คนกทม. ไม่ควรตื่นกระหนก แต่ควรเตรียมตัวรับสถานการณ์

ใน บทความ ใช้คำว่า "ระยะหัวเลี้ยวหัวต่อ กำเนิดรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์"... คือ เขียนอย่างนี้ ไม่เคลียร์ ครับ... ชาวบ้านอาจจะเข้าใจว่า เป็นตรงจุดรอยต่อรัฐบาล ปชป.กับ รัฐบาล พท. และ ต้องรับผิดชอบร่วมกัน?


แต่ ถ้า ดูจาก ระยะห่างที่พายุเข้าไทย




นกเต็น29กค54(สมัย ปชป.)
ไห่ถาง 26กย54(สมัย พท.)
เนสาด 1ตค54
นาลแก6-8ตค54

จะเห็นว่า นกเต็น เข้าไทย ห่างจากไห่ถาง ถึง เกือบ2เดือน!
ดังนั้น เวลาหลังที่ พท.ทำงานอย่างเป็นทางการคือ 10สค54 จะห่างจากเวลาที่ไห่ถางเข้าไทย ถึง 46วัน!

ที่สำคัญที่สุด คือ ในช่วงก่อนที่ ไห่ถางจะเข้าำไทย ประมาณ7ถึง10วัน ถ้าเร่งพร่องน้ำในเขื่อนเอาไว้ก่อน เวลาที่พายุเข้าจริงๆจะมีปริมาตรเหลือในเขื่อนพอที่จะรับน้ำได้ และ ไม่ต้องตาลีตาเหลือกระบายน้ำก้อนใหญ่ๆขนาดนั้น!...

ช่วงนี้ กราฟปลอม และ ข้อมูลลวง เกี่ยวกับ การบริหารน้ำของเขื่อนภูมิพลระบาดอย่างหนัก

นี้เป็น กราฟปลอมเวอร์ชั่นล่าสุด จาก



ขออนุญาต ครับ

บทความนี้ มีข้อต้องระวังตรงที่อ้างว่า






คราวนี้มาดู กราฟจริง



ดูดีๆ กราฟของจริงของเขื่อน ปริมาณน้ำในเขื่อนจะไปเกิน Upper rule curve ก็ต่อเมื่อปลายเดือน กย54 โน้น!...


จุดที่ต้องระวังก็คือ การที่บทความพยายาม ชี้สื่อให้เห็นว่า น้ำในเขื่อนจะเกินปริมาณน้ำกักเก็บสูงสุด ณ ขณะนั้น(Upper rule curve) ที่ กลางเดือน สค. 54 ซึ่ง จะไปสอดรับกับกระแส ที่ว่า " ปัญหานี้ ปชป.ต้องร่วมรับผิดชอบกับ พท. เพราะเป็นในช่วง ระยะ"หัวเลี้ยวหัวต่อ".... กล่าวคือ ถ้า น้ำในเขื่อนกำลังจะเกินเกณฑ์เก็บกักสูงสุด ตรงกลางเดือนสิงหา จริง จะใกล้กับรอยต่อเวลาที่ ปชป.ลงจากอำนาจและ พท.เข้ารับตำแหน่ง (คือ วันที่ 10 สค 54) ซึ่งจะกลายเป็นว่า "ปชป.ต้องไปรับผิดชอบร่วมกับ พท."???

แต่ ในความจริงแล้ว ในขณะที่ ปชป.ลงจากอำนาจนั้น ปริมาณน้ำในเขื่อน ยังห่างไกลจากระดับ Upper rule curve มาก...

"ไห่ถาง... ลมเทพเจ้า"


ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น มีตำนาน "ลมเทพเจ้า" ซึ่งถล่มทัพเรือมองโกลที่ยกมาบุกเกาะญี่ปุ่น จนจมล่มนับไม่ถ้วน และ ช่วยให้ญี่ปุ่นรอดพ้นจากกองทัพมองโกลได้.

ในไทย หากย้อนไปก่อนหน้า วันที่26 กย54 ซึ่งเป็นวันที่ พายุไห่ถาง(และ ตามติดๆด้วยเนสาด) เข้า คงไม่มีใครเชื่อว่า จะมีสิ่งใดมาเปลี่ยนแปลงสถานการณ์แบบเหนือความคาดหมายในช่วงเวลาสั้นๆ...!
เพราะ ก่อนหน้านั้น ไม่กี่วัน ยังเห็น สส.พท. และ กลุ่มแกนนำ นปช.ไปเตะบอลเขมร นั่งไหว้ฮุนเซน ประลกๆ ...แต่ คล้อยหลังจากนั้น อีกไม่นาน เมื่อพายุนำน้ำฝนเข้าไทยจำนวนมาก และ สิ่งต่างๆ ก็เป็นอย่างที่เห็น...!


ปล..

ผม เพื่อน และ ญาติ ของผมก็ได้รับผลกระทบจากพายุลูกนี้... แต่ ผมมองว่า ถ้าน้ำที่ไหล่บ่าจากพายุนี้ จะช่วยล้างสิ่งต่างๆ ให้เมืองไทยกลับมาสงบสุขเหมือนเดิม ก็นับว่าคุ้มค่า.

เมื่อกี้ดูทีวีดาวเทียมช่องสุวรรณภูมิ (ช่วงเวลา19.45-20.00น.) นายประชัย เลี่ยวไพรรัตน์ นายทุนใหญ่ของสถานีนี้ ได้ออกมาพูดถึงสถานการณ์น้ำท่วม กทม. รวมไปถึงน้ำท่วมหลายจังหวัดที่อยู่เหนือ กทม. ขณะนี้ว่า ต้นตอปัญหาใหญ่เกิดจากคน 2 คนที่สามารถกุมชะตาประเทศชาติได้

บุคคล 2 คนนั้นคือ

1. อธิบดีกรมชลประทาน
2.ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิต

เพราะทั้ง 2 คนนี้เป็นผู้สั่งให้มีการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนต่างๆ ที่ทำให้บ้านเมืองประสบภาวะน้ำท่วมใหญ่ขณะนี้ นายประชัยพูดว่า ตัวเขาเองเป็นวิศวกรรุ่นพี่ ขอเตือนวิศกรรุ่นน้องทั้ง 2 คนนั้น ขอให้เลิกกระทำการดังกล่าวได้แล้ว

ไม่ควรเอาเรื่องการเมืองมาทำลายกันโดยไม่สนใจความทุกข์ร้อนของประชาชน ไม่ควรเล่นการเมืองกันโดยไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะฉิบหายอย่างไร

ขณะนี้ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ต้องมาปล่อยน้ำออกจากเขื่อนต่างๆ ซึ่งอันที่จริงขณะนี้ฝนก็ลดน้อยลงมากแล้ว หลายจังหวัดไม่มีฝนตกแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องมาปล่อยน้ำออกจากเขื่อน ควรเก็บกักน้ำเอาไว้เพื่อรองรับฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึงจะดีกว่า คนที่เรียนวิศวกรมา เขามองออก "ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่" ขอเตือนวิศวกรรุ่นน้อง 2 คนนั้น ขอให้เลิกพฤติกรรมทำร้ายประเทศชาติและประชาชนได้แล้ว

จะเล่นการเมืองกันอย่างไร ก็ขอให้คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนด้วย

ตอนท้ายคุณประชัยแพลมๆมาว่า ผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเป็นเพื่อนเรียนรุ่นเดียวกับคนที่อนู่บ้านเลขที่ 111 (ไม่รู้ว่าใคร? จริงเท็จอย่างไร?)

http://board.banrasdr.com/showthread.php?tid=38176

ชาวเน็ตควานหารมต.สั่งเขื่อนกั๊กปล่อยน้ำต้นเหตุอภิมหาอุทกภัย

http://bit.ly/uoKEzi




.........................


ถ้าข่าวนี้ ถูกต้อง... การบริหารจัดการน้ำในเขื่อนภูมิพล ไม่ใช่เกิดใน "ระยะหัวเลี้ยวหัวต่อ กำเนิดรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์"(กลางเดือน สค.54) ระหว่างการเปลี่ยนรัฐบาล อย่างที่มีการพยายามปล่อยข่าวออกมาเมื่อวานนี้ .

แต่ เป็นปัญหา ไปที่เดือน กย.54 แล้ว ....เพราะ ข่าวบอกว่า ฝ่ายการเมืองกดดันให้เขื่อนอั้นน้ำ รอจนวันที่ 15 กย.54 จึงให้ปล่อยน้ำได้....และ จะไม่สามารถโยงมาให้เกี่ยวข้องใดๆได้เลย กับ ปชป.!...

"ปชป."จี้กต.หาทนาย-ล่ามให้วีระ-ราตรีสู้คดี

28 ตค. 2554 13:19 น.

นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความประหลาดใจที่ยังมีการดำเนินคดีในชั้นศาลอุทธรณ์ของกัมพูชา ในคดีนายวีระ สมความคิด และนางสาวราตรี พิพัฒนไพบูลย์ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้บุคคลทั้งสองได้แสดงเจตนายุติการต่อสู้คดีเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์กัมพูชาแล้ว.
อย่างไรก็ตามเมื่อยังมีคดีในชั้นศาลอุทธรณ์ ก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลที่จะต้องดูแลคนไทยในการจัดหาทนายความและล่ามพื่อต่อสู้คดีแต่รัฐบาลกลับละเลยไม่ดำเนินการช่วยเหลือคนไทยทั้งสองคนอย่างที่ควรจะทำ จนเป็นเหตุให้ศาลอุทธรณ์กัมพูชาเลื่อนการพิจารณาคดีออกไปเพราะติดปัญหาว่า นายวีระ และนางสาวราตรีไม่มีล่าม และทนายความจึงอยากให้รัฐบาลให้ความใส่ใจในเรื่องนี้ด้วย


ใครที่ติดตามสถานการณ์เมืองต่อเนื่อง ก็รู้ว่านายวีระ กับนางสาวราตรีเนี่ยเดินไปเข้าคุกเขมรเอง ช่วงรัฐบาลที่แล้ว (เข้าไปทำอะไรไปหารายละเอียดเอง) รัฐบาลชุดก่อนหมดปัญญาจะช่วยได้ เพราะไปท้าตีท้ารบกับเขา (ทำสนามการค้าให้เป็นสนามรบ) จนมองหน้ากันไม่ติด ฯลฯ เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ๆ ก็หวังสร้างสัมพันธ์อันดีต่อกัน แล้วก็หวังช่วยนายวีระกับราตรีง่ายขึ้น

เห็นไหมล่ะ โฆษกพรรค ปชป. ออกมาเรียกร้องรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ช่วยด้วยช่วยทีช่วยหาทนายให้หน่อย

รัฐบาลน่าจะไม่ค่อยมีเวลา เพราะแก้ปัญหาน้ำท่วมอยู่จนไม่มีเวลากินเวลานอน รอให้น้ำแห้งก่อนได้ไหม

คำสารภาพบาปของนายฉลอง

นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุได้ปรับความเข้าใจกรณีที่คนเสื้อแดงได้รับอภิสิทธิ์ในการรับบริจาคสิ่งของช่วยน้ำท่วมจำนวนมากกว่า ได้ปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนขอยอมรับผิดเอง เพราะเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกัน ก็ต้องขอโทษนายจตุพร นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยด้วย ซึ่งได้โทรศัพท์ไปปรับความเข้าใจกันหมดแล้ว ตนไม่คิดเป็นศัตรูกับใคร แต่ทนเห็นประชาชนเดือดร้อนไม่ได้ ที่ผ่านมาตนผิดเองที่อาจใจร้อนที่พอไปขอรับของบริจาคแล้วต้องคอย ไม่ได้รับของทันที โดยที่ไม่รู้ว่า กลุ่มเสื้อแดงที่ได้ของบริจาคมากนั้น เขามาคอยนานกว่าตน และรอรวบรวมจนได้ของบริจาคจำนวนมาก จึงขนไปทีเดียว แต่ตนไปถึงก็จะเอาทันที เมื่อไม่ได้ก็เลยเครียดไปหน่อย แต่ยืนยันว่า ขณะนี้ได้ปรับความเข้าใจกันหมดแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรคาใจ และได้พูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ใหญ่ในพรรคเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

นายฉลองกล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายจตุพรระบุตนเป็นนักเลงกระจอกที่ออกมาพูดแล้ว ปิดโทรศัพท์มือถือหนีนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้ปิด แต่มีหลายเบอร์ หากจะว่า เป็นนักเลงกระจอกก็รับได้ ไม่เป็นไร เพราะขณะนี้ทุกฝ่ายเข้าใจกันหมดแล้ว ที่ผ่านมาต่างคน ต่างเข้าใจผิดกัน ทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ หากจะลงโทษอย่างไร ก็พร้อมยอมรับ ขณะนี้ไม่อยากให้เกิดความแตกแยกกัน อยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ปัญหาให้ประชาชน

ตนยอมรับผิดทุกอย่าง แต่เมื่อพูดไปแล้ว ช่วยให้ประชาชนมีข้าวกินก็ยอมผิด เพราะพอตนพูดออกไป ทำให้ขณะนี้ชาวบ้านได้รับของบริจาคเข้ามาจำนวนมากมาย ทุกฝ่ายยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือเต็มที่

วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7638 ข่าวสดรายวัน

อคติขึ้นสมอง

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม


ดอนเมือง หมายถึง ที่สูงของเมือง ถูกน้ำท่วมถึงเรียบร้อย นั่นหมายความว่ากรุงเทพฯ ทั้งเมืองหนีน้ำท่วมไม่พ้น ต้องยอมรับความจริง

ด้วยปัจจัยน้ำฝนมากเป็นประวัติศาสตร์ น้ำท่ามากเป็นประวัติการณ์ แล้วยังประเหมาะเคราะห์ร้ายเจอน้ำทะเลหนุนสูงสุดในรอบปีเข้าให้อีก

น้ำท่วมครั้งนี้จึงเป็นประวัติศาสตร์ เป็นประวัติ การณ์ ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็น ไม่เคยเกิด

ต้องยอมรับความจริง

จากสถานการณ์จริง เหตุ การณ์จริงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับ เข้าใจความจริงที่เกิดขึ้น และเป็นอยู่

การตั้งความหวัง หรือกล่าวโทษรัฐบาล เป็นไปตามสถานการณ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยเหตุ ด้วยผล

เพราะเวลานี้รัฐบาล โดยศปภ.ทุ่มเททำงานอย่างหนัก บรรดากูรูผู้รู้หลั่งไหลมาช่วยเหลืออย่างคึกคัก

เมื่อทำดีที่สุดแล้ว ได้แค่ไหนก็แค่นั้น

ต้องยอมรับความจริง

ท่ามกลางความจริงเรื่องน้ำท่วม ก็มีความจริงของบางคน บางกลุ่ม บางพรรค ที่เต็มไปด้วยอคติ แฝงไปด้วยความโกรธ เกลียด คับแค้น ชิงชัง

ไม่ยอมรับ ไม่สนใจความจริง

เพราะความจริงที่บางคน บางกลุ่ม บางพรรค ต้องการก็คือ

นายกฯ ยิ่งลักษณ์ต้องออกไป รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องอยู่ไม่ได้ ศปภ.ต้องล้มเหลว

เพราะเต็มไปด้วยอคติ โกรธ เกลียด คับแค้น ชิงชัง นี่เอง คน กลุ่ม พรรคเหล่านี้ จึงมืด บอด ใบ้ ไม่มีเหตุผล ไม่สนความจริง

ตัวอย่างเล็กๆ ก็เช่น คนระดับด๊อกเตอร์ ตำแหน่งใหญ่ระดับคณบดี เชื่อข่าวปล่อยทางเฟซบุ๊ก เรื่อง "สวนจิตร" ไม่พอ ยังนำมาขยายความต่อหน้าตาเฉย

คนระดับอาจารย์มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศ ถึงขนาดปล่อยข่าวทำลายศปภ. ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ

หรือคนที่สถาปนาตัวเองเป็นไฮโซผู้สูงศักดิ์ ระดับภริยา ครม.เงา ถึงขั้นจับ "ผีอีเม้ย" มาโพสต์ เพื่อเสียดสีนายกฯ หญิง

เมื่อปล่อยให้อคติครอบงำเสียแล้ว

ระดับด๊อกเตอร์ก็ยินดีเผยระดับปัญญาที่แท้

ระดับอาจารย์มหาวิทยาลัยก็ยินดีเปิดตัวตนที่แท้

ระดับไฮโซก็ยินดี แสดงส่วนลึกที่แท้

สกุลรุนชาติ ยศถาบรรดาศักดิ์ การศึกษา

ไม่มีผล ไม่มีค่า ไม่มีความหมาย

ข่าวลึกจากนายทหารนิยมประชาธิปไตยและนักธุรกิจชั้นนำที่ทราบเรื่องแจ้งมาว่า เมื่อคืนวันที่ 27 และเช้าวันที่ 28 ที่ผ่านมา มีการประชุมร่วมระหว่างแกนนำหลายคนของสภาอุตสาหกรรม และกลุ่มนายทหารจำนวนหนึ่งในสภากลาโหมที่ต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ วางแผนการล้มรัฐบาลหลังจากน้ำลด โดยจะดำเนินการดังนี้

1. เตรียมกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และสินค้าวัสดุก่อสร้าง ฯลฯ ไม่ให้ออกสู่ท้องตลาด และขึ้นราคาสินค้าทุกอย่าง เพื่อให้ประชาชนลำบากมากที่สุด

2. เตรียมจัดทีมสร้างสถานการณ์จลาจลแย่งอาหารและสินค้าในหลายพื้นที่ เพื่อให้รัฐบาลมีปัญหาว่าควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองไม่ได้

3. จากนั้นจะมีขบวนการพิเศษตั้งรัฐบาลที่พวกตนต้องการขึ้นมา อาจจะใช้วิธีใดก็ได้ แม้แต่วิธีการนอกรัฐธรรมนูญ

ศึกษาแล้วข่าวนี้มีความเป็นไปได้สูง โดยขอให้สังเกตความพยายามสร้างข่าวของ TPBS (ASTV 2) Nation TV และสื่อเครือข่ายอำมาตย์ต่าง ๆ ที่พยายามเน้นความยากลำบากของประชาชน การขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มในหมู่ผู้ประสบภัย พยายามดิสเครดิตรัฐบาลในเรื่องช่วยเหลือด้านของแจกผู้ประสบภัย

เรื่องนี้ชาวจิตอาสาที่ไปร่วมงานที่ดอนเมืองทุกคนรู้ดีว่า มีการแจกของอย่างเต็มที่และทั่วถึงมาก นอกจากไม่กี่รายที่อยู่ไกลหรือฝ่ายช่วยเหลือไม่ทราบแหล่งที่ติดอยู่เท่านั้น และเมื่อพบก็ออกไปแจกทันที ไม่ว่าจะห่างไกลขนาดไหน

นี่ยังรวมไปถึงการรีบลนลานออกมาพยายามไม่ยอมให้รัฐบาลนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคหรือน้ำดื่มจากต่างประเทศของพวกอุตสาหกรที่เป็นแกนนำ สอท. และผู้ผลิตน้ำดื่มรายใหญ่อีกด้วย

หากความจำไม่สั้นยังจำกันได้ ครั้งรัฐบาลที่แล้ว มีเหตุการณ์ทำนอง ^ คือ ช่วงน้ำมันปาล์มขาดตลาด ว่ามีนักการเมืองใหญ่บางคนในรัฐบาลนั่นร่วมกับพ่อค้านายทุนผูกขาด กักตุนน้ำมันปาล์ม บลาๆ ถึงคั่นประชาชนแย่งกันซื้อแทบตีกันตาย จำได้มั้ยๆ
เมื่อประชาชนเดือดร้อนได้ที่แล้วจัดทำสัญลักษณ์ที่ฝาขวดแบ่งเค้กกันแล้ว ก็ปล่อยออกสู่ท้องตลาด แต่ราคาดีดตัวสูงขึ้น บลาๆ นี่คือธรรมในใจผู้คนบันดลหาย

ธรรมในใจ ผู้คน บันดลหาย
เหลืออธรรม หลากหลาย ท่วมทับถม
ธรรมชาติ สอนสั่ง ดังปารมภ์
สายน้ำกราก หลากโถม เข้าล้างเมือง

ประเทศวิกฤติน้ำคราวนี้ หากรัฐบาลไม่ช่วยรุนน้ำให้คั่งค้างท่วมชาวดินรอบนอก คือปล่อยให้แม่พระคงคาถาโถมมาตามธรรมชาติ น้ำคงล้างเมืองล้างน้ำใจชาวสวรรค์เป็นแน่แท้

นายก ยอมไปยกมือไหว้ชาวบ้านซึ่งเขาทนสภาพน้ำท่วมมาเป็นแรมเดือนขอร้องว่าอย่าทำลายคันกั้นน้ำเลย เดี๋ยวน้ำจะท่วมกทม. ชาวบ้านถึงได้ยอมรับสภาพแทนชาวสวรรค์ นี่คือน้ำใจชาวดินครับ

น้ำใจชาวดิน





ดินเจ้าเอ๋ย ข้าเคยอยู่ใกล้มาก่อน