วันเวลาปัจจุบัน 22 พ.ค. 2025, 12:10  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 165 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ต.ค. 2011, 22:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


กราฟแสดง
1.ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล
2.ปริมาณเกณฑ์เก็บกักสูงสุด ณ เวลานั้นๆ
3.ปริมาณเกณฑ์เก็บกักต่ำสุด ณ เวลานั้นๆ
4.ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนในแต่ล่ะวัน
5.ปริมาณน้ำไหลออกจากเขื่อนในแต่ล่ะวัน

นำรูปมาจาก

http://water.egat.co.th/old-web/sumdam- ... aph-bb.htm

เพิ่มรายละเอียด

1.ระยะเวลาที่พายุเข้า 4ลูกสุดท้าย
นกเต็น 30กค54
ไห่ถาง 26กย54
เนสาด 1ตค54
นาลแก 6-8ตค54

2.จุดแบ่งเวลา รับผิดชอบ 10สค54
ก่อน10สค54 รัฐบาล ปชป. รมว.เกษตรเป็นของ ชพน.
หลัง 10สค54 รัฐฐาล พท. รมว.เกษตรคนเดิมของ ชพน.

3.วงกลมสีเทา เน้นแสดง ความแตกต่างของน้ำเข้าเขื่อน (สีแดง) กับ ปริมาณน้ำออกจากเขื่อน (สีเขียว) ที่เป็นปัญหาสำคัญ

4.จุดชี้แสดง ตรงเวลาที่ ปริมาณน้ำในเขื่อนกำลังจะถึุงปริมาณเกฌฑ์เก็บกักสูงสุดที่ควรเป็น ณ เวลานั้นๆ...


จากรูปแสดง

ในปีที่แล้ว ประเทศไทยประสบภาวะแห้งแล้ง น้ำในเขื่อน(แสดงด้วยกราฟ สีฟ้า)มีน้อยมาก ซึ่งจะเห็นได้ว่า กว่าที่น้ำในเขื่อนจะเข้าสู่ ระดับเกณฑ์เก็บกักต่ำสุด ณ เวลานั้นๆ(Lower rule curve กราฟสีม่วงเส้นล่าง) ก็ปาเข้าไปถึง ประมาณ 25ตค54. และ นี่คือเหตุผล ที่ปีที่แล้วมีการเตือนให้ระวังการทำนาปรัง.

ในปีนี้ เริ่มต้นปีก็ถือว่าแล้ง เพราะ ปริมาณน้ำ(กราฟสีชมพูเส้นทึบ) ต่ำกว่า ระดับเกณฑ์เก็บกักต่ำสุดที่ควรจะเป็น. น้ำเพิ่งจะมาเข้าเกณฑ์เก็บกักต่ำสุดที่ควรจะเป็น ก็เมื่อต้นเดือน มิย.54 นี้เอง. จากจุดนี้ จนถึง10 สค.54 จะเห็นว่าปริมาณน้ำกำลังอยู่ในเกณฑ์เหมาะสม คือ ค่อยๆไต่ระดับ และ อยู่ระหว่างเกณฑ์เก็บกักสูงสุด(Upper rule curve กราฟสีม่วงเส้นบน) กับ เกณฑ์เก็บกักต่ำสุด(Lower rule curve กราฟสีม่วงเส้นล่าง) .เมื่อ วันที่10สค.54 (ปชป.พ้นอำนาจ) ปริมาณน้ำในเขื่อน มีพอเหมาะ.

พายุนกเต็นเข้าเมื่อ 30กค54 จึงมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน(เส้นสีแดง)มาก สังเกตุเส้นกราฟพุ่งสูง.

หลังจากพายุนกเต็นผ่านไป ก็ยังคงมีฝนตกเรื่อยๆ และ มีน้ำไหลเข้าเขื่อน อยู่เรื่อยๆ. (ผมใช้วงกลมสีเทาเน้น).* แต่ ในช่วงนี้ปล่อยน้ำออก(เส้นสีเขียว)น้อยไป* .ณ เวลานี้ สังเกต ปริมาณน้ำในเขื่อน(เส้นสีชมพูทึบ) กราฟจะชันขึ้นไปเรื่อยๆ คือ น้ำในเขื่อนเพิ่มมากเรื่อยๆ จนเกือบจะไปชนปริมาณน้ำเก็บกักสูงสุดที่ควรเป็น ณ เวลานั้นๆ ประมาณ กลางเดือน กย.54.จุดนี้ น่าสนใจว่า ทำไม ณ เวลานี้ ถึงไม่ระบายน้ำเพื่อพร่องน้ำในเขื่อน โดยเฉพาะข่าวที่ว่า จะมีพายุเข้าอีก2ลูก เราก็ทราบกันก่อน เป็นเวลาพอสมควร.

วิกฤตการณ์ อยู่ตรง เวลาที่ พายุไห่ถาง และ เนสาด เข้าไทย(สองลูก ติดๆกันเลย ไห่ถางเข้า26กย54 เนสาดเข้า1ตค54) น้ำแทบเกือบจะล้นเขื่อน จนต้องมีการปล่อยน้ำออกครั้งล่ะมากๆ ระหว่าง 5ถึง12 ตค.54 วันล่ะประมาณ90-100ล้าน ลบ.ม. และ นำมาสู่ ความวินาศสันตะโร.

ส่วนพายุนาลแก สลายตัวที่เวียดนามให้ปริมาณฝนเข้าเขื่อนไม่มากนัก....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ต.ค. 2011, 22:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สมองประชาชนยังคิดได้...

หากคนบริหารคิดไม่ได้..

ก็ลงมาซะ.. :b12:

แต่....
เขื่อนภูมิพล...

ใครเป็นคนสั่งให้ระบายน้ำได้..ละนะ

การไฟฟ้า..รึ..กรมชลฯ
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2011, 10:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แม้กองทัพสหรัฐฯ จะถอนเรือรบ “ยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน” ออกจากทะเลไทยแล้ว แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯยังพร้อมให้ความช่วยเหลือวิกฤติน้ำท่วม พร้อมชมรัฐบาลไทยรับมือสถานการณ์รับมือภัยพิบัติได้รวดเร็ว

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯหรือเพนตากอน แถลงชื่นชมรัฐบาลไทยกรณีรับมือภาวะน้ำท่วมใหญ่และว่าสหรัฐฯพร้อมช่วยเหลือ ถ้าจำเป็น โดยนายจอร์จ ลิทเทิล โฆษกเพนตากอน ระบุในแถลงการณ์ว่านายลีออน พาเนตตา รมว.กลาโหมสหรัฐฯกำลังตรวจสอบสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และชื่นชมรัฐบาลไทย ที่รับมือภัยพิบัติน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว ในฐานะที่ไทยเป็นพันธมิตรใกล้ชิด สหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ไทยต่อเนื่อง เพื่อประเมินว่าอาจต้องการความช่วยเหลืออะไรจากสหรัฐฯบ้าง

http://cooloo.org/browse.php/Oi8vd3d3/L ... jQ_3D/b13/

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2011, 11:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โตโยต้า มอเตอร์ และประธานเจโทรประจำปท.ไทย เข้าเยี่ยมคารวะนรม.

นาย Yukitoshi Funo รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ และนาย Setsuo Iuchi ประธานเจโทรประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นรม. เมื่อวันที่ 25 ตค. 2554 เวลา 15.00 น.

นาย Yukitoshi Funo ได้แสดงความเสียใจ ที่ประเทศไทยประสบภัยพิบัติครั้งนี้ และกล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลไทยจะสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี โดยนาย Yukitoshi ได้กล่าวยืนยันว่า บริษัทโตโยต้าตัดสินใจที่จะลงทุนในไทยต่อไป เพราะมองว่า

ประเทศไทยเป็นประเทศสำคัญในการผลิตรถยนต์ในระดับภูมิภาค โดยในเบื้องต้น บริษัทได้ขอให้รัฐบาลสนับสนุนความช่วยเหลือกับบริษัทที่ได้รับผลกระทบ

ซึ่ง นรม. ได้กล่าวว่า รัฐบาลได้เตรียมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งบริษัทไทยและบริษัทต่างชาติที่มาลงทุนในไทย โดยจะออกมาตรการด้านการเงินและภาษีเพื่อแก้ไขปัญหาแบบเร่งด่วน (fast track) เช่น การยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักร เพื่อทดแทนเครื่องจักรเดิมที่เสียหายไปจากน้ำท่วม เงินกู้ระยะยาวดอกเบี้ยต่ำ เป็นต้น

ซึ่งได้มอบหมายให้ รอง นรม. กิตติรัตน์ รับไปดูแลรายละเอียดทั้งหมดในเรื่องนี้ เพื่อช่วยทำให้บริษัทที่ได้รับผลกระทบ สามารถกลับมาดำเนินการได้โดยเร็ว

ส่วน ทางประธานเจโทร นาย Setsuo ได้กล่าวว่า ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นกับไทย ถือเป็นเหตุสุดวิสัย เพราะไม่ได้เกิดขึ้นกับไทยเพียงประเทศเดียว เพราะเกิดขึ้นกับอีกหลายประเทศในภูมิภาคนี้ และที่ผ่านมารัฐบาลก็ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มความสามารถแล้ว โดยประธานเจโทรได้ยืนยันว่า

รัฐบาลญี่ปุ่นพร้อมให้การสนับสนุนในทุกเรื่องที่รัฐบาลไทยร้องขอ โดยอยากเห็นให้ภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจของไทยสามารถฟื้นคืนกลับมาได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวยืนยันว่า
ขณะนี้ได้เข้าสู่ช่วงการเตรียมการฟื้นฟูธุรกิจให้กลับคืนมาใหม่

ส่วนแผนในระยะต่อไป จะมีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของภาคอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม ก่อนหน้าฤดูน้ำหลากในปีหน้า รวมถึงการจัดทำแผนงาน และระบบการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ แผนบริหารจัดการ 25 ลุ่มน้ำ ที่รัฐบาลได้ประกาศเป็นนโยบายที่ต้องเร่งดำเนินการไว้ก่อนหน้านี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2011, 11:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ครม. อนุมัติเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำท่วม จำนวน 325,000 ล้านบาท

25 ตค. 2554 14:31 น.

เมื่อเวลา 13.25 น. นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง แถลงว่า

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งต้องการให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด

โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบกำหนดมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูหลังเหตุการณ์น้ำท่วม เป็นวงเงิน 325,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย 3 กลุ่มใหญ่ๆ ประกอบด้วย

1. กลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ที่รวมถึงนักลงทุนต่างชาติ จำนวน 65,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีมาตรการเร่งรัดและป้อกันพิบัติบัติภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

โดยจะดำเนินการให้ทันหน้าฝนปีหน้า มีการจัดวงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท
โดยทางรัฐบาลได้เจรจากับธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจบิก และธนาคารพาณิชย์ในไทย เพื่อดำเนินการดังกล่าว

ทั้งนี้ในแง่ของนักลงทุนระหว่างประเทศ ยังพิจารณาขยายสิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสิมการลงทุน และอำนวยความสะดวกในการอนุญาตการทำงาน เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศสามารถลงพื้นที่ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างทันถ่วงที

2. กลุ่ม ผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อม 170,000 ล้านบาท ได้กำหนดวงเงินช่วยเหลือไว้ 3 ส่วน คือ

2.1 การปล่อยวงเงินสินเชื่อผ่านธนาคารพาณิชย์ในไทย โดยจัดให้มีสินเชื่อ
ส่งเสริมสภาพคล่อง เป็นวงเงิน 120,000 ล้านบาท โดยบรรษัทประกันสินเชื่อ
อุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) จะเข้าไปค้ำประกันไม่ให้เกิดหนี้เสีย
และขยายเงินค้ำประกันสูงสุดร้อยละ 30 นอกจากนี้ยังงดค่าธรรมเนียม
การค้ำประกันเป็นระยะเวลา 3 ปี ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ในไทยได้ให้
ความร่วมมือ คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าพิเศษ ร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลา 3 ปี

2.2 สินเชื่อต่ำ ธนาคารออมสิน นำเงินผ่านธนาคารพาณิชย์ 20,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 0.01 ต่อปี ระยะ 3 ปี และ

2.3 สำนักงานประกันสังคม นำวงเงิน 10,000 ล้านบาท ฝากธนาคารพาณิชย์ ให้มาปล่อยเงินกู้ต่อ เพื่อเสริมสภาพคล่อง และเพิ่มผลผลิตด้วย

3. ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า และประชาชน จำนวน 90,000 ล้านบาท

ธนาคารออมสินจะปล่อยสินเชื่อ วงเงิน 20,000 ล้านบาท และ ธอส. จะปล่อยสินเชื่อเพื่อบ้านและซ่อมแซมที่พักอาศัย เป็นเงิน 10,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ธกส. จะปล่อยสินเชื่อให้เกษตรกรและสหกรณ์ 10,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังเตรียมเงินพิเศษ จำนวน 10,000 ล้านบาท เพื่อให้สถานประกอบการในวงเงิน 2,000 ล้านบาท ให้แต่ละรายไม่เกิน 1 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังประกัน คนว่างงานอีก 8,000 ล้านบาทด้วย

http://breakingnews.nationchannel.com/r ... ang=T&cat=

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2011, 11:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


ตรงประเด็น เขียน:
รูปภาพ






ปัญหามันอยู่ที่ ช่วงก่อนพายุไห่ถางและเนสาด จะเข้าไทย น้ำในเขื่อนกำลังจะเต็มเกณฑ์กักเก็บสูงสุด(Upper rule curve)อยู่แล้ว.... แต่ เขื่อนกลับไม่รีบพร่องน้ำ?

ที่สำคัญ กรมอุตุฯ ย่อมเห็นพายุ2ลูกนี้ ตั้งแต่เริ่มก่อตัวในทะเล และ ทิศทางการเคลื่อนตัวก่อน เป็นเวลาพอสมควร .ดังนั้น อย่างน้อย ใน10วันก่อนพายุไห่ถางเข้า(ไห่ถางเข้า26 กย.54) คือ ประมาณ16กย54 ถ้าพยายามพร่องน้ำ(ปล่อยออกมากกว่ารับเข้า) และ มีปริมาตรเหลือในเขื่อนมากกว่านี้ คงไม่ต้องตาลีตาเหลือกปล่อยน้ำวันละมากๆ 90-100ล้าน ลบ.ม./วัน ในช่วง 5-12ตค.54.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2011, 13:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


26 ตค. 2554 10:28 น.

เขื่อนสิริกิติ์เพิ่มการพร่องน้ำเป็นวันละ 15 ล้าน ลบ.ม. หลังปริมาณน้ำใกล้ 100% แต่ไม่กระทบน้ำท่วมจังหวัดท้ายเขื่อน

นายธนรัชต์ ภูมิมะกสิกร ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า เขื่อนสิริกิติ์ ปรับการระบายน้ำ เป็นครั้งที่ 7 ในรอบเดือนตุลาคม และขณะนี้ได้รับการประสานจากคณะอุนกรรมการติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทานให้ปรับการระบายน้ำ พิจารณาตามปริมาณการไหลเข้าของน้ำเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ และให้กระทบต่อสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดท้ายเขื่อนให้น้อยที่สุด

ล่าสุดได้ปรับการพร่องน้ำออกจากเขื่อนเป็นวันละ 15 ล้าน ลบ.เมตร เพิ่มจากเดิมวันละ 5 ล้าน ลบ.เมตร แต่ไม่กระทบต่อระดับน้ำที่ท้ายเขื่อน เนื่องจากเขื่อนภูมิพลมีน้ำไหลเข้าลดลงเหลือวันละ 40 ล้าน ลบ.เมตร พร่องน้ำออกวันละ 55 ล้าน ลบ.เมตรเมื่อรวม 2 เขื่อนแล้วพร่องน้ำไม่เกินวันละ 70 ล้าน ลบ.เมตรตามที่กรมชลประทานกำหนด

แม้ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนสิริกิติ์จะลดลงเหลือเพียงวันละ 16 ล้าน ลบ.เมตร แต่ปริมาณน้ำที่สะสมอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ระดับน้ำในที่เขื่อนปัจจุบันสูงร้อยละ 99.89 หรือ 9499 ล้าน ลบ.เมตร สามารถรับน้ำได้อีก 10 ล้าน ลบ.เมตร ก็จะเต็มความจุที่ 100% หรือ ความสูง 162 เมตร.ทะเลปานกลาง ทั้งนี้เขื่อนสิริกิติ์มีการายงานสถานการณ์น้ำ ความมั่นคงเข็งแรง เป็นประจำทุกวันผ่านสื่อทั้งท้องถิ่น และ เวปไซค์ของเขื่อนสิริกิติ์ หากมีข้อสงสัยหรือได้รับข่าวลือต่างๆไม่แน่ใจต้องการทราบข้อเท็จจริง โปรดโทรศัพท์สอบถามที่เขื่อนสิริกิติ์โดยตรงหมายเลข 055-441840 หรือตรวจสอบทางกล้อง cctv ภาพสดได้ตลอด 24 ชั่วโมง

http://breakingnews.nationchannel.com/r ... sid=535759

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2011, 13:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทูตสหรัฐยังเชื่อมั่นลงทุนในไทย พร้อมจัดหาเรือให้ไทย

26 ตค. 2554 10:23 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. นางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย พร้อมด้วยนักธุรกิจชาวสหรัฐ ฯ ที่ลงทุนในประเทศไทยจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมาเข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อสอบถามถึงสถานการณ์และให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนในประเทศไทยต่อไป

นางคริสตี้ เคนนีย์ กล่าวว่า ตนมีความรู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างมาก ซึ่งหลังจากน้ำลด ทางนักธุรกิจสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะมาลงทุนในประเทศไทยต่อไป และรัฐบาลพร้อมที่จะช่วยเหลือประเทศไทย โดยจะจัดหาเรือ เสื้อชูชีพ และเครื่องกรองน้ำมาช่วย อย่างไรก็ตาม ตนจะเดินทางไปที่สภากาชาดไทยในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2011, 14:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
"บางระกำโมเดล"

น้ำท่วม รากหญ้า น้ำตาเล็ด

ใครหนอ จะช่วยเช็ด คราบบอบช้ำ

บางไหนไหน ไทยก็แสน จะ...ระกำ

รากหญ้า รากย้ำ ระกำใจ



จังหวัดพิษณุโลกตอนนี้ เหลือแค่น้ำท่วมขัง อำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดเหลือแค่น้ำท่วมขัง

อำเภอบางระกำ หรืออำเภออื่น ๆ กำลังเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่

อำเภอบางระกำเป็นอำเภอสุดท้ายที่น้ำท่วมขังจะถูกสูบออกหมด ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน จะเรียบร้อยหมด และไม่เกินวันที่ 30 พฤศจิกายน จะไม่มีน้ำท่วมขัง

ปล. ตอนนี้ สาร Em เป็นที่ต้องการมาก

http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic ... 48649.html

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2011, 17:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


ได้รับทราบ ว่า มีการเผยแผ่กราฟนี้กัน ในช่วงที่ผ่านมา

โดยได้ชี้ไปว่า รัฐบาล ปชป.เก็บน้ำเอาไว้มากเกิน

รูปภาพ

กราฟนี้ ผมได้รับทราบมาจากเพื่อนคนหนึ่ง

กราฟนี้ ไม่ใช่ของจริง
ไม่ใช่ทำจากข้อมูลของทางราชการ

=================


ของจริง ถ้าใช้ข้อมูลจริง มาพลอทกราฟโดยคร่าวๆ ปริมาณน้ำที่ใช้ได้ในเขื่อน จะเป็นกราฟเส้นสีดำที่มีหัวลูกศร.

รูปภาพ

ปริมาณน้ำที่ใช้ได้จริง ถ้า พลอทตามข้อมูลจริง จะประมาณ เส้นสีดำที่มีหัวลูกศร ครับ
ไม่ได้สูงเว่อร์ แบบเส้นสีน้ำเงิน(ของลวง) ครับ

อาศัยข้อมูลคร่าวๆ จาก รายงานสถานภาพน้ำเขื่อนต่าง ๆ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/egat_dam.php

(หน่วย เป็น ล้าน ลบ.ม.)

1มีค 2554 ปริมาณน้ำที่ใช้งานได้ 2,731.69

1เมย. 2554 ปริมาณน้ำที่ใช้งานได้ 2,357.97

1 พค.2554 ปริมาณน้ำที่ใช้งานได้ 2,275.96

1 มิย 2554 ปริมาณน้ำที่ใช้งานได้ 3,168.77

1กค 2554 ปริมาณน้ำที่ใช้งานได้ 3,971.88

10 สค.2554 (วันที่ท่านนายกอภิสิทธิ์ลงจากตำแหน่ง) ปริมาณน้ำที่ใช้งานได้ 5,644.07

เมื่อนำมาพลอทกราฟ จะเป็นคนล่ะแนวกับ เส้นของปลอม ครับ

ประเ้ด็นที่ว่า

ทำไม ปริมาณน้ำที่ใช้ได้ในเขื่อนภูมิพล ณ 10 สค. 2554 จึงมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของ ปี2552 และ ปี2553 นั้น... เป็นเพราะ ว่า ณ 10สค 2552 และ 10 สค. 2553 เราแล้งมาก แต่ ณ 10 สค 2554เรามีน้ำพอดี.กราฟเลยออกมาดูเป็นอย่างนั้น (เมื่อดู สิ่งที่พอดี เปรียบเทียบกับ สิ่งที่น้อยไป เลยอาจจะทำให้ดูเหมือนว่า สิ่งที่พอดีนั้นมากไป).การจะดูว่า พอดีหรือไม่ ต้องดูว่าอยู่ในระหว่าง Upper rule curve และ Lower rule curve ไหม ดังกราฟใน คห.ข้างต้น.

ในวันที่10 สค.2553 จากข้อมูล เขื่อนมีปริมาณน้ำที่ใช้ได้ เพียง 345.40 ล้าน ลบ.ม. เท่านั้น.!!!

ถ้าดูจากกราฟ แสดงปริมาณ"น้ำทั้งหมดในเขื่อนที่เหมาะสม" โดยคร่าวๆ ณ 10สค.2554 คือ ช่วง 6900 ถึง 11000 .... และ นำมาลบออก3800(dead stockคือ น้ำที่เขื่อนเอาไปใช้ทำอะไรไม่ได้ เอาไว้เพียงหล่อเลี้ยงสายน้ำ/ต้นน้ำเหนือเขื่อน).... ปริมาณ"น้ำที่ใช้ได้ที่เหมาะสม" ณ 10สค2554 ก็จะเป็นช่วงประมาณ 3100-7200 ล้าน ลบ.ม..

ซึ่ง ในวันที่10สค.2554 (วันที่นายกอภิสิทธิ์ลงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ) มี ปริมาณน้ำใช้งานได้ เท่ากับ *5,644.07 ล้าน ลบ.ม.* ซึ่งก็อยู่ในช่วงที่เหมาะสม....

นี่คือการยืนยันว่า ในสมัย ปชป. มีการบริหารจัดการน้ำที่เหมาะสมแล้ว.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2011, 17:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


ช่วงนี้ จะมีคำร่ำลือกันในหมู่ชาวบ้าน ว่า

รมว.เกษตรในสมัยรัฐบาล ปชป. เป็น สส.สังกัดพรรค ปชป.ดังนั้น ปชป.ต้องรับผิดชอบการบริหารน้ำในช่วงหน้าแล้งที่ไม่เหมาะสม จนทำให้น้ำท่วมตอนนี้

(ที่เขาลือกันอีกว่า เก็บกักน้ำมากเอาไว้มากไป...สารพัดข่าวลือ)


ตอนแรก ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมชาวบ้านเขาเข้าใจไปเช่นนั้น....แต่ พอเห็นเว็บนี้เข้า ถึงเข้าใจ

http://politicalbase.in.th/index.php/%E ... 7%E0%B8%A3

อ้างคำพูด:
ธีระ วงศ์สมุทร

เข้าสู่การเมืองสมัยแรกเป็น ส.ส.ตราด พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2539 และผูกขาด ส.ส.นับแต่นั้น ชนะการเลือกตั้งทุกครั้ง แม้แต่การเลือกตั้งปี 2548 ซึ่งพรรคไทยรักไทยครองพื้นที่ภาคตะวันออกเกือบทั้งหมด แต่นายธีระก็ยังหลุดรอดเป็น ส.ส.ตราดคนเดียวของพรรคได้

เป็นคนเงียบขรึม แต่มีประสบการณ์ทางการเมืองสูง เคยเป็นทั้งที่ปรึกษารองนายกฯ ที่ปรึกษา รมว.วิทยาศาสตร์ เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ ประธาน กมธ.สาธารณสุข และรองประธาน กมธ.การท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังเติบโตในพรรคอย่างเงียบๆ ใต้ปีกนายสุเทพ จนได้เป็นรองเลขาธิการพรรค

ข้อมูลส่วนตัว
วันเดือนปีเกิด : 9 พฤศจิกายน 2500
สถานภาพครอบครัว : สมรสกับนางกรพินธ์ ยังไม่มีบุตร
ประวัติการศึกษา
ปริญญาตรี สาขาสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ปริญญาโท สาขาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์



ลอง เปรียนบเทียบกับ เว็บของจริง น่ะครับ

http://www.facebook.com/l.php?u=http%3A ... sZ21xr86Yg

อ้างคำพูด:
ประวัติ

นายธีระ วงศ์สมุทร เกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2491 ที่อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนปากพนัง มัธยาศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาการชลประทาน จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ. 2513 ระดับปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 42 เคยสมรสกับนางกรพินธ์ วงศ์สมุทร มีบุตร 4 คน คือ นางสาววงศ์จันทร์ วงศ์สมุทร นายวงศ์พันธ์ วงศ์สมุทร นางวงศ์ทิพา วงศ์สมุทร และ ร้อยเอกหญิง วงศ์รักษ์ วงศ์สมุทร
[แก้]การทำงาน

ธีระ วงศ์สมุทร เริ่มรับราชการเมื่อปี พ.ศ. 2514 ในตำแหน่ง นายช่างตรี กองก่อสร้าง กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จนได้รับตำแหน่งสูงสุดคือ อธิบดีกรมชลประทาน ในปี พ.ศ. 2550
ในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ พ.ศ. 2551 นายธีระ วงศ์สมุทร ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ [1] ซึ่งเป็นการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งแรกของนายธีระ แต่การทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีกลับได้รับฉายาจากพรรคเพื่อไทย เป็น 1 ใน 10 รัฐมนตรีไร้ผลงาน ว่า "รัฐมนตรีเป่าสากเรียกพี่"[2] แต่ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังได้มีการแต่งตั้งให้นายธีระ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์[3]ต่อเนื่องเป็นสมัยที่ 2




สรุป คุณ ธีระ วงศ์สมุทร เป็น สส.พรรคชาติไทยพัฒนา ครับ .

ใน รัฐบาล ปชป. พรรคชาติไทยพัฒนา ก็ได้เข้าร่วมรัฐบาลด้วย และ ได้ดูแลกระทรวงเกษตร โดย คุณ ธีระ วงศ์สมุทร ก็เป็น รมว.เกษตร .

มา ในสมัย รัฐบาล เพื่อไทย คุณ ธีระ ก็ยังได้เป็น รมว.เกษตร ตามเดิมครับ....

ดังนั้น ประเด็นที่ว่า รัฐบาลชุดที่แล้ว(คุณ ธีระเป็น รมว.เกษตร) จะวางยา รัฐบาลชุดนี้(ที่ก็มี คุณธีระ เองนั่นล่ะเป็น รมว.เกษตร) นั้น โยนทิ้งสายน้ำเจ้าพระยาที่กำลังบ่าไหลอยู่นี้...ไปได้เลย!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2011, 17:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


มี คห.ที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ การบริหารน้ำในเขื่อนภูมิพล มานำเสนอเพิ่ม

รูปภาพ


.....................


อ้างคำพูด:
"ขอติงนิดหนึ่งครับ ช่วงหน้าแล้งมีฝนตก จนไม่แล้งผิดปกติ ดูกราฟก็รู้แล้วว่ามันผิดปกติ แล้วจะมาโป้ยให้คนอื่นทำไหม ช่วงเดือนสิงหาพายุเข้าอีก ความผิดพายุมั้ง ผมไม่ได้เข้าข้างใครนะแต่นี้สุดจะทน เก่งกันดีนักทำกราฟด่าตัวเอง -*-


ผมมี คห.ดังนี้

"การบริหารน้ำในช่วงต้นปี หรือ ในฤดูแล้ง จุดสำคัญคือ ถ้าในหน้าแล้งปริมาณน้ำในเขื่อนต่ำกว่าที่ควรเป็น(ณ ขณะ นั้นๆ) หาก มีน้ำฝนตกลงมาบ้าง ก็ต้องพยายามเ้ก็บน้ำเอาไว้ เพื่อให้เส้นกราฟสีแดง(ปริมาณน้ำในเขื่อน)อย่างน้อยสุดควรจะไม่ต่ำกว่าเกณฑ์เก็บกักน้ำต่ำสุด ณ เวลา นั้นๆ. คงไม่มีใคร ปล่อยให้น้ำในเขื่อนต่ำกว่าปริมารเก็บกักน้ำต่ำสุดในตอนนั้น โดยไม่พยายามเก็บกักน้ำ.

ปัญหามันอยู่ตรง ช่วง เดือนกันยายน เมื่อเส้นกราฟสีแดงกำลังจะพุ่งไปตัดกับปริมาณเก็บกักน้ำสูงสุดในขณะนั้น ....ทำไมจึงเกิด พร่องน้ำในเขื่อน น้อยกว่าที่ควรจะทำ จนทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนทะลุปริมาณกักเก็บสูงสุด และ เข้าสู่ภาวะวิกฤต เมื่อพายุไห่ถางและเนสาดเข้าไทย ?"

.......................


อ้างคำพูด:
"ต้องดูกราฟการปล่อยน้ำประกอบด้วยนะครับ แล้วจะรู้ว่า ปชป. ไม่ยอมปล่อยนำ้ฃ่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค"


ผมมี คห. ดังนี้ครับ

"ในช่วงเดือน มิ.ย. - กค.54 ปริมาณน้ำในเขื่อน เพิ่งจะเลยระดับน้ำต่ำสุดที่ควรจะเป็น (จากกราฟ ต้น มิ.ย.54 เส้นสีแดงเพิ่งสูงกว่าระดับเก็บกักน้ำต่ำสุด ณ ต้นเดือน มิย.54) และ ยังห่างไกลจากปริมาณเก็กกักน้ำสูงสุด อีกมาก.

ปัญหาที่แท้จริง มันอยู่ตรง ช่วง เดือนกันยายน เมื่อเส้นกราฟสีแดงกำลังจะพุ่งไปตัดกับปริมาณเก็บกักน้ำสูงสุดในขณะนั้น ....ทำไมจึงไม่พยายามพร่องน้ำในเขื่อน จนทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนทะลุปริมาณกักเก็บสูงสุด และ เข้าสู่ภาวะวิกฤต เมื่อพายุไห่ถางและเนสาดเข้าไทย ? ."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2011, 17:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


ครม.เดือด'ปลอดประสพ'ปะทะ'ธีระ'

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

วันที่ 26 ตุลาคม 2554

http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... B8%B0.html


อ้างคำพูด:
อย่างไรก็ตามในที่ประชุมครม. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ ฯ ยังได้กล่าวชี้แจงต่อครม.ว่า ก่อนหน้านี้ที่ได้แสดงความเห็นไปนั้น ไม่ได้เป็นการต่อว่าใคร แต่ถ้ามีใครไม่สบายใจก็ต้องขออภัยด้วย ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะพูดว่าใคร อย่างไรก็ตามก็ต้องพูดความจริงว่าวันที่ 29 ต.ค.สถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่วันที่29 ต.ค.เท่านั้น แต่จะต่อเนื่องถึง 31ต.ค.ที่จะมีลมแรงขึ้นมาอีก เนื่องจากมีลมใต้และจะมีผลทำให้มีปริมาณน้ำสุูงขึ้น 20-30 % และที่น่าเป็นห่วงคือน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอาจจะกระฉอกอีกก็ได้ ซึ่งตนมั่นใจข้อมูลของตนและหากจะมอบให้ตนไปตอบในสภาด้วยก็ยินดี ที่ผ่านสิ่งที่ตนพูดไป ปัญหาส่วนหนึ่งก็หมายถึงว่ามีเจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานบางส่วนที่ไม่บริหาร จัดการน้ำ

จึงทำให้ นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ ชี้แจงว่า โดยจิตวิญญาณของกรมชลประทาน ไม่มีหรอกที่ไม่อยากช่วยประชาชน ไม่มีหรอกที่จะไปทำให้น้ำเพิ่มขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา มีลมที่เปลี่ยนทิศจริง ทำให้น้ำหนุนสูงมากขึ้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากคือน้ำกระฉอก โดยที่ต้องจับตาไม่ใช่แค่วันที่ 29 ต.ค. แต่ควรเป็นตั้งแต่ วันที่ 29-31 ต.ค.เลย มันไม่มีใครที่จะไปเข้าใจลมได้ทั้งหมด ดังนั้นวันที่ 31 ต.ค. จะเป็นวันที่หนักอีกวันหนึ่ง ซึ่งปัญหาน้ำทะลักที่คลอง 1 มาท่วมถนนวิภาวดี เป็นเพราะน้ำล้นมาจากคลอง 1และคลอง 2 ตอนนี้การดูดน้ำอย่างเดียวอย่างไม่มีความรู้ มันอาจทำให้เป็นปัญหามีน้ำทะลักไหลกลับมาก็ได้ นายกฯ จึงได้ปรามว่า อย่าเพิ่งถกเถียงกัน และไม่ต้องเป็นห่วงเพราะตอนนี้ศปภ.ได้ตั้งตำรวจจราจรขึ้นเป็นคณะกรรมการ ตรวจประตูระบายน้ำทุกแห่งและให้รายงานมาทุกชม.เป็นรายลักษณ์อักษร และจะดีมากถ้ากรมชลประทานจะได้รายงานเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2011, 20:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นความเข้าใจของบุคคลและกลุ่มบุคคล ที่เข้าใจว่า เขื่อน ที่เขาสร้าง เพื่อป้องกันน้ำท่วม
ในทางที่เป็นจริงแล้ว เขื่อนทุกเขื่อน เขาสร้างไว้เพื่อทำประโยชน์หลายๆอย่าง เช่น เก็บกักน้ำไว้ในยามขาดแคลน,ผลิตกระแสไฟฟ้า อย่างนี้เป็นต้น
เขื่อนไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้เลยแม้แต่น้อย อย่างมากก็เพียงแค่ชลอน้ำมิให้ไหลบ่าแรงเกินไป ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ เขื่อนทุกเขื่อนมีความสามารถจำกัดในการกักเก็บน้ำ จำเป็นต้องปล่อยน้ำเมื่อมีจำนวนน้ำมากเกินพิกัดของตัวเขื่อน บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดใดที่มักจะอ้างว่าต้องสร้างเขื่อนนั้นต้องสร้างเขื่อนนี้ ความจริงแล้ว หวังผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องเกือบทั้งสิ้น บ้างก็หวังได้ไม้ บ้างก็หวังได้ค่าหัวคิว ปูน,เหล็ก ฯลฯ อย่างนี้เป็นต้น
ถ้าหากยังขืนทำลายป่าไม้ โดยไม่ปลูก หรือไม่สร้างป่าไม้เพิ่ม ไม่ต้องห่วงขอรับ ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่น่าสพรึงกลัวย่อมต้องเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน ที่กล่าวไปนี้ ไม่ได้ขู่ ไม่ได้สร้างเรื่องให้เกิดความตื่นตระหนก หรือให้เกรงกลัวนะขอรับ ยังมีอีกขอรับ ถ้าหาก แรงดัน (พลังงานสนามแม้เหล็กโลก) แปรปรวมผิดปกติ ก็เตรียมรับภัยพิบัติได้เลยขอรับ และพลังงานสนามแม่เหล็กโลก หรือ แรงดัน ไม่มีเครื่องมือใดใดตรวจวัดได้ล่วงหน้านะขอรับ
ข้าพเจ้าได้แต่เตือนเท่านั้น หากทุกท่าน ช่วยกัน รณรงค์ กระจายข่าวสาร ให้ทุกคน หรือให้รุ่นลูกรุ่นหลานช่วยกันรักษาและปลูกป่ากันเพิ่มขึ้นทั่วโลก นั่นก็หมายถึง ความสงบสุขของมนุษย์ ความไม่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ อันจักนำมาซึ่งความเสียหายในระบบการสังคมเป็นอยู่ร่วมกันของมนุษย์ สภาพภูมิอากาศ ฯ โลกก็ย่อมเป็นปกติ ขอรับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2011, 21:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


ปลอดประสพมั่นใจหมื่นเปอร์เซ็นต์ "ดอนเมือง" ไม่จม

http://breakingnews.nationchannel.com/r ... sid=535206



ภาพ สนามบินดอนเมือง วันนี้

รูปภาพ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 165 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร