทราบแล้วว่า พญานาคในลำน้ำโขง มีความโกรธที่คนเหล่านั้นเอาน้ำพริก
น้ำปลาร้าไปถูกตัวเขาซึ่งอยู่แถวนั้นพอดี เขาจึงใช้ลำตัวฟาดไปมาด้วยแรงฤทธิ์
ทำเอาน้ำวนและตลิ่งพัง.. หลวงปู่ชอบจึงบอกชาวบ้านว่า

“อย่าเอาน้ำพริกน้ำปลาร้า เศษกับข้าว ไปเทลงในน้ำอีกเด็ดขาด”

ต่อมา มีพระรูปหนึ่งถือดี ไม่เชื่อฟังหลวงปู่ชอบ... วันหนึ่งแอบเอาเศษน้ำล้างบาตร
ไปเทลงในแม่น้ำ ก็เกิดเหตุอาเพท น้ำหมุนวน ตลิ่งพัง จนต้องรีบวิ่งหนี
แทบเอาชีวิตไม่รอด... หลังจากนั้น ทุกคน จงยอมเชื่อฟังแต่โดยดี

เมื่อเข้าพรรษา หลวงปู่ชอบ ได้จำพรรษาอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ไม่ไกลแม่น้ำโขงนัก...
คืนหนึ่งพญานาคตนนั้น ได้ขึ้นมาถวายความเคารพหลวงปู่
ที่ได้ห้ามคนไม่ให้ทิ้งเศษอาหารลงแม่น้ำ ทำให้น้ำสะอาด อยู่สบาย.
นาคตนนั้น ส่วนหัวมานมัสการที่ปากถ้ำ ส่วนหาง
ยังอยู่ที่ฝั่งน้ำโขงซึ่งห่างกันไกลเป็นกิโลเลยทีเดียว...

หลวงปู่ชอบเล่าว่า

“เราพบว่า เขาสร้างกรรมไว้โดยไม่ตั้งใจ
คือ เมื่อชาติก่อน เขาเป็นชายหนุ่มผู้มั่นในศีล๕ แต่วันหนึ่ง
ถือวิสาสะว่าคุ้นเคย ได้ถือมีดของพระสงฆ์ไปใช้เป็นของส่วนตัว
ด้วยกรรมนี้ เมื่อตายไป จึงมาเกิดเป็นพญานาค
แม้แสดงฤทธิ์ได้ แต่อับวาสนาไม่ได้เป็นคน...”


http://sitantara.50webs.com/lablae/plablae06.html

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2012, 20:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ธ.ค. 2011, 19:01
โพสต์: 45


 ข้อมูลส่วนตัว


tongue tongue tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2012, 13:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




_1_2.JPG
_1_2.JPG [ 22.95 KiB | เปิดดู 4174 ครั้ง ]
"ถ้าท่านพระอาจารย์ใหญ่ เป็นผู้รู้วาระจิตของเรา
เราบิณฑบาตรได้อาหารมา ขอให้ท่านรอเราทุก ๆ วัน
ขออย่าเพิ่งฉัน จนกว่าเราจะหย่อนบาตรท่านก่อน"


เป็นธรรมดาที่พระทั้งหลาย พอบิณฑบาตรได้ก็จะเลือกสรรหาอาหาร อย่างเลิศอย่างดีที่สุด
ที่บิณฑบาตรมาได้ สำหรับไปใส่บาตรพ่อแม่ครูอาจารย์ที่เคารพ
วันนั้นพระน้อยหัวดื้อองค์นั้น
ก็พยายามประวิงเวลา กว่าจะนำอาหารไปใส่บาตรท่าน ก็ออกจะล่าช้ากว่าเคย
จนกระทั่งหมู่เพื่อนใส่บาตรกันหมดแล้ว จึงค่อย ๆ ไปใส่บาตรต่อ

ภายหลังท่านพระอาจารย์ใหญ่ก็มักจะมีเหตุช้าไปด้วย
จนพระน้อยองค์นั้นหย่อนบาตรแล้ว ท่านจึงเริ่มฉัน
เป็นเช่นนี้หลายวันอยู่และพระน้อยองค์นั้นก็ชักจะได้ใจ มักอ้อยอิ่งอยู่ทุกวัน
จนเช้าวันหนึ่งท่านคงเหลืออดเหลือทน

ท่านจึงออกปาก
"ท่านจวน อย่าทำอย่างนั้น ผมรำคาญ!
ให้ผมรอทุก ๆ วันที่นี้ผมไม่รออีกแล้วนะ!! "


เล่ามาแค่นี้ คงจะทราบแล้วว่า
พระน้อยหัวดื้อผู้นั้นคือใคร .. !!


หนังสือ พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ
ชีวประวัติ ปฏิปทาและพระธรรมเทศนา
โดยคุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต

:b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2012, 13:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




K1.bmp
K1.bmp [ 147.78 KiB | เปิดดู 4159 ครั้ง ]
".. ท่านขาวนี้ ภาวนาอย่างไร คืนนี้จึงสว่างไสวมากผิดกับที่เป็นมาทุก ๆ คืน
นับแต่มาอยู่กับผม ต้องอย่างนี่ซิ จึงสมกับผู้มาแสวงธรรม
ที่นี้ท่านทราบหรือยังว่า
"ธรรมอยู่ที่ไหน คืนนี้สว่างอยู่ที่ไหนละ ท่านขาว"
"สว่างอยู่ที่ใจครับผม"


ท่านเรียนตอบทั้งกลัวทั้งอายแทบตัวสั่น ที่ไม่เคยได้รับคำชมแกมคำซักถามเช่นนั้น
"แต่ก่อนธรรมไปอยู่ที่ไหนเล่าท่านจึงไม่เห็น
นั้นแลธรรม ท่านจงทราบเสียตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ธรรมอยู่ที่ใจนั่นแล


ต่อไปท่านจงรักษาระดับจิต ระดับความเพียรไว้ให้ดี อย่าให้เสื่อมได้
นั่นแลคือฐานของจิต ฐานของธรรม
ฐานของความเชื่อมั่นในธรรมและฐานแห่งมรรคผลนิพพานอยู่ที่นั่นแล
จงมั่นใจและเข้มแข็งต่อความเพียรถ้าอยากพ้นทุกข์

การพ้นทุกข์ต้องพ้นที่นั่นแน่นอน ไม่มีอื่นเป็นที่หลุดพ้น อย่าลูบคลำให้เสียเวลา
เราไม่ใช่คนตาบอดพอจะมาลูบคลำ
คืนนี้ผมส่งกระแสจิตไปดูท่านเห็นจิตสว่างไสวทั่วบริเวณ
กำหนดจิตส่งกระแสไปที่ไร ก็เห็นเป็นอย่างนั้นอยู่ตลอดจนสว่าง


เพราะคืนนี้ผมมิได้พักนอนเลย เข้าสมาธิภาวนาไปบ้าง ต้อนรับแขกเทพบ้าง
กำหนดจิตดูท่านบ้าง เรื่อยมาจนสว่างโดยไม่รู้สึก
พอออกจากที่จึงต้องถามท่าน เพราะอยากทราบเรื่องของหมู่คณะมานาน
สบายไหม อัศจรรย์ไหม"


ประวัติหลวงปู่ขาว อนาลโย
โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

:b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2012, 21:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 08:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




25.jpg
25.jpg [ 33.53 KiB | เปิดดู 4134 ครั้ง ]
ขณะนั้นมีบรรพชิตรูปหนึ่ง
ซึ่งหลวงปู่สมเด็จมหามุนีวงศ์ (หลวงปู่มหาสนั่น จนฺทปชฺโชโต)
สังเกตุแล้วไม่แน่ใจว่าเป็นพระหรือเณร
เพราะนอกจากจะมีรูปร่างเล็กแล้ว หน้าตาก็อ่อนวัยอยู่อีกด้วย

ท่านผู้นั้นถือจานกระเบื้องเล็ก ๆ ใส่หมากพูลที่บดแล้ว
เดินเข่าเอาไปวางข้างหน้าท่านพระอาจารย์มั่น
แล้วคลานเข่าถอยหลังคลานออกไป

ท่านพระอาจารย์มั่นก็ได้หยิบหมากคำนั้นขึ้นฉัน
เหตุการณ์นี้ได้ปรากฏแก่สายตาและความสังเกตุของหลวงปู่สมเด็จฯ โดยตลอด
ท่านจึงเกิดสงสัยขึ้นในใจว่า
"ผู้เอาหมากไปวางต่อหน้าท่านอาจารย์เมื่อกี้นี้เป็นพระหรือเป็นเณรนะ
ยังไม่ได้ประเคน ท่านอาจารย์หยิบฉันแล้ว"


ทันทีที่หลวงปู่สมเด็จฯ ได้นึกคิดเช่นนี้อยู่ในใจ
ท่านพระอาจารย์มั่นได้พูดขึ้นด้วยเสียงอันดังฟังชัดเจนว่า
"เออ ... ที่เอาหมากมาวางนะ พระหรือเณร"

หลวงปู่สมเด็จเล่าว่า ..
"ทันทีที่พระอาจารย์มั่นพูดเช่นนั้น เสียงของท่านพระอาจารย์มั่น
เหมือนเข้าไปจี้หัวใจ ที่เคยคิดอยากสึกให้นึกละอายตัวเอง
ในขณะเดียวกันก็กลับได้กำลังใจขึ้นมาว่า บูญญฤทธิ์ในการปฏิบัติธรรม
ในพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องมีอยู่จริง

ท่านพระอาจารย์มั่นท่านคงไม่ตอบความสงสัยในใจของเราขึ้นมาลอย ๆ
และบังเอิญมาตรงกับข้อข้องใจที่เรากำลังคิดพอดี
ท่านคงมีเจโตปริยญาณเป็นแน่

พอคิดได้เช่นนั้น ก็เกิดอาการขนหัวและขนทั่วทั้งตัวลุกชูชันขึ้น
อันเป็นอาการขุททกาปิติและในเสี้ยววินาทีต่อมา
เกิดรู้สึกกลับใจ ในอันที่จะอุทิศชิวิตตนให้พระพุทธศาสนา
ความคิดในอันที่จะสึกขาลาเพศได้มลายหายไปจนหมดสิ้น"


หนังสือบูรพาจารย์ อาจริยธรรม หน้า ๓๒๔
โดยคณะศิษยานุศิษย์


:b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


แก้ไขล่าสุดโดย วิริยะ เมื่อ 24 เม.ย. 2012, 13:29, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 09:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 20:04
โพสต์: 25

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 08:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




6.jpg
6.jpg [ 21.88 KiB | เปิดดู 4109 ครั้ง ]
มรรค ๘ ใครภาวนาเจริญดีแล้ว แก้โลกธรรม ๘ ประการ
ฉะนั้น จิตท่านอรหันต์ไม่หวั่นไหวด้วยโลกธรรม ๘ ประการ มีไตรลักษณ์บังคับ
แม้โลกีย์ทั้งหลาย มีไตรลักษณ์บังคับอยู่เสมอ


ไตรลักษณ์บังคับไม่ได้นั้น มีโลกุตระเท่านั้น
โลกุตระอันนี้อยู่เหนือไตรลักษณ์ สถานที่เกษม

บุคคลที่จะพ้นโลกีย์ไปถึงโลกุตระ ต้องสร้างบารมีเป็นการใหญ่

บุคคล ๓ จำพวก คือ
พระพุทธเจ้า ๑
พระปัจเจก ๑
พระอรหันต์ ๑


พระพุทธเจ้าสร้างบารมี ๓ ชนิด
ปัญญาบารมี ๔ อสงไขย แสนกำไรมหากัป
ศรัทธาบารมี ๘ อสงไขย แสนกำไรมหากัป
วิริยะบารมี ๑๖ อสงไขย แสนกำไรมหากัป

พระปัจจเจก สร้างบารมี ๒ อสงไขย แสนกำไรมหากัป
พระอรหันต์ สร้างบารมี ๑ อสงไขย แสนกำไรมหากัป

สร้างบารมีมิใช่น้อยกว่าจะสำเร็จพระนิพพานได้ดังนี้
ชำนาญมากที่สุด ๑ อสงไขย

เหลือจะนับนั้นประการหนึ่ง เอาสวรรค์ เอานรกเป็นเรือนอยู่สร้างบารมี
พระนิพพานเป็นของที่แพงที่สุด
ต้องสร้างบารมีแลกเปลี่ยนเอา จึงจะได้พระนิพพาน


บูรพาจารย์ โอวาทธรรม หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
โดยหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 12:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
มรรค ๘ ใครภาวนาเจริญดีแล้ว แก้โลกธรรม ๘ ประการ
ฉะนั้น จิตท่านอรหันต์ไม่หวั่นไหวด้วยโลกธรรม ๘ ประการ มีไตรลักษณ์บังคับ
แม้โลกีย์ทั้งหลาย มีไตรลักษณ์บังคับอยู่เสมอ


ไตรลักษณ์บังคับไม่ได้นั้น มีโลกุตระเท่านั้น
โลกุตระอันนี้อยู่เหนือไตรลักษณ์ สถานที่เกษม

บุคคลที่จะพ้นโลกีย์ไปถึงโลกุตระ ต้องสร้างบารมีเป็นการใหญ่

บุคคล ๓ จำพวก คือ
พระพุทธเจ้า ๑
พระปัจเจก ๑
พระอรหันต์ ๑


พระพุทธเจ้าสร้างบารมี ๓ ชนิด
ปัญญาบารมี ๔ อสงไขย แสนกำไรมหากัป
ศรัทธาบารมี ๘ อสงไขย แสนกำไรมหากัป
วิริยะบารมี ๑๖ อสงไขย แสนกำไรมหากัป

พระปัจจเจก สร้างบารมี ๒ อสงไขย แสนกำไรมหากัป
พระอรหันต์ สร้างบารมี ๑ อสงไขย แสนกำไรมหากัป

สร้างบารมีมิใช่น้อยกว่าจะสำเร็จพระนิพพานได้ดังนี้
ชำนาญมากที่สุด ๑ อสงไขย

เหลือจะนับนั้นประการหนึ่ง เอาสวรรค์ เอานรกเป็นเรือนอยู่สร้างบารมี
พระนิพพานเป็นของที่แพงที่สุด
ต้องสร้างบารมีแลกเปลี่ยนเอา จึงจะได้พระนิพพาน


บูรพาจารย์ โอวาทธรรม หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
โดยหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร

แบบนี้ ดิฉันตายอย่างเขียด (พระปัจเจกพุทเจ้า) ต้องว่ายน้ำข้ามมหาสมุทร ดิฉันจะจมน้ำตายก่อนถึงฝั่งมั้ยเนียะกลัวหมดแรงกลางทาง :b5: กว่าลูกจะโต อีกตั้ง20ปี แม่จะได้ปลีกวิเวกซักที onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 12:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:

ไตรลักษณ์บังคับไม่ได้นั้น มีโลกุตระเท่านั้น
โลกุตระอันนี้อยู่เหนือไตรลักษณ์ สถานที่เกษม

บุคคลที่จะพ้นโลกีย์ไปถึงโลกุตระ ต้องสร้างบารมีเป็นการใหญ่


บูรพาจารย์ โอวาทธรรม หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
โดยหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร

:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร