วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 09:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 131 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 00:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ค. 2008, 23:37
โพสต์: 449

ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ข้อมูลจากบอร์ดโอเคเนชี่น
ถาม : ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับ “สันติภาพ”?


ตอบ :


การพูดหรือแสดงออกมากๆ ต่อสังคมว่าตนเองสนับสนุนสันติภาพ
มันเหมือนดาบสองคม ด้านหนึ่งถ้าเราทำด้วยความจริงใจก็คือ
ด้านสร้างสรรค์แต่ถ้าเรากำลังใช้มันเป็นเครื่องมือ
ในการสร้างความน่าเชื่อถือ, น่าศรัทธา, ชื่อเสียง ให้ตัวเราเอง
นี่จะกลายเป็นการทำลายเสียมากกว่า เมื่อก่อนไม่ค่อยมีคนพูดถึงเท่าไร
คนพูดแรกๆ ก็กลายเป็นพิเศษ ต่อมาก็มีคนพูดตามๆ กันมา
เช่น ท่านติช ณัช ฮันห์ อันนี้เพราะมีเหตุก่อน
คือ การใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาในเวียดนาม อนึ่ง
พึงเข้าใจว่าไม่ว่าจะถาวรวัตถุ หรือนามธรรม
เมื่อมันถูกสร้างขึ้นมาโดยมนุษย์แล้ว มันย่อมถูกทำลายลง
ด้วยน้ำมือของมนุษย์ด้วยในวันหนึ่ง ดังที่ท่านพุทธทาสกล่าวไว้ว่า
“สันติภาพไม่ต้องสร้าง มันมีของมันอยู่เองแล้วตามธรรมชาติ”
ท่านมองว่าธรรมชาติอยู่ร่วมกันได้ด้วยสันติภาพ
เช่น พืชชนิดต่างๆ และสัตว์ต่างๆ ต่างพึ่งพาอาศัยกัน
มีสันติภาพเกิดขึ้นเองเป็นธรรมชาติ ทว่า การสร้างสันติภาพนั้น
จะนำมาซึ่งการทำลายสันติภาพ และสิ่งที่ตรงกันข้ามมันจะตามมาด้วยเสมอ
ในโลกใบนี้ สิ่งใดที่มนุษย์สร้างขึ้นก็ต้องถูกทำลายลงในวันหนึ่ง
ไม่มีสิ่งใดได้รับการยอมรับจากโลกว่าให้จีรังยั่งยืน
โลกยอมรับสัจธรรมที่ว่าไม่มีสิ่งใดจีรังยั่งยืน อะไรที่เราสร้างขึ้นมา
ก็ต้องถูกทำลายลงในวันหนึ่ง ดังนี้ สันติภาพนั้นไม่ต้องไปสร้างมันดอก
งานสร้างสันติภาพนั้นเป็นงานของชาวพรหมโลก
ที่นิยมในความสงบสุข ติดสงบ, ติดภาวะนี้ คือ พระศิวะ
ทำหน้าที่รักษาความสันติภาพ ดังคาถาประจำพระองค์ที่ว่า
“โอม ศานติ ศานติ” นั่นเอง อันนี้ เป็นกิจของเขา
เราไม่ไปก้าวก่ายถ้าไม่ใช่กิจของเรา ไม่มีใครผิด
ใครยังมีกิจที่ค้างอยู่ก็ทำไป ใครที่ไม่มีกิจแล้วก็ไม่ต้องกระทำ
ในพุทธศาสนาเรา สอนละวางทุกกิจทุกกรรมที่ไม่ใช่กิจที่เราต้องทำ
ถ้าสันติภาพไม่ใช่กิจของเรา เราไปยุ่ง ไปทำไม่แน่อาจยุ่งเหยิง
ยิ่งทำยิ่งแย่ก็ได้ เคยบ้างไหม ที่เราเห็นคนสองคนทะเลาะกันอยู่
เราเข้าไปห้าม นอกจากเราจะห้ามไม่ได้แล้ว เราโดนด้วย
ทั้งเขายิ่งทะเลาะกันใหญ่ ยิ่งต่อความยาวสาวความยืดกันไปใหญ่
นี่ก็มีอยู่ “สันติภาพ” ตรงกันข้ามกับ “ความขัดแย้ง” เมื่อเรายอมรับสิ่งหนึ่ง
แต่ปฏิเสธอีกสิ่งหนึ่ง ก็จะไม่อาจอยู่ตรงกลางได้ อย่างนี้แหละ
เราจึงไม่อาจสร้างสันติภาพขึ้นได้จริง เพราะคนที่เขาขัดแย้งกันอยู่
ย่อมมองว่าเราอยู่คนละฝ่ายกับความขัดแย้ง
คนละฝ่ายกับพวกเขาทั้งสองที่กำลังขัดแย้งกัน
ดีไม่ดี พวกเขาอาจร่วมมือกันหันมารุมเราเสียก่อนก็มี ก็เกิดขึ้นแล้ว
อนึ่ง เราควรยอมรับว่าไม่ว่า “สันติภาพ” หรือ “ความขัดแย้ง” ก็ดี
ล้วนเป็นธรรมชาติ เป็นของคู่โลก ที่ทำให้โลกเคลื่อนหมุนไปข้างหน้าได้
ลองคิดดูว่าถ้าสงครามโลกครั้งที่สองไม่มี ญี่ปุ่นไม่โดนระเบิดปรมาณู
วันนี้ ญี่ปุ่นจะเป็นเช่นทุกวันนี้หรือไม่ บางครั้ง สองสิ่งนี้มันมี “กิจ” ของมันเอง
ไม่มีดี หรือเลวในสันติภาพหรือความขัดแย้งดอก ถ้ามันจะมี
ก็เพราะเราเอาอุปทานของเรา เข้าไปใส่มันเอง ปรุงแต่งธรรมชาตินั้นเอง
ให้มีดีหรือเลว ถูกหรือผิดขึ้นมา บางทีมีความปรองดองกันมากไป
ไม่ขัดแย้งกันเลย อาจหมายถึงการครอบงำโดยกลุ่มบุคคล,
โดยระบบ หรือง่ายๆ “ฮั้วะ” กันอยู่ก็ได้ อาจรวมหัวกันทำสิ่งที่ไม่ดีอยู่ก็ได้
อาจนำพากันไปผิดทางทั้งหมด โดยไม่มีใครแสดงออกทาง
ความคิดเห็นที่แตกต่างเลยก็ได้ อาจหมายถึงสังคมขาดความหลากหลาย
ทางความคิดและธรรมชาติอยู่ก็ได้ สรุปคือ
เราต้องใจกว้างมากพอที่จะยอมรับทั้งสันติภาพและสิ่งที่ตรงข้ามกับมันได้

.....................................................
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 08:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านอ่านมาถูกต้องแล้ว
่่ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านศึกษามาถูกต้องแล้ว
่่ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านเรียนมาถูกต้องแล้ว
่่ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านสรุปมาถูกต้องแล้ว
ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านมีปัญญาดับทุกข์แล้ว
ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านปฏิบัติถูกต้องแล้ว
ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านบรรลุธรรมแล้ว
ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านสงบแล้ว

ท่านมีความคิดเห็นว่ายังไง หรือมีแนวทางปฏิบัตินำไปสู่การดับทุกข์ให้กับเพื่อนมนุษย์ ทำให้เรื่องที่ยาก เข้าใจยาก ให้ปุถุชนคนทั่วไปเข้าใจง่าย และนำไปปฏิบัติได้ในระยะเวลาสั้นและเห็นผลเร็วที่สุด นั้นจะทำให้มนุษย์หลุดพ้นจากทุกข์ เกิดความสงบ เกิดสันติสุข ลดความขัดแย้งกัน


ความขัดแย้งมันอยู่กับความคิดของคุณ
การแสดงความขัดแย้งกับอารมณ์ที่ตนไม่ปราถนา
ไม่ว่าอารมณ์นั้นจะปรากฎในตน ก็แสดงความขัดแย้ง
แม้เห็นอารมณ์นั้นปรากฎในผู้อื่น ก็แสดงความขัดแย้ง
แม้เห็นอารมณ์นั้นปรากฎในที่อื่น ก็แสดงความขัดแย้ง
แม้ตนกล่าวถึงอารมณ์นั้น หรือผู้อื่นกล่าวถึงอารมณ์นั้น ก็ขัดแย้ง

อย่างน้อย ๆ คุณก็ยังแสดงความขัดแย้งต่ออารมณ์สมาธิอยู่

เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใต้จมูกตัวเองแท้ ๆ แต่กลับดูเหมือนว่าตนไม่เคยมองเห็น

เห็นแต่ความขัดแย้งที่ไกลตัว เป็นเรื่องใหญ่

:b41: :b41: :b49: :b41:



คุณเห็นพระธรรมเป็นของง่ายๆหรือครับ

ถึงมีบทเรียนลัด

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 09:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:
eragon_joe เขียน:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านอ่านมาถูกต้องแล้ว
่่ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านศึกษามาถูกต้องแล้ว
่่ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านเรียนมาถูกต้องแล้ว
่่ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านสรุปมาถูกต้องแล้ว
ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านมีปัญญาดับทุกข์แล้ว
ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านปฏิบัติถูกต้องแล้ว
ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านบรรลุธรรมแล้ว
ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าท่านสงบแล้ว

ท่านมีความคิดเห็นว่ายังไง หรือมีแนวทางปฏิบัตินำไปสู่การดับทุกข์ให้กับเพื่อนมนุษย์ ทำให้เรื่องที่ยาก เข้าใจยาก ให้ปุถุชนคนทั่วไปเข้าใจง่าย และนำไปปฏิบัติได้ในระยะเวลาสั้นและเห็นผลเร็วที่สุด นั้นจะทำให้มนุษย์หลุดพ้นจากทุกข์ เกิดความสงบ เกิดสันติสุข ลดความขัดแย้งกัน


ความขัดแย้งมันอยู่กับความคิดของคุณ
การแสดงความขัดแย้งกับอารมณ์ที่ตนไม่ปราถนา
ไม่ว่าอารมณ์นั้นจะปรากฎในตน ก็แสดงความขัดแย้ง
แม้เห็นอารมณ์นั้นปรากฎในผู้อื่น ก็แสดงความขัดแย้ง
แม้เห็นอารมณ์นั้นปรากฎในที่อื่น ก็แสดงความขัดแย้ง
แม้ตนกล่าวถึงอารมณ์นั้น หรือผู้อื่นกล่าวถึงอารมณ์นั้น ก็ขัดแย้ง

อย่างน้อย ๆ คุณก็ยังแสดงความขัดแย้งต่ออารมณ์สมาธิอยู่

เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใต้จมูกตัวเองแท้ ๆ แต่กลับดูเหมือนว่าตนไม่เคยมองเห็น

เห็นแต่ความขัดแย้งที่ไกลตัว เป็นเรื่องใหญ่

:b41: :b41: :b49: :b41:



คุณเห็นพระธรรมเป็นของง่ายๆหรือครับ

ถึงมีบทเรียนลัด


ท่าน mes ถามเอกอนจริง ๆ เหย๋อนี่

:b32: :b12: หรือเพราะดึกแล้ว :b9: :b9:

:b12: :b12: :b12:

อ้อ ไม่ดึกนี่น่า เช้าอยู่ :b16: :b16: :b16:

อิอิ จ้า เอกอนขอตัวไปหาข้าวหมำแล้วไปนั่งอ่านปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ต่อดีกว่า
ถ้าวันนี้ยังอ่านไม่จบเล่มจะไม่เข้ามาสนทนา

s002 เพราะมาอ่านกระทู้แล้วเจอสิ่งปนเปื้อนเยอะ
และก็ยังมีที่เราเองก็สำลอกสิ่งปนเปื้อนออกมา

ดี ดี ดี

เจอของปนเปื้อนไปก็ต้องใช้พระธรรมจากพระโอษฐ์นั่นล่ะ ชำระทิฐิ

onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 15:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:
โอภาสหรือปฏิภาคนิมิตไม่ใช่จะเกิดกับใครได้ง่ายๆ

น้อยคนที่จะได้ เมื่อได้แล้วต้องรู้จักรักษาอย่าปล่อยหลุดลอยไป

นี่แหละคือจุดประกายสู่วิมุติธรรม ใครแม้แต่ได้ประสพครั้งเดียวก็ยังนับว่าโชคดีที่สุดในชีวิต




โอภาส มีทั้งโอภาสที่เป็นนิมิตแสง, สี กับโอภาสที่เกิดจากกำลังของสมาธิ

โอภาสที่คุณmes นำมากล่าวถึง เป็นโอภาสแบบไหนหรือคะ?

แล้วโอภาสที่คุณmes เคยพบเจอ เกิดขึ้นแบบไหนคะ ขณะจิตเป็นสมาธิ มีความรู้สึกตัว กับไม่มีความรู้สึกตัวคะ หรือขณะที่กำลังแผ่เมตตา, กรวดน้ำ?

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 15:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


สมาธิระดับปฐมฌานขึ้นไปนั้นในขณะจิตนั้นชื่อไม่มีสติสัมปัชัญญะไม่มี
และสติจะบริสุทธิ์ได้ที่สมาธิระดับฌาน4


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 16:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


การถึงโอภาสต้องมีอุเบกขา กันไว้ หากไปถึงขั้นที่มีตัวรู้ตัวเห้นที่เป้นอจิณไตย(บางๆ) เกิดความดีใจเสียใจ ตื่นเต้น ตกใจ สมาธิจิตย่อมกวัดแกว่งได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 16:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


จากอนุปทสูตร

ธรรมที่พระสารีบุตรกำหนดได้ตามลำดับ ในฌานระดับต่าง

ธรรมในปฐมฌาน คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข จิตเตกัคคตา ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา วิญญาณ ฉันทะ อธิโมกข์ วิริยะ สติ อุเบกขา มนสิการ

ธรรมในทุติยฌาน คือความผ่องใสแห่งใจภายใน ปีติ สุข จิตเตกัคคตา ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา วิญญาณ ฉันทะ อธิโมกข์ วิริยะ สติ อุเบกขา มนสิการ

ธรรมในตติยฌานคือ อุเบกขา สุข สติ สัมปชัญญะ จิตเตกัคคตา ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา วิญญาณ ฉันทะ อธิโมกข์ วิริยะ สติ อุเบกขา มนสิการ

ธรรมในจตุตถฌาน คือ อุเบกขาอทุกขมสุขเวทนา ความไม่คำนึงแห่งใจ เพราะบริสุทธิ์แล้ว สติบริสุทธิ์ จิตเตกัคคตา ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา วิญญาณ ฉันทะ อธิโมกข์ วิริยะ สติ อุเบกขา มนสิการ

ธรรมในอากาสานัญจายตนฌาน คือ อากาสานัญจายตนสัญญา จิตเตกัคคตา ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา วิญญาณ ฉันทะ อธิโมกข์ วิริยะ สติ อุเบกขา มนสิการ

ธรรมในวิญญาณัญจายตนฌาน คือ วิญญาณัญจายตนฌาน จิตเตกัคคตา ผัสสะ เวทนา สัญญา
เจตนา วิญญาณ ฉันทะ อธิโมกข์ วิริยะ สติ อุเบกขา มนสิการ

ธรรมในอากิญจัญญายตนฌาน คือ อากิญจัญญายตน ฌาน จิตเตกัคคตา ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา วิญญาณ ฉันทะ อธิโมกข์ วิริยะ สติ อุเบกขา มนสิการ

อนุปทสูตร ที่ ๑ http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 324&Z=2444

อรรถกถา http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... b=14&i=153


แก้ไขล่าสุดโดย ปฤษฎี เมื่อ 13 พ.ย. 2011, 21:16, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 16:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนพระอานนท์เมื่อเข้าถึงสภาวะธรรมระดับปฐมฌานขึ้นไป






หลับอยุ่ เขียน:
Quote Tipitaka:
ดูกรอานนท์ เพราะฉะนั้นแล ภิกษุถ้าแม้หวังว่า จะบรรลุสุญญตสมาบัติภายในอยู่
เธอพึงดำรงจิตภายใน ให้จิตภายในสงบ ทำจิตภายในให้เป็นธรรมเอกผุดขึ้น
ตั้งจิตภายในให้มั่นเถิด ฯ


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖
มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์



๒. มหาสุญญตสูตร (๑๒๒)

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ บรรทัดที่ ๔๘๔๖ - ๕๐๘๙. หน้าที่ ๒๐๖ - ๒๑๕.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... agebreak=0


[Quote-Tipitaka][๓๔๗] ดูกรอานนท์ ก็ภิกษุจะดำรงจิตภายใน ให้จิตภายในสงบ ทำ
จิตภายในให้เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งจิตภายในมั่นได้อย่างไร
ดูกรอานนท์ ภิกษุ
ในธรรมวินัยนี้
(๑) สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม เข้าปฐมฌานมีวิตก มีวิจาร
มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ ฯ
(๒) เข้าทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งใจภายใน มีความเป็นธรรมเอก
ผุดขึ้น เพราะสงบวิตกและวิจาร ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่
สมาธิอยู่ ฯ
(๓) เป็นผู้วางเฉยเพราะหน่ายปีติ มีสติสัมปชัญญะอยู่ และเสวยสุข
ด้วยนามกาย เข้าตติยฌาน ที่พระอริยะเรียกเธอได้ว่า ผู้วางเฉย มีสติ อยู่
เป็นสุข อยู่ ฯ
(๔) เข้าจตุตถฌาน อันไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และ
ดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้
มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาอยู่ ฯ
ดูกรอานนท์ อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าย่อมดำรงจิตภายใน ให้จิตภายใน
สงบ ทำจิตภายในให้เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งจิตภายในมั่น ฯ
ภิกษุนั้นย่อมใส่ใจความว่างภายใน เมื่อเธอกำลังใส่ใจความว่างภายใน
จิตยังไม่แล่นไป ยังไม่เลื่อมใส ยังไม่ตั้งมั่น ยังไม่นึกน้อมไปในความว่างภายใน
เมื่อเป็นเช่นนั้น ภิกษุย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า เมื่อเรากำลังใส่ใจความว่างภายใน จิตยัง
ไม่แล่นไป ยังไม่เลื่อมใส ยังไม่ตั้งมั่น ยังไม่นึกน้อมไปในความว่างภายใน
ด้วยอาการนี้แล ย่อมเป็นอันเธอรู้สึกตัวในเรื่องความว่างภายในนั้นได้ ฯ
ภิกษุนั้นย่อมใส่ใจความว่างภายนอก ...
ภิกษุนั้นย่อมใส่ใจความว่างทั้งภายในและภายนอก ...
ภิกษุนั้นย่อมใส่ใจอาเนญชสมาบัติ เมื่อเธอกำลังใส่ใจอาเนญชสมาบัติ
จิตยังไม่แล่นไป ยังไม่เลื่อมใส ยังไม่ตั้งมั่น ยังไม่นึกน้อมไปในอาเนญชสมาบัติ
เมื่อเป็นเช่นนั้น ภิกษุย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า เมื่อเรากำลังใส่ใจอาเนญชสมาบัติ จิต
ยังไม่แล่นไป ยังไม่เลื่อมใส ยังไม่ตั้งมั่น ยังไม่นึกน้อมไปในอาเนญชสมาบัติ
ด้วยอาการนี้แล ย่อมเป็นอันเธอรู้สึกตัวในเรื่องอาเนญชสมาบัตินั้นได้ ฯ
ดูกรอานนท์ ภิกษุนั้นพึงดำรงจิตภายใน ให้จิตภายในสงบ ทำจิตภายใน
ให้เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งจิตภายในให้มั่น ในสมาธินิมิตข้างต้นนั้นแล
เธอย่อม
ใส่ใจความว่างภายใน เมื่อเธอกำลังใส่ใจความว่างภายใน จิตย่อมแล่นไป เลื่อม
ใส ตั้งมั่น นึกน้อมไปในความว่างภายใน เมื่อเป็นเช่นนั้น ภิกษุย่อมรู้ชัดอย่าง
นี้ว่า เมื่อเรากำลังใส่ใจความว่างภายใน จิตย่อมแล่นไป เลื่อมใส ตั้งมั่น นึกน้อม
ไปในความว่างภายใน ด้วยอาการนี้แล ย่อมเป็นอันเธอรู้สึกตัวในเรื่องความว่าง
ภายในนั้นได้ ฯ
อ่านต่อได้ที่
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ บรรทัดที่ ๔๘๔๖ - ๕๐๘๙. หน้าที่ ๒๐๖ - ๒๑๕.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... agebreak=0


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 17:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๒
ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส



[๗๘๘] พระปัจเจกสัมพุทธเจ้าละสุข ทุกข์ โสมนัสและโทมนัส
ก่อนๆ แล้ว ได้อุเบกขาและสมถะอันหมดจดวิเศษแล้ว
พึงเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด ฉะนั้น.
[๗๘๙] คำว่า ละสุข ทุกข์ โสมนัสและโทมนัสก่อนๆ แล้ว ความว่า พระปัจเจก-
*สัมพุทธเจ้านั้น บรรลุจตุตถฌานอันไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุข ละทุกข์ และดับโสมนัส
โทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ละสุข ทุกข์
โสมนัสและโทมนัสก่อนๆ แล้ว.
[๗๙๐] ความวางเฉย กิริยาที่วางเฉย กิริยาที่หยุดเฉย ความที่จิตระงับ ความที่จิต
เป็นกลาง ในจตุตถฌาน ชื่อว่า อุเบกขา ในอุเทศว่า ลทฺธานุเปกฺขํ สมถํ วิสุทฺธํ ดังนี้.
ความตั้งอยู่ ความดำรงอยู่ ความหยุดอยู่ ความไม่ส่าย ความไม่ฟุ้งแห่งจิต ความ
แน่วแน่ ความสงบ สมาธินทรีย์ สมาธิพละ สัมมาสมาธิ ชื่อว่าสมถะ.
อุเบกขาในจตุตถฌาน และสมถะเป็นความหมดจด เป็นความหมดจดวิเศษ เป็นความ
ขาวผ่อง ไม่มีกิเลสเครื่องยั่วยวน ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น
ถึงความไม่หวั่นไหว.
คำว่า ได้อุเบกขาและสมถะอันหมดจดวิเศษ ความว่า ได้ ได้แล้วซึ่งอุเบกขาในจตุตถฌาน
และสมถะ เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ได้อุเบกขาและสมถะอันหมดจดวิเศษ พึงเที่ยวไปผู้เดียว
เหมือนนอแรด ฉะนั้น. เพราะเหตุนั้น พระปัจเจกสัมพุทธเจ้านั้นจึงกล่าวว่า
พระปัจเจกสัมพุทธเจ้า ละสุข ทุกข์ โสมนัสและโทมนัส
ก่อนๆ แล้ว ได้อุเบกขาและสมถะอันหมดจดวิเศษแล้ว
พึงเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด ฉะนั้น.
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๐ บรรทัดที่ ๗๘๔๙ - ๗๘๖๘. หน้าที่ ๓๑๘.
http://www.84000.org/tipitaka/read/v.ph ... agebreak=0


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 17:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมถามหน่อย การกระทำจิตให้stopนั้น เราสามารถฝึกได้กระทำได้ก่อนเข้าสู่สภาวะขั้นปฐมฌานได้ไหม?(ต้องเอาพระไตรปิฏกมาอ้างด้วยนะ)
:b8: ใครมาโพสตอบได้ถูกคนแรกผมจะให้พระเนื้อผงกับผ้ายันต์พระสิวลีที่อธิฐานจิตและจารเมจิกโดยหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินเป็นที่ระลึก :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 17:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


:b6: :b6: :b6:

นี่ถือเสียว่าพิศสวาทเรา แบบว่าให้ฟรีโดยไม่ต้องตอบได้ป่าว

ถือว่าชดเชยตอนที่ตะเอง เอากลอนของท่านจี้กงมาลงก็ได้

เพราะตอนนั้นมันแว๊บในใจว่า "ท่านจี้กง"

แต่ตอนนั้นไม่กล้าตอบ กลัวหน้าแตกหง่ะ

:b6: :b6: :b6:

ได้ป๊ะตัวววว....

เห็นอ๊บซ์ อ๊บซ์ มีได้ไปแล้ว แบบว่ามีแอบอิจฉาน่ะ ... :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 17:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าให้คงไม่ได้ให้ด้วยพิศวาสหรอก :b34: แต่จะให้ด้วยเมตตา okนะ หัดสวดมนต์ด้วยล่ะ(สวดมนต์เป้นการทำกรรมฐานอย่างหนึ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 17:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


huh

ก็เอาไปแปะไว้ดิ่ ในหัวข้อบทสวดน่ะ
แปะไว้เยอะ ๆ หน่อย
เด๋วจะแอบย่องไปก๊อป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 18:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


สมาทานศีลห้าสวดขอขมาลาโทษพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์(ของหลวงพ่อสดครอบคลุมดี)
สวดธัมจักรตามด้วย12ตำนาน

รอคนมาตอบอยู่ huh
นี่หากน้ำไม่ท่วมผมไม่ได้มานั่งคุยแบบนี้หรอก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 18:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


สงสัยคงยาก :b6: บอกใบ้ดีกว่า เป็นถึงวรรณะสูง ถึงกับเปล่งอุทาน ประมาณว่า นิวรณ์วิตก ที่เกิดในใจตนจงหยุด ขนาดนั้นเลยทีเดียว


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 131 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร