วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 22:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 17 ธ.ค. 2011, 15:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


เราไม่มีรูปจึงไม่มีนาม เราไม่มีนามรูปจึงไม่มีขันธ์ ไม่มีขันธ์ก็ไม่มีอายตนะ
ไม่มีอายตนะก็ไม่มีผัสสะ ไม่มีผัสสะก็ไม่มีวิญญาณเกิดขึ้น ไม่มีวิญญาณเวทนาก็ไม่เกิด
ทุกข์ก็ดับ วงจรการเกิดก็ไม่มี
onion onion onion


โพสต์ เมื่อ: 17 ธ.ค. 2011, 16:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b17:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
เราไม่มีรูปจึงไม่มีนาม เราไม่มีนามรูปจึงไม่มีขันธ์ ไม่มีขันธ์ก็ไม่มีอายตนะ
ไม่มีอายตนะก็ไม่มีผัสสะ ไม่มีผัสสะก็ไม่มีวิญญาณเกิดขึ้น ไม่มีวิญญาณเวทนาก็ไม่เกิด
ทุกข์ก็ดับ วงจรการเกิดก็ไม่มี
onion onion onion

แต่กลับมีเราอยู่ตรงคำแรกสุดพอดีแฮะ ............. คุณไม่เที่ยง.............ครับ
:b12: :b3: :b1:


โพสต์ เมื่อ: 17 ธ.ค. 2011, 17:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b17:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
เราไม่มีรูปจึงไม่มีนาม เราไม่มีนามรูปจึงไม่มีขันธ์ ไม่มีขันธ์ก็ไม่มีอายตนะ
ไม่มีอายตนะก็ไม่มีผัสสะ ไม่มีผัสสะก็ไม่มีวิญญาณเกิดขึ้น ไม่มีวิญญาณเวทนาก็ไม่เกิด
ทุกข์ก็ดับ วงจรการเกิดก็ไม่มี
onion onion onion

แต่กลับมีเราอยู่ตรงคำแรกสุดพอดีแฮะ ............. คุณไม่เที่ยง.............ครับ
:b12: :b3: :b1:


ใช่ครับผมยังยึดติดในตัวผมเอง ยังฆ่าตัวตนไม่ได้ :b8: :b8:


โพสต์ เมื่อ: 17 ธ.ค. 2011, 18:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อรูปพรหม...มีรูปหรือไม่มีรูป?

แล้ววงจรเกิดได้อนัตตาไปจากอรูปพรหมแล้วหรือยัง?


โพสต์ เมื่อ: 17 ธ.ค. 2011, 18:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2011, 20:09
โพสต์: 82

แนวปฏิบัติ: รู้ตัวเสมอ ก่อนพูด ก่อนคิด ก่อนทำ
อายุ: 17
ที่อยู่: ระยอง

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อรูปพรหม...มีรูปหรือไม่มีรูป?

แล้ววงจรเกิดได้อนัตตาไปจากอรูปพรหมแล้วหรือยัง?



อ+รูป ก็ไม่มีรูปดิ ????


โพสต์ เมื่อ: 17 ธ.ค. 2011, 19:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ปัตติปิตา เขียน:

อ+รูป ก็ไม่มีรูปดิ ????


ก็นั้นนะซี..

ไม่มีรูป...

แต่ไม่เห็นจะนิพพานได้เลยนิ... :b9: :b9:


โพสต์ เมื่อ: 18 ธ.ค. 2011, 08:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
เราไม่มีรูปจึงไม่มีนาม เราไม่มีนามรูปจึงไม่มีขันธ์ ไม่มีขันธ์ก็ไม่มีอายตนะ
ไม่มีอายตนะก็ไม่มีผัสสะ ไม่มีผัสสะก็ไม่มีวิญญาณเกิดขึ้น ไม่มีวิญญาณเวทนาก็ไม่เกิด
ทุกข์ก็ดับ วงจรการเกิดก็ไม่มี
onion onion onion

อรูปพรหม ไม่มีรูป มีแต่นาม (มีนามขันธ์ 4 เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญานขันธ์)
(มีอายตนะ 1 คือมนายตนะ) มีผัสสะ มีวิญญาณ มีเวทนา ทุกข์ไม่ดับ วงจรเกิดมี

เรียนเจ้าของกระทู้ครับ
กระทู้ที่ตั้งขึ้นนี้คงเป็นความเห็นส่วนตัวโดยการเทียบเคียงเอา มันผิดหลักธรรมของพระพุทธองค์ที่ทรงสอนไว้ "ระวังมันเป็นมิจฉาทิฏฐิครับ" ..... การกล่าวแบบนี้อันตรายครับ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสต์ เมื่อ: 18 ธ.ค. 2011, 10:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
เราไม่มีรูปจึงไม่มีนาม เราไม่มีนามรูปจึงไม่มีขันธ์ ไม่มีขันธ์ก็ไม่มีอายตนะ
ไม่มีอายตนะก็ไม่มีผัสสะ ไม่มีผัสสะก็ไม่มีวิญญาณเกิดขึ้น ไม่มีวิญญาณเวทนาก็ไม่เกิด
ทุกข์ก็ดับ วงจรการเกิดก็ไม่มี
onion onion onion


ความหมายของผมก็คือ หากไม่มีรูปกายก็ไม่มีจิต เพราะ รูปกาย + จิต ก็คือ ขันธ์
หากไม่มีขันธ์ก็ไม่มีการผัสสะ ไม่มีผัสสะก็ไม่มี วิญญาณ สัญญา สังขาร เวทนา การเกิดก็ไม่มี ทุกข์ก็ไม่มี นรกก็ไม่มี สวรรค์ก็ไม่มี onion onion


โพสต์ เมื่อ: 18 ธ.ค. 2011, 10:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
asoka เขียน:
:b17:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
เราไม่มีรูปจึงไม่มีนาม เราไม่มีนามรูปจึงไม่มีขันธ์ ไม่มีขันธ์ก็ไม่มีอายตนะ
ไม่มีอายตนะก็ไม่มีผัสสะ ไม่มีผัสสะก็ไม่มีวิญญาณเกิดขึ้น ไม่มีวิญญาณเวทนาก็ไม่เกิด
ทุกข์ก็ดับ วงจรการเกิดก็ไม่มี
onion onion onion

แต่กลับมีเราอยู่ตรงคำแรกสุดพอดีแฮะ ............. คุณไม่เที่ยง.............ครับ
:b12: :b3: :b1:


ใช่ครับผมยังยึดติดในตัวผมเอง ยังฆ่าตัวตนไม่ได้ :b8: :b8:

: :b8: b8: ถ้าอย่างนั้นค้นพบเทคนิคและวิธีฆ่าตัวตนแล้วหรือยัง
แล้วนี่กำลังทำกิจอะไรอยู่ ใช่กิจค้นวิธีฆ่า กู อยู่หรือไม่ หรือกำลังจะหาวิธีไปเกิดเป็นอรูปพรหม ครับ
ผ ฟ น ะ


โพสต์ เมื่อ: 19 ธ.ค. 2011, 06:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปขันธ์นั้น มันมีอยู่หลายรูปซ้อนๆ กันอยู่ ลักษณะ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อม และดับไป อยู่ตลอดเวลา

รูปส่วนที่ตาเนื้อ มองเห็นได้นั้นส่วนน้อย ส่วนใหญ่มองไม่เห็นครับ

นั่นคือ รูปขันธ์ ที่ละเอียดลงไป ในคัมภีร์พระพุทธศาสนา

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสต์ เมื่อ: 19 ธ.ค. 2011, 11:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


quote="asoka"]
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
asoka เขียน:
:b17:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
เราไม่มีรูปจึงไม่มีนาม เราไม่มีนามรูปจึงไม่มีขันธ์ ไม่มีขันธ์ก็ไม่มีอายตนะ
ไม่มีอายตนะก็ไม่มีผัสสะ ไม่มีผัสสะก็ไม่มีวิญญาณเกิดขึ้น ไม่มีวิญญาณเวทนาก็ไม่เกิด
ทุกข์ก็ดับ วงจรการเกิดก็ไม่มี
onion onion onion

แต่กลับมีเราอยู่ตรงคำแรกสุดพอดีแฮะ ............. คุณไม่เที่ยง.............ครับ
:b12: :b3: :b1:


ใช่ครับผมยังยึดติดในตัวผมเอง ยังฆ่าตัวตนไม่ได้ :b8: :b8:

: :b8: b8: ถ้าอย่างนั้นค้นพบเทคนิคและวิธีฆ่าตัวตนแล้วหรือยัง
แล้วนี่กำลังทำกิจอะไรอยู่ ใช่กิจค้นวิธีฆ่า กู อยู่หรือไม่ หรือกำลังจะหาวิธีไปเกิดเป็นอรูปพรหม ครับ
ผ ฟ น ะ[/quote]


ก็คือเติมความจริงตามกฎไตรลักษณ์ในสัญญา ให้มากๆๆ เมื่ออายตนะภายนอกและภายในกระทบกันแล้วเกิดการรับรู้หรือวิญญาณ สมองก็ไปค้นหาสัญญา (กุศล) คิดปรุงแต่ง สิ่งที่ได้มาไม่ใช่เวทนา (ความพอใจ ไม่พอใจ) แต่เป็นความจริงของชีวิต ในทางตรงข้ามถ้าสะสมแต่อกุศล หรือความเชื่อ ความไม่รู้ ไว้ในสัญญามากๆ สิ่งที่ได้ออกมาก็คือความพอใจ ไม่พอใจ ตัณหา และอุปาทานก็จะตามมาทันที เป็นเหตุปัจจัยต่อเนื่องกัน สุดท้ายชาติ หรือการเกิดแห่งทุกข์ก็เกิดขึ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร